| <?xml version="1.0" ?> |
| <!DOCTYPE translationbundle> |
| <translationbundle lang="th"> |
| <translation id="1000202298241288854">โปรดทราบว่าเรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M94 นโยบายนี้มีไว้สำหรับการใช้งานในระยะสั้นเท่านั้น |
| |
| เมื่อเปิดใช้ ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะส่งส่วนหัวของคำขอแบบละเอียดซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์และสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ |
| ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์เสริม แต่ส่วนหัวใหม่อาจทำให้บางเว็บไซต์ที่จำกัดจำนวนอักขระในคำขอขัดข้อง |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า จะมีการเปิดใช้ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> หากปิดใช้นโยบายนี้ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะใช้งานไม่ได้</translation> |
| <translation id="1001728814256572466">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ข้อมูลใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งรวมถึงคุกกี้และพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องของเว็บไซต์จะไม่รวมอยู่ใน iCloud และการสำรองข้อมูลในเครื่องบน iOS |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> อาจรวมอยู่ในการสำรองข้อมูล</translation> |
| <translation id="1002439864875515590">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงเปล่าหรือไม่ได้กำหนดค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่แสดงตัวเลือกเติมข้อความอัตโนมัติในระหว่างขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงที่แสดงชื่อโดเมน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงตัวเลือกเติมข้อความอัตโนมัติในขณะที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้พิมพ์เฉพาะชื่อผู้ใช้โดยไม่ต้องมีส่วนขยายชื่อโดเมน ผู้ใช้จะเขียนทับส่วนขยายชื่อโดเมนนี้ได้ |
| หากค่าของนโยบายนี้ไม่ใช่โดเมนที่ถูกต้อง ระบบจะไม่นำนโยบายนี้ไปใช้</translation> |
| <translation id="1002829167638728809">อนุญาตการรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเสถียรของโดเมน</translation> |
| <translation id="1004590217607585595">การตั้งค่าการจัดการเว็บแอป</translation> |
| <translation id="1006218396155867129">ปิดไม่ให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลโอนไฟล์ไปยังและจากโฮสต์ระยะไกล</translation> |
| <translation id="1007149936182752368">ปิดใช้การแก้ไขบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="1009336698423963085">อนุญาตโหมดเต็มหน้าจอโดยอัตโนมัติในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1010151305531217567">สลับปุ่มหลักของเมาส์ไปเป็นปุ่มด้านขวา</translation> |
| <translation id="1011266755572744012">ระบุจำนวนแผ่นงานสูงสุดที่อนุญาตให้พิมพ์สำหรับงานพิมพ์ 1 งาน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการใช้ข้อจำกัดและผู้ใช้จะพิมพ์เอกสารใดก็ได้</translation> |
| <translation id="101438888985615157">หมุนหน้าจอ 180 องศา</translation> |
| <translation id="1017967144265860778">การจัดการพลังงานบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1018427234617066902">บังคับให้เปิดใช้การตรวจตัวสะกดของภาษาต่างๆ ระบบจะไม่สนใจภาษาที่ไม่รู้จักในรายการ |
| |
| หากคุณเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษาที่ระบุนอกเหนือจากภาษาที่ผู้ใช้เปิดใช้การตรวจตัวสะกดไว้ |
| |
| หากคุณไม่ได้ตั้งค่าหรือปิดใช้นโยบายนี้ ค่ากำหนดการตรวจตัวสะกดของผู้ใช้จะไม่เปลี่ยนแปลง |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SPELLCHECK_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" นโยบายนี้จะไม่ส่งผลกระทบ |
| |
| หากมีภาษาที่รวมอยู่ทั้งในนโยบายนี้และนโยบาย <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ระบบจะให้ความสำคัญกับนโยบายนี้และเปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษานั้น |
| |
| ภาษาที่รองรับในขณะนี้ ได้แก่ af, bg, ca, cs, da, de, el, en-AU, en-CA, en-GB, en-US, es, es-419, es-AR, es-ES, es-MX, es-US, et, fa, fo, fr, he, hi, hr, hu, id, it, ko, lt, lv, nb, nl, pl, pt-BR, pt-PT, ro, ru, sh, sk, sl, sq, sr, sv, ta, tg, tr, uk, vi</translation> |
| <translation id="1019101089073227242">ตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1020006815010587263">ปิดใช้ถังขยะสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1021462144002396313">นโยบาย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="1022361784792428773">รหัสส่วนขยายที่ผู้ใช้ควรป้องกันไม่ให้มีการติดตั้ง (หรือ * สำหรับทั้งหมด)</translation> |
| <translation id="1023465280109914543">เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ จะมีการแนะนำให้เปิดใช้การรายงานแบบไม่ระบุชื่อของข้อมูลการใช้งานและข้อขัดข้องเกี่ยวกับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไปยัง Google โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะยังคงเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ จะมีการปิดใช้การรายงานแบบไม่ระบุชื่อและจะไม่มีการส่งข้อมูลการใช้งานและข้อขัดข้องไปยัง Google ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะเลือกลักษณะการทำงานของการรายงานแบบไม่ระบุชื่อได้เมื่อทำการติดตั้งหรือเรียกใช้งานครั้งแรก และเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ในภายหลัง |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| (สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> โปรดดู<ph name="DEVICE_METRICS_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" />)</translation> |
| <translation id="102492767056134033">ตั้งสถานะเริ่มต้นของแป้นพิมพ์บนหน้าจอบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1026335125982730097">อนุญาตให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้ |
| |
| รูปแบบ URL อาจเป็น URL เดียวที่ระบุว่าเว็บไซต์นั้นอาจใช้คุกกี้ในเว็บไซต์ระดับบนสุดทั้งหมด |
| |
| หรืออาจเป็น URL 2 รายการซึ่งคั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา รายการแรกระบุเว็บไซต์ที่ควรได้รับอนุญาตให้ใช้คุกกี้ รายการที่ 2 ระบุเว็บไซต์ระดับบนสุดที่ควรใช้ค่าแรก |
| |
| หากคุณใช้ URL 2 รายการ ค่าแรกใน URL จาก 2 รายการจะรองรับ * แต่ค่าที่ 2 จะไม่รองรับ การใช้ * สำหรับค่าแรกหมายความว่าเว็บไซต์ทั้งหมดอาจใช้คุกกี้เมื่อ URL ที่ 2 เป็นเว็บไซต์ระดับบนสุด |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางกับเว็บไซต์ทั้งหมด โดยนำมาจากนโยบาย <ph name="DEFAULT_COOKIES_SETTINGS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="BLOCK_THIRD_PARTY_COOKIES_POLICY_NAME" /> หากมีการตั้งค่าไว้ มิเช่นนั้น จะนำมาจากการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| โปรดดูนโยบาย <ph name="COOKIES_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="COOKIES_SESSIONS_ONLY_FOR_URLS" /> ด้วย โปรดทราบว่ารูปแบบ URL ของนโยบายทั้งสามนี้จะต้องไม่ขัดแย้งกัน เพราะไม่มีการระบุว่านโยบายใดจะมีความสำคัญสูงกว่า |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="102658870205613876">การตั้งค่าป๊อปอัป</translation> |
| <translation id="1027000705181149370">ระบุว่าควรโอนคุกกี้การตรวจสอบสิทธิ์ที่กำหนดโดย SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ไปยังโปรไฟล์ของผู้ใช้ไหม |
| |
| เมื่อผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ ระบบจะเขียนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ลงในโปรไฟล์ชั่วคราวก่อน ซึ่งคุกกี้เหล่านี้สามารถโอนไปยังโปรไฟล์ของผู้ใช้เพื่อส่งต่อสถานะการตรวจสอบสิทธิ์ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น True ระบบจะโอนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ทุกครั้งที่ผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์กับ SAML IdP ในขณะลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะโอนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์เป็นครั้งแรกเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้มีผลต่อผู้ใช้ที่มีโดเมนตรงกับโดเมนการลงทะเบียนของอุปกรณ์เท่านั้น สำหรับผู้ใช้คนอื่นๆ ทั้งหมด ระบบจะโอนคุกกี้ที่กำหนดโดย IdP ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ในระหว่างที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์เป็นครั้งแรกเท่านั้น</translation> |
| <translation id="1029052664284722254">บังคับให้อุปกรณ์รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="1032533786864478457">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ทำให้ผู้ใช้ตั้งค่าให้อุปกรณ์ซิงค์ SMS กับ Chromebook ได้ ผู้ใช้ต้องเลือกใช้ฟีเจอร์นี้อย่างชัดแจ้งด้วยการทำตามขั้นตอนการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้ใช้จะรับและส่งข้อความใน Chromebook ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้จะตั้งค่าการซิงค์ข้อความไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการไม่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้อื่นๆ จะใช้ได้</translation> |
| <translation id="1035860095382451169">เปิดใช้ไอคอนแม่กุญแจในแถบอเนกประสงค์สำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="1037426296070139784">ใบรับรอง TLS ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="1037470927044831850">อนุญาตให้เว็บไซต์แจ้งให้ผู้ใช้แชร์สตรีมวิดีโอของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="1038049732032297658">เปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริง</translation> |
| <translation id="1038725366103635282">อนุญาตการสำรวจพื้นที่แชร์ไฟล์ NetBIOS</translation> |
| <translation id="1040446814317236570">เปิดใช้การตัด PAC URL (สำหรับ https://)</translation> |
| <translation id="1043965859599437362">นโยบายนี้ระบุวิธีลบล้างลิสต์ของชุดที่เบราว์เซอร์ใช้สำหรับฟีเจอร์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| |
| แต่ละชุดในลิสต์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งต้องมีเว็บไซต์หลัก 1 แห่งและเว็บไซต์สมาชิกอย่างน้อย 1 แห่ง |
| ชุดโดเมนยังอาจมีลิสต์เว็บไซต์บริการซึ่งเป็นเจ้าของเอง รวมถึงการแมปจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังตัวแปร ccTLD ทั้งหมด |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งซึ่ง <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ได้ที่ https://github.com/WICG/first-party-sets |
| |
| เว็บไซต์ทั้งหมดในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งจะต้องเป็นโดเมนที่จดทะเบียนได้และให้บริการผ่าน HTTPS แต่ละเว็บไซต์ในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งจะต้องไม่ซ้ำกันด้วย ซึ่งหมายความว่าจะลงลิสต์เว็บไซต์หนึ่งๆ ในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งมากกว่า 1 ครั้งไม่ได้ |
| |
| เมื่อนโยบายนี้ได้รับพจนานุกรมเปล่า เบราว์เซอร์จะใช้ลิสต์แบบสาธารณะของชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| |
| สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งจากลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> หากมีเว็บไซต์ใดอยู่ในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งในลิสต์ของเบราว์เซอร์ด้วย ระบบจะนำเว็บไซต์นั้นออกจากชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์ |
| หลังจากนั้น จะเพิ่มชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของนโยบายลงในลิสต์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์ |
| |
| สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งจากลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> หากมีเว็บไซต์ใดอยู่ในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งในลิสต์ของเบราว์เซอร์ด้วย ระบบจะอัปเดตชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์เพื่อให้สามารถเพิ่มชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งชุดใหม่ลงในลิสต์ของเบราว์เซอร์ได้ หลังจากอัปเดตลิสต์ของเบราว์เซอร์แล้ว ระบบจะเพิ่มชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของนโยบายลงในลิสต์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์ |
| |
| ลิสต์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งของเบราว์เซอร์มีข้อกำหนดว่าแต่ละเว็บไซต์ในลิสต์จะอยู่ในชุดมากกว่า 1 ชุดไม่ได้ ข้อกำหนดนี้ใช้กับทั้งลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> และลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> ด้วย ในทำนองเดียวกัน เว็บไซต์หนึ่งๆ จะอยู่ทั้งในลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> และลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> ไม่ได้ |
| |
| ไม่สามารถใช้ไวลด์การ์ด (*) เป็นค่าในนโยบาย และภายในชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งในลิสต์เหล่านี้ |
| |
| ชุดทั้งหมดที่มาจากนโยบายนี้ต้องเป็นชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งที่ถูกต้อง มิเช่นนั้น ระบบจะแสดงข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้อง |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เทียบเท่ากับนโยบาย <ph name="RELATED_WEBSITE_SETS_OVERRIDES_POLICY_NAME" /> |
| ระบบอาจใช้นโยบายใดนโยบายหนึ่ง แต่นโยบายนี้จะเลิกใช้งานในอีกไม่ช้า เราจึงขอแนะนำให้ใช้นโยบาย <ph name="RELATED_WEBSITE_SETS_OVERRIDES_POLICY_NAME" /> มากกว่า |
| นโยบายทั้งสองมีผลต่อลักษณะการทำงานของเบราว์เซอร์เหมือนกัน</translation> |
| <translation id="1046484220783400299">เปิดใช้ฟีเจอร์แพลตฟอร์มของเว็บที่เลิกใช้แล้วเป็นเวลาจำกัด</translation> |
| <translation id="1047128214168693844">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1049138910114524876">กำหนดค่าภาษาที่จะบังคับใช้ในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากมีการตั้งค่านโยบายนี้ หน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะแสดงเป็นภาษาที่ได้มาจากค่าแรกของนโยบายนี้ทุกครั้ง (นโยบายได้รับการกำหนดค่าเป็นรายการเพื่อความเข้ากันได้ในอนาคต) หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า หน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะแสดงเป็นภาษาที่ผู้ใช้ใช้ในเซสชันล่าสุด หากนโยบายนี้มีการตั้งค่าภาษาไม่ถูกต้อง หน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะแสดงเป็นภาษาสำรอง (ปัจจุบันคือ en-US)</translation> |
| <translation id="1050158007881386475">ปิดใช้การรายงานสถานะของบอร์ดอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1052499923181221200">นโยบายนี้จะไม่มีผล เว้นแต่ SamlInSessionPasswordChangeEnabled เป็นจริง |
| หากนโยบายนั้นเป็นจริง และมีการตั้งค่านโยบายนี้เป็น 14 (ตัวอย่าง) หมายความว่าผู้ใช้ SAML จะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า 14 วันว่ารหัสผ่านจะหมดอายุในวันที่ที่กำหนด |
| จากนั้นผู้ใช้จะจัดการกับเรื่องนี้ได้ทันทีโดยทำการเปลี่ยนรหัสผ่านในเซสชันและอัปเดตรหัสผ่านก่อนหมดอายุ |
| แต่การแจ้งเตือนเหล่านี้จะแสดงเมื่อผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว SAML ส่งข้อมูลการหมดอายุของรหัสผ่านไปยังอุปกรณ์ระหว่างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ SAML เท่านั้น |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า แต่จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อรหัสผ่านหมดอายุไปแล้วเท่านั้น |
| |
| หากมีการตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างนโยบายไม่ได้</translation> |
| <translation id="105369313766849861">กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จะใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จะใช้ไดเรกทอรีที่ให้มา |
| |
| ดูรายการตัวแปรที่ใช้ได้ได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=Supported_directory_variables |
| |
| หากไม่ได้กำหนดการตั้งค่านี้ ระบบจะใช้ไดเรกทอรีโปรไฟล์ที่เป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1053981429146436598">กลุ่มนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าคำขอเครือข่ายส่วนตัว โปรดดูที่ https://wicg.github.io/private-network-access/</translation> |
| <translation id="1059069692400941670">ปิดใช้การนำเข้าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="1062011392452772310">เปิดใช้งานการยืนยันระยะไกลสำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1062407476771304334">แทนที่</translation> |
| <translation id="1063860513136880926">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพหน้าจอด้วยแป้นพิมพ์ลัดหรือ API ส่วนขยาย การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้ถ่ายภาพหน้าจอได้ |
| |
| โปรดทราบว่าใน "<ph name="MS_WIN_NAME" />", "<ph name="MAC_OS_NAME" />" และ "<ph name="LINUX_OS_NAME" />" การตั้งค่านี้ไม่ได้ป้องกันการถ่ายภาพหน้าจอด้วยระบบปฏิบัติการหรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="1065175969514496951">การตั้งค่านโยบายจะให้สิทธิ์เข้าถึง URL ที่ระบุไว้ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ (เช่น ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก) โดยเป็นข้อยกเว้นสำหรับ <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ดูรูปแบบของรายการย่อยในรายการนี้ได้จากคำอธิบายของนโยบายดังกล่าว ตัวอย่างเช่น การตั้งค่า <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="WILDCARD_VALUE" /> จะบล็อกคำขอทั้งหมด และคุณจะใช้นโยบายนี้เพื่ออนุญาตการเข้าถึงรายการ URL ที่จำกัดไว้ได้ ตลอดจนใช้ในการเปิดข้อยกเว้นให้แก่บางรูปแบบ โดเมนย่อยของโดเมนอื่นๆ พอร์ต หรือเส้นทางที่เฉพาะเจาะจง โดยใช้รูปแบบที่ระบุไว้ที่ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) ตัวกรองที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดจะเป็นตัวกำหนดว่า URL หนึ่งๆ ถูกบล็อกหรือได้รับอนุญาต นโยบาย <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> มีความสำคัญเหนือ <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> นโยบายนี้ระบุรายการได้ไม่เกิน 1,000 รายการ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1068801725746725727">เปิดใช้การรับแบบสำรวจเกี่ยวกับ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="1073983258515362346">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับแบ็กไลต์ของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลแบ็กไลต์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1076751984131277498">รายการที่อนุญาตของอุปกรณ์ USB ที่ถอดได้</translation> |
| <translation id="1077675271127011209">ปิดใช้การรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานและข้อขัดข้อง</translation> |
| <translation id="1079498696402787191">ใช้ค่าเริ่มต้นสําหรับแฮชที่อนุญาตในแฮนด์เชค TLS</translation> |
| <translation id="1079801999187584280">ไม่อนุญาตการใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="1082802595100075771">ให้ผู้ใช้เลือกที่จะใช้บริการของ Google แบบไม่ระบุตัวตนเพื่อให้คำอธิบายอัตโนมัติสำหรับรูปภาพที่ไม่มีป้ายกำกับ</translation> |
| <translation id="1084697375611053264">ระบุรายการโดเมนเว็บแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ <ph name="DESK_API_NAME" /> เพื่อควบคุมเดสก์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> รูปแบบ URL เหล่านี้ควรเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ "ตรงกัน" ใน https://developer.chrome.com/docs/extensions/mv3/manifest/externally_connectable/#reference</translation> |
| <translation id="1087057100912843460">อนุญาตให้มีการอัปเดต</translation> |
| <translation id="1087187152710800704">ปฏิเสธสิทธิ์การจัดการหน้าต่างในทุกเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1087437665304381368">นโยบายนี้ควบคุมโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เท่านั้น หากคุณต้องการป้องกันการเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอป Android ก็จะต้องตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVELOPER_TOOLS_DISABLED_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1087707496788636333">เรากำลังย้ายรายการนโยบายของ Chrome Enterprise โปรดอัปเดตบุ๊กมาร์กเป็น <ph name="POLICY_DOCUMENTATION_URL" /></translation> |
| <translation id="1089150222292592899">ป้อนชื่อผู้ใช้อัตโนมัติในหน้า SAML IdP</translation> |
| <translation id="1091765729282771296">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ HID</translation> |
| <translation id="1095209545735032039">บล็อก Serial API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1096105751829466145">ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1099282607296956954">เปิดใช้การแยกเว็บไซต์สำหรับทุกเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="1100840127293327071">อย่าเลือกตัวเลือกให้เก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1105572260329131950">ใช้ไอคอนเริ่มต้นสำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="1105711894873068933">หลังจากที่ปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> ระบบจะนำข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดออกในการเข้าสู่ระบบครั้งถัดไป</translation> |
| <translation id="1107538157073168076">ปิดใช้ส่วนขยายข้อมูลเชิงลึก</translation> |
| <translation id="1110426799149444997">ปิดใช้การค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1111324374369583989">ไม่แสดงหน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="1117535567637097036">ไม่มีการใช้เครื่องจัดการโปรโตคอลที่ตั้งค่าผ่านนโยบายนี้ระหว่างการจัดการ Intent ของ Android</translation> |
| <translation id="1118093128235245168">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์จากผู้ใช้เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่ออยู่</translation> |
| <translation id="111910763555783249">การตั้งค่าการแจ้งเตือน</translation> |
| <translation id="1122068467107743258">งาน</translation> |
| <translation id="1122089575901325963">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดค่าตัวควบคุมการวินิจฉัยและการวัดและส่งข้อมูลทางไกล (DTC) ของ <ph name="WILCO_NAME" /> หากมีให้ใช้งานในอุปกรณ์ การตั้งค่าต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB (1,000,000 ไบต์) และต้องอยู่ในรูปแบบ JSON DTC ของ <ph name="WILCO_NAME" /> จะมีหน้าที่จัดการกับการกำหนดค่าดังกล่าว ระบบใช้แฮชแบบเข้ารหัสเพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด รวมถึงจะดาวน์โหลดและแคชการกำหนดค่า และดาวน์โหลดซ้ำอีกเมื่อใดก็ตามที่ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้</translation> |
| <translation id="1123650965531933634">ปฏิเสธสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างในทุกเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1126037943895692096">อนุญาตให้ผู้ใช้รวมข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่อง Wi-Fi ระดับต่ำไว้ในความคิดเห็นของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1126456433590366966">ทําให้การทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> เป็นแบบอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="112794759469625182">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M118 นโยบายดังกล่าวมีไว้เพื่อเปิดใช้และปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับผู้ใช้ แต่ระบบจะเปิดใช้เอกสารนี้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เพื่อรับรองตัวตนจากระยะไกลไปยัง CA ความเป็นส่วนตัวผ่านทาง <ph name="ENTERPRISE_PLATFORM_KEYS_API" /> โดยใช้ <ph name="CHALLENGE_USER_KEY_FUNCTION" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้เรียกใช้ API ไม่สำเร็จและมีรหัสข้อผิดพลาด</translation> |
| <translation id="1133622335785078255">อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและใช้โปรไฟล์รอง รวมถึงใช้โหมดผู้มาเยือนในเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="1137096407176363892">อนุญาตเสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงในฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ "เลือกเพื่อให้อ่าน" เสียงเหล่านี้จะส่งข้อความให้เซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อสังเคราะห์เสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์เสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงใน "เลือกเพื่อให้อ่าน" จะปิดใช้เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์เสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงใน "เลือกเพื่อให้อ่าน" ได้</translation> |
| <translation id="1137479817584930805">อนุญาตให้บันทึกรูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /> โดยตรง</translation> |
| <translation id="1138294736309071213">นโยบายนี้ใช้งานได้ในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| กำหนดระยะเวลาการไม่ใช้งานก่อนที่โปรแกรมรักษาหน้าจอจะแสดงขึ้นบนหน้าจอลงชื่อเข้าใช้สำหรับอุปกรณ์ในโหมดปลีก |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="1143257335984030879">นโยบายนี้ควบคุมความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์รายการช็อปปิ้ง |
| หากเปิดใช้ ระบบจะแสดง UI แก่ผู้ใช้เพื่อติดตามราคาของผลิตภัณฑ์ที่ปรากฏในหน้าปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ที่ติดตามจะแสดงในแผงด้านข้างของบุ๊กมาร์ก |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ฟีเจอร์รายการช็อปปิ้งจะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ฟีเจอร์รายการช็อปปิ้งจะใช้งานไม่ได้ |
| </translation> |
| <translation id="1144147113722324623">เปิดใช้การอัปเกรด HTTPS อัตโนมัติสำหรับเสียงและวิดีโอ รวมถึงแสดงคำเตือน "ไม่ปลอดภัย" สำหรับรูปภาพ</translation> |
| <translation id="1147732569915511430">แฮช SHA-256 ของรูปโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="1148415065145333943">ปิดใช้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูง</translation> |
| <translation id="1149203480502386713">เปิดใช้ข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมสำหรับ TLS</translation> |
| <translation id="1149841949061115313">LTC Channel</translation> |
| <translation id="1150742937785306405">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="1151353063931113432">อนุญาตให้แสดงภาพบนไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1151987132434751822">รูปแบบการตรวจสอบสิทธิ์ที่ใช้ข้อมูลการเข้าสู่ระบบของนโยบายได้ รูปแบบมีดังนี้ |
| * basic |
| * digest |
| * ntlm |
| การไม่เลือกเป็นการอนุญาตให้ใช้ทั้ง 3 รูปแบบ</translation> |
| <translation id="1153306961094113710">อนุญาตให้ใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="115699958189272121">รายงานเหตุการณ์ <ph name="CHROME_REMOTE_DESKTOP_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1157003104143964656">การตั้งค่านี้จะเปิดหรือปิดใช้การสกัดกั้นการลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือเปิดใช้ กล่องโต้ตอบการสกัดกั้นการลงชื่อเข้าใช้จะแสดงขึ้นมาเมื่อมีการเพิ่มบัญชี Google ในเว็บ และผู้ใช้อาจได้รับประโยชน์จากการย้ายบัญชีนี้ไปยังโปรไฟล์อื่น (โปรไฟล์ใหม่หรือที่มีอยู่แล้ว) |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ กล่องโต้ตอบการสกัดกั้นการลงชื่อเข้าใช้จะไม่แสดงขึ้นมา |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ กล่องโต้ตอบจะยังแสดงอยู่หากมีการบังคับใช้การแยกโปรไฟล์บัญชีที่จัดการโดย <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1158844608156732189">การกำหนดค่า Kerberos (1 บรรทัดต่อรายการอาร์เรย์) โปรดดู https://web.mit.edu/kerberos/krb5-1.12/doc/admin/conf_files/krb5_conf.html</translation> |
| <translation id="1160479894929412407">อนุญาตโปรโตคอล QUIC</translation> |
| <translation id="1160939557934457296">ปิดใช้งานการดำเนินการต่อจากหน้าคำเตือน Safe Browsing</translation> |
| <translation id="1161685818042751282">ไม่นำเข้าใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ TLS ที่ผู้ใช้เพิ่มไว้จาก Trust Store ของแพลตฟอร์ม</translation> |
| <translation id="1163080558183062209">ปิดใช้ประเภทเครื่องพิมพ์ในรายการปฏิเสธ</translation> |
| <translation id="1163389598183927209">กลุ่มนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ดูรายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในการเลิกใช้งานคุกกี้ของบุคคลที่สามได้ที่ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_URL" /></translation> |
| <translation id="1165923723751466821">อนุญาตให้เข้าสู่ระบบเบราว์เซอร์ในโหมดผู้มาเยือนและเข้าสู่ระบบโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="117059611145966538">เซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ภายนอก</translation> |
| <translation id="117080706484659953">อนุญาตการตรวจหาขอบเขตนโยบายใน <ph name="MAC_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="1171106901454883937">เปิดใช้การรายงานข้อมูลเวอร์ชันอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1173493742686115032">เปิดใช้ <ph name="SEARCH_SIDE_PANEL_FEATURE_NAME" /> ในหน้าเว็บทุกหน้า</translation> |
| <translation id="1177567780207290133">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมตัวกรอง URL ของ SafeSites ซึ่งใช้ Google Safe Search API เพื่อจำแนก URL ว่าเป็นประเภทลามกอนาจารหรือไม่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น |
| |
| * "ไม่ต้องกรองเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่กรองเว็บไซต์ |
| |
| * "กรองเว็บไซต์ระดับบนสุดที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่" ระบบจะกรองเว็บไซต์ที่อยู่ในประเภทลามกอนาจารออก</translation> |
| <translation id="1177624681620856105"> นโยบายนี้กำหนดว่าจะมีการแสดงช่องทำเครื่องหมาย "เปิดตลอดเวลา" ในข้อความแจ้งยืนยันการเปิดใช้โปรโตคอลภายนอกหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า เมื่อการยืนยันโปรโตคอลภายนอกแสดงขึ้น ผู้ใช้จะเลือก "อนุญาตเสมอ" เพื่อข้ามข้อความแจ้งยืนยันทั้งหมดในอนาคตสำหรับโปรโตคอลดังกล่าวในเว็บไซต์นี้ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ช่องทำเครื่องหมาย "อนุญาตเสมอ" จะไม่แสดง และระบบจะแสดงข้อความแจ้งแก่ผู้ใช้ทุกครั้งที่มีการเรียกใช้โปรโตคอลภายนอก</translation> |
| <translation id="1181598794547737681">เปิดใช้ UI ลูกโป่งสำหรับดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="1184531093651606913">บล็อกไม่ให้โหลดส่วนขยายจากบรรทัดคำสั่ง</translation> |
| <translation id="1184562656144537588">เปิดใช้ไฟล์ Manifest V2 อยู่สำหรับส่วนขยายที่บังคับติดตั้งแล้วเท่านั้น</translation> |
| <translation id="11903325225202653">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดโหมดคอนทราสต์สูงไว้ตลอด การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดโหมดคอนทราสต์สูงไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ โหมดคอนทราสต์สูงจะปิดอยู่ แต่ผู้ใช้จะเปิดได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="1190663377142764616">ควบคุมวิธีจัดการ VM ที่เรียกใช้ซึ่งไม่ตรงกับการตั้งค่านโยบายนี้ ค่าเริ่มต้นคือ <ph name="FORCE_SHUTDOWN_IF_MORE_RESTRICTED" /></translation> |
| <translation id="1192875037379495940">การตั้งค่านโยบายหมายความว่า ระบบจะลงชื่อเข้าใช้เซสชันที่ระบุโดยอัตโนมัติหากไม่มีการโต้ตอบจากผู้ใช้ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ภายในระยะเวลาที่ระบุในนโยบาย <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNT_AUTO_LOGIN_DELAY_POLICY_NAME" /> บัญชีในอุปกรณ์ต้องตั้งค่าไว้แล้ว (ดู <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNTS_POLICY_NAME" />) |
| |
| การไม่ได้ตั้งค่านโยบายหมายความว่าจะไม่มีการลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="1193653806129988688">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้แลกรับข้อเสนอผ่านการลงทะเบียน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="1197437816436565375">คุณบังคับให้แอป Android ใช้พร็อกซีไม่ได้ แอป Android สามารถใช้ชุดย่อยของการตั้งค่าพร็อกซี ซึ่งแอป Android อาจเลือกทำตามโดยสมัครใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากนโยบาย <ph name="PROXY_MODE_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1198183996903759302">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" (หรือตั้งค่า <ph name="HARDWARE_ACCELERATION_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ") ป้องกันไม่ให้หน้าเว็บเข้าถึง WebGL API และปลั๊กอินจะใช้ Pepper 3D API ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะให้หน้าเว็บใช้ WebGL API และปลั๊กอินใช้ Pepper 3D API ได้ แต่การตั้งค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์อาจยังคงต้องใช้อาร์กิวเมนต์บรรทัดคำสั่งเพื่อใช้ API เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1198458955128279215">ใช้ลักษณะการทํางานเริ่มต้นของแผนการเปิดตัวฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="1202216683470826356">แสดงการ์ดในหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="1204263402976895730">เครื่องพิมพ์ขององค์กรที่มีการเปิดใช้</translation> |
| <translation id="1207301487141109411">ป้องกันไม่ให้เลือกรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้จากระบบไฟล์ในเครื่อง กล้อง และโปรไฟล์ Google</translation> |
| <translation id="1209096923317019235">กําหนดแอปเป็นตัวแฮนเดิลเริ่มต้นสําหรับนามสกุลไฟล์ที่ระบุ</translation> |
| <translation id="120937472976628837">รายงานข้อมูลพัดลม</translation> |
| <translation id="1212233008927724662">ปิดใช้การโหลด Login WebUI แบบ Lazy Loading</translation> |
| <translation id="1214639335214075459">เปิดใช้การถอดรหัสวิดีโอฮาร์ดแวร์ GPU</translation> |
| <translation id="1216919699175573511">เปิดใช้การสนับสนุน Signed HTTP Exchange (SXG)</translation> |
| <translation id="1219027971768347970">ใช้การกำหนดค่าเริ่มต้นกับแซนด์บ็อกซ์เสียง</translation> |
| <translation id="1221359380862872747">โหลด URL ที่ระบุเมื่อลงชื่อเข้าใช้การสาธิต</translation> |
| <translation id="1221955019309484560">เปิดใช้การอัปเดตสำหรับทุกคอมโพเนนต์</translation> |
| <translation id="1222694988453895594">ให้คุณกำหนดรายการโปรโตคอล และรายการที่เชื่อมโยงของรูปแบบต้นทางที่อนุญาตสำหรับแต่ละโปรโตคอล ซึ่งเปิดแอปพลิเคชันภายนอกได้โดยไม่ต้องแจ้งผู้ใช้ ไม่ควรใส่ตัวคั่นข้างหลังเมื่อระบุโปรโตคอล เช่น ให้ใช้ "skype" แทน "skype:" หรือ "skype://" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะอนุญาตให้โปรโตคอลเปิดแอปพลิเคชันภายนอกโดยไม่มีข้อความแจ้งจากนโยบายในกรณีที่มีการระบุโปรโตคอลดังกล่าวเท่านั้น และต้นทางของเว็บไซต์ที่พยายามเปิดใช้งานโปรโตคอลตรงกับต้นทางรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในรายการ allowed_origins ของโปรโตคอลนั้น หากเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งเป็น "เท็จ" นโยบายจะไม่ละเว้นข้อความแจ้งการเปิดใช้งานโปรโตคอลภายนอก |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย โปรโตคอลทั้งหมดจะเปิดใช้งานได้ต่อเมื่อมีข้อความแจ้งโดยค่าเริ่มต้นเท่านั้น ผู้ใช้เลือกไม่รับข้อความแจ้งแบบรายโปรโตคอล/รายเว็บไซต์ได้หากนโยบาย <ph name="EXTERNAL_PROTOCOL_DIALOG_SHOW_ALWAYS_OPEN_CHECKBOX_POLICY_NAME" /> ไม่ได้ตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการยกเว้นข้อความแจ้งแบบรายโปรโตคอล/รายเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ตั้งค่า |
| |
| รูปแบบที่ตรงกันของต้นทางใช้รูปแบบที่คล้ายกับของนโยบาย "<ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" ตามที่บันทึกไว้ใน https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format |
| |
| แต่รูปแบบที่ตรงกันของต้นทางในนโยบายนี้ต้องไม่มีองค์ประกอบ "/path" หรือ "@query" ระบบจะไม่สนใจรูปแบบที่มีองค์ประกอบ "/path" หรือ "@query"</translation> |
| <translation id="1223789468190631420">สถานะการเปิดใช้ Safe Browsing สำหรับแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้</translation> |
| <translation id="123018742985150697">ต้องจับคู่ผู้ใช้ในเครื่องและเจ้าของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="123081309365616809">เปิดใช้การแคสต์เนื้อหาไปยังอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1233343906578850273">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_IMAGE_URL_POLICY_NAME" /> จะระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ในการค้นหารูปภาพ (หากตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_IMAGE_URL_POST_PARMS_POLICY_NAME" /> ไว้ คำขอค้นหารูปภาพจะใช้เมธอด POST แทน) |
| |
| หากไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_IMAGE_URL_POLICY_NAME" /> จะไม่มีการใช้การค้นหารูปภาพ |
| |
| หากการค้นหารูปภาพใช้เมธอด GET แล้ว URL ต้องระบุพารามิเตอร์รูปภาพโดยใช้ชุดค่าผสมที่ใช้ได้ของตัวยึดตำแหน่งต่อไปนี้ |
| <ph name="IMAGE_IMAGE_URL" />, |
| <ph name="IMAGE_ORIGINAL_HEIGHT" />, |
| <ph name="IMAGE_ORIGINAL_WIDTH" />, |
| <ph name="IMAGE_PROCESSED_IMAGE_DIMENSIONS" />, |
| <ph name="IMAGE_SEARCH_SOURCE" />, |
| <ph name="IMAGE_THUMBNAIL" />, |
| <ph name="IMAGE_THUMBNAIL_BASE64" /></translation> |
| <translation id="1238868319430505522">กําหนดค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /></translation> |
| <translation id="1239526922294123540">ควบคุมว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ส่งคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะปิดใช้การตรวจสอบ<ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" />ทั้งหมดสำหรับทุกต้นทาง ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถโจมตี <ph name="CSRF" /> ในเซิร์ฟเวอร์ของเครือข่ายส่วนตัวได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" ลักษณะการทำงานเริ่มต้นสำหรับคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าจะขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้สำหรับแฟล็กฟีเจอร์ <ph name="BLOCK_INSECURE_PRIVATE_NETWORK_REQUESTS_FEATURE_NAME" />, <ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS_SEND_PREFLIGHTS_FEATURE_NAME" /> และ <ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS_RESPECT_PREFLIGHT_RESULTS_FEATURE_NAME" /> ซึ่งอาจตั้งค่าไว้ด้วยการทดสอบในวงจำกัดหรือในบรรทัดคำสั่ง |
| |
| นโยบายนี้เกี่ยวข้องกับข้อกำหนด<ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" /> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://wicg.github.io/private-network-access/ |
| |
| ปลายทางเครือข่ายหนึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าปลายทางเครือข่ายอีกแห่งหนึ่งในกรณีต่อไปนี้ |
| 1) ที่อยู่ IP ของปลายทางเครือข่ายนั้นเป็น localhost แต่อีกปลายทางหนึ่งไม่ใช่ |
| 2) ที่อยู่ IP ของปลายทางเครือข่ายนั้นเป็นแบบส่วนตัว แต่อีกปลายทางหนึ่งเป็นแบบสาธารณะ |
| ในอนาคต อาจมีการใช้นโยบายนี้กับคำขอข้ามต้นทางทั้งหมดที่ส่งไปที่ IP ส่วนตัวหรือ localhost ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพัฒนาข้อกำหนด |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" เว็บไซต์จะได้รับอนุญาตให้ส่งคำขอถึงปลายทางเครือข่ายใดก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้ามต้นทางอื่นๆ</translation> |
| <translation id="1240559668501539326">ตั้งค่าข้อมูลเมตาที่โปรแกรมติดตั้งสำหรับ Bruschetta VM ใช้ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ก่อนที่จะติดตั้ง</translation> |
| <translation id="1240722269871366886">นโยบายนี้ช่วยให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แนะนำอีโมจิเมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความด้วยแป้นพิมพ์เสมือนหรือแป้นพิมพ์จริง |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ได้ |
| เมื่อตั้งค่าเริ่มต้นของนโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะไม่มีการแนะนำอีโมจิและผู้ใช้จะลบล้างการตั้งค่าไม่ได้</translation> |
| <translation id="1241536186320046498">ถามทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการได้รับสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="1243311058213605210">ปิดใช้การอัปเกรด HTTPS อัตโนมัติสำหรับเสียงและวิดีโอ รวมถึงไม่แสดงคำเตือนสำหรับรูปภาพ</translation> |
| <translation id="1243570869342663665">ควบคุมการกรองเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ของ SafeSites</translation> |
| <translation id="1244309789361056660">เราได้นำนโยบายนี้ออกจากเวอร์ชัน M87 และข้อมูลไดเรกทอรีของหน้าแรกจะย้ายไป ext4 โดยอัตโนมัติเมื่อลงชื่อเข้าใช้ |
| การตั้งค่านโยบายจะระบุการดำเนินการที่จะทำเมื่อมีการสร้างไดเรกทอรีหลักของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัส ecryptfs แอป Android อาจไม่ทำงาน เว้นแต่ไดเรกทอรีหลักที่เข้ารหัส ecryptfs จะย้ายข้อมูลไปยังการเข้ารหัส ext4 |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น |
| |
| * Migrate (หรือตัวเลือกที่ไม่รองรับ เช่น AskUser หรือ AskForEcryptfsArcUsers) หมายความว่าไดเรกทอรีจะย้ายข้อมูลไปยัง ext4 โดยอัตโนมัติเมื่อลงชื่อเข้าใช้ โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ใช้ |
| |
| * Wipe หรือ MinimalMigrate หมายความว่าเมื่อลงชื่อเข้าใช้ ไดเรกทอรีหลักใหม่ที่เข้ารหัส ext4 จะแทนที่ไดเรกทอรีเก่าที่เข้ารหัส ecryptfs เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ลงชื่อเข้าใช้ซ้ำ MinimalMigrate จะพยายามรักษาโทเค็นการลงชื่อเข้าใช้ไว้ |
| |
| * DisallowArc หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ไม่มีการย้ายข้อมูล และแอป Android ของผู้ใช้จะหยุดทำงาน |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลกับผู้ใช้คีออสก์ |
| |
| คำเตือน: Wipe และ MinimalMigrate จะนำข้อมูลในเครื่องออก</translation> |
| <translation id="1248955696540150266">อนุญาตให้ดาวน์โหลดการอัปเดตแบบเพียร์ทูเพียร์โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="1250597158212586309">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการปิด/คืนค่าการแจ้งเตือนรหัสผ่านที่ถูกละเมิด |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถปิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด หากเปิดใช้ ผู้ใช้จะปิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิดได้</translation> |
| <translation id="1252536192437793850">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรม</translation> |
| <translation id="1255159327956066463">เปิดใช้ฟีเจอร์หน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัว</translation> |
| <translation id="125655429495551011">การตั้งค่านโยบายเป็นสตริงจะใช้สตริงดังกล่าวเป็นชื่อโฮสต์ของอุปกรณ์ในระหว่างที่ขอ DHCP สตริงอาจมีตัวแปร <ph name="ASSET_ID_PLACEHOLDER" />, <ph name="SERIAL_NUM_PLACEHOLDER" />, <ph name="MAC_ADDR_PLACEHOLDER" />, <ph name="MACHINE_NAME_PLACEHOLDER" />, <ph name="LOCATION_PLACEHOLDER" /> ซึ่งระบบจะแทนที่ด้วยค่าในอุปกรณ์ก่อนที่จะใช้เป็นชื่อโฮสต์ ชื่อที่จะแทนที่ได้จะต้องเป็นชื่อโฮสต์ที่ถูกต้อง (ตาม RFC 1035 ส่วน 3.1) |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือหากค่าหลังการแทนที่ไม่ใช่ชื่อโฮสต์ที่ถูกต้อง ก็จะไม่มีการกำหนดชื่อโฮสต์ในคำขอ DHCP</translation> |
| <translation id="1257550411839719984">ตั้งค่าไดเรกทอรีเริ่มต้นสำหรับดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="1262993197422487260">ไม่แสดงปุ่ม "แสดงรหัสผ่าน" ในหน้าจอเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="1265053460044691532">จำกัดเวลาที่ผู้ใช้ซึ่งตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML สามารถเข้าสู่ระบบในแบบออฟไลน์</translation> |
| <translation id="1271811620059192171">เปิดใช้นโยบายที่มาจากกลุ่มขนาดเล็ก</translation> |
| <translation id="127264587838521316">เปิดใช้คำขอติดตั้งส่วนขยายของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1272798957154751008">เปิดใช้การย้ายข้อมูลของอุปกรณ์ Chromad ไปยังการจัดการระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="1274997165432133392">คุกกี้และข้อมูลอื่นของเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="1277411517984768103">อนุญาตให้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ใช้งานได้สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1277489612460516394">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เปิดป๊อปอัปได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_POPUPS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="1280005879732594593">นโยบายนี้กำหนดค่าว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอ Kyber (อัลกอริทึมของข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม) ใน TLS หรือไม่ ซึ่งจะอนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์ที่รองรับปกป้องการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ไม่ให้มีการถอดรหัสในภายหลังโดยใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัม |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอ Kyber ในการเชื่อมต่อ TLS การเชื่อมต่อ TLS จะได้รับการปกป้องตามข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ของ Kyber เมื่อสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการใช้งาน โดยจะเลือก Kyber ในระหว่างการแฮนด์เชค TLS |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่เสนอ Kyber ในการเชื่อมต่อ TLS ซึ่งส่งผลให้การรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ไม่ได้รับการป้องกันจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำตามขั้นตอนการเปิดตัวเริ่มต้นสำหรับการเสนอ Kyber |
| |
| การเสนอ Kyber มีความเข้ากันได้แบบย้อนหลัง คาดว่าเซิร์ฟเวอร์ TLS และมิดเดิลแวร์เครือข่ายที่มีอยู่จะไม่สนใจตัวเลือกใหม่ดังกล่าวและจะยังคงเลือกตัวเลือกก่อนหน้านี้อยู่ต่อไป |
| |
| อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ไม่มีการใช้งาน TLS อย่างถูกต้องอาจทำงานผิดพลาดเมื่อเสนอตัวเลือกใหม่นี้ เช่น อาจยกเลิกการเชื่อมต่อเมื่อพบเจอตัวเลือกที่ไม่รู้จักหรือเมื่อได้รับข้อความที่มีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งเป็นผลจากตัวเลือกนั้น อุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานหลังยุคควอนตัมและจะรบกวนการเปลี่ยนระบบหลังยุคควอนตัมขององค์กร หากพบปัญหาการรบกวนดังกล่าว ผู้ดูแลระบบควรติดต่อผู้ให้บริการเพื่อแก้ไขปัญหา |
| |
| นโยบายนี้เป็นมาตรการชั่วคราวและจะถูกนำออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันต่อๆ ไป ทั้งนี้อาจมีการเปิดใช้นโยบายเพื่อให้คุณทดสอบปัญหาต่างๆ ได้ และปิดใช้ขณะที่ปัญหากำลังได้รับการแก้ไข</translation> |
| <translation id="1285819498003746288">Event.path API จะใช้งานไม่ได้</translation> |
| <translation id="1290722184971934486">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BLOCK_WINDOW_MANAGEMENT_POLICY_NAME" /> (ค่า 2) จะปฏิเสธสิทธิ์การจัดการหน้าต่างของเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์เพื่อใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ASK_WINDOW_MANAGEMENT_POLICY_NAME" /> (ค่า 3) จะแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้เมื่อขอสิทธิ์การจัดการหน้าต่างโดยค่าเริ่มต้น หากผู้ใช้อนุญาตสิทธิ์ดังกล่าว เว็บไซต์จะสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่านโยบาย <ph name="ASK_WINDOW_MANAGEMENT_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| นโยบายนี้มาแทนที่นโยบาย <ph name="DEFAULT_WINDOW_PLACEMENT_SETTING_POLICY_NAME" /> ที่เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="129206366270737897">ปิดใช้เมธอดแบบไม่พร้อมกันของ <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /></translation> |
| <translation id="1294263471858445589">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ในเซสชันไม่ระบุตัวตนและเซสชันปกติ</translation> |
| <translation id="1295737447968372331">เปิดใช้ฟีเจอร์การเขียนตามคำบอกในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1297182715641689552">ใช้สคริปต์พร็อกซี .pac</translation> |
| <translation id="1297961932043741908">ตั้งขีดจำกัดจำนวนเมกะไบต์ของหน่วยความจำที่อินสแตนซ์หนึ่งๆ ของ Chrome จะใช้ได้</translation> |
| <translation id="1304973015437969093">รหัสส่วนขยาย/แอปและ URL การอัปเดตจะติดตั้งอยู่ในพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="1305400589435476516">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์โรมมิ่งข้อมูลได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ใช้การโรมมิ่งข้อมูลไม่ได้</translation> |
| <translation id="1308526987406924874">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรมได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับนโยบาย <ph name="SERIAL_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> (หากมีการจับคู่) <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> (หากตั้งค่าไว้) หรือการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีความสำคัญเหนือกว่าตามลำดับข้างต้น |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="SERIAL_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="1309465583050255779">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_NAME_POLICY_NAME" /> จะระบุชื่อของผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_NAME_POLICY_NAME" /> ไว้ ระบบจะใช้ชื่อโฮสต์ที่ URL การค้นหาระบุ</translation> |
| <translation id="1312799700549720683">ควบคุมการตั้งค่าการแสดงผล</translation> |
| <translation id="131353325527891113">แสดงชื่อผู้ใช้บนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="1317658068839330898">ไม่อนุญาตให้ใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" บนเว็บ</translation> |
| <translation id="1318233005302276244">อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตามพัสดุใน Chrome</translation> |
| <translation id="1323501563951768821">การตั้งค่า F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Shift</translation> |
| <translation id="1325547947664414578">เมื่อผู้ใช้สลับระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์และแอปจากอุปกรณ์ก่อนหน้าไปยังอุปกรณ์ใหม่ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์และแอปจากอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ผู้ใช้คนปัจจุบันใช้ล่าสุดโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ระบบ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้การตั้งค่าการคืนค่าโดยสมบูรณ์กำหนดได้ว่าจะเปิดอะไรเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1327466551276625742">เปิดใช้พรอมต์การกำหนดค่าเครือข่ายเมื่อออฟไลน์</translation> |
| <translation id="13356285923490863">ชื่อนโยบาย</translation> |
| <translation id="1338603603553894503">ระบุว่าเครื่องมือเลือกโปรไฟล์เปิดใช้อยู่ ปิดใช้อยู่ หรือบังคับใช้เมื่อเริ่มเบราว์เซอร์ |
| |
| เครื่องมือเลือกโปรไฟล์จะไม่แสดงอยู่โดยค่าเริ่มต้นหากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในโหมดผู้มาเยือนหรือโหมดไม่ระบุตัวตน มีการระบุไดเรกทอรีโปรไฟล์และ/หรือ URL ด้วยบรรทัดคำสั่ง มีการขอให้เปิดแอปอย่างชัดแจ้ง มีการเปิดเบราว์เซอร์ด้วยการแจ้งเตือนแบบเนทีฟ มีให้เลือกเพียงโปรโฟล์เดียว หรือมีการตั้งค่านโยบาย ForceBrowserSignin เป็น "จริง" |
| |
| หากเลือก "เปิดใช้" (0) ไว้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย เครื่องมือเลือกโปรไฟล์จะแสดงเมื่อเริ่มต้นระบบโดยค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้จะเปิด/ปิดใช้ได้ |
| |
| หากเลือก "ปิดใช้" (1) ไว้ เครื่องมือเลือกโปรไฟล์จะไม่แสดงขึ้นมาและผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| หากเลือก "บังคับใช้" (2) ไว้ ผู้ใช้จะระงับการใช้เครื่องมือเลือกโปรไฟล์ไม่ได้ เครื่องมือเลือกโปรไฟล์จะแสดงแม้ว่าจะมีให้เลือกเพียงโปรโฟล์เดียวเท่านั้น</translation> |
| <translation id="1339174690935954950">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ส่งความคิดเห็น</translation> |
| <translation id="1340053691042184658">ป้องกันไม่ให้เข้าสู่ระบบเบราว์เซอร์ในโหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="1342918903685430097">กำหนดค่าเวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ขั้นต่ำที่อุปกรณ์จะใช้ได้</translation> |
| <translation id="1343128241903870688">ปิดใช้การรายงานข้อมูลแอปของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1347198119056266798">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="FORCE_GOOGLE_SAFE_SEARCH_POLICY_NAME" /> และ <ph name="FORCE_YOUTUBE_RESTRICT_POLICY_NAME" /> แทน ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้หากมีการตั้งค่านโยบาย <ph name="FORCE_GOOGLE_SAFE_SEARCH_POLICY_NAME" />, <ph name="FORCE_YOUTUBE_RESTRICT_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="FORCE_YOUTUBE_SAFETY_MODE_POLICY_NAME" /> (เลิกใช้งานแล้ว) |
| |
| บังคับให้การค้นหาใน Google Web Search ต้องใช้งาน "ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย" และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ การตั้งค่านี้ยังบังคับใช้โหมดที่จำกัดปานกลางใน YouTube ด้วย |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะใช้งาน "ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย" ใน Google Search และโหมดที่จำกัดปานกลางใน YouTube เสมอ |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่บังคับใช้ "ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย" ใน Google Search และโหมดที่จำกัดใน YouTube</translation> |
| <translation id="134745581157553029">หากตั้งค่านโยบาย "DeviceArcDataSnapshotHours" ระบบจะเปิดใช้กลไกการสรุปภาพรวมของข้อมูล ARC และการอัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC จะเริ่มต้นโดยอัตโนมัติในช่วงเวลาที่กำหนดได้ เมื่อช่วงเวลาดังกล่าวเริ่มต้น ระบบต้องอัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC และไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าสู่ระบบ ขั้นตอนการอัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC จะเริ่มโดยไม่แสดงการแจ้งเตือนต่อผู้ใช้ หากผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่ การแจ้งเตือน UI จะแสดงขึ้นและผู้ใช้ต้องยอมรับเพื่อรีบูตอุปกรณ์และเริ่มขั้นตอนการอัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC หมายเหตุ: ระบบจะไม่อนุญาตให้มีการใช้งานอุปกรณ์ในระหว่างที่อัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC</translation> |
| <translation id="1348603614848418219">ปิดใช้การย้ายข้อมูลของอุปกรณ์ที่มีการจัดการของ <ph name="MS_AD_NAME" /> ไปยังการจัดการระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="1352799151662469739">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนล็อกหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยเสียบปลั๊ก</translation> |
| <translation id="1353416417709895349">ปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS และแถบข้อมูล "หรือคุณหมายถึง http://intranetsite/"</translation> |
| <translation id="1354280967938151061">ปิดใช้ ARC</translation> |
| <translation id="1354424209129232709">สูงสุด:</translation> |
| <translation id="1355050231181289439"> นโยบายนี้ควบคุมว่าจะให้ระบบเปิดใช้การแมปแป้นพิมพ์ลัดสากลที่ปรับปรุงแล้วหรือไม่ |
| ฟีเจอร์นี้ช่วยให้มั่นใจว่าแป้นพิมพ์ลัดจะทำงานอย่างสอดคล้องกับเลย์เอาต์แป้นพิมพ์สากลและเลิกใช้งานแป้นพิมพ์ลัดแบบเดิม |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดสากลที่ปรับปรุงแล้ว |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดสากลที่ปรับปรุงแล้ว |
| หากไม่ได้ตั้งค่า นโยบายนี้จะเปิดใช้สำหรับอุปกรณ์ที่มีการจัดการและเปิดใช้สำหรับอุปกรณ์ของผู้บริโภค |
| โปรดทราบว่านี่เป็นเพียงนโยบายชั่วคราวเพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการยังคงสามารถใช้แป้นพิมพ์ลัดแบบเดิมที่เลิกใช้งานแล้ว ระบบจะเลิกใช้งานนโยบายนี้หลังจากมีแป้นพิมพ์ลัดที่กำหนดเอง</translation> |
| <translation id="1361661842732478894">แสดงปุ่มหน้าแรกในแถบเครื่องมือ</translation> |
| <translation id="1363275621236827384">เปิดใช้คำค้นหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ Quirks สำหรับโปรไฟล์ฮาร์ดแวร์</translation> |
| <translation id="1369698103169067223">ไม่ได้เปิดใช้ Glanceables สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1371626834351873151">การลด User Agent จะเปิดใช้สำหรับต้นทางทั้งหมด</translation> |
| <translation id="1371851989348083665">อนุญาตให้ใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" บนเว็บ</translation> |
| <translation id="1372618949173323717">ปิดใช้ JavaScript</translation> |
| <translation id="1376119291123231789">เปิดใช้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูง</translation> |
| <translation id="1376765488559847650">CloudUpload</translation> |
| <translation id="1379689277107868399">หากตั้งค่าเป็น DoNotPrompt หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่แสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์กับเบราว์เซอร์อีกครั้งโดยอัตโนมัติ |
| |
| หากตั้งค่าเป็น PromptInTab ไว้ ระบบจะเปิดแท็บใหม่ที่เป็นหน้าเข้าสู่ระบบของ Google ขึ้นมา ทันทีที่การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้หมดอายุลง ซึ่งกรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใช้ <ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> เท่านั้น</translation> |
| <translation id="1384459581748403878">การอ้างอิง: <ph name="REFERENCE_URL" /></translation> |
| <translation id="1384594066274112751">นโยบายนี้จะทำให้เบราว์เซอร์ไม่ละทิ้ง URL ที่ตรงกับรูปแบบที่ระบุไว้อย่างน้อย 1 รูปแบบ (โดยใช้รูปแบบตัวกรอง <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />) |
| โดยจะมีผลกับการใช้หน่วยความจำและการละทิ้งในโหมดประสิทธิภาพสูง |
| ระบบจะยกเลิกการโหลดหน้าที่ถูกละทิ้งและมีการเรียกคืนทรัพยากรทั้งหมด แท็บที่เชื่อมโยงกับหน้าดังกล่าวจะยังคงอยู่ในแนวแท็บ แต่การแสดงผลแท็บดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดการโหลดซ้ำอย่างเต็มรูปแบบ |
| </translation> |
| <translation id="138847842893090358">รายงานสถานะการอัปเดตระบบปฏิบัติการ</translation> |
| <translation id="1390529781843037070">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้สั่งพิมพ์ไปยัง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> จากกล่องโต้ตอบการพิมพ์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะส่งเอกสารไปพิมพ์ที่ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ได้ นโยบายนี้ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ส่งงานพิมพ์ในเว็บไซต์ต่างๆ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะสั่งพิมพ์ไปยัง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> จากกล่องโต้ตอบการพิมพ์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| หากต้องการให้ค้นพบปลายทาง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ได้ จะต้องตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" และต้องไม่รวม <ph name="POLICY_ENUM_PRINTERTYPEDENYLIST_CLOUD" /> ไว้ในนโยบาย <ph name="PRINTER_TYPE_DENY_LIST_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1390901586107713894">ให้คุณระบุว่าส่วนขยายใดบ้างที่ผู้ใช้ติดตั้งไม่ได้ ระบบจะปิดใช้ส่วนขยายที่ติดตั้งแล้วหากถูกบล็อกโดยไม่มีวิธีให้ผู้ใช้เปิดใช้ เมื่อนำส่วนขยายที่ปิดใช้เนื่องจากอยู่ในรายการที่บล็อกออกแล้ว ระบบจะเปิดใช้อีกครั้งโดยอัตโนมัติ |
| |
| ค่า "*" ในรายการที่บล็อกหมายความว่าส่วนขยายทั้งหมดถูกบล็อก เว้นแต่จะแสดงอยู่อย่างชัดแจ้งในรายการที่อนุญาต |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะติดตั้งส่วนขยายใดก็ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1392703142209771447">นิพจน์ทั่วไปที่ตรงกับรหัสเครื่องพิมพ์</translation> |
| <translation id="1393485621820363363">เครื่องพิมพ์สำหรับอุปกรณ์ขององค์กรที่มีการเปิดใช้</translation> |
| <translation id="1395505489889158859">อนุญาตให้ส่งชื่อผู้ใช้และชื่อไฟล์ไปยังเครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมระบบ</translation> |
| <translation id="1395988776118675626">เปิดใช้ฟีเจอร์ "จํารหัสผ่าน" สําหรับ Kerberos</translation> |
| <translation id="1396119629372155901">ฟีเจอร์ ThrottleDisplayNoneAndVisibilityHiddenCrossOriginIframes ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="1397855852561539316">URL ที่แนะนำโดยผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1402227992519954892">เปิดใช้การรายงานข้อมูลแอปของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1405444733221330570">เปิดใช้ Orca</translation> |
| <translation id="141279920573530952">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงพอร์ตอนุกรมที่ใช้ได้ทุกพอร์ต |
| |
| URL ต้องใช้การได้ มิเช่นนั้น นโยบายจะไม่มีผล ระบบพิจารณาเฉพาะต้นทาง (รูปแบบ โฮสต์ และพอร์ต) ของ URL เท่านั้น |
| |
| ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่เชื่อมโยงเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้าง <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" />, <ph name="SERIAL_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" />, <ph name="SERIAL_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และค่ากำหนดของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1413768951234456918">ล้างประวัติการท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="1413936351612032792">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแอป Linux</translation> |
| <translation id="1417888712677507140">บล็อกกล่องโต้ตอบ JavaScript ที่เกิดจากเฟรมย่อยที่เป็นต้นทางเฟรมอื่น</translation> |
| <translation id="1418387035898607074">ข้ามการตรวจสอบของ Google Safe Browsing สำหรับไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้</translation> |
| <translation id="1419020637569060510">เพิ่มข้อจำกัดในการใช้งานบัญชีที่จัดการในฐานะบัญชีรองบน Chrome OS</translation> |
| <translation id="142346659686073702">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์ใช้ Crostini</translation> |
| <translation id="1423900783955065155">นโยบายนี้ควบคุมว่าสามารถจัดเก็บหน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> ใน Back-Forward Cache ได้ไหม เว็บไซต์ที่ตั้งค่าส่วนหัวนี้อาจไม่คิดว่าจะมีการคืนค่าหน้าจาก Back-Forward Cache เนื่องจากยังสามารถแสดงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนบางอย่างได้หลังการคืนค่าแม้จะเข้าถึงไม่ได้แล้วก็ตาม |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า หน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> อาจได้รับการคืนค่าจาก Back-Forward Cache เว้นแต่จะมีการทริกเกอร์ให้เลือกลบแคชเก่าออกไป (เช่น เมื่อเว็บไซต์มีการเปลี่ยนคุกกี้ประเภท HTTP-เท่านั้น) |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย จะไม่มีการจัดเก็บหน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> ใน Back-Forward Cache</translation> |
| <translation id="1425551776320718592">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อุปกรณ์นี้ใช้การโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ ADB โดยไม่บังคับให้ทำ Powerwash ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์มีสถานะความปลอดภัยที่ไม่น่าเชื่อถือ</translation> |
| <translation id="1426170570389588560">กำหนดช่วงเวลาเป็นจำนวนวันในการจัดเก็บข้อมูลเมตาของงานพิมพ์</translation> |
| <translation id="1426410128494586442">ยอมรับ</translation> |
| <translation id="1427655258943162134">ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="1430811977802269244">อนุญาตให้อุปกรณ์ที่มีสิทธิ์ซึ่งจะสูญเสียการรองรับจาก Android เลือกรับการอัปเดตอัตโนมัติเพิ่มเติม |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย อุปกรณ์จะเลือกรับการอัปเดตอัตโนมัติเพิ่มเติม |
| |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย อุปกรณ์จะหยุดรับการอัปเดตหลังจากวันสิ้นสุดการอัปเดตอัตโนมัติเดิม |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เฉพาะสำหรับรุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการอัปเดตเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ |
| |
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://support.google.com/chrome/a/?p=extended_updates_support</translation> |
| <translation id="1432834104376790711">นโยบายนี้จะเปิดใช้หรือปิดใช้การตั้งค่าโหมดประหยัดแบตเตอรี่ |
| ใน Chrome การตั้งค่านี้จะช่วยให้ระบบควบคุมอัตราเฟรมให้ใช้พลังงานน้อยลงได้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้ปลายทางจะควบคุมการตั้งค่านี้ได้ใน chrome://settings/performance |
| ใน ChromeOS การตั้งค่านี้จะช่วยควบคุมอัตราเฟรมและความถี่ของ CPU, หรี่ไฟแบ็กไลต์ และให้ Android เข้าสู่โหมดประหยัดแบตเตอรี่ ในอุปกรณ์ที่มี CPU หลายตัว ระบบจะปิด CPU บางตัว |
| รายละเอียดของระดับต่างๆ มีดังนี้ |
| <ph name="BATTERY_SAVER_MODE_DISABLED" /> (0): โหมดประหยัดแบตเตอรี่จะปิดใช้งาน |
| <ph name="BATTERY_SAVER_MODE_ENABLED_BELOW_THRESHOLD" /> (1): ระบบจะเปิดใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่เมื่ออุปกรณ์ใช้พลังงานแบตเตอรี่และระดับแบตเตอรี่เหลือน้อย |
| <ph name="BATTERY_SAVER_MODE_ENABLED_ON_BATTERY" /> (2): ค่านี้เลิกใช้งานไปแล้วตั้งแต่เวอร์ชัน M121 ตั้งแต่เวอร์ชัน M121 เป็นต้นไป ระบบจะถือว่าค่าเป็น EnabledBelowThreshold |
| </translation> |
| <translation id="1434300053894025056">ปิดใช้การตรวจตัวสะกด</translation> |
| <translation id="1435493974546396517">ควบคุมวิธีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เสนอตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> และ <ph name="MAC_OS_NAME" /> เมื่อจะพิมพ์ PDF |
| |
| เมื่อพิมพ์ PDF ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> หรือ <ph name="MAC_OS_NAME" /> บางครั้งงานพิมพ์ต้องมีการแรสเตอร์เป็นรูปภาพสำหรับเครื่องพิมพ์บางรุ่นเพื่อให้งานที่ออกมามีลักษณะถูกต้อง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพในตัวอย่างก่อนพิมพ์เมื่อจะพิมพ์ PDF |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่เสนอตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพแก่ผู้ใช้ในตัวอย่างก่อนพิมพ์ และจะพิมพ์ PDF ตามปกติโดยไม่ทำการแรสเตอร์เป็นรูปภาพก่อนส่งไปยังปลายทาง</translation> |
| <translation id="1435659902881071157">การกำหนดค่าเครือข่ายระดับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="143649776386947790">ใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1438739959477268107">การตั้งค่าการสร้างคีย์ที่เป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1440408958042020947">อนุญาตให้ผู้ที่เลือกใช้ฮับโทรศัพท์เข้าถึงรูปภาพและวิดีโอล่าสุดที่ถ่ายในโทรศัพท์ของตน</translation> |
| <translation id="1443532790824582949">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส</translation> |
| <translation id="1449083855104537880">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะแสดงตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ตัวเลือกดังกล่าวจะไม่แสดงในเมนู |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ ตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษจะไม่แสดงในเมนู แต่ผู้ใช้ทำให้ตัวเลือกปรากฏได้จากหน้าการตั้งค่า |
| |
| หากคุณเปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยวิธีอื่นๆ (เช่น ด้วยการกดแป้นร่วมกัน) ตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษจะแสดงในเมนูถาดระบบเสมอ</translation> |
| <translation id="1449777485284610883">อนุญาตให้ติดตั้งและอัปเดตส่วนขยายที่โฮสต์นอก Chrome เว็บสโตร์</translation> |
| <translation id="1451113827539677573">ควบคุมวิธีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> พิมพ์ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> |
| |
| เมื่อสั่งพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ที่ไม่ใช่ PostScript ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> บางครั้งงานพิมพ์จะต้องมีการแรสเตอร์เพื่อให้พิมพ์ได้อย่างถูกต้อง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เต็ม" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะแรสเตอร์แบบเต็มหน้าหากจำเป็น |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เร็ว" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะหลีกเลี่ยงการแรสเตอร์หากทำได้ เพราะการลดปริมาณการแรสเตอร์จะช่วยลดขนาดของงานพิมพ์และเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอยู่ในโหมด "เต็ม"</translation> |
| <translation id="1455351936334569779">ระบบจะปิดใช้เครื่องพิมพ์ที่มีประเภทตรงกับในรายการปฏิเสธไม่ให้ค้นพบหรือดึงข้อมูลความสามารถได้ |
| |
| การใส่ประเภทเครื่องพิมพ์ทั้งหมดไว้ในรายการปฏิเสธจะปิดใช้การพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจะทำให้ไม่มีปลายทางให้ส่งเอกสารไปพิมพ์ |
| |
| ในเวอร์ชันก่อน 102 การรวม <ph name="POLICY_ENUM_PRINTERTYPEDENYLIST_CLOUD" /> ไว้ในรายการปฏิเสธจะมีผลเหมือนกับการตั้งค่านโยบาย <ph name="POLICY_CLOUDPRINTSUBMITENABLED" /> เป็น "เท็จ" หากต้องการให้ค้นพบปลายทาง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ได้ จะต้องตั้งค่านโยบาย <ph name="POLICY_CLOUDPRINTSUBMITENABLED" /> เป็น "จริง" และต้องไม่รวม <ph name="POLICY_ENUM_PRINTERTYPEDENYLIST_CLOUD" /> ไว้ในรายการปฏิเสธ เริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน 102 ระบบจะไม่รองรับปลายทาง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> และจะไม่ปรากฏไม่ว่าค่านโยบายจะเป็นอย่างไร |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า จะทำให้ค้นพบเครื่องพิมพ์ทุกประเภทได้ |
| |
| เครื่องพิมพ์ส่วนขยายเรียกอีกอย่างว่าปลายทางผู้ให้บริการการพิมพ์ โดยจะมีปลายทางทั้งหมดที่เป็นของส่วนขยาย <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| เครื่องพิมพ์ในพื้นที่เรียกอีกอย่างว่าปลายทางการพิมพ์เฉพาะที่ โดยจะมีปลายทางที่พร้อมใช้งานสำหรับคอมพิวเตอร์ในพื้นที่และเครื่องพิมพ์ของเครือข่ายที่แชร์</translation> |
| <translation id="1456822151187621582">Windows (ไคลเอ็นต์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" />):</translation> |
| <translation id="1464848559468748897">ควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้ในเซสชันหลายโปรไฟล์บนอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากกำหนดนโยบายนี้เป็น "MultiProfileUserBehaviorUnrestricted" ผู้ใช้สามารถเป็นผู้ใช้หลักหรือผู้ใช้รองในเซสชันหลายโปรไฟล์ได้ |
| |
| หากกำหนดนโยบายเป็น "MultiProfileUserBehaviorMustBePrimary" ผู้ใช้สามารถเป็นผู้ใช้หลักได้เท่านั้นในเซสชันหลายโปรไฟล์ |
| |
| หากกำหนดนโยบายนี้เป็น "MultiProfileUserBehaviorNotAllowed" ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าร่วมเซสชันหลายโปรไฟล์ |
| |
| หากคุณทำการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแทนที่ได้ |
| |
| หากการตั้งค่ามีการเปลี่ยนแปลงขณะที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้เซสชันหลายโปรไฟล์ ผู้ใช้ทั้งหมดในเซสชันจะได้รับการตรวจสอบเทียบกับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องของพวกเขา เซสชันจะปิดลงหากมีผู้ใช้รายใดรายหนึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในเซสชันอีกต่อไป |
| |
| หากไม่กำหนดค่านโยบายนี้ ค่าเริ่มต้น "MultiProfileUserBehaviorMustBePrimary" จะนำไปใช้กับผู้ใช้ที่ได้รับการจัดการโดยองค์กรและ "MultiProfileUserBehaviorUnrestricted" จะนำไปใช้กับผู้ใช้ที่ไม่ได้รับการจัดการ</translation> |
| <translation id="1465619815762735808">คลิกเพื่อเล่น</translation> |
| <translation id="1467633031685836974">ฟีเจอร์นี้ช่วยให้นำทาง URL จากไฮเปอร์ลิงก์และแถบที่อยู่ไปยังข้อความเป้าหมายที่เจาะจงภายในหน้าเว็บได้ ซึ่งหน้าเว็บจะเลื่อนไปยังตำแหน่งดังกล่าวเมื่อโหลดเสร็จแล้ว |
| |
| หากเปิดใช้หรือไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การเลื่อนหน้าเว็บไปยัง Fragment ของข้อความที่เจาะจงผ่าน URL |
| |
| หากคุณปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้การเลื่อนหน้าเว็บไปยัง Fragment ของข้อความที่เจาะจงผ่าน URL</translation> |
| <translation id="1468702975912409463">ให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลเปิด URL ฝั่งโฮสต์ในเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="1474273443907024088">ปิดใช้ TLS False Start</translation> |
| <translation id="1477934438414550161">TLS 1.2</translation> |
| <translation id="1478529725439951221">คุณจะเปิดใช้หรือปิดใช้ผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI ได้ผ่านเฟรมเวิร์กรูปแบบต่างๆ</translation> |
| <translation id="1479427764273213107">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดรายการอุปกรณ์ USB ที่ผู้ใช้จะปลดออกจากไดรเวอร์ Kernel เพื่อใช้งานผ่าน chrome.usb API ในเว็บแอปโดยตรงได้ รายการต่างๆ เป็นการจับคู่ระหว่างตัวระบุผู้ให้บริการ USB และตัวระบุผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะระบุฮาร์ดแวร์ที่เจาะจง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย รายการอุปกรณ์ USB ที่ปลดออกได้จะว่างเปล่า</translation> |
| <translation id="1481508277421549404">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะให้ส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายระดับองค์กรใช้ Enterprise Hardware Platform API ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะป้องกันไม่ให้ส่วนขยายใช้ API นี้ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ยังมีผลกับส่วนขยายคอมโพเนนต์ด้วย เช่น ส่วนขยายบริการ Hangouts</translation> |
| <translation id="148194404518916594">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ "แตะเพื่อค้นหา"</translation> |
| <translation id="1484190167468437592">ปิดใช้เสียงแบบโมโน</translation> |
| <translation id="1484580923123963615">รายการที่อนุญาตซึ่งควบคุมการรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง นโยบาย <ph name="REPORT_WEBSITE_TELEMETRY_POLICY_NAME" /> จะควบคุมประเภทการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่รายงาน |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะควบคุมการรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์สำหรับ URL ในรายการที่อนุญาต หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์ |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้อนุญาตเฉพาะรูปแบบ HTTP URL และ HTTPS URL เท่านั้น</translation> |
| <translation id="1486021504508098388">รายงานข้อมูลแบ็กไลต์</translation> |
| <translation id="1487722536912664411">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />"</translation> |
| <translation id="1487916040416013623">การตั้งค่านโยบายจะระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ใดควรจะได้รับอนุญาตสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบผสานรวม การตรวจสอบสิทธิ์แบบผสานรวมจะเปิดเฉพาะเมื่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้รับคำขอตรวจสอบสิทธิ์จากพร็อกซีหรือจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในรายการที่ได้รับอนุญาตนี้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะพยายามตรวจหาว่าเซิร์ฟเวอร์อยู่บนอินทราเน็ตไหม หากใช่ก็จะตอบรับคำขอ IWA หากมีการตรวจพบว่าเซิร์ฟเวอร์เป็นอินเทอร์เน็ต <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่สนใจคำขอ IWA จากเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หมายเหตุ: คั่นชื่อเซิร์ฟเวอร์หลายรายการด้วยเครื่องหมายจุลภาค ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="1488724823347505879">เปิดใช้การแชร์จากแอป Android ไปยังเว็บแอป</translation> |
| <translation id="1490962807364514840">อัตราการรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับตัวนับรันไทม์ของ CPU ในหน่วยมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="1492223733885011596">นโยบายนี้เปิดใช้การรองรับ GIF สำหรับเครื่องมือเลือกอีโมจิบน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" เครื่องมือเลือกอีโมจิจะรองรับอีโมจิ GIF |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า เครื่องมือเลือกอีโมจิจะไม่รองรับอีโมจิ GIF |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ เครื่องมือเลือกอีโมจิจะเปิดใช้สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแต่ปิดใช้สำหรับผู้ใช้ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="1494138678487405397">ปิดใช้คอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1497797462580613666">Download Manager จะมีตัวเลือกให้บันทึกไฟล์ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /></translation> |
| <translation id="1498640472634891941">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุรูปแบบ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ในเครือข่ายโดยอัตโนมัติผ่าน WebPrinting API |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_PRINTING_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_PRINTING_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="1499129134689253257">ควบคุมลักษณะการทํางานแบบใหม่ของ <ph name="OFFSET_PARENT" /></translation> |
| <translation id="1501644502684303995">บังคับใช้การเข้าสู่ระบบออนไลน์ในหน้าจอล็อกเท่านั้น</translation> |
| <translation id="1502843533062797703">เปิดใช้การบล็อกการแทรกซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="1503969899251962413">การตั้งค่านโยบายจะระบุรหัสสัญญาอนุญาต <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับอุปกรณ์นี้ |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M94</translation> |
| <translation id="1507373253059695424">เปิดใช้หน้าจอความเป็นส่วนตัวในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้เสมอ</translation> |
| <translation id="1508588104835702000">ปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="1509377996969000672">การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุการกำหนดค่าสำหรับเครื่องพิมพ์องค์กรที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ รูปแบบการตั้งค่าเหมือนกับพจนานุกรม <ph name="NATIVE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> แต่มีช่อง "id" หรือ "guid" ที่จำเป็นต้องกรอกเพิ่มเข้ามาสำหรับเครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องเพื่อใช้ระบุว่าอยู่ในรายการที่อนุญาตหรือไม่อนุญาต ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5 MB และอยู่ในรูปแบบ JSON ไฟล์ที่ระบุเครื่องพิมพ์ประมาณ 21,000 เครื่องเข้ารหัสเป็นไฟล์ขนาด 5 MB ได้ 1 ไฟล์ แฮชแบบเข้ารหัสช่วยยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด ไฟล์จะมีการดาวน์โหลด แคช และดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวเพื่อการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์และทำให้เครื่องพิมพ์พร้อมใช้งานพร้อมด้วย <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" />, <ph name="DEVICE_PRINTERS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_PRINTERS_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้ |
| |
| * ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง |
| |
| * เป็นการเสริม <ph name="BULK_PRINTERS_POLICY_NAME" /> และการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ของผู้ใช้แต่ละราย |
| |
| หากไม่ตั้งค่า จะไม่มีเครื่องพิมพ์ของอุปกรณ์และระบบจะเพิกเฉยต่อนโยบาย <ph name="DEVICE_NATIVE_PRINTERS_POLICY_PATTERN" /> อื่นๆ |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="1509692106376861764">นโยบายนี้ได้ถูกยกเลิกตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 29</translation> |
| <translation id="1514888685242892912">เปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1515230621229117540">เปิดใช้เมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอย</translation> |
| <translation id="1515824657887788963">อนุญาตให้หน้าเว็บส่งคำขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บ</translation> |
| <translation id="1516486219683984217">ไม่อนุญาตให้ใช้การแจ้งเตือนของระบบ</translation> |
| <translation id="1519092983270375506">การตั้งค่าเริ่มต้นของการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="1522425503138261032">อนุญาตให้ไซต์ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1523282650847750947">ไม่ต้องคืนค่าเซสชันล่าสุด</translation> |
| <translation id="1523587744262636189">พอร์ต 10080 (เลิกบล็อกได้จนถึง 01/04/2022)</translation> |
| <translation id="1523774894176285446">เบราว์เซอร์สำรองที่จะเปิดสำหรับเว็บไซต์ที่กำหนดค่า</translation> |
| <translation id="1524243669991877602">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้นโยบายที่เกี่ยวข้องกับบัญชี <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> รวมเข้ากับนโยบายระดับแมชชีน |
| |
| โดยจะรวมได้เฉพาะนโยบายจากผู้ใช้ที่ปลอดภัย ผู้ใช้ที่ปลอดภัยจะเป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรที่จัดการเบราว์เซอร์ของตนโดยใช้<ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> ระบบจะไม่สนใจนโยบายในระดับผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมดเสมอ |
| |
| นโยบายที่จะรวมต้องตั้งค่าใน <ph name="POLICY_POLICYLISTMULTIPLESOURCEMERGELIST" /> หรือ <ph name="POLICY_POLICYDICTIONARYMULTIPLESOURCEMERGELIST" /> ด้วย ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้หากไม่ได้กำหนดค่าทั้ง 2 นโยบายที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้มีการรวมนโยบายในระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์เข้ากับนโยบายจากแหล่งที่มาอื่นๆ</translation> |
| <translation id="152657506688053119">รายการ URL สำรองของผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1530812829012954197">แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้เสมอในเบราว์เซอร์โฮสต์</translation> |
| <translation id="1534007181698071943">อนุญาตให้ปิดใช้ตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ยกเลิกการโหลดโดยค่าเริ่มต้นระหว่างการเลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="1539343118617844331">โรงเรียน</translation> |
| <translation id="1542491165152947087">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตั้งค่าหัวข้อโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="1542958897137600427">เปิดใช้การจัดสรรใบรับรองไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="1550295162561011575">การตั้งค่านโยบายนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบกําหนดค่าการทํางานอัตโนมัติสําหรับการเปิดใช้แอปในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ โดยแอปเหล่านี้สามารถเปิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ หรือผู้ใช้จะเปิดแอปพร้อมกันจาก Launcher ก็ได้</translation> |
| <translation id="1551782388466447648">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1552418937045050762">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเลือกใช้การแชร์ใกล้เคียงเพื่อส่งและรับไฟล์จากผู้ที่อยู่ใกล้กันได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเลือกใช้การแชร์ใกล้เคียงไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรแต่อนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="1553956579506604198">บล็อกไม่ให้ติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก</translation> |
| <translation id="1555248923316727072">การตั้งค่าการจัดการข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ SAML</translation> |
| <translation id="1556858590951401264">ไม่อนุญาตให้รูปแบบการหรี่แสงอัจฉริยะขยายเวลาจนกว่าหน้าจอจะหรี่แสง</translation> |
| <translation id="1557113199339446336">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย (XDR) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไม่รายงานเหตุการณ์การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย (XDR)</translation> |
| <translation id="1560279917909364275">ให้สิทธิ์แอปจดโน้ตที่อนุญาตบนหน้าจอล็อกของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="1561424797596341174">การลบล้างนโยบายสำหรับเวอร์ชันการแก้ปัญหาของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="1561967320164410511">U2F พร้อมส่วนขยายสำหรับการรับรองแต่ละรายการ</translation> |
| <translation id="1562846754315919408">แสดงการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบอุปกรณ์ USB</translation> |
| <translation id="1567718448549957373">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะอนุญาตคำขอตรวจสอบสิทธิ์<ph name="BASIC_AUTH" />ที่ได้รับผ่าน HTTP ที่ไม่ปลอดภัย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะห้ามไม่ให้คำขอ HTTP ที่ไม่ปลอดภัยใช้สกีมการตรวจสอบสิทธิ์<ph name="BASIC_AUTH" /> อนุญาตเฉพาะ HTTPS ที่ปลอดภัยเท่านั้น |
| |
| ระบบจะเพิกเฉยต่อการตั้งค่านโยบายนี้ (และห้ามไม่ให้ใช้แบบ<ph name="BASIC_AUTH" />เสมอ) หากนโยบาย <ph name="AUTH_SCHEMES_POLICY_NAME" /> มีการตั้งค่าและไม่รวมแบบ<ph name="BASIC_AUTH" />ไว้ด้วย</translation> |
| <translation id="1571604752299617930">สแกนเนอร์</translation> |
| <translation id="1573074208167290576">ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะให้ผู้ใช้เพิ่มข้อยกเว้นเพื่ออนุญาตเนื้อหาผสมในเว็บไซต์ที่เจาะจงได้หรือไม่ |
| |
| นโยบายนี้จะถูกลบล้างสำหรับรูปแบบ URL ที่เจาะจงได้โดยใช้นโยบาย "InsecureContentAllowedForUrls" และ "InsecureContentBlockedForUrls" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มข้อยกเว้นเพื่ออนุญาตเนื้อหาผสมที่บล็อกได้และปิดใช้การอัปเกรดอัตโนมัติสำหรับเนื้อหาผสมที่เลือกบล็อกได้</translation> |
| <translation id="1573444493980402757">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะปฏิเสธสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_WINDOW_PLACEMENT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="1574258262373444557">ไม่ใช้ <ph name="AES_KL_NAME" /> เป็นอัลกอริทึมสำหรับการเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1575015449587326319">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise OnFileDownloaded</translation> |
| <translation id="1583248206450240930">ใช้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1587585749332985896">ไม่อนุญาตให้ใช้โหมดไม่มีส่วนหัว</translation> |
| <translation id="1588240398285670601">การตั้งค่าเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="1590802206069983683">ฟีเจอร์ ThrottleDisplayNoneAndVisibilityHiddenCrossOriginIframes พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="1592334921377856028">ปิดใช้การรายงานสถานะของฮาร์ดแวร์อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1595013560176869154">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ใช้ PIN ที่ไม่รัดกุมได้ ตัวอย่างลักษณะของ PIN ที่ไม่รัดกุม ได้แก่ เลขตัวเดียวซ้ำกัน (1111), ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นทีละ 1 (1234), ตัวเลขที่ลดลงทีละ 1 (4321) และ PIN ที่ใช้กันแพร่หลาย การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ตั้ง PIN ที่ไม่รัดกุมและคาดเดาง่ายได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะได้รับคำเตือนสำหรับ PIN ที่ไม่รัดกุม ซึ่งคำเตือนดังกล่าวไม่ใช่ข้อผิดพลาดแต่อย่างใด</translation> |
| <translation id="1597684038583138808">เปิดใช้คำจำกัดความของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="1598258379228800626">เปิดใช้การไฮไลต์โฟกัสแป้นพิมพ์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1599424828227887013">เปิดใช้การแยกเว็บไซต์สำหรับต้นทางที่เจาะจงในอุปกรณ์ Android</translation> |
| <translation id="159946228300522107">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หมายความว่า Chrome จะขยายหน้าต่างแรกที่แสดงเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่า Chrome อาจขยายหน้าต่างแรก โดยขึ้นอยู่กับขนาดหน้าจอ</translation> |
| <translation id="1600340610556453828">การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ปิด Wi-Fi และผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้เปิดหรือปิด Wi-Fi ได้</translation> |
| <translation id="1601848091543601739">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมกลยุทธ์การจัดการพลังงานเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| การทำงานมีทั้งหมด 4 รูปแบบ |
| |
| * หน้าจอจะสลัวหากผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลาตามที่ระบุโดย <ph name="SCREEN_DIM_FIELD_NAME" /> |
| |
| * หน้าจอจะดับลงหากผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลาตามที่ระบุโดย <ph name="SCREEN_OFF_FIELD_NAME" /> |
| |
| * กล่องคำเตือนจะปรากฏขึ้นหากผู้ใช้ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลาตามที่ระบุโดย <ph name="IDLE_WARNING_FIELD_NAME" /> ซึ่งจะเตือนผู้ใช้ว่าจะมีการตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหวและจะแสดงหากการตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหวคือการออกจากระบบหรือปิดเครื่อง |
| |
| * การทำงานที่ <ph name="IDLE_ACTION_FIELD_NAME" /> ระบุจะเริ่มต้นหากผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลาตามที่ระบุโดย <ph name="IDLE_FIELD_NAME" /> |
| |
| การทำงานแต่ละประเภทข้างต้นควรระบุการหน่วงเวลาโดยใช้หน่วยมิลลิวินาทีและต้องตั้งค่าเป็นค่าที่มากกว่า 0 เพื่อเรียกการทำงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่การหน่วงเวลามีค่าเป็น 0 <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่เริ่มการทำงานที่เกี่ยวข้อง |
| |
| สำหรับการหน่วงเวลาแต่ละประเภทข้างต้น เมื่อไม่มีการตั้งค่าระยะเวลา ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้น |
| |
| ค่า <ph name="SCREEN_DIM_FIELD_NAME" /> จะถูกบีบให้น้อยกว่าหรือเท่ากับ <ph name="SCREEN_OFF_FIELD_NAME" /> <ph name="SCREEN_OFF_FIELD_NAME" /> และ <ph name="IDLE_WARNING_FIELD_NAME" /> จะถูกบีบให้น้อยกว่าหรือเท่ากับ <ph name="IDLE_FIELD_NAME" /> |
| |
| <ph name="IDLE_ACTION_FIELD_NAME" /> อาจเป็นการทำงาน 1 ใน 4 กรณีต่อไปนี้ |
| |
| * <ph name="IDLE_ACTION_ENUM_SUSPEND" /> |
| |
| * <ph name="IDLE_ACTION_ENUM_LOGOUT" /> |
| |
| * <ph name="IDLE_ACTION_ENUM_SHUTDOWN" /> |
| |
| * <ph name="IDLE_ACTION_ENUM_DO_NOTHING" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="IDLE_ACTION_FIELD_NAME" /> ระบบจะใช้ <ph name="IDLE_ACTION_ENUM_SUSPEND" /> |
| |
| หมายเหตุ: มีการตั้งค่าแยกต่างหากสำหรับการทำงานโดยเสียบปลั๊กและแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="1608755754295374538">URL ที่จะได้รับสิทธิ์การเข้าถึงอุปกรณ์จับเสียงโดยไม่ต้องแจ้ง</translation> |
| <translation id="1611394564825535541">อนุญาตให้คุณควบคุมว่าผู้ใช้จะเข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่ไม่ใช่ขององค์กรได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ ผู้ใช้จะเพิ่ม กำหนดค่า และสั่งพิมพ์โดยใช้เครื่องพิมพ์ของตนเองได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ผู้ใช้จะเพิ่มและกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ของตนเองไม่ได้ และจะสั่งพิมพ์โดยใช้เครื่องพิมพ์ที่กำหนดค่าไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ด้วย |
| </translation> |
| <translation id="1613327425322354195">รายงานสถานะความปลอดภัยของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1615221548356595305">อนุญาตการรวมการเชื่อมต่อ HTTP/2 สำหรับโฮสต์เหล่านี้แม้จะมีการใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="1616280227447957376">อนุญาตให้ดำเนินการจากหน้าคำเตือน SSL ในต้นทางเฉพาะบางแห่ง</translation> |
| <translation id="1617235075406854669">เปิดใช้งานการนำออกเบราว์เซอร์และประวัติการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="1620510694547887537">กล้อง</translation> |
| <translation id="1621245029534873770">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="AUTOPLAY_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="162162247775156979">ปิดใช้การรายงานสถานะพื้นที่เก็บข้อมูลของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1625700732886306811">อนุญาตให้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในที่อยู่ IP ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="1626379196197114720">อนุญาตให้ใช้แคชย้อนหลัง</translation> |
| <translation id="1628974048137236820">หน้าแท็บใหม่จะไม่แสดงการ์ด</translation> |
| <translation id="163200210584085447">รูปแบบในรายการนี้จะได้รับการจับคู่กับต้นทาง |
| การรักษาความปลอดภัยของ URL ที่ขอ หากพบว่าตรงกัน ระบบจะอนุญาตให้ |
| เข้าถึงอุปกรณ์จับภาพวิดีโอในหน้าการเข้าสู่ระบบ SAML หากไม่พบว่าตรงกัน |
| ระบบจะปฏิเสธการเข้าถึงโดยอัตโนมัติ และไม่อนุญาตให้ใช้รูปแบบสัญลักษณ์แทน</translation> |
| <translation id="1634770710106162474">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะระงับการแสดงคำเตือนที่ปรากฏขึ้นเมื่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> กำลังทำงานในคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการที่ไม่รองรับ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้คำเตือนปรากฏขึ้นในระบบที่ไม่รองรับ</translation> |
| <translation id="1634989431648355062">อนุญาตปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1635748761015837179">อนุญาตให้เขียนไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก</translation> |
| <translation id="1639468541408865385">เปิดใช้แคชการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ที่มีขอบเขตทั่วไป</translation> |
| <translation id="1639673466479276550">เปิดใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1640824698339859203">เปิดใช้ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์ และย้ายการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสของผู้ใช้ไปยังอุปกรณ์ใหม่</translation> |
| <translation id="1641117061932613266">เปิดใช้บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> V2</translation> |
| <translation id="1641394008743444477">อนุญาตให้คุณสร้างรายการฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่จะปิดใช้ |
| |
| การปิดใช้ฟีเจอร์ใดๆ ในรายการนี้หมายความว่าผู้ใช้จะเข้าถึงฟีเจอร์นั้นจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ไม่ได้และจะเห็นข้อความ "ปิดใช้โดยผู้ดูแลระบบ" ประสบการณ์ของผู้ใช้สำหรับฟีเจอร์ที่ปิดใช้จะกำหนดโดย <ph name="SYSTEM_FEATURES_DISABLE_MODE" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ทั้งหมดจะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นและผู้ใช้จะใช้ฟีเจอร์ใดก็ได้ |
| |
| หมายเหตุ: ขณะนี้ฟีเจอร์การสแกนปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้นผ่านแฟล็กฟีเจอร์ หากผู้ใช้เปิดใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวผ่านแฟล็กฟีเจอร์ ฟีเจอร์นี้จะยังคงปิดใช้ได้ด้วยนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="1643642938972654829">อนุญาตให้เข้าถึงหน้าทดสอบนโยบาย</translation> |
| <translation id="1644373745741524038">ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย API ของเว็บ <ph name="REQUEST_FULLSCREEN_API_NAME" /> จำเป็นต้องเรียกใช้ด้วยท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อน ("Transient Activation") มิเช่นนั้นจะดำเนินการไม่สำเร็จ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้อาจอนุญาตให้ต้นทางบางแห่งเรียกใช้ API นี้โดยไม่ต้องมีการกระทำของผู้ใช้ก่อนตามที่อธิบายไว้ใน <ph name="AUTOMATIC_FULLSCREEN_HELP_URL" /> |
| |
| นโยบายนี้มีผลแทนการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ และอนุญาตให้ต้นทางที่ตรงกันเรียกใช้ API ได้โดยไม่ต้องมีการกระทำของผู้ใช้ก่อน |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ |
| https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns |
| ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| ต้นทางที่ตรงกับทั้งรูปแบบนโยบายที่บล็อกและอนุญาตไว้จะถูกบล็อก |
| ต้นทางที่นโยบายหรือการตั้งค่าของผู้ใช้ไม่ได้ระบุไว้จะต้องมีการกระทำของผู้ใช้ก่อนเพื่อเรียกใช้ API นี้</translation> |
| <translation id="1645793986494086629">สคีมา</translation> |
| <translation id="1647558381546345298">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดค่าขนาดของแคชที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ในการจัดเก็บไฟล์สื่อที่แคชไว้ในดิสก์ ไม่ว่าผู้ใช้จะระบุการตั้งค่าสถานะ --media-cache-size หรือไม่ก็ตาม ค่าที่ระบุในนโยบายนี้ไม่ใช่ขอบเขตตายตัว แต่เป็นค่าที่แนะนำสำหรับระบบการแคช ระบบจะปัดเศษค่าที่ต่ำกว่า 2-3 เมกะไบต์ |
| |
| การตั้งค่าของนโยบายให้เป็น 0 จะทำให้ระบบใช้ขนาดแคชเริ่มต้นและผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงค่านี้ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ขนาดแคชเริ่มต้นและผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงค่านี้ได้ด้วยการตั้งค่าสถานะ --media-cache-size</translation> |
| <translation id="1648816843164517573">รายชื่อที่จะข้ามการตรวจสอบตามนโยบาย HSTS</translation> |
| <translation id="1651197070942919276">ไม่อนุญาตให้อุปกรณ์เรียกใช้เครื่องเสมือน</translation> |
| <translation id="1651810147727432656">บล็อกสิทธิ์การจัดการหน้าต่างในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1654087023995670109">บังคับใช้โหมดผู้เยี่ยมชมในเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="1655229863189977773">ตั้งค่าขนาดแคชของดิสก์เป็นไบต์</translation> |
| <translation id="1655518801232583832">เปิดใช้การแปลง DNS ของระบบนอกบริการเครือข่าย</translation> |
| <translation id="165769015320654523">ให้สิทธิ์เว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HID ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่กำหนด</translation> |
| <translation id="1659406551862245683">เปลี่ยนลักษณะการทำงานเริ่มต้นในการปรับขนาดของแป้นพิมพ์เสมือนให้ปรับขนาดวิวพอร์ตของเลย์เอาต์</translation> |
| <translation id="166427968280387991">พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="1670638264428789878">เปิดใช้ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="1673097259557436886">แจ้งเว็บไซต์เสมอหากไม่มีวิธีการชำระเงินที่บันทึกไว้</translation> |
| <translation id="1674287836076801014">SAML</translation> |
| <translation id="1675002386741412210">ได้รับการสนับสนุนบน:</translation> |
| <translation id="167514072300004091">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่อได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่อ |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="1675391557079742340">เปิดใช้การเข้ารหัสเนื้อหาด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /> สำหรับการโฆษณาในส่วนหัว "ยอมรับการเข้ารหัส"</translation> |
| <translation id="1678137412645922426">ควบคุมการใช้ <ph name="AES_KL_NAME" /> สำหรับการเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ (หากรองรับ)</translation> |
| <translation id="1682063842123336408">ต้องมีพื้นที่ว่างในดิสก์ (หน่วยเป็น GB) เพื่อติดตั้ง <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ การติดตั้ง <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> จะไม่สำเร็จหากอุปกรณ์มีพื้นที่ว่างในดิสก์น้อยกว่า 20 GB (ค่าเริ่มต้น) |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ การติดตั้ง <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> จะไม่สำเร็จหากอุปกรณ์มีพื้นที่ว่างในดิสก์น้อยกว่าที่นโยบายกำหนดไว้</translation> |
| <translation id="1686952487081322272">ปิดใช้คำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="1690383938831887552">ป้องกันไม่ให้โหลด Signed HTTP Exchange</translation> |
| <translation id="1692325295652827195">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะส่งรายงานเหตุการณ์การติดตั้งแอป Android สำคัญที่ทริกเกอร์โดยนโยบายไปยัง Google |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าระบบจะไม่บันทึกเหตุการณ์</translation> |
| <translation id="1692990221685273468">กําหนดว่าตัวตรวจสอบใบรับรองในตัวจะบังคับใช้ข้อจํากัดที่เข้ารหัสไว้ใน Trust Anchor ที่โหลดจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ของแพลตฟอร์มหรือไม่</translation> |
| <translation id="169467210981344373">ปิดใช้แคชการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ที่มีขอบเขตทั่วไป</translation> |
| <translation id="1696501581280568361">แนะนำการแยกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="1698810555265314018">ควบคุมความละเอียดของรูปภาพพิมพ์เมื่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> พิมพ์ PDF ที่มีการทำแรสเตอร์ |
| |
| การพิมพ์ PDF โดยใช้ตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพช่วยให้ระบุความละเอียดของการพิมพ์เป็นค่าอื่นนอกเหนือจากการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ของอุปกรณ์หรือค่าเริ่มต้นของ PDF ได้ ความละเอียดสูงจะทำให้เวลาในการประมวลผลและการพิมพ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ความละเอียดต่ำอาจทำให้รูปมีคุณภาพต่ำ |
| |
| นโยบายนี้อนุญาตให้ระบุความละเอียดสำหรับทำแรสเตอร์ PDF เพื่อการพิมพ์โดยเฉพาะ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 หรือไม่ได้ตั้งค่าเลย จะมีการใช้ความละเอียดเริ่มต้นของระบบในระหว่างการทำแรสเตอร์รูปภาพในหน้าเนื้อหา</translation> |
| <translation id="1700458869527146675">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดค่าพร็อกซีสำหรับ Chrome และแอป ARC โดยไม่พิจารณาตัวเลือกเกี่ยวกับพร็อกซีทั้งหมดที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ใช้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> จะยอมรับช่องต่อไปนี้ |
| * <ph name="PROXY_MODE_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> สำหรับให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ Chrome จะใช้ได้ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี |
| * <ph name="PROXY_PAC_URL_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> คือ URL ที่ชี้ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี |
| * <ph name="PROXY_PAC_MANDATORY_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> สำหรับป้องกันไม่ให้สแต็กเครือข่ายเปลี่ยนไปใช้วิธีสำรอง นั่นคือการเชื่อมต่อโดยตรงกับสคริปต์ PAC ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่พร้อมใช้งาน |
| * <ph name="PROXY_SERVER_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> คือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ |
| * <ph name="PROXY_BYPASS_LIST_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> คือรายการโฮสต์ที่จะข้ามพร็อกซี |
| |
| ช่อง <ph name="PROXY_SERVER_MODE_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> เลิกใช้งานแล้วเพื่อใช้ช่อง <ph name="PROXY_MODE_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> |
| |
| สำหรับ <ph name="PROXY_MODE_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> หากคุณเลือกค่าต่อไปนี้ |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_DIRECT" /> ระบบจะไม่ใช้พร็อกซีและจะไม่พิจารณาช่องอื่นๆ ทั้งหมด |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_SYSTEM" /> ระบบจะใช้พร็อกซีของระบบและจะไม่พิจารณาช่องอื่นๆ ทั้งหมด |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_AUTO_DETECT" /> ระบบจะไม่พิจารณาช่องอื่นๆ ทั้งหมด |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_FIXED_SERVERS" /> ระบบจะใช้ช่อง <ph name="PROXY_SERVER_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> และ <ph name="PROXY_BYPASS_LIST_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_PAC_SCRIPT" /> ระบบจะใช้ช่อง <ph name="PROXY_BYPASS_LIST_PROXY_PAC_URL" />, <ph name="PROXY_PAC_MANDATORY_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> และ <ph name="PROXY_BYPASS_LIST_PROXY_SETTINGS_FIELD" /> |
| |
| หมายเหตุ: ดูตัวอย่างโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Chromium Projects ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett )</translation> |
| <translation id="1700811900332333712">อนุญาตให้อุปกรณ์ขอทำ Powerwash</translation> |
| <translation id="1705215165572785706">ใช้ปุ่มแถวบนสุดเป็นปุ่มสำหรับสื่อ แต่ผู้ใช้จะแก้ไขได้</translation> |
| <translation id="1708496595873025510">ตั้งค่าข้อจำกัดการเรียกเมล็ดรูปแบบ</translation> |
| <translation id="1709154322133526432">เปิดใช้การตรวจสอบเบราว์เซอร์เริ่มต้นเมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="1713829924716792485">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลเพื่อโอนไฟล์ระหว่างไคลเอ็นต์และโฮสต์ได้ นโยบายนี้ไม่มีผลกับการเชื่อมต่อความช่วยเหลือระยะไกล ซึ่งไม่รองรับการโอนไฟล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้โอนไฟล์ไม่ได้</translation> |
| <translation id="1714498967590789694"><ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> ในแอป Chrome ทำให้มีลักษณะการทำงานที่อยู่ระหว่างการนำออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ลักษณะการทำงานก่อนหน้าทำให้เกิดกิจกรรม <ph name="NEWWINDOW_EVENT_NAME" /> ของ <ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> (https://developer.chrome.com/docs/extensions/reference/webviewTag/#event-newwindow) เพื่อแนบหน้าต่างใหม่ไปยังองค์ประกอบ <ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> ในหน้าต่างแยกต่างหากของแอปจาก <ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> ที่เริ่มต้นนี้ ลักษณะการทำงานใหม่นี้จะยังคงอนุญาตให้มีการแนบนี้ได้ แต่การอ้างอิงหน้าต่างที่ส่งคืนจากการเรียกไปยัง <ph name="WINDOW_OPEN_NAME" /> ใน <ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> ที่เริ่มต้นนั้นจะใช้ไม่ได้แล้ว |
| |
| หากเปิดใช้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานก่อนหน้า |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่า การเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานจะมีผลเมื่อเปิดตัวผ่านขั้นตอนการเผยแพร่ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวในกรณีที่องค์กรต่างๆ ได้รับความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เวอร์ชันที่รองรับล่าสุดของนโยบายนี้คือเวอร์ชัน 121 เราได้นำฟีเจอร์นี้ออกในเวอร์ชัน 122</translation> |
| <translation id="1714790754501130659">ชื่อผู้ใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์บริการระบบสำหรับเข้าถึงพร็อกซีเว็บทางไกล</translation> |
| <translation id="171511968762040550">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะให้ผู้ใช้เพิ่ม แก้ไข หรือนำบุ๊กมาร์กออกได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้จะเพิ่ม แก้ไข หรือนำบุ๊กมาร์กออกไม่ได้ แต่ยังใช้บุ๊กมาร์กที่มีได้</translation> |
| <translation id="1715151459541210849">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการเขียนตามคำบอก</translation> |
| <translation id="1716468109214130396">ป้องกันไม่ให้ Chrome เปิดขึ้นหากไม่ลงทะเบียนในการจัดการระบบคลาวด์ของเบราว์เซอร์ Chrome</translation> |
| <translation id="1719033799014769396">ปิดใช้การรายงานโหมดเปิดเครื่องของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1721158690981421598">การตั้งค่านโยบายจะระบุชื่อโดเมนของโฮสต์ซึ่งจะกำหนดให้กับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงชื่อไม่ได้ ระบบจะแชร์โฮสต์ได้ต่อเมื่อใช้บัญชีที่ลงทะเบียนในชื่อโดเมนที่ระบุไว้เท่านั้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็นรายการที่ว่างเปล่าหรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ระบบแชร์โฮสต์โดยใช้บัญชีใดก็ได้ |
| |
| ดู <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_CLIENT_DOMAIN_LIST_POLICY_NAME" /> เพิ่มเติม |
| |
| หมายเหตุ: การตั้งค่านี้จะลบล้าง <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_DOMAIN_POLICY_NAME" /> หากมี</translation> |
| <translation id="1721304336924950970">โหลด Login WebUI เมื่อจำเป็นเท่านั้น</translation> |
| <translation id="172374442286684480">อนุญาตให้ทุกไซต์ตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่อง</translation> |
| <translation id="1729169799290004131">การตั้งค่านโยบายจะระบุเปอร์เซ็นต์ความสว่างหน้าจอ โดยระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ความสว่างอัตโนมัติ ความสว่างหน้าจอเริ่มต้นจะปรับไปตามค่าของนโยบาย แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนค่านี้ได้ในภายหลัง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะไม่ส่งผลต่อการควบคุมหน้าจอของผู้ใช้หรือฟีเจอร์ความสว่างอัตโนมัติ |
| |
| หมายเหตุ: ระบุค่านโยบายเป็นเปอร์เซ็นต์จาก 0 ถึง 100</translation> |
| <translation id="1733092875104864334">ไม่อนุญาตให้รวบรวมบันทึกข้อความ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="1733768596873041559">เปลี่ยนเส้นทางไปยัง SAML IdP โดยค่าเริ่มต้น (ต้องยืนยันผู้ใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 99 ก่อน)</translation> |
| <translation id="173503685261877709">นโยบายนี้ระบุวิธีลบล้างลิสต์ของชุดที่เบราว์เซอร์ใช้สำหรับฟีเจอร์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้างนโยบาย <ph name="FIRST_PARTY_SETS_OVERRIDES_POLICY_NAME" /> |
| |
| แต่ละชุดในลิสต์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราว์เซอร์ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
| ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องต้องมีเว็บไซต์หลัก 1 แห่งและเว็บไซต์สมาชิกอย่างน้อย 1 แห่ง |
| ชุดโดเมนยังอาจมีลิสต์เว็บไซต์บริการซึ่งเป็นเจ้าของเอง รวมถึงการแมปจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังตัวแปร ccTLD ทั้งหมด |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ที่ https://github.com/WICG/first-party-sets |
| |
| |
| เว็บไซต์ทั้งหมดในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องต้องเป็นโดเมนที่จดทะเบียนได้และให้บริการผ่าน HTTPS แต่ละเว็บไซต์ในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่ซ้ำกัน ซึ่งหมายความว่าจะลงลิสต์เว็บไซต์หนึ่งในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ไม่เกิน 1 ครั้ง |
| |
| เมื่อนโยบายนี้ได้รับพจนานุกรมเปล่า เบราว์เซอร์จะใช้ลิสต์แบบสาธารณะของชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจากลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> หากมีเว็บไซต์ใดอยู่ในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องในลิสต์ของเบราว์เซอร์ด้วย ระบบจะนำเว็บไซต์นั้นออกจากชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราว์เซอร์ |
| หลังจากนั้นจะเพิ่มชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของนโยบายลงในลิสต์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราว์เซอร์ |
| |
| สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจากลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> หากมีเว็บไซต์ใดอยู่ในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องในลิสต์ของเบราว์เซอร์ด้วย ระบบจะอัปเดตชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราว์เซอร์เพื่อให้สามารถเพิ่มชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องชุดใหม่ลงในลิสต์ของเบราว์เซอร์ได้ หลังจากอัปเดตลิสต์ของเบราว์เซอร์แล้ว ระบบจะเพิ่มชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของนโยบายลงในลิสต์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราว์เซอร์ |
| |
| ลิสต์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของเบราเซอร์กำหนดให้เว็บไซต์ทั้งหมดในลิสต์ต้องไม่มีเว็บไซต์ใดอยู่ในชุดมากกว่าหนึ่งชุด ข้อกำหนดนี้ใช้กับทั้งลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> และลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> ด้วย ในทำนองเดียวกัน เว็บไซต์หนึ่งๆ จะอยู่ทั้งในลิสต์ <ph name="REPLACEMENTS" /> และลิสต์ <ph name="ADDITIONS" /> ไม่ได้ |
| |
| ไม่สามารถใช้ไวลด์การ์ด (*) เป็นค่าในนโยบาย และภายในชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องในลิสต์เหล่านี้ |
| |
| ชุดทั้งหมดที่ระบุในนโยบายจะต้องเป็นชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องที่ถูกต้อง หากไม่เป็นเช่นนั้นระบบจะส่งออกข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้อง |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1736269219679256369">อนุญาตให้ดำเนินการจากหน้าคำเตือน SSL</translation> |
| <translation id="1736319469723030923">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome จะสแกนหาซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ในระบบอยู่เป็นระยะ และหากพบ ก็จะถามผู้ใช้ว่าต้องการนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวออกไหม ระบบจะอนุญาตให้เรียกใช้การทำความสะอาด Chrome ด้วยตนเองจาก chrome://settings |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome จะไม่มีการสแกนเป็นระยะ และจะเรียกใช้ด้วยตนเองไม่ได้ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1736990730683753958">หน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จะไม่ปรากฏที่ chrome://history/grouped</translation> |
| <translation id="1740724790865999129">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการประเภทอุปกรณ์จะอนุญาตให้รวมข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องระดับต่ำจากประเภทอุปกรณ์ที่กล่าวถึงไว้ในความคิดเห็นของผู้ใช้ |
| |
| รายการพิเศษ "ทั้งหมด" จะรวมอุปกรณ์ทุกประเภท รวมถึงประเภทอุปกรณ์ที่จะเพิ่มในอนาคต |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า จะไม่มีการแนบข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องระดับต่ำไปกับความคิดเห็นของผู้ใช้ |
| โปรดดูประเภทข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องระดับต่ำแต่ละประเภทที่คำอธิบายของอุปกรณ์แต่ละประเภท</translation> |
| <translation id="1744340218280697033">ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเพิ่มบัญชีที่มีการควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="1751429117283165017">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์หรือไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ผ่าน File System API ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_SYSTEM_WRITE_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_SYSTEM_WRITE_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="1755310913456007816">ใช้การตั้งค่าการตรวจสอบการเพิกถอนแบบออนไลน์ที่มีอยู่</translation> |
| <translation id="1760951637494635692">อนุญาต Serial API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1765503534110351026">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะข้ามพร็อกซีสำหรับรายชื่อโฮสต์ที่ระบุไว้ที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อไม่ได้ระบุนโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> และคุณระบุ <ph name="PROXY_MODE_ENUM_FIXED_SERVERS" /> หรือ <ph name="PROXY_MODE_ENUM_PAC_SCRIPT" /> สำหรับ <ph name="PROXY_MODE_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| ไม่ต้องตั้งค่านโยบายนี้หากเลือกโหมดอื่นๆ สำหรับการตั้งค่านโยบายพร็อกซีแล้ว |
| |
| หมายเหตุ: ดูตัวอย่างโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Chromium Projects ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett )</translation> |
| <translation id="1767673020408652620">เปิดใช้แอปแนะนำในสถานะค่าเป็นศูนย์ของช่องค้นหา</translation> |
| <translation id="1768225118528727376">อนุญาตสิทธิ์การจัดการหน้าต่างในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1770071413238151235">รูปแบบนาฬิการะบบ 12 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="1771024053220392089">ปิดการรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า</translation> |
| <translation id="1781356041596378058">นโยบายนี้ยังควบคุมการเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปของ Android เช่นกัน หากคุณตั้งค่านโยบายนี้เป็น True ผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปได้ หากตั้งเป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปด้วยการแตะหมายเลขบิลด์ 7 ครั้งในแอปการตั้งค่าของ Android</translation> |
| <translation id="1781720543185538098">ระบุว่าจะแสดงแบบสำรวจในผลิตภัณฑ์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้ผู้ใช้เห็นหรือไม่</translation> |
| <translation id="1787790976045065845">นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อตั้งค่านโยบาย <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_LOCK" /> หรือ <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_LOGOUT" /> และผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านสมาร์ทการ์ดนำสมาร์ทการ์ดดังกล่าวออก จากนั้นนโยบายนี้จะระบุระยะเวลาเป็นวินาทีที่ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนซึ่งแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงการดำเนินการที่กำลังจะเกิดขึ้น การแจ้งเตือนนี้จะบล็อกหน้าจอ การดำเนินการจะเกิดขึ้นหลังจากที่การแจ้งเตือนนี้หมดอายุเท่านั้น ผู้ใช้ป้องกันไม่ให้เกิดการดำเนินการได้ด้วยการเสียบสมาร์ทการ์ดกลับเข้าไปก่อนที่การแจ้งเตือนจะหมดอายุ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 จะไม่มีการแสดงการแจ้งเตือนและการดำเนินการจะเกิดขึ้นทันที</translation> |
| <translation id="1793346220873697538">ปิดใช้การพิมพ์ด้วย PIN โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1794457906032475749">หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะเลือกตัวเลือกให้เก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้เมื่อสร้างโปรไฟล์องค์กรโดยค่าเริ่มต้น |
| |
| แต่หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือปิดใช้ ตัวเลือกให้เก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้เมื่อสร้างโปรไฟล์องค์กรจะไม่มีการเลือกไว้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| ไม่ว่าจะกำหนดค่าแบบใด ผู้ใช้จะสามารถเลือกได้ว่าจะเก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้หรือไม่เมื่อสร้างโปรไฟล์องค์กร |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตัวเลือกให้เก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้ไม่พร้อมใช้งาน ซึ่งจะเกิดขึ้นหากบังคับใช้การแยกโปรไฟล์องค์กรอย่างเข้มงวด หรือหากข้อมูลมาจากโปรไฟล์ที่มีการจัดการอยู่แล้ว |
| </translation> |
| <translation id="1795105105645381965"> |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" (จริง) จะทำให้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ขอความยินยอมจากผู้ใช้ที่มีการจัดการก่อนที่จะแชร์สัญญาณของอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการเพื่อรับสิทธิ์เข้าถึง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" (เท็จ) หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" รวบรวมสัญญาณของอุปกรณ์ไม่ได้ |
| |
| ตัวอย่างสัญญาณของอุปกรณ์รวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) ข้อมูลระบบปฏิบัติการ รีจิสทรี และการแสดงข้อมูลไฟล์</translation> |
| <translation id="1797233582739332495">แสดงข้อความแจ้งที่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ แก่ผู้ใช้เพื่อแจ้งว่าต้องเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่</translation> |
| <translation id="1798559516913615713">อายุการใช้งานแคช GPO</translation> |
| <translation id="180130467244315277">นโยบายนี้ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดค่าลำดับของภาษาที่ต้องการในการตั้งค่าของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ลำดับของรายการจะปรากฏในลำดับเดียวกันในส่วน "เรียงลำดับภาษาตามความต้องการของคุณ" ที่ chrome://settings/languages ผู้ใช้จะนำภาษาออกหรือเปลี่ยนลำดับภาษาที่นโยบายกำหนดไว้ไม่ได้ แต่จะเพิ่มภาษาใต้รายการที่นโยบายกำหนดไว้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมภาษาสำหรับ UI และการตั้งค่าการแปล/การตรวจตัวสะกดของเบราว์เซอร์ได้เต็มที่ เว้นแต่จะมีการบังคับใช้โดยนโยบายอื่น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้ดัดแปลงรายการภาษาที่ต้องการทั้งหมดได้</translation> |
| <translation id="1803646570632580723">รายชื่อของแอปพลิเคชันที่ปักหมุดจะแสดงในตัวเรียกใช้งาน</translation> |
| <translation id="1808715480127969042">ปิดกั้นคุกกี้บนไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="1810261428246410396">อนุญาตให้ใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือแบบด่วน</translation> |
| <translation id="1813638828646876133">เปิดใช้การส่ง PIN อัตโนมัติในหน้าจอล็อกและหน้าจอเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1813672770917912317">ให้คุณกำหนดว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเรียกใช้เครื่องมือ V8 JavaScript ที่เปิดใช้คอมไพเลอร์ JIT (Just In Time) หรือไม่ |
| |
| การปิดใช้ JIT ใน JavaScript อาจทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงเนื้อหาเว็บช้าลงและปิดใช้ส่วนต่างๆ ของ JavaScript รวมถึง WebAssembly การปิดใช้ JIT ใน JavaScript อาจช่วยให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงเนื้อหาเว็บในการกำหนดค่าที่ปลอดภัยขึ้น |
| |
| นโยบายนี้จะถูกลบล้างสำหรับรูปแบบ URL ที่เจาะจงได้โดยใช้นโยบาย <ph name="JAVA_SCRIPT_JIT_ALLOWED_FOR_SITES_POLICY_NAME" /> และ <ph name="JAVA_SCRIPT_JIT_BLOCKED_FOR_SITES_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ จะมีการเปิดใช้ JIT ใน JavaScript</translation> |
| <translation id="1815386977045680976">กำหนดรายชื่อผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ระบบอุปกรณ์ โดยใช้รูปแบบ <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_FORMAT" /> เช่น <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_EXAMPLE" /> หากต้องการอนุญาตผู้ใช้ใดก็ได้ในโดเมน ให้ใช้รูปแบบ <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_WILDCARD" /> |
| |
| หากไม่กำหนดค่านโยบายนี้ ก็จะไม่มีการจำกัดผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ โปรดทราบว่าการสร้างผู้ใช้ใหม่ยังคงต้องมีการกำหนดค่าของนโยบาย <ph name="DEVICE_ALLOW_NEW_USERS_POLICY_NAME" /> อย่างเหมาะสม |
| หากมีการเปิดใช้ <ph name="DEVICE_FAMILY_LINK_ACCOUNTS_ALLOWED_POLICY_NAME" /> ระบบจะอนุญาตให้เพิ่มผู้ใช้ Family Link นอกเหนือจากบัญชีที่ระบุไว้ในนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="18186215616223740">เมื่อไปยังเอกสาร Office ที่จัดการโดย <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /> ให้บังคับดาวน์โหลดเอกสารเหล่านั้น</translation> |
| <translation id="1819272352048746487">เปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในแป้นพิมพ์บนหน้าจอ</translation> |
| <translation id="1822163547472114648">การตั้งค่าสำหรับการสร้างธีมด้วย AI</translation> |
| <translation id="1823974945066396306">กำหนดรายชื่อผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ระบบอุปกรณ์ โดยใช้รูปแบบ <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_FORMAT" /> เช่น <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_EXAMPLE" /> หากต้องการอนุญาตผู้ใช้ใดก็ได้ในโดเมน ให้ใช้รูปแบบ <ph name="USER_ALLOWLIST_ENTRY_WILDCARD" /> |
| |
| หากไม่กำหนดค่านโยบายนี้ ก็จะไม่มีการจำกัดผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ โปรดทราบว่าการสร้างผู้ใช้ใหม่ยังคงต้องมีการกำหนดค่าของนโยบาย <ph name="DEVICE_ALLOW_NEW_USERS_POLICY_NAME" /> อย่างเหมาะสม |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEVICE_USER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน |
| </translation> |
| <translation id="1825583118566970564">ควบคุมการติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" จะบล็อกการติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้ติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก |
| |
| ดูเอกสารประกอบเกี่ยวกับส่วนขยายจากภายนอกและการติดตั้งได้ที่ https://developer.chrome.com/apps/external_extensions</translation> |
| <translation id="1827523283178827583">ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่</translation> |
| <translation id="1829117241432374848">บัญชีที่จัดการต้องเป็นบัญชีหลักและไม่มีบัญชีรอง และผู้ใช้สามารถนำเข้าข้อมูลที่มีอยู่ในขณะที่สร้างบัญชี</translation> |
| <translation id="1829839214911753838">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้โฮสต์ความช่วยเหลือระยะไกลทำงานในกระบวนการที่มีสิทธิ์ <ph name="UIACCESS_PERMISSION_NAME" /> ซึ่งทำให้ผู้ใช้ระยะไกลโต้ตอบกับหน้าต่างที่ลอยอยู่ในเดสก์ท็อปของผู้ใช้เครือข่ายภายในได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้โฮสต์ความช่วยเหลือระยะไกลทำงานในบริบทของผู้ใช้ และผู้ใช้ระยะไกลจะโต้ตอบกับหน้าต่างที่ลอยอยู่ในเดสก์ท็อปไม่ได้</translation> |
| <translation id="183438382744421768">นโยบายนี้ควบคุมลักษณะการทำงานของเบราว์เซอร์หลังจากลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีการจัดการในพื้นที่สำหรับเนื้อหา |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้าง <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "แนะนำ" หลังจากลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีการจัดการ ระบบจะขอให้ผู้ใช้ใช้โปรไฟล์ที่มีการจัดการต่อไปราวกับว่ามีการบังคับใช้ หากผู้ใช้ปฏิเสธก็อาจท่องเว็บต่อไปได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการจัดการ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "บังคับใช้" ผู้ใช้จะต้องใช้งานโปรไฟล์ที่มีการจัดการต่อไปหลังจากลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีการจัดการ หากปฏิเสธก็จะมีการนำผู้ใช้ออกจากระบบบัญชี การบังคับใช้นี้ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย <ph name="SIGNIN_INTERCEPTION_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้อาจเห็นลูกโป่งที่ขอให้สร้างโปรไฟล์ใหม่หลังจากลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีการจัดการ โดยผู้ใช้สามารถปิดลูกโป่งดังกล่าวและอาจท่องเว็บต่อได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการจัดการ ทั้งนี้ลูกโป่งดังกล่าวควบคุมโดยนโยบาย <ph name="SIGNIN_INTERCEPTION_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลเมื่อตั้งค่าที่ระดับแมชชีน</translation> |
| <translation id="1837165432382702436">ความสูงของหน้าโดยหน่วยเป็นไมโครเมตร</translation> |
| <translation id="1838910874018595451">การกำหนดค่าที่กรอกไว้ล่วงหน้าสำหรับตั๋ว Kerberos</translation> |
| <translation id="1843102210803941014">เปิดใช้เฉพาะคุกกี้และข้อมูลที่จำเป็นในการค้นหา</translation> |
| <translation id="1843117931376765605">อัตราการรีเฟรชสำหรับนโยบายผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1844620919405873871">กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปลดล็อกด่วน</translation> |
| <translation id="1844833120200057817">เปิดใช้การบันทึกระบบของส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="1844972978764975668">อนุญาตการค้นหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อเรียกการประทับเวลาที่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="1845405905602899692">การตั้งค่าคีออสก์</translation> |
| <translation id="1845429996559814839">จำกัดโหมดการพิมพ์ด้วย PIN</translation> |
| <translation id="184551219281109080">ไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การเข้ารหัสเนื้อหาด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /></translation> |
| <translation id="1845567452014584154">ควบคุมว่าจะให้เบราว์เซอร์ใช้ส่วนขยายซึ่งใช้ไฟล์ Manifest V2 หรือไม่ |
| |
| เราจะเลิกรองรับส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 และจะย้ายข้อมูลส่วนขยายทั้งหมดไปยัง V3 ในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมและลำดับเวลาการย้ายข้อมูลได้ที่ https://developer.chrome.com/docs/extensions/mv3/mv2-sunset/ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DEFAULT" /> (0) หรือไม่ได้ตั้งค่า เบราว์เซอร์จะโหลดส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ตามลำดับเวลาด้านบน |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DISABLE" /> (1) ระบบจะบล็อกการติดตั้งส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 และปิดใช้ส่วนขยายที่มีอยู่ หลังจากเลิกรองรับไฟล์ Manifest V2 โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะดำเนินการกับตัวเลือกในแนวทางเดียวกันราวกับว่าไม่ได้ตั้งค่านโยบาย |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ENABLE" /> (2) ระบบจะอนุญาตส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ก่อนที่จะเลิกรองรับไฟล์ Manifest V2 โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะดำเนินการกับตัวเลือกในแนวทางเดียวกันราวกับว่าไม่ได้ตั้งค่านโยบาย |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ENABLE_FOR_FORCED_EXTENSIONS" /> (3) ระบบจะอนุญาตส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ซึ่งบังคับติดตั้งแล้ว ซึ่งรวมถึงส่วนขยายที่ <ph name="EXTENSION_INSTALL_FORCELIST_POLICY_NAME" /> แสดงหรือ <ph name="EXTENSION_SETTINGS_POLICY_NAME" /> ที่มี <ph name="INSTALLATION_MODE" /> "force_installed" หรือ "normal_installed" ปิดใช้ส่วนขยายอื่นๆ ทั้งหมดที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 แล้ว ตัวเลือกนี้ใช้ได้เสมอไม่ว่าสถานะการย้ายข้อมูลจะเป็นอย่างไรก็ตาม |
| |
| |
| ทั้งนี้นโยบายอื่นๆ จะยังคงเป็นตัวกำหนดความพร้อมใช้งานของส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="1846545322805269573">ผู้ใช้จะปรับแต่งพื้นหลังของหน้าแท็บใหม่ไม่ได้</translation> |
| <translation id="1847960418907100918">ระบุพารามิเตอร์ที่ใช้เมื่อทำการค้นหาทันใจด้วย POST. ซึ่งประกอบด้วยคู่ชื่อ/ค่าที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค หากค่าเป็นพารามิเตอร์เทมเพลต เช่น {searchTerms} ในตัวอย่างข้างต้น ค่าก็จะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลข้อความค้นหาที่แท้จริง |
| |
| นโยบายนี้สามารถเลือกได้ หากไม่ได้ถูกกำหนด คำขอค้นหาทันใจจะถูกส่งโดยใช้วิธีการ GET |
| |
| นโยบายนี้เป็นที่ยอมรับเฉพาะในกรณีที่นโยบาย 'DefaultSearchProviderEnabled' ถูกเปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="1850439894606905202">เอกสารอาจอยู่ในคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้น และยังคงตั้งค่า document.domain ได้อยู่</translation> |
| <translation id="1851034156561932736">เปิดเสียงการชาร์จ</translation> |
| <translation id="1851282952069386119">ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะแชร์ผลลัพธ์จากการล้างข้อมูลด้วยฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome กับ Google</translation> |
| <translation id="1852294065645015766">อนุญาตการเล่นสื่ออัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="1855963029978337744">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงอุปกรณ์ HID ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่กำหนด แต่ละรายการในลิสต์ต้องระบุทั้งช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> และ <ph name="URLS_FIELD_NAME" /> จึงจะมีผล มิเช่นนั้น ระบบจะไม่สนใจรายการดังกล่าว แต่ละรายการในช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> ต้องมี <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> และอาจมีช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่มีรหัสผู้ให้บริการที่ระบุ รายการที่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> แต่ไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลหากตั้งค่าไว้ แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| URL ในนโยบายนี้ไม่ควรขัดแย้งกับ URL ที่กำหนดค่าผ่าน <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> หากขัดแย้งกัน นโยบายนี้จะมีความสำคัญสูงกว่า <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="1858775210076906272">การกำหนดค่าที่กรอกไว้ล่วงหน้าของ Kerberos</translation> |
| <translation id="1861206724856734193">ตั้งค่ารายการกฎการป้องกันข้อมูลรั่วไหล</translation> |
| <translation id="1862267110714201519">ปิดใช้ฟีเจอร์หน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัว</translation> |
| <translation id="1865129144973895592">นโยบายนี้ช่วยให้สามารถเลือกใช้ชุดเหตุการณ์แพลตฟอร์มที่เลิกใช้งานและนำออกไปแล้วซึ่งเรียกว่า Mutation Event อีกครั้งได้ชั่วคราว |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ Mutation Event จะยังคงเริ่มทำงานต่อไป แม้ว่าระบบจะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้เว็บทั่วไปก็ตาม เมื่อปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เหตุการณ์เหล่านี้อาจไม่เริ่มทำงาน |
| นโยบายนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวและจะถูกนำออกใน M135</translation> |
| <translation id="1865417998205858223">สิทธิ์ของคีย์</translation> |
| <translation id="1865867000796030567">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าค่าของคีย์ไฟล์ Manifest <ph name="REQUIRED_PLATFORM_VERSION" /> ของแอปคีออสก์ที่เปิดใช้งานอัตโนมัติด้วยความล่าช้าเป็น 0 จะใช้เป็นคำนำหน้าเวอร์ชันเป้าหมายการอัปเดตอัตโนมัติ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าระบบจะไม่สนใจคีย์ไฟล์ Manifest <ph name="REQUIRED_PLATFORM_VERSION" /> และการอัปเดตอัตโนมัติจะดำเนินการไปตามปกติ |
| |
| คำเตือน: อย่ามอบสิทธิ์ควบคุมเวอร์ชันของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> กับแอปคีออสก์ เพราะอาจขัดขวางไม่ให้อุปกรณ์ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์และการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญ การมอบสิทธิ์ควบคุมเวอร์ชันของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> อาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยง</translation> |
| <translation id="186719019195685253">การกระทำที่จะดำเนินการเมื่อไม่มีการใช้งานจนถึงการหน่วงเวลาที่กำหนด ขณะที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า AC</translation> |
| <translation id="1869688072690234823">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมปัจจัยของ WebAuthn ที่สามารถใช้ได้ |
| |
| หากต้องการอนุญาต |
| |
| * ทุกปัจจัยของ WebAuthn ให้ใช้ ["all"] (รวมถึงปัจจัยที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคตด้วย) |
| |
| * สำหรับ PIN เท่านั้น ให้ใช้ ["PIN"] |
| |
| * สำหรับ PIN และลายนิ้วมือ ให้ใช้ ["PIN", "FINGERPRINT"] |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า อุปกรณ์ที่มีการจัดการจะใช้ปัจจัยของ WebAuthn ใดๆ ไม่ได้เลย</translation> |
| <translation id="1870669000882901616">นโยบายนี้ให้ผู้ดูแลระบบสามารถระบุการตั้งค่าของเว็บแอปที่ติดตั้ง นโยบายนี้แมปรหัสเว็บแอปกับการตั้งค่าที่เฉพาะเจาะจง การกำหนดค่าเริ่มต้นทำได้โดยใช้รหัสพิเศษ <ph name="DEFAULT_SCOPE" /> ซึ่งจะมีผลกับเว็บแอปทั้งหมดที่ไม่มีการกำหนดค่าเองในนโยบายนี้ |
| |
| ช่อง <ph name="MANIFEST_ID_FIELD" /> คือรหัสไฟล์ Manifest ของเว็บแอป ดูวิธีการระบุรหัสไฟล์ Manifest ของเว็บแอปที่ติดตั้งได้ใน <ph name="WEB_APP_ID_REFERENCE_URL" /> |
| ช่อง <ph name="RUN_ON_OS_LOGIN_FIELD" /> ระบุว่าเว็บแอปจะทำงานระหว่างการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้หรือไม่ หากตั้งค่าช่องนี้เป็น <ph name="BLOCKED" /> เว็บแอปจะไม่ทำงานระหว่างการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการและผู้ใช้จะเปิดใช้ภายหลังไม่ได้ หากตั้งค่าช่องนี้เป็น <ph name="RUN_WINDOWED" /> เว็บแอปจะทำงานระหว่างการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการและผู้ใช้จะปิดใช้ภายหลังไม่ได้ หากตั้งค่าช่องนี้เป็น <ph name="ALLOWED" /> ผู้ใช้จะกำหนดค่าเว็บแอปให้ทำงานเมื่อเข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้ การกำหนดค่าเริ่มต้นอนุญาตให้มีค่า <ph name="ALLOWED" /> และ <ph name="BLOCKED" /> เท่านั้น |
| (ตั้งแต่เวอร์ชัน 117) ช่อง <ph name="PREVENT_CLOSE_FIELD" /> จะระบุว่าควรป้องกันไม่ให้มีการปิดเว็บแอปไม่ว่าในกรณีใดก็ตามหรือไม่ (เช่น โดยผู้ใช้ ตัวจัดการงาน หรือ API ของเว็บ) คุณจะเปิดใช้ลักษณะการทำงานนี้ได้ก็ต่อเมื่อตั้งค่า <ph name="RUN_ON_OS_LOGIN_FIELD" /> เป็น <ph name="RUN_WINDOWED" /> เท่านั้น หากแอปทำงานอยู่แล้ว พร็อพเพอร์ตี้นี้จะมีผลหลังจากรีสตาร์ทแอป หากไม่ได้กำหนดช่องนี้ ผู้ใช้จะปิดแอปได้ |
| (ตั้งแต่เวอร์ชัน 118) ช่อง <ph name="FORCE_UNREGISTER_OS_INTEGRATION" /> จะระบุว่าการผสานรวมระบบปฏิบัติการทั้งหมดสำหรับเว็บแอป เช่น ทางลัด ตัวแฮนเดิลไฟล์ ตัวแฮนเดิลโปรโตคอล จะถูกนำออกหรือไม่ หากแอปกำลังทำงานอยู่ก่อนแล้ว พร็อพเพอร์ตี้นี้จะมีผลหลังจากรีสตาร์ทแอป คุณควรดำเนินการดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจลบล้างการผสานรวมระบบปฏิบัติการใดก็ตามที่ตั้งค่าไว้โดยอัตโนมัติในช่วงเริ่มต้นระบบเว็บแอปพลิเคชัน ปัจจุบันใช้งานได้เฉพาะในแพลตฟอร์ม Windows, Mac และ Linux เท่านั้น</translation> |
| <translation id="1874719875297132073">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูลที่สามารถใช้ระบุผู้ใช้หรือไม่ เช่น ชื่อที่ใช้สำหรับเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ ชื่อที่ใช้สำหรับเข้าสู่ระบบโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ชื่อโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เส้นทางโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และเส้นทางที่เรียกใช้ได้ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูลที่ใช้ระบุผู้ใช้ได้ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูลที่ใช้ระบุผู้ใช้ได้ |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="1883274744253492031">เปิดใช้การอัปเกรดเนื้อหาผสมอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="1885782360784839335">เปิดใช้การแสดงเนื้อหาโปรโมตแบบเต็มแท็บ</translation> |
| <translation id="1888871729456797026">โทเค็นการลงทะเบียนของนโยบายระบบคลาวด์ในเดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="1889913120568244368">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หมายความว่าหาก <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> ตรวจพบซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ ก็จะรายงานเกี่ยวกับการสแกนดังกล่าวให้ Google ทราบ โดยเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้โดย <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> จะถามผู้ใช้ว่าต้องการทำความสะอาดไหม แล้วส่งผลลัพธ์ไปยัง Google |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หมายความว่าหาก <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> ตรวจพบซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ ก็จะไม่รายงานเกี่ยวกับการสแกนดังกล่าวให้ Google ทราบ ไม่ว่าค่าของ <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะเป็นอะไรก็ตาม <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> จะถามผู้ใช้ว่าต้องการทำความสะอาดไหม แต่ไม่รายงานผลลัพธ์ให้ Google ทราบ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> รายงานเกี่ยวกับการสแกนเพื่อตรวจหาซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ให้ Google ทราบ โดยเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้โดย <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> <ph name="CHROME_CLEANUP_NAME" /> จะถามผู้ใช้ว่าต้องการทำความสะอาดไหม และต้องการแชร์ผลลัพธ์กับ Google เพื่อช่วยในการตรวจหาซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ในอนาคตไหม ผลลัพธ์จะมีข้อมูลเมตาของไฟล์ ส่วนขยายที่ติดตั้งอัตโนมัติ และคีย์รีจิสทรีตามที่อธิบายไว้ในสมุดปกขาวเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Chrome |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1890850749633603276">คืนค่าลักษณะการทำงานที่อนุญาตของ <ph name="WEBVIEW_TAG_NAME" /> ในแอป Chrome</translation> |
| <translation id="1893271062894546361">เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ UI ตัวควบคุมการเล่นสื่อจะพร้อมใช้งานสำหรับเซสชัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่เริ่มต้นโดยอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายภายใน |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรหรือปิดใช้ไว้ UI ตัวควบคุมการเล่นสื่อจะไม่พร้อมใช้งานสำหรับเซสชัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่เริ่มต้นโดยอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายภายใน |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย <ph name="ENABLE_MEDIA_ROUTER_POLICY_NAME" /> ค่าของนโยบายนี้จะไม่มีผลเนื่องจากฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="1894790493260633497">เปิดใช้โหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลังโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1894798677636924604">หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่กำหนดให้มีการเข้าสู่ระบบบัญชีเพื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่แยกต่างหาก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่กำหนดให้มีการเข้าสู่ระบบบัญชีจากโดเมนที่ระบุไว้เพื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่แยกต่างหาก |
| |
| คุณสามารถตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงว่างเปล่า เพื่อกำหนดให้มีการเข้าสู่ระบบบัญชีทั้งหมดสำหรับการสร้างโปรไฟล์ใหม่แยกต่างหาก</translation> |
| <translation id="1895052641245790471">หากตั้งค่า <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_POLICY_NAME" /> เป็น RestoreOnStartupIsURLs การตั้งค่า <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_URLS_POLICY_NAME" /> เป็นรายการ URL จะระบุ URL ที่จะเปิดขึ้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า หน้าแท็บใหม่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1897095538209040086">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เปิดแท็บไว้อย่างน้อย 1 แท็บหลังจากเปลี่ยนไปเป็นเบราว์เซอร์สำรอง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ปิดแท็บหลังจากเปลี่ยนไปเป็นเบราว์เซอร์สำรอง แม้ว่าจะเป็นแท็บสุดท้ายที่เปิดอยู่ ซึ่งจะปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไปเลย</translation> |
| <translation id="1897365952389968758">อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดเรียกใช้ JavaScript</translation> |
| <translation id="1902043648529789224">ควบคุมตำแหน่งชั้นวาง</translation> |
| <translation id="1904323733389537794">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หมายความว่าจะมีการตรวจสอบ <ph name="OCSP_CRL_LABEL" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ตรวจสอบการเพิกถอนทางออนไลน์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 19 ขึ้นไป |
| |
| หมายเหตุ: การตรวจสอบ <ph name="OCSP_CRL_LABEL" /> ไม่มีประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิผล</translation> |
| <translation id="1905061765326052857">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องใช้เครื่องเสมือนที่จำเป็นต่อการรองรับแอป Linux</translation> |
| <translation id="1906871416501278476">ปิดใช้บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และไม่ต้องเปิดเดสก์ระยะไกลเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1907696459350079081">อย่าเปิดใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1910704279188129272">อนุญาตให้กำหนดข้อจำกัดการใช้งานต่อแอป |
| ข้อจำกัดการใช้งานนำไปใช้กับแอปที่ติดตั้งไว้ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับผู้ใช้นั้นๆ ได้ |
| ข้อจำกัดควรส่งผ่านในรายการ |app_limits| มีข้อจำกัดได้ 1 รายการต่อแอปเท่านั้น แอปที่ไม่ได้อยู่ในรายการจะไม่มีข้อจำกัด |
| คุณบล็อกแอปที่จำเป็นต่อระบบปฏิบัติการไม่ได้ ระบบจะถือว่าข้อจำกัดสำหรับแอปดังกล่าวไม่มีผล |
| แอปมี |app_id| เป็นตัวระบุที่ไม่ซ้ำกัน เนื่องจากแอปต่างประเภทกันใช้รูปแบบรหัสที่ต่างกันได้ จึงต้องมีการระบุ |app_type| ไว้ข้าง |app_id| |
| ปัจจุบันการจำกัดเวลาต่อแอปรองรับเฉพาะแอป |ARC| ชื่อแพ็กเกจ Android จะใช้เป็น |app_id| |
| เราจะรองรับแอปพลิเคชันประเภทอื่นๆ ในอนาคต ตอนนี้คุณระบุประเภทเหล่านั้นในนโยบายได้ แต่ข้อจำกัดจะไม่มีผล |
| ข้อจำกัดที่ใช้ได้มี 2 ประเภทคือ |BLOCK| และ |TIME_LIMIT| |
| |BLOCK| ทำให้ผู้ใช้ใช้แอปไม่ได้ หากระบุ |daily_limit_mins| พร้อมกับข้อจำกัด |BLOCK| ระบบจะถือว่า |daily_limit_mins| ไม่มีผล |
| |TIME_LIMITS| ใช้ขีดจำกัดการใช้งานต่อวันและทำให้แอปใช้งานไม่ได้เมื่อถึงขีดจำกัดในวันนั้นๆ ขีดจำกัดการใช้งานระบุได้ใน |daily_limit_mins| และจะรีเซ็ตทุกวันตามเวลา UTC ที่ผ่านไปใน |reset_at| |
| นโยบายนี้ใช้กับผู้ใช้ที่เป็นเด็กเท่านั้น |
| นโยบายนี้เป็นส่วนเสริมของ "UsageTimeLimit" ข้อจำกัดที่ระบุไว้ใน "UsageTimeLimit" เช่น เวลาอยู่หน้าจอและเวลาเข้านอน จะมีผลไม่ว่าขีดจำกัดเวลาที่ระบุไว้ใน "PerAppTimeLimits" เป็นระยะเวลาเท่าใดก็ตาม</translation> |
| <translation id="1913629775420987861">แสดงกล่องคำเตือนเมื่อผู้ใช้พยายามออก</translation> |
| <translation id="1916266055944569995">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดค่าส่งคืนของ Managed Configuration API สำหรับต้นทางนั้น |
| |
| Managed Configuration API คือการกำหนดค่าคีย์-ค่าที่เข้าถึงผ่านการเรียกใช้ JavaScript navigator.managed.getManagedConfiguration() ได้ API นี้ใช้ได้เฉพาะกับต้นทางที่สอดคล้องกับเว็บแอปพลิเคชันที่บังคับติดตั้งแล้วผ่าน <ph name="WEB_APP_INSTALL_FORCE_LIST_POLICY_NAME" /> |
| </translation> |
| <translation id="1919802376548418720">ใช้นโยบาย KDC เพื่อมอบอำนาจข้อมูลเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="1920046221095339924">อนุญาตเซสชันที่จัดการในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1920772397574801429">การตั้งค่านโยบายจะระบุประเภทของบัญชีที่มาจากแอปการตรวจสอบสิทธิ์ของ Android ที่รองรับการตรวจสอบสิทธิ์ <ph name="HTTP_NEGOTIATE" /> (เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos) ข้อมูลนี้ควรได้รับจากซัพพลายเออร์ของแอปการตรวจสอบสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ The Chromium Projects ( https://goo.gl/hajyfN ) |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะปิดการตรวจสอบสิทธิ์ <ph name="HTTP_NEGOTIATE" /> ใน Android</translation> |
| <translation id="1923704782248889851">เปิดใช้การพิมพ์ตามคำบอก</translation> |
| <translation id="1924085079572112898">การตั้งค่า F11 ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="1925529914257504750">P2P สำหรับการอัปเดตอัตโนมัติเปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="1928355425032308464">เปิดใช้งานอินพุตวิดีโอ</translation> |
| <translation id="1930094135927166199">ปิดใช้การแชร์พลังงานผ่าน USB</translation> |
| <translation id="1930127294345368978">จำนวนแผ่นงานสูงสุดที่อนุญาตให้ใช้สำหรับงานพิมพ์ 1 งาน</translation> |
| <translation id="1933378685401357864">รูปภาพวอลเปเปอร์</translation> |
| <translation id="1935409768874953955">การรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL จะทํางานเสมอ</translation> |
| <translation id="1942626390957213764">ปิดใช้ฮับการแชร์เดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="194407941132272412">ปิดใช้การแยกเว็บไซต์สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมด แต่อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ได้</translation> |
| <translation id="1945994447126139909">นโยบายระดับองค์กรนี้มีไว้สำหรับการใช้งานในระยะสั้น และเราจะนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 88 |
| |
| นโยบาย URL ที่มาตามค่าเริ่มต้นของ Chrome เข้มงวดขึ้น จากค่า "ไม่มี URL ที่มาเมื่อดาวน์เกรด" ในปัจจุบันเป็นค่า "ต้นทางที่เข้มงวดเมื่อข้ามต้นทาง" ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นผ่านการทยอยเปิดตัวที่มีเป้าหมายเป็นรุ่น Chrome 85 เวอร์ชันเสถียร |
| |
| ทั้งนี้ นโยบายระดับองค์กรนี้จะไม่มีผลก่อนการเปิดตัวดังกล่าว หลังจากการเปิดตัว เมื่อเปิดใช้นโยบายระดับองค์กรนี้ นโยบาย URL ที่มาตามค่าเริ่มต้นของ Chrome จะตั้งค่าเป็น "ไม่มี URL ที่มาเมื่อดาวน์เกรด" ซึ่งเป็นค่าของรุ่นก่อนหน้า |
| |
| นโยบายระดับองค์กรนี้จะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="1947848925128084608">ปิดใช้คอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="1949584741547056205">คำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="1951288262199783797">คุณสามารถเปิดใช้นโยบายนี้เพื่อสร้างพจนานุกรมนามสกุลของไฟล์โดยใช้รายชื่อโดเมนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้รับการยกเว้นในคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์ วิธีนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรบล็อกคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์สำหรับไฟล์ที่เชื่อมโยงกับโดเมนที่ระบุไว้ได้ ตัวอย่างเช่น หากนามสกุล "jnlp" เชื่อมโยงกับ "website1.com" ผู้ใช้จะไม่เห็นคำเตือนเมื่อดาวน์โหลดไฟล์ "jnlp" จาก "website1.com" แต่จะเห็นคำเตือนการดาวน์โหลดเมื่อดาวน์โหลดไฟล์ "jnlp" จาก "website2.com" |
| |
| ไฟล์ซึ่งมีนามสกุลที่ระบุไว้สำหรับโดเมนที่นโยบายนี้กำหนดจะยังได้รับคำเตือนด้านความปลอดภัยตามนามสกุลของไฟล์อยู่ เช่น คำเตือนการดาวน์โหลดเนื้อหาผสมและคำเตือน Google Safe Browsing |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่กำหนดค่า ประเภทไฟล์ที่ทำให้เกิดคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์จะแสดงคำเตือนแก่ผู้ใช้ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ |
| |
| * URL ควรมีรูปแบบตามที่ระบุไว้ใน https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns |
| * นามสกุลของไฟล์ที่ป้อนควรเป็น ASCII ตัวพิมพ์เล็ก ไม่ควรใส่ตัวคั่นข้างหน้าเมื่อระบุนามสกุลของไฟล์ เช่น ให้ใช้ "jnlp" แทน ".jnlp" |
| |
| ตัวอย่างเช่น |
| |
| ค่าตัวอย่างต่อไปนี้เป็นการป้องกันไม่ให้คำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์ swf, exe, และ jnlp แสดงเมื่อดาวน์โหลดจากโดเมน *.example.com และจะแสดงคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์แก่ผู้ใช้สำหรับไฟล์ exe และ jnlp จากโดเมนอื่น แต่ไม่แสดงสำหรับไฟล์ swf |
| |
| [ |
| { "file_extension": "jnlp", "domains": ["example.com"] }, |
| { "file_extension": "exe", "domains": ["example.com"] }, |
| { "file_extension": "swf", "domains": ["*"] } |
| ] |
| |
| โปรดทราบว่าแม้ตัวอย่างข้างต้นจะแสดงการระงับคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์ "swf" จากทุกโดเมน แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้การระงับคำเตือนเช่นนี้กับทุกโดเมนสำหรับนามสกุลของไฟล์ที่เป็นอันตรายเนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย ตัวอย่างดังกล่าวเป็นเพียงการสาธิตความสามารถในการระงับคำเตือนเท่านั้น |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ควบคู่กับ <ph name="DOWNLOAD_RESTRICTIONS_POLICY_NAME" /> และตั้งค่า DownloadRestrictions ให้บล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย การบล็อกการดาวน์โหลดที่กำหนดโดย DownloadRestrictions จะมีผลบังคับเหนือกว่า ตัวอย่างเช่น หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นอนุญาตการดาวน์โหลดไฟล์นามสกุล "exe" จาก "website1.com" และตั้งค่า DownloadRestrictions ให้บล็อกการดาวน์โหลดและประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย การดาวน์โหลดไฟล์นามสกุล "exe" ก็จะยังถูกบล็อกอยู่ในทุกโดเมน หากไม่ได้ตั้งค่า DownloadRestrictions ให้บล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย ประเภทไฟล์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้จะได้รับการยกเว้นในคำเตือนการดาวน์โหลดตามนามสกุลของไฟล์จากโดเมนที่ระบุ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DownloadRestrictions (https://chromeenterprise.google/policies/?policy=DownloadRestrictions)</translation> |
| <translation id="1954612656043024615">เปิดใช้ฟีเจอร์คลิปบอร์ดที่แชร์</translation> |
| <translation id="1955063069502242812">เปิดเสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำ</translation> |
| <translation id="1955806069704957172">ควบคุมการตั้งค่าสำหรับ Desk Connector API</translation> |
| <translation id="1957093168333856467">ปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="1960059835237529462">อนุญาตให้แสดงโปรโมชันการให้คะแนนของ App Store สำหรับ <ph name="IOS_NAME" /> แก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="1960416154405676350">เปิดใช้การค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1961091374249454164">นโยบายนี้ใช้กับเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการเท่านั้น |
| การตั้งค่านโยบายจะเป็นการระบุรายการรหัสส่วนขยายที่ได้รับการยกเว้นจากขั้นตอนการล้างข้อมูลเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแบบจำกัด (ดู <ph name="DEVICE_RESTRICTED_MANAGED_GUEST_SESSION_ENABLED_POLICY_NAME" />) |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่าไม่มีการยกเว้นส่วนขยายใดๆ จากขั้นตอนการรีเซ็ต</translation> |
| <translation id="1962273523772270623">อนุญาตให้รวบรวมบันทึกเหตุการณ์ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="1962864958436828230">ตั้งขีดจำกัดข้อมูลขนาดเล็กสำหรับข้อจำกัดของคลิปบอร์ดเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล</translation> |
| <translation id="1964191545419036999">แกลเลอรี (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 117)</translation> |
| <translation id="1964634611280150550">ปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="1964802606569741174">นโยบายนี้ไม่มีผลสำหรับแอป YouTube ของ Android หากมีการใช้โหมดปลอดภัยใน YouTube ควรยกเลิกการอนุญาตการติดตั้งแอป YouTube ใน Android</translation> |
| <translation id="1964985353230379667">ระบุการกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="KRB5_CONFIG" /> สำหรับตั๋วใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยตนเอง |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย "KerberosUseCustomPrefilledConfig" ระบบจะใช้ค่าของนโยบายเป็นการกำหนดค่าที่แนะนำ และแสดงในส่วน "ขั้นสูง" ของกล่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos การตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงว่างเปล่าหรือไม่ได้ตั้งค่า จะเป็นการลบการกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย "KerberosUseCustomPrefilledConfig" จะไม่มีการใช้ค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="1967820716244187368">อนุญาตให้ใช้ Chrome สำหรับการทดสอบ</translation> |
| <translation id="1969212217917526199">ลบล้างนโยบายในเวอร์ชันการแก้ปัญหาของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล |
| |
| ค่านี้จะได้รับการแยกวิเคราะห์เป็นพจนานุกรม JSON ของชื่อนโยบายไปยังการจับคู่ค่านโยบาย</translation> |
| <translation id="1969808853498848952">เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์เสมอ (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="1970146489334493241">การตั้งค่าการจัดการพลังงานจะมีผลต่อเมื่ออุปกรณ์ทำงานโดยเสียบปลั๊กเท่านั้น</translation> |
| <translation id="1971991630422430420">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้มีการใช้ฟีเจอร์การเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเมื่อจุดเข้าใช้งานแบบไร้สายรองรับ การตั้งค่านี้จะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนและอินเทอร์เฟซทั้งหมดในอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ไม่มีการใช้ฟีเจอร์การเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว</translation> |
| <translation id="1972134432340252414">บล็อกจุดขยายสัญญาณเดิมในกระบวนการของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="1977581177449752640">การตั้งค่านโยบายจะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ที่มีชื่อของผู้ออกใบรับรองที่กำหนดเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_TOKEN_VALIDATION_URL_POLICY_NAME" /> หากต้องการใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์ทั้งหมดที่ใช้งานได้ ให้ตั้งค่าเป็น <ph name="WILDCARD_VALUE" /> หากปล่อยว่างไว้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์นี้</translation> |
| <translation id="1984934843478301531">การทํางานอัตโนมัติของการเปิดแอป</translation> |
| <translation id="1985545260037812875">แสดงหน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="1985598967415986700">การลด User Agent จะควบคุมได้ผ่านช่วงทดลองใช้งานภาคสนามและช่วงทดลองใช้จากต้นทาง</translation> |
| <translation id="1987789058026551147">เปิดใช้การรายงานเซสชันคีออสก์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="1988345404999458987">ระบุการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ที่พร้อมใช้งาน |
| |
| นโยบายนี้ช่วยให้คุณระบุการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ภายนอกสำหรับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เป็นไฟล์ JSON ได้ |
| |
| โดยที่ไฟล์ดังกล่าวต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB และต้องมีอาร์เรย์ของระเบียน (ออบเจ็กต์ JSON) ระเบียนแต่ละรายการต้องมีช่อง "id", "url" และ "display_name" ที่มีสตริงเป็นค่า ค่าของช่อง "id" ต้องไม่ซ้ำกัน |
| |
| ระบบจะดาวน์โหลดและเก็บแคชของไฟล์ไว้ และจะใช้แฮชแบบเข้ารหัสเพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด โดยจะมีการดาวน์โหลดไฟล์อีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่ถูกต้อง อุปกรณ์จะพยายามค้นหาเครื่องพิมพ์ที่พร้อมใช้งานจากเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ที่ระบุโดยใช้โปรโตคอล IPP |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งเป็นค่าที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้จะไม่เห็นเครื่องพิมพ์ของเซิร์ฟเวอร์ที่จัดเตรียมไว้ทุกเครื่อง |
| |
| ขณะนี้มีการจำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ไว้ที่ 16 เซิร์ฟเวอร์ ระบบจะค้นหาเครื่องพิมพ์จากเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ 16 เซิร์ฟเวอร์แรกในรายการเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้คล้ายกับ <ph name="EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /> ยกเว้นเพียงแต่ว่านโยบายนี้ใช้กับอุปกรณ์ |
| </translation> |
| <translation id="199011295049694531">รายงานข้อมูลเขตเวลาของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลเขตเวลาของอุปกรณ์ที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="1990784382342293892">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="NATIVE_MESSAGING_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="1995744620192427843">การตั้งค่านโยบายจะทำให้หน้าเว็บที่มี URL ต้องห้ามโหลดไม่ได้ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ (เช่น ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก) โดยจะมีรายการรูปแบบ URL ที่ระบุ URL ต้องห้ามไว้ การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีการห้าม URL ใดเลยในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ ให้จัดรูปแบบ URL ตามรูปแบบนี้ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) |
| |
| สามารถกำหนดข้อยกเว้นสำหรับรูปแบบเหล่านี้ได้ในนโยบายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็คือ <ph name="DEVICE_AUTHENTICATION_URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| จำเป็นต้องใช้ URL บางรายการเพื่อให้การตรวจสอบสิทธิ์ประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึง accounts.google.com ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรบล็อก URL เหล่านั้นหากต้องมีการลงชื่อเข้าใช้ออนไลน์ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลกับ URL JavaScript ในหน้าเว็บที่มีข้อมูลที่โหลดแบบไดนามิก หากคุณบล็อก example.com/abc ไว้ example.com จะยังคงโหลดโดยใช้ XMLHTTPRequest ได้</translation> |
| <translation id="199764499252435679">เปิดใช้การอัปเดตคอมโพเนนต์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="1997943707974344423">อนุญาตให้ใช้ Smart Lock</translation> |
| <translation id="1998504583649140526">การตั้งค่าคำขอเครือข่ายส่วนตัว</translation> |
| <translation id="1999000620918508488">บังคับให้หน้าจอลงชื่อเข้าใช้แสดงหรือซ่อนข้อมูลของระบบ</translation> |
| <translation id="1999401210569035434">อนุญาตส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่</translation> |
| <translation id="1999942889260716089">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดการแนะนำการค้นหาในแถบที่อยู่ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดการแนะนำการค้นหาเหล่านี้ |
| |
| คำแนะนำที่อิงตามบุ๊กมาร์กหรือประวัติการเข้าชมจะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า การแนะนำการค้นหาจะเปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะปิดได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="2000937390924915996">ไม่เรียกใช้การทำความสะอาดดิสก์อัตโนมัติในระหว่างเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2004382785802837840">ปิดใช้การปิดการแจ้งเตือนรหัสผ่านที่ถูกละเมิด</translation> |
| <translation id="2005506794355327448">การดำเนินการที่จะทำเมื่อปิดฝา</translation> |
| <translation id="2006530844219044261">การจัดการพลังงาน</translation> |
| <translation id="2006954055163088863">ถือว่าผู้ใช้ไม่มีการใช้งานขณะเล่นวิดีโอ</translation> |
| <translation id="2008514891623783266">นโยบายการจัดการ IP ของ WebRTC</translation> |
| <translation id="201153120366509312">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "อนุญาต" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตการรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL |
| หากผู้ใช้อนุญาตและเปิดใช้การรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL เอาไว้ ข้อมูลนี้จะส่ง URL ของหน้าเว็บที่ผู้ใช้เข้าชม รวมถึงสถิติการใช้งานแต่ละหน้าไปยัง Google เพื่อช่วยให้การค้นหาและการท่องเว็บดีขึ้น |
| นอกจากนี้ เมตริกซึ่งผูกกับ URL ยังรวมถึงตัวระบุและสถิติการใช้งานคอมโพเนนต์อื่นๆ ในเบราว์เซอร์ที่สามารถแก้ไขหรือแสดงเนื้อหาได้อย่างเช่นส่วนขยายต่างๆ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ไม่อนุญาต" ผู้ใช้จะเปิดใช้การรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2012296492055302633">เปิดใช้หน้าจอความเป็นส่วนตัวเสมอ</translation> |
| <translation id="2014757022750736514">ควบคุมลักษณะการทำงานของหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าสู่ระบบบัญชี การตั้งค่ารวมไปถึงผู้ที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบได้ ประเภทบัญชีที่อนุญาต วิธีการตรวจสอบสิทธิ์ที่ควรใช้ ตลอดจนการช่วยเหลือพิเศษทั่วไป วิธีการป้อนข้อมูล และการตั้งค่าภาษา</translation> |
| <translation id="201557587962247231">ความถี่ในการอัปโหลดรายงานสถานะของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2016031354108680330">เปิดใช้การเข้าถึงรูทของเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="2017301949684549118">URL ของเว็บแอปที่จะติดตั้งแบบเงียบ</translation> |
| <translation id="2017459564744167827">ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสคีมาและการจัดรูปแบบได้ที่ <ph name="REFERENCE_URL" /></translation> |
| <translation id="2018425641414671849">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นสื่อเมื่ออุปกรณ์ล็อกอยู่</translation> |
| <translation id="2021087124402050619">อนุญาตให้ฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome สแกนระบบเป็นระยะและอนุญาตการสแกนด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="2022842553416990270">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M114 นโยบายดังกล่าวมีไว้เพื่อปิดใช้ CECPQ2 แต่ CECPQ2 ปิดใช้ไว้แล้วโดยค่าเริ่มต้น เราจะนำนโยบายแยกต่างหากมาใช้เพื่อควบคุมการเปิดตัวที่จะมาแทนที่ CECPQ2 การแทนที่ดังกล่าวจะเป็นการรวม X25519 ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์แบบมาตรฐานเข้ากับ KEM หลังยุคควอนตัมซึ่ง NIST เลือกไว้ที่เรียกว่า "Kyber" |
| |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นเปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำตามกระบวนการเปิดตัวเริ่มต้นของ CECPQ2 ซึ่งเป็นอัลกอริทึมข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์หลังยุคควอนตัมใน TLS |
| |
| CECPQ2 ส่งผลให้ข้อความ TLS มีขนาดใหญ่ขึ้น ในบางกรณีซึ่งพบได้ไม่บ่อยนักอาจกระตุ้นให้เกิดข้อบกพร่องในฮาร์ดแวร์เครือข่ายบางอย่าง คุณตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" เพื่อปิดใช้ CECPQ2 ได้ในระหว่างแก้ไขปัญหาเครือข่าย |
| |
| นโยบายนี้เป็นมาตรการชั่วคราวและจะถูกนำออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันต่อๆ ไป</translation> |
| <translation id="2024476116966025075">กำหนดค่าชื่อโดเมนที่ต้องใช้สำหรับไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="2026749017601510117">กำหนดค่าเวลาเป็นวินาทีที่ต้องการให้อุปกรณ์รอเมื่อไม่มีการใช้งานก่อนแสดงภาพพักหน้าจอสำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1-9,999 วินาที การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 7 วินาที |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="2029985289397958781">ปิดใช้การค้นหาที่ได้รับความช่วยเหลือจากกล้อง <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร</translation> |
| <translation id="2030905906517501646">คีย์เวิร์ดของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="203096360153626918">นโยบายนี้ไม่มีผลสำหรับแอป Android โดยแอปยังสามารถเข้าสู่โหมดเต็มหน้าจอได้แม้ตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="FALSE" /> ก็ตาม</translation> |
| <translation id="2031074619942406753">ปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส</translation> |
| <translation id="2032848225007871645">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมโหมดปลดล็อกด่วนที่ปลดล็อกหน้าจอล็อกได้ |
| |
| หากต้องการอนุญาต |
| |
| * โหมดปลดล็อกด่วนทุกโหมด ให้ใช้ ["all"] (รวมถึงโหมดที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคตด้วย) |
| |
| * สำหรับการปลดล็อกด้วย PIN เท่านั้น ให้ใช้ ["PIN"] |
| |
| * สำหรับ PIN และลายนิ้วมือ ให้ใช้ ["PIN", "FINGERPRINT"] |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า อุปกรณ์ที่มีการจัดการจะใช้โหมดปลดล็อกด่วนใดๆ ไม่ได้เลย |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="QUICK_UNLOCK_MODE_ALLOW_LIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2033200857253268661">การตั้งค่า F12 ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="2035995535603698706">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้รูปภาพของบุคคลที่สามในหน้าเว็บแสดงพรอมต์การตรวจสอบสิทธิ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้รูปภาพของบุคคลที่สามแสดงพรอมต์การตรวจสอบสิทธิ์ไม่ได้ |
| |
| โดยทั่วไปแล้วจะ "ปิดใช้" นโยบายนี้เพื่อป้องกันฟิชชิง</translation> |
| <translation id="2036522553891755455">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้การสำรวจพื้นที่แชร์ (ฟีเจอร์พื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" />) ใช้ <ph name="NETBIOS_PROTOCOL" /> เพื่อสำรวจพื้นที่แชร์ในเครือข่าย การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้การสำรวจพื้นที่แชร์ไม่ใช้โปรโตคอลนี้ในการสำรวจพื้นที่แชร์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ลักษณะการทำงานตามค่าเริ่มต้นเป็น "ปิด" สำหรับผู้ใช้ที่มีการจัดการและเป็น "เปิด" สำหรับผู้ใช้อื่นๆ</translation> |
| <translation id="2039801473506609891">ปิดใช้การรองรับ HTTP/0.9 ในพอร์ตที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2040479044912658454">โหมดการแรสเตอร์งานพิมพ์</translation> |
| <translation id="2042513383871755994">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์หรือไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ผ่าน File System API ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_SYSTEM_READ_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_SYSTEM_READ_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="2043749682619281558">เปิดใช้ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2043770014371753404">เครื่องพิมพ์ขององค์กรที่มีการปิดใช้</translation> |
| <translation id="2054093043033461396">เปิดใช้หน้าจอการเข้าสู่ระบบสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของอุปกรณ์แล้ว</translation> |
| <translation id="2057317273526988987">อนุญาตให้เข้าถึงรายการ URL</translation> |
| <translation id="2058055310819710697">เปิดใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับแอปที่แยกไว้</translation> |
| <translation id="205807990145127714">ข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่จะรายงานในเหตุการณ์ความแรงสัญญาณ</translation> |
| <translation id="2060153898336610735">อัตโนมัติโดยอิงตามภาษาในปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="2061123930713023976">อนุญาตการแก้ไขข้อบกพร่องด้วยการบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่าย</translation> |
| <translation id="2061810934846663491">กำหนดค่าชื่อโดเมนที่จำเป็นสำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="2062632109797189011">เปิดใช้ window.webkitStorageInfo API ที่เลิกใช้งานแล้วอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="2069350366303315077">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะบังคับใช้เซสชันผู้เยี่ยมชมและป้องกันการลงชื่อเข้าใช้โปรไฟล์ การลงชื่อเข้าใช้ของผู้เยี่ยมชมเป็นโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้", ไม่ตั้งค่านโยบาย หรือปิดใช้โหมดผู้เยี่ยมชมของเบราว์เซอร์ (ผ่าน <ph name="BROWSER_GUEST_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" />) จะทำให้ใช้โปรไฟล์ใหม่และโปรไฟล์ที่มีอยู่ได้</translation> |
| <translation id="2070744136203607632">ไม่ทำการตรวจสอบการสกัดกั้น DNS</translation> |
| <translation id="2072613440623913880">เปิดใช้การคลิกอัตโนมัติในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2073552873076775140">อนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2075732129949889165">Crostini Ansible Playbook</translation> |
| <translation id="2076158466157390917">ควบคุมการทำความสะอาดอัตโนมัติในระหว่างเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2077273864382355561">ระยะหน่วงเวลาการปิดหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="2081969239334697268"> |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดใช้การอัปเดตแอป Chrome Kiosk ในเซสชัน (ซึ่งใช้ URL อัปเดตจากไฟล์ Manifest ของส่วนขยาย) และให้เพียงแค่ CRX ดึงข้อมูลล่วงหน้าได้ตามกลไกการอัปเดต |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้อัปเดตแอป Chrome Kiosk ในเซสชัน |
| </translation> |
| <translation id="2082205219176343977">กำหนดค่าเวอร์ชัน Chrome ขั้นต่ำที่อุปกรณ์จะใช้ได้</translation> |
| <translation id="20838788335877967">ปิดใช้การรายงานข้อมูลการระบุตัวตนของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="208566302163036794">บล็อกฟีเจอร์ที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="208623333578980446">อนุญาต Wake Lock สำหรับหน้าจอเพื่อการจัดการพลังงาน</translation> |
| <translation id="2089541797660774692">เปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="2090712407517297305">หน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จะปรากฏที่ chrome://history/grouped</translation> |
| <translation id="2090939118981888335">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้พร็อกซีการบีบอัดข้อมูลทำงาน การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้พร็อกซีไม่ทำงาน |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกใช้ฟีเจอร์ได้</translation> |
| <translation id="2093552723795057221">อย่ารายงานสถานะเสียง</translation> |
| <translation id="209388704279338003">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2093951844062548778">นโยบายนี้ให้สิทธิ์ฟีเจอร์คำตอบด่วนในการเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อรับผลคำจำกัดความ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้คำจำกัดความของคำตอบด่วน |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดใช้คำจำกัดความของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="2095778449451007308">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้เปิดใช้โหมด HTTPS เท่านั้น (ใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยทุกครั้ง) ในการตั้งค่าได้หรือไม่ โหมด HTTPS เท่านั้นจะอัปเกรดการนำทางทั้งหมดให้เป็นแบบ HTTPS |
| หากไม่ได้ตั้งค่านี้หรือตั้งค่าเป็นอนุญาต ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้เปิดใช้โหมด HTTPS เท่านั้น |
| หากตั้งค่านี้เป็นไม่อนุญาต ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดใช้โหมด HTTPS เท่านั้น |
| หากตั้งค่านี้เป็น force_enabled ระบบจะเปิดใช้โหมด HTTPS เท่านั้น และผู้ใช้จะปิดใช้การตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| ระบบรองรับการบังคับให้เปิดใช้โหมด HTTPS เท่านั้นในเวอร์ชัน M112 เป็นต้นไป |
| |
| ฟีเจอร์นี้จะใช้นโยบาย <ph name="HTTP_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แยกต่างหากเพื่อยกเว้นชื่อโฮสต์หรือรูปแบบชื่อโฮสต์ที่ต้องการไม่ให้อัปเกรดเป็น HTTPS ได้</translation> |
| <translation id="209586405398070749">เวอร์ชันเสถียร</translation> |
| <translation id="2096932573113293941">ขอสิทธิ์เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์จากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2098658257603918882">เปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้อง</translation> |
| <translation id="2099380339157427935">ไม่แสดงปุ่มออกจากระบบในถาดระบบ</translation> |
| <translation id="2100630160869631650">เพิ่มบัญชี Kerberos ที่กรอกไว้ล่วงหน้า หากข้อมูลเข้าสู่ระบบ Kerberos ตรงกับข้อมูลของการเข้าสู่ระบบ คุณจะกำหนดค่าบัญชีให้นำข้อมูลของการเข้าสู่ระบบมาใช้ใหม่ได้โดยระบุ "<ph name="LOGIN_EMAIL_PLACEHOLDER" />" และ "<ph name="PASSWORD_PLACEHOLDER" />" สำหรับผู้ใช้หลักและรหัสผ่านตามลำดับ เพื่อให้ดึงข้อมูลตั๋ว Kerberos ได้โดยอัตโนมัติ เว้นแต่มีการกำหนดค่าการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย ผู้ใช้จะแก้ไขบัญชีที่เพิ่มผ่านนโยบายนี้ไม่ได้ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ จะมีการเพิ่มรายการบัญชีที่นโยบายกำหนดลงในการตั้งค่าบัญชี Kerberos |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการเพิ่มบัญชีลงในการตั้งค่าบัญชี Kerberos และระบบจะนำบัญชีทั้งหมดที่นโยบายนี้เพิ่มไว้ก่อนหน้านี้ออก ผู้ใช้อาจยังเพิ่มบัญชีด้วยตนเองได้หากเปิดใช้นโยบาย "ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Kerberos ได้"</translation> |
| <translation id="2104418465060359056">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับส่วนขยายและปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="210652463860415362">การยอมรับเนื้อหาเว็บจะใช้ฟีเจอร์การส่งพจนานุกรมการบีบอัด</translation> |
| <translation id="2106627642643925514">ลบล้างโหมดการพิมพ์ด้วย PIN ที่เป็นค่าเริ่มต้น หากโหมดนี้ไม่พร้อมใช้งาน ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="2107563874993284076">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ช่วยให้ผู้ใช้ใช้พื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2107601598727098402"> |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้วใน M72 โปรดใช้ CloudManagementEnrollmentToken แทน |
| </translation> |
| <translation id="2112656109118682849">อนุญาตให้ผู้ใช้สลับการแสดงข้อมูลของระบบในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="2113068765175018713">จำกัดเวลาใช้งานของอุปกรณ์โดยการรีบูตอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="2116169546538119304"> นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดกำหนดค่านโยบาย Kerberos เพื่อนำรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบมาใช้ซ้ำแทน</translation> |
| <translation id="2117990069872855599">URL ที่ระบบไปดาวน์โหลดรูปโปรไฟล์ได้</translation> |
| <translation id="2124881675920287921">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้วใน M82 และได้นำออกจาก M85 โปรดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> แทน การปิดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_OPT_IN_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เทียบเท่ากับการปิดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> การเปิดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_OPT_IN_ALLOWED_POLICY_NAME" /> หรือไม่ได้ตั้งค่าจะเทียบเท่ากับการไม่ได้ตั้งค่า <ph name="SAFE_BROWSING_EXTENDED_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะทำให้ผู้ใช้เลือกส่งข้อมูลระบบและเนื้อหาของหน้าเว็บบางอย่างไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ไม่ได้ หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้จะส่งข้อมูลระบบและเนื้อหาของหน้าเว็บบางอย่างไปยัง Google Safe Browsing เพื่อช่วยตรวจหาแอปและเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้ |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing ได้ที่ https://developers.google.com/safe-browsing</translation> |
| <translation id="2127599828444728326">อนุญาตการแจ้งเตือนในไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2131902621292742709">ระยะหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="2131915994539959070">เปิดใช้การตรวจหาการบังหน้าต่างที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะตรวจพบเวลาที่หน้าต่างใดก็ตามถูกหน้าต่างอื่นบังอยู่และระงับการระบายสีพิกเซล ทั้งนี้เพื่อลดการใช้ CPU และพลังงาน |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ตรวจหาว่ามีหน้าต่างใดถูกหน้าต่างอื่นบังอยู่หรือไม่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การตรวจหาการบัง</translation> |
| <translation id="2132424782557550556">กำหนดค่านโยบายการรายงานในระบบคลาวด์ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายเหล่านี้จะไม่มีผล |
| |
| นโยบายเหล่านี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="2134437727173969994">อนุญาตให้ล็อกหน้าจอ</translation> |
| <translation id="2135335181634291106">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ICON_URL_POLICY_NAME" /> จะระบุ URL ของไอคอนรายการโปรดของผู้ให้บริการค้นหาที่เป็นค่าเริ่มต้น |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ICON_URL_POLICY_NAME" /> จะทำให้ไม่มีไอคอนสำหรับผู้ให้บริการค้นหารายนั้น</translation> |
| <translation id="2136073175041447267">กำหนดค่าไดรฟ์ในระบบคลาวด์ (Google ไดรฟ์, Microsoft OneDrive) ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="2144236546337326489">อนุญาตให้มีการเปิดใช้การทำงานอย่างต่อเนื่องในฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="2145735238144543545">ต้องมีใบรับรองไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="2146103669166779785">ระบบจะใช้สีแบบเลขฐานสิบหกเพื่อสร้างธีมและนำไปใช้กับเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="2148733583160916305">อนุญาต WebPrinting API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2148769554831004951">บังคับให้ WebSQL เปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="214901426630414675">จำกัดโหมดพิมพ์ 2 ด้าน</translation> |
| <translation id="2149330464730004005">เปิดใช้การพิมพ์สี</translation> |
| <translation id="2149592087996467903">ป้องกันไม่ให้ WebRTC ใช้ TLS/DTLS เวอร์ชันที่ล้าสมัย</translation> |
| <translation id="2149957154942061013">ใช้ภายในเท่านั้น</translation> |
| <translation id="2151831603578119302">เปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="2156132677421487971">กำหนดค่านโยบายต่างๆ สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ส่งเนื้อหาในแท็บ ไซต์ หรือเดสก์ท็อปจากเบราว์เซอร์ไปยังจอแสดงผลและระบบเสียงระยะไกลได้</translation> |
| <translation id="2156755242840687300">เซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ภายนอกที่เปิดใช้</translation> |
| <translation id="2157842368188031417">นโยบายนี้ใช้กับเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการเท่านั้น ต้องเปิดใช้สำหรับโหมดเวิร์กสเตชันที่ใช้ร่วมกันของ Imprivata เพื่ออนุญาตให้สลับผู้ใช้ในเซสชัน |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะบังคับให้ลบล้างนโยบายบางรายการสำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งการลบล้างนี้จะยังคงเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อนไว้ และไม่ได้รับการจัดการโดยกลไกการล้างข้อมูลที่ใช้สำหรับการสลับผู้ใช้ในเซสชันด้วยโหมดเวิร์กสเตชันที่ใช้ร่วมกันของ Imprivata |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่ลบล้างนโยบายใดๆ</translation> |
| <translation id="2158741059065130266">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ทำให้ผู้ใช้แอป Files ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" สามารถดูถังขยะและไฟล์ในส่วน "ไฟล์ของฉัน" และ "รายการที่ดาวน์โหลด" (รวมถึงองค์ประกอบสืบทอดที่ผู้ใช้สร้างขึ้น) ที่ระบบจะส่งไปเพื่อลบได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ไฟล์ที่อยู่ในถังขยะก่อนหน้านี้จะยังคงใช้งานได้โดยแสดงไฟล์ที่ซ่อนอยู่และจะเห็นไดเรกทอรี .Trash ในส่วน "ไฟล์ของฉัน" หรือ "รายการที่ดาวน์โหลด"</translation> |
| <translation id="2159486052528894673">อนุญาตให้นโยบายระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์ลบล้างนโยบายระดับแมชชีนบนระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="2160170953213468208">เมื่อเปิดใช้ นโยบายนี้จะบังคับให้ไปยังเอกสาร Office ที่มีประเภท MIME ซึ่งโดยทั่วไปจัดการโดย <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /> เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบก็จะเปิดเอกสารเหล่านี้ใน <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /> โดยอัตโนมัติแทน |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะมีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับการเปิดใช้ (เช่น ระบบจะดาวน์โหลดไฟล์) การไม่ตั้งค่านโยบายสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรจะมีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับการปิดใช้ (เช่น ไฟล์จะเปิดขึ้นใน <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /></translation> |
| <translation id="2160336427036785721">กำหนดขนาดหน่วยความจำที่อินสแตนซ์หนึ่งๆ ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ได้ก่อนเริ่มทิ้งแท็บ (กล่าวคือ หน่วยความจำที่แท็บใช้จะถูกล้างและจะต้องโหลดแท็บซ้ำเมื่อมีการสลับไปยังแท็บนั้น) เพื่อประหยัดหน่วยความจำ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ เบราว์เซอร์จะเริ่มทิ้งแท็บเพื่อประหยัดหน่วยความจำเมื่อการใช้หน่วยความจำเกินขีดจำกัดแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าเบราว์เซอร์จะทำงานตลอดเวลาแม้ว่าจะยังไม่เกินขีดจำกัดก็ตาม ทุกค่าที่ต่ำกว่า 1024 จะปัดเป็น 1024 |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เบราว์เซอร์จะเริ่มพยายามประหยัดหน่วยความจำก็ต่อเมื่อตรวจพบว่าหน่วยความจำจริงของเครื่องเหลือน้อย</translation> |
| <translation id="2161348910646846717">อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนเวอร์ชันการเผยแพร่</translation> |
| <translation id="2162703823039992020">การผสานรวมตามบริบทของบริการของ Google บน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="2165567959657265531">คุกกี้ที่ตั้งค่าสำหรับโดเมนที่ตรงกับรูปแบบเหล่านี้จะเปลี่ยนกลับเป็นลักษณะการทำงาน <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เดิม การเปลี่ยนกลับไปใช้ลักษณะการทำงานเดิมทำให้คุกกี้ที่ไม่ได้ระบุแอตทริบิวต์ <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> ได้รับการดำเนินการเหมือนกับเป็น "<ph name="ATTRIBUTE_VALUE_SAMESITE_NONE" />", นำข้อกำหนดที่คุกกี้ "<ph name="ATTRIBUTE_VALUE_SAMESITE_NONE" />" ต้องมีแอตทริบิวต์ "<ph name="ATTRIBUTE_SECURE_NAME" />" ออกไป และข้ามการเปรียบเทียบสกีมเมื่อประเมินว่าเว็บไซต์ 2 แห่งเป็นเว็บไซต์เดียวกันหรือไม่ ดูคำอธิบายแบบเต็มใน https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/cookie-legacy-samesite-policies |
| |
| สำหรับคุกกี้ในโดเมนที่ไม่อยู่ในรูปแบบที่ระบุไว้ที่นี่ หรือสำหรับคุกกี้ทั้งหมดในกรณีที่ไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ค่าเริ่มต้นส่วนกลางจะเป็นการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns |
| |
| โปรดทราบว่ารูปแบบต่างๆ ที่คุณระบุไว้ที่นี่ได้รับการดำเนินการเหมือนกับเป็นโดเมน ไม่ใช่ URL คุณจึงไม่ควรระบุสกีมหรือพอร์ต</translation> |
| <translation id="2166155400701622446"><ph name="PRODUCT_NAME" /> มีรายการพอร์ตที่จำกัดอยู่ในตัว ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่อพอร์ตเหล่านี้ไม่สำเร็จ การตั้งค่านี้อนุญาตให้ข้ามรายการดังกล่าว ค่าดังกล่าวเป็นรายการที่คั่นด้วยคอมมาของพอร์ตจำนวน 0 พอร์ตขึ้นไปที่จะได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อขาออก |
| |
| ระบบจะจำกัดพอร์ตเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นเวกเตอร์ในการแสวงหาประโยชน์จากช่องโหว่ต่างๆ ในเครือข่าย การตั้งค่านโยบายนี้อาจทำให้เครือข่ายเสี่ยงต่อการถูกโจมตี นโยบายนี้มีไว้เพื่อเป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับข้อผิดพลาดที่มีรหัส "ERR_UNSAFE_PORT" ขณะย้ายข้อมูลบริการที่ทำงานในพอร์ตที่ถูกบล็อกไปยังพอร์ตมาตรฐาน (เช่น พอร์ต 80 หรือ 443) |
| |
| เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายจะตรวจพบได้โดยง่ายว่ามีการตั้งค่านโยบายนี้ ตลอดจนพอร์ตที่มีการตั้งค่านโยบาย และใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อกำหนดเป้าหมายการโจมตี |
| |
| พอร์ตแต่ละพอร์ตใน Chrome มีป้ายกำกับวันที่สิ้นสุดการเลิกบล็อก หลังจากวันดังกล่าว พอร์ตจะถูกจำกัดไม่ว่าการตั้งค่านี้จะเป็นอย่างไร |
| |
| การไม่ระบุค่าหรือไม่ตั้งค่าหมายความว่าพอร์ตที่จำกัดทั้งหมดจะถูกบล็อก หากมีทั้งค่าที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องผสมกัน ระบบจะใช้ค่าที่ถูกต้อง |
| |
| นโยบายนี้ลบล้างตัวเลือกบรรทัดคำสั่ง "--explicitly-allowed-ports"</translation> |
| <translation id="2166472654199325139">ไม่ต้องกรองเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่</translation> |
| <translation id="2168397434410358693">ระยะหน่วงเวลาของการไม่ใช้งานเมื่อทำงานโดยใช้ไฟ AC</translation> |
| <translation id="217013996107840632">พารามิเตอร์บรรทัดคำสั่งเพื่อเปลี่ยนจากเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="2170233653554726857">เปิดการเพิ่มประสิทธิภาพ WPAD</translation> |
| <translation id="2174946221763588594">กำหนดค่าให้เว็บไซต์ที่ผู้ใช้ไปถึงได้รับอนุญาตให้สร้างเซสชัน Augmented Reality ที่สมจริงโดยใช้ <ph name="WEBXR_API_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่าหรือเปิดใช้งานนโยบายนี้ <ph name="WEBXR_API_NAME" /> จะยอมรับ <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> ในระหว่างการสร้างเซสชันเพื่อให้ผู้ใช้เข้าสู่ประสบการณ์ Augmented Reality |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ <ph name="WEBXR_API_NAME" /> จะปฏิเสธคำขอสร้างเซสชันโดยตั้งโหมดไปที่ <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> เซสชัน <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> ที่มีอยู่ (หากมี) จะไม่สิ้นสุดการทำงาน |
| |
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซสชัน <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> ได้ในข้อมูลจำเพาะ <ph name="WEBXR_AR_MODULE_API_NAME" /></translation> |
| <translation id="2175353308236295184">ออบเจ็กต์การกำหนดค่า JSON ที่เจาะจงแอปที่มีชุดคู่คีย์-ค่า เช่น '"managedConfiguration": { "key1": value1, "key2": value2 }' คีย์จะกำหนดไว้ในไฟล์ Manifest ของแอป</translation> |
| <translation id="2176115444876446233">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รวบรวมการติดตามประสิทธิภาพทั้งระบบ</translation> |
| <translation id="2177382213857119200">ให้คุณควบคุมว่าจะเปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ Google Safe Browsing ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และกำหนดโหมดการทำงานของฟีเจอร์นี้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "NoProtection" (ค่า 0) Google Safe Browsing จะไม่ทำงานเลย |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "StandardProtection" (ค่า 1 ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น) Google Safe Browsing จะทำงานในโหมดมาตรฐานเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "EnhancedProtection" (ค่า 2) Google Safe Browsing จะทำงานในโหมดเพิ่มประสิทธิภาพเสมอ ซึ่งรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้นแต่ต้องมีการแชร์ข้อมูลการท่องเว็บกับ Google มากขึ้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นแบบบังคับ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่า Google Safe Browsing ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ Google Safe Browsing จะทำงานในโหมดการปกป้องแบบมาตรฐาน แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing ได้ที่ https://support.google.com/chrome?p=safe_browsing_preferences</translation> |
| <translation id="2177696016354404697">ปิดใช้หน้าจอความเป็นส่วนตัวเสมอ</translation> |
| <translation id="2178899310296064282">บังคับใช้โหมดที่จำกัดปานกลางใน YouTube เป็นอย่างน้อย</translation> |
| <translation id="2180795125410219364">การตั้งค่า Home/End ปิดอยู่</translation> |
| <translation id="2180958780733364832">ควบคุมการใช้โหมดไม่มีส่วนหัว</translation> |
| <translation id="2182291258410176649">ผู้ใช้ตัดสินใจว่าจะเปิดใช้การสำรองข้อมูลและการกู้คืนหรือไม่</translation> |
| <translation id="2183338188392346527">ไม่รายงานตัวนับรันไทม์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2187372280917024033">เทมเพลต URI ของรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS ที่ต้องการ วิธีระบุรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS หลายรายการคือเว้นวรรคระหว่างเทมเพลต URI ที่เกี่ยวข้อง นโยบายนี้คล้ายเป็นอย่างมากกับ <ph name="DOH_TEMPLATES_POLICY_NAME" /> ซึ่งจะถูกลบล้างหากระบุ |
| นโยบายนี้รองรับการระบุข้อมูลยืนยันตัวตน ซึ่งตรงข้ามกับนโยบาย <ph name="DOH_TEMPLATES_POLICY_NAME" /> |
| กำหนดตัวระบุโดยใช้ตัวยึดตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงได้ซึ่งแทนที่ด้วยข้อมูลผู้ใช้หรืออุปกรณ์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งจะไม่ส่งตัวระบุไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ในรูปแบบข้อความธรรมดา แต่จะแฮชด้วยอัลกอริทึม <ph name="SHA256" /> และเข้ารหัสเป็นเลขฐาน 16 ตัวพิมพ์ใหญ่แทน |
| |
| ตัวระบุที่กำหนดจะอยู่ในวงเล็บปีกกา ซึ่งนำหน้าด้วยสัญลักษณ์ดอลลาร์ ใช้ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="USER_EMAIL" />, <ph name="USER_EMAIL_DOMAIN" /> และ <ph name="USER_EMAIL_NAME" /> ต่อไปนี้เพื่อระบุตัวตนผู้ใช้ ใช้ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="DEVICE_DIRECTORY_ID" />, <ph name="DEVICE_SERIAL_NUMBER" />, <ph name="DEVICE_ASSET_ID" /> และ <ph name="DEVICE_ANNOTATED_LOCATION" /> ต่อไปนี้เพื่อระบุอุปกรณ์ |
| |
| ก่อนเวอร์ชัน 122 จะไม่มีการแทนที่ตัวระบุอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้นอกโดเมน ตั้งแต่เวอร์ชัน 122 เป็นต้นไป ระบบจะแทนที่ตัวยึดตำแหน่งอุปกรณ์ด้วยค่า <ph name="DEVICE_NOT_MANAGED" /> ซึ่งแฮชและเข้ารหัสเป็นเลขฐาน 16 |
| |
| ตั้งแต่เวอร์ชัน 125 เป็นต้นไป คุณจะเพิ่มที่อยู่ IP ของอุปกรณ์เป็น URI ของเทมเพลตได้โดยใช้ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="DEVICE_IP_ADDRESSES" /> ตัวยึดตำแหน่งนี้จะแทนที่ด้วยสตริงเลขฐาน 16 ที่แสดงลำดับไบต์ของเครือข่ายของที่อยู่ IPv4 และ/หรือที่อยู่ IPv6 ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายปัจจุบัน หากเครือข่ายจัดการโดยนโยบาย |
| ที่อยู่ IPv4 จะมีค่า 0010 นำหน้า ส่วนที่อยู่ IPv6 จะมี 0020 นำหน้า สำหรับเครือข่ายแบบ 2 สแต็ก ระบบจะใช้ทั้งที่อยู่ IPv4 และ IPv6 เพื่อแทนที่ตัวยึดตำแหน่ง ระบบจะเพิ่มที่อยู่หลายรายการต่อกันโดยไม่มีตัวคั่น สำหรับผู้ใช้นอกโดเมน การแทนที่จะเกิดขึ้นเฉพาะในกรณีที่เครือข่ายได้รับการจัดการโดยนโยบายผู้ใช้เท่านั้น หากแทนที่ตัวยึดตำแหน่งที่อยู่ IP ด้วยที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ไม่ได้ ระบบจะแทนที่ตัวยึดตำแหน่งด้วยสตริงว่าง |
| |
| หากตั้งค่า <ph name="DOH_MODE_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="SECURE_DNS_MODE_SECURE" /> ก็ต้องตั้งค่านโยบายนี้หรือ <ph name="DOH_TEMPLATES_POLICY_NAME" /> และนโยบายต้องไม่ว่างเปล่า |
| |
| หากตั้งค่า <ph name="DOH_MODE_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="SECURE_DNS_MODE_AUTOMATIC" /> และตั้งค่านโยบายนี้ด้วย ระบบก็จะใช้เทมเพลต URI ที่ระบุไว้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การจับคู่แบบฮาร์ดโค้ดเพื่อพยายามอัปเกรดรีโซลเวอร์ DNS ปัจจุบันของผู้ใช้เป็นรีโซลเวอร์ DoH ที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายเดียวกัน |
| |
| หากเทมเพลต URI มีตัวแปร <ph name="HTTP_VARIABLE_DNS" /> คำขอที่ส่งไปยังรีโซลเวอร์จะใช้ <ph name="HTTP_METHOD_GET" /> หากไม่มี คำขอจะใช้ <ph name="HTTP_METHOD_POST" /> |
| |
| ในเวอร์ชัน 114 ขึ้นไป <ph name="DOH_SALT_POLICY_NAME" /> เป็นนโยบายที่ไม่บังคับหากมีการตั้งค่านโยบายนี้ไว้</translation> |
| <translation id="219297066914002620">สั่งให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เปิดใช้หรือปิดใช้เครื่องมือคอนโซลสำหรับการจัดการเครื่องเสมือน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะใช้ CLI การจัดการ VM ได้ |
| หรือไม่เช่นนั้น CLI การจัดการ VM ทั้งหมดจะถูกปิดใช้และซ่อนไว้ |
| </translation> |
| <translation id="2194051055390000601">นโยบายสำหรับควบคุมว่าจะปิดใช้การตั้งค่าหัวข้อโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดการตั้งค่าหัวข้อโฆษณาสำหรับผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการตั้งค่าหัวข้อโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้กำหนดให้ต้องตั้งค่านโยบาย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_PROMPT_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้"</translation> |
| <translation id="2195032660890227692">เราได้นำนโยบายนี้ออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> 68 และใช้ <ph name="ARC_BR_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2197625019569762163">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะแสดงแป้นพิมพ์ตัวเลขโดยค่าเริ่มต้นสำหรับใส่รหัสผ่านในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้ยังคงสลับไปเป็นแป้นพิมพ์ปกติได้ |
| |
| ถ้าคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า หรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" ก็จะไม่มีผลอะไร</translation> |
| <translation id="2200698565850397198">กำหนดค่ารายการที่บล็อกสำหรับการรับส่งข้อความดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="220157212534775145">เปิดใช้อินเทอร์เฟซแบบไม่พร้อมกันที่เลิกใช้งานแล้วสำหรับ <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> ใน File System Access API อีกครั้ง</translation> |
| <translation id="2202787915587511214">เปิด NTLMv2</translation> |
| <translation id="2204379573346866896">นาทีที่ผ่านไปในชั่วโมงปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="2204753382813641270">ควบคุมการซ่อนชั้นวางอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="2208976000652006649">พารามิเตอร์สำหรับ URL ค้นหาที่ใช้ POST</translation> |
| <translation id="2212011154693551439">หน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จะปรากฏที่ chrome://history/grouped โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2213059592185933570">เปิดใช้การสร้างโปรไฟล์โรมมิ่ง</translation> |
| <translation id="2213342458177721585">เปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดีสำหรับทั้งอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2215238871726750562">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ป้องกันไม่ให้หน้าต่างเบราว์เซอร์เปิดขึ้นมาเมื่อเริ่มเซสชัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าทำให้หน้าต่างเปิดขึ้นมา |
| |
| โปรดทราบว่าหน้าต่างเบราว์เซอร์อาจไม่เปิดขึ้นมาเนื่องจากนโยบายหรือการติดธงบรรทัดคำสั่งอื่นๆ</translation> |
| <translation id="2215471798823435557">การกำหนดค่านโยบายนี้ช่วยให้คุณระบุรูปแบบต่างๆ ที่อนุญาตให้ใช้กับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่จัดการโดยองค์กรได้ |
| |
| รูปแบบต่างๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้เสนอการแก้ไข <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้โดยไม่ต้องส่งเวอร์ชันใหม่ด้วยการเลือกเปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=Manage_the_Chrome_variations_framework |
| |
| การตั้งค่า <ph name="VARIATIONS_ENABLED_OPTION_NAME" /> (ค่า 0) หรือไม่ตั้งค่านโยบายจะเป็นการอนุญาตให้ใช้รูปแบบใดก็ได้กับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่า <ph name="CRITICAL_VARIATIONS_ONLY_OPTION_NAME" /> (ค่า 1) จะอนุญาตให้ใช้เฉพาะรูปแบบที่ถือว่าเป็นการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากหรือการแก้ไขด้านความเสถียรกับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| การตั้งค่า <ph name="VARIATIONS_DISABLED_OPTION_NAME" /> (ค่า 2) จะไม่อนุญาตให้ใช้รูปแบบใดก็ตามกับเบราว์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ โปรดทราบว่าโหมดนี้อาจขัดขวางไม่ให้นักพัฒนาแอปของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ทำการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากได้อย่างทันท่วงที และด้วยเหตุนี้จึงไม่แนะนำให้ใช้โหมดนี้</translation> |
| <translation id="2215746393279570703">การตั้งค่า SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2221779615493499989">รายงานสถานะเครือข่ายของผู้ใช้ในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะมีการรายงานสถานะเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2223393221350938149">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้ JIT ใน JavaScript</translation> |
| <translation id="2223598546285729819">การตั้งค่าการแจ้งเตือนเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2224706708550115831">อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงรายการ URL ในเบราว์เซอร์ได้ในขณะที่ VPN แบบเปิดตลอดเวลาในโหมดเข้มงวดเปิดใช้งานอยู่พร้อมกับเปิดใช้การปิดล็อกและไม่มีการเชื่อมต่อ VPN ดังกล่าว</translation> |
| <translation id="222673035924187991">เปิดใช้ ClientHello ที่เข้ารหัสตาม TLS</translation> |
| <translation id="2231817271680715693">นำเข้าประวัติการเรียกดูจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="2231962946025538735">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมความพร้อมใช้งานของปลั๊กอิน Flash และใช้ <ph name="ALWAYS_OPEN_PDF_EXTERNALLY_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมว่าควรใช้โปรแกรมดู PDF ที่ผสานรวมในการเปิดไฟล์ PDF หรือไม่ |
| |
| ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ใช้อักขระไวลด์การ์ด "*" และ "?" เพื่อจับคู่กับอักขระต่างๆ ที่เรียงกันอย่างอิสระได้ "*" จะจับคู่กับอักขระกี่ตัวก็ได้ ส่วน "?" จะระบุอักขระตัวเดียวซึ่งจะมีหรือไม่ก็ได้ กล่าวคือจับคู่กับอักขระ 0 หรือ 1 ตัวนั่นเอง อักขระหลีกคือ "\" ดังนั้นในกรณีที่ต้องการจับคู่กับอักขระ "*", "?" หรือ "\" จริงๆ ก็วาง "\" ไว้ข้างหน้าอักขระดังกล่าวได้ |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะนำรายการปลั๊กอินที่ระบุมาใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ ผู้ใช้เปิดหรือปิดใช้ปลั๊กอินเหล่านั้นได้ใน "about:plugins" แม้ว่าปลั๊กอินนั้นจะตรงกับรูปแบบใน DisabledPlugins ก็ตาม นอกจากนี้ยังเปิดหรือปิดใช้ปลั๊กอินที่ไม่ตรงกับรูปแบบใดๆ ใน DisabledPlugins, DisabledPluginsExceptions และ EnabledPlugins ได้ด้วย |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่ออนุญาตการบล็อกปลั๊กอินที่เข้มงวดในกรณีที่รายการ "DisabledPlugins" มีรายการที่เป็นอักขระไวลด์การ์ด เช่น ปิดใช้ปลั๊กอินทั้งหมด "*" หรือปิดใช้ปลั๊กอิน Java ทั้งหมด "*Java*" แต่ผู้ดูแลระบบต้องการเปิดใช้ปลั๊กอินบางเวอร์ชัน เช่น "IcedTea Java 2.3" ก็ระบุเฉพาะปลั๊กอินเวอร์ชันนี้ในนโยบายได้ |
| |
| โปรดทราบว่าต้องยกเว้นทั้งชื่อปลั๊กอินและชื่อกลุ่มของปลั๊กอิน ปลั๊กอินแต่ละกลุ่มจะแสดงแยกกันคนละส่วนใน about:plugins และแต่ละส่วนมีปลั๊กอินได้มากกว่า 1 รายการ ตัวอย่างเช่น ปลั๊กอิน "Shockwave Flash" เป็นของกลุ่ม "Adobe Flash Player" และทั้ง 2 ชื่อต้องมีชื่อที่ตรงกันในรายการข้อยกเว้นหากจะยกเว้นปลั๊กอินดังกล่าวจากรายการที่บล็อก |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะล็อกปลั๊กอินใดก็ตามที่ตรงกับรูปแบบใน "DisabledPlugins" เป็นปิดใช้และผู้ใช้จะเปิดใช้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2236488539271255289">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ตั้งค่าข้อมูลในตัวเครื่อง</translation> |
| <translation id="2236593201136596376">อนุญาตให้รวบรวมบันทึกข้อความ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="2237258181338466053">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะพยายามเปิด URL บางรายการในเบราว์เซอร์สำรอง เช่น <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ฟีเจอร์นี้กำหนดค่าโดยใช้นโยบายในกลุ่ม <ph name="LEGACY_BROWSER_SUPPORT_POLICY_GROUP" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่พยายามเปิด URL ที่กำหนดในเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="2237705286848619561">หากเปิดใช้นโยบายนี้ เซสชันการสนับสนุนจากระยะไกลขององค์กรที่เริ่มต้นโดยผู้ดูแลระบบจะอนุญาตให้มีการโอนไฟล์ระหว่างไคลเอ็นต์และโฮสต์ |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อสถานการณ์การเข้าถึงระยะไกล |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" จะทําให้โอนไฟล์ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2241498944622759244">ไม่เคยมีการเปิดตัวฟีเจอร์นี้ เราจึงเลิกใช้งานนโยบายนี้ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือ "ไม่ได้ตั้งค่า" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะแนะนำหน้าที่เกี่ยวข้องกับหน้าปัจจุบัน |
| โดยดึงข้อมูลการแนะนำแบบระยะไกลจากเซิร์ฟเวอร์ของ Google |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" จะไม่มีการดึงข้อมูลหรือแสดงคำแนะนำ</translation> |
| <translation id="2244674148015569802">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงอุปกรณ์ซีเรียล USB ซึ่งมีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> และ <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> จะทำให้เว็บไซต์ดังกล่าวมีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ที่มีรหัสผู้ให้บริการตรงกับช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> แต่มีรหัสผลิตภัณฑ์ใดก็ได้ |
| |
| URL ต้องใช้การได้ มิเช่นนั้น นโยบายจะไม่มีผล ระบบพิจารณาเฉพาะต้นทาง (รูปแบบ โฮสต์ และพอร์ต) ของ URL เท่านั้น |
| |
| ใน Chrome OS นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่เชื่อมโยงเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้าง <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" />, <ph name="SERIAL_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" />, <ph name="SERIAL_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และค่ากำหนดของผู้ใช้ |
| |
| รวมถึงจะมีผลเฉพาะกับสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ผ่าน Web Serial API เท่านั้น หากต้องการให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ผ่าน WebUSB API ให้ดูนโยบาย <ph name="WEB_USB_ALLOW_DEVICES_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="2246565294817797392">บล็อกคุกกี้ที่ตัดให้สั้นลง</translation> |
| <translation id="2246621891161157804">อนุญาตให้ Chrome บล็อกการเรียกออกไปยังโปรโตคอลนอก iframe ที่ทำแซนด์บ็อกซ์</translation> |
| <translation id="224750967938323855">ไม่แสดงความยินยอมในการซิงค์ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="2252400912879027343">WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัยจะยังคงใช้งานได้จนถึงเวอร์ชัน M109 จากนั้นจะใช้งานไม่ได้เริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน M110</translation> |
| <translation id="225340736558643885">เปิดใช้คำเตือนสำหรับฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="225347142757323162">เปิดใช้ฟีเจอร์แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลเพื่อช่วยฝึกโมเดล AI</translation> |
| <translation id="2258126710006312594">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลโอนไฟล์ไปยัง/จากโฮสต์</translation> |
| <translation id="225830954785359083">ป้องกันไม่ให้หน้าเว็บแสดงป๊อปอัปในระหว่างการยกเลิกการโหลด</translation> |
| <translation id="2261648512244797294">ปิดใช้การพิมพ์ Privet ที่เลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="2266422599396179941">อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งความคิดเห็น</translation> |
| <translation id="2268891553068901979">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะปิดการซิงค์ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ในแอป Files ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เมื่ออุปกรณ์ใช้การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ ระบบจะซิงค์ข้อมูลกับ Google ไดรฟ์เมื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรืออีเทอร์เน็ตเท่านั้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้โอนไฟล์ไปยัง Google ไดรฟ์ขณะเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือได้</translation> |
| <translation id="2269319728625047531">เปิดใช้การแสดงการขอคำยินยอมให้ซิงค์ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="2269837888511509900">เปิดใช้การแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2270747976331889601">เปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัย TLS 1.3 สำหรับ Trust Anchor ในพื้นที่</translation> |
| <translation id="2273993844348404990">นโยบายนี้แสดงรายการเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ทางลัดในแถบที่อยู่ ผู้ใช้เริ่มการค้นหาได้โดยการพิมพ์ทางลัดหรือ @ทางลัด (เช่น @งาน) ตามด้วยเว้นวรรคหรือ Tab ในแถบที่อยู่ |
| |
| ต้องระบุข้อมูลในช่องต่อไปนี้สำหรับแต่ละเว็บไซต์: <ph name="NAME_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" />, <ph name="SHORTCUT_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" />, <ph name="URL_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" /> |
| |
| ช่อง <ph name="NAME_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" /> สอดคล้องกับชื่อเว็บไซต์หรือเครื่องมือค้นหาที่จะแสดงให้ผู้ใช้เห็นในแถบที่อยู่ |
| |
| <ph name="SHORTCUT_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" /> มีคำและอักขระธรรมดาได้ แต่ต้องไม่มีการเว้นวรรคหรือเริ่มต้นด้วยสัญลักษณ์ @ และทางลัดต้องไม่ซ้ำกันด้วย |
| |
| ช่อง <ph name="URL_SITE_SEARCH_SETTINGS_FIELD" /> ของแต่ละรายการจะระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ในระหว่างการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง URL ดังกล่าวต้องมีสตริง <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ซึ่งข้อความค้นหาของผู้ใช้จะมาแทนที่ในการค้นหา ระบบจะไม่สนใจข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและข้อมูลที่มีทางลัดซ้ำกัน |
| |
| รายการการค้นหาเว็บไซต์ที่กำหนดค่าไว้เป็น "แนะนำ" จะแสดงในแถบที่อยู่เมื่อผู้ใช้พิมพ์ "@" โดยสามารถเลือกรายการแนะนำได้สูงสุด 3 รายการ |
| |
| ผู้ใช้จะแก้ไขหรือปิดใช้รายการการค้นหาเว็บไซต์ที่นโยบายกำหนดไม่ได้ แต่จะเพิ่มทางลัดใหม่สำหรับ URL เดียวกันได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ไม่สามารถสร้างรายการการค้นหาเว็บไซต์ใหม่โดยใช้ทางลัดที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ผ่านทางนโยบายนี้ |
| |
| ในกรณีที่ขัดแย้งกับทางลัดที่ผู้ใช้สร้างไว้ก่อนหน้านี้ การตั้งค่าของผู้ใช้จะมีความสำคัญเหนือกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงเรียกใช้ตัวเลือกที่นโยบายสร้างขึ้นได้โดยพิมพ์ "@" ในแถบค้นหา เช่น หากผู้ใช้กำหนด "งาน" เป็นทางลัดไปยัง URL1 ไว้แล้ว และนโยบายกำหนด "งาน" เป็นทางลัดไปยัง URL2 การพิมพ์คำว่า "งาน" ในแถบค้นหาจะเริ่มการค้นหาไปยัง URL1 แต่การพิมพ์ "@งาน" ในแถบค้นหาจะเริ่มการค้นหาไปยัง URL2 |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="22754818344448444">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเลย์เอาต์เทมเพลตเดสก์ที่จะโหลด</translation> |
| <translation id="2277117728011250860">ไม่อนุญาตให้ใช้การกรองประสิทธิภาพการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="2279381650184876122">ปิดใช้การรองรับ URL ข้อมูลใน SVGUseElement</translation> |
| <translation id="2281496157391382819"> ควบคุมคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวของเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้งานคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและการแจ้งเตือนการเรียกใช้อัตโนมัติในเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการ |
| |
| ไม่ควรใช้นโยบายนี้กับอุปกรณ์ที่สาธารณชนใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่า ระบบจะปักหมุดการแจ้งเตือนของคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวในเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการซึ่งเรียกใช้อัตโนมัติไว้จนกว่าผู้ใช้จะปิด</translation> |
| <translation id="2281878365805647176">การตั้งค่านโยบายจะเปิดฟีเจอร์การลงชื่อเข้าใช้แบบจำกัดของ Chrome ใน <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเข้าถึงเครื่องมือของ Google ได้โดยใช้บัญชีจากโดเมนที่ระบุเท่านั้น (หากต้องการอนุญาตบัญชี gmail หรือ googlemail ให้เพิ่ม consumer_accounts ลงในรายการโดเมน) การตั้งค่านี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้และเพิ่มบัญชีรองในอุปกรณ์ที่จัดการซึ่งต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์จาก Google หากบัญชีดังกล่าวไม่ได้อยู่ในโดเมนที่อนุญาตอย่างชัดแจ้ง |
| |
| การปล่อยให้การตั้งค่านี้ว่างหรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้เข้าถึง <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> ด้วยบัญชีใดก็ได้ |
| |
| ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ส่งผลให้ต้องเติมส่วนหัว X-GoogApps-Allowed-Domains ในคำขอ HTTP และ HTTPS ทั้งหมดที่ส่งไปยังโดเมน google.com ทั้งหมดตามที่อธิบายไว้ใน https://support.google.com/a/answer/1668854</translation> |
| <translation id="2282174652047982960">ใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวเสมอ หากมี</translation> |
| <translation id="2288506601233091655">ไม่อนุญาตให้ลบประวัติงานพิมพ์</translation> |
| <translation id="2289688405312849186">ผู้ใช้หลัก "user@realm" ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="LOGIN_ID_PLACEHOLDER" /> นั้นแทนที่โดยชื่อผู้ใช้ "user" ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="LOGIN_EMAIL_PLACEHOLDER" /> นั้นแทนที่โดยผู้ใช้หลักแบบเต็ม "user@realm"</translation> |
| <translation id="2290270645214705008">หากปิดใช้นโยบายนี้ บริการโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลจะไม่สามารถเริ่มต้นหรือกำหนดค่าให้ยอมรับการเชื่อมต่อขาเข้า นโยบายนี้ไม่มีผลต่อสถานการณ์การสนับสนุนระยะไกล |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ปล่อยว่างไว้ หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="229322770310505679">เปิดใช้แนวคิดนโยบายที่มาจากกลุ่มขนาดเล็ก</translation> |
| <translation id="22941467117331786">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" แสดงปุ่มออกจากระบบสีแดงขนาดใหญ่ในถาดระบบระหว่างที่เซสชันดำเนินอยู่และหน้าจอไม่ได้ล็อก |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าจะไม่มีปุ่มใดแสดง</translation> |
| <translation id="2294382669900758280">ไม่มีการพิจารณาการเล่นวิดีโอในแอป Android แม้ว่าจะตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="TRUE" /> ก็ตาม</translation> |
| <translation id="2296600623052658741">การตั้งค่านโยบายช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่สามารถใช้สิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ดสำหรับเว็บไซต์ได้ ทั้งนี้ไม่รวมการดำเนินการเกี่ยวกับคลิปบอร์ดทั้งหมดในต้นทางที่ตรงกับรูปแบบในรายการ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้จะยังวางโดยใช้แป้นพิมพ์ลัดได้อยู่เนื่องจากไม่ถูกกั้นโดยสิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ดสำหรับเว็บไซต์ |
| |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_CLIPBOARD_SETTING" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="2299220924812062390">ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="2299815818824242485">ไม่อนุญาตการค้นหาผ่านพร็อกซีที่มีการปกป้องสูงขึ้น</translation> |
| <translation id="2303795211377219696">เปิดใช้ "ป้อนข้อความอัตโนมัติ" สำหรับบัตรเครดิต</translation> |
| <translation id="2304009805995145854">ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 67 การแยกเว็บไซต์จะเปิดใช้ไว้โดยค่าเริ่มต้นในแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปทั้งหมด ซึ่งทำให้ทุกเว็บไซต์ทำงานด้วยกระบวนการของตนเองได้ เว็บไซต์อยู่ในรูปแบบบวก eTLD+1 (เช่น https://example.com) การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ไม่ได้เปลี่ยนลักษณะการทำงานดังกล่าว เพียงแต่ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เลือกไม่ใช้ (เช่น การใช้ Disable site isolation (ปิดใช้การแยกเว็บไซต์) ใน chrome://flags) ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 76 การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่ปิดการแยกเว็บไซต์ แต่จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเลือกไม่ใช้ได้ |
| |
| <ph name="ISOLATE_ORIGINS_POLICY_NAME" /> อาจเป็นประโยชน์ในการแยกต้นทางเฉพาะบางแห่งในระดับที่ละเอียดกว่าเว็บไซต์ด้วย (เช่น https://a.example.com) |
| |
| ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 76 และเวอร์ชันก่อนหน้า ให้ตั้งค่านโยบายด้านอุปกรณ์ <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_SITE_PER_PROCESS_POLICY_NAME" /> ด้วยค่าเดียวกันนี้ (หากค่าไม่ตรงกัน อาจเกิดความล่าช้าเมื่อเข้าสู่เซสชันของผู้ใช้) |
| |
| หมายเหตุ: สำหรับ Android ให้ใช้นโยบาย <ph name="SITE_PER_PROCESS_ANDROID_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2306505001667207184">แสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์เมื่อนโยบายการเลือกอัตโนมัติพบใบรับรองที่ตรงกันหลายรายการ</translation> |
| <translation id="230713790688681130">เปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดี</translation> |
| <translation id="2307496301287881990">รายงานสถานะการแสดงผลและกราฟิก</translation> |
| <translation id="2309284543927494965">บล็อกการอัปเดต</translation> |
| <translation id="2309341709647905294">ไม่ต้องรายงานข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เสียบเข้ากับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2309390639296060546">การตั้งค่าตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2310254963100942637">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ส่งและรับรหัสผ่านจากสมาชิกในครอบครัว (ตามบริการครอบครัว) ได้ |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะแสดงปุ่มในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเพื่ออนุญาตให้ส่งรหัสผ่านได้ |
| รหัสผ่านที่ได้รับจะเก็บไว้ในบัญชีของผู้ใช้และพร้อมให้ใช้งานในเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้จะส่งรหัสผ่านจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านให้ผู้ใช้รายอื่นไม่ได้และจะไม่ได้รับรหัสผ่านจากผู้ใช้รายอื่น |
| |
| ฟีเจอร์นี้จะใช้งานไม่ได้หากการซิงค์รหัสผ่านปิดอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นการปิดผ่านการตั้งค่าของผู้ใช้หรือการปิดเนื่องจากนโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED" /> เปิดใช้อยู่)</translation> |
| <translation id="2316700579410680894">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุรูปแบบ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงอุปกรณ์ USB ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่กำหนด รูปแบบแต่ละรายการต้องระบุทั้งช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> และ <ph name="URLS_FIELD_NAME" /> นโยบายจึงจะมีผล รูปแบบแต่ละรายการในช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> อาจระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> และ <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่อง การไม่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่มีรหัสผู้ให้บริการที่กำหนด นโยบายที่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> แต่ไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| โมเดลสิทธิ์ USB จะให้สิทธิ์ URL ที่ระบุในการเข้าถึงอุปกรณ์ USB เป็นต้นทางระดับบนสุด หากเฟรมแบบฝังจำเป็นต้องเข้าถึงอุปกรณ์ USB ควรใช้ส่วนหัว <ph name="FEATURE_POLICY_HEADER_NAME" /> ของ "usb" เพื่อให้สิทธิ์เข้าถึง URL ต้องใช้การได้ มิเช่นนั้น นโยบายจะไม่มีผล |
| |
| เลิกใช้งาน: โมเดลสิทธิ์ USB ที่ใช้เพื่อรองรับการระบุทั้ง URL ที่ส่งคำขอและ URL ที่มีการฝัง เราเลิกใช้งานโมเดลนี้แล้วและรองรับเฉพาะความเข้ากันได้แบบย้อนหลังในลักษณะต่อไปนี้ ได้แก่ ในกรณีที่มีการระบุทั้ง URL ที่ส่งคำขอและ URL ที่มีการฝัง ระบบจะให้สิทธิ์แก่ URL ที่มีการฝังเป็นต้นทางระดับบนสุดและไม่พิจารณา URL ที่ส่งคำขอ |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้าง <ph name="DEFAULT_WEB_USB_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" />, <ph name="WEB_USB_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" />, <ph name="WEB_USB_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และค่ากำหนดของผู้ใช้ |
| |
| รวมถึงจะมีผลเฉพาะกับสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ผ่าน WebUSB API เท่านั้น หากต้องการให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ผ่าน Web Serial API ให้ดูนโยบาย <ph name="SERIAL_ALLOW_USB_DEVICES_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="2318583605563438459">อนุญาตให้ผู้ปกครองเพิ่มบัญชีที่มีการควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="2326031114717677574">อัตราที่ใช้ในการสุ่มตัวอย่างและรวบรวมข้อมูลเสียง ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 15 นาที</translation> |
| <translation id="2333228572393176330">นโยบายนี้ควบคุมฟีเจอร์ความปลอดภัยใน TLS 1.3 ซึ่งปกป้องการเชื่อมต่อจากการโจมตีแบบดาวน์เกรด โดยจะใช้งานย้อนหลังได้และไม่ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์หรือพร็อกซี TLS 1.2 ที่เข้ากันได้ อย่างไรก็ตาม พร็อกซีสำหรับดักจับข้อมูล TLS บางตัวในเวอร์ชันเก่ามีข้อบกพร่องในการใช้งานซึ่งทำให้ใช้งานร่วมกันไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเปิดใช้การรักษาความปลอดภัยเหล่านี้สำหรับการเชื่อมต่อทั้งหมด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะปิดใช้การรักษาความปลอดภัยเหล่านี้สำหรับการเชื่อมต่อที่ตรวจสอบสิทธิ์ด้วยใบรับรอง CA ที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง การรักษาความปลอดภัยเหล่านี้จะเปิดใช้อยู่เสมอสำหรับการเชื่อมต่อที่ตรวจสอบสิทธิ์ด้วยใบรับรอง CA ที่ได้รับความเชื่อถือจากสาธารณะ |
| |
| มีการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นสำหรับนโยบายนี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 81 จาก "เท็จ" เป็น "จริง" คาดว่าพร็อกซีที่ได้รับผลกระทบจะทำให้การเชื่อมต่อไม่สำเร็จโดยมีรหัสข้อผิดพลาด ERR_TLS13_DOWNGRADE_DETECTED ผู้ดูแลระบบที่ต้องการเวลามากขึ้นในการอัปเกรดพร็อกซีที่ได้รับผลกระทบอาจใช้นโยบายนี้เพื่อปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยนี้ชั่วคราว เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน 86 |
| </translation> |
| <translation id="2334744362022255283">อนุญาตให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่อนุญาตให้แสดงเนื้อหาผสม (เช่น เนื้อหา HTTP ในเว็บไซต์ HTTPS) ที่บล็อกได้ (เช่น แบบแอ็กทีฟ) และที่ระบบจะปิดใช้การอัปเกรดเนื้อหาผสมที่เลือกบล็อกได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะบล็อกเนื้อหาผสมที่บล็อกได้ ส่วนเนื้อหาผสมที่เลือกบล็อกได้จะได้รับการอัปเกรด และผู้ใช้จะตั้งค่าข้อยกเว้นให้แสดงเนื้อหาดังกล่าวในเว็บไซต์ที่เจาะจงได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="2336822410658374491">ปิดการเข้าถึงเมนูตามบริบทของผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2337859888277013371">ไม่อนุญาตให้ใช้แคชย้อนหลัง</translation> |
| <translation id="2341509917222115272">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้จับคู่ไคลเอ็นต์และโฮสต์ในเวลาเชื่อมต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องป้อน PIN ทุกครั้ง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ทำให้ฟีเจอร์นี้ไม่พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="2342066287156668839">เปิดใช้โควต้าถาวร</translation> |
| <translation id="2345547870894930157">เปิดใช้โหมด DNS-over-HTTPS ที่ไม่มีการถอยหลังกลับที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="2347695338560092641">อนุญาตไดรเวอร์การพิมพ์นอกกระบวนการ</translation> |
| <translation id="234856189825555040">นโยบายนี้ควบคุมว่าปลั๊กอิน <ph name="PEPPER_NAME" /> จะสามารถใช้เครื่องมือถอดรหัสใหม่เพื่อสื่อสารกับเครื่องมือถอดรหัสฮาร์ดแวร์แทนเครื่องมือถอดรหัสวิดีโอเดิมได้หรือไม่ |
| |
| การย้ายข้อมูลจะส่งผลต่อรายละเอียดการใช้งานภายในเท่านั้น และไม่ควรเปลี่ยนลักษณะการทำงานใดๆ อย่างไรก็ตาม คุณจะใช้นโยบายนี้ได้ในกรณีที่แอปพลิเคชัน PPAPI ไม่ทำงานตามที่คาดไว้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" เบราว์เซอร์จะตัดสินใจว่าจะใช้การติดตั้งใช้งานรายการใด |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" เบราว์เซอร์จะใช้การใช้งานเดิมจนกว่านโยบายนี้จะหมดอายุ |
| |
| หากคุณต้องใช้นโยบาย โปรดรายงานข้อบกพร่องใน crbug.com โดยอธิบาย Use Case และสำเนาถึง {andrescj, blundell, pmolinalopez, vasilyt}@chromium.org นโยบายนี้มีกำหนดเวลาที่จะให้บริการผ่าน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 114 ซึ่งหลังจากนั้นระบบจะนำการใช้งานเดิมออก |
| |
| หมายเหตุ: เฉพาะกระบวนการแสดงผลที่เพิ่งเริ่มใหม่เท่านั้นที่จะแสดงการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ขณะที่เบราว์เซอร์ทำงานอยู่</translation> |
| <translation id="2354439478396602136">แสดงการแนะนำแอปใน Launcher ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />"</translation> |
| <translation id="2355876547176311490">ปิดใช้รีเลย์เซิร์ฟเวอร์โดยโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="2358176879566587521">เรานำนโยบายนี้ออกแล้ว เพราะใช้กับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันนี้ไม่ได้ อ่านเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a/answer/7643500</translation> |
| <translation id="235987002603620567">NewBaseUrlInheritanceBehavior เป็นฟีเจอร์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่ทำให้เฟรม <ph name="ABOUT_BLANK_PAGE" /> และ <ph name="ABOUT_SRCDOC_PAGE" /> รับค่า URL ฐานผ่านสแนปชอต URL ฐานของผู้เริ่มอย่างต่อเนื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://chromestatus.com/feature/5161101671530496 |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้หรือ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันต่างๆ เปิดใช้ NewBaseUrlInheritanceBehavior ในกรณีที่พบปัญหาด้านความเข้ากันได้ เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะเป็นการอนุญาตให้เปิดใช้ NewBaseUrlInheritanceBehavior</translation> |
| <translation id="2362469626417133796">กรอบเวลาการเปิดอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="2362539163677485510">โทเค็นการลงทะเบียนของนโยบายระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="2363928351203698966">การตั้งค่านโยบายด้วยค่าที่ถูกต้องจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ใช้ SSL/TLS เวอร์ชันต่ำกว่าเวอร์ชันที่ระบุ ระบบจะไม่สนใจค่าที่ไม่รู้จัก |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ก็จะแสดงข้อผิดพลาดสำหรับ TLS 1.0 และ TLS 1.1 แต่ผู้ใช้จะข้ามไปได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "tls1.2" ผู้ใช้จะข้ามข้อผิดพลาดนี้ไปไม่ได้ |
| |
| การรองรับการตั้งค่านโยบายนี้เป็น "tls1" หรือ "tls1.1" ถูกนำออกในเวอร์ชัน 91 ไม่รองรับการซ่อนคำเตือน TLS 1.0/1.1 อีกต่อไป</translation> |
| <translation id="2364639863953745682">โหมดของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant</translation> |
| <translation id="2366301887862414321">อนุญาตทั้งโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมระดับผู้ใช้และระดับระบบ</translation> |
| <translation id="2373014700224092497">อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Kerberos</translation> |
| <translation id="2376134474855349829">ปิดใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="2376151922689284770">ชื่อที่จะแสดงใน UI ของโปรแกรมติดตั้ง เช่น Happy VM หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ ระบบจะแสดงชื่อสำรอง ซึ่งอาจมาจากรายการแรก (ตามลำดับที่แสดง) ในนโยบาย BruschettaVMConfiguration หากไม่มี ก็จะแสดงชื่อทั่วไป</translation> |
| <translation id="2376278121995306084">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่แสดงการแจ้งเตือนได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_NOTIFICATIONS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="2377109572344699022">ควบคุมการใช้ Direct Sockets API</translation> |
| <translation id="2382672620906337383">ระบบจะไม่บีบ setTimeout() ของ JavaScript จนกว่าเกณฑ์ที่ซ้อนอยู่จะสูงขึ้น</translation> |
| <translation id="2384233438419344179">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้องค์ประกอบหน้าเว็บที่ไม่ได้มาจากโดเมนในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ตั้งค่าคุกกี้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้องค์ประกอบเหล่านั้นตั้งค่าคุกกี้ได้และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะเปิดใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="2386362615870139244">อนุญาตล็อกปลุกหน้าจอ</translation> |
| <translation id="2387469539700985783">นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการรายงานที่ดำเนินการโดย Android</translation> |
| <translation id="2388701318721126001">หากปิดใช้นโยบายนี้จะทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกรูปภาพวอลเปเปอร์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จากอัลบั้มใน Google Photos ได้ |
| |
| ผู้ใช้จะเลือกรูปภาพใน Google Photos เป็นวอลเปเปอร์ได้หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="2393862222659066027">เปิดรายการ URL และคืนค่าเซสชันล่าสุด</translation> |
| <translation id="239416486107542256">การตั้งค่า F11 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Ctrl และ Shift</translation> |
| <translation id="2394429297128584919">ไม่อนุญาตให้หน้าเว็บส่งคำขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บ</translation> |
| <translation id="2399987589969059485">การกำหนดค่านโยบายนี้จะอนุญาตให้ระบุรูปแบบที่อนุญาตให้ใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| รูปแบบต่างๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้เสนอการแก้ไข <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้โดยไม่ต้องส่งเบราว์เซอร์เวอร์ชันใหม่ด้วยการเลือกเปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=Manage_the_Chrome_variations_framework |
| |
| การตั้งค่า <ph name="VARIATIONS_ENABLED_OPTION_NAME" /> (ค่า 0) หรือไม่ตั้งค่านโยบายจะอนุญาตให้ใช้รูปแบบทั้งหมดกับเบราว์เซอร์ได้ |
| |
| การตั้งค่า <ph name="CRITICAL_VARIATIONS_ONLY_OPTION_NAME" /> (ค่า 1) จะอนุญาตให้ใช้เฉพาะรูปแบบที่ถือว่าเป็นการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากหรือการแก้ไขด้านความเสถียรกับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| การตั้งค่า <ph name="VARIATIONS_DISABLED_OPTION_NAME" /> (ค่า 2) จะไม่อนุญาตให้ใช้รูปแบบใดก็ตามกับเบราว์เซอร์ โปรดทราบว่าโหมดนี้อาจขัดขวางไม่ให้นักพัฒนาแอปของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทำการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากได้อย่างทันท่วงที และด้วยเหตุนี้จึงไม่แนะนำให้ใช้โหมดนี้</translation> |
| <translation id="2402537890732357732">แสดงป้ายกำกับการจัดการเสมอ</translation> |
| <translation id="2402547085566757554">ไม่ใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรก</translation> |
| <translation id="240713331529749993">การตั้งค่านโยบายหมายความว่าต้นทางแต่ละแห่งที่มีชื่อในรายการที่คั่นด้วยคอมมาจะทำงานในกระบวนการเฉพาะบน Android กระบวนการของต้นทางแต่ละแห่งที่มีชื่อจะได้รับอนุญาตให้มีเอกสารจากต้นทางนั้นและโดเมนย่อยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การระบุ https://a1.example.com/ จะอนุญาต https://a2.a1.example.com/ ในกระบวนการเดียวกัน แต่ไม่อนุญาต https://example.com หรือ https://b.example.com โปรดทราบว่า Android จะแยกเว็บไซต์ที่มีความละเอียดอ่อนบางเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้นใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 77 เป็นต้นไป และนโยบายนี้จะขยายการทำงานของโหมดดังกล่าวให้แยกต้นทางบางรายการเพิ่มเติม |
| |
| ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 77 คุณจะระบุช่วงต้นทางเพื่อแยกโดยใช้ไวลด์การ์ดได้ด้วย ตัวอย่างเช่น การระบุ https://[*.]corp.example.com จะทำให้ทุกต้นทางภายใต้ https://corp.example.com มีกระบวนการเฉพาะของตนเอง ซึ่งรวมถึง https://corp.example.com, https://a1.corp.example.com และ https://a2.a1.corp.example.com |
| |
| โปรดทราบว่าต้นทางที่แยกโดยนโยบายนี้จะสคริปต์ต้นทางอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกันไม่ได้ แต่จะเป็นไปได้หากเอกสาร 2 รายการของเว็บไซต์เดียวกันแก้ไขค่า document.domain ให้ตรงกัน ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบว่าไม่มีการใช้ลักษณะการทำงานไม่ปกตินี้ในต้นทางก่อนที่จะแยก |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการแยกเว็บไซต์ทุกรูปแบบ เช่น การแยกเว็บไซต์ที่มีความละเอียดอ่อน รวมถึงการทดลองใช้งานจริงของ IsolateOriginsAndroid และ SitePerProcessAndroid ตลอดจนโหมดการแยกเว็บไซต์อื่นๆ ผู้ใช้ยังคงเปิด IsolateOrigins ด้วยตนเองได้ผ่านแฟล็กบรรทัดคำสั่ง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| หมายเหตุ: การแยกเว็บไซต์จำนวนมากเกินไปใน Android อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ที่มีหน่วยความจำน้อย นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับ Chrome ใน Android ที่ทำงานในอุปกรณ์ที่มี RAM มากกว่า 1 GB เท่านั้น หากต้องการใช้นโยบายกับแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ Android ให้ใช้ <ph name="ISOLATE_ORIGINS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="2407758458436268630">อนุญาตให้รูปแบบการหรี่แสงอัจฉริยะขยายเวลาจนกว่าหน้าจอจะหรี่แสง</translation> |
| <translation id="2411629345938804022">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์บลูทูธใกล้เคียงได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์บลูทูธใกล้เคียง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="2411817661175306360">การแจ้งเตือนการป้องกันด้วยรหัสผ่านปิดอยู่</translation> |
| <translation id="2411919772666155530">บล็อกการแจ้งเตือนในไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2413022450179356125">เปิด/ปิดใช้ฟีเจอร์หน้าจอส่วนตัว |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้หน้าจอส่วนตัวเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้หน้าจอส่วนตัวเสมอ |
| |
| หากมีการตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะลบล้างค่าไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้หน้าจอส่วนตัวในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะควบคุมต่อจากนั้นได้</translation> |
| <translation id="2413899611035194909">แสดงตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบของหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2415715982424988916">สำรวจ (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 91)</translation> |
| <translation id="2420958105721932612">ระบุวิธีที่ติดตั้งแอป AVAILABLE: แอปไม่ได้ติดตั้งโดยอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้จะติดตั้งเองได้ โดยจะเป็นค่าเริ่มต้นหากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ FORCE_INSTALLED: แอปจะติดตั้งโดยอัตโนมัติ และผู้ใช้จะถอนการติดตั้งไม่ได้ BLOCKED: แอปถูกบล็อกและติดตั้งไม่ได้ หากแอปถูกติดตั้งเพราะนโยบายก่อนหน้านี้ระบุไว้ แอปจะถูกถอนการติดตั้ง</translation> |
| <translation id="2421400544595297401">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องใช้แอป Android</translation> |
| <translation id="2421677964966613267">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วในรุ่น M88 และ Chrome ไม่รองรับ Flash อีกต่อไป การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เรียกใช้ปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ไม่รองรับรูปแบบที่มีไวลด์การ์ด "*" และ "[*.]" ในโฮสต์อีกแล้วตั้งแต่รุ่น M85</translation> |
| <translation id="2421713016375433338">URL ไปยังรูปภาพที่จะใช้เป็นป้ายองค์กรสำหรับโปรไฟล์ URL ต้องชี้ไปยังรูปภาพ |
| |
| ป้ายนี้จะแสดงในเมนูโปรไฟล์ใต้รูปโปรไฟล์ และจะปรับขนาดรูปภาพให้พอดีกับพื้นที่ขนาด 16x16 ที่เตรียมไว้สําหรับป้าย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะแสดงไอคอนรูปอาคารเริ่มต้นขึ้นมา |
| |
| หากเกิดข้อผิดพลาดในการรับและแสดงภาพ ระบบจะแสดงไอคอนรูปอาคารเริ่มต้นขึ้นมา</translation> |
| <translation id="2421779938235645781">สีไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์สอดคล้องกับวอลเปเปอร์ปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="2423255396068675416">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะให้ผู้ใช้เรียกใช้ <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ได้ตราบใดที่มีการเปิดใช้ <ph name="VIRTUAL_MACHINES_ALLOWED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="CROSTINI_ALLOWED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิด <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ไม่ให้ผู้ใช้ใช้งาน การเปลี่ยนเป็น "ปิดใช้" จะเริ่มใช้นโยบายเพื่อเริ่มคอนเทนเนอร์ <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ใหม่ ไม่ใช่คอนเทนเนอร์ที่ทำงานอยู่แล้ว</translation> |
| <translation id="2423654977291507457">ปิดใช้การผสานรวม</translation> |
| <translation id="242521047682347997">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ซิงค์ข้อความ SMS ระหว่างโทรศัพท์กับ Chromebook</translation> |
| <translation id="2426782419955104525">เปิดใช้ฟีเจอร์ค้นหาทันใจของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะมีการเปิดใช้ "ค้นหาทันใจ" |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะมีการปิดใช้ "ค้นหาทันใจ" |
| |
| หากคุณเปิดหรือปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ |
| |
| หากไม่ได้กำหนดการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ฟังก์ชันนี้ |
| |
| การตั้งค่านี้ได้ถูกนำออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> 29 และเวอร์ชันที่สูงกว่าแล้ว</translation> |
| <translation id="2428819424648741429">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ระบบจะใช้บริการเว็บของ Google เพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของการสะกดคำ นโยบายนี้ควบคุมเฉพาะการใช้บริการออนไลน์เท่านั้น หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่ใช้บริการนี้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้บริการตรวจตัวสะกดหรือไม่ |
| |
| การตรวจตัวสะกดสามารถใช้พจนานุกรมที่ดาวน์โหลดไว้ในเครื่องได้ทุกเมื่อ เว้นแต่จะมีการปิดใช้ฟีเจอร์โดย <ph name="SPELLCHECK_ENABLED_POLICY_NAME" /> ซึ่งในกรณีนี้นโยบายจะไม่ส่งผลกระทบ</translation> |
| <translation id="2433516903565257847">เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มอุปกรณ์ที่ควรได้รับการอัปเดตหลังจากวันที่ระบุ</translation> |
| <translation id="2435052056904485763">รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การมอบสิทธิ์ของ Kerberos</translation> |
| <translation id="2436302465999055995">กำหนดให้ <ph name="LACROS_NAME" /> เป็นเพียงเบราว์เซอร์เดียวที่ใช้ได้ (ยังไม่มีการใช้งาน)</translation> |
| <translation id="2439187682308339104">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ HID ผ่าน WebHID API</translation> |
| <translation id="2439733504887695659">เปิดใช้การปิดการแจ้งเตือนรหัสผ่านที่ถูกละเมิดสำหรับข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ป้อน</translation> |
| <translation id="2446244536806499267">ถือว่าผู้ใช้ยังมีการใช้งานอยู่ขณะเล่นเสียง</translation> |
| <translation id="2452225615952836461">เมธอดคำขอเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทุกครั้ง</translation> |
| <translation id="2454228136871844693">เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อความเสถียร</translation> |
| <translation id="2455033019778127130">ใช้การทำงานเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ แสดงข้อกำหนดในการให้บริการและรอให้ผู้ใช้ยอมรับ</translation> |
| <translation id="2459668012482208475">ฟีเจอร์เหล่านี้ในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้โมเดล Generative AI เพื่อให้ข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องเพิ่มเติม หากต้องการใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะต้องรวบรวมข้อมูล เช่น ข้อความแสดงข้อผิดพลาด สแต็กเทรซ ข้อมูลโค้ด และคำขอเครือข่าย แล้วส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ซึ่งเรียกใช้โมเดล Generative AI เนื้อหาการตอบสนองหรือการตรวจสอบสิทธิ์และส่วนหัวคุกกี้ในคำขอเครือข่ายจะไม่รวมอยู่ในข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| 0 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แล้วส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยัง Google เพื่อช่วยฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI |
| |
| 0 คือค่าเริ่มต้น เว้นแต่จะระบุไว้ด้านล่าง |
| |
| 1 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยัง Google เพื่อฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI ระบบยังไม่รองรับค่านี้อย่างเต็มรูปแบบ และถือว่า "ปิดใช้โดยสมบูรณ์" ในขณะนี้ 1 คือค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| 2 = ปิดใช้ฟีเจอร์ 2 คือค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชี Education ที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ฟีเจอร์ Generative AI ในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บรวมถึง |
| |
| - Console Insights: ฟีเจอร์ที่อธิบายข้อความในคอนโซลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีแก้ไขข้อผิดพลาดของคอนโซล</translation> |
| <translation id="2460127623195247744">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="WINDOW_OCCLUSION_ENABLED_POLICY_NAME" />" แทน |
| |
| เปิดใช้การตรวจหาการบังหน้าต่างในเครื่องที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะตรวจพบเวลาที่หน้าต่างใดก็ตามถูกหน้าต่างอื่นบังอยู่และระงับการระบายสีพิกเซล ทั้งนี้เพื่อลดการใช้ CPU และพลังงาน |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ตรวจหาว่ามีหน้าต่างใดถูกหน้าต่างอื่นบังอยู่หรือไม่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การตรวจหาการบัง</translation> |
| <translation id="2462606868915618110">ตั้งแต่เวอร์ชัน M108 เป็นต้นไป ระบบจะเรียกใช้เมธอด <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> ทั้งหมดแบบพร้อมกัน |
| นโยบายนี้จะเปิดการเรียกใช้เมธอด <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> แบบไม่พร้อมกันอีกครั้งจนถึง M110 |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเรียกใช้เมธอด <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> แบบไม่พร้อมกัน |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเรียกใช้เมธอด <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> ทั้งหมดแบบพร้อมกัน</translation> |
| <translation id="2463034609187171371">เปิดใช้ชุดการเข้ารหัส DHE ใน TLS</translation> |
| <translation id="2463365186486772703">ภาษาของแอปพลิเคชัน</translation> |
| <translation id="2463832514638083341">นโยบายนี้ควบคุมระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลเมตาของงานพิมพ์ในอุปกรณ์โดยมีหน่วยเป็นวัน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น -1 ระบบจะจัดเก็บข้อมูลเมตาของงานพิมพ์อย่างไม่มีกำหนด เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 ระบบจะไม่จัดเก็บข้อมูลเมตาของงานพิมพ์เลย เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่น จะเป็นการระบุระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูลเมตาของงานพิมพ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วในอุปกรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ระยะเวลาเริ่มต้น 90 วันสำหรับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นวัน</translation> |
| <translation id="2466131534462628618">การตรวจสอบสิทธิ์ของแคพทีฟพอร์ทัลจะข้ามพร็อกซีไป</translation> |
| <translation id="2467181864598429837">ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="2467896267442150508">ระยะเวลาที่เกิดขึ้นนานสุด 1 สัปดาห์ หากเวลาเริ่มต้นเกิดขึ้นหลังเวลาสิ้นสุด ระยะเวลาจะวนกลับมาใหม่</translation> |
| <translation id="2476249479201711962">เปิดการเข้าถึงเมนูตามบริบทของผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2478756867046106663">อนุญาตให้เว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมาะสมเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="2479760962196319822">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องได้ไหม |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะบล็อกพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งผู้ใช้จะจัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องและเข้าถึงไดเรกทอรีในเครื่องไม่ได้ |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ โดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับตำแหน่งที่ผู้ใช้จัดเก็บข้อมูลหรือไดเรกทอรีที่เข้าถึงได้</translation> |
| <translation id="2480971699591919564">เปิดใช้ฟีเจอร์คลิกเพื่อโทรซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ส่งหมายเลขโทรศัพท์จาก Chrome ในเดสก์ท็อปไปยังอุปกรณ์ Android ได้เมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูบทความในศูนย์ช่วยเหลือที่ https://support.google.com/chrome/answer/9430554?hl=th |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดใช้ความสามารถในการส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปยังอุปกรณ์ Android สำหรับผู้ใช้ Chrome |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดใช้ความสามารถในการส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปยังอุปกรณ์ Android สำหรับผู้ใช้ Chrome |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์คลิกเพื่อโทรโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2482676533225429905">การรับส่งข้อความดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="2483146640187052324">คาดการณ์การทำงานของเครือข่ายจากการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ</translation> |
| <translation id="2487495476672607707">การซิงค์ไฟล์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะทำให้ไฟล์ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ใน "ไดรฟ์ของฉัน" ของผู้ใช้พร้อมใช้งานแบบออฟไลน์โดยอัตโนมัติ (การอนุญาตพื้นที่) บนอุปกรณ์ <ph name="CHROMEBOOK_PLUS_NAME" /> |
| |
| เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้แล้ว ไฟล์ใหม่ทั้งหมดก็จะใช้งานแบบออฟไลน์ได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน หากในภายหลังมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ระบบจะหยุดทำให้ไฟล์ใหม่ทั้งหมดพร้อมใช้งานแบบออฟไลน์ได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงทำให้รายการต่างๆ พร้อมใช้งานแบบออฟไลน์ด้วยตนเองได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="POLICY_VALUE_VISIBLE" />" จะแสดงการซิงค์ไฟล์ในแอป Files และการตั้งค่า โดยผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการซิงค์ไฟล์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="POLICY_VALUE_DISABLEDE" />" จะปิดการซิงค์ไฟล์หากผู้ใช้เคยเปิดไว้ก่อนหน้านี้ ซ่อนฟีเจอร์นี้จากแอป Files และการตั้งค่าเพื่อไม่ให้ผู้ใช้เปิดใหม่ได้ ไฟล์เดิมที่ผู้ใช้ทำให้ใช้งานแบบออฟไลน์ได้จะยังคงใช้งานแบบออฟไลน์ได้ โดยผู้ใช้ยังคงทำให้รายการต่างๆ พร้อมใช้งานแบบออฟไลน์ด้วยตนเองได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ "<ph name="POLICY_VALUE_VISIBLE" />" เป็นการเลือกเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2489558694350871332">อนุญาตให้อุปกรณ์เรียกใช้เครื่องเสมือน</translation> |
| <translation id="2492240920793040106">เปิดใช้การรายงานข้อมูลระบบและเนื้อหาของหน้าเพื่อช่วยปรับปรุง Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="2496180316473517155">ประวัติการเข้าชมที่เรียกดู</translation> |
| <translation id="2497751676088107779">สคริปต์ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2497965601277442929">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้โหมด "HTTPS เท่านั้น"</translation> |
| <translation id="249798396824949930"> กำหนดว่าจะให้เบราว์เซอร์ตรวจหาขอบเขตนโยบายที่จำเป็นใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ขอบเขตของนโยบายแต่ละรายการจะกำหนดตามขอบเขตของโปรไฟล์ที่มีการจัดการของ <ph name="MAC_OS_NAME" /> |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ระบบจะถือว่านโยบายทั้งหมดเป็นนโยบายขอบเขตระดับเครื่อง |
| |
| นโยบายนี้มีผลชั่วคราวโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนไปใช้นโยบายที่กําหนดขอบเขตอย่างเหมาะสมใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> เป็นไปอย่างราบรื่น และจะถูกนำออกไปใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 107 |
| |
| </translation> |
| <translation id="2498238926436517902">ซ่อนชั้นวางอัตโนมัติเสมอ</translation> |
| <translation id="250022556568924228">การตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดข้อกำหนดในการให้บริการและแสดงต่อผู้ใช้เมื่อมีการเริ่มเซสชันบัญชีภายในอุปกรณ์ ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้เซสชันได้หลังจากที่ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการแล้วเท่านั้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีการแสดงข้อกำหนดในการให้บริการ |
| |
| ควรตั้งค่านโยบายไปยัง URL ที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดข้อกำหนดในการให้บริการได้ ข้อกำหนดในการให้บริการต้องเป็นข้อความธรรมดาที่แสดงเป็นข้อความ/ธรรมดาประเภท MIME และไม่อนุญาตให้ใช้มาร์กอัป</translation> |
| <translation id="250151283451228612">หากเปิดใช้ <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_ENABLED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_BATTERY_THRESHOLD_POLICY_NAME" /> จะกำหนดเกณฑ์ระดับแบตเตอรี่สำหรับการใช้ไฟจากแบตเตอรี่เป็นเปอร์เซ็นต์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้การใช้ไฟจากแบตเตอรี่ปิดอยู่เสมอ</translation> |
| <translation id="2502467045153796624">ลักษณะการทำงานของการดาวน์เกรดเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="250670737672448119">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่ไฮไลต์บริเวณโดยรอบเคอร์เซอร์ข้อความ ขณะที่แก้ไขข้อความ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์ไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="2506865562891982662">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกอุปกรณ์แคสต์ด้วยรหัสการเข้าถึงหรือคิวอาร์โค้ดจากภายในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2509748672176727116">ผู้ใช้จะทำการบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่ายได้</translation> |
| <translation id="2509919237512982967">ใช้ตัวควบคุมแบบฟอร์มเดิมจนถึงเวอร์ชัน M84</translation> |
| <translation id="2512972020817284317">เปิดใช้การรวมนโยบายในระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="2515699738406900920">ความพร้อมใช้งานของเครื่องมือเลือกโปรไฟล์เมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="2517466659416174529">อนุญาตการระงับแท็บที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง</translation> |
| <translation id="2518231489509538392">อนุญาตให้เล่นเสียง</translation> |
| <translation id="2519578205567666653">อนุญาตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก</translation> |
| <translation id="2520551905471951523">ใช้ลำดับความสำคัญสูงกับกระบวนการของเสียง</translation> |
| <translation id="2521581787935130926">แสดงทางลัดของแอปในแถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="2522304491589804974">กำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="2523511232831599126">เปิดใช้ทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="252742292004421898">อนุญาต Direct Sockets API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2529880111512635313">กำหนดค่ารายชื่อแอปและส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง</translation> |
| <translation id="253135976343875019">คำเตือนการไม่ใช้งานล่าช้าเมื่อทำงานโดยใช้ไฟ AC</translation> |
| <translation id="2535370400681639351">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้คำขอการตรวจสอบสิทธิ์ gnubby จะทำผ่านพร็อกซีในการเชื่อมต่อโฮสต์ระยะไกล |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้คำขอการตรวจสอบสิทธิ์ gnubby ไม่ทำผ่านพร็อกซี |
| |
| โปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้ต้องใช้คอมโพเนนต์เพิ่มเติมซึ่งไม่มีให้บริการนอกระบบเครือข่ายของ Google จึงจะทำงานได้อย่างถูกต้อง</translation> |
| <translation id="2536525645274582300">ผู้ใช้ตัดสินใจว่าจะเปิดใช้บริการตำแหน่งของ Google หรือไม่</translation> |
| <translation id="254653220329944566">เปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2547854230073316008">การตั้งค่านโยบายจะตั้งค่าความละเอียดและค่าตัวคูณมาตราส่วนของจอแสดงผลแต่ละจอ การตั้งค่าจอแสดงผลภายนอกจะใช้กับจอแสดงผลที่เชื่อมต่อ (นโยบายจะไม่มีผลหากจอแสดงผลไม่รองรับความละเอียดหรือขนาดที่ระบุ) |
| |
| การตั้งค่า <ph name="EXTERNAL_USE_NATIVE" /> เป็น "จริง" หมายความว่านโยบายจะไม่สนใจ <ph name="EXTERNAL_WIDTH" /> และ <ph name="EXTERNAL_HEIGHT" /> และจะตั้งค่าจอแสดงผลภายนอกเป็นความละเอียดของระบบ การตั้งค่า <ph name="EXTERNAL_USE_NATIVE" /> เป็น "เท็จ" หรือการไม่ตั้งค่ารายการดังกล่าวและ <ph name="EXTERNAL_WIDTH" /> หรือ <ph name="EXTERNAL_HEIGHT" /> หมายความว่านโยบายจะไม่ส่งผลต่อจอแสดงผลภายนอก |
| |
| การตั้งค่าแฟล็กที่แนะนำเป็น "จริง" จะให้ผู้ใช้เปลี่ยนความละเอียดและค่าตัวคูณมาตราส่วนของจอแสดงผลได้จากหน้าการตั้งค่า แต่จะมีการเปลี่ยนการตั้งค่าเมื่อรีบูตครั้งถัดไป การตั้งค่าแฟล็กที่แนะนำเป็น "เท็จ" หรือการไม่ตั้งค่าหมายความว่าผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าจอแสดงผลไม่ได้ |
| |
| หมายเหตุ: ตั้งค่า <ph name="EXTERNAL_WIDTH" /> และ <ph name="EXTERNAL_HEIGHT" /> เป็นพิกเซล และ <ph name="EXTERNAL_SCALE_PERCENTAGE" /> และ <ph name="INTERNAL_SCALE_PERCENTAGE" /> เป็นเปอร์เซ็นต์</translation> |
| <translation id="2548331788863219790">ป้องกันการติดตั้งและการอัปเดตส่วนขยายที่โฮสต์นอก Chrome เว็บสโตร์</translation> |
| <translation id="2548397295248733155">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนปิดหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะปิดหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่ปิดหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้เหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="2548572254685798999">รายงานข้อมูล Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="2549472870177108435">การตั้งค่านโยบายนี้จะตั้งค่ากฎในการเลือกเครื่องพิมพ์เริ่มต้นใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยจะลบล้างกฎเริ่มต้น การเลือกเครื่องพิมพ์เกิดขึ้นในครั้งแรกที่ผู้ใช้พยายามจะสั่งพิมพ์ เมื่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> หาเครื่องพิมพ์ที่ตรงกับแอตทริบิวต์ที่ระบุ ในกรณีที่การจับคู่ไม่สมบูรณ์แบบ จะตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้เลือกเครื่องพิมพ์ที่ตรงกันเครื่องใดก็ได้โดยขึ้นอยู่กับลำดับในการค้นพบเครื่องพิมพ์ |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นแอตทริบิวต์ที่จับคู่ไม่ได้ เครื่องพิมพ์ PDF ในตัวจะเป็นค่าเริ่มต้น หากไม่มีเครื่องพิมพ์ PDF ค่าเริ่มต้นของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเป็น "ไม่มี" |
| |
| ตอนนี้เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจัดเป็นประเภท <ph name="PRINTER_TYPE_LOCAL" /> เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> จะถือว่าเป็น <ph name="PRINTER_TYPE_CLOUD" /> แต่ระบบไม่รองรับ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> แล้ว |
| |
| หมายเหตุ: การข้ามช่องใดช่องหนึ่งไปแสดงว่าค่าทั้งหมดตรงกับช่องนั้นๆ เช่น การไม่ระบุ idPattern หมายความว่าการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์จะยอมรับรหัสเครื่องพิมพ์ทั้งหมด รูปแบบนิพจน์ทั่วไปต้องเป็นไปตามไวยากรณ์ JavaScript RegExp และการจับคู่จะคำนึงถึงตัวอักษรพิมพ์เล็กและใหญ่</translation> |
| <translation id="2550593661567988768">การพิมพ์ด้านเดียวเท่านั้น</translation> |
| <translation id="2552318891854145040">การตั้งค่านโยบายนี้จะสร้างรายการบุ๊กมาร์กที่แต่ละรายการเป็นพจนานุกรมที่มีคีย์ "<ph name="NAME" />" และ "<ph name="URL_LABEL" />" คีย์เหล่านี้เก็บชื่อและเป้าหมายของบุ๊กมาร์กไว้ ผู้ดูแลระบบสร้างโฟลเดอร์ย่อยได้โดยกำหนดบุ๊กมาร์กที่ไม่มีคีย์ "<ph name="URL_LABEL" />" แต่มีคีย์ "<ph name="CHILDREN" />" เพิ่มเติม คีย์นี้ยังมีรายการบุ๊กมาร์กด้วย ซึ่งบุ๊กมาร์กบางอันอาจเป็นโฟลเดอร์ด้วยก็ได้ Chrome จะแก้ไข URL ที่ไม่สมบูรณ์ให้เหมือนว่า URL เหล่านั้นได้รับการส่งผ่านทางแถบที่อยู่ เช่น "<ph name="GOOGLE_COM" />" จะเปลี่ยนเป็น "<ph name="HTTPS_GOOGLE_COM" />" |
| |
| ผู้ใช้เปลี่ยนโฟลเดอร์ที่บุ๊กมาร์กอยู่ไม่ได้ (แต่ซ่อนโฟลเดอร์จากแถบบุ๊กมาร์กได้) ชื่อโฟลเดอร์เริ่มต้นของบุ๊กมาร์กที่มีการจัดการคือ "บุ๊กมาร์กที่มีการจัดการ" แต่ก็เปลี่ยนได้โดยเพิ่มพจนานุกรมย่อยใหม่ที่มีคีย์เดียวชื่อ "<ph name="TOPLEVEL_NAME" />" ลงในนโยบาย โดยมีชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการเป็นค่า บุ๊กมาร์กที่มีการจัดการจะไม่ซิงค์กับบัญชีผู้ใช้และส่วนขยายจะแก้ไขบุ๊กมาร์กเหล่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2552966063069741410">เขตเวลา</translation> |
| <translation id="2554010621206996293">นโยบายนี้อนุญาตให้ควบคุมการเปิดใช้งานฟีเจอร์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้างนโยบาย <ph name="FIRST_PARTY_SETS_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="2555244983262829274">ซ่อนปุ่มหน้าแรกไม่ให้แสดงในแถบเครื่องมือ</translation> |
| <translation id="2558154810835597313">เปิดใช้การจัดสรรใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับผู้ใช้หรือโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="2562213287271514629">อนุญาตให้ใช้ "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" ที่ล้าสมัยเป็น "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" ปกติ</translation> |
| <translation id="2562339630163277285">ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ในการให้ผลการค้นหาแบบทันใจ URL ควรมีสตริง <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความที่ผู้ใช้ป้อนขณะค้นหา |
| |
| นโยบายนี้เป็นทางเลือก หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ จะไม่มีการให้ผลการค้นหาแบบทันใจ |
| |
| URL ผลการค้นหาแบบทันใจของ Google สามารถระบุเป็น: <ph name="GOOGLE_INSTANT_SEARCH_URL" /> |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อเปิดใช้นโยบาย "DefaultSearchProviderEnabled" เท่านั้น</translation> |
| <translation id="2563373001850981577">เปิดใช้ความสามารถในการส่งไฟล์ไปยังถังขยะ (สำหรับระบบไฟล์ที่รองรับ) ในแอป Files ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />"</translation> |
| <translation id="256597156026041241">ปิดใช้คีย์ติดหนึบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2568488785376704318">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว โปรดใช้ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_DOMAIN_LIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2570059561924004903">ปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียง</translation> |
| <translation id="2570181623957732921">เปิดใช้ <ph name="DESK_API_NAME" /> สำหรับรายการโดเมนของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="2575198840408498393">ปิดใช้การสร้างโปรไฟล์โรมมิ่ง</translation> |
| <translation id="2576324725151524912">อนุญาตให้ใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์กับแอปที่แยกไว้</translation> |
| <translation id="25765864042030871">ตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> อยู่ระหว่างการเลิกใช้งาน ตัวแฮนเดิลเหล่านี้มีการทำงานหรือไม่ขึ้นอยู่กับ <ph name="PERMISSIONS_POLICY_NAME" /> ของ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> ในปัจจุบัน โดยค่าเริ่มต้นตัวแฮนเดิลเหล่านี้ได้รับอนุญาตจากนโยบาย ในอนาคต สถานะของตัวแฮนเดิลดังกล่าวจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นไม่อนุญาตโดยค่าเริ่มต้น และเว็บไซต์ต่างๆ จะต้องเปิดใช้ตัวแฮนเดิลดังกล่าวอย่างชัดแจ้งโดยใช้ส่วนหัว <ph name="PERMISSIONS_POLICY_NAME" /> คุณสามารถใช้นโยบายระดับองค์กรนี้เพื่อเลือกไม่รับการทยอยเลิกใช้งานนี้โดยบังคับให้ค่าเริ่มต้นยังคงเป็นเปิดใช้อยู่ |
| |
| หน้าเว็บอาจต้องอาศัยตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> เพื่อบันทึกข้อมูลหรือส่งสัญญาณการสิ้นสุดเซสชันของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเราไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้เนื่องจากไม่น่าเชื่อถือและส่งผลต่อประสิทธิภาพจากการบล็อกการใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทั้งนี้มีทางเลือกอื่นที่แนะนำให้ใช้ อย่างไรก็ตาม มีการใช้เหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> มานานแล้ว ซึ่งแอปพลิเคชันบางรายการอาจยังคงต้องอาศัยตัวแฮนเดิลเหล่านี้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะค่อยๆ มีการเลิกใช้งานตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> ตามกำหนดการทยอยเลิกใช้งาน และเว็บไซต์ที่ไม่ได้ตั้งค่าส่วนหัว <ph name="PERMISSIONS_POLICY_NAME" /> จะทำให้เหตุการณ์ "ยกเลิกการโหลด" เริ่มขึ้นไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> จะยังคงทำงานต่อไปโดยค่าเริ่มต้น |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้มีค่าเริ่มต้นเป็น "จริง" ที่บันทึกไว้อย่างไม่ถูกต้องใน M117 เหตุการณ์ยกเลิกการโหลดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงและจะไม่เปลี่ยนแปลงใน M117 นโยบายนี้จึงไม่ส่งผลใดๆ ในเวอร์ชันดังกล่าว |
| </translation> |
| <translation id="257788512393330403">ต้องป้อนรหัสผ่านทุก 6 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="2580606791930800692">ตั้งค่ารายการกฎการควบคุมข้อมูล</translation> |
| <translation id="2580757713966614760">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดนโยบายการเข้าถึงที่ใช้กับการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์จำนวนมาก โดยควบคุมว่าเครื่องพิมพ์เครื่องใดใน <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> ที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ |
| |
| * หากตั้งค่าเป็น <ph name="POLICY_ENUM_DEVICEPRINTERSACCESSMODE_BLOCKLISTRESTRICTIONS" /> (ค่า 0) <ph name="DEVICE_PRINTERS_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะจำกัดการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่ระบุไว้ได้ |
| |
| * หากตั้งค่าเป็น <ph name="POLICY_ENUM_DEVICEPRINTERSACCESSMODE_ALLOWLISTPRINTERSONLY" /> (ค่า 1) <ph name="DEVICE_PRINTERS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่เลือกใช้งานได้ |
| |
| * หากตั้งค่าเป็น <ph name="POLICY_ENUM_DEVICEPRINTERSACCESSMODE_ALLOWALL" /> (ค่า 2) เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจะพร้อมให้ใช้งาน |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ <ph name="PRINTERS_ALLOW_ALL" /></translation> |
| <translation id="2581338546762479588">อนุญาตให้รีบูตโดยอัตโนมัติหลังจากการอัปเดต</translation> |
| <translation id="2581374691851317168">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เรียกใช้ JavaScript ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="2585535930727399201">ส่วนขยายสำหรับองค์กรจะเพิ่มบันทึกผ่าน chrome.systemLog API ลงในไฟล์บันทึกของระบบได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้เก็บบันทึกไว้ในไฟล์บันทึกของระบบได้ในระยะเวลาจำกัด |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้เพิ่มบันทึกลงในไฟล์บันทึกของระบบไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการเก็บบันทึกระหว่างเซสชัน</translation> |
| <translation id="2586117300379904732">อนุญาต Wake Lock เพื่อการจัดการพลังงาน</translation> |
| <translation id="2586231026319371211">เวลาที่ตีความในรูปแบบ 24 ชั่วโมงตามนาฬิกาติดผนังในท้องถิ่น</translation> |
| <translation id="2587719089023392205">ตั้ง <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2588252329503406673">การตั้งค่านโยบายจะอนุญาตให้คุณกำหนดลักษณะการทำงานของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เมื่อไม่มีกิจกรรมของผู้ใช้เป็นระยะเวลาหนึ่งในขณะที่หน้าจอลงชื่อเข้าใช้ปรากฏขึ้น นโยบายนี้ควบคุมการตั้งค่าหลายรายการ สำหรับความหมายของคำแต่ละความหมายและช่วงค่า ให้ดูนโยบายที่สอดคล้องกันที่ควบคุมการจัดการพลังงานภายในเซสชัน |
| |
| การเบี่ยงเบนจากนโยบายเหล่านี้มีดังนี้ |
| |
| * การกระทำที่จะดำเนินการเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวหรือปิดฝาจะเป็นการจบเซสชันไม่ได้ |
| |
| * การกระทำเริ่มต้นที่ดำเนินการเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวเมื่อใช้พลังงานจากไฟฟ้า AC คือการปิด |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือไม่ตั้งค่าใดก็ตามในนโยบายจะทำให้มีการใช้ค่าเริ่มต้นในการตั้งค่าพลังงานแบบต่างๆ</translation> |
| <translation id="2591775699187375408">ใช้แซนด์บ็อกซ์กับกระบวนการของเสียงเสมอ</translation> |
| <translation id="2592091433672667839">ระยะเวลาการไม่ใช้งานก่อนที่โปรแกรมรักษาหน้าจอจะแสดงขึ้นบนหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ในโหมดปลีก</translation> |
| <translation id="259289618675490104">การตั้งค่านโยบายเป็น "ทั้งหมด" (ค่า 0) หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้จัดการใบรับรองได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ไม่มี" (ค่า 2) จะทำให้ผู้ใช้ดูใบรับรองได้อย่างเดียว (จัดการไม่ได้) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ผู้ใช้เท่านั้น" (ค่า 1) จะทำให้ผู้ใช้จัดการใบรับรองได้ แต่ต้องไม่ใช่ใบรับรองแบบทั่วทั้งอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2593762551209145088">Safe Browsing จะไม่ทำงานเลย</translation> |
| <translation id="26023406105317310">กำหนดค่าบัญชี Kerberos</translation> |
| <translation id="2603237557651009842">บล็อก WebPrinting API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2603382859270873566">เปิดใช้การรองรับ PPB_VideoDecoder(Dev) API</translation> |
| <translation id="2604182581880595781">กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่าย</translation> |
| <translation id="2608039968712973520">ขอสิทธิ์เรียกใช้ "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" ที่ล้าสมัยจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2608535066974278204">ระยะเวลา (นาที) ของกรอบเวลาการเปิดอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="2608887839902987727">ป้องกันไม่ให้การตรวจสอบสิทธิ์แคพทีฟพอร์ทัลละเว้นการตั้งค่าพร็อกซี</translation> |
| <translation id="2608985885792348429">การตั้งค่าคลิปบอร์ดเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2613493229743687635"><ph name="GET_ALL_SCREENS_MEDIA_NAME" /> API อนุญาตให้เว็บแอปพลิเคชันที่แยกไว้ (ระบุโดยต้นทาง) จับภาพหลายแพลตฟอร์มพร้อมกันโดยไม่ต้องมีการให้สิทธิ์จากผู้ใช้เพิ่มเติม |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="GET_ALL_SCREENS_MEDIA_NAME" /> จะใช้ไม่ได้กับเว็บแอปพลิเคชัน |
| เพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัว นโยบายนี้จะไม่รองรับการอัปเดตค่านโยบายในระหว่างเซสชัน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจะมีผลหลังจากที่ผู้ใช้ออกจากระบบและเข้าสู่ระบบอีกครั้งแล้วเท่านั้น |
| ผู้ใช้จะมั่นใจได้ว่าไม่มีแอปอื่นๆ ที่จับภาพหน้าจอได้หลังจากเข้าสู่ระบบ หากไม่ได้รับอนุญาตไว้แล้วเมื่อเริ่มต้นเซสชัน</translation> |
| <translation id="2615240493030733717">รายงานข้อมูลเขตเวลา</translation> |
| <translation id="2619258867868873629">ปลายทางของ "บันทึกเป็น PDF" และปลายทางของ "บันทึกลงใน Google ไดรฟ์" ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="2621290137818374425">การตั้งค่านโยบายจะปิดใช้ข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับชื่อโฮสต์ใน URL ที่ระบุ โฮสต์สามารถใช้ใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือต่อไปได้ (เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเหมาะสม) แต่จะทำให้ตรวจหาใบรับรองที่ออกอย่างไม่ถูกต้องได้ยากขึ้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าหากไม่มีการเปิดเผยความโปร่งใสของใบรับรองตามที่ใบรับรองกำหนด "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ก็จะไม่เชื่อถือใบรับรองนั้น |
| |
| URL มีรูปแบบดังนี้ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) แต่เนื่องจากความถูกต้องของใบรับรองสำหรับชื่อโฮสต์หนึ่งๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบ พอร์ต หรือเส้นทาง "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จึงพิจารณาเพียงแค่ส่วนชื่อโฮสต์ของ URL เท่านั้น ไม่รองรับโฮสต์ไวลด์การ์ด</translation> |
| <translation id="2623014935069176671">รอกิจกรรมเริ่มต้นของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2625026032335150744">เลือกตัวเลือกให้เก็บข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไว้โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="2625398797484317969">ควบคุมการตั้งค่าสำหรับคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="2626302212133950795">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สามารถใช้การรับรองระยะไกล (การเข้าถึงที่ยืนยันแล้ว) เพื่อรับการรับรองที่ออกโดย CA ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งยืนยันว่าอุปกรณ์มีสิทธิ์เล่นเนื้อหาที่มีการคุ้มครอง กระบวนการนี้มีการส่งข้อมูลการรับรองฮาร์ดแวร์ไปยัง CA ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ระบุอุปกรณ์โดยไม่ซ้ำกัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ไม่ใช้การรับรองระยะไกลกับการปกป้องเนื้อหาและอาจไม่เล่นเนื้อหาที่มีการคุ้มครอง</translation> |
| <translation id="262740370354162807">เปิดใช้งานการส่งเอกสารไปยัง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2633084400146331575">เปิดใช้งานการตอบสนองด้วยเสียง</translation> |
| <translation id="2633907568797306353">อนุญาตให้มีการเปิดใช้การแจ้งเตือนของฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="2634265675787412567"><ph name="PRODUCT_NAME" /> อาจกําหนดเส้นทางคําขอสร้างพาสคีย์/WebAuthn ไปยังพวงกุญแจ iCloud ใน macOS 13.5 ขึ้นไปโดยตรง หากยังไม่ได้เปิดใช้การซิงค์พวงกุญแจ iCloud นโยบายนี้จะแจ้งให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย iCloud หรือเปิดใช้การซิงค์พวงกุญแจ iCloud |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่ใช้พวงกุญแจ iCloud โดยค่าเริ่มต้น และอาจใช้ลักษณะการทํางานก่อนหน้า (ของการสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบในโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" />) แทน ผู้ใช้จะยังเลือกพวงกุญแจ iCloud เป็นตัวเลือกได้ และอาจเห็นข้อมูลเข้าสู่ระบบพวงกุญแจ iCloud เมื่อลงชื่อเข้าใช้อยู่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" พวงกุญแจ iCloud จะเป็นค่าเริ่มต้นเมื่อคําขอ WebAuthn เข้ากันได้กับตัวเลือกนั้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ค่าเริ่มต้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น มีการเปิดใช้ iCloud Drive หรือไม่ และผู้ใช้ได้ใช้หรือสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบในโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่</translation> |
| <translation id="2635872253077105112">การตั้งค่านโยบายนี้จะควบคุมรายการเว็บไซต์ที่จะเปิดในเบราว์เซอร์สำรอง ระบบจะถือว่ารายการย่อยแต่ละรายการเป็นกฎสำหรับบางอย่างที่จะเปิดในเบราว์เซอร์สำรอง <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้กฎเหล่านั้นเมื่อเลือกว่า URL ควรเปิดในเบราว์เซอร์สำรองหรือไม่ เมื่อ Add-in ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> เปิดอยู่ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> จะเปลี่ยนกลับไปยัง <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อกฎไม่ตรงกัน หากกฎขัดแย้งกัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้กฎที่เจาะจงที่สุด |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะไม่เพิ่มเว็บไซต์ลงในรายการ |
| |
| โปรดทราบว่าคุณเพิ่มเอลิเมนต์ลงในรายการนี้ผ่านนโยบาย <ph name="USE_IE_SITELIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="EXTERNAL_SITELIST_URL_POLICY_NAME" /> ได้ด้วย</translation> |
| <translation id="2640898752536996430">นำผู้ใช้ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="264093234299818170">ระบบจะแสดงเครื่องพิมพ์ทั้งหมดยกเว้นที่อยู่ในรายการที่บล็อก</translation> |
| <translation id="264252574246191885">ไม่แสดง</translation> |
| <translation id="2644268520085581041">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะลบล้างการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงของ IPv6 ซึ่งหมายความว่าระบบจะค้นหาระเบียน AAAA เสมอเมื่อแปลงชื่อโฮสต์ การตั้งค่านี้จะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนและอินเทอร์เฟซทั้งหมดในอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่ลบล้างการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงของ IPv6 |
| ระบบจะค้นหาระเบียน AAAA เฉพาะเมื่อเข้าถึงโฮสต์ IPv6 ส่วนกลางได้</translation> |
| <translation id="2647069081229792812">เปิดหรือปิดใช้การแก้ไขบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="264771271300359481">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใช้สิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ด</translation> |
| <translation id="2649537800219643135">แหล่งที่มาของรูปภาพหน้าจอล็อกสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="2649896281375932517">ให้ผู้ใช้เลือก</translation> |
| <translation id="2650049181907741121">การทำงานของอุปกรณ์เมื่อผู้ใช้ปิดฝา</translation> |
| <translation id="2656559539624760733">ไม่ใช้ Chrome Root Store</translation> |
| <translation id="2658653824183107970">ควรใช้การใช้งาน <ph name="CORS" /> เดิมมากกว่า <ph name="CORS" /> ใหม่</translation> |
| <translation id="2660846099862559570">ไม่ใช้พร็อกซี</translation> |
| <translation id="2661628029848851543">ระบบจะอนุญาตการใช้งานทั้งหมดของบัญชีที่จัดการ</translation> |
| <translation id="2664391398878045611">หน้าแท็บใหม่จะไม่แสดงประกาศในช่องกลางแม้ว่าจะมีประกาศ</translation> |
| <translation id="2664682171745499686">ระงับคำเตือนโดเมนที่เหมือนกันในหลายโดเมน</translation> |
| <translation id="2665129863304939984">อนุญาตให้ผู้ใช้ตัดสินใจนําข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="2665422249821137126">เปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2666177084759967497"> |
| กำหนดว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะเก็บข้อมูลบัญชีไว้ในเครื่องหลังจากออกจากระบบแล้วหรือไม่ หากตั้งค่าเป็น "จริง" <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่เก็บข้อมูลบัญชีถาวรใดๆ ไว้ และจะทิ้งข้อมูลทั้งหมดจากเซสชันของผู้ใช้หลังออกจากระบบแล้ว หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้กำหนดค่า อุปกรณ์จะเก็บข้อมูลผู้ใช้ในเครื่อง (มีการเข้ารหัส) |
| |
| หมายเหตุ: ตั้งแต่เวอร์ชัน M114 เป็นต้นไป ระบบจะอนุญาตให้แอปคีออสก์บางรายการลบล้างลักษณะการทำงานของนโยบายนี้สำหรับแอปใน Use Case พิเศษ เช่น การประเมินนักเรียน</translation> |
| <translation id="2667894101494585925">เปิดใช้การดึงข้อมูลคู่มือการเพิ่มประสิทธิภาพ</translation> |
| <translation id="2669157090883237118">ไม่ต้องเปลี่ยนการกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="2672012807430078509">ควบคุมการเปิดใช้ NTLM เป็นโปรโตคอลการตรวจสอบสิทธิ์สำหรับการต่อเชื่อม SMB</translation> |
| <translation id="2673363037046384711">ผู้ใช้ปลายทางจะเปิดใช้หรือปิดใช้โหมดประสิทธิภาพสูงได้</translation> |
| <translation id="2673968385134502798">เกม</translation> |
| <translation id="2678503605767349615">ต้องมีใบรับรองไคลเอ็นต์ระดับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="268134026533587276">เปิดใช้หน้าจอล็อกสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้แล้ว</translation> |
| <translation id="268577405881275241">เปิดใช้ฟีเจอร์พร็อกซีการบีบอัดข้อมูล</translation> |
| <translation id="268695908564263739">นโยบายนี้จะเปิดใช้หรือปิดใช้การตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพสูง การตั้งค่านี้จะช่วยปิดแท็บหลังจากทำงานเบื้องหลังไประยะหนึ่งเพื่อเรียกคืนหน่วยความจำได้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้ปลายทางจะควบคุมการตั้งค่านี้ได้ใน chrome://settings/performance |
| </translation> |
| <translation id="2691668238491124549">การตั้งค่านโยบาย (ตามที่แนะนำเท่านั้น) จะย้ายภาษาที่แนะนำสำหรับเซสชันที่มีการจัดการไปไว้ที่ลำดับต้นๆ ของรายการ ในลำดับที่ภาษานั้นปรากฏในนโยบาย ระบบเลือกภาษาที่แนะนำเป็นอันดับแรกไว้ล่วงหน้า |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเลือกภาษาของ UI ปัจจุบันไว้ล่วงหน้า |
| |
| เมื่อมีภาษาที่แนะนำมากกว่า 1 ภาษาจะถือว่าผู้ใช้ต้องการเลือกภาษาเหล่านี้ ให้ความสำคัญกับการเลือกภาษาและรูปแบบแป้นพิมพ์ เมื่อเริ่มเซสชันที่มีการจัดการ หากไม่ได้เลือกค่าดังกล่าว ระบบจะถือว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องการใช้ภาษาที่เลือกไว้ล่วงหน้า ลดความสำคัญของการเลือกภาษาและรูปแบบแป้นพิมพ์ เมื่อเริ่มเซสชันที่มีการจัดการ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้และเปิดการลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติ (ดูนโยบาย <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNT_AUTO_LOGIN_ID_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNT_AUTO_LOGIN_DELAY_POLICY_NAME" />) เซสชันที่มีการจัดการจะใช้ภาษาที่แนะนำและรูปแบบแป้นพิมพ์ยอดนิยมที่คู่กันเป็นอันดับแรก |
| |
| รูปแบบแป้นพิมพ์ที่เลือกไว้ล่วงหน้าจะเป็นรูปแบบยอดนิยมคู่กับภาษาที่เลือกไว้ล่วงหน้าเสมอ ผู้ใช้เลือกภาษาที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> รองรับสำหรับเซสชันได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="2693108589792503178">กำหนดค่า URL การเปลี่ยนรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="2694143893026486692">แว่นขยายหน้าจอบางส่วนเปิดอยู่</translation> |
| <translation id="2696077732471707315"> |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M77 |
| นโยบายนี้จะใช้กับหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ โปรดดูนโยบาย <ph name="SITE_PER_PROCESS_POLICY_NAME" /> ด้วยซึ่งใช้กับเซสชันของผู้ใช้ ขอแนะนำให้ตั้งค่าของนโยบายทั้งสองเป็นค่าเดียวกัน หากค่าไม่ตรงกัน อาจเกิดความล่าช้าเวลาเข้าสู่เซสชันของผู้ใช้ และระบบจะใช้ค่าที่นโยบายผู้ใช้ระบุไว้ |
| </translation> |
| <translation id="2697717608663878828">เปิดใช้การทดสอบ ClientHello ที่เข้ารหัสตาม TLS</translation> |
| <translation id="2698555428858508691">นโยบายนี้ควบคุมป้ายกำกับที่กำหนดเองซึ่งใช้เพื่อระบุโปรไฟล์ที่ลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้และต้องแสดงป้ายกำกับ ระบบจะใช้ป้ายกำกับเริ่มต้น "งาน" หรือ "โรงเรียน" |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้างนโยบาย <ph name="PROFILE_LABEL_POLICY_NAME" /> |
| |
| ระบบจะไม่แปลป้ายกำกับที่กำหนดเอง</translation> |
| <translation id="2699836109975228367">เปิดใช้ฟีเจอร์เสียงโมโนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2702023190395322609">เปิดใช้คำแนะนำสื่อ</translation> |
| <translation id="2702682139813393777">บังคับให้โฮสต์การรับส่งข้อความในเครื่องของ Windows เปิดใช้งานผ่าน cmd.exe</translation> |
| <translation id="2703733412051211941">เรียกให้ทำงานเมื่อไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะเป็นการกำหนดระยะเวลาโดยไม่ต้องมีข้อมูลจากผู้ใช้ (เป็นนาที) ก่อนที่เบราว์เซอร์จะเรียกใช้การดำเนินการที่กำหนดค่าไว้ผ่านนโยบาย <ph name="IDLE_TIMEOUT_ACTIONS_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่เรียกใช้การดำเนินการใดๆ |
| |
| เกณฑ์ขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 นาที |
| |
| "ข้อมูลจากผู้ใช้" จะกำหนดโดย Operating System API ซึ่งรวมถึงการดำเนินการต่างๆ อย่างการเลื่อนเมาส์หรือการพิมพ์บนแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="270582584528242502">ไม่ต้องแสดงกล่องคำเตือนเมื่อผู้ใช้พยายามออก</translation> |
| <translation id="2706708761587205154">อนุญาตให้พิมพ์เฉพาะเมื่อมี PIN เท่านั้น</translation> |
| <translation id="2707733461906745082">การแยกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="2707873794476722903">Google Safe Browsing ทำงานในโหมดมาตรฐาน</translation> |
| <translation id="2709516037105925701">ป้อนอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="2713913573196284609">ค่านี้เลิกใช้งานไปแล้วตั้งแต่เวอร์ชัน M121 ในเวอร์ชัน M121 ขึ้นไป ระบบจะถือว่าค่าเป็น EnabledBelowThreshold</translation> |
| <translation id="2713977837384407666">ส่งเมตริกไปยัง Google เสมอ</translation> |
| <translation id="2714359695399346815">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ STUN ได้ ซึ่งจะทำให้ไคลเอ็นต์ระยะไกลค้นพบและเชื่อมต่อกับเครื่องนี้ได้แม้ว่าจะถูกกั้นโดยไฟร์วอลล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" เมื่อไฟร์วอลล์กรองการเชื่อมต่อ UDP ขาออกจะทำให้เครื่องอนุญาตการเชื่อมต่อจากเครื่องไคลเอ็นต์ภายในเครือข่าย LAN เท่านั้น</translation> |
| <translation id="2714756912981510828">เปิดใช้การตรวจหาการรั่วไหลของรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="2716071441112588786">อนุญาตการค้นหาผ่านพร็อกซีที่มีการปกป้องสูงขึ้น</translation> |
| <translation id="2716623398185506073">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานสถิติด้านฮาร์ดแวร์และตัวระบุที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานสถิติด้านพลังงาน</translation> |
| <translation id="2716930334159519261">การตั้งค่านโยบายช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ดสำหรับเว็บไซต์ได้ ทั้งนี้ไม่รวมการดำเนินการเกี่ยวกับคลิปบอร์ดทั้งหมดในต้นทางที่ตรงกับรูปแบบในรายการ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้จะยังวางโดยใช้แป้นพิมพ์ลัดได้อยู่เนื่องจากไม่ถูกกั้นโดยสิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ดสำหรับเว็บไซต์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_CLIPBOARD_SETTING" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="2717628606602248727">นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งควบคุมให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานข้อมูลหน่วยความจำ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานข้อมูลหน่วยความจำ |
| ข้อยกเว้น: ข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ได้ใช้งาน (Free Memory) จะควบคุมโดย <ph name="REPORT_DEVICE_HARDWARE_STATUS" /> สำหรับรุ่น M95 ลงมา</translation> |
| <translation id="2721185634942265347">ปิดใช้การแนะนำการค้นหา</translation> |
| <translation id="2721582713721006926">ปิดใช้คำจำกัดความของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="2722076884688932437">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนรายงานข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เสียบเข้ากับอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนจะไม่รายงานข้อมูลอุปกรณ์ต่อพ่วง</translation> |
| <translation id="2723281094174141470">ส่วนขยายข้อมูลเชิงลึกจะรายงานความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดของอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ เวลาที่ผู้ใช้ไม่มีการใช้งาน และข้อมูลเชิงลึกของแอปพลิเคชัน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ระบบจะติดตั้งส่วนขยายข้อมูลเชิงลึกและมีการรายงานเมตริก |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่ติดตั้งส่วนขยายข้อมูลเชิงลึกและจะไม่มีการรายงานเมตริก</translation> |
| <translation id="2724868837491558133">สร้างรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะให้สิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะทำให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับแบบอักษรในเครื่องได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_LOCAL_FONTS_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="2727844239611930002">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> พิจารณาว่าจะแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> หรือไม่</translation> |
| <translation id="2730200383593984228">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องใช้แอป Android</translation> |
| <translation id="2730419309754848345">ค่าเริ่มต้นการพิมพ์ PDF เป็นรูปภาพ</translation> |
| <translation id="2730644640965800157">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะปิดการซิงค์ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ในแอป Files ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> และจะไม่มีการอัปโหลดข้อมูลไปยัง Google ไดรฟ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้โอนไฟล์ไปยัง Google ไดรฟ์ได้</translation> |
| <translation id="2731299561202635374">นโยบายนี้ควบคุมการตรวจสอบ URL แบบเรียลไทม์เพื่อระบุ URL ที่เป็นอันตราย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" ระบบจะใช้การตรวจสอบกับ Google Safe Browsing สำหรับผู้บริโภค การตรวจสอบกับ Google Safe Browsing สำหรับผู้บริโภคยังคงรวมการค้นหาแบบเรียลไทม์ได้อยู่ โดยขึ้นอยู่กับค่าของการตั้งค่า "ปรับปรุงการค้นหาและการท่องเว็บให้ดียิ่งขึ้น" และค่าของนโยบาย UrlKeyedAnonymizedDataCollectionEnabled |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะส่ง URL ไปสแกนแบบเรียลไทม์ตามข้อกำหนดในการให้บริการขององค์กร ซึ่งจะทำให้ Chrome ส่ง URL ไปยัง Google Cloud หรือบุคคลที่สามที่คุณเลือกเพื่อตรวจสอบ URL เหล่านั้นแบบเรียลไทม์ ระบบจะปิดการค้นหาแบบเรียลไทม์ของ Google Safe Browsing เวอร์ชันสำหรับผู้บริโภค |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="2731627323327011390">ปิดการใช้งานใบรับรอง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับแอป ARC</translation> |
| <translation id="273678600057164019">การแปลง DNS ของระบบจะทำงานในกระบวนการของเครือข่าย</translation> |
| <translation id="2737917415184832294">ใช้ HTTPS เพื่อการดาวน์โหลดอัปเดต</translation> |
| <translation id="2739213523971537320">ปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2742843273354638707">ซ่อนแอป Chrome เว็บสโตร์ และลิงก์ส่วนท้ายจากหน้าแท็บใหม่ และเครื่องเรียกใช้งานแอป <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| เมื่อนโยบายนี้ตั้งค่าเป็น True จะมีการซ่อนไอคอนไป |
| เมื่อนโยบายนี้ตั้งค่าเป็น False หรือไม่มีการกำหนดค่า จะสามารถมองเห็นไอคอนได้</translation> |
| <translation id="2744751866269053547">ลงทะเบียนเครื่องจัดการโปรโตคอล</translation> |
| <translation id="2744980433176488921">การตั้งค่า F11/F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Shift</translation> |
| <translation id="2745150813292162313">อนุญาตให้เปิดใช้การแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="2746016768603629042">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ DefaultJavaScriptSetting แทน |
| |
| สามารถใช้เพื่อปิดใช้งาน JavaScript ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ |
| |
| หากปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าเว็บจะไม่สามารถใช้ JavaScript และผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่านั้นได้ |
| |
| หากเปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่า หน้าเว็บจะสามารถใช้ JavaScript แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่านั้นได้</translation> |
| <translation id="274769314493317695">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_WHITELIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="BULK_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="NATIVE_PRINTERS_BULK_WHITELIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ได้ จะมีเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="NATIVE_PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2752046642026416564">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้โฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่ติดตั้งไว้ที่ระดับผู้ใช้ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้โฮสต์เหล่านี้ได้เฉพาะเมื่อติดตั้งไว้ที่ระดับระบบเท่านั้น</translation> |
| <translation id="2753637905605932878">จำกัดช่วงของพอร์ต UDP ในเครื่องที่ WebRTC ใช้งาน</translation> |
| <translation id="2755847332939882873">อนุญาตให้รวบรวมการติดตามประสิทธิภาพทั้งระบบ</translation> |
| <translation id="2757054304033424106">ประเภทของส่วนขยาย/แอปพลิเคชันที่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้ง</translation> |
| <translation id="2759224876420453487">ควบคุมพฤติกรรมผู้ใช้ในเซสชันหลายโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="2760947619380644513">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลเปิด URL ฝั่งโฮสต์ในเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ในเครื่องได้</translation> |
| <translation id="2761483219396643566">คำเตือนการไม่ใช้งานล่าช้าเมื่อทำงานโดยใช้กำลังแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="2764750330785898947">เปิดใช้การรองรับการเข้ารหัสเนื้อหาด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /></translation> |
| <translation id="2764964245640818227">ควบคุมว่าโปรแกรมอ่าน PDF ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ได้หรือไม่ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ หรือตั้งค่าเป็น "จริง" โปรแกรมอ่าน PDF จะใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" โปรแกรมอ่าน PDF จะใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2769199041812510302">URL ของโลโก้องค์กร</translation> |
| <translation id="2769952903507981510">กำหนดค่าชื่อโดเมนที่จำเป็นสำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="2770376586681635746">ควบคุมว่าผู้ใช้จะเพิ่มบัญชี Kerberos ได้หรือไม่ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเพิ่มบัญชี Kerberos ได้ผ่านการตั้งค่าบัญชี Kerberos ในหน้าการตั้งค่า Kerberos ผู้ใช้จะควบคุมบัญชีที่ตนเพิ่มไว้ได้โดยสมบูรณ์และจะแก้ไขหรือนำบัญชีออกได้ด้วย |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะเพิ่มบัญชี Kerberos ไม่ได้ ผู้ใช้จะเพิ่มบัญชีได้ผ่านนโยบาย "กำหนดค่าบัญชี Kerberos" เท่านั้น นี่เป็นวิธีล็อกบัญชีที่มีประสิทธิภาพ</translation> |
| <translation id="2772231477628401250">ใช้ HTTP เพื่อการดาวน์โหลดอัปเดต</translation> |
| <translation id="2772955711376920612">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" และการตั้งค่า <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_BATTERY_THRESHOLD_POLICY_NAME" /> กับ <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_DAY_CONFIG_POLICY_NAME" /> จะเปิดการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ต่อไป (หากอุปกรณ์รองรับ) นโยบายการจัดการการใช้ไฟจากแบตเตอรี่เป็นนโยบายการประหยัดพลังงานที่ลดการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับในช่วงที่มีการใช้งานสูงสุด คุณกำหนดเวลาเริ่มเปิดและปิดใช้โหมดการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในแต่ละวันได้ ในช่วงเวลาดังกล่าว อุปกรณ์จะทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (แม้ว่าจะยังมีไฟฟ้ากระแสสลับอยู่) ตราบใดที่ระดับแบตเตอรี่อยู่เหนือเกณฑ์ที่ระบุ หลังเวลาสิ้นสุดที่ระบุ อุปกรณ์จะทำงานโดยใช้พลังงานจากไฟฟ้ากระแสสลับ (หากมีอยู่) แต่จะไม่ชาร์จแบตเตอรี่ แล้วจะกลับมาทำงานตามปกติอีกครั้งโดยใช้ไฟฟ้ากระแสสลับและชาร์จแบตเตอรี่ใหม่หลังจากเวลาเริ่มต้นการชาร์จที่ระบุ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดโหมดการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะปิดการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในตอนแรก ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="2773288106548584039">การรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า</translation> |
| <translation id="2774906947252258544">รายการที่บล็อกจะควบคุมว่าส่วนขยายประเภทใดที่ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง |
| |
| การตั้งค่า "command_line" จะบล็อกไม่ให้โหลดส่วนขยายจากบรรทัดคำสั่ง</translation> |
| <translation id="2779027965175176474">ไม่แสดงหน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="2780840673734667062">ปิดการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google บัญชีอื่นๆ</translation> |
| <translation id="2784880732336446591">ล้างข้อมูลการท่องเว็บเมื่อออก</translation> |
| <translation id="2786117913267907931">ไม่อนุญาตให้ต้นทางใช้ Direct Sockets</translation> |
| <translation id="2787173078141616821">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของ Android</translation> |
| <translation id="2787774054174244402">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้ผู้ใช้เขียนลงในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกไม่ได้ |
| |
| หากคุณตั้งค่า ExternalStorageReadOnly เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะสร้างและแก้ไขไฟล์ได้ในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกที่เป็นแบบเขียนได้ เว้นแต่ที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกจะถูกบล็อกไว้ (คุณบล็อกที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกได้โดยตั้งค่า ExternalStorageDisable เป็น "จริง")</translation> |
| <translation id="2789742777235177478">จำกัดเวลาที่ผู้ใช้ซึ่งตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน GAIA โดยไม่มี SAML จะเข้าสู่ระบบแบบออฟไลน์ได้ในหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="2794180170614133361">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสตามการเรียนรู้เริ่มต้นของระบบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2795923835422513629">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้เว็บไซต์แสดงป๊อปอัปได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธป๊อปอัป |
| |
| การไม่ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="BLOCK_POPUPS_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="2796714419743648316">รายการที่อนุญาตสำหรับการจำกัดเวลาต่อแอป</translation> |
| <translation id="2801065672151277034">การตั้งค่าการจัดการใบรับรอง</translation> |
| <translation id="2801155097555584385">ตั้งค่าการเริ่มชาร์จแบตเตอรี่ที่กำหนดเองเป็นเปอร์เซ็นต์</translation> |
| <translation id="2801378553855965587">ปิดใช้การผสานรวม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />"</translation> |
| <translation id="2805707493867224476">อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงป๊อปอัป</translation> |
| <translation id="2806804577787377637">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้ <ph name="PER_APP_TIME_LIMITS_ALLOWLIST" /> แทน</translation> |
| <translation id="2816964824289752181">เปิดใช้ <ph name="DESK_API_NAME" /> สำหรับการควบคุม <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="2818074121667686266">เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะได้รับข้อความแจ้งหากมีการเข้าถึงการจับเสียง ยกเว้นใน URL ที่ตั้งค่าไว้ในรายการ AudioCaptureAllowedUrls |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดข้อความแจ้ง และการจับเสียงจะใช้ได้เฉพาะกับ URL ที่ตั้งค่าไว้ในรายการ AudioCaptureAllowedUrls เท่านั้น |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้มีผลกับอินพุตเสียงทั้งหมด (ไม่ใช่แค่ไมโครโฟนในตัว)</translation> |
| <translation id="2823164704578322622">การตั้งค่า "Home/End" ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="2823870601012066791">ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows สำหรับไคลเอ็นต์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> คือ</translation> |
| <translation id="2824715612115726353">เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="282870810415075521">อนุญาตให้ JavaScript ใช้ JIT ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="2834965199373338033">เปิดใช้โหมดพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="2835686964326214400">ตั้งกำหนดเวลาเองเพื่อรีบูตอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2836288795562730150">ไม่อนุญาตการติดตามพัสดุใน Chrome</translation> |
| <translation id="2838830882081735096">ไม่อนุญาตให้ย้ายข้อมูลและใช้ ARC</translation> |
| <translation id="2839294585867804686">การตั้งค่าพื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่าย</translation> |
| <translation id="2841911109921764691">ปุ่มขวาคือปุ่มหลักในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="284288632677954003">URL ของไฟล์ XML ที่มี URL ที่ไม่ควรทริกเกอร์การเปลี่ยนเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="2845590342236201916">การตั้งค่า F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="28458742190197992">นโยบายนี้ควบคุมการรายงานในระบบคลาวด์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> สำหรับโปรไฟล์ที่มีการจัดการโดยเฉพาะ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่เก็บรวบรวมหรืออัปโหลดข้อมูล |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเก็บรวบรวมข้อมูลและอัปโหลดไปยัง <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| รายงานนี้มีสถานะโปรไฟล์และข้อมูลการใช้งาน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ เวอร์ชันเบราว์เซอร์ ส่วนขยายที่ติดตั้งอยู่ และนโยบายที่บังคับใช้ |
| |
| นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็นนโยบายผู้ใช้ระบบคลาวด์ได้เท่านั้น</translation> |
| <translation id="2846689894646472396">อัตราการตรวจสอบกิจกรรมในเครือข่ายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="2847788524147474533">นโยบายสำหรับเครื่องที่ใช้แพลตฟอร์มจะมีผลเหนือนโยบายสำหรับเครื่องที่ใช้ระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="2849275596224278787">ซ่อนตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบของหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="2853649500575897584">อย่าบล็อกจุดขยายสัญญาณเดิมในกระบวนการของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="285480231336205327">เปิดใช้งานโหมดความคมชัดสูง</translation> |
| <translation id="285627849510728211">ตั้งค่ากำหนดวันของโหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูง</translation> |
| <translation id="2856932965866813330">เปิดใช้การแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้กับผู้ใช้คนอื่นๆ</translation> |
| <translation id="28600673996840076">อนุญาตการปรับแต่งรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้จากรูปโปรไฟล์ Google หรือรูปภาพในเครื่อง</translation> |
| <translation id="2864207379891420023">กำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="2866387633548787857">ปิดใช้การเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว</translation> |
| <translation id="2866619962692161453">ประเภทนโยบายเมตา</translation> |
| <translation id="2866726566162790531">รายการต้นทางที่อนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="2868756546751652023">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ฮอตสปอตจากมือถือโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="286898786908566256">อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งหมายเลขโทรศัพท์จาก Chrome ไปยังอุปกรณ์ Android ของตนเอง</translation> |
| <translation id="2872098849906555324">ปิดใช้การซิงค์ Google ไดรฟ์</translation> |
| <translation id="2872189563975139803">การตั้งค่าการแยกโปรไฟล์องค์กร</translation> |
| <translation id="2872961005593481000">ปิด</translation> |
| <translation id="2872968825059227580">ปิดใช้การรองรับ GIF</translation> |
| <translation id="2874209944580848064">หมายเหตุสำหรับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่รองรับแอป Android:</translation> |
| <translation id="287474029350993681">ปิดใช้การแคสต์เนื้อหาไปยังอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="2875192972412983412">ระบุเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ส่วนหนึ่งที่จะใช้สำหรับค้นหาเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หากใช้นโยบายนี้ จะมีเพียงเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ที่มี ID ตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ |
| |
| ID ดังกล่าวต้องตรงกับช่อง ID ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่มีการกรองและใช้เซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ทั้งหมดในการค้นหา</translation> |
| <translation id="2877225735001246144">ปิดใช้งานการค้นหา CNAME เมื่อมีการเจรจาตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos</translation> |
| <translation id="288448261660192095">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะปิดอุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุตของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลระหว่างการเชื่อมต่อระยะไกล |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ทั้งผู้ใช้เครือข่ายภายในและผู้ใช้ระยะไกลโต้ตอบกับโฮสต์ระหว่างที่แชร์ได้</translation> |
| <translation id="2884765974461416016">ปิดใช้การแชร์จาก Android ไปยังเว็บแอป</translation> |
| <translation id="2886215882246310669">ควบคุมว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะอนุญาตให้เพิ่มบัญชีผู้ใช้ Family Link บัญชีใหม่ลงในอุปกรณ์หรือไม่ |
| นโยบายนี้จะมีประโยชน์เมื่อใช้ร่วมกับ <ph name="DEVICE_USER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> ซึ่งจะอนุญาตให้มีการเพิ่มบัญชี Family Link นอกเหนือจากบัญชีที่ระบุไว้ในรายการที่อนุญาต |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อลักษณะการทำงานของนโยบายลงชื่อเข้าใช้อื่นๆ กล่าวโดยเจาะจงคือจะไม่มีผลในกรณีต่อไปนี้ |
| - มีการปิดใช้การเพิ่มผู้ใช้ใหม่ในอุปกรณ์ด้วยนโยบาย <ph name="DEVICE_ALLOW_NEW_USERS_POLICY_NAME" /> |
| - มีการอนุญาตให้เพิ่มผู้ใช้ทั้งหมดด้วยนโยบาย <ph name="DEVICE_USER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" (หรือไม่กำหนดค่า) กฎเพิ่มเติมอื่นๆ จะไม่มีผลกับบัญชี Family Link |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะอนุญาตให้เพิ่มบัญชีผู้ใช้ Family Link บัญชีใหม่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_USER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="2886969306951284125">หากแอป Android เปิดอยู่ การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ก็จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานข้อมูลสถานะ Android |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานข้อมูลสถานะ Android</translation> |
| <translation id="288923520817177650">อนุญาตการสร้างเซสชัน <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> ของ <ph name="WEBXR_API_NAME_SHORT" /></translation> |
| <translation id="2889842394011108075">window.webkitStorageInfo จะพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="2890645751406497668">ให้สิทธิ์เว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่ระบุ</translation> |
| <translation id="2891049933730408118">การตั้งค่านโยบายจะระบุต้นทางที่จะอนุญาตรูปแบบการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ทั้งหมดที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> รองรับ โดยไม่คำนึงถึงนโยบาย <ph name="AUTH_SCHEMES_POLICY_NAME" /> |
| |
| จัดรูปแบบต้นทางตามนี้ (<ph name="URL_SCHEME_FORMAT_LINK" />) คุณกำหนดข้อยกเว้นใน <ph name="ALL_HTTP_AUTH_ALLOWED_FOR_ORIGINS_POLICY_NAME" /> ได้ไม่เกิน 1,000 รายการ |
| ใช้ไวลด์การ์ดได้กับต้นทางทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ โฮสต์ หรือพอร์ต</translation> |
| <translation id="2893546967669465276">ส่งบันทึกของระบบไปยังเซิร์ฟเวอร์การจัดการ</translation> |
| <translation id="2893660462311365527">อัตราการรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลในเครือข่ายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="2894914342151915910">ระงับการแสดงคำเตือนเมื่อเปิด Chrome ในระบบที่ไม่รองรับ</translation> |
| <translation id="2895444724612647239">ให้สิทธิ์เว็บไซต์โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HID</translation> |
| <translation id="2896434627453256512">การตั้งค่านโยบายเพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์หน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัว |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะสร้างหน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัว ARC ก่อนที่ ARC จะบูตหลังมีข้อขัดข้องหรือการรีบูต โดยเป็นไปตามการตั้งค่าการคืนค่าแอป |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะไม่มีการสร้างหน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัวก่อนที่ ARC จะบูต แอป ARC จะคืนค่าหลังจากที่ ARC บูต</translation> |
| <translation id="2897716186959852329">ไม่อนุญาตให้อ่านออกเสียง</translation> |
| <translation id="2899002520262095963">แอป Android สามารถใช้การกำหนดค่าเครือข่ายและใบรับรอง CA ที่ตั้งค่าผ่านนโยบายนี้ได้ แต่จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงตัวเลือกการตั้งค่าบางอย่าง</translation> |
| <translation id="2899213072616346687">จำกัดโหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลัง ระบบจะถือว่าไม่มีข้อจำกัดหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย</translation> |
| <translation id="2899640611559504158">ปิดใช้การเข้าถึงบรรทัดคำสั่งของเครื่องเสมือน</translation> |
| <translation id="290002216614278247">ให้คุณล็อกเซสชันของผู้ใช้ตามเวลาของไคลเอ็นต์หรือโควต้าการใช้งานประจำวัน |
| |
| |time_window_limit| ระบุกรอบเวลารายวันที่ควรล็อกเซสชันของผู้ใช้ เรารองรับ 1 กฎต่อแต่ละวันในสัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นอาร์เรย์ |entries| จึงอาจมีขนาดต่างกันไปตั้งแต่ 0-7 |starts_at| และ |ends_at| คือจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของขีดจำกัดกรอบเวลา เมื่อ |ends_at| น้อยกว่า |starts_at| หมายความว่า |time_limit_window| สิ้นสุดในวันต่อมา |last_updated_millis| คือการประทับเวลาครั้งล่าสุดตามเขตเวลา UTC ซึ่งมีการอัปเดตเวลานี้ ระบบส่งเวลาเป็นสตริงเนื่องจากการประทับเวลาไม่เข้ากับจำนวนเต็ม |
| |
| |time_usage_limit| ระบุโควต้าการอยู่หน้าจอรายวัน ดังนั้นเมื่อผู้ใช้ใช้งานถึงระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ระบบจะล็อกเซสชันของผู้ใช้ มีคุณสมบัติ 1 รายการสำหรับแต่ละวันในสัปดาห์ ซึ่งควรตั้งค่าเฉพาะเมื่อมีโควต้าที่ใช้งานอยู่ของวันนั้นๆ |usage_quota_mins| คือระยะเวลาในแต่ละวันที่ผู้ใช้จะใช้อุปกรณ์ที่มีการจัดการได้ และ |reset_at| คือเวลาที่มีการต่ออายุโควต้าการใช้งาน ค่าเริ่มต้นของ |reset_at| คือเที่ยงคืน ({'hour': 0, 'minute': 0}) |last_updated_millis| คือการประทับเวลาครั้งล่าสุดตามเขตเวลา UTC ซึ่งมีการอัปเดตเวลานี้ ระบบส่งเวลาเป็นสตริงเนื่องจากการประทับเวลาไม่เข้ากับจำนวนเต็ม |
| |
| |overrides| มีไว้เพื่อทำให้กฎก่อนหน้าอย่างน้อย 1 ข้อใช้งานไม่ได้ชั่วคราว |
| * หากทั้ง time_window_limit และ time_usage_limit ไม่ได้ทำงานอยู่ ระบบอาจใช้ |LOCK| เพื่อล็อกอุปกรณ์ |
| * |LOCK| จะล็อกเซสชันของผู้ใช้ชั่วคราวจนกว่าจะถึง time_window_limit ครั้งต่อไป หรือ time_usage_limit เริ่มต้นขึ้น |
| * |UNLOCK| จะปลดล็อกเซสชันของผู้ใช้ที่ล็อกด้วย time_window_limit หรือ time_usage_limit |
| |created_time_millis| คือการประทับเวลาการสร้างการลบล้างตามเขตเวลา UTC ระบบส่งเวลาเป็นสตริงเนื่องจากการประทับเวลาไม่เข้ากับจำนวนเต็ม และใช้เพื่อตัดสินว่ายังควรใช้การลบล้างนี้อยู่หรือไม่ หากฟีเจอร์ขีดจำกัดเวลาใช้งานปัจจุบัน (ขีดจำกัดการใช้เวลาหรือขีดจำกัดกรอบเวลา) เริ่มต้นหลังจากที่สร้างการลบล้าง ก็จะไม่ดำเนินการใดๆ นอกจากนี้ หากมีการสร้างการลบล้างก่อนการเปลี่ยนแปลง time_window_limit หรือ time_usage_window ซึ่งใช้อยู่ครั้งล่าสุด ระบบจะไม่ใช้การลบล้างนี้ |
| |
| ส่งการลบล้างหลายรายการได้แต่ระบบจะใช้รายการล่าสุดที่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="2901725272378498025">เปิดใช้คำเตือนด้านความปลอดภัยสำหรับการติดธงบรรทัดคำสั่ง</translation> |
| <translation id="2905984450136807296">อายุการใช้งานของแคชข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="2906874737073861391">รายการส่วนขยายของ AppPack</translation> |
| <translation id="2908277604670530363">จำนวนสูงสุดของการเชื่อมต่อพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์พร้อมกัน</translation> |
| <translation id="2912366658685903301">กำหนดค่าสีธีมของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="2914283793640833265">ไม่อนุญาตให้เปิดใช้การทำงานอย่างต่อเนื่องในฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="2915787312243722351">นโยบายนี้ควบคุมการตั้งค่า "ใช้ Launcher/แป้นค้นหาเพื่อเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชัน" การตั้งค่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกดแป้น Launcher ค้างไว้เพื่อสลับระหว่างแป้นฟังก์ชันกับแป้นแถวบนสุดของระบบ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเลือกค่าของการตั้งค่า "ใช้ Launcher/แป้นค้นหาเพื่อเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชัน" ได้อย่างอิสระ |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ แป้น Launcher/แป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชันไม่ได้ และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้เช่นกัน |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ แป้น Launcher/แป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชันได้ แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="291853569864365550">ไม่แสดงการแนะนำเนื้อหาในหน้า "แท็บใหม่"</translation> |
| <translation id="2920795918401557243">การตั้งค่านี้อนุญาตให้รวบรวมการติดตามประสิทธิภาพทั้งระบบโดยใช้บริการ System Tracing |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะรวบรวมการติดตามทั้งระบบโดยใช้บริการ System Tracing ไม่ได้ |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะรวบรวมการติดตามทั้งระบบโดยใช้บริการ System Tracing ได้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่า นโยบายนี้จะปิดใช้สำหรับอุปกรณ์ที่มีการจัดการและเปิดใช้สำหรับอุปกรณ์ของผู้บริโภค |
| โปรดทราบว่าการตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะปิดใช้การรวบรวมการติดตามทั้งระบบเท่านั้น การรวบรวมการติดตามเบราว์เซอร์จะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="2922511125678964398">อนุญาตให้การตรวจสอบสิทธิ์แคพทีฟพอร์ทัลละเว้นการตั้งค่าพร็อกซี</translation> |
| <translation id="2926813071464307947">ปิดใช้แซนด์บ็อกซ์ของคอนเทนเนอร์แอปตัวแสดงผล</translation> |
| <translation id="2931888116345994552">เปิดใช้งานการอัปเดตคอมโพเนนต์สำหรับทุกคอมโพเนนต์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อไม่มีการตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็นเปิดใช้งาน |
| |
| หากตั้งค่าเป็นปิดใช้งาน การอัปเดตสำหรับคอมโพเนนต์จะปิดใช้งาน อย่างไรก็ตาม จะมีบางคอมโพเนนต์ที่ได้รับการยกเว้นจากนโยบายนี้ กล่าวคือระบบจะไม่ปิดใช้การอัปเดตคอมโพเนนต์ที่ไม่มีโค้ดปฏิบัติการและมีความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ |
| ตัวอย่างของคอมโพเนนต์ดังกล่าว ได้แก่ รายการยกเลิกใบรับรองและตัวกรองทรัพยากรย่อย</translation> |
| <translation id="2932796739547676677">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้แป้นพิมพ์เสมือนปรับขนาดวิวพอร์ตของเลย์เอาต์โดยค่าเริ่มต้น |
| สถานะอื่นๆ (เท็จ/ไม่ได้ตั้งค่า) จะไม่มีผล |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้จะส่งผลต่อลักษณะการทำงานในการปรับขนาดเริ่มต้นเท่านั้น หากหน้าเว็บขอลักษณะการทำงานที่เจาะจงโดยใช้แท็ก <meta> หรือ Virtual Keyboard API ลักษณะการทำงานที่ขอนั้นจะยังคงมีผลต่อไป |
| |
| โปรดทราบด้วยว่านี่เป็นนโยบาย "วิธีแก้ไขปัญหา" ที่ตั้งใจให้ใช้ได้เป็นเวลาสั้นๆ |
| </translation> |
| <translation id="2939335382784544151">เปิดใช้การนำเข้าประวัติการท่องเว็บเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="2940127076681735544">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น URL ที่ถูกต้องจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ดาวน์โหลดรายการเว็บไซต์จาก URL นั้นและใช้กฎเหมือนกับว่าได้รับการกำหนดค่าด้วยนโยบาย <ph name="SITELIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| การไม่ได้ตั้งค่านโยบาย (หรือตั้งค่าเป็น URL ที่ไม่ถูกต้อง) หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้นโยบายนี้เป็นที่มาของกฎสำหรับการเปลี่ยนเบราว์เซอร์ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ชี้ไปยังไฟล์ XML ในรูปแบบเดียวกับนโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> โดยจะโหลดกฎจากไฟล์ XML แต่ไม่แชร์กฎเหล่านั้นกับ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ได้ที่ https://docs.microsoft.com/internet-explorer/ie11-deploy-guide/what-is-enterprise-mode</translation> |
| <translation id="2940284205859074236">ใช้ตัวแสดงผล Skia สำหรับการแสดงผล PDF</translation> |
| <translation id="2940653651012844682">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="ON_SECURITY_EVENT_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> Enterprise ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อเกิดการดำเนินการด้านความปลอดภัยใน Chrome โดยจะรวมถึงคำตัดสินในแง่ลบจากเครื่องมือเชื่อมต่อ Enterprise ของการวิเคราะห์ การใช้รหัสผ่านซ้ำ การนำทางไปยังหน้าที่ไม่ปลอดภัย และการดำเนินการอื่นๆ ของผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนต่อความปลอดภัย |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> ระบุว่าผู้ให้บริการการรายงานใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า ส่วนช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLED_EVENT_NAMES_FIELD" /> ระบุเหตุการณ์ที่เปิดใช้สำหรับผู้ให้บริการรายนี้ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="2943242293289396843">แอปแพ็กเกจเดิม</translation> |
| <translation id="2947111924404450461">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์องค์กร รูปแบบการตั้งค่าเหมือนกับพจนานุกรม <ph name="NATIVE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> แต่มีช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ที่จำเป็นต้องกรอกเพิ่มเข้ามาสำหรับเครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องเพื่อใช้ระบุว่าอยู่ในรายการที่อนุญาตหรือไม่อนุญาต ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5 MB และอยู่ในรูปแบบ JSON ไฟล์ที่ระบุเครื่องพิมพ์ประมาณ 21,000 เครื่องเข้ารหัสเป็นไฟล์ขนาด 5 MB ได้ 1 ไฟล์ แฮชแบบเข้ารหัสช่วยยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด ไฟล์จะมีการดาวน์โหลด แคช และดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวเพื่อการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์และทำให้เครื่องพิมพ์พร้อมใช้งานพร้อมด้วย <ph name="BULK_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" />, <ph name="BULK_PRINTERS_WHITELIST" /> และ <ph name="BULK_PRINTERS_BLACKLIST" /> |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง แต่เป็นเพียงนโยบายเพิ่มเติมสำหรับการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ของผู้ใช้แต่ละราย |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="2948268792364772890">นโยบายนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบระบุว่าหน้าเว็บอาจส่งคำขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะอนุญาตให้หน้าเว็บส่งคำขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่อนุญาตให้หน้าเว็บส่งคำขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บ |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วใน Chrome 99 |
| |
| โปรดดู https://www.chromestatus.com/feature/4664843055398912</translation> |
| <translation id="2952347049958405264">ข้อจำกัด:</translation> |
| <translation id="2952574113954326102">กำหนดค่ารายการโดเมนคุกกี้ที่บล็อกไว้ซึ่งจะไม่ถูกย้ายเมื่อผู้ใช้เปลี่ยนไปมาระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต่างๆ ขณะมีการเปิดใช้บริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์ |
| |
| หากมีการตั้งค่าคุกกี้หนึ่งๆ สำหรับโดเมนที่ตรงกับหนึ่งในตัวกรองที่มีให้ คุกกี้นั้นจะไม่รวมอยู่ในการย้าย ระบบจะจับคู่โดเมนคุกกี้ตามกฎของฟิลด์ host ที่ระบุไว้ใน https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format โดยไม่สนใจฟิลด์อื่นๆ ทั้งหมด ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| ทั้งนี้นโยบาย <ph name="FLOATING_SSO_DOMAIN_BLOCKLIST_EXCEPTIONS_POLICY_NAME" /> จะมีความสำคัญเหนือกว่า</translation> |
| <translation id="2957506574938329824">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์บลูทูธผ่าน Web Bluetooth API</translation> |
| <translation id="2957513448235202597">ประเภทบัญชีสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ <ph name="HTTP_NEGOTIATE" /></translation> |
| <translation id="2959469725686993410">ส่งจุดเข้าใช้งาน Wi-Fi ไปยังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งขณะค้นหาเขตเวลา</translation> |
| <translation id="2959527429632925933">หากไม่มีนโยบายนี้ (เช่น สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ) ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์การเชื่อมต่อไคลเอ็นต์ขาออกของ SSH (Secure SHell) ในแอประบบเทอร์มินัล (มีค่าเริ่มต้นเป็น "จริง") |
| หากผู้ใช้มีการจัดการและไม่ได้ตั้งค่านโยบายไว้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในเทอร์มินัล |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการสร้างการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์ขาออกของ SSH ในเทอร์มินัลได้</translation> |
| <translation id="2959737282368424062">อนุญาตให้ Native Client ทำงาน</translation> |
| <translation id="2959898425599642200">กฎการข้ามพร็อกซี</translation> |
| <translation id="2960013482187484833">ใช้เครื่องพิมพ์ที่ใช้ล่าสุดเป็นตัวเลือกเริ่มต้นในตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="2960128438010718932">กำหนดการใช้อัปเดตใหม่แบบทีละขั้น</translation> |
| <translation id="2960691910306063964">เปิดหรือปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ใช้ PIN สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="2960999045613902792">อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม กําหนดค่า และพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ที่ไม่ใช่ขององค์กร</translation> |
| <translation id="2962972237615992440">ปิดใช้พร็อกซี <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2963292398266537394">ปิดใช้การพิมพ์ตามคำบอก</translation> |
| <translation id="2964373560810620158">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สามารถใช้เบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="2968177167006045252">อนุญาตให้เว็บไซต์ต่างๆ ใช้ SharedArrayBuffers</translation> |
| <translation id="2969489219271682844">ไม่ต้องแสดงการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบอุปกรณ์ USB</translation> |
| <translation id="2969568582351417848">ปิดใช้คำเตือนตามนามสกุลของไฟล์สำหรับการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="2969797921412053304">นโยบายนี้กำหนดค่าว่า URL ใดจะได้รับสิทธิ์ให้ใช้เอกสารรับรองระยะไกลของข้อมูลประจำตัวของอุปกรณ์ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการของ SAML ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| กล่าวโดยละเอียดคือ หาก URL ตรงกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่จัดเตรียมไว้ให้ผ่านนโยบายนี้ URL ดังกล่าวจะได้รับส่วนหัวแบบ HTTP ซึ่งมีการตอบสนองต่อภารกิจตามเอกสารรับรองระยะไกล ข้อมูลประจำตัวของอุปกรณ์รับรอง และสถานะของอุปกรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า จะไม่มี URL ได้รับอนุญาตให้ใช้เอกสารรับรองระยะไกลในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| URL ต้องมีรูปแบบ HTTPS เช่น "https://example.com" |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="2971096666394658693">เมนูตามบริบทจะมีรายการในเมนูให้แชร์รูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="2973972555495515337">หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ระบบจะอนุญาตให้เว็บแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามใช้ <ph name="DESK_API_NAME" /> เพื่อบันทึกและแชร์เดสก์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะบันทึกและแชร์ข้อมูลเดสก์ผ่าน <ph name="DESK_API_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ลักษณะการทำงานจะเหมือนกับการตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" นโยบายนี้จะมีผลกับอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น</translation> |
| <translation id="2976033779241323433">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสตามการเรียนรู้เริ่มต้นของระบบ</translation> |
| <translation id="2976429807269247880">การตั้งค่าลักษณะการทำงานของคุกกี้ <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เดิม</translation> |
| <translation id="2979696534869541158">บังคับใช้การใช้งานเดิม</translation> |
| <translation id="2985927503455169394">ใช้โหมดเริ่มต้นของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant</translation> |
| <translation id="2987155890997901449">เปิดใช้ ARC</translation> |
| <translation id="2987227569419001736">ควบคุมการใช้ Web Bluetooth API</translation> |
| <translation id="2989404644164421834">โหลดหน้าเว็บซ้ำ</translation> |
| <translation id="299446489108785864">รายการ URL ซึ่งระบุ URL ที่จะใช้กับ <ph name="AUTO_OPEN_FILE_TYPES_POLICY_NAME" /> นโยบายนี้ไม่มีผลต่อค่าที่เปิดโดยอัตโนมัติที่ผู้ใช้กำหนดไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ไฟล์จะเปิดโดยอัตโนมัติด้วยนโยบายเฉพาะเมื่อ URL นั้นอยู่ในชุดนี้ และมีประเภทไฟล์อยู่ใน <ph name="AUTO_OPEN_FILE_TYPES_POLICY_NAME" /> หากเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งเป็น "เท็จ" ไฟล์ที่ดาวน์โหลดจะไม่เปิดโดยอัตโนมัติด้วยนโยบาย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ไฟล์ที่ดาวน์โหลดทั้งหมดที่มีประเภทไฟล์อยู่ใน <ph name="AUTO_OPEN_FILE_TYPES_POLICY_NAME" /> จะเปิดโดยอัตโนมัติ |
| |
| URL ต้องมีรูปแบบเป็นไปตาม https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format</translation> |
| <translation id="3000238720665173643">ธงบูลีนที่ระบุว่าแป้นพิมพ์บนหน้าจอจะมีฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติหรือไม่</translation> |
| <translation id="3001285126226650303">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> โหลดนโยบายทดลอง |
| |
| คำเตือน: นโยบายทดลองไม่ได้มาพร้อมการสนับสนุนและอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือถูกนำออกโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบสำหรับเวอร์ชันในอนาคตของเบราว์เซอร์ |
| |
| นโยบายทดลองอาจยังไม่เสร็จสมบูรณ์หรือยังมีข้อบกพร่องที่ทราบแล้วหรือยังไม่ทราบ ระบบอาจเปลี่ยนแปลงหรือนำนโยบายออกโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ การเปิดใช้นโยบายทดลองอาจทำให้คุณสูญเสียข้อมูลในเบราว์เซอร์หรือทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของคุณ |
| |
| หากนโยบายไม่ได้อยู่ในรายการและยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เวอร์ชันเบต้าและเวอร์ชันเสถียรจะไม่สนใจค่าของนโยบาย |
| |
| หากนโยบายอยู่ในรายการและยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ระบบจะใช้ค่าของนโยบาย |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อนโยบายที่เปิดตัวไปแล้ว</translation> |
| <translation id="3002067315837777719">ไม่อนุญาตให้เปิดใช้การแจ้งเตือนจากฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="3003490107503207900">บังคับดาวน์โหลดเอกสาร Office (เช่น .docx) แทนที่จะเปิดใน <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /></translation> |
| <translation id="300673820739371513">นโยบายนี้กำหนดว่าจะตรวจหาเอนทิตีข้อความธรรมดาในหน้าเว็บหรือไม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เรียกใช้การดำเนินการตามบริบทด้วยการโต้ตอบกับเอนทิตีนั้นได้ |
| นโยบายนี้มีพร็อพเพอร์ตี้หลายรายการ ซึ่งแต่ละรายการมีไว้สำหรับเอนทิตีแต่ละประเภท |
| ประเภทเอนทิตีคือ <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" />, <ph name="ADDRESS_ENUM_VALUE" /> ... |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าสำหรับเอนทิตี ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานของเอนทิตี <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" /> |
| ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของ <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" /> คือ <ph name="ENABLED_ENUM_VALUE" /> |
| |
| ค่าของเอนทิตีแต่ละประเภทคือ <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" />, <ph name="ENABLED_ENUM_VALUE" />, <ph name="DISABLED_ENUM_VALUE" /> หรือ <ph name="LONGPRESSONLY_ENUM_VALUE" /> |
| หากตั้งค่าเป็น <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" /> ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานของเอนทิตี <ph name="DEFAULT_ENUM_VALUE" /> |
| หากตั้งค่าเป็น <ph name="ENABLED_ENUM_VALUE" /> ระบบจะตรวจหา ขีดเส้นใต้ และเรียกใช้เอนทิตีด้วยการแตะครั้งเดียวหรือกดค้าง |
| หากตั้งค่าเป็น <ph name="DISABLED_ENUM_VALUE" /> ระบบจะไม่ตรวจหาเอนทิตีและดำเนินการไม่ได้ |
| หากตั้งค่าเป็น <ph name="LONGPRESSONLY_ENUM_VALUE" /> ระบบจะตรวจหาเอนทิตีและดำเนินการได้โดยใช้การกดค้างเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3010395821339265736">แสดงหน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3010907817113180883">อัตราการรวบรวมฮาร์ตบีตของกิจกรรมในอุปกรณ์เป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="3016585641676676461">บล็อกโหมดเต็มหน้าจอโดยอัตโนมัติในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="3017578958356048910">โปรแกรมอ่าน PDF จะใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ได้</translation> |
| <translation id="3020623128585817424">ปิดใช้การตรวจสอบเบราว์เซอร์เริ่มต้นเมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="3020953534071988875">การกำหนดค่านโยบายนี้จะอนุญาต/ไม่อนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับโปรไฟล์ที่ไม่ระบุตัวตนและโปรไฟล์ผู้เยี่ยมชมใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์คือการตรวจสอบสิทธิ์ http ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบเริ่มต้นหากไม่ได้ระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ชัดแจ้งผ่านรูปแบบคำถาม/คำตอบแบบ NTLM/Kerberos/Negotiate |
| |
| การตั้งค่าเป็น <ph name="REGULAR_ONLY_OPTION_NAME" /> (ค่า 0) จะอนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับเซสชันปกติเท่านั้น เซสชันไม่ระบุตัวตนและเซสชันผู้เยี่ยมชมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ |
| |
| การตั้งค่าเป็น <ph name="INCOGNITO_AND_REGULAR_OPTION_NAME" /> (ค่า 1) จะอนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับเซสชันไม่ระบุตัวตนและเซสชันปกติ เซสชันผู้เยี่ยมชมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ |
| |
| การตั้งค่าเป็น <ph name="GUEST_AND_REGULAR_OPTION_NAME" /> (ค่า 2) จะอนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับเซสชันผู้เยี่ยมชมและเซสชันปกติ เซสชันไม่ระบุตัวตนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ |
| |
| การตั้งค่าเป็น <ph name="ALL_OPTION_NAME" /> (ค่า 3) จะอนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับทุกเซสชัน |
| |
| โปรดทราบว่าระบบจะอนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ในโปรไฟล์ปกติเสมอ |
| |
| ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 81 ขึ้นไป หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์เฉพาะในเซสชันปกติ</translation> |
| <translation id="3021562480854470924">อนุญาตให้มีจุดการย้อนกลับ</translation> |
| <translation id="3023172689742785487">บังคับให้เปิดใช้โหมด "HTTPS เท่านั้น"</translation> |
| <translation id="3023572080620427845">URL ของไฟล์ XML ที่มี URL ที่จะโหลดในเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="302528139996622624">การตั้งค่ารูปภาพ</translation> |
| <translation id="3026740867910702435">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยเคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบอยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบอยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้นแต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3030000825273123558">เปิดใช้งานการรายงานเมตริก</translation> |
| <translation id="30300807616984726">รายงานข้อมูลพื้นที่โฆษณาในแอปสำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะควบคุมการรายงานกิจกรรมการติดตั้งแอป การเปิดตัว และการถอนการติดตั้งสำหรับประเภทแอปที่ระบุ |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานกิจกรรมในแอป</translation> |
| <translation id="3030232909811556512">หากปิดใช้นโยบายนี้จะทำให้ไม่สามารถตั้งค่ารูปโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ของผู้ใช้จากไฟล์ในเครื่อง กล้องของอุปกรณ์ หรือรูปโปรไฟล์ Google ของผู้ใช้ได้ |
| |
| ผู้ใช้อาจตั้งค่ารูปโปรไฟล์จากตัวเลือกเหล่านี้ได้หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="3031796805169553856">อนุญาตให้ส่งโมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทาง</translation> |
| <translation id="3032322294267258117">ควบคุมการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์กับ GAIA โดยไม่มี SAML</translation> |
| <translation id="3034855514833090741">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant แสดงขั้นตอนการเปิดใช้ Voice Match ระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant ไม่แสดงขั้นตอนการเปิดใช้ Voice Match ระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่าระบบจะ "เปิดใช้" นโยบาย</translation> |
| <translation id="3038323923255997294">เรียกใช้แอปพลิเคชันพื้นหลังต่อไปเมื่อปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3041887182529293512">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะแสดงคำแนะนำเนื้อหาซึ่งสร้างโดยอัตโนมัติในหน้าแท็บใหม่ โดยอิงจากประวัติการท่องเว็บ ความสนใจ หรือตำแหน่งของผู้ใช้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะป้องกันไม่ให้คำแนะนำเนื้อหาซึ่งสร้างโดยอัตโนมัติแสดงในหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="3046192273793919231">ส่งแพ็กเก็ตเครือข่ายไปยังเซิร์ฟเวอร์การจัดการเพื่อติดตามดูสถานะการออนไลน์</translation> |
| <translation id="3047732214002457234">ควบคุมวิธีที่การทำความสะอาด Chrome รายงานข้อมูลไปยัง Google</translation> |
| <translation id="3047864383610708617">ปิดใช้คีย์ติดหนึบ</translation> |
| <translation id="3048744057455266684">หากนโยบายนี้ถูกตั้งค่าไว้และ URL ค้นหาที่แถบอเนกประสงค์แนะนำมีพารามิเตอร์นี้ในสตริงข้อความค้นหาหรือในตัวระบุชิ้นส่วน คำแนะนำจะแสดงคำค้นหาและผู้ให้บริการค้นหาแทน URL ค้นหาดิบ |
| |
| นโยบายนี้ไม่บังคับ หากไม่ตั้งค่านโยบาย จะไม่มีการแทนที่คำค้นหา |
| |
| นโยบายนี้มีผลต่อเมื่อเปิดใช้งานนโยบาย "DefaultSearchProviderEnabled"</translation> |
| <translation id="3049115011983576556">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรมได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับนโยบาย <ph name="SERIAL_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> (หากมีการจับคู่) <ph name="DEFAULT_SERIAL_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> (หากตั้งค่าไว้) หรือการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีความสำคัญเหนือกว่าตามลำดับข้างต้น |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="SERIAL_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="305106159605171619">การลด User Agent ปิดใช้อยู่ และไม่ได้เปิดใช้ผ่านช่วงทดลองใช้งานภาคสนามหรือช่วงทดลองใช้จากต้นทาง</translation> |
| <translation id="3053265701996417839">Microsoft Windows 7</translation> |
| <translation id="3057459316145779761">ไม่อนุญาตให้ใช้ Chrome สำหรับการทดสอบ</translation> |
| <translation id="3063302084011279315">ปิดใช้ Screencast</translation> |
| <translation id="3063307261083019730">ไม่อนุญาตให้จัดเก็บหน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> ใน Back-Forward Cache</translation> |
| <translation id="3064530882228745118">ใช้การค้นหา CNAME ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos</translation> |
| <translation id="3066446511111537292">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่เชื่อมโยงของอุปกรณ์นี้ใช้การโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ ADB</translation> |
| <translation id="3067462824622454143">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกว่าจะล็อกอุปกรณ์หรือไม่เมื่อมีการระงับการใช้งานหรือพับจอ</translation> |
| <translation id="3070119171976169951">ป้องกันไม่ให้รูปภาพจากบุคคลที่สามแสดงพรอมต์การตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="3072045631333522102">โปรแกรมรักษาหน้าจอที่จะใช้ในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ในโหมดปลีก</translation> |
| <translation id="3072788420987305247">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะแสดงตัวควบคุมสื่อในหน้าจอล็อกในกรณีที่ผู้ใช้ล็อกอุปกรณ์เมื่อสื่อกำลังเล่นอยู่ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะเปิดตัวควบคุมสื่อเมื่อหน้าจอล็อกปิดอยู่</translation> |
| <translation id="3072847235228302527">ตั้งข้อกำหนดในการให้บริการสำหรับบัญชีภายในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3074032542020543133">LTS Channel</translation> |
| <translation id="3074886258920642791">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3077650998740742747"> |
| การทำงานเริ่มต้น (ไม่ได้ตั้งค่านโยบาย) |
| เมื่อมีการเพิ่มบัญชีในพื้นที่สำหรับเนื้อหา กล่องโต้ตอบขนาดเล็กอาจปรากฏขึ้นเพื่อขอให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์ใหม่ โดยกล่องโต้ตอบนี้จะเป็นแบบปิดได้ |
| |
| <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /> = <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT" /> |
| หากผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้บริการของ Google เป็นครั้งแรกในเบราว์เซอร์ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" กล่องโต้ตอบจะปรากฏขึ้นเพื่อขอให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์ใหม่สำหรับบัญชีองค์กร โดยผู้ใช้อาจคลิก "ยกเลิก" และออกจากระบบ หรือ "ดำเนินการต่อ" เพื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่ก็ได้ ระบบจะไม่เพิ่มข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปยังโปรไฟล์ใหม่ โปรไฟล์ที่สร้างใหม่มีบัญชีรองได้ เช่น ผู้ใช้สามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชีอื่นในพื้นที่สำหรับเนื้อหา |
| |
| <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /> = <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT_STRICT" /> |
| นี่เป็นลักษณะการทำงานเดียวกันกับ <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT" /> เพียงแต่ว่าโปรไฟล์ที่สร้างใหม่จะไม่ได้รับอนุญาตให้มีบัญชีรอง |
| |
| <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /> = <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT_KEEP_EXISTING_DATA" /> |
| นี่เป็นลักษณะการทำงานเดียวกันกับ <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT" /> เพียงแต่ว่าจะมีการเพิ่มช่องทำเครื่องหมายในกล่องโต้ตอบเพื่อให้ผู้ใช้เก็บข้อมูลการท่องเว็บในเครื่องไว้ได้ |
| หากผู้ใช้เลือกช่องนี้ ข้อมูลโปรไฟล์ที่มีอยู่ก็จะเชื่อมโยงกับบัญชีที่จัดการ |
| - ข้อมูลการท่องเว็บทั้งหมดที่มีอยู่จะปรากฏในโปรไฟล์ใหม่ |
| - ข้อมูลนี้รวมถึงบุ๊กมาร์ก ประวัติการเข้าชม รหัสผ่าน ข้อมูลการป้อนข้อความอัตโนมัติ แท็บที่เปิดอยู่ คุกกี้ แคช พื้นที่เก็บข้อมูลเว็บ ส่วนขยาย ฯลฯ |
| หากผู้ใช้ไม่ได้เลือกช่องนี้ |
| - โปรไฟล์เก่าจะยังคงใช้งานได้ต่อไปและจะไม่มีการลบข้อมูลใดๆ |
| - ระบบจะสร้างโปรไฟล์ใหม่ |
| |
| <ph name="MANAGED_ACCOUNTS_SIGNIN_RESTRICTION_POLICY_NAME" /> = <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT_STRICT_KEEP_EXISTING_DATA" /> |
| นี่เป็นลักษณะการทำงานเดียวกันกับ <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT_KEEP_EXISTING_DATA" /> เพียงแต่ว่าโปรไฟล์ที่สร้างใหม่จะไม่ได้รับอนุญาตให้มีบัญชีรอง</translation> |
| <translation id="3079575168312257780">การตั้งค่านโยบายเป็น 0 (ค่าเริ่มต้น) หมายความว่าคุณจะเข้าถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript ได้ แต่ไม่ใช่ในบริบทของส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายระดับองค์กร หรือตั้งแต่เวอร์ชัน 114 หากเป็นผู้ใช้ที่มีการจัดการ ส่วนขยายจะมีอยู่ในตัวเบราว์เซอร์ การตั้งค่านโยบายเป็น 1 หมายความว่าคุณจะเข้าถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript ได้ในทุกบริบท ซึ่งรวมถึงส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายระดับองค์กร การตั้งค่านโยบายเป็น 2 หมายความว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และจะตรวจสอบองค์ประกอบของเว็บไซต์ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านี้ยังปิดแป้นพิมพ์ลัดและเมนูหรือรายการในเมนูตามบริบทเพื่อเปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือคอนโซล JavaScript ด้วย |
| |
| ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 99 การตั้งค่านี้ยังควบคุมจุดแรกเข้าสำหรับฟีเจอร์ "ดูที่มาของหน้าเว็บ" ด้วย หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "DeveloperToolsDisallowed" (ค่า 2) ผู้ใช้จะเข้าถึงการดูที่มาผ่านแป้นพิมพ์ลัดหรือเมนูตามบริบทไม่ได้ หากต้องการบล็อกการดูที่มาโดยสมบูรณ์ คุณต้องเพิ่ม "view-source:*" ลงในนโยบาย <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ด้วย |
| |
| ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 119 เป็นต้นไป การตั้งค่านี้จะควบคุมว่าจะเปิดใช้และใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ Isolated Web App ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="3083259245974004342">การปกป้องรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="308356121098374167">WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัยจะพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="3086995894968271156">กำหนดค่า Cast Receiver ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3087346703976541109">ระบุว่าสามารถใช้ SharedArrayBuffers ในบริบทที่แยกออกมาแบบไม่ข้ามต้นทางได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="3088557424854005813">เอกสารรับรอง</translation> |
| <translation id="3090283903269516279">ปิดใช้รูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3091832372132789233">ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟภายนอกเป็นหลัก</translation> |
| <translation id="3092059499596000593">ใช้เครื่องพิมพ์เริ่มต้นของระบบเป็นตัวเลือกเริ่มต้นในตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="309416443108680956">ระบุสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านโทเค็นความปลอดภัย (เช่น ด้วยสมาร์ทการ์ด) นำโทเค็นดังกล่าวออกขณะอยู่ในเซสชัน <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_IGNORE" />: ไม่มีอะไรเกิดขึ้น <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_LOCK" />: หน้าจอจะล็อกจนกว่าผู้ใช้จะตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_LOGOUT" />: เซสชันจะสิ้นสุดและนำผู้ใช้ออกจากระบบ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ <ph name="SECURITY_TOKEN_SESSION_BEHAVIOR_IGNORE" /> เป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3096595567015595053">รายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="309885424548342662">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์ในระบบคลาวด์ของ Microsoft®</translation> |
| <translation id="3101035417394748390">ขนาดสูงสุด (หน่วยเป็นไบต์) ที่สามารถโอนระหว่างไคลเอ็นต์และโฮสต์ผ่านการซิงค์ข้อมูลในคลิปบอร์ด</translation> |
| <translation id="3101501961102569744">เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="3101709781009526431">วันที่และเวลา</translation> |
| <translation id="3105764289283669411">นโยบายนี้ควบคุมว่าเมธอดคำขอจะเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือไม่เมื่อตรงกับส่วนหัวการตอบกลับ <ph name="ACAM_HEADER_NAME" /> ในการตรวจสอบล่วงหน้าของ <ph name="CORS" /> |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะใช้เมธอดคำขอเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ |
| ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานใน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เวอร์ชัน 108 หรือก่อนหน้านั้น |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า เมธอดคำขอจะไม่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เว้นแต่กรณีที่ตรงกับ <ph name="DELETE_METHOD_NAME" />, <ph name="GET_METHOD_NAME" />, <ph name="HEAD_METHOD_NAME" />, <ph name="OPTIONS_METHOD_NAME" />, <ph name="POST_METHOD_NAME" /> หรือ<ph name="PUT_METHOD_NAME" /> โดยไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ |
| การดำเนินการนี้จะปฏิเสธส่วนหัวการตอบกลับ <ph name="REJECTED_CASE" /> และจะยอมรับส่วนหัวการตอบกลับ <ph name="ACCEPTED_CASE" /> |
| |
| หมายเหตุ: เมธอดคำขอ <ph name="POST_LOWERCASE_METHOD_NAME" /> และ <ph name="PUT_LOWERCASE_METHOD_NAME" /> ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะมีผลกระทบต่อ <ph name="PATCH_LOWERCASE_METHOD_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อใช้ชั่วคราวและจะนำออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="3110248563985502478">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วในรุ่น M88 และ Chrome ไม่รองรับ Flash อีกต่อไป การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าระบบจะใช้ปลั๊กอินเก่าเป็นปลั๊กอินปกติ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าจะไม่มีการใช้ปลั๊กอินเก่า |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่าระบบจะขออนุญาตผู้ใช้เพื่อเรียกใช้ปลั๊กอินเก่า</translation> |
| <translation id="3110373701407677290">การตั้งค่านโยบายจะช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งจับภาพแท็บที่มีต้นทางเดียวกันได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบไม่พิจารณาเว็บไซต์เพื่อทำการลบล้างที่การจับภาพระดับนี้ |
| |
| โปรดทราบว่าจะยังมีการจับภาพแอป Chrome ในโหมดหน้าต่างซึ่งมีต้นทางเดียวกับเว็บไซต์นี้ได้อยู่ |
| |
| หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่พิจารณานโยบาย <ph name="TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="WINDOW_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL</translation> |
| <translation id="3112501357749061018">รายการใบรับรอง TLS ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์ โดยมีการเพิ่มข้อจำกัดไว้นอกใบรับรอง หากไม่มีข้อจำกัดของประเภทใดประเภทหนึ่ง ระบบจะอนุญาตให้ใช้ชื่อของประเภทนั้น |
| ใบรับรองควรเข้ารหัสฐาน 64 ต้องระบุข้อจำกัดอย่างน้อย 1 ข้อสำหรับใบรับรองแต่ละรายการ</translation> |
| <translation id="3118552207903834734">อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าชื่อโฮสต์อุปกรณ์ของตนได้</translation> |
| <translation id="3122082892722698079">ควบคุมการใช้ข้อยกเว้นเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="3125472566440502628">ปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่าน</translation> |
| <translation id="312561239664885970">เราเลิกใช้งานนโยบายนี้แล้วและได้แบ่งออกเป็น <ph name="BROWSER_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />, <ph name="USER_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| เปิดใช้ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุ URL ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอเพื่อเริ่มโฟลว์เอกสารรับรอง นโยบายหลังจะช่วยให้เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับชุดเอกสารรับรองของสัญญาณที่มีการคำนึงถึงบริบทจากอุปกรณ์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือปล่อยว่างไว้จะทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดไม่สามารถเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองหรือได้รับสัญญาณจากอุปกรณ์ |
| |
| สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้เกี่ยวข้องกับการรับรองระยะไกลซึ่งระบบสร้างใบรับรองโดยอัตโนมัติแล้วอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ โปรดใช้นโยบาย <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> สำหรับการใช้งานโฟลว์เอกสารรับรองบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบของอุปกรณ์ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format</translation> |
| <translation id="3126229421659523563">ในโหมดคีออสก์ นโยบายนี้ควบคุมว่าเมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอยจะแสดงหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" เมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอยจะแสดงเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า เมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอยจะไม่แสดงเลย</translation> |
| <translation id="3126748868885248792">ปุ่มขวาคือปุ่มหลัก</translation> |
| <translation id="3128072319047570212">การตั้งค่าคีย์เจน</translation> |
| <translation id="3131703464330936425">ไม่อนุญาตการโรมมิ่งอินเทอร์เน็ตมือถือ</translation> |
| <translation id="3135820765957090754">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้ซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi ระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> กับโทรศัพท์ Android ที่เชื่อมต่อ ก่อนที่จะซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi ได้ ผู้ใช้ต้องเลือกใช้ฟีเจอร์นี้อย่างชัดแจ้งด้วยการทำตามขั้นตอนการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi |
| |
| ฟีเจอร์นี้ขึ้นอยู่กับประเภทข้อมูล <ph name="WIFI_CONFIGURATIONS_DATATYPE_NAME" /> ใน<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> ที่เปิดใช้อยู่ หากปิดใช้ <ph name="WIFI_CONFIGURATIONS_DATATYPE_NAME" /> ในนโยบาย <ph name="SYNC_TYPES_LIST_DISABLED_POLICY_NAME" /> หรือปิดใช้<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> นโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> ระบบจะไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้ที่มีการจัดการจะใช้ค่าเริ่มต้นไม่ได้</translation> |
| <translation id="3136550518935590587">ให้สิทธิ์เว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HID ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่ระบุในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3138514192363246220">ปิดใช้การดึงข้อมูลเมตาของการโหลดหน้าเว็บและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="3142410959002029864">การตั้งค่านโยบายนี้จะลบล้างโหมดการพิมพ์ 2 ด้านเริ่มต้น หากโหมดนี้ไม่พร้อมใช้งาน ระบบจะเพิกเฉยต่อนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="3143203373436771188">เมื่อไปยังเอกสาร Office ที่จัดการโดย <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /> ให้เปิดเอกสารเหล่านั้นใน <ph name="BASIC_EDITOR_NAME" /></translation> |
| <translation id="3144173889708944482">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_BLOCKLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_PRINTERS_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ไม่ได้ เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้ใช้นำมาใช้งาน ยกเว้นเครื่องที่มีรหัสตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="3146711617256415776">ไม่อนุญาตเสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงเมื่อใช้ "เลือกเพื่อให้อ่าน"</translation> |
| <translation id="3150351525324499342">ไม่แสดงไอคอน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ในแถบเครื่องมือโดยค่าเริ่มต้น แต่ให้ผู้ใช้เลือก</translation> |
| <translation id="3152135410085709340">อนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ในเครื่องผ่าน URL รูปแบบ file:// ในโปรแกรมอ่าน PDF สำหรับเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="3152425128389603870">ทำให้เดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอพร้อมใช้งานและเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3159375329008977062">อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งออก/นำเข้าคอนเทนเนอร์ Crostini ผ่าน UI</translation> |
| <translation id="3163167792874598128">เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" โปรโมชันการให้คะแนนของ App Store อาจแสดงให้ผู้ใช้เห็นได้สูงสุดปีละครั้ง |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" โปรโมชันการให้คะแนนของ App Store จะไม่แสดงแก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3164531087779621747">พิมพ์ในโหมด PostScript</translation> |
| <translation id="3165468162820163252">นโยบายนี้ควบคุมว่าส่วน WebUI ของหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะโหลดทุกครั้งเมื่อเริ่มต้นหรือเฉพาะตอนก่อนที่จะแสดง นโยบายนี้จะใช้กับหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ส่วน WebUI ของ UI การลงชื่อเข้าใช้จะโหลดเฉพาะตอนก่อนที่จะแสดง วิธีการนี้จะเร่งให้ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบเร็วขึ้น |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ส่วน WebUI ของหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะโหลดเมื่อเปิดเครื่องเสมอ (ลักษณะการทำงานเดิม) |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ฟีเจอร์ kEnableLazyLoginWebUILoading จะควบคุมลักษณะการทำงาน |
| |
| ควรนำนโยบายนี้ออกหลังจากที่เปิดตัว kEnableLazyLoginWebUILoading โดยสมบูรณ์แล้ว</translation> |
| <translation id="3165808775394012744">เรารวมนโยบายเหล่านี้ไว้ที่นี่เพื่อให้นำออกได้ง่ายๆ</translation> |
| <translation id="3166210414652928099">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้แอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ</translation> |
| <translation id="316778957754360075">การตั้งค่านี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 29 วิธีที่แนะนำในการตั้งค่าคอลเล็กชันส่วนขยาย/แอปที่โฮสต์โดยองค์กรคือการรวมไซต์ที่โฮสต์แพ็กเกจ CRX ใน ExtensionInstallSources และการวางลิงก์ดาวน์โหลดโดยตรงไปยังแพ็กเกจบนหน้าเว็บ ตัวเรียกใช้งานสำหรับหน้าเว็บนั้นสามารถถูกสร้างขึ้นโดยใช้นโยบาย ExtensionInstallForcelist</translation> |
| <translation id="3168303368727724798">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_USB_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_USB_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="3168968618972302728">นโยบายเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos</translation> |
| <translation id="3169872426103732947">แสดง URL เริ่มต้นและอนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนเป็น URL แบบเต็มได้</translation> |
| <translation id="3171369832001535378">เทมเพลตชื่อโฮสต์เครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3173844121395372156">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="NATIVE_MESSAGING_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="3177537290334203187">ใช้ลักษณะการทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อกำหนดว่าเว็บไซต์ต่างๆ จะส่งคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="3177802893484440532">ต้องใช้การตรวจสอบ OCSP/CRL ออนไลน์สำหรับ Trust Anchor ในพื้นที่</translation> |
| <translation id="3179533009079100620">แสดงเครื่องมือเลือกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="3180671894201217988">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามแทรกโค้ดปฏิบัติการลงในกระบวนการของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะอนุญาตให้ซอฟต์แวร์นี้แทรกโค้ดดังกล่าวลงในกระบวนการของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="3181114468897395940">การตั้งค่า PageUp/PageDown ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="3182503302060513467">หน้าแท็บใหม่จะแสดงประกาศในช่องกลางหากมีประกาศ</translation> |
| <translation id="3184161739683646075">ควบคุมโหมด DNS-over-HTTPS</translation> |
| <translation id="3184309751910415763">รายการที่อนุญาตซึ่งควบคุมการรายงานกิจกรรมในเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะควบคุมการรายงานเหตุการณ์เปิดและปิด URL ของเว็บไซต์สำหรับ URL ในรายการที่อนุญาต หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานเหตุการณ์ของเว็บไซต์ |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้อนุญาตเฉพาะรูปแบบ HTTP URL และ HTTPS URL เท่านั้น</translation> |
| <translation id="3184638144755436350">Chrome จะบล็อกการเรียกออกไปยังโปรโตคอลนอก iframe ที่ทำแซนด์บ็อกซ์ ดู https://chromestatus.com/features/5680742077038592 |
| |
| เมื่อเป็นจริง Chrome จะบล็อกการเรียกออกไปดังกล่าว |
| |
| เมื่อเป็นเท็จ Chrome จะไม่บล็อกการเรียกออกไปดังกล่าว |
| |
| ค่าเริ่มต้นจะเป็นจริง นั่นคือฟีเจอร์ความปลอดภัยจะเปิดใช้อยู่ |
| |
| ซึ่งอาจใช้โดยผู้ดูแลระบบที่ต้องการเวลามากขึ้นในการอัปเดตเว็บไซต์ภายในซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดใหม่นี้ นโยบายองค์กรนี้เป็นนโยบายชั่วคราว และมีแผนที่จะนำออกหลัง <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 117 |
| </translation> |
| <translation id="3185009703220253572">ตั้งแต่รุ่น <ph name="SINCE_VERSION" /></translation> |
| <translation id="3185146554126007874">การตั้งค่านโยบายจะกำหนด URL ที่ให้ผู้ใช้ไปเปลี่ยนรหัสผ่านหลังจากเห็นคำเตือนในเบราว์เซอร์ บริการปกป้องรหัสผ่านจะส่งผู้ใช้ไปยัง URL (โปรโตคอล HTTP และ HTTPS เท่านั้น) ที่คุณกำหนดผ่านนโยบายนี้ โปรดตรวจสอบว่าหน้าเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณเป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/create-amazing-password-forms ) เพื่อให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> บันทึกแฮชที่ใช้ Salt ของรหัสผ่านใหม่ได้อย่างถูกต้องในหน้าเปลี่ยนรหัสผ่านนี้ |
| |
| การปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้บริการส่งผู้ใช้ไปที่ https://myaccount.google.com เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3192902750888034827">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_NEW_TAB_URL_POLICY_NAME" /> จะระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้เพื่อจัดเตรียมหน้าแท็บใหม่ |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_NEW_TAB_URL_POLICY_NAME" /> จะทำให้ไม่มีการจัดเตรียมหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="3195062117832383020">อนุญาตให้รวมข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องระดับต่ำในความคิดเห็นของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3195103497550111266">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="DEVICE_LTS_TAG_VALUE" /> จะอนุญาตให้อุปกรณ์รับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ LTS (การสนับสนุนระยะยาว)</translation> |
| <translation id="319608028525745507">เปิดใช้การรองรับ URL ข้อมูลใน SVGUseElement</translation> |
| <translation id="3196585866522778760">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหวหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหว โดยกำหนดค่าการตอบสนองแยกต่างหากได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="3198385910521788907">ไม่แสดงหน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้านระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3205825995289802549">ขยายขนาดหน้าต่างเบราว์เซอร์บานแรกให้ใหญ่ที่สุดเมื่อเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="320607884987562184">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้เว็บไซต์เรียกใช้ JavaScript ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธไม่ให้เรียกใช้ JavaScript |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="3207821022126246451">WebRTC จะใช้ TCP ในอินเทอร์เฟซที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และจะใช้ UDP ก็ต่อเมื่อพร็อกซีที่กำหนดค่าไว้รองรับเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3207873329349672535">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้จะเห็นตัวเลือกภายในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้แคสต์ไปยังอุปกรณ์แคสต์ที่ไม่ปรากฏในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> หรือไม่ โดยใช้รหัสการเข้าถึงหรือคิวอาร์โค้ดที่แสดงบนหน้าจอของอุปกรณ์แคสต์ |
| โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องป้อนรหัสการเข้าถึงหรือสแกนคิวอาร์โค้ดอีกครั้งเพื่อเริ่มเซสชันการแคสต์ครั้งต่อไป แต่หากตั้งค่านโยบาย <ph name="ACCESS_CODE_CAST_DEVICE_DURATION_POLICY_NAME" /> เป็นค่าที่ไม่ใช่ 0 (ค่าเริ่มต้นเป็น 0) อุปกรณ์แคสต์จะยังคงอยู่ในรายชื่ออุปกรณ์แคสต์ที่พร้อมใช้งานจนกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้จะหมดอายุ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ผู้ใช้จะเห็นตัวเลือกให้เลือกอุปกรณ์แคสต์โดยใช้รหัสการเข้าถึงหรือด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะไม่เห็นตัวเลือกให้เลือกอุปกรณ์แคสต์โดยใช้รหัสการเข้าถึงหรือด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด</translation> |
| <translation id="3208615748170745525">วันจากการค้นหาอัปเดต</translation> |
| <translation id="3209947902706795852">แจ้งเตือนให้ผู้ใช้ย้ายข้อมูล</translation> |
| <translation id="3210408472559816322">การตั้งค่านโยบายจะระบุโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่ระบบไม่ควรโหลด ค่ารายการปฏิเสธ "<ph name="WILDCARD_VALUE" />" จะทำให้โฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมทั้งหมดถูกปฏิเสธ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้ง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> โหลดโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่ติดตั้งไว้ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="3211426942294667684">การตั้งค่าการลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="3217774577897351942">จะมีการเปลี่ยนแปลง <ph name="OFFSET_PARENT" /> API ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน <ph name="FIREFOX_PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="SAFARI_PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้จะนำลักษณะการทํางานแบบเก่ากลับมาจนถึงเวอร์ชัน M120 |
| |
| ลักษณะการทํางานแบบใหม่นี้อาจทําให้บางเว็บไซต์ (ซึ่งใช้แค่ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" อย่างเดียว) ที่ใช้ <ph name="OFFSET_PARENT" />, <ph name="OFFSET_TOP" /> หรือ <ph name="OFFSET_LEFT" /> ร่วมกับ Shadow DOM เกิดความเสียหายได้ |
| |
| โพลีฟิลล์บางส่วนที่นําลักษณะการทํางานแบบเก่ากลับมาเพื่อช่วยในการย้ายข้อมูลมีดังนี้ https://github.com/josepharhar/offsetparent-polyfills |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานแบบใหม่ |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบเก่า |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบใหม่เช่นเดียวกับผู้ใช้ Chromium ที่เหลือ</translation> |
| <translation id="3219421230122020860">โหมดไม่ระบุตัวตนพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="3220624000494482595">หากแอปคีออสก์เป็นแอป Android แอปจะไม่มีสิทธิ์ควบคุมเวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แม้ว่าจะตั้งนโยบายนี้เป็น <ph name="TRUE" /> ก็ตาม</translation> |
| <translation id="3222088741899353813">ปุ่มซ้ายคือปุ่มหลักในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="322359555555487980">กำหนดความพร้อมใช้ของรูปแบบต่างๆ ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3229163415739929305">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะเปิดใช้การดึงข้อมูลเมตาของการโหลดหน้าเว็บและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การท่องเว็บ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างทำงานไม่เหมาะสม</translation> |
| <translation id="3231311173895401135">ให้เบราว์เซอร์ตัดสินใจเรื่องการรองรับ</translation> |
| <translation id="3231837273069128027">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดค่าความพร้อมใช้งานและลักษณะการทำงานของการอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> |
| |
| ระบุการตั้งค่าแต่ละรายการในคุณสมบัติของ JSON ได้ดังนี้ |
| |
| * <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_ALLOW_USER_INITIATED_POWERWASH" />: หากตั้งค่าเป็น <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_ALLOW_USER_INITIATED_POWERWASH_TRUE" /> ผู้ใช้จะเรียกใช้ขั้นตอน Powerwash เพื่อติดตั้งการอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> ได้ |
| |
| * <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_ALLOW_USER_INITIATED_PRESERVE_DEVICE_STATE" /> (มีให้ใช้งานใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 68 เป็นต้นไป): หากตั้งค่าเป็น <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_ALLOW_USER_INITIATED_PRESERVE_DEVICE_STATE_TRUE" /> ผู้ใช้จะเรียกใช้ขั้นตอนการอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> ที่รักษาสถานะของทั้งอุปกรณ์ (รวมถึงการลงทะเบียนองค์กร) ไว้ได้ แต่จะเสียข้อมูลผู้ใช้ |
| |
| * <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_AUTO_UPDATE_MODE" /> (มีให้ใช้งานใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 75 เป็นต้นไป): ควบคุมลักษณะการบังคับใช้การอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> แบบอัตโนมัติกับเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> ที่มีความเสี่ยง ทุกขั้นตอนจะรักษาสถานะของอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกันไว้ หากตั้งค่าเป็น |
| |
| * 1 หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการบังคับใช้การอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> |
| |
| * 2 เฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> จะอัปเดตเมื่อรีบูตครั้งถัดไปหลังจากที่ผู้ใช้รับทราบการอัปเดต |
| |
| * 3 เฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> จะอัปเดตเมื่อรีบูตครั้งถัดไป |
| |
| * 4 เฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> จะอัปเดตหลังการลงทะเบียน ก่อนที่ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้การอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /> ไม่พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="3232563711929146405">ปิดใช้แซนด์บ็อกซ์ของบริการเครือข่าย</translation> |
| <translation id="3232691106293445015">การเชื่อมต่อผ่าน HTTP ที่ไม่ปลอดภัยไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์<ph name="BASIC_AUTH" /> ต้องใช้ HTTPS</translation> |
| <translation id="3234773866678260466">อนุญาตให้เพิ่มโปรไฟล์ใหม่</translation> |
| <translation id="3234863952320884611">เปิดให้เรียกใช้เมธอด <ph name="FILE_SYSTEM_SYNC_ACCESS_HANDLE" /> แบบไม่พร้อมกันได้</translation> |
| <translation id="3235085623859932253"> หากปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วง Thunderbolt/USB4 ผ่าน PCIe Tunneling ได้อย่างสมบูรณ์ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วง Thunderbolt/USB4 ผ่าน PCIe Tunneling ได้อย่างสมบูรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า นโยบายจะมีค่าเริ่มต้นเป็น "เท็จ" และผู้ใช้จะเลือกสถานะใดก็ได้ (จริง/เท็จ) สำหรับการตั้งค่านี้</translation> |
| <translation id="3236046242843493070">รูปแบบ URL ที่อนุญาตส่วนขยาย แอปพลิเคชัน และการติดตั้งสคริปต์ของผู้ใช้จาก</translation> |
| <translation id="323609919471603985">อนุญาตให้แสดงการโปรโมตส่วนขยายผู้ให้บริการเอกสารสิทธิ์</translation> |
| <translation id="3239125988620218257">รายงานสถานะเครือข่าย</translation> |
| <translation id="3240609035816615922">นโยบายการเข้าถึงการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์</translation> |
| <translation id="324062325008698789">กำหนดค่ารายการเครื่องพิมพ์</translation> |
| <translation id="3240655340884151271">ที่อยู่ MAC ของ NIC ในตัวของแท่นชาร์จ</translation> |
| <translation id="3242756958360374888">มีรายการของรูปแบบที่ใช้ในการควบคุมการเปิดเผยบัญชีใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| บัญชี Google แต่ละบัญชีในอุปกรณ์จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับรูปแบบที่จัดเก็บไว้ในนโยบายนี้ เพื่อกำหนดการเปิดเผยบัญชีใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ระบบจะเปิดเผยบัญชีหากชื่อบัญชีตรงกับรูปแบบใดๆ ในหน้ารายการ แต่หากไม่ตรงกัน ระบบจะซ่อนบัญชีไว้ |
| |
| ใช้อักขระ "*" ที่เป็นสัญลักษณ์แทนเพื่อจับคู่อักขระ 0 หรืออักขระอื่นๆ ที่กำหนดเอง อักขระหลีกคือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*" หรือ "\" จริง ต้องใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นด้วย |
| |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ไว้ บัญชี Google ทั้งหมดในอุปกรณ์จะแสดงอยู่ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3246606090306814894">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งาน F12</translation> |
| <translation id="3248019773260441802">อนุญาตให้หน้าเว็บแสดงป๊อปอัประหว่างยกเลิกการโหลด</translation> |
| <translation id="3251500716404598358">กำหนดค่านโยบายเพื่อสลับระหว่างเบราว์เซอร์ |
| |
| เว็บไซต์ที่กำหนดค่าไว้จะเปิดในเบราว์เซอร์อื่นแทน <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="3252724033247471310">อนุญาตให้ต้นทางเหล่านี้จับภาพแท็บที่มีต้นทางเดียวกัน</translation> |
| <translation id="3255624750680556186">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ทริกเกอร์ Powerwash ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ทริกเกอร์ Powerwash ไม่ได้ อาจเกิดข้อยกเว้นให้ทำ Powerwash ได้หากตั้งค่า <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_SETTINGS_NAME" /> เป็นค่าที่อนุญาตให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ TPM แต่เฟิร์มแวร์ TPM ยังไม่ได้รับการอัปเดต</translation> |
| <translation id="3256920103934729145">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้คลิกผ่านหน้าคําเตือน SSL</translation> |
| <translation id="3257786863492892609">นโยบายการควบคุม Screencast</translation> |
| <translation id="3258380413685430793">เรียกใช้เนื้อหา "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="3261592499545947104">จำนวนวินาทีก่อนใบรับรองจะหมดอายุซึ่งระบบจะเริ่มต่ออายุใบรับรอง</translation> |
| <translation id="3262080895269946462">อนุญาตให้ปิดใช้ WebSQL ในบริบทของบุคคลที่สามโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="326341982850521928">เปิดใช้การแก้สี</translation> |
| <translation id="3263892501786842604">อนุญาตให้แสดงปุ่ม <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในช่องค้นหาบนหน้าแท็บใหม่ หากรองรับ</translation> |
| <translation id="3264793472749429012">การเข้ารหัสของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3265952988644972779">ปิดใช้แบบสำรวจในผลิตภัณฑ์</translation> |
| <translation id="3269198556438453775">ป้องกันไม่ให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เพื่อให้การสนับสนุนจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="3271741247922321334">อนุญาตให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่อนุญาตให้แสดงเนื้อหาผสม (เช่น เนื้อหา HTTP ในเว็บไซต์ HTTPS) ที่บล็อกได้ (เช่น แบบแอ็กทีฟ) และที่ระบบจะอัปเกรดเนื้อหาผสมที่เลือกบล็อกได้ (เช่น แบบแพสซีฟ) |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะบล็อกเนื้อหาผสมที่บล็อกได้ ส่วนเนื้อหาผสมที่เลือกบล็อกได้จะได้รับการอัปเกรด แต่ผู้ใช้จะตั้งค่าข้อยกเว้นให้แสดงเนื้อหาดังกล่าวในเว็บไซต์ที่เจาะจงได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="3273221114520206906">การตั้งค่า JavaScript เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3278042410658310805">ปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="328347261792478720">โดยค่าเริ่มต้น เบราว์เซอร์จะแสดงคำแนะนำสื่อที่มีการปรับเปลี่ยนในแบบของผู้ใช้ การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะทำให้ระบบซ่อนคำแนะนำเหล่านี้ไม่ให้ผู้ใช้เห็น การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ระบบแสดงคำแนะนำสื่อต่อผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3284094172359247914">ควบคุมการใช้ WebUSB API</translation> |
| <translation id="3286159327013237833">เปิดใช้การคลิกอัตโนมัติในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3288595667065905535">ช่องเผยแพร่</translation> |
| <translation id="3291940794983537008">การตั้งค่าสำหรับฟีเจอร์ Generative AI ในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ</translation> |
| <translation id="3294430356898755483">การตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ดูแลระบบตั้งค่ารายการเครื่องพิมพ์สำหรับผู้ใช้ได้ การเลือกเครื่องพิมพ์เกิดขึ้นในครั้งแรกที่ผู้ใช้พยายามจะสั่งพิมพ์ |
| |
| นโยบายนี้ใช้ในการดำเนินการต่อไปนี้ |
| |
| * ปรับแต่ง <ph name="PRINTER_DISPLAY_NAME" /> และ <ph name="PRINTER_DESCRIPTION" /> ซึ่งมีรูปแบบอิสระเพื่อการเลือกเครื่องพิมพ์ที่ง่ายขึ้น |
| |
| * ช่วยผู้ใช้ระบุเครื่องพิมพ์โดยใช้ <ph name="PRINTER_MANUFACTURER" /> และ <ph name="PRINTER_MODEL" /> |
| |
| * <ph name="PRINTER_URI" /> ควรเป็นที่อยู่ที่เข้าถึงได้จากเครื่องไคลเอ็นต์ รวมถึง <ph name="URI_SCHEME" />, <ph name="URI_PORT" /> และ <ph name="URI_QUEUE" /> |
| |
| * ระบุ <ph name="PRINTER_UUID" /> เพื่อช่วยกรองเครื่องพิมพ์ <ph name="ZEROCONF_DISCOVERY" /> ที่ซ้ำกันออก หากต้องการ |
| |
| * ใช้ชื่อรุ่นสำหรับ <ph name="PRINTER_EFFECTIVE_MODEL" /> หรือจะตั้งค่า <ph name="PRINTER_AUTOCONF" /> เป็น "จริง" ก็ได้ ระบบจะเพิกเฉยต่อเครื่องพิมพ์ที่มีพร็อพเพอร์ตี้ทั้ง 2 รายการหรือไม่มีเลย |
| |
| ระบบจะดาวน์โหลด PPD หลังการใช้งานเครื่องพิมพ์ และแคช PPD ที่ใช้บ่อยไว้ นโยบายนี้ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง |
| |
| หมายเหตุ: สำหรับอุปกรณ์ที่จัดการโดย <ph name="MS_AD_NAME" /> นโยบายนี้รองรับการขยาย <ph name="MACHINE_NAME_VARIABLE" /> เป็นชื่อเครื่อง <ph name="MS_AD_NAME" /> หรือสตริงย่อย ตัวอย่างเช่น หากชื่อเครื่องคือ <ph name="MACHINE_NAME_EXAMPLE" /> ระบบจะแทนที่ <ph name="MACHINE_NAME_VARIABLE_EXAMPLE" /> ด้วยอักขระ 4 ตัวที่เริ่มหลังจากตำแหน่งที่ 6 นั่นคือ <ph name="MACHINE_NAME_PART_EXAMPLE" /> ตำแหน่งจะเริ่มนับจากศูนย์ |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTERS_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="3294852060412792476">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าระบบจะส่งไฟล์ที่ดาวน์โหลดไปให้ Google Safe Browsing วิเคราะห์ แม้ว่าไฟล์นั้นจะมาจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ก็ตาม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าระบบจะไม่ส่งไฟล์ที่ดาวน์โหลดไปให้ Google Safe Browsing วิเคราะห์ เมื่อมาจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ |
| |
| ข้อจำกัดเหล่านี้มีผลกับการดาวน์โหลดที่เกิดขึ้นจากเนื้อหาของหน้าเว็บ รวมถึงตัวเลือกเมนู "ดาวน์โหลดลิงก์" ด้วย แต่ไม่มีผลกับการบันทึกหรือการดาวน์โหลดของหน้าที่แสดงอยู่ หรือการบันทึกเป็น PDF จากตัวเลือกการพิมพ์ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3300441638895109781">โหลดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ซ้ำโดยอัตโนมัติใน ChromeOS</translation> |
| <translation id="3300784749135986828">เปิดใช้หรือปิดใช้<ph name="USER_AGENT_REDUCTION_FEATURE_NAME" /></translation> |
| <translation id="3301698868852716692">เปิดใช้ส่วนขยายข้อมูลเชิงลึก</translation> |
| <translation id="3302829897293005699">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานข้อมูลเซสชันคีออสก์ที่ใช้งานอยู่ เช่น รหัสและเวอร์ชันของแอปพลิเคชัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานข้อมูลเซสชันคีออสก์</translation> |
| <translation id="3303770131697159224">การตั้งค่าเริ่มต้นของสิทธิ์การจัดการหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="3303911765031636277">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับ OnFileAttached Chrome Enterprise Connector</translation> |
| <translation id="3307744348419745296">ไม่อนุญาตให้ซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi ระหว่างอุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" กับโทรศัพท์ Android ที่เชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="3308724602356134956">หากคุณตั้งค่านโยบาย <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดและใช้รูปภาพวอลเปเปอร์ที่คุณตั้งค่าไว้เป็นพื้นหลังของเดสก์ท็อปของผู้ใช้และหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ระบุ URL (ที่เข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์) ซึ่ง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ดาวน์โหลดรูปภาพวอลเปเปอร์ รวมถึงแฮชแบบเข้ารหัส (เป็นรูปแบบ JPEG ที่มีขนาดไฟล์ไม่เกิน 16 MB) ได้เพื่อยืนยันความสมบูรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกรูปภาพสำหรับพื้นหลังของเดสก์ท็อปและหน้าจอลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3315324240256767419">เปิดใช้ฟีเจอร์หน้าต่างท่องเว็บแบบส่วนตัว</translation> |
| <translation id="3321099611644751329">ใบรับรอง TLS ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์พร้อมกับข้อจำกัด</translation> |
| <translation id="3323819750604111729">เปิดใช้การนำเข้าบุ๊กมาร์กเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="332771718998993005">กำหนดชื่อที่โฆษณาเป็นปลายทางของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงที่ไม่ว่างเปล่า ระบบจะใช้สตริงนั้นเป็นชื่อปลายทางของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> มิเช่นนั้นชื่อปลายทางจะเป็นชื่ออุปกรณ์ หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ ชื่อปลายทางจะเป็นชื่ออุปกรณ์ และเจ้าของอุปกรณ์ (หรือผู้ใช้จากโดเมนที่จัดการอุปกรณ์) จะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อ ชื่อต้องมีความยาวไม่เกิน 24 อักขระ</translation> |
| <translation id="3329063005964041553">บล็อกการใช้ File Handling API ในเว็บแอปเหล่านี้</translation> |
| <translation id="3329401415394648069">อนุญาตให้ใช้ U2F Security Key API</translation> |
| <translation id="3329976499753286262">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าจะเปิดใช้การกำหนดค่าคอนเทนเนอร์ของแอปตัวแสดงผลในแพลตฟอร์มที่รองรับ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและความเสถียรของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เนื่องจากจะลดประสิทธิภาพของแซนด์บ็อกซ์ที่กระบวนการแสดงผลใช้ ปิดนโยบายนี้เฉพาะในกรณีที่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามซึ่งต้องเรียกใช้ภายในกระบวนการแสดงผล |
| |
| หมายเหตุ: อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลดการประมวลผล (https://chromium.googlesource.com/chromium/src/+/HEAD/docs/design/sandbox.md#Process-mitigation-policies)</translation> |
| <translation id="3338431256935927407">ควบคุมการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์การอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="3339271789059866414">กำหนดค่าความพร้อมใช้งานของบริการพร็อกซีของระบบและข้อมูลเข้าสู่ระบบของพร็อกซีสำหรับบริการของระบบ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย บริการพร็อกซีของระบบจะใช้งานไม่ได้</translation> |
| <translation id="334231891933432876">นำผู้ใช้ออกจากระบบทันทีที่บัญชีของผู้ใช้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="3345323903592385588">ลำดับการกำหนดค่า VM จะแสดงในโปรแกรมติดตั้ง เมื่อระบุการกำหนดค่า VM หลายรายการ การกำหนดที่มีค่า display_order ขนาดเล็กที่สุดจะแสดงที่ด้านบนสุดของรายการ ค่าเริ่มต้นคือ 0</translation> |
| <translation id="3351661569026056296">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้แป้นพิมพ์แถวบนสุดทำหน้าที่เป็นแป้นฟังก์ชัน การกดแป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นดังกล่าวกลับไปเป็นแป้นสื่อ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า แป้นพิมพ์จะมีค่าเริ่มต้นของการส่งคำสั่งเป็นแป้นสื่อ การกดแป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นดังกล่าวเป็นแป้นฟังก์ชัน</translation> |
| <translation id="3351835664671920945">กำหนดให้แป้นพิมพ์มาตรฐานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับการป้อนรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="3359186795130278362">เปิดใช้เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแบบจำกัด</translation> |
| <translation id="33592541385181121">ไม่รวมพอร์ตใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้น</translation> |
| <translation id="3360093276083825336">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนแสดงกล่องคำเตือนหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยพลังงานแบตเตอรี่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงกล่องคำเตือนที่แจ้งผู้ใช้ว่ากำลังจะเริ่มตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ จะไม่มีกล่องคำเตือนปรากฏขึ้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้เหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| ข้อความเตือนจะแสดงต่อเมื่อการทำงานสำหรับการไม่มีความเคลื่อนไหวคือการออกจากระบบหรือการปิดเครื่อง</translation> |
| <translation id="3360490004791301756">อนุญาตให้ผู้ใช้แลกรับข้อเสนอผ่านการลงทะเบียน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3360531283145674884">อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน PluginVm</translation> |
| <translation id="3362584244602846824">ใช้การเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเมื่อจุดเข้าใช้งานแบบไร้สายรองรับฟีเจอร์นี้</translation> |
| <translation id="3363360928811201045">เพิ่มข้อจำกัดในบัญชีที่จัดการ</translation> |
| <translation id="3364400740222114778">การกู้คืนบัญชี</translation> |
| <translation id="3366156659815091184">การพิมพ์ของแพลตฟอร์มใช้กระบวนการของบริการ</translation> |
| <translation id="3367361756115023251">อนุญาตให้ผู้ใช้รายนี้เข้าถึงรูทของคอนเทนเนอร์ Crostini |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะให้สิทธิ์เข้าถึงรูทของคอนเทนเนอร์ Crostini แก่ผู้ใช้รายนี้ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ระบบจะไม่ให้สิทธิ์เข้าถึงรูททั้งของคอนเทนเนอร์ Crostini ที่มีอยู่และของคอนเทนเนอร์ใหม่แก่ผู้ใช้รายนี้</translation> |
| <translation id="3373381043600809954">เปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="3374587000313305002">กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ไดเรกทอรีที่ให้มา โดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้มีการระบุสถานะ "--user-data-dir" หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูลหรือข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดอื่นๆ คุณไม่ควรตั้งค่านโยบายนี้เป็นไดเรกทอรีที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่นเพราะ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะจัดการเนื้อหาของตัวเอง |
| |
| ดูรายการตัวแปรที่ใช้ได้ได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=Supported_directory_variables |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้เส้นทางโปรไฟล์เริ่มต้นและผู้ใช้จะลบล้างเส้นทางนี้ได้ด้วยการตั้งสถานะโดยใช้บรรทัดคำสั่ง "--user-data-dir"</translation> |
| <translation id="3379326579027180941">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงเครื่องพิมพ์ในเครือข่ายผ่าน WebPrinting API</translation> |
| <translation id="3379368498958498146">เปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริง</translation> |
| <translation id="3380801667330555918">เปลี่ยนการกำหนดค่าที่กรอกไว้ล่วงหน้าสำหรับตั๋ว Kerberos</translation> |
| <translation id="338149029069528354">ไม่ต้องลบข้อมูลผู้ใช้ในระบบ</translation> |
| <translation id="3381968327636295719">ใช้เบราว์เซอร์โฮสต์โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3387117557265712991">ปิดใช้การเข้ารหัสระดับแอปพลิเคชัน</translation> |
| <translation id="3387211681524224831">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าจะไม่มีการบันทึกประวัติการท่องเว็บ การซิงค์แท็บจะปิด และผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะบันทึกประวัติการท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="3387999258705169775">ลักษณะการทํางานเริ่มต้นของการบีบที่ซ้อนอยู่ของฟังก์ชัน setTimeout()</translation> |
| <translation id="3388628790024977864">ไม่อนุญาตการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /></translation> |
| <translation id="3389088527709746815">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์ gnubby สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="3397883909301547525">ไม่ต้องแสดงการแนะนำแอปใน Launcher ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />"</translation> |
| <translation id="3398051852031115795">การทำงานของระบบตามค่าเริ่มต้น (ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าจอ)</translation> |
| <translation id="33993310248354034">อนุญาตให้ตรวจหาเอนทิตีข้อความธรรมดาในหน้าเว็บ</translation> |
| <translation id="3399859571630358395">บังคับให้ปิดใช้การจับคู่ด่วน (การจับคู่บลูทูธด่วน)</translation> |
| <translation id="3404681701763345449">เปิดใช้การผสานรวม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />"</translation> |
| <translation id="3405361833556012520">นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับการเข้าชมเบราว์เซอร์, Play Store, การไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บในแอป Android และการรับส่งข้อมูลอื่นๆ ของผู้ใช้ เช่น การรับส่งข้อมูล VM ของ Linux หรืองานพิมพ์ โดยยังคงเป็นไปตามข้อจำกัดของ VPN แบบเปิดตลอดเวลา นโยบายนี้จะบังคับใช้ขณะที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับ VPN และเฉพาะการเข้าชมเบราว์เซอร์ของผู้ใช้เท่านั้น ขณะที่นโยบายนี้มีผลบังคับใช้ การรับส่งข้อมูลของระบบยังข้าม VPN แบบเปิดตลอดเวลาเพื่อทำงานต่างๆ เช่น การดึงข้อมูลนโยบายและซิงค์นาฬิกาของระบบด้วย |
| |
| ใช้นโยบายนี้เพื่อเปิดข้อยกเว้นให้กับบางรูปแบบ โดเมนย่อยของโดเมนอื่นๆ พอร์ต หรือเส้นทางที่เฉพาะเจาะจง โดยใช้รูปแบบที่ระบุไว้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ตัวกรองที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดจะเป็นตัวกำหนดว่า URL หนึ่งๆ ถูกบล็อกหรือได้รับอนุญาต |
| |
| หากตั้งค่า <ph name="ALWAYSON_VPN_PRE_CONNECT_URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> ระบบจะกำหนดค่า VPN แบบเปิดตลอดเวลาและจะไม่เชื่อมต่อ VPN แบบเปิดตลอดเวลาดังกล่าว และจะบล็อกการนำทางไปยังโฮสต์ทั้งหมด ยกเว้นโฮสต์ที่นโยบาย <ph name="ALWAYSON_VPN_PRE_CONNECT_URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> อนุญาต ในสถานะของอุปกรณ์นี้ ระบบจะไม่สนใจ <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> เมื่อมีการเชื่อมต่อ VPN แบบเปิดตลอดเวลา ระบบจะใช้นโยบาย <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> และจะไม่สนใจนโยบาย <ph name="ALWAYSON_VPN_PRE_CONNECT_URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้ระบุรายการได้ไม่เกิน 1,000 รายการ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไปยังส่วนต่างๆ ของเบราว์เซอร์ไม่ได้ในขณะที่ VPN แบบเปิดตลอดเวลาในโหมดเข้มงวดเปิดใช้งานอยู่และไม่มีการเชื่อมต่อ VPN ดังกล่าว</translation> |
| <translation id="3405997282295704902">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />"</translation> |
| <translation id="3406122462682235653">ไม่ต้องถามผู้ใช้ (เริ่มดาวน์โหลดทันที)</translation> |
| <translation id="3408078762098350617">ควบคุมประสบการณ์ของผู้ใช้สำหรับฟีเจอร์ที่ปิดใช้ที่ระบุไว้ใน <ph name="SYSTEM_FEATURES_DISABLE_LIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "บล็อก" ฟีเจอร์ที่ปิดใช้จะไม่สามารถใช้ได้ แต่ผู้ใช้จะยังคงมองเห็น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ซ่อน" ฟีเจอร์ที่ปิดใช้จะไม่สามารถใช้ได้และผู้ใช้จะมองไม่เห็น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือมีค่าไม่ถูกต้อง โหมดปิดใช้ของฟีเจอร์ของระบบจะ "ถูกบล็อก"</translation> |
| <translation id="341285788698114069">นโยบายนี้ควบคุมลำดับความสำคัญของกระบวนการของเสียงใน Windows |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของเสียงจะทำงานโดยมีลำดับความสำคัญสูงกว่าปกติ |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของเสียงจะทำงานโดยมีลำดับความสำคัญปกติ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การกำหนดค่าเริ่มต้นของกระบวนการของเสียง |
| นโยบายนี้มีไว้เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อให้องค์กรสามารถเรียกใช้เสียงที่มีลำดับความสำคัญสูงในการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพบางอย่างโดยใช้การบันทึกเสียงได้ |
| จะมีการนำนโยบายนี้ออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="3413763534078822244">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="USER_BOREALIS_ALLOWED_NAME" /> แทน |
| |
| ควบคุมความพร้อมใช้งานของ <ph name="BOREALIS_NAME" /> สำหรับอุปกรณ์นี้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ผู้ใช้อุปกรณ์ทุกคนจะใช้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ไม่ได้ มิเช่นนั้น (เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "จริง") <ph name="BOREALIS_NAME" /> จะพร้อมใช้งานเฉพาะในกรณีที่ไม่มีนโยบายหรือการตั้งค่าอื่นมาปิดใช้</translation> |
| <translation id="3415954062311826850">นโยบายนี้ไม่รองรับใน ARC</translation> |
| <translation id="34160070798637152">ควบคุมการกำหนดค่าเครือข่ายของทั้งอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3417130629744653218">อนุญาตให้เว็บไซต์ถามหาวิธีการชำระเงินที่พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="3417391585519621050">เปิดใช้การค้นหาที่ได้รับความช่วยเหลือจากกล้อง <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร</translation> |
| <translation id="3417418267404583991">หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะเปิดใช้งานการลงชื่อเข้าใช้ของผู้มาเยือน การลงชื่อเข้าใช้ของผู้มาเยือนจะเป็นเซสชันผู้ใช้แบบไม่ระบุตัวตนและไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่าน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เริ่มเซสชันของผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="3423703250826790403">แอปพลิเคชัน Android</translation> |
| <translation id="3426434797050451264">นโยบายนี้ยังใช้เพื่อระบุแอป Android เป็นตัวแฮนเดิลไฟล์เริ่มต้นได้</translation> |
| <translation id="3428247105888806363">เปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่าย</translation> |
| <translation id="3430198032663063246">ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" เป็นผู้ช่วยในการเขียนเนื้อหาแบบสั้นในเว็บโดยใช้ AI เนื้อหาที่แนะนำจะอิงตามพรอมต์ที่ผู้ใช้ป้อนและเนื้อหาของหน้าเว็บ |
| |
| 0 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แล้วส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยัง Google เพื่อช่วยฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอาจรวมถึงพรอมต์ อินพุต เอาต์พุต และเนื้อหาแหล่งที่มา โดยทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์นั้นๆ อาจมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงโมเดล AI เท่านั้น |
| |
| 0 คือค่าเริ่มต้น เว้นแต่จะระบุไว้ด้านล่าง |
| |
| 1 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยัง Google เพื่อฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI 1 คือค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| 2 = ปิดใช้ฟีเจอร์ 2 คือค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชี Education ที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลสำหรับฟีเจอร์ Generative AI ได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=generative_ai_settings</translation> |
| <translation id="3432863169147125747">ควบคุมการตั้งค่าการพิมพ์</translation> |
| <translation id="3434053014926283175">สลับปุ่มหลักของเมาส์ไปเป็นปุ่มด้านขวาในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ปุ่มด้านขวาของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักในหน้าจอการเข้าสู่ระบบเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักในหน้าจอการเข้าสู่ระบบเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะสลับปุ่มได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3434932177006334880">ก่อน Chrome 42 การตั้งค่านี้เคยมีชื่อว่า EnableWebBasedSignin เราจะยกเลิกการสนับสนุนทั้งหมดของนโยบายนี้ใน Chrome 43 |
| |
| การตั้งค่านี้มีประโยชน์สำหรับลูกค้าที่เป็นองค์กรซึ่งใช้โซลูชัน SSO ที่ยังใช้ร่วมกับขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ในหน้าแบบใหม่ไม่ได้ |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะใช้ขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ผ่านเว็บแบบเก่า |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ในหน้าแบบใหม่เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้อาจยังเปิดใช้ขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ผ่านเว็บแบบเก่าได้โดยใช้สถานะบรรทัดคำสั่ง enable-web-based-signin |
| |
| ในอนาคตจะมีการนำการตั้งค่าแบบทดลองนี้ออกเมื่อการลงชื่อเข้าใช้ในหน้ารองรับขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้ SSO ทั้งหมดอย่างสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="3435796032110614169">อนุญาตให้ลบประวัติงานพิมพ์</translation> |
| <translation id="3436217793443508863">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนล็อกหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="3437924696598384725">อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการการเชื่อมต่อ VPN</translation> |
| <translation id="3441664787678256816">อนุญาตให้องค์กรเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เพื่อให้การสนับสนุนจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="3442269905344976871">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" เมื่อตัวควบคุมการวินิจฉัยและการวัดและส่งข้อมูลทางไกล (DTC) ของ <ph name="WILCO_NAME" /> พร้อมให้ใช้งานในอุปกรณ์จะเป็นการเปิดการรวบรวม ประมวลผล และรายงานข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลและการวินิจฉัย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ DTC ปิดไป ซึ่งส่งผลให้รวบรวม ประมวลผล หรือรายงานข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลและการวินิจฉัยจากอุปกรณ์ไม่ได้</translation> |
| <translation id="3442589735857147823">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เครื่องเสมือนที่จำเป็นต่อการรองรับแอป Linux</translation> |
| <translation id="3450649825886735618">ไม่ใช้บริการเว็บของ Google เพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของการสะกดคำ</translation> |
| <translation id="3451422488938880786"> อนุญาตการเปิด/ปิดใช้การแมปแป้นพิมพ์ลัดสากลซ้ำ</translation> |
| <translation id="3451901387456196887">ผู้ใช้จะเห็นตัวเลือกในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้เลือกอุปกรณ์แคสต์โดยใช้รหัสการเข้าถึงหรือด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด</translation> |
| <translation id="3456292544936505775">นโยบายนี้ควบคุมช่วงเวลาที่ไม่อนุญาตให้อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ตรวจหาอัปเดตโดยอัตโนมัติ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ด้วยช่วงเวลาที่ไม่ใช่รายการที่ว่างเปล่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้ |
| อุปกรณ์จะตรวจหาอัปเดตโดยอัตโนมัติไม่ได้ระหว่างช่วงเวลาที่ระบุ อุปกรณ์ที่ต้องย้อนกลับเวอร์ชันโดยองค์กรหรือมีเวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต่ำกว่าขั้นต่ำจะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้เพราะอาจมีปัญหาความปลอดภัย นอกจากนี้ นโยบายนี้จะไม่บล็อกการตรวจหาอัปเดตที่ผู้ใช้หรือผู้ดูแลระบบขอ |
| ตั้งแต่รุ่น M88 นโยบายนี้จะยกเลิกอัปเดตที่ดำเนินอยู่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ถูกจำกัด อัปเดตอัตโนมัติครั้งถัดไปหลังจากที่ช่วงเวลาที่ถูกจำกัดสิ้นสุดลงจะดำเนินการอัปเดตต่อโดยอัตโนมัติ อุปกรณ์ที่อัปเดตเป็นเวอร์ชัน Quick Fix จะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือไม่ได้ใส่ช่วงเวลา สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้ |
| นโยบายนี้จะไม่บล็อกการตรวจหาอัปเดตอัตโนมัติ แต่นโยบายอื่นๆ อาจบล็อกการตรวจหา |
| จนถึงรุ่น M88 ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้เฉพาะในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่กำหนดค่าเป็นคีออสก์ที่เปิดอัตโนมัติ นโยบายนี้ไม่ได้จำกัดอุปกรณ์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่รุ่น M89 จะมีการเปิดใช้นโยบายนี้ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="3459509316159669723">การพิมพ์</translation> |
| <translation id="3460485593332210712">อนุญาตให้ใช้ Chrome สำหรับการทดสอบ</translation> |
| <translation id="3461279434465463233">รายงานสถานะพลังงาน</translation> |
| <translation id="3468115890799739909">นโยบายนี้ควบคุมการแสดงหน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จะปรากฏที่ chrome://history/grouped |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หน้าเหล่านี้จะไม่ปรากฏที่ chrome://history/grouped |
| |
| แต่หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายก็จะปรากฏอยู่ที่ chrome://history/grouped โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| โปรดทราบว่าหากตั้งค่านโยบาย <ph name="COMPONENT_UPDATES_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" แต่ตั้งค่า <ph name="HISTORY_CLUSTERS_VISIBLE_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หน้าประวัติการเข้าชมใน Chrome ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จะยังคงปรากฏที่ chrome://history/grouped แต่อาจมีความเกี่ยวข้องกับผู้ใช้น้อยลง |
| </translation> |
| <translation id="3478024346823118645">ล้างข้อมูลผู้ใช้เมื่อออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="3478406829037689272">เปิดใช้การสแกนอย่างละเอียดสำหรับการดาวน์โหลดด้วย Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="3480961938508521469">ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มด้วยอัตรามาตรฐาน</translation> |
| <translation id="348110646151632565">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการเลือกเพื่อให้อ่านในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3483585138745445814">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ฟีเจอร์การแชร์ใกล้เคียง</translation> |
| <translation id="3485200437120267231">ปิดใช้การสกัดกั้นการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3487651201232258606">การรับส่งข้อความของระบบ</translation> |
| <translation id="3488551354274495283">เปิดใช้การแสดงหน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3492351353716550742">อย่าใช้นโยบาย URL ที่มาเริ่มต้นเป็น "ไม่มี URL ที่มาเมื่อดาวน์เกรด"</translation> |
| <translation id="3492834335089638487">นโยบายนี้ควบคุมการใช้งานแอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ (แหล่งที่ไม่ใช่ Google Play Store) สำหรับอุปกรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าในนโยบายนี้ จะถือว่าตั้งค่าเป็นไม่อนุญาต |
| |
| ความพร้อมใช้งานของฟังก์ชันนี้จะขึ้นอยู่กับนโยบายผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องด้วย</translation> |
| <translation id="3495602011142234826">หากตั้งค่าเป็น "จริง" ส่วนขยายนี้จะใช้ได้ทุกคีย์ที่กำหนดมาสำหรับการใช้งานขององค์กรเพื่อลงนามข้อมูลที่กำหนดเอง หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ส่วนขยายจะเข้าถึงคีย์ดังกล่าวไม่ได้และผู้ใช้จะให้สิทธิ์ดังกล่าวไม่ได้ด้วย ทั้งนี้มีข้อยกเว้นว่า ส่วนขยายหนึ่งๆ สามารถเข้าถึงคีย์ดังกล่าวได้ต่อเมื่อส่วนขยายเดียวกันนั้นได้สร้างคีย์นั้นไว้</translation> |
| <translation id="3496296378755072552">ตัวจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="3496761649331792755">เปิดใช้แถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="3498109920669229084">การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุว่าส่วนขยายใดบ้างไม่ขึ้นอยู่กับรายการที่บล็อก |
| |
| ค่า <ph name="ALL_EXTENSIONS" /> ในรายการที่บล็อกหมายความว่า ส่วนขยายทั้งหมดถูกบล็อก และผู้ใช้จะติดตั้งได้เฉพาะส่วนขยายที่ระบุไว้ในรายการที่อนุญาต |
| |
| ส่วนขยายทั้งหมดได้รับอนุญาตโดยค่าเริ่มต้น แต่ถ้าคุณห้ามส่วนขยายด้วยนโยบาย ให้ใช้รายการส่วนขยายที่อนุญาตเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายนั้น</translation> |
| <translation id="3501606938635483637">แป้นพิมพ์ลัดสากลจะแมปกับรูปอักขระบนแป้นต่างๆ แทนที่จะเป็นตำแหน่งของแป้นบนแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="3502438748205582075">ปิดใช้ Kerberos</translation> |
| <translation id="3502555714327823858">อนุญาตโหมดพิมพ์ 2 ด้านทั้งหมด</translation> |
| <translation id="350443680860256679">กำหนดค่า ARC</translation> |
| <translation id="3507563853012621792">ควบคุมว่าจะลบประวัติงานพิมพ์ได้หรือไม่ |
| |
| งานพิมพ์ที่จัดเก็บไว้ในเครื่องจะลบได้ผ่านแอปการจัดการการพิมพ์หรือโดยการลบประวัติของเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ |
| |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะลบประวัติงานพิมพ์ได้ผ่านแอปการจัดการการพิมพ์หรือโดยการลบประวัติของเบราว์เซอร์ |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะลบประวัติงานพิมพ์ผ่านแอปการจัดการการพิมพ์หรือโดยการลบประวัติของเบราว์เซอร์ไม่ได้</translation> |
| <translation id="3507745622376866366">บังคับให้ตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ยกเลิกการโหลดยังคงเปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้นระหว่างการเลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="350797926066071931">เปิดใช้งานแปลภาษา</translation> |
| <translation id="3513265258454735822">เปิดใช้การบันทึกประวัติการท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="3513655665999652754">เซิร์ฟเวอร์ Quirks มีไฟล์การกำหนดค่าเฉพาะฮาร์ดแวร์ เช่น |
| โปรไฟล์การแสดง ICC เพื่อปรับการปรับเทียบจอภาพ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" อุปกรณ์จะไม่พยายามติดต่อเซิร์ฟเวอร์ Quirks เพื่อดาวน์โหลดไฟล์การกำหนดค่า |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่กำหนดค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะติดต่อเซิร์ฟเวอร์ Quirks โดยอัตโนมัติและดาวน์โหลดไฟล์การกำหนดค่าโดยอัตโนมัติ (หากมี) และเก็บไฟล์เหล่านั้นไว้ในอุปกรณ์ ระบบอาจใช้ไฟล์เหล่านั้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของจอแสดงผลที่เชื่อมต่อกับจอภาพ</translation> |
| <translation id="3515196503924273265">อนุญาตให้เปิดใช้ฟีเจอร์ NewBaseUrlInheritanceBehavior</translation> |
| <translation id="351654132746710200">หลังจากที่ปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> เราจะไม่ดำเนินการย้ายข้อมูล ระบบจะนำโฟลเดอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ออกและผู้ใช้ยังคงใช้ข้อมูลที่เหลือต่อไปได้</translation> |
| <translation id="3522257170445891912">เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าสู่ระบบจะเป็นวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าของการตั้งค่า |
| |
| หากตั้งค่าเป็น GAIA การเข้าสู่ระบบจะดำเนินการผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ GAIA ทั่วไป |
| |
| หากตั้งค่าเป็น SAML_INTERSTITIAL การเข้าสู่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางไปยัง SAML IdP อัตโนมัติโดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ยังคงกลับไปใช้ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบทั่วไปของ GAIA ได้ |
| |
| หมายเหตุ: หน้าจอการยืนยันผู้ใช้เพิ่มเติมที่แสดงใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> จนถึงเวอร์ชัน 99 จะไม่ปรากฏอีกต่อไป หากไม่ได้กำหนดค่า SAML IdP ไว้และตั้งค่านโยบายนี้เป็น SAML_INTERSTITIAL ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางไม่สำเร็จโดยมีข้อผิดพลาด 400</translation> |
| <translation id="3523630512885826906">ช่วงเวลาแสดงรูปภาพหน้าจอล็อกสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3524204464536655762">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ผ่าน WebUSB API</translation> |
| <translation id="3526752951628474302">การพิมพ์ขาวดำเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3528000905991875314">เปิดใช้งานหน้าเว็บแสดงข้อผิดพลาดสำรอง</translation> |
| <translation id="3530249698314520116">กำหนดค่ารายการกฎการป้องกันข้อมูลรั่วไหลใน "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" |
| ข้อมูลรั่วไหลอาจเกิดขึ้นได้จากการคัดลอกและวางข้อมูล การโอนไฟล์ การพิมพ์ การแชร์หน้าจอ หรือการจับภาพหน้าจอ และอื่นๆ |
| |
| กฎแต่ละข้อจะประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้ |
| - รายการแหล่งที่มาที่กำหนดเป็น URL ข้อมูลในแหล่งที่มาจะถือว่าเป็นข้อมูลลับซึ่งมีการจำกัดการใช้งาน |
| - รายการปลายทางที่กำหนดเป็น URL หรือคอมโพเนนต์ ซึ่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แชร์ข้อมูลลับ |
| - รายการการจำกัดที่จะใช้กับข้อมูลของแหล่งที่มา |
| |
| คุณจะเพิ่มกฎเพื่อดำเนินการต่อไปนี้ได้ |
| - ควบคุมข้อมูลในคลิปบอร์ดที่แชร์ระหว่างแหล่งที่มาและปลายทาง |
| - ควบคุมการจับภาพหน้าจอของแหล่งที่มา |
| - ควบคุมการพิมพ์แหล่งที่มา |
| - ควบคุมหน้าจอความเป็นส่วนตัวเมื่อสามารถมองเห็นแหล่งที่มาได้ |
| - ควบคุมการแชร์หน้าจอของแหล่งที่มา |
| - ควบคุมไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากแหล่งที่มาใดก็ตามเมื่อโอนไปยังปลายทาง รองรับใน "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" เวอร์ชัน 108 ขึ้นไป |
| |
| ระดับการจำกัดอาจตั้งค่าเป็น "BLOCK" "ALLOW" "REPORT" "WARN" |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "BLOCK" ระบบจะไม่อนุญาตให้ดำเนินการ หากตั้งค่า <ph name="DATA_LEAK_PREVENTION_REPORTING_ENABLED" /> เป็น "จริง" จะมีการรายงานการดำเนินการที่ถูกบล็อกไปยังผู้ดูแลระบบ |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "ALLOW" ระบบจะอนุญาตให้ดำเนินการ |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "REPORT" และตั้งค่า <ph name="DATA_LEAK_PREVENTION_REPORTING_ENABLED" /> เป็น "จริง" จะมีการรายงานการดำเนินการไปยังผู้ดูแลระบบ |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "WARN" ผู้ใช้จะได้รับคำเตือนและอาจเลือกดำเนินการต่อหรือยกเลิกการดำเนินการก็ได้ หากตั้งค่า <ph name="DATA_LEAK_PREVENTION_REPORTING_ENABLED" /> เป็น "จริง" จะมีการรายงานการแสดงคำเตือนไปยังผู้ดูแลระบบ และจะมีการรายงานการดำเนินการต่อด้วย |
| |
| หมายเหตุ |
| - การจำกัด PRIVACY_SCREEN จะไม่บล็อกความสามารถในการเปิดหน้าจอความเป็นส่วนตัว แต่จะบังคับใช้กฎเมื่อมีการตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "BLOCK" |
| - หากการจำกัดข้อหนึ่งเป็น "คลิปบอร์ด" หรือ "ไฟล์" คุณจะต้องระบุปลายทาง แต่ปลายทางเหล่านี้จะไม่ส่งผลใดๆ ต่อการจำกัดที่เหลือ |
| - ระบบจะละเว้นปลายทาง "ไดรฟ์" และ "USB" สำหรับข้อจำกัด "คลิปบอร์ด" |
| - จัดรูปแบบ URL ตามรูปแบบนี้ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะไม่จำกัดการใช้งาน</translation> |
| <translation id="3531084733660068324">การตั้งค่าการควบคุมดูแลโดยผู้ปกครอง</translation> |
| <translation id="3532827558833318911">ล้างข้อมูลลงชื่อเข้าใช้รหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="353611922042274900">แสดงข้อมูลของระบบในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้เสมอ</translation> |
| <translation id="3536263244905016305">ปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาเว็บพร็อกซีอัตโนมัติ (WPAD)</translation> |
| <translation id="3539103206548425861">การตั้งค่านโยบายอนุญาตให้วิดีโอเล่นโดยอัตโนมัติ (โดยไม่ต้องมีคำยินยอมจากผู้ใช้) พร้อมเนื้อหาเสียงใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> หากตั้งค่านโยบาย <ph name="AUTOPLAY_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เป็น "จริง" นโยบายนี้ก็จะไม่มีผล หากตั้งค่านโยบาย <ph name="AUTOPLAY_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" รูปแบบ URL ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้จะยังเล่นได้อยู่ หากนโยบายนี้เปลี่ยนแปลงในขณะที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทำงานอยู่ จะมีผลกับแท็บที่เปิดใหม่เท่านั้น |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="3540846231645422635">ปิดใช้การรายงานอินเทอร์เฟซเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3540935459049973317">การจำกัดเวลาต่อแอป</translation> |
| <translation id="3546271546272655966">ระบบอาจใช้ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> โดยขึ้นอยู่กับขั้นตอนการเปิดตัวฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="3547954654003013442">การตั้งค่าพร็อกซี</translation> |
| <translation id="3548064438634502368">ปิดเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="3548642468619496972">บล็อกการดาวน์โหลดที่เป็นอันตราย ไม่ปกติ หรือไม่พึงประสงค์ รวมถึงประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย</translation> |
| <translation id="3550122827225052130">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="SCREEN_LOCK_DELAYS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนล็อกหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊ก |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะล็อกหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่ล็อกหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| วิธีที่แนะนำสำหรับการล็อกหน้าจอเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวก็คือการเปิดใช้การล็อกหน้าจอเมื่อถูกระงับการใช้งาน และให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ระงับการใช้งานหลังจากหมดระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว นโยบายนี้ควรใช้ในเวลาที่การล็อกหน้าจอควรจะเกิดขึ้นก่อนเวลาระงับการใช้งานเป็นเวลานาน หรือเมื่อไม่ต้องการใช้การระงับการใช้งานเมื่อไม่ใช้งานเลยเท่านั้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้น้อยกว่าระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="3550875587920006460">อนุญาตการตั้งค่ากำหนดการที่กำหนดเองเพื่อตรวจหาอัปเดต การตั้งค่านี้จะมีผลต่อผู้ใช้ทุกคนและอินเทอร์เฟซทั้งหมดในอุปกรณ์ เมื่อตั้งค่าแล้ว อุปกรณ์จะตรวจหาอัปเดตตามกำหนดการ คุณต้องนำนโยบายออกเพื่อยกเลิกการตรวจหาอัปเดตรายการอื่นๆ ที่กำหนดเวลาไว้</translation> |
| <translation id="3550963062099410653">เปิด/ปิดใช้การอัปเดตอัตโนมัติเพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="355118380775352753">เว็บไซต์ที่จะเปิดในเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="3554498762428140109">เปิดใช้การตรวจหาการบังหน้าต่างในเครื่อง</translation> |
| <translation id="3554984410014457319">อนุญาตให้ Google Assistant คอยฟังข้อความการเปิดใช้งานด้วยเสียง</translation> |
| <translation id="3557586898458302131">รวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้น</translation> |
| <translation id="3558024517032824255">กำหนดจุดขั้นต่ำของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> การย้อนกลับควรอนุญาตให้ย้อนได้ถึงเวอร์ชันที่เสถียรแล้วในช่วงเวลาใดก็ตาม |
| |
| ค่าเริ่มต้นคือ 0 สำหรับผู้บริโภค และ 4 (ประมาณครึ่งปี) สำหรับอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนโดยองค์กร |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะป้องกันให้การย้อนกลับย้อนไปอย่างน้อยที่จุดขั้นต่ำที่กำหนดไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ที่ค่าที่ต่ำกว่าจะมีผลกระทบอย่างถาวร อุปกรณ์อาจย้อนกลับไปที่เวอร์ชันก่อนหน้าไม่ได้แม้ในภายหลังมีการรีเซ็ตนโยบายใหม่เป็นค่าที่สูงขึ้นแล้วก็ตาม |
| |
| ความเป็นไปได้ของการย้อนกลับที่เกิดขึ้นจริงอาจขึ้นอยู่กับแพตช์ที่ยังมีช่องโหว่ที่กว้างและร้ายแรงอีกด้วย</translation> |
| <translation id="35668690622495904"> |
| ระบบจะไม่ปฏิเสธการเรียกใช้ด้วยเหตุที่มาจากบริบทที่ไม่อยู่ในรายการที่อนุญาต (แต่การเรียกใช้อาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลอื่นๆ ได้)</translation> |
| <translation id="3568762199045490351">JavaScript setTimeout() ที่มีระยะหมดเวลาเป็น 0 มิลลิวินาทีจะถูกปรับเป็น 1 มิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="3574450691573438824">ปิดใช้การอัปโหลดบันทึกระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3575011234198230041">การตรวจสอบสิทธิ์ HTTP</translation> |
| <translation id="3575159471980949522">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งหมายเลขโทรศัพท์จาก Chrome ไปยังอุปกรณ์ Android ของตนเอง</translation> |
| <translation id="3577251398714997599">เครื่องมือตั้งค่าโฆษณาสำหรับเว็บไซต์ที่มีโฆษณาที่แทรก</translation> |
| <translation id="3577628175311752799">ใช้นโยบาย URL ที่มาเริ่มต้นของ "ไม่มี URL ที่มาเมื่อดาวน์เกรด"</translation> |
| <translation id="3578741808802810963">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้เครื่องมือแก้ปัญหาคีออสก์พร้อมใช้งานในเซสชันคีออสก์ ดังนี้ |
| - เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Chrome |
| - หน้าต่างเบราว์เซอร์ Chrome |
| - ตัวจัดการงาน |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ระบบปิดใช้เครื่องมือแก้ปัญหาคีออสก์ |
| |
| โปรดอย่าลืมว่าห้ามเปิดใช้นโยบายนี้ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวอร์ชันที่ติดตั้งใช้งานจริง</translation> |
| <translation id="357917253161699596">อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการใบรับรองของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3579976772194405786">Bruschetta</translation> |
| <translation id="3580414086211696382">ควบคุมการใช้ File System API สำหรับการอ่าน</translation> |
| <translation id="3584194414857209694">เปิดใช้นโยบายทดลอง</translation> |
| <translation id="3584722841530002134">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดเซิร์ฟเวอร์ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> อาจมอบสิทธิ์ให้ คั่นชื่อเซิร์ฟเวอร์หลายรายการด้วยเครื่องหมายจุลภาค ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่มอบสิทธิ์ใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ แม้จะตรวจพบว่าเซิร์ฟเวอร์เป็นอินทราเน็ตก็ตาม</translation> |
| <translation id="3585177699591644295">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ "เลือกเพื่อให้อ่าน" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านอยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านอยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านในขั้นต้นแต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3587482841069643663">ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="3587766503874071316">ปิดใช้ทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="3589193811812796052">ป้องกันไม่ให้ส่งโมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทาง</translation> |
| <translation id="3591527072193107424">เปิดใช้ฟีเจอร์การรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า</translation> |
| <translation id="3591584750136265240">กำหนดค่าลักษณะการตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3593905652755912452">ระบบจะใช้การส่งเหตุการณ์แบบเก่าในลักษณะการทํางานของตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="3596112486106491038">เปิดใช้การเข้าถึงบรรทัดคำสั่งของเครื่องเสมือน</translation> |
| <translation id="3603469950773500315">เปิดใช้การลดการตรวจสอบ <ph name="CORS" /> ในการนำ <ph name="CORS" /> ใหม่ไปใช้ เพื่อให้ส่วนขยายยังคงทำงานร่วมกันได้ และให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ส่งส่วนหัวที่ระบุโดยไม่ต้องตรวจสอบ <ph name="CORS" /> |
| |
| หากตั้งค่ารายการนี้ให้ว่างเปล่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเรียกใช้ส่วนขยายในลักษณะการทำงานที่เข้ากันได้ และจะไม่แสดงการเปลี่ยนแปลง <ph name="API" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 79 ดังที่อธิบายไว้ใน <ph name="WEB_REQUEST_API_MANUAL" /> |
| |
| หากตั้งค่ารายการนี้ให้มีชื่อส่วนหัวของคำขอ <ph name="HTTP" /> การตรวจสอบ <ph name="CORS" /> จะเพิกเฉยต่อส่วนหัวที่อยู่ในรายการ พร้อมทั้งเปิดใช้การลดการตรวจสอบสำหรับส่วนขยาย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่ารายการนี้ไว้ ระบบจะไม่บังคับใช้การลดการตรวจสอบทั้ง 2 รายการที่อธิบายไว้ด้านบน |
| |
| ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ <ph name="CORS" /> ได้ที่ <ph name="CORS_HELP_URL" /> |
| |
| โปรดทราบว่าเราได้ประกาศว่าจะนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 82 แต่ได้นำออกในเวอร์ชัน 84</translation> |
| <translation id="3606571057705314194">ปิดใช้เครื่องมือเลือกโปรไฟล์เมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="3608206578291537084">เปิดใช้ไปป์ไลน์การรายงานที่เข้ารหัส</translation> |
| <translation id="3608281460204780443">แสดงไอคอน Chrome เว็บสโตร์ใน Launcher ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" หรือในหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="3616490235694929053">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงหน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลต่อผู้ใช้หรือไม่ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" หน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลจะไม่แสดง |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลจะแสดงขึ้นมา</translation> |
| <translation id="3622463490728773174">อนุญาตการใช้งานใหม่</translation> |
| <translation id="3623332696371971798">ป้องกันไม่ให้แอปการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคลเข้าถึง Google Photos</translation> |
| <translation id="3625900437628963632">ระบุว่าให้ระบบจำค่ารหัสผ่าน Kerberos ที่ตั้งให้กับรายการในนโยบายนี้หรือไม่ หากไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะจำรหัสผ่าน หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ระบบจะไม่จำรหัสผ่าน ระบบจะไม่สนใจหากไม่ได้ระบุช่องรหัสผ่านสำหรับบัญชีนี้ รองรับช่องนี้ตั้งแต่ ChromeOS เวอร์ชัน 116</translation> |
| <translation id="3627678165642179114">เปิดหรือปิดใช้งานบริการเว็บสำหรับการตรวจสอบการสะกด</translation> |
| <translation id="3628480121685794414">เปิดใช้การพิมพ์แบบด้านเดียว</translation> |
| <translation id="3634125384445314047">อนุญาตให้เข้าถึงรูปภาพและวิดีโอล่าสุดที่ถ่ายในโทรศัพท์ผ่านฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="3637063789824963261">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทําให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานตัวนับรันไทม์ของอุปกรณ์ (Intel vPro Gen 14+ เท่านั้น) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทําให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่บันทึกหรือรายงานตัวนับรันไทม์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3640677352428533707">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูลเวอร์ชันหรือไม่ เช่น เวอร์ชันระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ สถาปัตยกรรมระบบปฏิบัติการ เวอร์ชันของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และช่องของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูลเวอร์ชัน |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูลเวอร์ชัน |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3644735978203799620">เปิดใช้การเลือกอัตโนมัติสำหรับการจับภาพหลายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="3646859102161347133">ตั้งค่าประเภทของแว่นขยายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="3647212518036289905">การตั้งค่านโยบายจะระบุไลบรารี GSSAPI ที่จะใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP จะตั้งค่านโยบายเป็นชื่อไลบรารีหรือเส้นทางแบบเต็มก็ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ชื่อไลบรารีเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3650122925429054129">ปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="365093517647222762">รายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์สำหรับ URL ที่อนุญาตซึ่งระบุโดยนโยบาย <ph name="REPORT_WEBSITE_TELEMETRY_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> จากผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะควบคุมการรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์สำหรับประเภทการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ระบุ |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="3652670852519271837">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์และไดเรกทอรีผ่าน File System API</translation> |
| <translation id="3653237928288822292">ไอคอนของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3654906736796256792">อนุญาตให้เรียกใช้แซนด์บ็อกซ์เสียง</translation> |
| <translation id="3655252664209966774">ส่วนขยายการใช้งานคีย์ X.509 จะแจ้งให้ทราบว่าอาจมีการใช้คีย์ดังกล่าวในใบรับรองอย่างไรบ้าง วิธีการดังกล่าวช่วยป้องกันไม่ให้มีการใช้ใบรับรองในบริบทที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ ซึ่งจะป้องกันกลุ่มการโจมตีแบบข้ามโปรโตคอลใน HTTPS และโปรโตคอลอื่นๆ ไคลเอ็นต์ HTTPS ต้องตรวจสอบว่าใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ตรงกับพารามิเตอร์ TLS ของการเชื่อมต่อหรือไม่ เพื่อให้วิธีการที่ว่านี้ใช้งานได้ |
| |
| ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 124 เป็นต้นไป จะมีการเปิดใช้การตรวจสอบนี้เสมอ |
| |
| <ph name="PRODUCT_NAME" /> 123 และเวอร์ชันก่อนหน้ามีลักษณะการทำงานดังต่อไปนี้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะดําเนินการตรวจดังกล่าว |
| การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยป้องกันการโจมตีที่ผู้โจมตีปรับแต่งเบราว์เซอร์ให้ตีความคีย์ในลักษณะที่เจ้าของใบรับรองไม่ได้ตั้งใจไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะข้ามการตรวจสอบนี้ในการเชื่อมต่อ HTTPS ที่ทั้งสื่อสารเกี่ยวกับ TLS 1.2 และใช้ใบรับรอง RSA ที่เชื่อมกับ Trust Anchor ภายในเครื่อง ตัวอย่างของ Trust Anchor ภายในเครื่องรวมถึงใบรับรองรูทที่ผู้ใช้ติดตั้งหรือใบรับรองรูทที่มาจากนโยบาย ในกรณีอื่นๆ ทั้งหมด การตรวจสอบจะดําเนินการโดยไม่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่ได้กําหนดค่านโยบายไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทํางานเสมือนว่านโยบายเปิดใช้อยู่ |
| |
| การเชื่อมต่อที่ไม่ผ่านการตรวจสอบนี้จะดำเนินการไม่สำเร็จและมีข้อผิดพลาด ERR_SSL_KEY_USAGE_INCOMPATIBLE เว็บไซต์ที่ดำเนินการไม่สำเร็จด้วยข้อผิดพลาดนี้อาจมีใบรับรองที่กําหนดค่าไม่ถูกต้อง ชุดการเข้ารหัส ECDHE_RSA รุ่นใหม่ๆ จะใช้ตัวเลือกการใช้งานคีย์ "digitalSignature" ขณะที่ชุดการเข้ารหัส RSA การถอดรหัสแบบเดิมจะใช้ตัวเลือกการใช้งานคีย์ "keyEncipherment" หากไม่แน่ใจ ผู้ดูแลระบบควรรวมทั้ง 2 อย่างนี้ไว้ในใบรับรอง RSA สําหรับ HTTPS</translation> |
| <translation id="3655710915351748191">ไม่แสดงไอคอน Chrome เว็บสโตร์ใน Launcher ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" หรือในหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="3655885297177292093">Event.path API จะอยู่ในสถานะเริ่มต้น ได้แก่ พร้อมใช้งานในเวอร์ชันที่เก่ากว่า M109 และไม่พร้อมใช้งานในเวอร์ชัน M109 ถึง 114</translation> |
| <translation id="3659542706175323490">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้การบูตด้วย AC เปิดใช้อยู่เสมอ หากอุปกรณ์รองรับ การบูตด้วย AC ทำให้ระบบรีสตาร์ทจากสถานะ "ปิด" หรือ "ไฮเบอร์เนต" ได้หลังจากเสียบสายไฟ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้การบูตด้วย AC ปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดการบูตด้วย AC และผู้ใช้จะเปิดไม่ได้</translation> |
| <translation id="3660562134618097814">โอนคุกกี้ SAML IdP ขณะลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="3662660961914441274">ปิดใช้การจัดเก็บไฟล์ของผู้ใช้ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="3665437376055221832">แสดงข้อความแจ้งผู้ใช้เฉพาะในกรณีที่ไม่มีใบรับรองตรงกับการเลือกอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="3671773704245936868">ปิดใช้การไฮไลต์โฟกัสแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="3674010627788940405">ไม่รองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS</translation> |
| <translation id="3675303748198647471">โดยทั่วไปแล้ว setTimeout(…, 0) จะใช้เพื่อแบ่งงาน JavaScript ที่ยาว |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะไม่บีบ setTimeouts และ setIntervals ที่มีช่วงเวลาน้อยกว่า 4 มิลลิวินาทีมากเกินไป |
| ตัวเลือกนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในระยะสั้น แต่สุดท้ายเว็บไซต์ที่ละเมิด API จะยังคงถูกบีบ setTimeouts ไว้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ระบบจะบีบ setTimeouts และ setIntervals ที่มีช่วงเวลาน้อยกว่า 4 มิลลิวินาที |
| |
| ซึ่งอาจทำให้ลำดับงานของบางหน้าเว็บเปลี่ยนไปได้ จนเกิดลักษณะการทำงานที่ไม่ได้คาดไว้ในเว็บไซต์ที่อาศัยการเรียงลำดับงานในบางรูปแบบ |
| นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อเว็บไซต์ที่มี setTimeout() จำนวนมากที่มีการใช้ระยะหมดเวลาที่ 0 มิลลิวินาทีด้วย เช่น ทำให้โหลดของ CPU มากขึ้น |
| |
| สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะทยอยทำการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยในเวอร์ชันเสถียร |
| |
| นโยบายนี้เป็นนโยบายชั่วคราวซึ่งจะถูกนำออกใน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เวอร์ชัน 107 กำหนดเวลานี้อาจเลื่อนออกไปได้หากมีบริษัทที่ยังคงต้องการใช้จำนวนมาก |
| </translation> |
| <translation id="3678069907945250643">อนุญาตให้แอปการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคลเข้าถึง Google Photos</translation> |
| <translation id="3680529017993214255">เปิดใช้ฟีเจอร์และส่งข้อมูลเพื่อช่วยฝึกโมเดล AI</translation> |
| <translation id="3685979383016152590">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดนโยบายการเข้าถึงที่ใช้กับการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์จำนวนมาก โดยควบคุมว่าเครื่องพิมพ์เครื่องใดใน <ph name="PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /> ที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ |
| |
| * <ph name="PRINTERS_BLOCKLIST" /> (ค่า 0) ใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_BLOCKLIST" /> เพื่อจำกัดการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่ระบุไว้ |
| |
| * <ph name="PRINTERS_ALLOWLIST" /> (ค่า 1) ใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_ALLOWLIST" /> เพื่อระบุเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่เลือกใช้งานได้ |
| |
| * <ph name="PRINTERS_ALLOW_ALL" /> (ค่า 2) แสดงเครื่องพิมพ์ทั้งหมด |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ <ph name="PRINTERS_ALLOW_ALL" /></translation> |
| <translation id="3695204334462456702">ปลายทางของโปรโตคอลที่ใช้ Zeroconf (mDNS + DNS-SD) (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="3695706037816556327">การดำเนินการเมื่อมีการนำโทเค็นความปลอดภัยออก (เช่น สมาร์ทการ์ด) สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3696134803170884851">ปิดเสียงการชาร์จ</translation> |
| <translation id="3699986274986041335">ถามทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการได้รับสิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่อง</translation> |
| <translation id="3700193037252896716">ความถี่ที่ควรมีการรีบูต</translation> |
| <translation id="3700318587977845664">ความถี่ในการตรวจหาอัปเดตซ้ำ</translation> |
| <translation id="3701121231485832347">ควบคุมการตั้งค่าเฉพาะของอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ <ph name="MS_AD_NAME" /> จัดการ</translation> |
| <translation id="3702518095257671450">เอกสารรับรองระยะไกล</translation> |
| <translation id="3702647575225525306"><ph name="POLICY_NAME" /> (เราเลิกใช้งานช่องบรรทัดเดียวแล้วและจะนำออกในเร็วๆ นี้ โปรดเริ่มใช้กล่องข้อความหลายบรรทัดด้านล่างนี้)</translation> |
| <translation id="3711561721191203926">เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" เมื่อใดก็ตามที่คำเตือนแสดงขึ้นใน <ph name="DEV_TOOLS_NAME" /> เนื่องจากการตรวจสอบ <ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" /> ล้มเหลว ระบบจะบล็อกคำขอหลักแทน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่บังคับใช้คำเตือน <ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" /> ทั้งหมดและจะไม่บล็อกคำขอ |
| |
| ดูข้อจำกัดของ <ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" /> ได้ที่ https://wicg.github.io/private-network-access/</translation> |
| <translation id="3711895659073496551">ระงับการใช้งาน</translation> |
| <translation id="3712861436661566358">บังคับใช้การแยกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="3719826155360621982">หน้าแรก</translation> |
| <translation id="3724039569609354541">ใช้ลักษณะการทำงานที่เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อกำหนดว่าเว็บไซต์ต่างๆ จะส่งคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="372668389978450673">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="LACROS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เพิ่มบุคคลใหม่จากการจัดการผู้ใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="LACROS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เพิ่มบุคคลใหม่จากการจัดการผู้ใช้ |
| |
| โปรดทราบว่าหากไม่กำหนดค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" แต่ตั้งค่า <ph name="LACROS_SECONDARY_PROFILES_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" <ph name="LACROS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เพิ่มบุคคลใหม่จากการจัดการผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3727476641336727380">ในกรณีที่ไม่ได้ตั้งค่า <ph name="ALLOW_WAKE_LOCKS_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" การตั้งค่า <ph name="ALLOW_SCREEN_WAKE_LOCKS_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้มีการใช้ Wake Lock สำหรับหน้าจอเพื่อการจัดการพลังงานได้ ส่วนขยายจะขอ Wake Lock สำหรับหน้าจอได้ผ่านทาง Power Management Extension API และแอป ARC |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะลดระดับคำขอ Wake Lock สำหรับหน้าจอไปเป็นคำขอ Wake Lock สำหรับระบบ</translation> |
| <translation id="3727675072430693164">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานสถิติด้านฮาร์ดแวร์สำหรับคอมโพเนนต์ SoC |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานสถิติ</translation> |
| <translation id="3729937245044939404">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วใน M70 โปรดใช้ <ph name="AUTOFILL_ADDRESS_ENABLED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="AUTOFILL_CREDIT_CARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| เปิดใช้ฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และอนุญาตให้ผู้ใช้เติมคำอัตโนมัติในเว็บฟอร์มโดยใช้ข้อมูลที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เช่น ที่อยู่หรือข้อมูลบัตรเครดิต |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเข้าถึงฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติไม่ได้ |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่าไว้ ผู้ใช้จะยังคงเป็นผู้ควบคุมฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้กำหนดค่าโปรไฟล์การป้อนข้อความอัตโนมัติและเปิดหรือปิดการป้อนข้อความอัตโนมัติได้ตามที่เห็นสมควร</translation> |
| <translation id="3733014427925403568">วันในสัปดาห์ที่เริ่มต้นและสิ้นสุดระยะเวลา</translation> |
| <translation id="3736879847913515635">เปิดใช้การเพิ่มบุคคลในการจัดการผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3744984310825999317">อนุญาตให้ <ph name="PEPPER_NAME" /> ใช้เครื่องมือถอดรหัสใหม่สำหรับการถอดรหัสวิดีโอที่มีการเร่งฮาร์ดแวร์</translation> |
| <translation id="3749259744154402564">ไม่รองรับ</translation> |
| <translation id="3749511622128647337">ปิดใช้เอาต์พุตเสียง</translation> |
| <translation id="3750220015372671395">บล็อกการสร้างคีย์ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="3753267109888284695">รายการที่อนุญาตสำหรับ HTTP</translation> |
| <translation id="3753959315989102457">ปิดใช้การรายงานตำแหน่งของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3755237588083934849">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดความถี่ในการส่งการอัปโหลดสถานะอุปกรณ์เป็นมิลลิวินาที ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 60 วินาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ช่วงเวลาเริ่มต้น 3 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="3755796472192036324">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีขาว</translation> |
| <translation id="3756011779061588474">บล็อกโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="3756516139200532906">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการกำหนดค่าชื่อโฮสต์ของอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="3756737071958233151">เปิดใช้การอัปโหลดบันทึกระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3758089716224084329">ช่วยให้คุณสามารถระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ได้และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงทุกครั้ง ระบบจะไม่สนใจตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมด |
| |
| หากคุณเลือกตรวจหาพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ระบบจะไม่สนใจตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมด |
| |
| สำหรับตัวอย่างโดยละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่: |
| <ph name="PROXY_HELP_URL" /> |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และแอป ARC จะไม่สนใจตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวกับพร็อกซีที่ระบุไว้ในบรรทัดคำสั่ง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกการตั้งค่าพร็อกซีได้ด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="3758249152301468420">ปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="3758910737665387561">อนุญาตให้อุปกรณ์ใช้ PluginVm</translation> |
| <translation id="3759650373178711405">หากไม่ตั้งค่านโยบาย <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_POLICY_NAME" /> ให้กู้คืน URL จากเซสชันก่อนหน้าโดยถาวร การตั้งค่า <ph name="COOKIES_SESSION_ONLY_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ก็จะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะตั้งค่าคุกกี้ได้และไม่ได้สำหรับเซสชันหนึ่งๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการใช้ <ph name="DEFAULT_COOKIES_SETTINGS_POLICY_NAME" /> กับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล URL ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่ระบุไว้ก็จะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นเช่นกัน |
| |
| แม้จะไม่มีนโยบายที่มีความสำคัญเหนือกว่า แต่ให้ดู <ph name="COOKIES_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="COOKIES_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> รูปแบบ URL ใน 3 นโยบายนี้ต้องไม่ขัดแย้งกัน</translation> |
| <translation id="3760148113224469113">กำหนดให้ผู้ใช้ยืนยันข้อความแจ้งของโปรโตคอลภายนอกเสมอ</translation> |
| <translation id="3760231600118073732">ล็อกเซสชันปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="3761222804122755011">WebRTC จะใช้อินเทอร์เฟซที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตสาธารณะเท่านั้น แต่อาจเชื่อมต่อโดยใช้ที่อยู่ IP ส่วนตัว</translation> |
| <translation id="3762520180381586267">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ทริกเกอร์การรีสตาร์ทเมื่อผู้ใช้ปิดอุปกรณ์เครื่องนั้น <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงปุ่มรีสตาร์ทแทนปุ่มปิดเครื่องทุกปุ่มใน UI หากผู้ใช้ปิดอุปกรณ์โดยใช้ปุ่มเปิด/ปิด อุปกรณ์จะไม่รีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะเปิดใช้นโยบายอยู่ก็ตาม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> อนุญาตให้ผู้ใช้ปิดอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="376375951585423504">ปิดใช้โควต้าถาวร</translation> |
| <translation id="3765260570442823273">ระยะเวลาของข้อความเตือนการออกจากระบบจากการไม่มีการใช้งาน</translation> |
| <translation id="3770407495263198786">การตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ดูแลระบบตั้งค่ารายการเครื่องพิมพ์สำหรับผู้ใช้ได้ การเลือกเครื่องพิมพ์เกิดขึ้นในครั้งแรกที่ผู้ใช้พยายามจะสั่งพิมพ์ |
| |
| นโยบายนี้ใช้ในการดำเนินการต่อไปนี้ |
| |
| * ปรับแต่ง <ph name="PRINTER_DISPLAY_NAME" /> และ <ph name="PRINTER_DESCRIPTION" /> ซึ่งมีรูปแบบอิสระเพื่อการเลือกเครื่องพิมพ์ที่ง่ายขึ้น |
| |
| * ช่วยผู้ใช้ระบุเครื่องพิมพ์โดยใช้ <ph name="PRINTER_MANUFACTURER" /> และ <ph name="PRINTER_MODEL" /> |
| |
| * <ph name="PRINTER_URI" /> ควรเป็นที่อยู่ที่เข้าถึงได้จากเครื่องไคลเอ็นต์ รวมถึง <ph name="URI_SCHEME" />, <ph name="URI_PORT" /> และ <ph name="URI_QUEUE" /> |
| |
| * ระบุ <ph name="PRINTER_UUID" /> เพื่อช่วยกรองเครื่องพิมพ์ <ph name="ZEROCONF_DISCOVERY" /> ที่ซ้ำกันออก หากต้องการ |
| |
| * ใช้ชื่อรุ่นสำหรับ <ph name="PRINTER_EFFECTIVE_MODEL" /> หรือจะตั้งค่า <ph name="PRINTER_AUTOCONF" /> เป็น "จริง" ก็ได้ ระบบจะเพิกเฉยต่อเครื่องพิมพ์ที่มีพร็อพเพอร์ตี้ทั้ง 2 รายการหรือไม่มีเลย |
| |
| ระบบจะดาวน์โหลด PPD หลังการใช้งานเครื่องพิมพ์ และแคช PPD ที่ใช้บ่อยไว้ นโยบายนี้ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง |
| |
| หมายเหตุ: สำหรับอุปกรณ์ที่จัดการโดย <ph name="MS_AD_NAME" /> นโยบายนี้รองรับการขยาย <ph name="MACHINE_NAME_VARIABLE" /> เป็นชื่อเครื่อง <ph name="MS_AD_NAME" /> หรือสตริงย่อย ตัวอย่างเช่น หากชื่อเครื่องคือ <ph name="MACHINE_NAME_EXAMPLE" /> ระบบจะแทนที่ <ph name="MACHINE_NAME_VARIABLE_EXAMPLE" /> ด้วยอักขระ 4 ตัวที่เริ่มหลังจากตำแหน่งที่ 6 นั่นคือ <ph name="MACHINE_NAME_PART_EXAMPLE" /> ตำแหน่งจะเริ่มนับจากศูนย์</translation> |
| <translation id="377044054160169374">การบังคับใช้การแทรกแซงเมื่อเกิดประสบการณ์ที่ไม่เหมาะสม</translation> |
| <translation id="3778689139323007309">ตรวจสอบการเพิกถอนใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการรับรองว่าใช้ได้โดยใบรับรอง CA ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องอยู่เสมอ</translation> |
| <translation id="3780152581321609624">รวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานใน Kerberos SPN</translation> |
| <translation id="3788662722837364290">การตั้งค่าการจัดการพลังงานเมื่อผู้ใช้ไม่มีการใช้งาน</translation> |
| <translation id="3788876528643861853">ปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์ในระบบคลาวด์ของ Microsoft®</translation> |
| <translation id="3790085888761753785">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของตนด้วย Smart Lock ลักษณะการทำงานโดยทั่วไปของ Smart Lock จะอนุญาตให้ผู้ใช้ปลดล็อกหน้าจอได้เพียงเท่านั้น การอนุญาตนี้จึงถือว่าให้สิทธิ์มากกว่าปกติ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้การลงชื่อเข้าใช้ด้วย Smart Lock |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรและอนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="3791179836066841809">เอกสารประกอบสำหรับนโยบาย</translation> |
| <translation id="3792144912556572267">การตั้งค่านโยบายจะตั้งค่า URL หน้าแรกเริ่มต้นใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> คุณเปิดหน้าแรกโดยใช้ปุ่มหน้าแรก ในเดสก์ท็อป นโยบาย <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_POLICY_NAME" /> จะควบคุมหน้าที่เปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน |
| |
| หากผู้ใช้หรือ <ph name="HOMEPAGE_IS_NEW_TAB_PAGE_POLICY_NAME" /> ตั้งค่าหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| URL ต้องเป็นรูปแบบมาตรฐาน เช่น http://example.com หรือ https://example.com เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยน URL หน้าแรกของตนใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่าทั้ง <ph name="HOMEPAGE_LOCATION_POLICY_NAME" /> และ <ph name="HOMEPAGE_IS_NEW_TAB_PAGE_POLICY_NAME" /> จะทำให้ผู้ใช้เลือกหน้าแรกเองได้ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="379318040165550702">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือก</translation> |
| <translation id="3796527892245558832">เครื่องมือเลือกโปรไฟล์พร้อมใช้งานเมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="3798922329287609568">การตั้งค่านโยบายนี้จะจำกัดโหมดการพิมพ์ 2 ด้าน |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายหรือปล่อยว่างไว้ ระบบจะถือว่าไม่มีข้อจำกัด</translation> |
| <translation id="3799417300383048419">เก็บข้อมูลโปรไฟล์ไว้ในดิสก์เมื่อเซสชันของผู้ใช้สิ้นสุดลง</translation> |
| <translation id="3799436555130241393">การซิงค์ไฟล์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3803171355925844705">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ โหลดเนื้อหาผสม</translation> |
| <translation id="3808945828600697669">ระบุรายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="3810642039169532482">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการเขียนตามคำบอกในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ฟีเจอร์เขียนตามคำบอกจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์เขียนตามคำบอกจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์เขียนตามคำบอกในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3811562426301733860">อนุญาตโฆษณาในเว็บไซต์ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="3816312845600780067">เปิดใช้งานแป้นพิมพ์ลัด bailout สำหรับการเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="3817323252437541502">เปิดใช้การปกป้องเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูง</translation> |
| <translation id="3821861026311587684">บังคับให้ผู้ใช้ออกจากระบบเมื่อบัญชีของผู้ใช้ไม่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="3822756181940590230">ข้อมูล Non-volatile UEFI เริ่มต้นที่เฟิร์มแวร์ VM ใช้</translation> |
| <translation id="3823381379309653965">การตั้งค่านโยบายจะมีระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลนโยบายด้านอุปกรณ์จากบริการจัดการอุปกรณ์ ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1,800,000 (30 นาที) ถึง 86,400,000 (1 วัน) ค่าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงนี้จะถูกบีบให้อยู่ภายในขอบเขตที่เกี่ยวข้อง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 3 ชั่วโมง |
| |
| หมายเหตุ: การแจ้งเตือนเรื่องนโยบายจะบังคับรีเฟรชเมื่อนโยบายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องรีเฟรชบ่อยๆ ดังนั้น หากแพลตฟอร์มรองรับการแจ้งเตือนเหล่านี้ การหน่วงเวลาการรีเฟรชจะอยู่ที่ 24 ชั่วโมง (โดยไม่สนใจค่าเริ่มต้นและค่าของนโยบายนี้)</translation> |
| <translation id="382476126209906314">กำหนดค่าส่วนนำหน้า TalkGadget สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="3824972131618513497">ควบคุมการตั้งค่าที่เกี่ยวกับการจัดการพลังงานและการรีบูต</translation> |
| <translation id="3825873934240606959">ป้องกันการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกัน</translation> |
| <translation id="3826475866868158882">บริการตำแหน่งของ Google เปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="3829344785870486923">รายการที่อนุญาตสำหรับโดเมนรองที่มีการแยกโปรไฟล์องค์กร</translation> |
| <translation id="3831376478177535007">เมื่อเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอนุญาตให้เชื่อถือใบรับรองที่ได้รับจากการดำเนินการสำหรับ PKI แบบเดิมของ Symantec Corporation หากการดำเนินการดังกล่าวผ่านการตรวจสอบและอยู่ในห่วงโซ่ของใบรับรอง CA ที่เป็นที่ยอมรับ |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้ขึ้นอยู่กับว่าระบบปฏิบัติการยังยอมรับใบรับรองจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมของ Symantec อยู่หรือไม่ หากการอัปเดตระบบปฏิบัติการทำให้การจัดการใบรับรองดังกล่าวของระบบปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงไป นโยบายนี้จะไม่มีผลอีกต่อไป นอกจากนี้ นโยบายนี้ยังใช้แก้ปัญหาเป็นการชั่วคราวเพื่อให้องค์กรมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยนจากการใช้ใบรับรองแบบเดิมของ Symantec นโยบายนี้จะถูกนำออกไปประมาณวันที่ 1 มกราคม 2019 |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้หรือตั้งค่าเป็น False <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะดำเนินการตามกำหนดการเลิกใช้งานที่ประกาศต่อสาธารณะ |
| |
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลิกใช้งานข้างต้นใน https://g.co/chrome/symantecpkicerts</translation> |
| <translation id="3831836327853123066">การตั้งค่านโยบายจะจำกัดระยะเวลาทำงานของอุปกรณ์ด้วยการตั้งเวลารีสตาร์ทอัตโนมัติ ซึ่งคุณอาจกำหนดให้ช้าลงได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงหากผู้ใช้กำลังใช้อุปกรณ์ ค่านโยบายต้องมีหน่วยเป็นวินาที ค่าจะถูกบีบให้เหลืออย่างน้อย 3,600 วินาที (1 ชั่วโมง) |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการจำกัดระยะเวลาทำงานของอุปกรณ์ |
| |
| หมายเหตุ: การรีสตาร์ทอัตโนมัติจะเปิดเฉพาะในขณะที่หน้าจอลงชื่อเข้าใช้ปรากฏขึ้นหรือในระหว่างเซสชันของแอปคีออสก์</translation> |
| <translation id="3835692988507803626">บังคับให้ปิดใช้การตรวจการสะกดของภาษาต่างๆ</translation> |
| <translation id="3837424079837455272">นโยบายนี้กำหนดว่าจะเพิ่มผู้ใช้ใหม่ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้หรือไม่ แต่ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ในบัญชี Google เพิ่มเติมใน Android หากคุณต้องการป้องกันการลงชื่อเข้าใช้ ให้กำหนดค่านโยบาย <ph name="ACCOUNT_TYPES_WITH_MANAGEMENT_DISABLED_CLOUDDPC_POLICY_NAME" /> เฉพาะสำหรับ Android ให้เป็นส่วนหนึ่งของ <ph name="ARC_POLICY_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="3838094946886335701">การตั้งค่านโยบาย (ตามที่แนะนำเท่านั้น) จะให้คุณลงทะเบียนรายการเครื่องจัดการโปรโตคอล ซึ่งรวมเข้ากับรายการที่ผู้ใช้ลงทะเบียน และทำให้มีการนำทั้ง 2 ชุดไปใช้งาน ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ "โปรโตคอล" เป็นรูปแบบ เช่น "mailto" และตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ "URL" เป็นรูปแบบ URL ของแอปพลิเคชันที่จัดการรูปแบบที่ระบุไว้ในช่อง "โปรโตคอล" รูปแบบ URL อาจมีตัวยึดตำแหน่ง "%s" ได้ ซึ่ง URL ที่มีการจัดการจะมาแทนที่ |
| |
| ผู้ใช้จะนำเครื่องจัดการโปรโตคอลที่นโยบายลงทะเบียนไว้ออกไม่ได้ แต่หากติดตั้งเครื่องจัดการเริ่มต้นเครื่องใหม่ ก็จะเปลี่ยนเครื่องจัดการโปรโตคอลที่นโยบายติดตั้งไว้ได้</translation> |
| <translation id="3842619997238271109">ไม่อนุญาตให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลใช้ PIN และการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่เมื่อยอมรับการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="3851443303439635700">กำหนดเกณฑ์ระดับการซ้อนซึ่งควบคุมการเริ่มฟังก์ชัน setTimeout() ของ JavaScript</translation> |
| <translation id="3858658082795336534">โหมดพิมพ์ 2 ด้านเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="3859780406608282662">เพิ่มพารามิเตอร์เพื่อเรียกข้อมูลเริ่มต้นของรูปแบบใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากมีการระบุ จะมีการเพิ่มพารามิเตอร์การค้นหาชื่อ "ข้อจำกัด" ลงใน URL ที่ใช้เรียกข้อมูลเริ่มต้นของรูปแบบ ค่าพารามิเตอร์จะเป็นค่าที่ระบุในนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่มีการระบุ จะไม่มีการแก้ไข URL ข้อมูลเริ่มต้นของรูปแบบ</translation> |
| <translation id="3863409707075047163">เวอร์ชัน SSL ขั้นต่ำที่เปิดใช้</translation> |
| <translation id="3864129983143201415">กำหนดค่าภาษาที่อนุญาตในเซสชันของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3866249974567520381">คำอธิบาย</translation> |
| <translation id="386723261607812952">ตั้งค่าประเภทของแว่นขยายหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3868347814555911633">นโยบายนี้ใช้งานได้ในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| แสดงรายการส่วนขยายที่ติดตั้งอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้การสาธิตสำหรับอุปกรณ์ในโหมดปลีก ส่วนขยายเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ในอุปกรณ์และติดตั้งขณะที่ออฟไลน์ได้หลังจากการติดตั้ง |
| |
| แต่ละรายการจะมีพจนานุกรมที่ต้องมี ID ส่วนขยายในฟิลด์ "extension-id" และ URL การอัปเดตในฟิลด์ "update-url"</translation> |
| <translation id="3869180930654347954">ปิดใช้ชุดบุคคลที่หนึ่งสำหรับผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ</translation> |
| <translation id="3869566220234507038">โหลดเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> แบบ<ph name="LACROS_ROOTFS_NAME" /> เสมอ</translation> |
| <translation id="3870035799352372700">บล็อก Google Assistant ไม่ให้เข้าถึงบริบทในหน้าจอระหว่างการโต้ตอบ</translation> |
| <translation id="3870059789954671543">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่ไฮไลต์วัตถุที่แป้นพิมพ์โฟกัส |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์ไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3870300103958000506">หากไม่ตั้งค่า <ph name="SAFE_BROWSING_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" การตั้งค่า <ph name="ADS_SETTINGS_FOR_INTRUSIVE_ADS_SITES_POLICY_NAME" /> เป็น 1 หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้แสดงโฆษณาในทุกเว็บไซต์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะบล็อกโฆษณาในเว็บไซต์ซึ่งมีโฆษณาที่แทรก</translation> |
| <translation id="3876564097829884243">เปิดใช้ฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies</translation> |
| <translation id="3877517141460819966">โหมดการตรวจสอบสิทธิ์จากปัจจัยที่สองที่ผสานรวม</translation> |
| <translation id="3877908683993837673">นโยบายนี้ควบคุมกลุ่มซอฟต์แวร์ที่จะใช้ในการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ DNS ซึ่งได้แก่ ไคลเอ็นต์ DNS ของระบบปฏิบัติการ หรือไคลเอ็นต์ DNS ในตัวของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้ไม่มีผลกับเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่จะใช้ เช่น หากมีการกำหนดค่าให้ระบบปฏิบัติการใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ขององค์กร ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวก็จะใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันนี้ด้วย นอกจากนี้ นโยบายยังไม่ได้ควบคุมว่าจะใช้ DNS-over-HTTPS หรือไม่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้รีโซลเวอร์ในตัวเมื่อมีคำขอ DNS-over-HTTPS เสมอ โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุม DNS-over-HTTPS ในนโยบาย <ph name="DNS_OVER_HTTPS_MODE_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัว (หากมี) |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะมีการใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวเฉพาะเมื่อมีการใช้งาน DNS-over-HTTPS อยู่เท่านั้น |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวจะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน <ph name="MS_WIN_NAME" />, <ph name="MAC_OS_NAME" />, <ph name="ANDROID_NAME" /> (เมื่อปิดใช้ทั้ง DNS ส่วนตัวและ VPN) และ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="3879208481373875102">กำหนดค่ารายการเว็บแอปที่บังคับติดตั้งแล้ว</translation> |
| <translation id="3879700444818346084">ปิดใช้การนำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้เมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="388237772682176890">นโยบายนี้เลิกใช้งานใน M53 และนำออกจาก M54 เนื่องจากไม่มีการสนับสนุน SPDY/3.1 อีกต่อไป |
| |
| ปิดใช้โปรโตคอล SPDY ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ โปรโตคอล SPDY จะไม่สามารถใช้ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| การปิดใช้นโยบายนี้จะทำให้สามารถใช้ SPDY ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ จะสามารถใช้ SPDY ได้</translation> |
| <translation id="3885896818093825047">อนุญาตให้ตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /></translation> |
| <translation id="3889458462150559611">อนุญาตให้เว็บไซต์ส่งคำขอในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยไปยังปลายทางเครือข่ายใดก็ได้</translation> |
| <translation id="388999630001435491">อนุญาตให้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในที่อยู่ IP ส่วนตัวเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3891175633496805812">ปิดใช้ตัวควบคุมการวินิจฉัยพร้อมทั้งการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Wilco</translation> |
| <translation id="3891357445869647828">เปิดใช้งาน JavaScript</translation> |
| <translation id="3891769546914233112">มีตัวเลือกในการพิมพ์ PDF เป็นรูปภาพ</translation> |
| <translation id="389527805641080362">นโยบายนี้ควบคุมค่าของ<ph name="IPP_ATTRIBUTE" /> <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> <ph name="INTERNET_PRINTING_PROTOCOL" /> (<ph name="IPP_PROTOCOL" />) ในงานพิมพ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายมีผลต่อการส่งค่า <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> เพิ่มเติมไปยังงานพิมพ์ที่ส่งไปยังเครื่องพิมพ์ <ph name="IPP_PROTOCOL" /> สมาชิก <ph name="CLIENT_TYPE_IPP_ATTRIBUTE" /> ของค่า <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> ที่เพิ่มจะตั้งค่าเป็น <ph name="CLIENT_TYPE_OTHER" /> สมาชิก <ph name="CLIENT_NAME_IPP_ATTRIBUTE" /> ของค่า <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> ที่เพิ่มจะตั้งเป็นค่าของนโยบายหลังจากการแทนที่ตัวแปรของตัวยึดตำแหน่ง ตัวแปรของตัวยึดตำแหน่งที่รองรับคือ <ph name="DIRECTORY_ID_PLACEHOLDER" />, <ph name="SERIAL_NUMBER_PLACEHOLDER" />, <ph name="ASSET_ID_PLACEHOLDER" />, <ph name="ANNOTATED_LOCATION_PLACEHOLDER" /> ระบบจะไม่แทนที่ตัวแปรของตัวยึดตำแหน่งที่ไม่รองรับ |
| |
| ค่าที่เกิดหลังจากการแทนที่ตัวแปรของตัวยึดตำแหน่งจะถือว่าถูกต้องหากมีความยาวไม่เกิน 127 อักขระ และมีเพียงอักขระตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ของตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลข เครื่องหมายขีดกลาง ("-") จุด (".") และขีดล่าง ("_") |
| |
| โปรดทราบว่า เนื่องด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อการเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์มีความปลอดภัย (รูปแบบ URI <ph name="IPPS_SCHEME" />) และผู้ใช้ที่ส่งงานพิมพ์เป็นผู้ใช้ที่เชื่อมโยงเท่านั้น นอกจากนี้ โปรดทราบว่านโยบายมีผลเฉพาะกับเครื่องพิมพ์ที่รองรับ <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> เท่านั้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ตั้งเป็นค่าว่างหรือค่าที่ไม่ถูกต้อง ระบบจะไม่เพิ่มค่า <ph name="CLIENT_INFO_IPP_ATTRIBUTE" /> เพิ่มเติมในคำของานพิมพ์ |
| </translation> |
| <translation id="3897218615484393758">จำกัดเวลาที่ผู้ใช้ซึ่งตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML จะเข้าสู่ระบบแบบออฟไลน์ได้ในหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="3897860452756794695">ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบใหม่ของ offsetParent</translation> |
| <translation id="3898345958122666461">ปิด NTLMv2</translation> |
| <translation id="3898795800259311780">อนุญาตหรือปฏิเสธการจับภาพหน้าจอ</translation> |
| <translation id="390296766888987595">แสดงแป้นพิมพ์บนหน้าจอเมื่อผู้ใช้หรือแอปพลิเคชันร้องขอเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3903313632842363082">ปิดใช้การรายงานผู้ใช้อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3904304709151553598">ปิดใช้การรายงานข้อมูลพัดลมของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3905883021371603181">เปิดใช้การตัดเสียงก้องของระบบ</translation> |
| <translation id="3907683835264956726">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ออนไลน์ลงชื่อเข้าใช้ในหน้าจอล็อก หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" นโยบายอย่างเช่น <ph name="POLICY" /> จะทำให้มีการตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งทางออนไลน์ในหน้าจอล็อก |
| ระบบจะบังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งทันทีที่อยู่ในหน้าจอล็อก หรือครั้งถัดไปที่ผู้ใช้ล็อกหน้าจอหลังเงื่อนไขตรงตามที่กำหนด |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะปลดล็อกหน้าจอได้เสมอด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบในเครื่อง</translation> |
| <translation id="3911737181201537215">นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการบันทึกที่ดำเนินการโดย Android</translation> |
| <translation id="3911960007057904543">การตั้งค่านโยบายทำให้สามารถรวมนโยบายที่เลือกเมื่อนโยบายมาจากแหล่งที่มาต่างๆ ซึ่งมีขอบเขตและระดับเดียวกัน |
| |
| ใช้อักขระไวลด์การ์ด "*" เพื่ออนุญาตให้รวมนโยบายรายการทั้งหมด |
| |
| หากนโยบายอยู่ในรายการและมีความขัดแย้งระหว่างแหล่งที่มาซึ่งมี |
| |
| * ขอบเขตและระดับเดียวกัน: ค่าจะรวมอยู่ในรายการนโยบายใหม่ |
| |
| * ขอบเขตหรือระดับที่ต่างกัน: ระบบจะใช้นโยบายที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด |
| |
| หากนโยบายไม่ได้อยู่ในรายการและมีความขัดแย้งระหว่างแหล่งที่มา ขอบเขต หรือระดับ ระบบจะใช้นโยบายที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด</translation> |
| <translation id="3913680877415932969">กำหนดค่านโยบายเพื่อควบคุมระดับ API การแชร์หน้าจอ (เช่น getDisplayMedia() หรือ API ส่วนขยายสำหรับการจับภาพเดสก์ท็อป) ที่เว็บไซต์อาจจับภาพ (เช่น การจับภาพแท็บ หน้าต่าง หรือเดสก์ท็อป)</translation> |
| <translation id="3915395663995367577">URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี</translation> |
| <translation id="3915587396318773837">การตั้งค่านโยบายจะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ไคลเอ็นต์เพื่อรับโทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์จาก URL นี้จึงจะเชื่อมต่อได้ |
| |
| หากปล่อยว่างไว้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์นี้ |
| |
| หมายเหตุ: ต้องใช้นโยบายนี้กับ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_TOKEN_VALIDATION_URL_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="3918339829588313389">อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนด PIN ที่ไม่รัดกุม</translation> |
| <translation id="3924506460382372403">ปิดใช้การรายงานสถานะกราฟิกของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3925377537407648234">ตั้งค่าความละเอียดและปัจจัยที่มีผลต่อขนาดการแสดงผล</translation> |
| <translation id="3926681471685211524">ตรวจสอบการใช้งานคีย์ RSA สําหรับใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ออกโดย Trust Anchor ภายในเครื่อง</translation> |
| <translation id="3927137827189017535">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับคีย์ติดหนึบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้คีย์ติดหนึบเสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้คีย์ติดหนึบเสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้คีย์ติดหนึบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="3927291637826333102">อนุญาตให้ต้นทางเหล่านี้จับภาพเดสก์ท็อป หน้าต่าง และแท็บ</translation> |
| <translation id="3928726028264020458">เปิดใช้การรายงานข้อมูล VPD ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="3929433884360648086">ฟีเจอร์นี้ทำให้ใช้ "zstd" ในส่วนหัวของคำขอ "ยอมรับการเข้ารหัส" ได้และรองรับการยกเลิกการบีบอัดเนื้อหาเว็บที่บีบอัดด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ยอมรับเนื้อหาเว็บที่บีบอัดด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /> |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดฟีเจอร์การเข้ารหัสเนื้อหาด้วย <ph name="ZSTANDARD_SHORTNAME" /> |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อใช้ชั่วคราวและจะนำออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="3941289958028934630">ปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="3943930334592166130">นโยบายนี้ควบคุมว่าระบบจะแสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์หรือไม่เมื่อมีใบรับรองที่ตรงกันมากกว่า 1 รายการ <ph name="AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะแสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์เมื่อนโยบายการเลือกอัตโนมัติพบใบรับรองที่ตรงกันหลายรายการ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบอาจแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้เฉพาะในกรณีที่ไม่มีใบรับรองตรงกับการเลือกอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="3947897854999940598">ระบุเทมเพลต URI ของรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS ที่ต้องการด้วยข้อมูลประจำตัว</translation> |
| <translation id="3949642828552641632">อนุญาตการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /></translation> |
| <translation id="3950110092991281616">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ในเซสชันปกติเท่านั้น</translation> |
| <translation id="3950239119790560549">อัปเดตการจำกัดเวลา</translation> |
| <translation id="3953860513079094502">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย (XDR)</translation> |
| <translation id="3956243291190637924">ซ่อนส่วนหัวและส่วนท้ายในการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="3956573780915784996">อนุญาตให้ผู้ใช้รวบรวมการติดตามประสิทธิภาพทั้งระบบ</translation> |
| <translation id="3956686688560604829">ใช้นโยบาย SiteList ของ Internet Explorer กับการรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า</translation> |
| <translation id="3958586912393694012">อนุญาตให้ใช้ Smart Lock</translation> |
| <translation id="3960728283243442805">ผู้ใช้จะไม่เห็นตัวเลือกในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้เลือกอุปกรณ์แคสต์โดยใช้รหัสการเข้าถึงหรือด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด</translation> |
| <translation id="3962445567482559878">ใช้โหมด EDU ของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant</translation> |
| <translation id="396261881101930204">ซ่อนคำแนะนำสื่อจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="3964298692570794635">อนุญาตเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="3965339130942650562">หมดเวลาจนกว่าจะดำเนินการออกจากระบบของผู้ใช้ที่ไม่มีการใช้งาน</translation> |
| <translation id="396536755218079668">ผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="3968218878014278212">อนุญาตให้เปิดใช้ Eche</translation> |
| <translation id="3971673686578912106">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> เปิดขึ้นสำหรับอุปกรณ์เครื่องนั้น ตราบใดที่การตั้งค่าอื่นๆ อนุญาตให้เปิดได้เช่นกัน <ph name="PLUGIN_VM_ALLOWED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="USER_PLUGIN_VM_ALLOWED_POLICY_NAME" /> ต้องเป็น "จริง" รวมทั้ง <ph name="PLUGIN_VM_LICENSE_KEY_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="PLUGIN_VM_USER_ID_POLICY_NAME" /> อย่างใดอย่างหนึ่งต้องมีการตั้งค่าเพื่อให้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ทำงานได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ไม่มีการเปิดใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับอุปกรณ์เครื่องนั้น</translation> |
| <translation id="3973371701361892765">ไม่ซ่อนชั้นวางอัตโนมัติเลย</translation> |
| <translation id="3977304360459208438">ให้ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับชุดการเข้ารหัส 3DES ใน TLS</translation> |
| <translation id="3977906634350977040">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลใช้ PIN และการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่เมื่อยอมรับการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะไม่อนุญาตให้ใช้ PIN หรือการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่ |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะทำให้โฮสต์เลือกได้ว่าจะใช้ PIN และ/หรือการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่ได้หรือไม่ |
| |
| หมายเหตุ: หากการตั้งค่าส่งผลให้ทั้งโฮสต์และไคลเอ็นต์ไม่มีวิธีการตรวจสอบสิทธิ์ที่รองรับร่วมกัน การเชื่อมต่อจะถูกปฏิเสธ</translation> |
| <translation id="3979738908158213640">URL ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเพื่อทำการรับรองอุปกรณ์ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ SAML</translation> |
| <translation id="3982322576186033243">ไม่อนุญาตแฮชที่ไม่ปลอดภัยในแฮนด์เชค TLS</translation> |
| <translation id="3982465141749620677">แจ้งให้ตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งในแท็บ</translation> |
| <translation id="398294729592983401">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตั้งค่าการป้องกันลายนิ้วมือของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ของตน</translation> |
| <translation id="3983162212222338509">การแปลง DNS ของระบบอาจทำงานในหรือนอกกระบวนการของเครือข่าย หรือทั้งในและนอกกระบวนการของเครือข่าย โดยขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของระบบและแฟล็กฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="3984773186203819634">รายการการดำเนินการที่จะเรียกใช้เมื่อหมดเวลาตามนโยบาย <ph name="IDLE_TIMEOUT_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="IDLE_TIMEOUT_POLICY_NAME" /> ไว้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อหมดเวลาตามนโยบาย <ph name="IDLE_TIMEOUT_POLICY_NAME" /> เบราว์เซอร์จะเรียกใช้การดำเนินการที่กำหนดค่าไว้ในนโยบายนี้ |
| |
| หากนโยบายนี้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ตั้งค่า นโยบาย <ph name="IDLE_TIMEOUT_POLICY_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| การดำเนินการที่รองรับ ได้แก่ "<ph name="CLOSE_BROWSERS_ACTION" />": ปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์และ PWA ทั้งหมดสำหรับโปรไฟล์นี้ ไม่รองรับใน Android และ iOS |
| |
| "<ph name="CLOSE_TABS_ACTION" />": ปิดแท็บที่เปิดอยู่ทั้งหมดในหน้าต่างที่เปิดอยู่ รองรับเฉพาะใน iOS |
| |
| "<ph name="SHOW_PROFILE_PICKER_ACTION" />": แสดงหน้าต่างเครื่องมือเลือกโปรไฟล์ ไม่รองรับใน Android และ iOS |
| |
| "<ph name="SIGN_OUT_ACTION" />": นำผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้อยู่ออกจากระบบ รองรับเฉพาะใน iOS |
| |
| "<ph name="CLEAR_BROWSING_HISTORY_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_DOWNLOAD_HISTORY_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_COOKIES_AND_OTHER_SITE_DATA_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_CACHED_IMAGES_AND_FILES_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_PASSWORD_SIGNIN_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_AUTOFILL_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_SITE_SETTINGS_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_HOSTED_APP_DATA_ACTION" />": ล้างข้อมูลการท่องเว็บที่เกี่ยวข้อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากนโยบาย <ph name="CLEAR_BROWSING_DATA_ON_EXIT_LIST_POLICY_NAME" /> ประเภทที่รองรับใน iOS คือ "<ph name="CLEAR_BROWSING_HISTORY_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_COOKIES_AND_OTHER_SITE_DATA_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_CACHED_IMAGES_AND_FILES_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_PASSWORD_SIGNIN_ACTION" />" และ "<ph name="CLEAR_AUTOFILL_ACTION" />" |
| |
| "<ph name="RELOAD_PAGES_ACTION" />": โหลดหน้าเว็บทั้งหมดซ้ำ ในบางหน้า ผู้ใช้อาจได้รับแจ้งให้ยืนยันก่อน ไม่รองรับใน iOS |
| |
| การตั้งค่า "<ph name="CLEAR_BROWSING_HISTORY_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_PASSWORD_SIGNIN_ACTION" />", "<ph name="CLEAR_AUTOFILL_ACTION" />" และ "<ph name="CLEAR_SITE_SETTINGS_ACTION" />" จะปิดใช้การซิงค์สำหรับประเภทข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้ปิดใช้ "<ph name="CHROME_SYNC_NAME" />" ไว้โดยการตั้งค่านโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="BROWSER_SIGNIN_POLICY_NAME" /> ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="3986700049001404598">อนุญาตให้ผู้ใช้ยุติกระบวนการโดยใช้ตัวจัดการงานของ Chrome</translation> |
| <translation id="398884292557092447">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าผู้ใช้จะควบคุมคำแนะนำการป้อนข้อความอัตโนมัติสำหรับบัตรเครดิตใน UI ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าการป้อนข้อความอัตโนมัติจะไม่แนะนำหรือกรอกข้อมูลบัตรเครดิต และจะไม่บันทึกข้อมูลบัตรเครดิตอื่นๆ ที่ผู้ใช้อาจส่งขณะท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="3989635538409502728">ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="3989829840000169163">บล็อกจุดขยายสัญญาณเดิมในเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="3990391739475801018">ระบบจะปิดใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="3990834929384096140">ไม่บังคับใช้การตัดเสียงก้องของระบบ</translation> |
| <translation id="3994043824457743421">แสดงประกาศในช่องกลางบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="399433537808390819">ไม่เปิดให้ผู้ใช้สามารถใช้โหมดเดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="3995880046827722248">ปิดใช้ไฟล์ Manifest V2 อยู่</translation> |
| <translation id="3996118331995847766">หากตั้งค่า <ph name="DEVICE_ADVANCED_BATTERY_CHARGE_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" การตั้งค่า <ph name="DEVICE_ADVANCED_BATTERY_CHARGE_MODE_DAY_CONFIG_POLICY_NAME" /> จะอนุญาตให้คุณตั้งค่าโหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูง ตั้งแต่ <ph name="CHARGE_START_TIME_FIELD_NAME" /> จนถึง <ph name="CHARGE_END_TIME_FIELD_NAME" /> จะชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์จนเต็มได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น ส่วนระยะเวลาที่เหลือ แบตเตอรี่จะคงสถานะการชาร์จไว้ในระดับที่ต่ำลง ค่าของ <ph name="CHARGE_START_TIME_FIELD_NAME" /> ต้องน้อยกว่า <ph name="CHARGE_END_TIME_FIELD_NAME" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูงปิดอยู่เสมอ |
| |
| ค่าที่ใช้ได้ของช่อง <ph name="MINUTE_FIELD_NAME" /> ใน <ph name="CHARGE_START_TIME_FIELD_NAME" /> และ <ph name="CHARGE_END_TIME_FIELD_NAME" /> ได้แก่ 0, 15, 30, 45</translation> |
| <translation id="3996325823532867220">เราไม่รองรับนโยบายนี้อีกต่อไป แต่บางแพลตฟอร์มอาจรองรับนโยบายที่เกี่ยวข้อง <ph name="CHROME_ROOT_STORE_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำการยืนยันใบรับรองเซิร์ฟเวอร์โดยใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองในตัว |
| เมื่อปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำการยืนยันใบรับรองเซิร์ฟเวอร์โดยใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองเดิมที่แพลตฟอร์มมีให้จนกว่าจะเปิดใช้ <ph name="CHROME_ROOT_STORE_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านี้ ระบบอาจใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองในตัวหรือตัวตรวจสอบใบรับรองเดิมก็ได้</translation> |
| <translation id="3997519162482760140">URL ที่จะได้รับสิทธิ์การเข้าถึงอุปกรณ์จับภาพวิดีโอในหน้าการเข้าสู่ระบบ SAML</translation> |
| <translation id="4004523942550416237">ไม่แสดงขั้นตอนการเปิดใช้ Voice Match สำหรับ Google Assistant ระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4007646377576030214"> โปรดทราบว่านโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วใน M87 และได้นำออกจาก M89 โปรดใช้ <ph name="MANAGED_GUEST_SESSION_PRIVACY_WARNINGS_POLICY_NAME" /> เพื่อกำหนดค่าคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวของเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแทน |
| |
| ควบคุมการแจ้งเตือนการเรียกใช้อัตโนมัติของเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" การแจ้งเตือนของคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวจะปิดหลังผ่านไปสักครู่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า การแจ้งเตือนของคำเตือนด้านความเป็นส่วนตัวจะปักหมุดอยู่จนกว่าผู้ใช้จะปิดการแจ้งเตือนดังกล่าว</translation> |
| <translation id="4008507541867797979">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่าไว้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงผู้ใช้ที่มีอยู่บนหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้เลือกได้ 1 รายการ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่แสดงผู้ใช้ที่มีอยู่บนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ แต่จะแสดงหน้าจอการเข้าสู่ระบบตามปกติ (แจ้งให้ผู้ใช้ป้อนอีเมลและรหัสผ่านหรือหมายเลขโทรศัพท์) หรือหน้าจอโฆษณาคั่นระหว่างหน้า SAML (หากเปิดใช้ผ่านนโยบาย <ph name="LOGIN_AUTHENTICATION_BEHAVIOR_POLICY_NAME" />) ยกเว้นว่าจะมีการกำหนดค่าเซสชันที่มีการจัดการ เมื่อกำหนดค่าเซสชันที่มีการจัดการแล้ว ระบบจะแสดงเฉพาะบัญชีของเซสชันที่มีการจัดการเท่านั้นและอนุญาตให้เลือกบัญชีหนึ่งในนั้นได้ |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้ไม่ส่งผลต่อการที่อุปกรณ์จะเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ในเครื่องหรือไม่</translation> |
| <translation id="4009741515395221389">เปิดใช้การย้ายข้อมูลของอุปกรณ์ที่มีการจัดการของ <ph name="MS_AD_NAME" /> ไปยังการจัดการระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="4010738624545340900">อนุญาตให้เรียกดูช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้</translation> |
| <translation id="401260868452018796">กำหนดตำแหน่งชั้นวางให้อยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4015799413391577485">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M97 หลังจากที่นำ 3DES ออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดใช้ชุดการเข้ารหัส 3DES ใน TLS หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" จะปิดใช้ชุดการเข้ารหัสดังกล่าว หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย โดยค่าเริ่มต้นชุดการเข้ารหัส 3DES จะปิดใช้อยู่ ระบบอาจใช้นโยบายนี้เพื่อรักษาความเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวและควรจะต้องมีการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่ |
| </translation> |
| <translation id="4016367078069682737">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M61 |
| |
| ระบุลักษณะการทำงานของอุปกรณ์ที่มาพร้อม ecryptfs และต้องเปลี่ยนไปใช้การเข้ารหัส ext4 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "DisallowArc" ระบบจะปิดใช้แอป Android ให้กับผู้ใช้ทั้งหมดในอุปกรณ์ (รวมทั้งผู้ใช้ที่มีการเข้ารหัส ext4 อยู่แล้ว) และจะไม่เสนอการย้ายข้อมูลจาก ecryptfs ไปใช้การเข้ารหัส ext4 แก่ผู้ใช้คนใดทั้งสิ้น |
| |
| หากคุณตั้งนโยบายนี้เป็น "AllowMigration" ระบบจะเสนอผู้ใช้ที่มีไดเรกทอรีหน้าแรกแบบ ecryptfs ให้ย้ายข้อมูลเหล่านี้ไปใช้การเข้ารหัส ext4 ตามความจำเป็น (ปัจจุบันคือเมื่อสามารถใช้ Android N ในอุปกรณ์ได้) |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลกับแอปคีออสก์ โดยระบบจะย้ายข้อมูลแอปเหล่านี้โดยอัตโนมัติ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ อุปกรณ์จะทำงานราวกับว่ามีการเลือก "DisallowArc"</translation> |
| <translation id="401650904918322517">เราเลิกใช้งานนโยบายนี้แล้วและจะนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 89 |
| |
| นโยบายนี้ให้สิทธิ์ฟีเจอร์คำตอบด่วนในการเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย ระบบจะอนุญาตให้ฟีเจอร์คำตอบด่วนเข้าถึงเนื้อหาที่เลือก |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะไม่อนุญาตให้ฟีเจอร์คำตอบด่วนเข้าถึงเนื้อหาที่เลือก |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ฟีเจอร์คำตอบด่วนเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกหรือไม่</translation> |
| <translation id="4016523784669365747">นโยบายนี้มีไว้เพื่อเป็นวิธีเลือกไม่ใช้ฟีเจอร์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่ง |
| |
| ตัวเลือกนี้ควบคุมว่า Chrome จะรองรับการผสานรวมที่เกี่ยวข้องกับชุดโดเมนของบุคคลที่หนึ่งหรือไม่ |
| |
| นโยบายนี้เทียบเท่ากับนโยบาย <ph name="RELATED_WEBSITE_SETS_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| ระบบอาจใช้นโยบายใดนโยบายหนึ่ง แต่นโยบายนี้จะเลิกใช้งานในอีกไม่ช้า เราจึงขอแนะนำให้ใช้นโยบาย <ph name="RELATED_WEBSITE_SETS_ENABLED_POLICY_NAME" /> มากกว่า |
| นโยบายทั้งสองมีผลต่อลักษณะการทำงานของเบราว์เซอร์เหมือนกัน</translation> |
| <translation id="4016700865356669962">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ทำให้ผู้ใช้ใช้เทมเพลตเลย์เอาต์เดสก์ท็อปได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าเทมเพลตเหล่านี้จะไม่พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="4020682745012723568">แอป Android ไม่สามารถเข้าถึงคุกกี้ที่โอนไปยังโปรไฟล์ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4025500273782820766">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือก "อนุญาตเสมอ" เมื่อมีการแสดงกล่องโต้ตอบของโปรโตคอลภายนอกให้ข้ามข้อความแจ้งยืนยันในอนาคต</translation> |
| <translation id="402759845255257575">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ เรียกใช้ JavaScript</translation> |
| <translation id="4027608872760987929">เปิดใช้งานผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4030152268425532846">ปิดใช้การช่วยเหลือสำหรับการเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="4039065751874009354">นโยบายนี้มีการเลือกไม่ใช้ชั่วคราวสำหรับการแก้ไข 2 แบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับลักษณะการทำงานของกล่องโต้ตอบการยืนยันที่แสดงโดยเหตุการณ์ beforeunload |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานแบบใหม่ที่ถูกต้อง เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานแบบเดิม เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น |
| นโยบายนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวและจะถูกนำออกในเร็วๆ นี้ |
| |
| ลักษณะการทำงานแบบใหม่ที่ถูกต้อง: ใน `beforeunload` การเรียกใช้ `event.preventDefault()` จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการยืนยัน การตั้งค่า `event.returnValue` เป็นสตริงว่างเปล่าจะไม่ทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการยืนยัน |
| |
| ลักษณะการทำงานแบบเดิม: ใน `beforeunload` การเรียกใช้ `event.preventDefault()` จะไม่ทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการยืนยัน การตั้งค่า `event.returnValue` เป็นสตริงว่างเปล่าจะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการยืนยัน</translation> |
| <translation id="4043796890723386527">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สร้างและใช้โปรไฟล์รอง ตลอดจนป้องกันไม่ให้ใช้โหมดผู้มาเยือนในเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4051723201852944592">เปิดใช้การตรวจหาการบังหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="4052529125939620019">โหลดส่วนขยายคอมโพเนนต์ CryptoToken เมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="4053157306171963473">ปิดใช้การรายงานเวลาของกิจกรรมในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4055758693679485627">กำหนดค่ารายการประเภทข้อมูลการท่องเว็บที่ควรจะลบออกเมื่อผู้ใช้ปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ทั้งหมด ประเภทข้อมูลที่มี ได้แก่ ประวัติการท่องเว็บ (<ph name="DATA_TYPE_BROWSING_HISTORY" />) ประวัติการดาวน์โหลด (<ph name="DATA_TYPE_DOWNLOAD_HISTORY" />) คุกกี้ (<ph name="DATA_TYPE_COOKIES_AND_OTHER_SITE_DATA" />) แคช <ph name="DATA_TYPE_CACHED_IMAGES_AND_FILES" /> ข้อความป้อนอัตโนมัติ (<ph name="DATA_TYPE_AUTOFILL" />) รหัสผ่าน (<ph name="DATA_TYPE_PASSWORD" />) การตั้งค่าเว็บไซต์ (<ph name="DATA_TYPE_SITE_SETTINGS" />) และข้อมูลแอปที่โฮสต์ไว้ (<ph name="DATA_TYPE_HOSTED_APP_DATA" />) นโยบายนี้ไม่มีความสำคัญเหนือ <ph name="ALLOW_DELETING_BROWSER_HISTORY_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้กำหนดให้ตั้งค่านโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "จริง" จนถึง Chrome 114 ตั้งแต่ Chrome 115 เป็นต้นไป การตั้งค่านโยบายนี้จะปิดใช้การซิงค์สำหรับประเภทข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้ปิดใช้ "<ph name="CHROME_SYNC_NAME" />" ไว้โดยการตั้งค่านโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="BROWSER_SIGNIN_POLICY_NAME" /> ปิดใช้อยู่ |
| |
| หาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ออกอย่างราบรื่น (เช่น หากเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการขัดข้อง) ระบบจะล้างข้อมูลการท่องเว็บในครั้งถัดไปที่โหลดโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="4056910949759281379">ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY</translation> |
| <translation id="4057442294431066708">นโยบายนี้ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่เลือกไว้สำหรับการรีแมปเหตุการณ์กับ F11/F12 ในหน้าย่อยของคีย์ที่รีแมป การตั้งค่าเหล่านี้มีผลเฉพาะกับแป้นพิมพ์ ChromeOS และจะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย</translation> |
| <translation id="4061590579642538878">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับรายงานข้อขัดข้อง</translation> |
| <translation id="4062646759141042418">เปิดใช้ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุ URL ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอเพื่อเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองสำหรับโปรไฟล์ที่มีการจัดการ นโยบายหลังจะช่วยให้เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับชุดเอกสารรับรองของสัญญาณที่มีการคำนึงถึงบริบทจากอุปกรณ์ |
| นโยบายนี้กำหนดค่าได้ผ่านหน้าเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ใน <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือปล่อยว่างไว้จะทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดไม่สามารถเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองระดับผู้ใช้และไม่ได้รับสัญญาณจากอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม หากเปิดใช้นโยบาย <ph name="BROWSER_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST" /> ที่เกี่ยวข้อง ระบบจะเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองสำหรับเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการและรวบรวมสัญญาณของอุปกรณ์ได้ |
| |
| สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้เกี่ยวข้องกับเอกสารรับรองระยะไกลซึ่งระบบสร้างใบรับรองโดยอัตโนมัติแล้วอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ โปรดใช้นโยบาย <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> สำหรับการใช้งานโฟลว์เอกสารรับรองบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบของอุปกรณ์ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format</translation> |
| <translation id="4070039109671307724">เบ็ดเตล็ด</translation> |
| <translation id="4072225853834793549">ปิดใช้ทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="4075675819066819571">กำหนดตำแหน่งชั้นวางให้อยู่ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4079306023113982053">ควบคุมความพร้อมใช้งานของ <ph name="BOREALIS_NAME" /> สำหรับผู้ใช้รายนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" <ph name="BOREALIS_NAME" /> จะใช้ไม่ได้ เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" <ph name="BOREALIS_NAME" /> จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อนโยบายหรือการตั้งค่าอื่นๆ ไม่ปิดใช้นโยบายนี้</translation> |
| <translation id="408029843066770167">อนุญาตคำค้นหาที่ส่งไปยังบริการเวลาของ Google</translation> |
| <translation id="408076456549153854">เปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="4081127242481747676">การตั้งค่าเซ็นเซอร์</translation> |
| <translation id="4082405593844340376">ระบุว่าจะใช้ข้อจำกัดกับคำขอไปยังอุปกรณ์ปลายทางของเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไหม</translation> |
| <translation id="4082498585300984671">เปิดใช้ฟีเจอร์คลิกเพื่อโทร</translation> |
| <translation id="4082809879536562387">อนุญาตให้คุณกำหนดระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีระหว่างการแจ้งเตือนแรกที่บอกว่าต้องรีสตาร์ทอุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" เพื่อใช้อัปเดตที่รอดำเนินการ กับจุดสิ้นสุดระยะเวลาที่ระบุโดยนโยบาย <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_PERIOD_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ระยะเวลาเริ่มต้น 259,200,000 มิลลิวินาที (3 วัน) สำหรับอุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" |
| |
| สำหรับการดำเนินการย้อนกลับและการอัปเดตอื่นๆ ของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ที่จะทำ Powerwash อุปกรณ์ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้ทันทีเสมอเมื่อมีอัปเดตพร้อมใช้งานโดยแยกจากค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4086150283035515220">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าระบบจะถามผู้ใช้ว่าจะบันทึกไฟล์ไว้ที่ไหนก่อนที่จะดาวน์โหลด การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้การดาวน์โหลดเริ่มต้นทันที และระบบจะไม่ถามผู้ใช้ว่าจะบันทึกไฟล์ไว้ที่ไหน |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าได้</translation> |
| <translation id="4087476676669545471">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้แชร์หรือบันทึกหน้าเว็บปัจจุบันได้โดยใช้การทำงานที่ฮับการแชร์เดสก์ท็อปมีให้ ฮับการแชร์สามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอนในแถบอเนกประสงค์หรือเมนู 3 จุด |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะนำไอคอนแชร์ออกจากแถบอเนกประสงค์และนำการแชร์ออกจากเมนู 3 จุด</translation> |
| <translation id="4087778345310035432">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_WHITELIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_NATIVE_PRINTERS_WHITELIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ได้ จะมีเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="4088589230932595924">บังคับใช้โหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="4089849819635523136">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_KEYWORD_POLICY_NAME" /> จะระบุคีย์เวิร์ดหรือทางลัดที่ใช้ในแถบที่อยู่เพื่อทริกเกอร์การค้นหาสำหรับผู้ให้บริการรายนี้ |
| |
| หากไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_KEYWORD_POLICY_NAME" /> จะไม่มีคีย์เวิร์ดใดเลยที่เปิดใช้งานผู้ให้บริการค้นหาดังกล่าว</translation> |
| <translation id="4090088362777472639">แฮช SHA-256 ของ Ansible Playbook</translation> |
| <translation id="4091040199847925434">ปิดใช้การรายงานข้อมูลระบบและเนื้อหาของหน้าซึ่งใช้เพื่อช่วยปรับปรุง Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="4098920079809952737">อนุญาตการพิมพ์ทั้งกรณีที่มีและไม่มีกราฟิกพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="410061592404122032">ถามทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการได้รับสิทธิ์การจัดการหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="410068710490553233">อนุญาตการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="4101222634611892813">ผู้ใช้จะใช้ฟีเจอร์การซิงค์ไฟล์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="4101282687722389021">การประทับเวลา UTC สำหรับครั้งสุดท้ายที่อัปเดตข้อมูลนี้ ส่งเป็นสตริงเพราะการประทับเวลาไม่พอดีกับจำนวนเต็ม</translation> |
| <translation id="4101826711886952606">การตั้งค่า "Home/End" ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="4102347680024644994">รายงานเหตุการณ์การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย (XDR)</translation> |
| <translation id="4104303092334469130">กำหนดค่ารายการกฎการควบคุมข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล |
| |
| กฎแต่ละข้อประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้ |
| - ช่องเงื่อนไขที่จะเรียกใช้กฎนั้น ระบบจะเรียกใช้กฎต่อเมื่อการดำเนินการของผู้ใช้ตรงกับทุกช่องที่มีการป้อนข้อมูลไว้ในช่อง <ph name="DATA_CONTROLS_SOURCES" />, <ph name="DATA_CONTROLS_DESTINATIONS" />, <ph name="DATA_CONTROLS_AND" />, <ph name="DATA_CONTROLS_OR" /> และ <ph name="DATA_CONTROLS_NOT" /> สำหรับช่องย่อยของรายการ จะต้องจับคู่เพียง 1 รายการเท่านั้น เช่น ต้องจับคู่รูปแบบ URL เพียง 1 รายการจึงจะเรียกใช้กฎได้ |
| - รายการการจำกัดที่จะใช้ อาจมีเพียงเงื่อนไข <ph name="DATA_CONTROLS_SOURCES" /> หรือ <ph name="DATA_CONTROLS_DESTINATIONS" /> เท่านั้นโดยขึ้นอยู่กับการจำกัด |
| |
| คุณจะเพิ่มกฎเพื่อดำเนินการต่อไปนี้ได้ |
| - ควบคุมข้อมูลในคลิปบอร์ดที่แชร์ระหว่างแหล่งที่มาและปลายทาง |
| - ควบคุมการบล็อกภาพหน้าจอตามแท็บแหล่งที่มา |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="ON_SECURITY_EVENT_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> เป็น "จริง" ระบบจะรายงานกฎที่เรียกใช้ไปยังผู้ดูแลระบบ |
| ระดับการจำกัดอาจตั้งค่าเป็น "BLOCK", "WARN" หรือ "REPORT" |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "BLOCK" ระบบจะไม่อนุญาตให้ดำเนินการ |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "WARN" ผู้ใช้จะได้รับคำเตือนและอาจเลือกดำเนินการต่อหรือยกเลิกการดำเนินการก็ได้ |
| - หากตั้งค่าระดับการจำกัดเป็น "REPORT" การดำเนินการของผู้ใช้จะไม่ถูกขัดจังหวะ แต่ระบบจะส่งรายงานหากเปิดใช้นโยบาย <ph name="ON_SECURITY_EVENT_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> |
| |
| หมายเหตุ: |
| - จัดรูปแบบ URL ตามรูปแบบนี้ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) |
| - สำหรับกฎการป้องกันข้อมูลรั่วไหลของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> โดยเฉพาะ โปรดดูนโยบาย <ph name="DATA_LEAK_PREVENTION_RULES_LIST" /> ด้วย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะไม่จำกัดการใช้งาน</translation> |
| <translation id="4105989332710272578">ปิดการบังคับใช้ความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับรายการ URL</translation> |
| <translation id="410740968939768919">ควบคุมว่าจะใช้ส่วนขยายซึ่งใช้ไฟล์ Manifest V2 ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> หรือไม่ |
| |
| เราจะเลิกรองรับส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 และจะย้ายข้อมูลส่วนขยายทั้งหมดไปยัง V3 ในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมและลำดับเวลาการย้ายข้อมูลได้ที่ https://developer.chrome.com/docs/extensions/mv3/mv2-sunset/ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DEFAULT" /> (0) หรือไม่ได้ตั้งค่า อุปกรณ์จะโหลดส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ตามลำดับเวลาด้านบน |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DISABLE" /> (1) ระบบจะบล็อกการติดตั้งส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 และปิดใช้ส่วนขยายที่มีอยู่ หลังจากเลิกรองรับไฟล์ Manifest V2 โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะดำเนินการกับตัวเลือกในแนวทางเดียวกันราวกับว่าไม่ได้ตั้งค่านโยบาย |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ENABLE" /> (2) ระบบจะอนุญาตส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ก่อนที่จะเลิกรองรับไฟล์ Manifest V2 โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะดำเนินการกับตัวเลือกในแนวทางเดียวกันราวกับว่าไม่ได้ตั้งค่านโยบาย |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ENABLE_FOR_FORCED_EXTENSIONS" /> (3) ระบบจะอนุญาตส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 ซึ่งบังคับติดตั้งแล้ว ซึ่งรวมถึงส่วนขยายที่ <ph name="EXTENSION_INSTALL_FORCELIST_POLICY_NAME" /> แสดงหรือ <ph name="EXTENSION_SETTINGS_POLICY_NAME" /> ที่มี <ph name="INSTALLATION_MODE" /> "force_installed" หรือ "normal_installed" ปิดใช้ส่วนขยายอื่นๆ ทั้งหมดที่ใช้ไฟล์ Manifest V2 แล้ว ตัวเลือกนี้ใช้ได้เสมอไม่ว่าสถานะการย้ายข้อมูลจะเป็นอย่างไรก็ตาม |
| |
| |
| ทั้งนี้นโยบายอื่นๆ จะยังคงเป็นตัวกำหนดความพร้อมใช้งานของส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="4110126170080699437">ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย API ของเว็บ <ph name="GET_DISPLAY_MEDIA_API_NAME" /> จำเป็นต้องเรียกใช้ท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า ("การเปิดใช้งานชั่วคราว") มิเช่นนั้นจะดำเนินการไม่สำเร็จ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ดูแลระบบสามารถระบุต้นทางที่จะเรียกใช้ API นี้ได้โดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns * ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ต้นทางทั้งหมดจะกำหนดให้ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้าเพื่อเรียกใช้ API นี้</translation> |
| <translation id="4115501011761259824">เปิดใช้ชุดบุคคลที่หนึ่งสำหรับผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ</translation> |
| <translation id="4120401094617902941">อัตราในการสุ่มตัวอย่างและรวบรวมตัวนับรันไทม์ ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 วัน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 1 วัน</translation> |
| <translation id="4121350739760194865">ป้องกันไม่ให้การส่งเสริมของแอปพลิเคชันไปปรากฏบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="4122432898152851612">ผู้ใช้จะไม่เห็น UI ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์การซิงค์ไฟล์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4122473079291425973">หน้าแท็บใหม่จะแสดงการ์ดหากมีเนื้อหา แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="4122565688998751716">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="ALLOW_SYSTEM_NOTIFICATIONS_POLICY_NAME" />" แทน |
| |
| กำหนดค่าว่าจะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใน Linux ใช้การแจ้งเตือนดั้งเดิมหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะได้รับอนุญาตให้ใช้การแจ้งเตือนดั้งเดิม |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้การแจ้งเตือนดั้งเดิม ระบบจะใช้ศูนย์ข้อความของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นวิธีสำรอง</translation> |
| <translation id="412697421478384751">ยอมให้ผู้ใช้ตั้ง PIN ที่คาดเดาง่ายเป็น PIN หน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="4136603825567209889">เปิดใช้การรายงานข้อมูลระบุตัวตนของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4138655880188755661">การจำกัดเวลา</translation> |
| <translation id="4140646780789794190">ปิดใช้การแชร์ข้อมูลการวินิจฉัยไปยัง PluginVm</translation> |
| <translation id="4144417751555442768">Generative AI</translation> |
| <translation id="4145383150978634398">กำหนดให้ผู้ใช้สามารถใช้โหมดเดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4147818922357566987">เปิดใช้รูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขที่สำคัญเท่านั้น</translation> |
| <translation id="4150201353443180367">การแสดงผล</translation> |
| <translation id="4154221011709068799">ไม่อนุญาตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก</translation> |
| <translation id="415445772247959702">เว็บสโตร์ (เริ่มรองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 89)</translation> |
| <translation id="4157003184375321727">รายงานรุ่นของระบบปฏิบัติการและเฟิร์มแวร์</translation> |
| <translation id="4157594634940419685">อนุญาตให้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ CUPS ดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="4158531549614162499">เปิดใช้การซิงค์ Google ไดรฟ์ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ</translation> |
| <translation id="4160962198980004898">แหล่งที่มาของที่อยู่ MAC ของอุปกรณ์เมื่อเสียบแท่นชาร์จอยู่</translation> |
| <translation id="4161019158509414446">ควบคุมนโยบายสําหรับฟีเจอร์ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="4164511138197196839">หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่บน Chrome เว็บสโตร์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| นโยบายนี้มีผลกับส่วนขยายที่ติดตั้งและอัปเดตจาก Chrome เว็บสโตร์เท่านั้น |
| |
| ระบบจะไม่สนใจส่วนขยายจากนอกสโตร์ เช่น ส่วนขยายที่คลายการแพคข้อมูลซึ่งติดตั้งโดยใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์และส่วนขยายที่ติดตั้งโดยใช้การเปลี่ยนบรรทัดคำสั่ง |
| ระบบจะไม่สนใจส่วนขยายที่บังคับติดตั้งซึ่งโฮสต์ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ระบบจะไม่สนใจส่วนขยายที่ปักหมุดทุกเวอร์ชัน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ALLOW_UNPUBLISHED" /> (0) หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่ใน Chrome เว็บสโตร์ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DISABLE_UNPUBLISHED" /> (1) ระบบจะปิดใช้ส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่ใน Chrome เว็บสโตร์</translation> |
| <translation id="4164866067069311355">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งาน F11/F12</translation> |
| <translation id="4165986682804962316">การตั้งค่าเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="4166174702671320480">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าระบบจะไม่สนใจนโยบายที่มีผลกับกลุ่มขนาดเล็กซึ่งไม่แชร์แหล่งที่มากับนโยบายที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดในกลุ่ม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าระบบจะพิจารณานโยบายทั้งหมดไม่ว่าจะมาจากแหล่งที่มาใดก็ตาม ระบบจะไม่สนใจนโยบายในกรณีที่มีความขัดแย้งและนโยบายดังกล่าวไม่ได้มีลำดับความสำคัญสูงสุดในกลุ่มเท่านั้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้จากแหล่งที่มาในระบบคลาวด์ นโยบายจะกำหนดเป้าหมายเป็นผู้ใช้ที่เจาะจงไม่ได้</translation> |
| <translation id="416817811987180750">ฟีเจอร์รายการช็อปปิ้งจะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4168880975307014079">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส</translation> |
| <translation id="4169094969938998854">ไม่อนุญาตให้ล็อกหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4169692397912242417">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยการอธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่าไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="4173974507809462880">แสดงหน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดระหว่างลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="417956245902013347">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="4182348537826882258">การตั้งค่านโยบาย <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะทำให้ระบบหยุดโหลดหน้าเว็บที่มี URL ต้องห้าม ผู้ดูแลระบบสามารถระบุรายการรูปแบบ URL ที่จะบล็อกได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่บล็อก URL ในเบราว์เซอร์ คุณกำหนดข้อยกเว้นใน <ph name="URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> ได้ไม่เกิน 1,000 รายการ ดูวิธีจัดรูปแบบ URL ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลกับ URL JavaScript แบบในหน้าเว็บและมีการโหลดข้อมูลแบบไดนามิก หากคุณบล็อก example.com/abc ไว้ example.com จะยังคงโหลดโดยใช้ XMLHTTPRequest ได้ นอกจากนี้ นโยบายไม่ได้ป้องกันไม่ให้หน้าเว็บอัปเดต URL ที่แสดงในแถบอเนกประสงค์เป็น URL ที่ถูกบล็อกโดยใช้ JavaScript History API |
| |
| เริ่มจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 73 เป็นต้นไป คุณจะบล็อก URL javascript://* ได้ แต่จะมีผลเฉพาะกับ JavaScript ที่พิมพ์ลงในแถบที่อยู่ (หรือ bookmarklet เป็นต้น) |
| |
| มีการรองรับนโยบายนี้ในโหมดไม่มีส่วนหัวด้วยใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 92 เป็นต้นไป |
| |
| หมายเหตุ: การบล็อก chrome://* และ chrome-untrusted://* ซึ่งเป็น URL ภายในอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดหรือระบบอาจหลีกเลี่ยงในบางกรณี ลองดูว่ามีนโยบายเฉพาะเพิ่มเติมหรือไม่แทนการบล็อก URL ภายในบางรายการ ตัวอย่างเช่น |
| |
| - ใช้ <ph name="CA_CERTIFICATE_MANAGEMENT_ALLOWED_POLICY_NAME" /> แทนการบล็อก chrome://settings/certificates |
| |
| - ใช้ <ph name="SYSTEM_FEATURES_DISABLE_LIST_POLICY_NAME" /> แทนการบล็อก chrome-untrusted://crosh</translation> |
| <translation id="4183229833636799228">การตั้งค่าเริ่มต้นของ <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /></translation> |
| <translation id="4185868802416355029">อนุญาตให้ส่วนขยายที่มีการจัดการใช้ Enterprise Hardware Platform API</translation> |
| <translation id="4186244263855283575">อนุญาตให้ตั้งกำหนดเวลาเองเพื่อรีบูตอุปกรณ์ เมื่อตั้งค่าเป็น "จริง" อุปกรณ์จะรีบูตตามกำหนดเวลา คุณต้องนำนโยบายออกหากต้องการยกเลิกการรีบูตรายการอื่นๆ ที่กำหนดเวลาไว้ |
| |
| ในเซสชันผู้ใช้และเซสชันผู้มาเยือนจะใช้เงื่อนไขต่อไปนี้ |
| |
| * ผู้ใช้จะได้รับแจ้งเตือนว่าจะมีการรีสตาร์ท 1 ชั่วโมงก่อนเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ใช้มีตัวเลือกว่าจะรีสตาร์ทในตอนนั้นหรือรอการรีบูตที่กำหนดเวลาไว้ก็ได้ แต่จะเลื่อนการรีบูตที่กำหนดเวลาไว้ไม่ได้ |
| |
| * ระบบจะให้ระยะเวลาผ่อนผัน 1 ชั่วโมงหลังการบูตอุปกรณ์ ระบบจะข้ามการรีบูตที่กำหนดเวลาไว้ในช่วงเวลานี้ และจะกำหนดเวลาอีกครั้งสำหรับวัน สัปดาห์ หรือเดือนถัดไปโดยขึ้นอยู่กับการตั้งค่า |
| |
| ส่วนในเซสชันคีออสก์จะไม่มีระยะเวลาผ่อนผันและไม่มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการรีบูต |
| </translation> |
| <translation id="4187576366596772431">บล็อก WebHID API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="4189100643304138928">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="ON_FILE_ATTACHED_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> Enterprise ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อมีไฟล์แนบไปกับ Chrome |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_URL_LIST_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAGS_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อควรส่งไฟล์สำหรับการวิเคราะห์หรือไม่เมื่อมีการแนบไฟล์มากับหน้าหนึ่งๆ และแท็กใดที่จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์สำหรับไฟล์นั้น แท็กที่สอดคล้องกับรูปแบบ "เปิดใช้" จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์หาก URL ของหน้าตรงกับรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับแท็กดังกล่าวตราบใดที่ไม่มีรูปแบบ "ปิดใช้" ที่มีแท็กเดียวกันนั้นตรงกับ URL ของหน้า การวิเคราะห์จะเกิดขึ้นหากมีอย่างน้อย 1 แท็กในคำขอ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> จะระบุว่าผู้ให้บริการการวิเคราะห์ใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_UNTIL_VERDICT_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น 1 หมายความว่า Chrome จะรอให้มีการตอบสนองจากบริการการวิเคราะห์ก่อนให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงไฟล์ ค่าที่เป็นจำนวนเต็มอื่นๆ หมายความว่า Chrome จะให้สิทธิ์เข้าถึงหน้าเว็บแก่ไฟล์โดยทันที |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DEFAULT_ACTION_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น "บล็อก" หมายความว่า Chrome จะไม่ให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงไฟล์หากเกิดข้อผิดพลาดขณะสื่อสารกับบริการวิเคราะห์ ค่าอื่นๆ หมายความว่า Chrome ให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงไฟล์ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_PASSWORD_PROTECTED_FIELD" /> จะควบคุมให้ Chrome บล็อกหรืออนุญาตไฟล์ที่มีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_LARGE_FILES_FIELD" /> จะควบคุมให้ Chrome บล็อกหรืออนุญาตให้วิเคราะห์ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_REQUIRE_JUSTIFICATION_TAGS_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อต้องกำหนดให้ผู้ใช้ป้อนเหตุผลสำหรับแท็กใดเพื่อข้ามการสแกนที่ทำให้เกิดคำเตือนแบบข้ามได้ หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้ ระบบจะถือว่าไม่จำเป็นต้องป้อนเหตุผล |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MESSAGE_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAG_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดค่าข้อความที่จะแสดงแก่ผู้ใช้เมื่อมีคำเตือนปรากฏขึ้นหลังจากที่การสแกนตรวจพบการละเมิด ฟิลด์ข้อความมีข้อความที่จะแสดงต่อผู้ใช้และต้องมีความยาวไม่เกิน 200 อักขระ ฟิลด์ learn_more_url มี URL จากผู้ดูแลระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลที่การดำเนินการถูกบล็อก ฟิลด์ภาษาจะมีหรือไม่มีก็ได้และจะมีภาษาของข้อความ ฟิลด์ภาษาที่เว้นว่างไว้หรือมีค่าเป็น "ค่าเริ่มต้น" จะระบุข้อความที่จะใช้เมื่อภาษาของผู้ใช้ไม่มีข้อความ ฟิลด์แท็กจะระบุประเภทการสแกนที่จะมีการแสดงข้อความ รายการ custom_messages อาจมีหรือไม่มีรายการย่อยเพิ่มเติม โดยที่รายการย่อยแต่ละรายการจำเป็นต้องมีฟิลด์ข้อความและฟิลด์แท็กที่ไม่เว้นว่างไว้ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="4189872355465413041">แอปพลิเคชันระบบ</translation> |
| <translation id="4190316993598857632">เปิดใช้การแก้ไขบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="4192388905594723944">URL สำหรับตรวจสอบความถูกต้องโทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์ไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="4195698007674066525">กำหนดให้แป้นพิมพ์ตัวเลขเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับการป้อนรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="4203055629055264833">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่าผู้ใช้สามารถแสดงหน้าผลการค้นหาล่าสุดของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในแผงด้านข้างผ่านการเปิด/ปิดไอคอนในแถบเครื่องมือ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะนำไอคอนดังกล่าวออกจากแถบเครื่องมือที่เปิดแผงด้านข้างซึ่งมีหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นอยู่</translation> |
| <translation id="4204327073692415353">ไม่แสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์บนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="4205316772333487392">บังคับใช้ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยใน Google Search</translation> |
| <translation id="4206464220361823768">ปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="4209297478239988291">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการคลิกอัตโนมัติ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่คลิกโดยไม่ต้องกดเมาส์หรือทัชแพดเมื่อวางเมาส์เหนือวัตถุที่ต้องการคลิก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการคลิกอัตโนมัติไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการคลิกอัตโนมัติไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์คลิกอัตโนมัติในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="4212181786686887763">URL ที่ระบบไปดาวน์โหลดรูปวอลเปเปอร์ได้</translation> |
| <translation id="4224610387358583899">การหน่วงเวลาในการล็อกหน้าจอ</translation> |
| <translation id="42267415200641481">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะทำให้การแปลง DNS ของระบบ (getaddrinfo()) สามารถทำงานนอกกระบวนการของเครือข่ายได้ โดยขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของระบบและแฟล็กฟีเจอร์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะทำให้การแปลง DNS ของระบบ (getaddrinfo()) ทำงานในกระบวนการของเครือข่ายแทนที่จะเป็นกระบวนการของเบราว์เซอร์ การดำเนินการนี้อาจบังคับให้ระบบปิดใช้แซนด์บ็อกซ์บริการเครือข่าย ซึ่งทำให้ความปลอดภัยของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ลดลง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ การแปลง DNS ของระบบอาจทำงานในบริการเครือข่าย นอกบริการเครือข่าย หรือทั้งในและนอกบริการเครือข่าย โดยขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของระบบและแฟล็กฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="4239720644496144453">ไม่มีการใช้แคชสำหรับแอป Android หากมีผู้ใช้หลายคนติดตั้งแอป Android เดียวกัน จะมีการดาวน์โหลดแอปใหม่สำหรับผู้ใช้แต่ละราย</translation> |
| <translation id="4242583077375244471">เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะยืนยันใบรับรองเซิร์ฟเวอร์โดยใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองในตัวที่มี Chrome Root Store เป็นแหล่งที่มาของความน่าเชื่อถือสาธารณะ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองของระบบและใบรับรองรูทของระบบ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ อาจมีการใช้ Chrome Root Store หรือรูทที่ระบบมีให้ |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 113 |
| สำหรับ <ph name="MS_WIN_NAME" /> และ <ph name="MAC_OS_NAME" />, |
| <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 120, |
| <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 120 สำหรับ |
| <ph name="LINUX_OS_NAME" /> และ |
| <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 121 สำหรับ |
| <ph name="ANDROID_NAME" /> แล้วเมื่อหยุดรองรับการใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองและรูทที่แพลตฟอร์มให้มา</translation> |
| <translation id="424318624725112807">เปิดใช้ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="4245159233848584683">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าเมื่ออุปกรณ์ออฟไลน์ หากบัญชีในอุปกรณ์มีการตั้งค่าเป็นลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติด้วยความล่าช้าเป็น 0 <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงข้อความแจ้งการกำหนดค่าเครือข่าย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะมีข้อความแสดงข้อผิดพลาดขึ้นมาแทน</translation> |
| <translation id="4248277954659222481">อนุญาตการเล่นสื่ออัตโนมัติในรายการรูปแบบ URL ที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="4250680216510889253">ไม่มี</translation> |
| <translation id="4251370222792468420">Chrome พยายามอัปเกรดทรัพยากรย่อยของเนื้อหาผสมบางประเภท (HTTP ในเว็บไซต์ HTTPS) บน iOS |
| ดูรายละเอียดได้ที่ https://chromium.googlesource.com/chromium/src/+/main/docs/security/autoupgrade-mixed.md |
| |
| นโยบายนี้ใช้เพื่อปิดใช้การอัปเกรดเนื้อหาผสมโดยอัตโนมัติบน iOS เนื่องจากตอนนี้เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายดังกล่าวแล้ว</translation> |
| <translation id="4252522848899331223">อนุญาตให้ผู้ใช้ข้ามคำเตือนของ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="4260027436474745627">การตั้งค่านโยบายหมายความว่าต้นทางแต่ละแห่งที่มีชื่อในรายการที่คั่นด้วยคอมมาจะทำงานในกระบวนการเฉพาะ กระบวนการของต้นทางแต่ละแห่งที่มีชื่อจะได้รับอนุญาตให้มีเอกสารจากต้นทางนั้นและโดเมนย่อยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การระบุ https://a1.example.com/ จะอนุญาต https://a2.a1.example.com/ ในกระบวนการเดียวกัน แต่ไม่อนุญาต https://example.com หรือ https://b.example.com ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 77 คุณจะระบุช่วงต้นทางเพื่อแยกโดยใช้ไวลด์การ์ดได้ด้วย ตัวอย่างเช่น การระบุ https://[*.]corp.example.com จะทำให้ทุกต้นทางภายใต้ https://corp.example.com มีกระบวนการเฉพาะของตนเอง ซึ่งรวมถึง https://corp.example.com, https://a1.corp.example.com และ https://a2.a1.corp.example.com |
| |
| โปรดทราบว่าเว็บไซต์ทั้งหมด (เช่น รูปแบบบวก eTLD+1 อย่าง https://example.com) จะแยกไว้อยู่แล้วโดยค่าเริ่มต้นบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปตามที่ได้ระบุในนโยบาย <ph name="SITE_PER_PROCESS_POLICY_NAME" /> นโยบาย <ph name="ISOLATE_ORIGINS_POLICY_NAME" /> นี้เป็นประโยชน์ในการแยกต้นทางเฉพาะบางแห่งในระดับที่ละเอียดกว่า (เช่น https://a.example.com) |
| |
| นอกจากนี้ โปรดทราบว่าต้นทางที่แยกโดยนโยบายนี้จะสคริปต์ต้นทางอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกันไม่ได้ แต่จะเป็นไปได้หากเอกสาร 2 รายการของเว็บไซต์เดียวกันแก้ไขค่า document.domain ให้ตรงกัน ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบว่าไม่มีการใช้ลักษณะการทำงานไม่ปกตินี้ในต้นทางก่อนที่จะแยก |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิด" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| หมายเหตุ: สำหรับ Android ให้ใช้นโยบาย <ph name="ISOLATE_ORIGINS_ANDROID_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="4261820385751181068">ภาษาในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4263788921751326798">ปิดใช้การรายงานรายละเอียดข้อขัดข้องของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4268586991084547853">เข้ากันกับรายการเว็บไซต์ในโหมดองค์กรของ Microsoft IE/Edge ได้ดีกว่า</translation> |
| <translation id="4269798992490176617">หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" <ph name="CHROME_REMOTE_DESKTOP_PRODUCT_NAME" /> อาจเรียกใช้คำขอ WebAuthn API ที่มาจากเซสชันการท่องเว็บในโฮสต์ระยะไกล |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น |
| |
| โปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้ใช้ได้ในระบบเครือข่ายภายในของ Google เท่านั้น</translation> |
| <translation id="4269859918103560644">ให้ผู้ใช้ตัดสินใจ</translation> |
| <translation id="4274691295133617461">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์และไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ผ่าน File System API การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธการเข้าถึง |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="4275048399551500192">ไม่ต้องแสดงตัวควบคุมสื่อสำหรับเซสชัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่เริ่มต้นโดยอุปกรณ์อื่นๆ</translation> |
| <translation id="4278656834593750050">เปิดเสียงการชาร์จ</translation> |
| <translation id="4282243913059705499">แสดงไอคอน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ในแถบเครื่องมือเสมอ</translation> |
| <translation id="4285674129118156176">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์ใช้ ARC</translation> |
| <translation id="428948795004445932">อัตราที่ใช้ในการสุ่มตัวอย่างและรวบรวมข้อมูลเครือข่าย ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 10 นาที</translation> |
| <translation id="4290231183305601970">ข้อความที่จะแสดงต่อผู้ใช้ใน Chrome เว็บสโตร์หากการติดตั้งถูกบล็อก</translation> |
| <translation id="4293187705196369087">อนุญาตให้เปิดหรือปิดใช้การแจ้งเตือนเมื่อพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อย การตั้งค่านี้มีผลกับผู้ใช้ทุกคนในอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ระบบแสดงการแจ้งเตือนเมื่อพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่แสดงการแจ้งเตือนพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อย |
| |
| ระบบจะเพิกเฉยต่อนโยบายนี้และการแจ้งเตือนจะแสดงเสมอหากอุปกรณ์ไม่มีการจัดการหรือมีผู้ใช้เพียงคนเดียว |
| |
| หากมีบัญชีผู้ใช้หลายบัญชีในอุปกรณ์ที่มีการจัดการ การแจ้งเตือนจะแสดงเฉพาะเมื่อเปิดใช้นโยบายนี้เท่านั้น</translation> |
| <translation id="4293419489636673391">เปิดใช้ไฟล์ของผู้ใช้ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="4294886370621883282">แสดงแป้นพิมพ์บนหน้าจอตามความเหมาะสม</translation> |
| <translation id="4297483555396496700">ผู้ใช้ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเวอร์ชันการเผยแพร่ของอุปกรณ์หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" เท่านั้น หากนโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเวอร์ชัน |
| |
| การตั้งค่า <ph name="CHROME_OS_RELEASE_CHANNEL_POLICY_NAME" /> จะมีผลเฉพาะในกรณีที่ตั้งค่า <ph name="CHROME_OS_RELEASE_CHANNEL_DELEGATED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="4298476374822550051">เปิดใช้ข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมของ Kyber สำหรับ TLS</translation> |
| <translation id="4303167373847512281">อนุญาตให้ใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="4307116964468610577">นโยบายนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของระบบโดยจะชาร์จจนเต็มความจุเพียง 1 ครั้งต่อวัน ส่วนระยะเวลาที่เหลือของวัน แบตเตอรี่จะคงสถานะการชาร์จไว้ในระดับที่ต่ำลงซึ่งเหมาะกับพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า แม้ว่าจะเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟก็ตาม |
| |
| หากตั้งค่า <ph name="DEVICE_ADVANCED_BATTERY_CHARGE_MODE_DAY_CONFIG_POLICY_NAME" /> ไว้ การตั้งค่า <ph name="DEVICE_ADVANCED_BATTERY_CHARGE_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" จะทำให้นโยบายการจัดการพลังงานของโหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูงเปิดอยู่เสมอ (หากอุปกรณ์รองรับ) หากใช้อัลกอริทึมการชาร์จมาตรฐานและเทคนิคอื่นๆ นอกเวลาทำงาน โหมดนี้จะอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้สูงสุด ในเวลาทำงาน ระบบจะใช้การชาร์จด่วน ซึ่งช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น ระบุเวลาที่มีการใช้ระบบมากที่สุดในแต่ละวันด้วยเวลาเริ่มต้นและระยะเวลา |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่ขั้นสูงปิดอยู่เสมอ |
| |
| ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="4309091698378414920">เปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความ</translation> |
| <translation id="4311141497190183490">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้เว็บไซต์ติดตามสถานที่ตั้งจริงของผู้ใช้เป็นสถานะเริ่มต้นได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธการติดตามนี้โดยค่าเริ่มต้น คุณตั้งค่านี้ได้เพื่อถามทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการติดตามสถานที่ตั้งจริงของผู้ใช้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่านโยบาย <ph name="ASK_GEOLOCATION_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="4311195029067684288">เต็ม</translation> |
| <translation id="4311662690937656540">บังคับใช้การเข้าสู่ระบบออนไลน์ในหน้าจอเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="4313767483634435271">ที่อยู่ MAC ของแท่นชาร์จที่กำหนดของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4314538398999793073">ปิดใช้การค้นหา CNAME ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos</translation> |
| <translation id="4320592646346933548">Wi-Fi</translation> |
| <translation id="4322842393287974810">อนุญาตแอปคีออสก์ที่เปิดอัตโนมัติด้วยความล่าช้าเป็น 0 เพื่อควบคุมเวอร์ชันของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4323412353642577604">เปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับการปกป้องเนื้อหา</translation> |
| <translation id="4325690621216251241">เพิ่มปุ่มออกจากระบบลงในถาดระบบ</translation> |
| <translation id="4326070401554882952">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดรายการ URL สำหรับเข้าสู่ระบบขององค์กร (โปรโตคอล HTTP และ HTTPS เท่านั้น) บริการปกป้องรหัสผ่านจะบันทึกแฮชที่ใช้ Salt ของรหัสผ่านใน URL เหล่านี้และนำไปใช้เพื่อตรวจหาการใช้รหัสผ่านซ้ำ โปรดตรวจสอบว่าหน้าลงชื่อเข้าใช้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ (https://www.chromium.org/developers/design-documents/create-amazing-password-forms) เพื่อให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> บันทึกแฮชที่ใช้ Salt ของรหัสผ่านได้อย่างถูกต้อง |
| |
| การปิดการตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้บริการปกป้องรหัสผ่านบันทึกแฮชที่ใช้ Salt ของรหัสผ่านใน https://accounts.google.com เท่านั้น |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="4329095223358818804">อนุญาตให้ฟีเจอร์คำตอบด่วนเข้าถึงเนื้อหาที่เลือก</translation> |
| <translation id="4330908525441222205">ใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของ AppCache</translation> |
| <translation id="4331357743227845302">นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบกำหนดค่าบริการบลูทูธที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับบริการบลูทูธที่ระบุเท่านั้น โดยมีข้อยกเว้นเมื่อรายการนั้นว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่าอนุญาตให้ใช้ได้ทุกบริการ UUID ที่ Bluetooth SIG สำรองไว้อาจแสดงเป็น <ph name="BLUETOOTH_RESERVED_UUID_WITH_0X" /> หรือ <ph name="BLUETOOTH_RESERVED_UUID_WITHOUT_0X" /> UUID ที่กำหนดเองอาจแสดงเป็น <ph name="BLUETOOTH_CUSTOM_UUID" /> UUID ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ การไม่ตั้งค่านโยบายนี้ทำให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับบริการบลูทูธใดก็ได้</translation> |
| <translation id="4332177773549877617">บันทึกเหตุการณ์ของการติดตั้งแอป Android</translation> |
| <translation id="4333940819293342439">อัตราการรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานแอปเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="4340121900958123942">ตั้งค่าระดับความพร้อมให้บริการระบบตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| ซึ่งเป็นการควบคุมอีกชั้นหนึ่งโดยอยู่ใต้ชั้นสิทธิ์ของแอปและเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="GLS_BLOCKED" /> หรือ <ph name="GLS_ONLY_ALLOWED_FOR_SYSTEM" /> แอปหรือเว็บไซต์ทั้งหมดจะไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ ไม่ว่าจะมีสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งใดก็ตาม แต่หากตั้งค่าเป็น <ph name="GLS_ALLOWED" /> แอปและเว็บไซต์จะได้รับตำแหน่งแยกกันหากมีสิทธิ์ |
| |
| ผู้ใช้จะลบล้างการเลือกของผู้ดูแลระบบไม่ได้ การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค นั่นคือผู้ใช้จะแก้ไขการตั้งค่าตำแหน่งของระบบได้อย่างอิสระ และในกรณีที่ค่าเริ่มต้นเป็น <ph name="GLS_ALLOWED" /> |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ทำให้มีการเลิกใช้งานนโยบาย <ph name="ARC_GLS_POLICY_NAME" /> นอกจากนี้ เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="DEFAULT_GEO_SETTING_POLICY_NAME" /> จะไม่มีผลกับค่ากำหนดตำแหน่งของ <ph name="ANDROID_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> อีกต่อไป</translation> |
| <translation id="4341199399451274159">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENCODINGS_POLICY_NAME" /> จะระบุการเข้ารหัสอักขระที่ผู้ให้บริการค้นหารองรับ การเข้ารหัสคือชื่อ Code Page เช่น UTF-8, GB2312 และ ISO-8859-1 โดยจะมีการใช้งานตามลำดับที่ระบุ |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENCODINGS_POLICY_NAME" /> จะทำให้ระบบใช้งาน UTF-8</translation> |
| <translation id="4343382787226139147">ระบุใบรับรองไคลเอ็นต์ที่ต้องลงทะเบียนโดยใช้โปรโตคอลการจัดการอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4347908978527632940">หากเป็น True และผู้ใช้เป็นผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล แอป Android อื่นๆ จะสามารถสืบค้นข้อจำกัดด้านเว็บของผู้ใช้คนดังกล่าวผ่านผู้ให้บริการเนื้อหาได้ |
| |
| หากเป็น False หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ให้บริการเนื้อหาจะไม่แสดงข้อมูลใดๆ</translation> |
| <translation id="435395045087992163">อย่าล็อกอุปกรณ์เมื่อมีการระงับการใช้งานหรือพับจอ</translation> |
| <translation id="4354792057099570728">ปิดใช้การตั้งค่าการวัดผลโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4357587374229381015">ระบุชื่อพารามิเตอร์ของ URL ที่จะใช้ในหน้าเข้าสู่ระบบ SAML IdP เพื่อป้อนข้อความอัตโนมัติในช่องชื่อผู้ใช้ |
| |
| ระบบจะใช้อีเมลของผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับโปรไฟล์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" เป็นค่าสำหรับพารามิเตอร์ของ URL ดังนั้นจึงควรปิดใช้การตั้งค่านี้หากผู้ใช้ต้องการใช้อีเมลอื่นกับ SAML IdP |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะต้องป้อนชื่อผู้ใช้ในหน้าเข้าสู่ระบบ SAML IdP ด้วยตนเอง |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลกับการตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้และหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="4359886841380101831">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการสตริงหมายความว่า ระบบจะส่งแต่ละสตริงไปยังเบราว์เซอร์สำรองเป็นพารามิเตอร์บรรทัดคำสั่งที่แยกจากกัน ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> พารามิเตอร์ต่างๆ จะรวมกันโดยใช้การเว้นวรรค ส่วนใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> และ <ph name="LINUX_OS_NAME" /> พารามิเตอร์หนึ่งๆ อาจมีการเว้นวรรคได้ และระบบจะยังถือว่าเป็นพารามิเตอร์เดียว |
| |
| หากพารามิเตอร์มี <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ก็จะมีการแทนที่ <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ด้วย URL ของหน้าเว็บที่จะเปิด หากไม่มีพารามิเตอร์ใดที่มี <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ระบบจะใส่ URL ดังกล่าวต่อท้ายบรรทัดคำสั่ง |
| |
| ระบบจะขยายตัวแปรสภาพแวดล้อม โดยใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> จะแทนที่ <ph name="ENV_VARIABLE_WIN_EXAMPLE" /> ด้วยค่าตัวแปรสภาพแวดล้อม <ph name="ENV_VARIABLE_VALUE" /> โดยใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> และ <ph name="LINUX_OS_NAME" /> จะแทนที่ <ph name="ENV_VARIABLE_UNIX_EXAMPLE" /> ด้วยค่าตัวแปรสภาพแวดล้อม <ph name="ENV_VARIABLE_VALUE" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่า เฉพาะ URL เท่านั้นที่จะส่งผ่านในแบบพารามิเตอร์บรรทัดคำสั่ง</translation> |
| <translation id="4363057787588706121">อนุญาตให้รวมนโยบายรายการจากแหล่งที่มาหลายแห่ง</translation> |
| <translation id="4363101430102811068">เปิดใช้นโยบายการตรวจหาการรั่วไหลของข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ป้อน</translation> |
| <translation id="436581050240847513">รายงานอินเทอร์เฟซเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4368848648036709662">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วในรุ่น M88 และ Chrome ไม่รองรับ Flash อีกต่อไป การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เรียกใช้ปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ไม่รองรับรูปแบบที่มีไวลด์การ์ด "*" และ "[*.]" ในโฮสต์อีกแล้วตั้งแต่รุ่น M85</translation> |
| <translation id="4369307906396795087">สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงาน (Web Worker, Service Worker ฯลฯ) จะใช้การตรวจสอบประเภท MIME แบบ Lax สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประเภท MIME เดิม เช่น <ph name="MIMETYPE_TEXT_ASCII" /> จะใช้งานได้</translation> |
| <translation id="4370937370030117032">ไม่อนุญาตให้ส่งชื่อผู้ใช้และชื่อไฟล์ไปยังเครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมระบบ</translation> |
| <translation id="4372704773119750918">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้องค์กรเป็นส่วนหนึ่งของหลายโปรไฟล์ (หลักหรือรอง)</translation> |
| <translation id="4373332965635821723">เปิดใช้ทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="4377377599658208627">อนุญาตให้เว็บไซต์เลื่อนไปยังส่วนข้อความที่เฉพาะเจาะจงผ่าน URL</translation> |
| <translation id="4377599627073874279">อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงภาพทั้งหมด</translation> |
| <translation id="437791893267799639">ไม่ได้ตั้งนโยบาย ไม่อนุญาตให้ย้ายข้อมูลและใช้ ARC</translation> |
| <translation id="4380159792986204036">อนุญาตให้คีออสก์เว็บเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์มากกว่า 1 หน้าต่างในหน้าจอใดก็ได้</translation> |
| <translation id="4381227367939912539">ปิดใช้เกมไดโนเสาร์ไข่อีสเตอร์</translation> |
| <translation id="4382413175336720282">ปิดใช้การตรวจสอบ URL แบบเรียลไทม์อยู่</translation> |
| <translation id="4384480363454039240">เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ผู้ใช้จะติดตามพัสดุของตนเองใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ผ่านหน้าแท็บใหม่ได้ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะติดตามพัสดุใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ผ่านหน้าแท็บใหม่ไม่ได้</translation> |
| <translation id="4387741272680827493">การตั้งค่านโยบายจะเป็นการระบุรายชื่อโฮสต์ที่ไม่ต้องมีการอัปเกรด HSTS แบบโหลดล่วงหน้าจาก http เป็น https |
| |
| นโยบายนี้อนุญาตเฉพาะชื่อโฮสต์แบบป้ายกำกับเดี่ยวเท่านั้น และมีผลเฉพาะกับรายการที่โหลด HSTS ไว้ล่วงหน้าแบบ "คงที่" (เช่น <ph name="EXAMPLE_HSTS_PRELOAD_TLDS" />) นโยบายนี้ไม่ได้ป้องกันการอัปเกรด HSTS สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ขอการอัปเกรด HSTS แบบ "ไดนามิก" โดยใช้ส่วนหัวการตอบกลับ <ph name="HSTS_HEADER_NAME" /> |
| |
| ชื่อโฮสต์ที่ระบุไว้ต้องกำหนดเป็น Canonical ซึ่งหมายความว่าต้องแปลง IDN ทั้งหมดเป็นรูปแบบ A-label และตัวอักษร ASCII ทั้งหมดต้องเป็นตัวพิมพ์เล็ก นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับชื่อโฮสต์แบบป้ายกำกับเดี่ยวบางชื่อเท่านั้น ไม่ใช่กับโดเมนย่อยของชื่อเหล่านั้น</translation> |
| <translation id="4389073105055031853">อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการใบรับรองทั้งหมด</translation> |
| <translation id="4389091865841123886">กำหนดค่าการยืนยันระยะไกลกับกลไก TPM</translation> |
| <translation id="4389113579547582722">อนุญาตให้แสดงโปรโมชันการให้คะแนนของ App Store</translation> |
| <translation id="4395619678972620537">หากเปิดใช้ การเชื่อมต่อแบบเพียร์ WebRTC สามารถดาวน์เกรดเป็นโปรโตคอล TLS/DTLS เวอร์ชันที่ล้าสมัย (DTLS 1.0, TLS 1.0 และ TLS 1.1) |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้เวอร์ชัน TLS/DTLS เหล่านี้ |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M121 ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="439661169333921592">ปิดใช้การไฮไลต์โฟกัสแป้นพิมพ์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="4397045637922200204">ปิดใช้งานการกู้คืนบัญชี</translation> |
| <translation id="4397464099112037398">การตั้งค่าเริ่มต้นของสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="4401196752827224189">ระบบจะนำ WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัยออกเริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน M110 นโยบายนี้จะเปิดใช้ API อีกครั้ง |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัยจะพร้อมใช้งาน |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัยจะยังคงใช้งานได้จนถึงเวอร์ชัน M109 จากนั้นจะใช้งานไม่ได้ตั้งแต่เวอร์ชัน M110 |
| เราได้นำนโยบายนี้ออกในเวอร์ชัน M112</translation> |
| <translation id="4402887080007986374">เวอร์ชันที่ถูกต้องของข้อกำหนดในการให้บริการของ Edu Coexistence</translation> |
| <translation id="4408428864159735559">รายการพื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้า</translation> |
| <translation id="4410236409016356088">เปิดใช้การควบคุมปริมาณแบนด์วิดท์ของเครือข่าย</translation> |
| <translation id="4411734231900934213">ความต่างที่อนุญาตระหว่างนาฬิกาในอุปกรณ์ของบุตรหลานกับของผู้ปกครอง (เป็นวินาที)</translation> |
| <translation id="441217499641439905">ปิดใช้ Google ไดรฟ์ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือในแอป "Files" ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4412885120239670573">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะปิดโปรแกรมอ่าน PDF ภายในของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> รวมถึงถือว่าไฟล์ PDF เป็นไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา และอนุญาตให้ผู้ใช้เปิด PDF ด้วยแอปพลิเคชันเริ่มต้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าหากผู้ใช้ไม่ได้ปิดปลั๊กอิน PDF ก็จะมีการเปิดไฟล์ PDF |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเปิด PDF ภายนอกหรือไม่</translation> |
| <translation id="4415603335307944578">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่า เบราว์เซอร์จะแสดงหน้ายินดีต้อนรับอีกครั้งเมื่อเรียกใช้เบราว์เซอร์ครั้งแรกหลังการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" เบราว์เซอร์จะไม่แสดงหน้ายินดีต้อนรับอีกครั้งเมื่อเรียกใช้เบราว์เซอร์ครั้งแรกหลังการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ</translation> |
| <translation id="441686537793821907">บล็อกการติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก</translation> |
| <translation id="4423597592074154136">ระบุการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="4424004842303301809">ปิดใช้การรายงานเหตุการณ์การป้องกันข้อมูลรั่วไหล</translation> |
| <translation id="4426601693403743089">ปิดการลองใช้ Screencast สำหรับผู้ใช้ Family Link</translation> |
| <translation id="4426986640594727372">อนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของระบบ</translation> |
| <translation id="4427173305799125784">โปรแกรมอ่าน PDF ใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ไม่ได้</translation> |
| <translation id="4432762137771104529">เปิดใช้การรายงานแบบขยายของ Safe Browsing</translation> |
| <translation id="4434531680131327140">กำหนดค่าอายุการใช้งานของข้อมูลการท่องเว็บสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบกำหนดค่า (ตามประเภทข้อมูล) เมื่อเบราว์เซอร์ลบข้อมูล ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้าที่ทำงานกับข้อมูลละเอียดอ่อนของลูกค้า |
| |
| ประเภทข้อมูลที่มี ได้แก่ <ph name="DATA_TYPE_BROWSING_HISTORY" />, <ph name="DATA_TYPE_DOWNLOAD_HISTORY" />, <ph name="DATA_TYPE_COOKIES_AND_OTHER_SITE_DATA" />, <ph name="DATA_TYPE_CACHED_IMAGES_AND_FILES" />, <ph name="DATA_TYPE_PASSWORD" />, <ph name="DATA_TYPE_AUTOFILL" />, <ph name="DATA_TYPE_SITE_SETTINGS" /> และ <ph name="DATA_TYPE_HOSTED_APP_DATA" /> ไม่รองรับ <ph name="DATA_TYPE_DOWNLOAD_HISTORY" /> และ <ph name="DATA_TYPE_HOSTED_APP_DATA" /> ใน Android |
| |
| เบราว์เซอร์จะนำข้อมูลประเภทที่เลือกไว้ซึ่งมีอายุนานกว่า <ph name="TIME_TO_LIVE_IN_HOURS" /> ชั่วโมงออกโดยอัตโนมัติ ค่าต่ำสุดที่ตั้งค่าได้คือ 1 ชั่วโมง |
| |
| การลบข้อมูลที่หมดอายุจะเกิดขึ้นหลังจากที่เบราว์เซอร์เริ่มต้นไปแล้ว 15 วินาที จากนั้นจะเกิดขึ้นทุก 30 นาทีขณะที่เบราว์เซอร์ทำงาน |
| |
| นโยบายนี้กำหนดให้ตั้งค่านโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "จริง" จนถึง Chrome 114 ตั้งแต่ Chrome 115 เป็นต้นไป การตั้งค่านโยบายนี้จะปิดใช้การซิงค์สำหรับประเภทข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้ปิดใช้ "<ph name="CHROME_SYNC_NAME" />" ไว้โดยการตั้งค่านโยบาย <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="BROWSER_SIGNIN_POLICY_NAME" /> ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="443454694385851356">แบบเดิม (ไม่ปลอดภัย)</translation> |
| <translation id="4435032708588431506">อนุญาต QUIC</translation> |
| <translation id="443665821428652897">ล้างข้อมูลไซต์เมื่อปิดเบราว์เซอร์ (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="4436941175475497595">ปิดใช้การแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="4439336120285389675">ระบุรายชื่อฟีเจอร์ของเว็บแพลตฟอร์มที่เลิกใช้แล้วเพื่อเปิดใช้ใหม่ชั่วคราว |
| |
| นโยบายนี้จะทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ของเว็บแพลตฟอร์มซึ่งเลิกใช้ไปแล้วได้ใหม่อีกครั้งครั้งในเวลาจำกัด ฟีเจอร์เหล่านี้จะระบุโดยสตริงแท็ก ซึ่งฟีเจอร์ที่สอดคล้องกับแท็กที่มีอยู่ในรายการที่นโยบายนี้กำหนดจะถูกเปิดใช้อีกครั้ง |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ ไม่มีข้อมูลในรายการ หรือไม่ตรงกับสตริงแท็กที่สนับสนุนใดๆ ฟีเจอร์ของเว็บแพลตฟอร์มที่เลิกใช้แล้วทั้งหมดจะยังถูกปิดใช้ |
| |
| แม้ตัวนโยบายจะได้รับการสนับสนุนบนแพลตฟอร์มข้างต้น แต่ฟีเจอร์ที่นโยบายเปิดใช้อาจใช้ได้บนแพลตฟอร์มไม่กี่แห่ง ฟีเจอร์เว็บแพลตฟอร์มที่เลิกใช้แล้วบางรายการอาจไม่สามารถเปิดใช้ได้อีก เฉพาะฟีเจอร์ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนด้านล่างเท่านั้นที่สามารถเปิดใช้ได้อีกภายในช่วงเวลาจำกัด ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามฟีเจอร์ รูปแบบของสตริงแท็กทั่วไปคือ [DeprecatedFeatureName]_EffectiveUntil[yyyymmdd] ตามข้อมูลอ้างอิง คุณสามารถค้นหาเจตนาในการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์เว็บแพลตฟอร์มได้ที่ https://bit.ly/blinkintents |
| </translation> |
| <translation id="4443711908766051441">เปิดใช้เกมไดโนเสาร์ไข่อีสเตอร์</translation> |
| <translation id="4444682330960613191">แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ที่มีการจัดการเท่านั้น</translation> |
| <translation id="4445728642576791607">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตั้งค่าการวัดผลโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="4447668084338250480">ลักษณะการเปลี่ยนเส้นทางอินทราเน็ต</translation> |
| <translation id="4449469846627734399">กำหนดค่าวันที่เปิดใช้พาวเวอร์พีคชิฟต์</translation> |
| <translation id="4449545651113180484">หมุนหน้าจอตามเข็มนาฬิกา 270 องศา</translation> |
| <translation id="4452653762766030431">ควบคุมพื้นที่แชร์ไฟล์ในเครือข่ายเพื่อความพร้อมใช้งานของ ChromeOS</translation> |
| <translation id="445270821089253489">ควบคุมประเภทข้อมูลผู้ใช้และข้อมูลอุปกรณ์ที่จะรายงาน</translation> |
| <translation id="4453913621209182880">อนุญาตเฉพาะการพิมพ์ที่มีกราฟิกพื้นหลังเท่านั้น</translation> |
| <translation id="4454820008017317557">แสดงไอคอนแถบเครื่องมือของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="445505634382262792">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์และไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธการเข้าถึง |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="4455258118946528063">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูลส่วนขยายและปลั๊กอินหรือไม่ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูลส่วนขยายและปลั๊กอิน |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูลส่วนขยายและปลั๊กอิน |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4457113781439375078">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานตำแหน่งเป็นระยะๆ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานตำแหน่ง</translation> |
| <translation id="445993724309045747">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดค่า URL หน้าแท็บใหม่เริ่มต้นและป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงหน้าดังกล่าว |
| |
| หน้าแท็บใหม่จะเปิดขึ้นโดยมีแท็บและหน้าต่างใหม่ |
| |
| นโยบายนี้ไม่ได้กำหนดว่าหน้าใดจะเปิดขึ้นมาเมื่อเริ่มต้นใช้งาน นโยบาย <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_POLICY_NAME" /> จะเป็นตัวควบคุมหน้าเหล่านั้น นโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อหน้าแรก หากตั้งค่าหน้าแรกให้เปิดหน้าแท็บใหม่ และจะส่งผลกระทบต่อหน้าเริ่มต้นใช้งานเช่นกัน หากตั้งค่าให้เปิดหน้าแท็บใหม่ |
| |
| แนวทางปฏิบัติแนะนำคือการระบุ URL ที่กำหนดหน้า Canonical แบบเต็ม หาก URL ไม่ได้กำหนดหน้า Canonical แบบเต็ม <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ https:// เป็นค่าเริ่มต้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือปล่อยว่างไว้จะทำให้ระบบใช้หน้าแท็บใหม่เริ่มต้น |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="4461400898496433231">อย่าลบล้างการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงของ IPv6 ค้นหาระเบียน AAAA เท่านั้นสำหรับการแปลงชื่อโฮสต์เมื่อโฮสต์ IPv6 ส่วนกลางเข้าถึงอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="4463675333222095358">เปิดใช้การแปลงหน่วยของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="4464365009416584564">ปิดใช้<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /></translation> |
| <translation id="4467952432486360968">ปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="4472740647327683596">ความกว้างของหน้าโดยหน่วยเป็นไมโครเมตร</translation> |
| <translation id="4474167089968829729">เปิดการบันทึกรหัสผ่านไปยังโปรแกรมจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="4478248026668918517">บล็อกการตรวจหาขอบเขตนโยบาย</translation> |
| <translation id="4479671363221255277">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์หรือไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ผ่าน File System API ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_SYSTEM_READ_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_SYSTEM_READ_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4480694116501920047">บังคับใช้ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย</translation> |
| <translation id="4481202456143946404">เวอร์ชันที่ถูกต้องของข้อกำหนดในการให้บริการซึ่งมาจาก Google3 CL ซึ่งเปิดตัวข้อกำหนดเวอร์ชันใหม่</translation> |
| <translation id="4481952213163895432">ปิดใช้คำสั่งให้ดำเนินการของ Google Assistant</translation> |
| <translation id="4482784169143060077">เปิดใช้การอัปเกรด HTTPS อัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="4483120730995943109">JavaScript setTimeout() ที่มีระยะหมดเวลาเป็น 0 มิลลิวินาทีจะไม่ถูกปรับเป็น 1 มิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="4483649828988077221">ปิดใช้การอัปเดตอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="4483738129334574255">ปิดใช้เกมไดโนเสาร์ที่เป็น Easter Egg ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ลงทะเบียนไว้ และเปิดใช้ในสถานการณ์อื่น</translation> |
| <translation id="4484515651939984695">ระบุระยะเวลา (เป็นวินาที) ซึ่งอุปกรณ์แคสต์ที่เลือกไว้ด้วยรหัสการเข้าถึงหรือคิวอาร์โค้ดจะคงอยู่ในรายชื่ออุปกรณ์แคสต์ในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="4485425108474077672">กำหนดค่า URL หน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="4490420545181481759">ใบรับรอง X.509 อาจเข้ารหัสข้อจํากัด เช่น ข้อจํากัดชื่อ (Name Constraints) ในส่วนขยายในใบรับรอง RFC 5280 ระบุว่าการบังคับใช้ข้อจํากัดดังกล่าวกับใบรับรองของ Trust Anchor นั้นจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 112 เป็นต้นไป ระบบจะบังคับใช้ข้อจํากัดดังกล่าวในใบรับรองที่โหลดจากที่เก็บใบรับรองของแพลตฟอร์ม |
| |
| นโยบายนี้เป็นการเลือกไม่ใช้ชั่วคราวในกรณีที่องค์กรพบปัญหาเกี่ยวกับข้อจํากัดที่เข้ารหัสในรูทส่วนตัว ในกรณีดังกล่าว ระบบอาจใช้นโยบายนี้เพื่อปิดการบังคับใช้ข้อจํากัดไว้ชั่วคราวขณะกำลังแก้ไขปัญหาใบรับรอง |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นเปิดใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะบังคับใช้ข้อจํากัดที่เข้ารหัสไว้ใน Trust Anchor ที่โหลดจาก Trust Store ของแพลตฟอร์ม |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่บังคับใช้ข้อจํากัดที่เข้ารหัสไว้ใน Trust Anchor ที่โหลดจาก Trust Store ของแพลตฟอร์ม |
| |
| ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 112 นโยบายนี้จะไม่มีผลหากปิดใช้นโยบาย <ph name="CHROME_ROOT_STORE_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| เรามีแผนจะนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 118</translation> |
| <translation id="4491607814095953976">เลือกว่าจะปิดใช้การตั้งค่าการวัดผลโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="4492287494009043413">ปิดใช้งานการจับภาพหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4494132853995232608">Wilco DTC</translation> |
| <translation id="449419757874646879">หากปิดใช้นโยบายนี้ก็จะไม่สามารถเริ่มเซสชันการสนับสนุนจากระยะไกลโดยใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบได้ |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อสถานการณ์การเข้าถึงระยะไกล |
| |
| นโยบายนี้ป้องกันไม่ให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่มีการจัดการ |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากเปิดใช้ ปล่อยว่างไว้ หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="449423975179525290">กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="449561952193478261">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีน้ำเงิน</translation> |
| <translation id="449784980858429908">ให้สิทธิ์เว็บไซต์โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับพอร์ตอนุกรมทุกพอร์ต</translation> |
| <translation id="4498626728750662965">โปรแกรมอ่าน PDF ใช้ตัวแสดงผล Skia</translation> |
| <translation id="4499376951770369935">การอัปเดต Chrome OS ได้รับการตั้งค่าเป็นเวอร์ชันที่ระบุไว้ในไฟล์ Manifest ของแอปคีออสก์</translation> |
| <translation id="450080746522343150">บล็อกการดาวน์โหลดทั้งหมด</translation> |
| <translation id="4501388411278568771">การอัปเกรด HTTPS อาจใช้ได้โดยขึ้นอยู่กับสถานะการเปิดตัวฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="45036050223225148">ปิดใช้การทดสอบ ClientHello ที่เข้ารหัสตาม TLS</translation> |
| <translation id="4503935079903510542">อิมเมจดิสก์ UEFI ที่บูทได้ซึ่งใช้ในการติดตั้ง VM บนอุปกรณ์ x86_64</translation> |
| <translation id="4508728400492074981">ควบคุมนโยบายสำหรับฟีเจอร์ชุดบุคคลที่หนึ่ง</translation> |
| <translation id="4510131075424939993">ระบุค่า Salt ที่จะใช้ใน <ph name="DOH_TEMPLATES_WITH_IDENTIFIERS_POLICY_NAME" /> เมื่อประเมินข้อมูลประจำตัว</translation> |
| <translation id="4510923771103268849">ผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าถึงรากของคอนเทนเนอร์ Crostini ได้</translation> |
| <translation id="4512407512989846472">อนุญาตให้บล็อกการคัดลอกไปยังคลิปบอร์ดใน URL ที่ระบุ</translation> |
| <translation id="4513691822411041977">ไม่บังคับใช้ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยใน Google Search หรือโหมดที่จำกัดของ YouTube</translation> |
| <translation id="4515404363392014383">เปิดใช้ Safe Browsing สำหรับแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้</translation> |
| <translation id="4518251772179446575">ถามเมื่อไซต์ต้องการติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4521193243799782295">ในระหว่างการเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตรวจสอบสิทธิ์กับเซิร์ฟเวอร์ (แบบออนไลน์) หรือใช้รหัสผ่านที่แคชไว้ (แบบออฟไลน์) ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น -1 นโยบายนี้จะไม่บังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์และจะอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออฟไลน์ได้จนกว่าจะมีเหตุผลอื่นที่นโยบายนี้บังคับใช้การเข้าสู่ระบบแบบออนไลน์ หากตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะต้องเข้าสู่ระบบแบบออนไลน์เสมอ เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่น จะเป็นการระบุระยะเวลานับตั้งแต่เวลาที่ตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ครั้งสุดท้ายถึงเวลาที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์อีกครั้งในการลงชื่อเข้าใช้ครั้งถัดไป |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้การเข้าสู่ระบบแบบออฟไลน์ |
| |
| นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ด้วย GAIA โดยไม่มี SAML เท่านั้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นวัน</translation> |
| <translation id="4525328580251166229">ควบคุมนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อย Bruschetta</translation> |
| <translation id="453031441196755904">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="4531706050939927436">สามารถบังคับการติดตั้งแอป Android ได้จากคอนโซล Google Admin ผ่าน Google Play แอปดังกล่าวไม่ได้ใช้นโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4534500438517478692">ชื่อการจำกัด Android:</translation> |
| <translation id="4541530620466526913">บัญชีภายในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4542255783284620926">บล็อกการเพิ่มบัญชีที่จัดการในฐานะบัญชีรองบน Chrome OS (ในเซสชัน)</translation> |
| <translation id="4543502256674577024">การตั้งค่าการอัปเดตอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="454585952814397564">ใช้ลำดับความสำคัญปกติกับกระบวนการของเสียง</translation> |
| <translation id="4546641664653711266">นโยบายนี้เป็นนโยบายชั่วคราวซึ่งจะถูกนำออกใน M127 |
| นโยบายนี้ควบคุมระดับการมองเห็นการติดป้ายองค์กรในโปรไฟล์ที่มีการจัดการ ซึ่งประกอบด้วยป้ายกำกับการจัดการเฉพาะบัญชีที่แสดงในเมนูโปรไฟล์ ป้ายกำกับใหม่ที่เชื่อมโยงกับโปรไฟล์ที่จัดการโดยองค์กรของคุณ ซึ่งแสดงในแถบเครื่องมือและควบคุมด้วยนโยบาย <ph name="PROFILE_LABEL_POLICY_NAME" /> โดยเป็นโลโก้องค์กรที่แสดงในเมนูโปรไฟล์ข้างรูปโปรไฟล์ และควบคุมโดยนโยบาย <ph name="ENTERPRISE_LOGO_URL_POLICY_NAME" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ซ่อนการติดป้ายองค์กรทั้งหมด (ค่า 0)" จะซ่อนการติดป้ายทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงนโยบายที่ควบคุมแต่ละคอมโพเนนต์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการเท่านั้น (ค่า 1)" จะแสดงการติดป้ายทั้งหมดหากผู้ใช้จากองค์กรใช้โปรไฟล์ที่จัดการในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ทุกเครื่อง (ค่า 2)" จะแสดงการติดป้ายทั้งหมดหากผู้ใช้จากองค์กรใช้โปรไฟล์ที่จัดการในอุปกรณ์ใดก็ตาม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ที่มีการจัดการเท่านั้น (ค่า 3)" จะแสดงการติดป้ายทั้งหมดหากผู้ใช้จากองค์กรใช้โปรไฟล์ที่จัดการในอุปกรณ์ที่มีการจัดการ |
| |
| ระบบจะถือว่าอุปกรณ์มีการจัดการหากใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันสำหรับองค์กร หรือมีการกำหนดนโยบายที่ระดับเครื่องและส่งผลต่อเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="4548555985107150628">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมความพร้อมใช้งานของปลั๊กอิน Flash และใช้ <ph name="ALWAYS_OPEN_PDF_EXTERNALLY_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมว่าควรใช้โปรแกรมดู PDF ที่ผสานรวมในการเปิดไฟล์ PDF หรือไม่ |
| |
| ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| ใช้อักขระไวลด์การ์ด "*" และ "?" เพื่อจับคู่กับอักขระต่างๆ ที่เรียงกันอย่างอิสระได้ '*' จะจับคู่กับอักขระกี่ตัวก็ได้ ส่วน "?" จะระบุอักขระตัวเดียวซึ่งจะมีหรือไม่ก็ได้ หรือจับคู่กับอักขระ 0 หรือ 1 ตัวนั่นเอง อักขระหลีกคือ "\" ดังนั้นในกรณีที่ต้องการจับคู่กับอักขระ "*", "?" หรือ "\" จริงๆ ก็วาง "\" ไว้ข้างหน้าอักขระดังกล่าวได้ |
| |
| รายการปลั๊กอินที่ระบุจะเปิดใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เสมอหากมีการติดตั้งเอาไว้ โดยจะทำเครื่องหมายว่าปลั๊กอินเป็นเปิดใช้อยู่ใน "about:plugins" และผู้ใช้จะปิดใช้ไม่ได้ |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้จะลบล้างทั้ง DisabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะปิดใช้ปลั๊กอินใดก็ตามที่ติดตั้งไว้ในระบบได้</translation> |
| <translation id="4549695018986780856">เปิดใช้ไฟล์ Manifest V2 อยู่</translation> |
| <translation id="4552929684628662264">Direct Sockets API ช่วยให้สื่อสารกับเอนด์พอยต์ที่กำหนดเองได้โดยใช้ TCP และ UDP |
| โปรดดูรายละเอียดที่ https://github.com/WICG/direct-sockets |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุรูปแบบ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่บล็อกไม่ให้ใช้ DirectSockets |
| ซึ่งอาจรวมถึงแอป Chrome, Isolated Web App และเว็บคีออสก์ โดย API จะใช้ไม่ได้ในเว็บแบบเปิด |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_DIRECT_SOCKETS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="DIRECT_SOCKETS_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4554651132977135445">โหมดประมวลผล Loopback ของนโยบายด้านผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4554991346503872538">ไม่ต้องเสนอคำแปล</translation> |
| <translation id="4555850956567117258">เปิดใช้งานการยืนยันระยะไกลสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4557134566541205630">URL หน้าแท็บใหม่ของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4558166110367609724">ข้ามข้อกำหนดในการให้บริการและโหลดเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="4559846397119102037">อนุญาตให้ใช้งาน <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4561560385824323005">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเลย์เอาต์เดสก์ท็อปที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าสำหรับโหลด</translation> |
| <translation id="4561940244682063697">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์แจ้งให้ผู้ใช้แชร์สตรีมวิดีโอของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4562165737444703281">อนุญาตให้ผู้ใช้ [เปิดใช้/กำหนดค่า] การส่งต่อพอร์ต Crostini</translation> |
| <translation id="456450545863578630">เปิดใช้การโอนไฟล์ในการเชื่อมต่อเพื่อรับการสนับสนุนจากระยะไกลโดยผู้ดูแลระบบขององค์กร</translation> |
| <translation id="4567137030726189378">อนุญาตการใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="4570859815763368584">เลิกใช้งานไปแล้วใน M68 โปรดใช้ DefaultPopupsSetting แทน |
| |
| ดูคำอธิบายฉบับเต็มได้ที่ https://www.chromestatus.com/feature/5675755719622656 |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ เว็บไซต์จะมีสิทธิ์นำทางและเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่ไปพร้อมกันได้ |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เว็บไซต์จะไม่มีสิทธิ์นำทางและเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่ไปพร้อมกัน</translation> |
| <translation id="4572577129745420844">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Kerberos</translation> |
| <translation id="457430673056611745">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> Enterprise OnPrint</translation> |
| <translation id="4576760454200781316">เมื่อเปิดใช้ ฟีเจอร์ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะทำให้ตัวจับเวลา JavaScript ในแท็บเบื้องหลังถูกควบคุมและรวมเป็นหนึ่งมากเกินไป ซึ่งมีผลให้ทำงานได้เพียงนาทีละ 1 ครั้งหลังจากที่หน้าอยู่ในเบื้องหลังเป็นเวลา 5 นาทีขึ้นไป |
| |
| ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่เป็นไปตามมาตรฐานของเว็บ แต่อาจทำให้บางเว็บไซต์ทำงานได้ไม่ถูกต้องโดยทำให้การทำงานบางอย่างล่าช้าได้ถึง 1 นาที แต่เมื่อเปิดใช้ จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่และ CPU ได้อย่างมาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/30b1XR4 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะบังคับให้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้และผู้ใช้จะลบล้างการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะบังคับให้ปิดใช้ฟีเจอร์นี้และผู้ใช้จะลบล้างการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ฟีเจอร์จะถูกควบคุมโดยตรรกะภายในตัวฟีเจอร์เอง ซึ่งผู้ใช้จะกำหนดค่าด้วยตนเองได้ |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้มีผลตามการประมวลผลของโหมดแสดงภาพ โดยจะบังคับใช้ค่าล่าสุดในการตั้งค่านโยบายเมื่อเริ่มการประมวลผลของโหมดแสดงภาพ คุณต้องรีสตาร์ทโดยสมบูรณ์เพื่อให้แน่ใจว่าทุกแท็บที่โหลดไว้จะได้รับการตั้งค่านโยบายที่สอดคล้องกัน การประมวลผลต่างๆ ทำงานโดยใช้ค่าที่ต่างกันของนโยบายนี้ได้โดยไม่มีปัญหา |
| </translation> |
| <translation id="4578265298946081589">ไม่ต้องรีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="4581507927311097234">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนปิดหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4582338216073557489">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ไม่มี" ทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ขนาดแคชเริ่มต้นในการจัดเก็บไฟล์ที่แคชไว้ในดิสก์ โดยที่ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ขนาดแคชที่คุณระบุไว้ ไม่ว่าผู้ใช้จะระบุการตั้งค่าสถานะ --disk-cache-size หรือไม่ก็ตาม (ระบบจะปัดเศษค่าที่ต่ำกว่า 2-3 เมกะไบต์) |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ขนาดเริ่มต้น ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวได้โดยใช้การตั้งค่าสถานะ --disk-cache-size |
| |
| หมายเหตุ: ค่าที่ระบุในนโยบายนี้จะใช้เป็นคำแนะนำสำหรับระบบย่อยของแคชต่างๆ ในเบราว์เซอร์ ดังนั้น ปริมาณการใช้พื้นที่ดิสก์จริงรวมของแคชทั้งหมดจะสูงกว่านี้ แต่อยู่ภายในขนาดที่ใกล้เคียงกันกับค่าที่ระบุไว้</translation> |
| <translation id="458285976189239891">ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย, API ของเว็บ |
| <ph name="SHOW_OPEN_FILE_PICKER_API_NAME" />, |
| <ph name="SHOW_SAVE_FILE_PICKER_API_NAME" /> และ |
| <ph name="SHOW_DIRECTORY_PICKER_API_NAME" /> จำเป็นต้องเรียกใช้ท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า ("การเปิดใช้งานชั่วคราว") มิเช่นนั้นจะดำเนินการไม่สำเร็จ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ดูแลระบบสามารถระบุต้นทางที่จะเรียกใช้ API เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ |
| https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns * |
| ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ต้นทางทั้งหมดจะกำหนดให้ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้าเพื่อเรียกใช้ API เหล่านี้</translation> |
| <translation id="4591366717022345234">ให้บริการเวอร์ชัน Quick Fix แก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4593391169954484940">แฮช SHA-256 ของไฟล์</translation> |
| <translation id="4594027034164195984">อนุญาตให้รูปภาพจากบุคคลที่สามแสดงพรอมต์การตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="4594087525776615883">อนุญาตการติดตามพัสดุใน Chrome</translation> |
| <translation id="4594467366027975448">กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้สำหรับเก็บสำเนาโรมมิ่งของโปรไฟล์ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ไดเรกทอรีที่ให้ไว้เพื่อเก็บสำเนาโรมมิ่งของโปรไฟล์ในกรณีที่มีการเปิดใช้นโยบาย <ph name="ROAMING_PROFILE_SUPPORT_ENABLED_POLICY_NAME" /> หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="ROAMING_PROFILE_SUPPORT_ENABLED_POLICY_NAME" /> ระบบจะไม่ใช้ค่าที่เก็บไว้ในนโยบายนี้ |
| |
| ดูรายการตัวแปรที่ใช้ได้ได้ที่ https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/user-data-directory-variables |
| |
| บนแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ของ Windows นโยบายนี้จะต้องตั้งค่าให้โปรไฟล์โรมมิ่งทำงาน |
| |
| บนแพลตฟอร์มของ Windows หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้เส้นทางโปรไฟล์โรมมิ่งเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4596517047440640833">การปลดล็อกด้วย PIN</translation> |
| <translation id="4596742680861734343">อนุญาตการบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่ายในอุปกรณ์สำหรับการแก้ไขข้อบกพร่อง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะทำการบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่ายในอุปกรณ์ได้ |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" การบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่ายจะไม่พร้อมใช้งานในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4600786265870346112">เปิดใช้งานเคอร์เซอร์ขนาดใหญ่</translation> |
| <translation id="4602988345256038309">อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เพื่อให้การสนับสนุนระยะไกล</translation> |
| <translation id="4607416370554533118">การตั้งค่านโยบายนี้ช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ที่ระบุเว็บไซต์ซึ่ง Chrome จะเลือกใบรับรองไคลเอ็นต์ให้โดยอัตโนมัติได้ ค่าจะเป็นอาร์เรย์ของพจนานุกรม JSON ที่มีรูปแบบเป็นสตริงซึ่งแต่ละรายการมีรูปแบบ <ph name="AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_EXAMPLE" /> โดยที่ <ph name="URL_PATTERN_PLACEHOLDER" /> เป็นรูปแบบการตั้งค่าเนื้อหา <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> จำกัดใบรับรองไคลเอ็นต์ที่เบราว์เซอร์จะเลือกโดยอัตโนมัติ ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองที่ตรงกับคำขอใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงตัวกรอง |
| |
| ตัวอย่างการใช้งานส่วน <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> |
| |
| * เมื่อตั้งค่า <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> เป็น <ph name="AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_FILTER_EXAMPLE" /> ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองไคลเอ็นต์ซึ่งออกโดยใบรับรองที่ใช้ CommonName <ph name="ISSUER_CN_PLACEHOLDER" /> |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีทั้งส่วน <ph name="ISSUER_STRING_VALUE" /> และ <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองไคลเอ็นต์ที่เป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีส่วน <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ที่มีค่า <ph name="FILTER_STRING_ORGANIZATION" /> ใบรับรองต้องมีอย่างน้อย 1 องค์กรที่ตรงกับค่าที่ระบุจึงจะได้รับเลือก |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีส่วน <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ที่มีค่า <ph name="FILTER_STRING_ORGANIZATIONAL_UNIT" /> ใบรับรองต้องมีหน่วยขององค์กรอย่างน้อย 1 หน่วยที่ตรงกับค่าที่ระบุจึงจะได้รับเลือก |
| |
| * เมื่อตั้งค่า <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> เป็น <ph name="EMPTY_DICTIONARY" /> การเลือกใบรับรองไคลเอ็นต์จะไม่มีข้อจำกัดเพิ่มเติม โปรดทราบว่าตัวกรองที่ได้มาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์จะยังคงมีผลอยู่ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าจะไม่มีการเลือกอัตโนมัติสำหรับเว็บไซต์ใดก็ตาม</translation> |
| <translation id="4611983465824842867">ไม่แสดงคำเตือนหรือปิดใช้การป้อนข้อความอัตโนมัติในแบบฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="4615003180013429835">โหมดการแยกวิเคราะห์รายการเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="4615892138881859957">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งานคีย์ "Six Pack" ของ Insert</translation> |
| <translation id="4617338332148204752">ข้ามการตรวจสอบเมตาแท็กใน <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="461901491675418689">ฟีเจอร์ NewBaseUrlInheritanceBehavior พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="4624006912948309924">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดตัวระบุแอปพลิเคชันที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แสดงเป็นแอปที่ปักหมุดไว้ในแถบ Launcher และผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ |
| |
| ระบุแอป Chrome ตามรหัส เช่น pjkljhegncpnkpknbcohdijeoejaedia |
| ระบุแอป Android ตามชื่อแพ็กเกจ เช่น com.google.android.gm |
| ระบุเว็บแอปตาม URL ที่ใช้ใน <ph name="WEB_APP_INSTALL_FORCE_LIST_POLICY_NAME" /> เช่น https://google.com/maps |
| และระบุ System Web Apps ตามชื่อการเขียนโค้ดรูปแบบงู เช่น <ph name="PINNED_LAUNCHER_APPS_POLICY_SYSTEM_WEB_APP_EXAMPLE" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงรายการแอปที่ปักหมุดไว้ใน Launcher ได้</translation> |
| <translation id="4624417808625504735">บล็อก JavaScript ไม่ให้ใช้ JIT ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="46321462262887935">ใช้ปุ่มแถวบนสุดเป็นปุ่มฟังก์ชัน แต่ผู้ใช้จะแก้ไขได้</translation> |
| <translation id="4632343302005518762">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จัดการประเภทเนื้อหาตามที่แสดงในรายการ</translation> |
| <translation id="4633746046264469461">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript ที่เปิดใช้คอมไพเลอร์ JIT (Just In Time) |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| การยกเว้นนโยบาย JIT ใน JavaScript จะบังคับใช้ที่รายละเอียดระดับเว็บไซต์ (eTLD+1) เท่านั้น นโยบายที่ตั้งค่าไว้เฉพาะสำหรับ subdomain.site.com จะไม่มีผลกับ site.com หรือ subdomain.site.com อย่างถูกต้องเนื่องจากทั้งสองจับคู่กับ eTLD+1 (site.com) เดียวกันซึ่งไม่มีนโยบาย ในกรณีนี้ ต้องตั้งค่านโยบายใน site.com เพื่อให้มีผลกับทั้ง site.com และ subdomain.site.com อย่างถูกต้อง |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับแต่ละเฟรมแยกกันและไม่ได้อิงตาม URL ต้นทางระดับบนสุดเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น หากมีการระบุ site-one.com ในนโยบาย <ph name="JAVA_SCRIPT_JIT_ALLOWED_FOR_SITES_POLICY_NAME" /> แต่ site-one.com โหลดเฟรมที่มี site-two.com สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ site-one.com มีการเปิดใช้ JIT ใน JavaScript แต่ site-two.com จะใช้นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_JIT_SETTING_POLICY_NAME" /> หากตั้งค่าไว้ หรือมีค่าเริ่มต้นเป็นเปิดใช้ JIT ใน JavaScript |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_JIT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นจะมีการเปิดใช้ JIT ใน JavaScript ในเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="4636354638176939375">ปิดการสร้างผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="46383668315040154">ระบุเวอร์ชันการเผยแพร่ที่อุปกรณ์นี้ควรจะใช้ได้ |
| |
| การตั้งค่า <ph name="CHROME_OS_RELEASE_CHANNEL_POLICY_NAME" /> จะมีผลเฉพาะในกรณีที่ตั้งค่า <ph name="CHROME_OS_RELEASE_CHANNEL_DELEGATED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="4638906910792947645">เปิดใช้แบบสำรวจในผลิตภัณฑ์</translation> |
| <translation id="4646626362889216307">การตั้งค่านโยบายทำให้สามารถรวมนโยบายที่เลือกเมื่อนโยบายมาจากแหล่งที่มาต่างๆ ซึ่งมีขอบเขตและระดับเดียวกัน การรวมจะอยู่ในคีย์ระดับแรกๆ ของพจนานุกรมจากแหล่งที่มาแต่ละแห่ง คีย์ที่มาจากแหล่งที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดจะมีความสำคัญเหนือกว่า |
| |
| ใช้อักขระไวลด์การ์ด "*" เพื่ออนุญาตให้รวมนโยบายพจนานุกรมทั้งหมดที่รองรับ |
| |
| หากนโยบายอยู่ในรายการและมีความขัดแย้งระหว่างแหล่งที่มาซึ่งมี |
| |
| * ขอบเขตและระดับเดียวกัน: ค่าจะรวมอยู่ในพจนานุกรมนโยบายใหม่ |
| |
| * ขอบเขตหรือระดับที่ต่างกัน: ระบบจะใช้นโยบายที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด |
| |
| หากนโยบายไม่ได้อยู่ในรายการและมีความขัดแย้งระหว่างแหล่งที่มา ขอบเขต หรือระดับ ระบบจะใช้นโยบายที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด</translation> |
| <translation id="4646739075621507361">รายงานงานพิมพ์</translation> |
| <translation id="4649395978608361979">ปลายทางเครื่องพิมพ์ในพื้นที่</translation> |
| <translation id="4650044303940238102">การตั้งค่าแบบอักษรในเครื่อง</translation> |
| <translation id="4650759511838826572">ปิดใช้งานสกีมโปรโตคอล URL</translation> |
| <translation id="465099050592230505">URL เว็บสโตร์ขององค์กร (เลิกใช้งาน)</translation> |
| <translation id="4653465451589191309">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้จัดการ (ยกเลิกการเชื่อมต่อหรือแก้ไข) การเชื่อมต่อ VPN ได้ หากมีการสร้างการเชื่อมต่อ VPN โดยใช้แอป VPN นโยบายจะไม่ส่งผลต่อ UI ภายในแอป ผู้ใช้จึงอาจยังใช้แอปดังกล่าวเพื่อแก้ไขการเชื่อมต่อ VPN ได้อยู่ ใช้นโยบายนี้ร่วมกับฟีเจอร์ "VPN แบบเปิดตลอดเวลา" ซึ่งให้ผู้ดูแลระบบเลือกที่จะสร้างการเชื่อมต่อ VPN เมื่อเปิดเครื่องได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งจะให้ผู้ใช้ยกเลิกการเชื่อมต่อและแก้ไขการเชื่อมต่อ VPN</translation> |
| <translation id="4654729794394330974">การตั้งค่านโยบายจะระบุชื่อโดเมนของไคลเอ็นต์ซึ่งจะกำหนดให้กับไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกล และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงชื่อไม่ได้ จะมีเฉพาะไคลเอ็นต์จากโดเมนที่ระบุที่เชื่อมต่อกับโฮสต์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็นรายการที่ว่างเปล่าหรือไม่ตั้งค่าจะทำให้มีการใช้นโยบายเริ่มต้นของการเชื่อมต่อประเภทนั้นๆ สำหรับความช่วยเหลือระยะไกล ระบบจะอนุญาตให้ไคลเอ็นต์จากโดเมนต่างๆ เชื่อมต่อกับโฮสต์ได้ สำหรับการเข้าถึงระยะไกลได้ตลอดเวลา จะมีเฉพาะเจ้าของโฮสต์ที่เชื่อมต่อได้ |
| |
| ดู <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_DOMAIN_LIST_POLICY_NAME" /> เพิ่มเติม |
| |
| หมายเหตุ: การตั้งค่านี้จะลบล้าง <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_CLIENT_DOMAIN_POLICY_NAME" /> หากมี</translation> |
| <translation id="4658380868451934335">เปิดใช้การพิมพ์ตามคำบอกในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="4660356908994631271">แสดงปุ่ม Google Lens ในช่องค้นหาบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="4661885151480410620">การเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานอาจขึ้นอยู่กับขั้นตอนการเปิดตัวฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="4661889655253181651">การตั้งค่าเนื้อหาช่วยให้คุณระบุวิธีจัดการเนื้อหาบางประเภท (เช่น คุกกี้ รูปภาพ หรือ JavaScript) ได้</translation> |
| <translation id="4663509616441994711">ปิดใช้การรวมนโยบายในระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="4663588423815449593">บังคับให้ <ph name="PEPPER_NAME" /> ใช้เครื่องมือถอดรหัสวิดีโอเดิม</translation> |
| <translation id="4665897631924472251">การตั้งค่าการจัดการส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="4666930704271463612">ระบุเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ส่วนหนึ่งที่จะใช้สำหรับค้นหาเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หากใช้นโยบายนี้ จะมีเพียงเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ |
| |
| รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง "id" ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่มีการกรองและจะใช้เซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ทั้งหมดในการค้นหา |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="EXTERNAL_PRINT_SERVERS_ALLOWLIST" /> แทน</translation> |
| <translation id="4667462525936265103">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้นำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการซึ่งสร้างหลังจากลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีการจัดการในพื้นที่สำหรับเนื้อหาหรือไม่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น <ph name="USER_OPTIN_DATA_ENUM_NAME" /> (ค่า 1) ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะนำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการหรือไม่ ช่องทำเครื่องหมายในกล่องโต้ตอบการสร้างโปรไฟล์จะปรากฏขึ้นและไม่ได้เลือกไว้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="USER_OPTOUT_DATA_ENUM_NAME" /> (ค่า 2) ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะนำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการหรือไม่ ช่องทำเครื่องหมายในกล่องโต้ตอบการสร้างโปรไฟล์จะปรากฏขึ้นและเลือกไว้โดยค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้ใช้ได้ในอุปกรณ์ที่มีการจัดการเท่านั้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="USER_ALWAYS_SEPARATE_DATA_ENUM_NAME" /> (ค่า 3) ผู้ใช้จะไม่สามารถนำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการได้ ช่องทำเครื่องหมายในกล่องโต้ตอบการสร้างโปรไฟล์จะไม่ปรากฏขึ้น |
| |
| การนำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการหมายความว่าโปรไฟล์ปัจจุบันจะได้รับการจัดการ โดยจะไม่มีการสร้างโปรไฟล์ใหม่ |
| |
| การไม่นำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการหมายความว่าระบบจะสร้างโปรไฟล์เปล่าขึ้นมาใหม่ ข้อมูลการท่องเว็บก็จะยังอยู่ในโปรไฟล์ที่ไม่มีการจัดการ ซึ่งผู้ใช้จะยังเข้าถึงได้ผ่านเครื่องมือเลือกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="4668325077104657568">การตั้งค่าภาพเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4669083178278833688">กำหนดค่ากล้อง, การตั้งค่าเบราว์เซอร์, การตั้งค่าระบบปฏิบัติการ, ฟีเจอร์การสแกน, ฟีเจอร์ในเว็บสโตร์, ฟีเจอร์ใน Canvas, ฟีเจอร์การสำรวจ, ฟีเจอร์ Crosh, ฟีเจอร์แกลเลอรี และฟีเจอร์เทอร์มินัลที่จะปิดใช้</translation> |
| <translation id="4670865688564083639">ต่ำสุด:</translation> |
| <translation id="467236746355332046">ฟีเจอร์ที่ได้รับการสนับสนุน:</translation> |
| <translation id="4672774129073185053">เปิดใช้การลบล้างการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงของ IPv6</translation> |
| <translation id="4674167212832291997">กำหนดรายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงผลโดย <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> ทุกครั้ง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ตัวแสดงผลเริ่มต้นกับเว็บไซต์ทั้งหมดตามที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย "ChromeFrameRendererSettings" |
| |
| สำหรับรูปแบบตัวอย่าง โปรดดูที่ https://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started</translation> |
| <translation id="467449052039111439">เปิดรายการ URL</translation> |
| <translation id="4674542060943819878">เปิดใช้การปิดการแจ้งเตือนรหัสผ่านที่ถูกละเมิด</translation> |
| <translation id="4674871290487541952">อนุญาตอัลกอริทึมที่ไม่ปลอดภัยในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของการอัปเดตและการติดตั้งส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="4680961954980851756">เปิดใช้งานการป้อนอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="4685721728282448265">CECPQ2 ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์หลังยุคควอนตัมที่เปิดใช้สำหรับ TLS</translation> |
| <translation id="468822697351680932">ใช้นโยบาย SiteList ของ Internet Explorer เป็นแหล่งที่มาของกฎ</translation> |
| <translation id="4693190628432874457">เปิดใช้การรายงานตำแหน่งของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4693779768620889402">ปลายทางตามส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="4693861751987983072">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> รายงานเมตริกการใช้งานและข้อมูลการวินิจฉัย รวมถึงรายงานข้อขัดข้อง กลับมาที่ Google การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการรายงานเมตริกและข้อมูลการวินิจฉัย |
| |
| สำหรับอุปกรณ์ที่มีการจัดการ นโยบายนี้จะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นและส่งเมตริกไปยัง Google |
| |
| สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ ผู้ใช้ตัดสินใจได้ว่าจะส่งเมตริกหรือไม่</translation> |
| <translation id="4694138212536142867">เปิดใช้การรายงานสถานะของฮาร์ดแวร์อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4697581738794063407">ควบคุมฟีเจอร์ตัวกรองพารามิเตอร์ของ URL</translation> |
| <translation id="4698895924806859508">ไม่รายงานเหตุการณ์ในเครือข่าย</translation> |
| <translation id="4699172675775169585">รูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้</translation> |
| <translation id="4699592681017489215">นโยบายนี้กำหนดค่าการสลับในเครื่องที่จะใช้สำหรับการปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS ได้ การตรวจสอบจะพยายามหาว่าเบราว์เซอร์อยู่หลังพร็อกซีที่เปลี่ยนเส้นทางชื่อโฮสต์ที่ไม่รู้จักหรือไม่ |
| |
| การตรวจจับนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมแบบองค์กรที่รู้ค่ากำหนดของเครือข่าย เพราะการตรวจจับจะก่อให้เกิดปริมาณการจราจรของ DNS และ HTTP ในการเริ่มต้นและในการเปลี่ยนค่ากำหนด DNS แต่ละครั้ง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นเปิดใช้ การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS จะทำงาน หากตั้งค่าอย่างชัดแจ้งว่าปิดใช้ การตรวจสอบจะไม่ทำงาน</translation> |
| <translation id="4700190441681139987">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ เข้าถึงเซ็นเซอร์</translation> |
| <translation id="4703402283970867140">เปิดใช้รูปแบบการหรี่แสงอัจฉริยะเพื่อขยายเวลาจนกว่าหน้าจอจะหรี่แสง</translation> |
| <translation id="4704958130749494760">ให้สิทธิ์เว็บไซต์ต่างๆ โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ซีเรียล USB</translation> |
| <translation id="4705329890928008808">การตั้งค่านโยบายเป็น CopyCaCerts ทำให้ใบรับรอง CA ที่ติดตั้งโดย ONC ที่มี <ph name="WEB_TRUSTED_BIT" /> ทั้งหมดพร้อมใช้งานสำหรับแอป ARC |
| |
| การตั้งค่าเป็น "ไม่มี" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ใบรับรอง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ไม่พร้อมใช้งานสำหรับแอป ARC</translation> |
| <translation id="4707142899480362007">การตั้งค่านโยบายนี้ทำให้คุณสามารถแสดงรายการรูปแบบ URL ที่ระบุเว็บไซต์ซึ่งได้รับสิทธิ์ให้เข้าถึงอุปกรณ์ USB โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่กำหนดในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ รูปแบบแต่ละรายการต้องระบุทั้งช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> และ <ph name="URLS_FIELD_NAME" /> นโยบายจึงจะมีผล รูปแบบแต่ละรายการในช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> อาจระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> และ <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่อง การไม่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่มีรหัสผู้ให้บริการที่กำหนด นโยบายที่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> แต่ไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| โมเดลสิทธิ์ USB จะให้สิทธิ์ URL ที่ระบุในการเข้าถึงอุปกรณ์ USB เป็นต้นทางระดับบนสุด หากเฟรมแบบฝังจำเป็นต้องเข้าถึงอุปกรณ์ USB ควรใช้ส่วนหัว <ph name="FEATURE_POLICY_HEADER_NAME" /> ของ "usb" เพื่อให้สิทธิ์เข้าถึง URL ต้องใช้การได้ มิเช่นนั้น นโยบายจะไม่มีผล |
| |
| เลิกใช้งาน: โมเดลสิทธิ์ USB ที่ใช้เพื่อรองรับการระบุทั้ง URL ที่ส่งคำขอและ URL ที่มีการฝัง เราเลิกใช้งานโมเดลนี้แล้วและรองรับเฉพาะความเข้ากันได้แบบย้อนหลังในลักษณะต่อไปนี้ ได้แก่ ในกรณีที่มีการระบุทั้ง URL ที่ส่งคำขอและ URL ที่มีการฝัง ระบบจะให้สิทธิ์แก่ URL ที่มีการฝังเป็นต้นทางระดับบนสุดและไม่พิจารณา URL ที่ส่งคำขอ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางกับเว็บไซต์ทั้งหมด (ไม่มีการเข้าถึงโดยอัตโนมัติ)</translation> |
| <translation id="471360812659157054">window.webkitStorageInfo จะใช้งานไม่ได้</translation> |
| <translation id="4715773950737036924">ควบคุมความพร้อมใช้งานของส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่ใน Chrome เว็บสโตร์</translation> |
| <translation id="4722122254122249791">เปิดใช้การแยกเว็บไซต์สำหรับต้นทางที่เจาะจง</translation> |
| <translation id="4722761845551711583">กำหนดค่าช่วงเวลาเป็นวินาทีเพื่อแสดงรูปภาพเมื่อโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบมีรูปภาพหลายรูปที่จะแสดง |
| |
| ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1-9,999 วินาที การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 60 วินาที |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="4723829699367336876">เปิดใช้งานไฟร์วอลล์ Traversal จากไคลเอ็นต์ที่เข้าถึงจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="4725528134735324213">เปิดใช้ Android Backup Service</translation> |
| <translation id="4725691087141147920">แสดงความยินยอมในการซิงค์ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="4725801978265372736">กำหนดให้ชื่อผู้ใช้ในเครื่องและเจ้าของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลต้องตรงกัน</translation> |
| <translation id="4726228171190098009">ไม่อนุญาตให้อุปกรณ์ขอทํา Powerwash</translation> |
| <translation id="4726895359147376813">การแมปจากรหัสถาวรไปยังการกําหนดค่า VM</translation> |
| <translation id="4732069502693984686">เปิดใช้การจับภาพหน้าจอโดยอัตโนมัติแบบหลายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4733471537137819387">นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ในตัว</translation> |
| <translation id="473673197014866318">การตั้งค่านโยบายนี้จะควบคุมการตั้งค่าการจัดการส่วนขยายสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งรวมถึงการตั้งค่าที่ควบคุมโดยนโยบายเกี่ยวกับส่วนขยายที่มีอยู่ นโยบายนี้มีผลแทนนโยบายเดิมที่อาจมีการตั้งค่าไว้ |
| |
| นโยบายนี้จะจับคู่รหัสส่วนขยายหรือ URL อัปเดตกับการตั้งค่าที่เฉพาะเจาะจงของรายการนั้นๆ เท่านั้น คุณกำหนดค่าเริ่มต้นสำหรับรหัสพิเศษ <ph name="DEFAULT_SCOPE" /> ได้ ซึ่งระบบจะใช้กับส่วนขยายทั้งหมดที่ไม่มีการกำหนดค่าเองในนโยบายนี้ เมื่อใช้ URL อัปเดต ระบบจะใช้การกำหนดค่ากับส่วนขยายที่มี URL อัปเดตตรงกับที่ระบุไว้ในไฟล์ Manifest ของส่วนขยาย ( http://support.google.com/chrome/a?p=Configure_ExtensionSettings_policy ) หากตั้งค่าแฟล็ก "override_update_url" เป็น "จริง" ระบบจะติดตั้งและอัปเดตส่วนขยายโดยใช้ URL "อัปเดต" ที่ระบุในนโยบาย <ph name="EXTENSION_INSTALL_FORCELIST_POLICY_NAME" /> หรือในช่อง "update_url" ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่สนใจแฟล็ก "override_update_url" หาก "update_url" คือ URL Chrome เว็บสโตร์ |
| |
| ในอินสแตนซ์ <ph name="MS_WIN_NAME" /> จะบังคับติดตั้งแอปและส่วนขยายที่ไม่ได้มาจาก Chrome เว็บสโตร์ได้เฉพาะในกรณีที่อินสแตนซ์นั้นเข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ในอินสแตนซ์ <ph name="MAC_OS_NAME" /> จะบังคับติดตั้งแอปและส่วนขยายที่ไม่ได้มาจาก Chrome เว็บสโตร์ได้เฉพาะในกรณีที่อินสแตนซ์นั้นจัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="4739596156184678950">อนุญาตให้บันทึกไฟล์ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> โดยตรง</translation> |
| <translation id="4742973303930120836">จำกัดโหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="4745232963710538589">เปิดใช้ส่วนขยายข้อมูลเชิงลึกสำหรับการรายงานเมตริกการใช้งาน</translation> |
| <translation id="4749670563834935149">เปิดใช้ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุ URL ที่ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะเสนอเพื่อเริ่มโฟลว์เอกสารรับรอง นโยบายหลังจะช่วยให้เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับชุดเอกสารรับรองของสัญญาณที่มีการคำนึงถึงบริบทจากอุปกรณ์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือปล่อยว่างไว้จะทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดไม่สามารถเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองหรือได้รับสัญญาณจากอุปกรณ์ |
| |
| นโยบายนี้จะส่งผลต่อโฟลว์เอกสารรับรองในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อกเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนโฟลว์เอกสารรับรองในเซสชัน โปรดใช้นโยบาย <ph name="CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format</translation> |
| <translation id="4752880493649142945">ใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับการเชื่อมต่อกับ RemoteAccessHostTokenValidationUrl</translation> |
| <translation id="475479145997699293">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ASK_FILE_HANDLING" /> จะทำให้เว็บแอปสามารถขอสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ ผ่าน File Handling API การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BLOCK_FILE_HANDLING" /> จะปฏิเสธการเข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะทำให้เว็บแอปสามารถขอสิทธิ์เข้าถึง แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="4756953551789081500">ปิดใช้การรายงานสถานะการอัปเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4757053978738874325">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับเสียงโมโน |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่เอาต์พุตเสียงสเตอริโอซึ่งรวมช่องสัญญาณเสียงที่ต่างกันเพื่อให้หูคนละข้างได้รับเสียงที่ต่างกัน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดเสียงแบบโมโนไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดเสียงแบบโมโนไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์เสียงโมโนในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="475736328056346227">เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยอนุญาตให้ข้อมูลจากแอปและบริการของ Google ปรากฏในแพลตฟอร์มระบบของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| ระบบจะแสดงการผสานรวมหากเปิดบริการของ Google ที่เกี่ยวข้องไว้ |
| |
| เมื่อปิดใช้ <ph name="CONTEXTUAL_GOOGLE_INTEGRATIONS_ENABLED" /> ระบบจะปิดใช้บริการทั้งหมด ไม่ว่าการตั้งค่าของนโยบายนี้จะเป็นอย่างไร |
| |
| เมื่อเปิดใช้ <ph name="CONTEXTUAL_GOOGLE_INTEGRATIONS_ENABLED" /> หรือไม่ได้ตั้งค่า นโยบายนี้จะเลือกบริการได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้บริการทั้งหมด |
| |
| หรือหากมีการตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้เฉพาะบริการที่เลือก</translation> |
| <translation id="4757563299858487173">ปิดใช้ฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="4758335997982239449">เปิดใช้ฟีเจอร์การปกป้อง IP ของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="4767059955897420757">เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" การโปรโมตส่วนขยายผู้ให้บริการเอกสารสิทธิ์อาจแสดงให้ผู้ใช้เห็น |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" การโปรโมตส่วนขยายผู้ให้บริการเอกสารสิทธิ์จะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น</translation> |
| <translation id="4768446404233019970">เปิดใช้ชุดการเข้ารหัส 3DES ใน TLS</translation> |
| <translation id="4770334626033858263">การกำหนดค่าที่ใช้เพื่อสร้างและยืนยันรหัสการเข้าถึงของผู้ปกครอง</translation> |
| <translation id="4773997835955617342">เปลี่ยนการกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="KRB5_CONFIG" /> สำหรับตั๋วใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยตนเอง |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าของนโยบาย "KerberosCustomPrefilledConfig" เป็นการกำหนดค่าที่แนะนำ และแสดงในส่วน "ขั้นสูง" ของกล่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้การกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แทน โดยจะแสดงในส่วน "ขั้นสูง" ของกล่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos ด้วย</translation> |
| <translation id="4774030790286815890">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถเลือกใช้ฮับโทรศัพท์ซึ่งทำให้โต้ตอบกับโทรศัพท์ของตนในอุปกรณ์ Chrome OS ได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเลือกใช้ฮับโทรศัพท์ไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรแต่อนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="4783415902268741066">อนุญาตให้แสดงหน้าผลการค้นหาล่าสุดของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในแผงด้านข้าง</translation> |
| <translation id="4786784434769279324">การดำเนินการที่เรียกใช้เมื่อไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์</translation> |
| <translation id="4787763197941188108">ลบล้างขนาดหน้าการพิมพ์เริ่มต้น |
| |
| <ph name="PAGE_SIZE_NAME" /> ควรมีรูปแบบที่อยู่ในรายการ 1 รูปแบบ หรือมีรูปแบบ "ที่กำหนดเอง" หากไม่มีขนาดกระดาษที่จำเป็นอยู่ในรายการ หากระบุค่า "ที่กำหนดเอง" ก็ควรระบุพร็อพเพอร์ตี้ <ph name="PAGE_SIZE_CUSTOM_SIZE" /> ซึ่งอธิบายความสูงและความกว้างที่ต้องการเป็นไมโครเมตรด้วย มิเช่นนั้นก็ไม่ควรมีการระบุพร็อพเพอร์ตี้ <ph name="PAGE_SIZE_CUSTOM_SIZE" /> ระบบจะไม่สนใจนโยบายที่ละเมิดกฎนี้ |
| |
| หากไม่มีขนาดหน้าดังกล่าวในเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้เลือก ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4789450349513792856">บล็อกป๊อปอัปในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="4790391579868456557">ใช้คุกกี้ที่จำเป็นและไม่จำเป็นในการค้นหา</translation> |
| <translation id="4790588245699320140">อนุญาตให้ Google Assistant เข้าถึงบริบทบนหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4800438168909332958">เปิดใช้ฟีเจอร์การตัดเสียงก้อง (AEC) ของระบบ AEC ของระบบเป็นซอฟต์แวร์ตัดเสียงก้อง ซึ่งก็คือ โมดูลการประมวลผลเสียงที่นำการเล่นเสียง (เสียงก้อง) ของระบบออกจากสัญญาณไมโครโฟน |
| นโยบายนี้มีผลชั่วคราวและจะเลิกใช้งานทันทีที่มีการเปิดตัวฟีเจอร์การตัดเสียงก้องของระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" การตัดเสียงก้องของระบบจะเปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า การตัดเสียงก้องของระบบอาจยังคงเปิดใช้ตามแผนการเปิดตัว แต่นโยบายนี้จะไม่ได้บังคับใช้</translation> |
| <translation id="4800865664096110749">เปิดใช้โฟลว์เอกสารรับรองของ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สําหรับรายการ URL ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="4801512016965057443">อนุญาตการโรมมิ่งข้อมูลมือถือ</translation> |
| <translation id="4801647366128872782">ระบุ URL ที่อนุญาตให้ใช้รายงานเทคโนโลยีเดิม</translation> |
| <translation id="4802744647065138872">จำกัดจำนวนสแนปชอตข้อมูลผู้ใช้ที่เก็บรักษาไว้สำหรับใช้ในกรณีที่ต้องทำการย้อนกลับฉุกเฉิน</translation> |
| <translation id="4802905909524200151">กำหนดค่าพฤติกรรมอัปเดตเฟิร์มแวร์ <ph name="TPM_FIRMWARE_UPDATE_TPM" /></translation> |
| <translation id="4804828344300125154">รีบูตทุกครั้งเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="4807950475297505572">ผู้ใช้ที่มีการใช้งานล่าสุดน้อยที่สุดจะถูกลบจนกว่าจะมีที่ว่างเพียงพอ</translation> |
| <translation id="4812270373673968774">การตั้งค่านโยบายเป็น "เสมอ" จะซ่อนแถบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> โดยอัตโนมัติ การตั้งค่านโยบายเป็น "ไม่เลย" จะแสดงแถบดังกล่าวเสมอ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกว่าจะซ่อนแถบดังกล่าวโดยอัตโนมัติหรือไม่</translation> |
| <translation id="4812309945046430049">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีแดง</translation> |
| <translation id="4812714598405913256">กำหนดค่าข้อความการหมดอายุของการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับนโยบาย DeviceMinimumVersion</translation> |
| <translation id="4815581264328351694">แสดงตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบ</translation> |
| <translation id="4816674326202173458">อนุญาตให้ผู้ใช้ขององค์กรเป็นทั้งผู้ใช้หลักและรอง (ค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้รับการจัดการ)</translation> |
| <translation id="4819906370830175867">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะช่วยให้ Native Client ทำงานต่อไปได้แม้ว่าลักษณะการทำงานเริ่มต้นจะเป็น Native Client ถูกปิดใช้อยู่ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4820432864264617413">ป้องกันไม่ให้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ทำงานสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4821987881803903281">บล็อกสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="4825777333376170738">ปิดใช้การรายงานเซสชันคีออสก์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4826326557828204741">การกระทำที่จะดำเนินการเมื่อไม่มีการใช้งานจนถึงการหน่วงเวลาที่กำหนด ขณะที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="4826701474986856664">แสดงหน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้านระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="4827727182370777723">การตั้งค่าเริ่มต้นของสิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่อง</translation> |
| <translation id="482803100714220060">แสดง URL แบบเต็ม</translation> |
| <translation id="4832852360828533362">การรายงานผู้ใช้และอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4834526953114077364">ผู้ใช้ที่มีการใช้งานล่าสุดน้อยที่สุดที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบภายใน 3 เดือนที่ผ่านมาจะถูกลบจากกว่าจะมีที่ว่างเพียงพอ</translation> |
| <translation id="4835470005923546373">ปิดใช้โหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลังโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4835622243021053389">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์ NTLMv2</translation> |
| <translation id="4840015507504937941">นโยบายนี้ตั้งค่าข้อมูลขนาดเล็ก (หน่วยไบต์) สำหรับข้อมูลในคลิปบอร์ดที่จะได้รับการตรวจสอบกับกฎข้อจำกัดของคลิปบอร์ดที่กำหนดไว้ในนโยบาย DataLeakPreventionRulesList |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 0 ซึ่งหมายความว่าการวางข้อมูลทั้งหมดจากคลิปบอร์ดจะได้รับการตรวจสอบตามกฎที่กำหนดค่าไว้</translation> |
| <translation id="4846678215172543001">นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้แสดงคำเตือน URL ที่คล้ายกันบนเว็บไซต์ที่ระบุไว้ คำเตือนเหล่านี้จะแสดงเป็นปกติบนเว็บไซต์ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เชื่อว่าอาจกำลังพยายามปลอมแปลงเว็บไซต์อื่นที่ผู้ใช้คุ้นเคย |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายและตั้งค่าให้ใช้กับหนึ่งโดเมนขึ้นไป จะไม่มีการแสดงคำเตือนหน้าที่คล้ายกันเมื่อผู้ใช้เข้าชมหน้าเว็บไซต์บนโดเมนนั้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าให้ใช้กับรายการที่ว่างเปล่า คำเตือนอาจปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าชม |
| |
| อนุญาตชื่อโฮสต์ที่ตรงกับโฮสต์ทุกประการหรือตรงกับโดเมนใดๆ ก็ได้ เช่น อาจระงับคำเตือน URL อย่าง "https://foo.example.com/bar" หากมี "foo.example.com" หรือ "example.com" อยู่ในรายการ</translation> |
| <translation id="4852900976354340846">การตั้งค่า Direct Sockets</translation> |
| <translation id="485419696366295465">ควบคุมนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อย <ph name="BOREALIS_NAME" /></translation> |
| <translation id="4855636880814771207">การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดบลูทูธได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะปิดบลูทูธ และผู้ใช้จะเปิดไม่ได้ |
| |
| หมายเหตุ: ผู้ใช้จะต้องออกจากระบบและลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งจึงจะเปิดบลูทูธได้</translation> |
| <translation id="4856471929724652373">รายงานข้อมูลการอัปเดตระบบปฏิบัติการ เช่น สถานะการอัปเดต เวอร์ชันของแพลตฟอร์ม การตรวจสอบอัปเดตครั้งล่าสุด การรีบูตครั้งล่าสุด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูลการอัปเดตระบบปฏิบัติการ หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลการอัปเดตระบบปฏิบัติการ</translation> |
| <translation id="4857223512478723171">ไม่อนุญาตให้ใช้โหมดเต็มหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4857888176748302062">อนุญาตให้ต้นทางค้นหาแอตทริบิวต์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="4858735034935305895">อนุญาตโหมดเต็มหน้าจอ</translation> |
| <translation id="4860900625632464759">อนุญาตให้ผู้ใช้ซิงค์ข้อความ SMS ระหว่างโทรศัพท์กับ Chromebook</translation> |
| <translation id="486146220825734683">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้จดจำรหัสผ่าน Kerberos</translation> |
| <translation id="4861767323695239729">กำหนดค่าวิธีการป้อนข้อมูลที่อนุญาตในเซสชันผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4872803921706580974">เปิดใช้การแสดงหน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้านระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="4873380469296842901">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้ที่เลือกใช้ฮับโทรศัพท์อยู่แล้วจะส่ง/รับการแจ้งเตือนของโทรศัพท์ใน Chrome OS ได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้ หากปิดใช้นโยบาย PhoneHubAllowed ผู้ใช้ก็จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เช่นกัน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ทั้งผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะใช้ค่าเริ่มต้นได้</translation> |
| <translation id="487460824085252184">ย้ายข้อมูลอัตโนมัติโดยไม่ขอคำยินยอมจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4874982543810021567">บล็อก WebUSB ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="4876805738539874299">เปิดใช้เวอร์ชันสูงสุดของ SSL ไว้</translation> |
| <translation id="4877305769899044884">สีเริ่มต้นสำหรับไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="4886783562285047261">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะบังคับให้มีการลงทะเบียน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> และบล็อกกระบวนการเปิดตัว <ph name="PRODUCT_NAME" /> หากไม่สำเร็จ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะแสดง <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> เป็นไม่บังคับและจะไม่บล็อกกระบวนการเปิดตัว <ph name="PRODUCT_NAME" /> หากไม่สำเร็จ |
| |
| การลงทะเบียนนโยบายระบบคลาวด์ตามขอบเขตของเครื่องบนเดสก์ท็อปจะใช้นโยบายนี้ ดูรายละเอียดที่ https://support.google.com/chrome/a/answer/9301891?ref_topic=9301744</translation> |
| <translation id="4889589161838982604">ควบคุมสถานะของฟีเจอร์ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> |
| |
| <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> ปกป้องคุกกี้การตรวจสอบสิทธิ์ของ Google จากการโจรกรรมคุกกี้ด้วยการส่งหลักฐานการครอบครองอุปกรณ์แบบเข้ารหัสให้กับเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นประจำ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำตามขั้นตอนการเปิดตัวเริ่มต้นสำหรับฟีเจอร์ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /> ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดตัวแก่ผู้ใช้จำนวนมากขึ้น</translation> |
| <translation id="488996881569316769">การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเครือข่าย</translation> |
| <translation id="4890453377345554695">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์หรือไดเรกทอรีในระบบไฟล์ของระบบปฏิบัติการของโฮสต์ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_SYSTEM_WRITE_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_SYSTEM_WRITE_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="4892647988357350237">โดยค่าเริ่มต้น ข้อกำหนดในการให้บริการจะแสดงเมื่อเรียกใช้ CCT ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="SKIP_TOS_DIALOG" /> จะทำให้กล่องโต้ตอบข้อกำหนดในการให้บริการไม่แสดงขึ้นมาในระหว่างการเรียกใช้ครั้งแรกหรือการเรียกใช้ครั้งต่อๆ ไป การตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="STANDARD_TOS_DIALOG" /> หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้กล่องโต้ตอบข้อกำหนดในการให้บริการแสดงขึ้นมาในระหว่างการเรียกใช้ครั้งแรก ข้อสำคัญอื่นๆ ได้แก่ |
| |
| - นโยบายนี้จะใช้งานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android ซึ่งมีการจัดการครบวงจรที่กำหนดค่าได้โดยผู้ให้บริการการจัดการปลายทางแบบรวม (Unified Endpoint Management) |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="SKIP_TOS_DIALOG" /> นโยบาย BrowserSignin จะไม่มีผล |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="SKIP_TOS_DIALOG" /> ระบบจะไม่ส่งเมตริกต่างๆ ไปยังเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="SKIP_TOS_DIALOG" /> เบราว์เซอร์จะมีฟังก์ชันการทำงานที่จำกัด |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="SKIP_TOS_DIALOG" /> ผู้ดูแลระบบต้องแจ้งข้อมูลนี้กับผู้ใช้ปลายทางของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="489803897780524242">พารามิเตอร์ที่ควบคุมตำแหน่งข้อความค้นหาสำหรับผู้ให้บริการค้นหาในค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4899708173828500852">เปิดใช้ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="4906194810004762807">อัตราการรีเฟรชสำหรับนโยบายอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="49093841899738146">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> รวบรวมบันทึกเหตุการณ์ WebRTC จากบริการของ Google เช่น Hangouts Meet และอัปโหลดบันทึกไปยัง Google ได้ บันทึกเหล่านี้มีข้อมูลการวินิจฉัยสำหรับแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับการประชุมด้วยเสียงหรือการประชุมทางวิดีโอใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เช่น เวลาและขนาดของแพ็กเก็ต RTP, ผลป้อนกลับเกี่ยวกับความหนาแน่นในเครือข่าย ตลอดจนข้อมูลเมตาเกี่ยวกับระยะเวลาและคุณภาพของเสียงและเฟรมของวิดีโอ บันทึกเหล่านี้ไม่มีเนื้อหาเสียงหรือวิดีโอจากการประชุม เพื่อให้แก้ไขข้อบกพร่องได้ง่ายขึ้น Google อาจเชื่อมโยงบันทึกเหล่านี้ (โดยใช้รหัสเซสชัน) กับบันทึกอื่นๆ ที่บริการของ Google รวบรวมไว้เอง |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะส่งผลให้ไม่มีการรวบรวมหรืออัปโหลดบันทึกดังกล่าว |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ในเวอร์ชันตั้งแต่ M76 ลงมา โดยค่าเริ่มต้นของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรวบรวมหรืออัปโหลดบันทึกเหล่านี้ไม่ได้ เริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน M77 ขึ้นไป ค่าเริ่มต้นของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรวบรวมและอัปโหลดบันทึกเหล่านี้ได้จากโปรไฟล์ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายองค์กรในระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์ ตั้งแต่เวอร์ชัน M77 ขึ้นไปจนถึงเวอร์ชัน M80 โดยค่าเริ่มต้น <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรวบรวมและอัปโหลดบันทึกเหล่านี้ได้จากโปรไฟล์ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดการภายในองค์กรของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="4911334289324462969">พอร์ต 989 (เลิกบล็อกได้จนถึง 01/02/2022)</translation> |
| <translation id="4917385247580444890">แรง</translation> |
| <translation id="4918261735182294270">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกว่าจะเปิดใช้ <ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> หรือไม่</translation> |
| <translation id="491889618361437456">เปิดใช้การผสานรวม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />"</translation> |
| <translation id="4919122295221518724">เปิดใช้การดูแลที่เข้มงวดขึ้นสำหรับเนื้อหาผสม</translation> |
| <translation id="4921553515199936667">หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" การถอดรหัสวิดีโอจะเร่งฮาร์ดแวร์เมื่อพร้อมใช้งาน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" การถอดรหัสวิดีโอจะไม่เร่งฮาร์ดแวร์ |
| |
| ไม่แนะนำให้ปิดใช้การถอดรหัสวิดีโอที่มีการเร่งฮาร์ดแวร์เนื่องจากจะทำให้โหลดของ CPU มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์และการใช้แบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="4922136799178503494">บล็อกการใช้พื้นที่แชร์ไฟล์ในเครือข่าย</translation> |
| <translation id="4923806312383904642">อนุญาตให้ WebDriver ลบล้างนโยบายที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้</translation> |
| <translation id="4924377847308623325">ป้องกันประเภทคำขอ DNS เพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="492685741837024549">บังคับให้ Native Client (NaCl) ได้รับอนุญาตให้ทำงาน</translation> |
| <translation id="4927214690104703256">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดส่วนขยายที่ใช้ฟังก์ชันการทำงาน <ph name="ENTERPRISE_PLATFORM_KEYS_API" /> สำหรับเอกสารรับรองระยะไกลได้ ส่วนขยายต้องอยู่ในรายการนี้เพื่อใช้ API ดังกล่าว |
| |
| หากส่วนขยายใดไม่อยู่ในรายการหรือไม่มีการตั้งค่ารายการไว้ จะเรียกใช้ API ไม่สำเร็จและมีรหัสข้อผิดพลาด</translation> |
| <translation id="4927563541997547">แป้นพิมพ์เสมือนจะปรับขนาดวิวพอร์ตของเลย์เอาต์โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="4927797103413916381">หาก <ph name="SAFE_BROWSING_ENABLED_POLICY_NAME" /> ไม่ได้ตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" การตั้งค่า <ph name="ABUSIVE_EXPERIENCE_INTERVENTION_ENFORCE_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" หรือการไม่ตั้งค่าก็จะป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมาะสมเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่ |
| |
| การตั้งค่า <ph name="SAFE_BROWSING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="ABUSIVE_EXPERIENCE_INTERVENTION_ENFORCE_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" จะอนุญาตให้เว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมาะสมเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="4929721861648439998">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับเสียงโมโนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำให้สลับโหมดของอุปกรณ์จากโหมดเสียงสเตอริโอที่เป็นค่าเริ่มต้นไปเป็นโหมดเสียงโมโนได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" โหมดเสียงโมโนจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" โหมดเสียงโมโนจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้โหมดเสียงโมโนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="4933301190614090397">ควบคุมระยะเวลา (เป็นวินาที) ที่อนุญาตให้มีคำขอ Keepalive เมื่อปิดเบราว์เซอร์ |
| |
| เมื่อระบุ จะมีการบล็อกไม่ให้ปิดเบราว์เซอร์จนถึงจำนวนวินาทีที่ระบุเพื่อประมวลผลคำขอ Keepalive (https://fetch.spec.whatwg.org/#request-keepalive-flag) |
| |
| ค่าเริ่มต้น (0) หมายถึงฟีเจอร์นี้ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="4937423591320233496">ปิดใช้เนื้อหาที่แนะนำ</translation> |
| <translation id="4942096314850617489">ปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4942681160308347946">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดการอธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะปิดการอธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอดังกล่าว |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการอธิบายและอ่านออกเสียงได้ชั่วคราว เมื่อหน้าจอลงชื่อเข้าใช้โหลดซ้ำหรือไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 1 นาที ฟีเจอร์นี้จะเปลี่ยนกลับไปอยู่ในสถานะเดิม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การอธิบายและอ่านออกเสียงจะปิดอยู่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้จะเปิดใช้เมื่อใดก็ได้ และสถานะนั้นในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้จะยังคงอยู่ตลอดระหว่างการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน |
| |
| หมายเหตุ: <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_SPOKEN_FEEDBACK_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะลบล้างนโยบายนี้หากระบุนโยบายเดิมไว้</translation> |
| <translation id="4945419595339133946">ระบุว่าข้อมูลระบบ (เช่น เวอร์ชัน Chrome OS, หมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์) แสดง (หรือซ่อน) เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ข้อมูลระบบจะถูกบังคับให้แสดง |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ข้อมูลระบบจะถูกบังคับให้ซ่อน |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การทำงานเริ่มต้น (แสดงสำหรับ Canary/เวอร์ชันที่กำลังพัฒนา) ผู้ใช้สลับการมองเห็นตามการทำงานเฉพาะได้ (เช่น Alt-V)</translation> |
| <translation id="494613465159630803">Cast Receiver</translation> |
| <translation id="494924690085329212">รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบหาก Android เริ่มต้นแล้ว</translation> |
| <translation id="4950447493143157880">ไม่ใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัว</translation> |
| <translation id="4954185885991137927">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดการรายงานแบบขยายของ Google Safe Browsing ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งส่งข้อมูลบางอย่างของระบบและเนื้อหาของหน้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อช่วยตรวจหาแอปและเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าจะไม่มีการส่งรายงาน |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกว่าจะส่งรายงานหรือไม่ |
| |
| ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing (https://developers.google.com/safe-browsing)</translation> |
| <translation id="4954352279763128540">เพิ่มโดเมนที่กรอกไว้ล่วงหน้าลงในกล่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ช่อง "ชื่อผู้ใช้ Kerberos" จะแสดงโดเมนที่กรอกไว้ล่วงหน้าทางด้านขวา หากผู้ใช้ป้อนชื่อผู้ใช้ ระบบจะเชื่อมโยงกับโดเมนที่กรอกไว้ล่วงหน้าดังกล่าว หากผู้ใช้ป้อนข้อมูลที่มี "@" โดเมนที่กรอกไว้ล่วงหน้าจะไม่แสดงและไม่ส่งผลต่อการป้อนข้อมูลนั้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่แสดงข้อมูลเพิ่มเติมและการสร้างตั๋วจะทำงานตามปกติ</translation> |
| <translation id="4955566229684195326">การตั้งค่านี้อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและใช้โปรไฟล์รอง และใช้โหมดผู้มาเยือนในเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะไม่สามารถสร้างหรือใช้โปรไฟล์รองและโหมดผู้มาเยือนได้ ซึ่งคล้ายกับทั้งนโยบาย <ph name="BROWSER_ADD_PERSON_ENABLED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="BROWSER_GUEST_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> โปรไฟล์รองที่สร้างก่อนหน้านี้ (หากมี) จะใช้ไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ผู้ใช้จะสามารถสร้างและใช้โปรไฟล์รองรวมถึงโหมดผู้มาเยือนได้ |
| |
| โปรดทราบว่าหากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แต่ตั้งค่า <ph name="BROWSER_ADD_PERSON_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" ผู้ใช้จะสร้างโปรไฟล์รองไม่ได้ และการตั้งค่าดังกล่าวจะทำงานเหมือนกันสำหรับนโยบาย <ph name="BROWSER_GUEST_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> กับโหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="4960597185231686653">ธงบูลีนที่ระบุว่าแป้นพิมพ์บนหน้าจอจะมีฟีเจอร์การป้อนข้อมูลด้วยเสียงหรือไม่</translation> |
| <translation id="4970046075219007744">อนุญาตให้เว็บแอปขอสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ จากผู้ใช้ผ่าน File Handling API</translation> |
| <translation id="4970855112942626932">ปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="4974091268178043378">โหมดสีสำหรับ ChromeOS</translation> |
| <translation id="4978533099939732984">แสดงคำเตือนพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อยเสมอ</translation> |
| <translation id="4979714585847741269">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าเว็บแอปคีออสก์สามารถเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์อื่นขึ้นมาอีกในหน้าจอเดียวกันหรือในหน้าจออื่นก็ได้ ในการเปิดหน้าต่างใหม่ เว็บแอปควรเรียกใช้ฟังก์ชัน JavaScript <ph name="OPEN_NEW_WINDOW_JS" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทําให้เว็บแอปคีออสก์ใช้เฉพาะหน้าต่างเบราว์เซอร์หลักและไม่สามารถเปิดหน้าต่างใหม่ได้ ระบบจะละเว้นการเรียกใช้ฟังก์ชัน JavaScript สําหรับการเปิดหน้าต่างใหม่</translation> |
| <translation id="4980635395568992380">ประเภทข้อมูล:</translation> |
| <translation id="4981523774025330439">ใบรับรอง TLS ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเชื่อถือไม่ได้แต่สามารถใช้ในการสร้างเส้นทางเพื่อการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="4981831669478419057">ฟีเจอร์รายการช็อปปิ้งจะไม่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="4983201894483989687">อนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว</translation> |
| <translation id="4986560318567565414">เส้นทางไปยัง Chrome เพื่อเปลี่ยนจากเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="4987813583395474995">หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ระบบจะสามารถใช้ U2F Security Key API ที่เลิกใช้งานไปแล้ว และจะไม่มีการแสดงข้อความแจ้งเตือนการเลิกใช้งานสำหรับคำขอ U2F API |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น |
| |
| U2F Security Key API เลิกใช้งานไปแล้วและจะถูกปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน Chrome 98 |
| |
| โดยเป็นกลไกการเลือกไม่ใช้แบบชั่วคราว ระบบจะนำ U2F API ออกจาก Chrome ใน Chrome 104 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นนโยบายนี้จะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลิกใช้งาน U2F Security Key API ได้ที่ https://groups.google.com/a/chromium.org/g/blink-dev/c/xHC3AtU_65A</translation> |
| <translation id="4988291787868618635">การทำงานที่ต้องทำเมื่อถึงระยะหน่วงเวลาของการไม่ใช้งาน</translation> |
| <translation id="4991786313466977061">ควบคุมระดับการมองเห็นการติดป้ายองค์กร</translation> |
| <translation id="4995123966071996433">ไม่อนุญาตให้ส่งต่อพอร์ตไปยังเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="4996068111491152684">ระบบจะไม่ใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เครือข่าย</translation> |
| <translation id="4996086761250834365">อนุญาตการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="4996161752665479028">เปิดใช้ SSH ในแอประบบเทอร์มินัล</translation> |
| <translation id="499654521603185442">การรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="4997074784107449343">ตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพจะมีค่าเริ่มต้นเป็นไม่ได้ตั้งค่าสำหรับตัวอย่างก่อนพิมพ์เอกสาร PDF เมื่อพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="500149597848135831">เปิดใช้รูปแบบทั้งหมด</translation> |
| <translation id="5006222080181284191">ควบคุมการเปิดใช้ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" ของ ChromeOS</translation> |
| <translation id="5017157692744444035">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูลที่สามารถใช้ระบุเครื่องหรือไม่ เช่น ชื่อเครื่องและที่อยู่ของเครือข่าย |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูลที่ใช้ระบุเครื่องได้ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูลที่ใช้ระบุเครื่องได้ |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น</translation> |
| <translation id="5017369989680827157">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าให้ผู้ใช้ควบคุมการป้อนที่อยู่อัตโนมัติใน UI ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าการป้อนข้อความอัตโนมัติจะไม่แนะนำหรือกรอกข้อมูลที่อยู่ และจะไม่บันทึกข้อมูลที่อยู่อื่นๆ ที่ผู้ใช้ส่งขณะท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="5017691827598069017">เปิดใช้การจับคู่ด่วน (การจับคู่บลูทูธด่วน)</translation> |
| <translation id="5021550478471824215">การตั้งค่านโยบายจะระบุรายการพื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายซึ่งกำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ละรายการย่อยคือออบเจ็กต์ที่มีพร็อพเพอร์ตี้ 2 รายการ ได้แก่ <ph name="SHARE_URL_FIELD_NAME" /> และ <ph name="MODE_FIELD_NAME" /> |
| |
| URL พื้นที่แชร์ควรเป็น <ph name="SHARE_URL_FIELD_NAME" /> |
| |
| สำหรับ <ph name="MODE_FIELD_NAME" /> ควรเป็น <ph name="MODE_ENUM_DROP_DOWN" /> หรือ <ph name="MODE_ENUM_PRE_MOUNT" /> |
| |
| * <ph name="MODE_ENUM_DROP_DOWN" /> บ่งชี้ว่าจะมีการเพิ่ม <ph name="SHARE_URL_FIELD_NAME" /> ลงในรายการการสำรวจพื้นที่แชร์ |
| |
| * <ph name="MODE_ENUM_PRE_MOUNT" /> บ่งชี้ว่าจะมีการต่อเชื่อม <ph name="SHARE_URL_FIELD_NAME" /></translation> |
| <translation id="5025239932007658691">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ส่งการค้นหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นครั้งคราวเพื่อเรียกการประทับเวลาที่ถูกต้อง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะหยุด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ให้ส่งการค้นหาเหล่านี้</translation> |
| <translation id="5030415914668947893">อนุญาตการรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL</translation> |
| <translation id="5033070732967197381">อนุญาตคำขอ WebAuthn API ในเว็บไซต์ที่มีใบรับรอง TLS ไม่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="5034504101537897433">เปิดใช้การรายงานรายละเอียดข้อขัดข้องของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5036013147560568855">เวอร์ชันของโปรโตคอลการจัดสรรใบรับรอง ค่าเริ่มต้นคือ 1 1 คือโปรโตคอล "คงที่" 2 คือโปรโตคอล "ไดนามิก"</translation> |
| <translation id="5037749623252479780">ปิดการตั้งค่า PageUp/PageDown</translation> |
| <translation id="5039110755072335605">การรองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS</translation> |
| <translation id="504116558738617678">แสดงคำเตือนพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อยเฉพาะในกรณีที่อุปกรณ์ไม่มีการจัดการหรือมีผู้ใช้เพียงคนเดียว</translation> |
| <translation id="5041315457555330432">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในที่อยู่ IP ส่วนตัวเท่านั้น เว้นแต่จะเปิดฟีเจอร์ CastAllowAllIPs ไว้</translation> |
| <translation id="504689994545234073">เปิดใช้การจัดเก็บไฟล์ของผู้ใช้ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="5055474681190962362">วันที่ของเดือน [1-31] ที่ควรมีการรีบูต โดยตีความในเขตเวลาท้องถิ่นของอุปกรณ์ ใช้เมื่อ "frequency" เท่ากับ "MONTHLY" เท่านั้น หากต้องการระบุจำนวนที่มากกว่าจำนวนวันสูงสุดในเดือนหนึ่งๆ ให้เลือกวันสุดท้ายของเดือน</translation> |
| <translation id="5056708224511062314">ปิดใช้งานแว่นขยายหน้าจอ</translation> |
| <translation id="5058573563327660283">เลือกกลยุทธ์ที่ใช้ในการเพิ่มพื้นที่ว่างของดิสก์ระหว่างการล้างข้อมูลอัตโนมัติ (เลิกใช้แล้ว)</translation> |
| <translation id="5061114193960158745">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมรายการเว็บไซต์ที่จะไม่ทำให้มีการเปลี่ยนเบราว์เซอร์ ระบบจะถือว่ารายการย่อยแต่ละรายการเป็นกฎ กฎที่ตรงกันจะไม่เปิดเบราว์เซอร์สำรอง ซึ่งต่างจากนโยบาย <ph name="URL_LIST_POLICY_NAME" /> ที่กฎต่างๆ จะใช้กับทั้ง 2 ทาง เมื่อ Add-in ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> เปิดอยู่ ก็จะเป็นตัวควบคุมด้วยว่า <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ควรเปิด URL เหล่านี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> หรือไม่ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะไม่เพิ่มเว็บไซต์ลงในรายการ |
| |
| โปรดทราบว่าคุณเพิ่มเอลิเมนต์ลงในรายการนี้ผ่านนโยบาย <ph name="EXTERNAL_SITELIST_URL_POLICY_NAME" /> ได้ด้วย</translation> |
| <translation id="5063480226653192405">การใช้</translation> |
| <translation id="5067143124345820993">ลงชื่อเข้าใช้รายชื่อผู้ใช้ที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="50689955292091946">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5069522005630249098">การตั้งค่านี้เป็นตัวกำหนดปริมาณข้อมูลผู้ใช้ที่ระบบจะเก็บไว้หลังจากปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_BACKWARD_MIGRATION_NONE" /> หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่ดำเนินการย้ายข้อมูลย้อนหลัง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_BACKWARD_MIGRATION_KEEP_NONE" /> ระบบจะนำข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดออก ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_BACKWARD_MIGRATION_KEEP_SAFE_DATA" /> ระบบจะนำข้อมูลผู้ใช้ส่วนใหญ่ออก โดยจะเก็บเฉพาะไฟล์ที่ไม่เกี่ยวกับเบราว์เซอร์ (เช่น ไฟล์ที่ดาวน์โหลด) |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_BACKWARD_MIGRATION_KEEP_ALL" /> ระบบจะเก็บข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมด ตัวเลือกนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลวและต้องทำการ Powerwash เพื่อกู้คืน</translation> |
| <translation id="5071303485174858500">ปิดใช้เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแบบจำกัด</translation> |
| <translation id="5073609397321802133">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หน้าแท็บใหม่จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งพื้นหลัง ระบบจะนำพื้นหลังที่กำหนดเองที่มีอยู่ทั้งหมดออกอย่างถาวร แม้จะมีการตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ในภายหลัง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะปรับแต่งพื้นหลังในหน้าแท็บใหม่ได้</translation> |
| <translation id="5073788301065423829">นโยบายนี้จะเปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" ใน ChromeOS |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ "ช่วยฉันเขียน" ในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการและปิดใช้ในอุปกรณ์ที่มีการจัดการโดยองค์กร</translation> |
| <translation id="5076953589932162038">การตั้งค่าชุดบุคคลที่หนึ่ง</translation> |
| <translation id="5078623750797048009">เปิดใช้คำอธิบายประกอบ PDF</translation> |
| <translation id="5080300140183363718">การตั้งค่าการย้ายข้อมูลการแยกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="5081204761483900654">เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแบบจำกัด</translation> |
| <translation id="5082296146261894974">อนุญาตให้ผู้ใช้คลิกการแจ้งเตือนฮับโทรศัพท์เพื่อเปิดแอปพลิเคชัน Eche</translation> |
| <translation id="5082572440690475059">อนุญาตสิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านผ่าน File System API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5085647276663819155">ปิดใช้งานหน้าตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="5087932158260897375">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้การรายงานข้อมูลการวินิจฉัยความเสถียรของโดเมนและจะไม่ส่งข้อมูลไปยัง Google |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า การรายงานข้อมูลการวินิจฉัยความเสถียรของโดเมนจะเป็นไปตามลักษณะการทำงานของ MetricsReportingEnabled สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> หรือ DeviceMetricsReportingEnabled สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5090791951240382356">อนุญาตให้รวมนโยบายพจนานุกรมจากแหล่งที่มาต่างๆ</translation> |
| <translation id="5091315650312105069">อนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์<ph name="BASIC_AUTH" />สำหรับ HTTP</translation> |
| <translation id="5093603777978346818">อย่าเปิดใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอในหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="5099239365323299669">ตั้งแต่ M106 จะไม่รองรับโควต้าถาวรอีกต่อไป นโยบายนี้จะเปิดใช้ฟังก์ชันการทำงานของโควต้าถาวรอีกครั้งจนถึง M107 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" webkitRequestFileSystem ที่มีประเภทเป็นถาวรจะทำงานด้วยโควต้าถาวร |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือปิดใช้ไว้ webkitRequestFileSystem ที่มีประเภทเป็นถาวรจะทำงานด้วยโควต้าชั่วคราว |
| </translation> |
| <translation id="5105313908130842249">ระยะหน่วงเวลาการล็อกหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="510604120100968366">เปิดใช้ฟีเจอร์เสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำ |
| |
| ฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่ส่งเสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะส่งเสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำเมื่อระดับแบตเตอรี่หรือเวลาใช้งานที่เหลือลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่ส่งเสียงเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ในตอนแรกฟีเจอร์นี้จะปิดใช้สำหรับผู้ใช้ในปัจจุบัน หรือเปิดใช้สำหรับผู้ใช้ใหม่ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่มีการจัดการ แต่ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="5108031557082757679">เครื่องพิมพ์สำหรับอุปกรณ์ขององค์กรที่มีการปิดใช้</translation> |
| <translation id="5109383437323376357">กำหนดความพร้อมใช้งานของรูปแบบต่างๆ</translation> |
| <translation id="5109866581154565900">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงหน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดต่อผู้ใช้หรือไม่ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" หน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดจะไม่แสดง |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดจะแสดงขึ้น</translation> |
| <translation id="5110138546901711282">ควบคุมแป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นนโยบายเสริมของนโยบาย <ph name="VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| หากไม่ได้เปิดใช้ นโยบายนี้จะมีผลในหน้าจอการเข้าสู่ระบบดังต่อไปนี้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ แป้นพิมพ์เสมือนจะแสดงตามการเรียนรู้เริ่มต้นของระบบ เช่น มีการเชื่อมต่อแป้นพิมพ์หรือไม่ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์เสมือนจะแสดงเสมอ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์เสมือนจะไม่แสดง |
| |
| แป้นพิมพ์เสมือนอาจเปลี่ยนเป็นรูปแบบกะทัดรัดขึ้นอยู่กับวิธีการป้อนข้อมูล</translation> |
| <translation id="5117533544648311089">ให้คุณระบุค่ากำหนดสำหรับ URL การตรวจสอบสิทธิ์ใน "<ph name="WEBVIEW_PRODUCT_NAME" />" ได้ |
| |
| "<ph name="WEBVIEW_PRODUCT_NAME" />" จะดำเนินการกับ URL การตรวจสอบสิทธิ์เหล่านี้เป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์เมื่อมีการนำทางหน้าเว็บใน "<ph name="WEBVIEW_PRODUCT_NAME" />" ไปยัง URL ดังกล่าว ระบบจะเปิดแอป Authenticator ของผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวที่เกี่ยวข้องขึ้นมาที่สามารถจัดการ URL การตรวจสอบสิทธิ์นี้ได้ |
| |
| ผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวจะใช้ขั้นตอนการเปิดแอป Authenticator ดังกล่าวเพื่อเปิดใช้กรณีการใช้งานต่างๆ เช่น การให้บริการ SSO ในแอป หรือการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้นโดยการรวบรวมสัญญาณของอุปกรณ์ Zero Trust เพื่อให้ทราบลักษณะการทำงานด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ |
| |
| หากไม่ติดตั้งแอปที่ใช้จัดการ URL การตรวจสอบสิทธิ์ได้ไว้ในอุปกรณ์ ระบบจะนำทางต่อใน "<ph name="WEBVIEW_PRODUCT_NAME" />" |
| |
| รูปแบบ URL การตรวจสอบสิทธิ์ต้องเป็นไปตาม https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format |
| </translation> |
| <translation id="5118635822783657217">ปิดใช้การอัปเดตสำหรับคอมโพเนนต์ที่ไม่สำคัญ</translation> |
| <translation id="5120168808610189805">เปิดใช้การนำเข้าหน้าแรกเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="5124368997194894978">เปิดใช้การบูตด้วย AC (ไฟฟ้ากระแสสลับ)</translation> |
| <translation id="5130213897914754028">ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ต่างๆ ใช้ SharedArrayBuffers</translation> |
| <translation id="5130935469849337738">เสนอการแปลทุกครั้ง</translation> |
| <translation id="5138579693170759139">นโยบายนี้ให้ผู้ดูแลระบบควบคุมวิธีที่ Google ประมวลผลคุกกี้และข้อมูลที่ส่งไปยัง Search ผ่าน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ |
| เมื่อเปิดใช้นโยบาย ผู้ใช้จะใช้ช่องค้นหาใน Launcher ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> และช่องที่อยู่ของเบราว์เซอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ ระบบอาจใช้คุกกี้และข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเป็นเท่านั้น |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือปิดใช้ไว้ ระบบอาจใช้คุกกี้และข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่จำเป็น</translation> |
| <translation id="5141670636904227950">ตั้งค่าประเภทของแว่นขยายหน้าจอเริ่มต้นที่เปิดใช้งานบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5142301680741828703">แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้ใน <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="5148753489738115745">ช่วยให้คุณสามารถกำหนดพารามิเตอร์เพิ่มเติมที่จะนำมาใช้เมื่อ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> เปิดใช้งาน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้เอาไว้ คำสั่งที่เป็นค่าเริ่มต้นจะถูกนำมาใช้</translation> |
| <translation id="5151099177901233471">เปิดใช้การรายงานข้อมูลเขตเวลาของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5152393033264257734">อนุญาตการตรวจสอบการสกัดกั้น DNS และแถบข้อมูล "หรือคุณหมายถึง http://intranetsite/"</translation> |
| <translation id="5152787786897382519">ทั้ง Chromium และ Google Chrome ต่างก็มีกลุ่มนโยบายที่พึ่งพากันและกันเพื่อให้การควบคุมฟีเจอร์หนึ่งๆ ชุดเหล่านี้แสดงด้วยกลุ่มนโยบายต่อไปนี้ เนื่องจากนโยบายมีแหล่งที่มาได้หลายแหล่ง ระบบจึงจะใช้เฉพาะค่าที่มาจากแหล่งที่มาที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด และจะไม่สนใจค่าที่มาจากแหล่งที่มาที่มีลำดับความสำคัญต่ำในกลุ่มเดียวกัน ลำดับความสำคัญกำหนดไว้ใน <ph name="POLICY_PRIORITY_DOC_URL" /></translation> |
| <translation id="5153187201534281749">ไอคอนการทดสอบเบราว์เซอร์แถบเครื่องมือ</translation> |
| <translation id="5159674159887919923">อย่าส่งข้อมูลฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมบน ChromeOS Flex</translation> |
| <translation id="5163002264923337812">เปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้ผ่านเว็บแบบเก่า</translation> |
| <translation id="5163889437570441600">อนุญาตให้แคสต์เนื้อหาไปยังอุปกรณ์โดยใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ผู้ใช้จะแคสต์เนื้อหาไปยังอุปกรณ์ไม่ได้ หากตั้งค่าเป็น "จริง" ผู้ใช้จะแคสต์เนื้อหาได้ และหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะไม่สามารถแคสต์เนื้อหาไปยังอุปกรณ์ Chrome OS ที่ลงทะเบียนไว้ แต่จะแคสต์ไปยังอุปกรณ์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนได้</translation> |
| <translation id="5164141068091580679">เปิดใช้ฟีเจอร์และส่งข้อมูลเพื่อช่วยฝึกโมเดล AI</translation> |
| <translation id="516520353995300280">การตั้งค่านโยบายจะปิดใช้การบังคับใช้ข้อกำหนดการเปิดเผยความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับรายชื่อผู้ออกใบรับรอง (CA) เดิมของกลุ่มใบรับรองซึ่งมีแฮช <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ที่ระบุ โฮสต์ที่เป็นองค์กรจะใช้ใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือ (เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเหมาะสม) ต่อไปได้ หากต้องการปิดใช้การบังคับใช้ แฮช <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ต้องแสดงในใบรับรอง CA ที่ถือว่าเป็น CA เดิม โดย CA เดิม คือ CA ที่ได้รับความเชื่อถือต่อสาธารณะจากระบบปฏิบัติการอย่างน้อย 1 ระบบซึ่งรองรับโดย <ph name="PRODUCT_NAME" /> แต่ไม่ใช่โครงการโอเพนซอร์ส Android หรือ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| ระบุแฮช <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ได้จากการต่อชื่ออัลกอริทึมของแฮช เครื่องหมายทับ และการเข้ารหัส Base64 ของอัลกอริทึมของแฮชนั้นนำไปใช้กับ <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ที่เข้ารหัส DER ของใบรับรองที่ระบุ การเข้ารหัส Base64 นี้เป็นรูปแบบเดียวกับลายนิ้วมือ SPKI ระบบรู้จักอัลกอริทึมของแฮชเพียงรายการเดียวนั่นคือ sha256 และจะไม่สนใจอัลกอริทึมของแฮชอื่นๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าหากไม่มีการเปิดเผยความโปร่งใสของใบรับรองตามที่ใบรับรองกำหนด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ก็จะไม่เชื่อถือใบรับรองนั้น</translation> |
| <translation id="5168529971295111207">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว ให้ใช้ ProxyMode แทน |
| |
| ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลต่อเมื่อไม่มีการระบุนโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| หากคุณเลือกที่จะไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ระบบจะไม่สนใจตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมด |
| |
| หากคุณเลือกใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบหรือตรวจหาพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ระบบจะไม่สนใจตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมด |
| |
| หากคุณเลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง คุณจะระบุตัวเลือกอื่นๆ ได้ใน "ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์", "URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี" และ "รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค" มีเฉพาะพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ HTTP ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับแอป ARC |
| |
| ดูตัวอย่างโดยละเอียดได้ที่ |
| <ph name="PROXY_HELP_URL" /> |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่สนใจตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวกับพร็อกซีที่ระบุไว้ในบรรทัดคำสั่ง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ใช้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีเองได้</translation> |
| <translation id="5170018694841697392">ไม่บังคับใช้ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยใน Google Search</translation> |
| <translation id="5172841243186654432">หากไม่ตั้งค่านโยบาย <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_POLICY_NAME" /> ให้กู้คืน URL จากเซสชันก่อนหน้าโดยถาวร การตั้งค่า <ph name="COOKIES_SESSION_ONLY_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ก็จะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะตั้งค่าคุกกี้ได้และไม่ได้สำหรับเซสชันหนึ่งๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการใช้ <ph name="DEFAULT_COOKIES_SETTINGS_POLICY_NAME" /> กับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล URL ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่ระบุไว้ก็จะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นเช่นกัน |
| |
| แม้จะไม่มีนโยบายที่มีความสำคัญเหนือกว่า แต่ให้ดู <ph name="COOKIES_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="COOKIES_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> รูปแบบ URL ใน 3 นโยบายนี้ต้องไม่ขัดแย้งกัน |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="5174547204575752627">นโยบายนี้ควบคุมการเปลี่ยนโครงสร้างภายในโค้ดล่าสุดสำหรับ VideoDecoder API ในปลั๊กอิน PPAPI |
| |
| การย้ายข้อมูลจะส่งผลต่อรายละเอียดการใช้งานภายในเท่านั้น และไม่ควรเปลี่ยนลักษณะการทำงานใดๆ อย่างไรก็ตาม คุณจะใช้นโยบายนี้ได้ในกรณีที่แอปพลิเคชัน PPAPI ไม่ทำงานตามที่คาดไว้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" เบราว์เซอร์จะตัดสินใจว่าจะใช้การติดตั้งใช้งานรายการใด |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" เบราว์เซอร์จะใช้การใช้งานเดิมจนกว่านโยบายจะหมดอายุ |
| |
| หมายเหตุ: เฉพาะกระบวนการแสดงผลที่เพิ่งเริ่มใหม่เท่านั้นที่จะแสดงการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ขณะที่เบราว์เซอร์ทำงานอยู่</translation> |
| <translation id="5177260184597743704">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise OnSecurityEvent</translation> |
| <translation id="5178479074002209469">ธงบูลีนที่ระบุว่าเซสชันผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการควรได้รับการแจ้งเตือนและจะถูกบังคับให้ออกจากระบบหรือไม่หากต้องมีการอัปเดตตามนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="5179853299156742425">URL ที่ไปดาวน์โหลดเทมเพลตเดสก์ได้</translation> |
| <translation id="5182483318861266793">กำหนดตำแหน่งชั้นวางให้อยู่ที่ด้านขวาของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="51859390023061147">ปิดใช้ฟีเจอร์การคืนค่าโดยสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="5189360528842591274">อนุญาตการเชื่อมต่อกับบริการบลูทูธในรายการเท่านั้น</translation> |
| <translation id="5190426551516379357">การตั้งค่านโยบายจะบังคับใช้โหมดที่จำกัดขั้นต่ำใน YouTube และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เลือกโหมดที่จำกัดต่ำกว่านี้ หากตั้งค่านี้เป็น |
| |
| * "เข้มงวด" ระบบจะใช้โหมดที่จำกัดเข้มงวดใน YouTube เสมอ |
| |
| * "ปานกลาง" ผู้ใช้อาจเลือกได้เฉพาะโหมดที่จำกัดปานกลางและโหมดที่จำกัดเข้มงวดใน YouTube แต่จะปิดใช้โหมดที่จำกัดไม่ได้ |
| |
| * "ปิด" หรือไม่ได้ตั้งค่า Chrome จะไม่บังคับใช้โหมดที่จำกัดใน YouTube แต่นโยบายภายนอก เช่น นโยบายของ YouTube อาจยังคงบังคับใช้โหมดที่จำกัด</translation> |
| <translation id="5191476996923842491">พฤติกรรมเริ่มต้นสำหรับการปรับฟังก์ชัน setTimeout()</translation> |
| <translation id="519247340330463721">กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับ Safe Browsing</translation> |
| <translation id="5192555640439947289">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะขอรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์เมื่อมีการระงับการใช้งานหรือพับจอ |
| |
| อุปกรณ์จะล็อกเมื่อพับจอ ยกเว้นในกรณีที่วางบนแท่นชาร์จ (โดยใช้จอแสดงผลภายนอก) ในกรณีดังกล่าว อุปกรณ์จะไม่ล็อกเมื่อพับจอ แต่จะล็อกหากเลิกใช้จอแสดงผลภายนอกและยังคงพับจออยู่ |
| |
| นโยบายนี้จะล็อกอุปกรณ์เมื่อมีการระงับการใช้งานเท่านั้นจนถึง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> M106 ตั้งแต่ M106 เป็นต้นไป นโยบายนี้จะล็อกอุปกรณ์เมื่อมีการระงับการใช้งานหรือพับจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" และ <ph name="LID_CLOSE_ACTION_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="LID_CLOSE_ACTION_ENUM_DO_NOTHING" /> อุปกรณ์จะล็อกเมื่อพับจอ แต่จะระงับการใช้งานเมื่อกำหนดค่าไว้ใน <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| โปรดทราบว่าหากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" และตั้งค่า <ph name="ALLOW_SCREEN_LOCK_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" อุปกรณ์จะล็อกไม่ได้และผู้ใช้จะออกจากระบบแทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าระบบจะไม่ขอรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะให้มีการขอรหัสผ่านเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์หรือไม่</translation> |
| <translation id="5194683382395300627">อนุญาตให้ใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" บนเว็บ เช่น เพื่อเปิดใช้การเปลี่ยนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="5196630732055960309">อนุญาตให้ใช้ File Handling API ในเว็บแอปเหล่านี้</translation> |
| <translation id="5205352023880027050">อย่าเปิดใช้ฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies</translation> |
| <translation id="5206454085187851382">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_ALLOWLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="PRINTERS_BULK_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="PRINTERS_BULK_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ได้ จะมีเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="5207543664699568887">กำหนดค่าว่าจะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใน Linux ใช้การแจ้งเตือนของระบบหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะได้รับอนุญาตให้ใช้การแจ้งเตือนของระบบ |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้การแจ้งเตือนของระบบ ระบบจะใช้ศูนย์ข้อความของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นวิธีสำรอง</translation> |
| <translation id="5207700504551161524">กำหนดค่ารายการรูปภาพที่จะแสดงในโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| แต่ละรายการต้องเป็น URL ที่อ้างอิงไฟล์ภาพ โดยรูปแบบรูปภาพต้องเป็น JPEG และมีขนาดไฟล์ไม่เกิน 8 MB ระบบจะไม่สนใจ URL ที่ไม่ถูกต้องและรูปภาพที่ไม่รองรับ อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดรูปภาพเหล่านี้และจัดเก็บไว้ที่แคชในเครื่อง |
| |
| ระบบจำกัดจำนวนรูปภาพที่แสดงในโปรแกรมรักษาหน้าจอไว้ที่ 25 ภาพ โดยจะใช้ URL 25 รายการแรกเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือรายการไม่มีการอ้างอิงรูปภาพที่ถูกต้อง โปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบจะไม่แสดง ไม่ว่าจะตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> ว่าอย่างไร</translation> |
| <translation id="5208675398826212411">นโยบายนี้กำหนดลักษณะการเปลี่ยนเส้นทางอินทราเน็ตผ่านการตรวจสอบการสกัดกั้น DNS การตรวจสอบจะพยายามหาว่าเบราว์เซอร์อยู่หลังพร็อกซีที่เปลี่ยนเส้นทางชื่อโฮสต์ที่ไม่รู้จักหรือไม่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เบราว์เซอร์จะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของการตรวจสอบการสกัดกั้น DNS และคำแนะนำการเปลี่ยนเส้นทางอินทราเน็ต ลักษณะการทำงานเหล่านี้จะเปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้นในรุ่น M88 แต่จะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นในรุ่นต่อไป |
| |
| <ph name="DNS_INTERCEPTION_CHECKS_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS ด้วย นโยบายนี้เป็นเวอร์ชันที่ยืดหยุ่นมากกว่าซึ่งอาจควบคุมแถบข้อมูลการเปลี่ยนเส้นทางอินทราเน็ตแยกต่างหากและอาจมีการขยายการใช้งานในอนาคต |
| หาก <ph name="DNS_INTERCEPTION_CHECKS_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือนโยบายนี้ขอปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น ระบบก็จะปิดใช้การตรวจสอบ</translation> |
| <translation id="5210133032276211845">ล้างรูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้</translation> |
| <translation id="5212118847531454979">อนุญาตให้คุณตั้งค่าระยะเวลา (หน่วยเป็นมิลลิวินาที) ที่จะแสดงการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่าต้องเปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ขึ้นมาใหม่หรือต้องรีสตาร์ทอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เพื่อนำอัปเดตที่รอดำเนินการไปใช้ |
| |
| ระหว่างช่วงเวลานี้ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนอยู่เรื่อยๆ ว่าต้องทำการอัปเดต สำหรับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> การแจ้งเตือนให้รีสตาร์ทจะปรากฏในถาดระบบตามนโยบาย <ph name="RELAUNCH_HEADS_UP_PERIOD_POLICY_NAME" /> สำหรับเบราว์เซอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมนูแอปจะเปลี่ยนไปเพื่อบ่งชี้ว่าผู้ใช้ต้องเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่เมื่อระยะเวลาแจ้งเตือนผ่านไป 1 ใน 3 จากนั้นการแจ้งเตือนจะเปลี่ยนสีเมื่อระยะเวลาแจ้งเตือนผ่านไป 2 ใน 3 ของระยะเวลาทั้งหมด และเปลี่ยนสีอีกครั้งเมื่อการแจ้งเตือนครบกำหนด การแจ้งเตือนอื่นๆ ที่เปิดใช้โดยนโยบาย <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_POLICY_NAME" /> จะเป็นไปตามกำหนดเวลานี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ระยะเวลาเริ่มต้น 604,800,000 มิลลิวินาที (1 สัปดาห์)</translation> |
| <translation id="5212810195096589189">ระบุสิทธิ์ CLI สำหรับ VM</translation> |
| <translation id="5213038356678567351">เว็บไซต์ที่ไม่ควรทริกเกอร์การเปลี่ยนเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="5216815237712190041">กำหนดค่ารูปภาพวอลเปเปอร์ระดับอุปกรณ์ซึ่งจะแสดงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบหากยังไม่มีผู้ใช้รายใดลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์เครื่องดังกล่าว นโยบายนี้กำหนดได้ด้วยการระบุ URL ที่อุปกรณ์ Chrome OS สามารถใช้ดาวน์โหลดรูปภาพวอลเปเปอร์และแฮชแบบเข้ารหัสที่ใช้ในการยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด รูปภาพต้องอยู่ในรูปแบบ JPEG และมีขนาดไม่เกิน 16 MB ส่วน URL ก็ต้องเข้าถึงได้โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ ระบบจะดาวน์โหลดและแคชรูปภาพวอลเปเปอร์ แล้วจะดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายวอลเปเปอร์ของอุปกรณ์ไว้ อุปกรณ์ Chrome OS จะดาวน์โหลดและใช้รูปภาพวอลเปเปอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบหากยังไม่มีผู้ใช้รายใดลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์เครื่องดังกล่าว เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ นโยบายวอลเปเปอร์ของผู้ใช้จะทำงานแทน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายวอลเปเปอร์ของอุปกรณ์ นโยบายวอลเปเปอร์ของผู้ใช้จะเลือกสิ่งที่จะแสดงหากมีการตั้งค่านโยบายวอลเปเปอร์ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="5219844027738217407">สำหรับแอป Android นโยบายนี้จะส่งผลต่อไมโครโฟนเท่านั้น เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น True ไมโครโฟนจะปิดเสียงสำหรับแอป Android ทุกแอปโดยไม่มีข้อยกเว้น</translation> |
| <translation id="5222325605346216869">บังคับให้มีการควบคุมตัวจับเวลา JavaScript เบื้องหลัง</translation> |
| <translation id="5223606242837275233">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์เลื่อนไปยังส่วนข้อความที่เฉพาะเจาะจงผ่าน URL</translation> |
| <translation id="5227124062673546005">ควบคุมวิธีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> พิมพ์ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> |
| |
| เมื่อสั่งพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ PostScript ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> วิธีการสร้าง PostScript ที่แตกต่างกันอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการพิมพ์ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าเริ่มต้น <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ชุดตัวเลือกเริ่มต้นเมื่อสร้าง PostScript โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความจะแสดงผลโดยใช้แบบอักษร Type 3 เสมอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น Type 42 <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะแสดงผลข้อความโดยใช้แบบอักษร Type 42 หากเป็นไปได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ PostScript บางเครื่อง |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอยู่ในโหมดเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5227647876065695164">นโยบายนี้ระบุลักษณะการทำงานของการดาวน์เกรดเวอร์ชันในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ การดาวน์เกรดเวอร์ชันคือการเปลี่ยนเป็นเวอร์ชันที่เสถียรกว่า เช่น จากเวอร์ชันเบต้าเป็นเวอร์ชันเสถียร |
| |
| ค่าของนโยบายนี้จะมีผลกับการดาวน์เกรดเวอร์ชันที่ผู้ใช้เริ่มดำเนินการและการดาวน์เกรดเวอร์ชันที่ผู้ดูแลระบบเริ่มดำเนินการ |
| |
| ในการดาวน์เกรดเวอร์ชัน อุปกรณ์อาจย้อนกลับไปเวอร์ชันก่อนหน้าและรีเซ็ต หรือรอให้เวอร์ชันปัจจุบัน (หรือสูงกว่า) พร้อมใช้ในเวอร์ชันดังกล่าวและจะไม่มีการอัปเดตจนกว่าจะถึงเวอร์ชันที่ดาวน์เกรด |
| |
| หากผู้ใช้ที่ลงทะเบียนเริ่มดำเนินการดาวน์เกรดเวอร์ชัน ก็จะเลือกได้ว่าจะรีเซ็ตหรือรอ หรือตัวเลือกดังกล่าวสร้างไว้สำหรับผู้ใช้โดยอิงจากค่าของนโยบายนี้ หากผู้ดูแลระบบเริ่มดำเนินการดาวน์เกรดเวอร์ชันผ่านการตั้งค่า <ph name="CHROME_OS_RELEASE_CHANNEL_POLICY_NAME" /> อุปกรณ์จะย้อนกลับไปเวอร์ชันก่อนหน้าในการตรวจสอบการอัปเดตครั้งถัดไปเมื่อมีการเลือกให้ย้อนกลับไว้เท่านั้น ไม่เช่นนั้น อุปกรณ์จะรอให้เวอร์ชันที่เลือกไว้อัปเดตให้เท่ากับเวอร์ชันปัจจุบัน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าไม่ถูกต้อง ลักษณะการทำงานจะเหมือนกับ "รอให้เวอร์ชันที่เลือกไว้อัปเดตให้เท่ากับเวอร์ชันปัจจุบันในการดาวน์เกรดเวอร์ชัน"</translation> |
| <translation id="5229339291699779956">เปิดใช้ PCIe Tunneling สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง Thunderbolt/USB4 ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ต่อพ่วงทำงานอย่างเต็มศักยภาพ</translation> |
| <translation id="523505283826916779">การตั้งค่าสำหรับการเข้าถึง</translation> |
| <translation id="5235607513961923779">รายงานสถานะกิจกรรมในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะไม่รายงานสถานะกิจกรรมในอุปกรณ์ |
| หากเปิดใช้ ระบบจะรายงานสถานะกิจกรรมในอุปกรณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้สามารถตรวจจับว่าอุปกรณ์ออฟไลน์อยู่หรือไม่ ตราบใดที่ผู้ใช้มีการเชื่อมโยงอยู่</translation> |
| <translation id="5238275681097851753">อนุญาตให้บล็อกนื้อหา "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" บางรายการ</translation> |
| <translation id="5238976843489093540">บังคับให้เปิดใช้การจับคู่ด่วน (การจับคู่บลูทูธด่วน)</translation> |
| <translation id="5239277956452384929">อนุญาตให้เข้าถึงรายการ URL ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="5242361766432467515">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าอาจทำให้ผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลเปิด URL ฝั่งโฮสต์ในเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ในเครื่องได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลส่ง URL ไปยังไคลเอ็นต์ |
| |
| การตั้งค่านี้ไม่มีผลกับการเชื่อมต่อเพื่อรับความช่วยเหลือระยะไกล เนื่องจากโหมดการเชื่อมต่อดังกล่าวไม่รองรับฟีเจอร์นี้ |
| |
| หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป การเปิดใช้จึงไม่ได้หมายความว่าฟีเจอร์จะปรากฏใน UI ของไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="5245647012663146075">ไม่อนุญาตให้เปิดใช้ฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="5245671702326993331">อนุญาตการแจ้งเตือนดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="524637053580639111">เราจะนำนโยบายนี้ออกในเวอร์ชัน M82 โปรดใช้ DeviceMinimumVersion แทน |
| |
| กำหนดค่าข้อกำหนดของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันต่ำสุดที่อนุญาต เวอร์ชันที่ระบุด้านล่างถือเป็นเวอร์ชันที่ล้าสมัย และอุปกรณ์จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ก่อนที่จะอัปเดตระบบปฏิบัติการ |
| |
| หากเวอร์ชันปัจจุบันล้าสมัยในระหว่างที่มีเซสชันของผู้ใช้ ผู้ใช้จะถูกบังคับให้ออกจากระบบ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ จะไม่มีการใช้ข้อจำกัดและผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้ได้ไม่ว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเป็นเวอร์ชันใดก็ตาม |
| |
| ในที่นี้ คำว่า "เวอร์ชัน" อาจหมายถึงเวอร์ชันที่เจาะจง เช่น "61.0.3163.120" หรือตัวเลขนำหน้าเวอร์ชัน เช่น "61.0" </translation> |
| <translation id="5247584184349816217">เปิดใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอในหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="5247973380763021389">ป้องกันไม่ให้นโยบายระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์ลบล้างนโยบายระดับแมชชีนบนระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="5249453807420671499">ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Kerberos ได้</translation> |
| <translation id="5249555581286638799">เปิดใช้โหมดประสิทธิภาพสูง</translation> |
| <translation id="5252210248395576403">นโยบายนี้ให้สิทธิ์ฟีเจอร์คำตอบด่วนในการเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อรับผลการแปล |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้คำแปลของคำตอบด่วน |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดใช้คำแปลของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="5252995168844634755">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดเดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอซึ่งอนุญาตให้แอปพลิเคชันต่างๆ ขยายไปยังหลายหน้าจอได้ ผู้ใช้จะปิดใช้เดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอสำหรับหน้าจอบางหน้าได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะปิดเดสก์ท็อปแบบรวมหลายหน้าจอ และผู้ใช้จะเปิดไม่ได้</translation> |
| <translation id="5255162913209987122">สามารถรับคำแนะนำได้</translation> |
| <translation id="525543707238275321">ปิดใช้การรายงานข้อมูล CPU ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5255790642269910630">การตั้งค่านโยบายจะมีการหมุนจอแสดงผลแต่ละจอไปตามการวางแนวที่กำหนดทุกครั้งที่รีบูตและเมื่อเชื่อมต่อเป็นครั้งแรกหลังจากเปลี่ยนค่าของนโยบาย ผู้ใช้อาจเปลี่ยนการหมุนจอแสดงผลได้จากหน้าการตั้งค่าหลังจากลงชื่อเข้าใช้ แต่จอแสดงผลจะเปลี่ยนกลับเมื่อรีบูตครั้งถัดไป นโยบายนี้จะใช้กับจอแสดงผลหลักและรอง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ ค่าเริ่มต้นจะเป็น 0 องศา และผู้ใช้เปลี่ยนค่าได้ตามต้องการ ในกรณีนี้ ระบบจะไม่ใช้ค่าเริ่มต้นซ้ำเมื่อรีสตาร์ท</translation> |
| <translation id="5257395339965216304">ข้อมูลแอปที่โฮสต์ไว้</translation> |
| <translation id="5258445772095084618">อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องใช้เครื่องเสมือนที่จำเป็นต่อการรองรับแอป Linux</translation> |
| <translation id="5262320080678421295">ปิดใช้การเชื่อถือใบรับรองที่ออกโดย PKI เดิมของ Symantec Corporation</translation> |
| <translation id="5273744932022326215">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์จะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์จะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="528302483493794684">การกำหนดค่า VM หมายถึงประเภทหนึ่งของ VM ที่ผู้ใช้ติดตั้งได้ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับรหัสของการกําหนดค่านี้อย่างถาวร รวมถึงการควบคุมที่ใช้กับ VM ประเภทนี้</translation> |
| <translation id="5283151872467063045">ตั้งค่ากำหนดเขตข้อมูลสำหรับการจัดเก็บข้อมูล</translation> |
| <translation id="5283457834853986457">ปิดใช้เครื่องมือค้นหาปลั๊กอิน (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="5285812323239047712">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ Enterprise <ph name="ON_PRINT_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อพิมพ์หน้าหรือไฟล์จาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_URL_LIST_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAGS_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อควรส่งข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์หรือไม่เมื่อมีการเรียกใช้งานการพิมพ์จากหน้าหนึ่งๆ และแท็กใดที่จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์ การวิเคราะห์จะเกิดขึ้นหากมีอย่างน้อย 1 แท็กในคำขอ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> จะระบุว่าผู้ให้บริการการวิเคราะห์ใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_UNTIL_VERDICT_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น 1 หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรอให้มีการตอบสนองจากบริการการวิเคราะห์ก่อนอนุญาตให้แสดงกล่องโต้ตอบการแสดงตัวอย่างการพิมพ์สำหรับหน้าที่พิมพ์ ค่าที่เป็นจำนวนเต็มอื่นๆ หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะแสดงกล่องโต้ตอบการแสดงตัวอย่างการพิมพ์ทันที |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DEFAULT_ACTION_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น "บล็อก" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะบล็อกไม่ให้พิมพ์หน้าเว็บหากเกิดข้อผิดพลาดขณะสื่อสารกับบริการวิเคราะห์ ค่าอื่นๆ หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> อนุญาตให้พิมพ์หน้าเว็บได้ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_LARGE_FILES_FIELD" /> จะควบคุมให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> บล็อกหรืออนุญาตให้วิเคราะห์ไฟล์/หน้าที่มีขนาดใหญ่เกินไป |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_REQUIRE_JUSTIFICATION_TAGS_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อต้องกำหนดให้ผู้ใช้ป้อนเหตุผลสำหรับแท็กใดเพื่อข้ามการสแกนที่ทำให้เกิดคำเตือนแบบข้ามได้ หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้ ระบบจะถือว่าไม่จำเป็นต้องป้อนเหตุผล |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MESSAGE_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAG_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดค่าข้อความที่จะแสดงแก่ผู้ใช้เมื่อมีคำเตือนปรากฏขึ้นหลังจากที่การสแกนตรวจพบการละเมิด ผู้ดูแลระบบกำหนดค่าข้อความได้สูงสุด 200 อักขระ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="5286579716704722323">อนุญาตให้ผู้ใช้คลิกผ่านหน้าคำเตือน SSL</translation> |
| <translation id="5288713554963040955">เปิดใช้การแสดงหน้าจอการตั้งค่าขนาดการแสดงผลระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="5288772341821359899">หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ WebRTC จะใช้งานพอร์ต UDP ตามช่วงพอร์ตที่ระบุ (รวมจุดสิ้นสุดด้วย) |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ หรือตั้งค่าเป็นสตริงว่างหรือช่วงพอร์ตที่ไม่ถูกต้อง จะเป็นการอนุญาตให้ WebRTC ใช้พอร์ต UDP ที่ว่างอยู่พอร์ตใดก็ได้ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="5288776487100096897">อนุญาตให้นโยบายระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์ลบล้างนโยบาย <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="5290940294294002042">ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="5293285950307241933">ลบข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดในระบบ</translation> |
| <translation id="5293619885162445352">อนุญาตให้ <ph name="PEPPER_NAME" /> ใช้เครื่องมือถอดรหัสวิดีโอใหม่</translation> |
| <translation id="529457411593078576">เปิดใช้ข้อกำหนดในการให้บริการเมื่อเรียกใช้ CCT ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="5297873769621042075">การตั้งค่านโยบายจะระบุรายชื่อโฮสต์หรือรูปแบบชื่อโฮสต์ (เช่น "[*.]example.com") ที่จะไม่ได้รับการอัปเกรดเป็น HTTPS และจะไม่แสดงข้อผิดพลาดคั่นระหว่างหน้าหากมีการเปิดใช้โหมด "HTTPS ลำดับแรก" องค์กรสามารถใช้นโยบายนี้เพื่อรักษาสิทธิ์เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่รองรับ HTTPS โดยไม่ต้องปิดใช้การอัปเกรด HTTPS และ/หรือโหมด "HTTPS ลำดับแรก" |
| |
| ชื่อโฮสต์ที่ระบุไว้ต้องกำหนดเป็น Canonical ซึ่งหมายความว่าต้องแปลง IDN ทั้งหมดเป็นรูปแบบ A-label และตัวอักษร ASCII ทั้งหมดต้องเป็นตัวพิมพ์เล็ก |
| |
| ไม่อนุญาตให้ใช้ไวลด์การ์ดโฮสต์แบบครอบคลุม (เช่น "*" หรือ "[*]") แต่ควรปิดใช้โหมด "HTTPS ลำดับแรก" และการอัปเกรด HTTPS อย่างชัดเจนผ่านนโยบายที่เฉพาะเจาะจงแทน |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลกับการอัปเกรด HSTS</translation> |
| <translation id="5297948043665200363">อนุญาตให้ผู้ใช้อยู่ในระบบต่อไปหลังจากที่บัญชีของผู้ใช้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="5298949392804966105">ไม่มีข้อจำกัดในบัญชีที่จัดการ</translation> |
| <translation id="5300770793658186741">การตั้งค่านโยบายจะระบุรายการของต้นทาง (URL) หรือรูปแบบชื่อโฮสต์ (เช่น *.example.com) ที่จะไม่ใช้ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยกับต้นทางที่ไม่ปลอดภัย องค์กรอาจระบุต้นทางของแอปพลิเคชันเดิมที่ใช้งาน TLS ไม่ได้ หรือกำหนดเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราวสำหรับการพัฒนาเว็บภายในเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทดสอบฟีเจอร์ที่ต้องใช้บริบทที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องทำให้ TLS ใช้งานได้ในเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว นโยบายนี้ยังป้องกันไม่ให้ระบบติดป้ายกำกับต้นทางว่า "ไม่ปลอดภัย" ในแถบที่อยู่ด้วย |
| |
| การกำหนดรายการ URL ในนโยบายนี้มีผลเหมือนกับการตั้งค่า Flag บรรทัดคำสั่ง --unsafely-treat-insecure-origin-as-secure เป็นรายการ URL เดียวกันที่คั่นด้วยคอมมา นโยบายจะลบล้าง Flag บรรทัดคำสั่งและ UnsafelyTreatInsecureOriginAsSecure (หากมี) |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริบทที่ปลอดภัยได้ที่ Secure Contexts (https://www.w3.org/TR/secure-contexts)</translation> |
| <translation id="530134925949808452">เวลาของวันตามเวลาท้องถิ่นที่จะให้ต่ออายุโควต้าการใช้งาน</translation> |
| <translation id="5303080953475303561">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมความถี่ที่หน้าจอล็อกขอรหัสผ่านสำหรับการปลดล็อกด่วน แต่ละครั้งที่หน้าจอล็อกปรากฏขึ้นมา หากการป้อนรหัสผ่านครั้งล่าสุดเกิดขึ้นก่อนกรอบเวลาที่ระบุโดยค่าที่เลือกไว้ การปลดล็อกด่วนจะไม่พร้อมใช้งาน หากผู้ใช้อยู่ในหน้าจอล็อกเกินระยะเวลานี้ หน้าจอล็อกจะขอรหัสผ่านในครั้งถัดไปที่ผู้ใช้ป้อนรหัสไม่ถูกต้องหรือเข้าสู่หน้าจอล็อกอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ใดเกิดก่อน |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้ที่ใช้การปลดล็อกด่วนป้อนรหัสผ่านในหน้าจอล็อกทุกวัน</translation> |
| <translation id="5306186200045823863">เปิดใช้การเชื่อถือโครงสร้างพื้นฐาน PKI เดิมของ Symantec Corporation</translation> |
| <translation id="5307432759655324440">ความพร้อมใช้งานของโหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="5308551343115571396">หลังจากที่ปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> เราจะพยายามเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งนำข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับเบราว์เซอร์ออก</translation> |
| <translation id="530949964068726932">ซ่อนตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบ</translation> |
| <translation id="5311275381462687162">กำหนดค่าเริ่มต้นของการตั้งค่าลักษณะการทำงานของคุกกี้ <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เดิม</translation> |
| <translation id="5312253627576569499">เปอร์เซ็นต์การปรับขนาดการหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอเมื่อระบบสังเกตพบกิจกรรมของผู้ใช้ขณะที่หน้าจอหรี่แสงหรือในไม่ช้าหลังจากที่มีการปิดหน้าจอ</translation> |
| <translation id="5316856058059940708">ปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่</translation> |
| <translation id="5317852436044398288">การตั้งค่านโยบายจะช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งใช้การจับภาพหน้าต่างและแท็บได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบไม่พิจารณาเว็บไซต์เพื่อทำการลบล้างที่การจับภาพระดับนี้ |
| |
| ระบบจะไม่พิจารณานโยบายนี้หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบาย <ph name="TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="SAME_ORIGIN_TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่พิจารณานโยบาย <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL</translation> |
| <translation id="5318185076587284965">เปิดใช้รีเลย์เซิร์ฟเวอร์โดยโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="5321624917465764266">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าจะลบประวัติการท่องเว็บและประวัติการดาวน์โหลดใน Chrome ได้ และผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าจะลบประวัติการท่องเว็บและประวัติการดาวน์โหลดไม่ได้ ทั้งนี้ การปิดใช้นโยบายนี้ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าระบบจะเก็บรักษาประวัติการท่องเว็บและประวัติการดาวน์โหลดไว้ ผู้ใช้อาจแก้ไขหรือลบไฟล์ฐานข้อมูลประวัติได้โดยตรง และเบราว์เซอร์อาจหมดอายุหรือเก็บถาวรรายการประวัติทั้งหมดหรือบางส่วนเมื่อใดก็ได้</translation> |
| <translation id="5323200200131319468">เปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5323271643727095577">ไม่ต้องแสดงกล่องโต้ตอบการยกเลิกเมื่อมีการเรียกใช้ event.preventDefault() สำหรับเหตุการณ์ beforeunload แสดงกล่องโต้ตอบการยกเลิกเมื่อ beforeunload event.returnValue เป็นสตริงว่างเปล่าสำหรับเหตุการณ์ beforeunload</translation> |
| <translation id="5324430722441910403">การตั้งค่าการค้นหาเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="532848608876725157">เปิดใช้โหมด DNS-over-HTTPS ที่มีการถอยหลังกลับที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="5328965694451556034">รายงานการเข้าสู่ระบบ/ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="5329018127554115226">ระบบจะปิดใช้โหมดประสิทธิภาพสูง</translation> |
| <translation id="5330684698007383292">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้</translation> |
| <translation id="5331342092479819688">อนุญาตแฮชที่ไม่ปลอดภัยในแฮนด์เชค TLS</translation> |
| <translation id="5331746669335642668">นโยบายระบบคลาวด์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะลบล้างนโยบายแพลตฟอร์ม</translation> |
| <translation id="5334404204520035180">ควบคุมการใช้ WebPrinting API</translation> |
| <translation id="5334501839642146593">ไม่ส่งเมตริกไปยัง Google</translation> |
| <translation id="5335910979215357815">เปิดใช้ Save and Share API สำหรับการควบคุม <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="5339096331970464266">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="5340008866815063393">เปิดใช้การรายงานข้อมูลนโยบาย</translation> |
| <translation id="5345892164332459671">ปิดใช้ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์ และไม่ย้ายการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสของผู้ใช้ไปยังอุปกรณ์ใหม่</translation> |
| <translation id="5345910753471481870">ไม่แสดงปุ่ม Google Lens ในช่องค้นหาบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="5346587320074666194">บล็อกสิทธิ์เข้าถึงเซ็นเซอร์ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="534836255587440809">ปิดใช้การคลิกอัตโนมัติในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5348658899015174540"><ph name="GET_DISPLAY_MEDIA_SET_NAME" /> API อนุญาตให้เว็บแอปพลิเคชันจับภาพได้หลายหน้าจอพร้อมกัน |
| นโยบายนี้จะปลดล็อกพร็อพเพอร์ตี้ <ph name="AUTO_SELECT_ALL_SCREENS_NAME" /> สำหรับเว็บแอปพลิเคชันในต้นทางที่กำหนด |
| หากมีการกำหนดพร็อพเพอร์ตี้ <ph name="AUTO_SELECT_ALL_SCREENS_NAME" /> ในคำขอ <ph name="GET_DISPLAY_MEDIA_SET_NAME" /> ระบบจะจับภาพบริเวณหน้าจอทั้งหมดโดยอัตโนมัติและไม่ต้องมีการให้สิทธิ์จากผู้ใช้อย่างชัดแจ้ง |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="AUTO_SELECT_ALL_SCREENS_NAME" /> จะใช้ไม่ได้กับเว็บแอปพลิเคชัน |
| เพื่อปรับปรุงด้านความเป็นส่วนตัว ตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 116 เป็นต้นไป นโยบายนี้จะไม่รองรับการรีเฟรชแบบไดนามิกอีกต่อไป ดังนั้น ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีหน้าอื่นเพิ่มเติมที่จะจับภาพหน้าจอได้หลังจากเข้าสู่ระบบ หากไม่ได้รับอนุญาตไว้แล้วเมื่อเริ่มต้นเซสชัน</translation> |
| <translation id="5361167871898066799">ควบคุมฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริง</translation> |
| <translation id="5361708558735884308">การตั้งค่านโยบายจะให้สิทธิ์เข้าถึง URL ที่ระบุไว้ โดยเป็นข้อยกเว้นของ <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ดูรูปแบบของรายการในลิสต์นี้ได้จากคำอธิบายของนโยบายดังกล่าว ตัวอย่างเช่น การตั้งค่า <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> เป็น * จะบล็อกคำขอทั้งหมด และคุณจะใช้นโยบายนี้เพื่ออนุญาตการเข้าถึงรายการ URL ที่จำกัดไว้ได้ ตลอดจนใช้ในการเปิดข้อยกเว้นให้แก่บางรูปแบบ โดเมนย่อยของโดเมนอื่นๆ พอร์ต หรือเส้นทางที่เฉพาะเจาะจง โดยใช้รูปแบบที่ระบุไว้ที่ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) ตัวกรองที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดจะเป็นตัวกำหนดว่า URL หนึ่งๆ ถูกบล็อกหรือได้รับอนุญาต นโยบาย <ph name="URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> จะมีความสำคัญเหนือ <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> นโยบายนี้ระบุรายการได้ไม่เกิน 1,000 รายการ |
| |
| รวมถึงยังให้คุณเปิดใช้การเรียกใช้อัตโนมัติโดยเบราว์เซอร์ของแอปพลิเคชันภายนอกที่ลงทะเบียนเป็นตัวแฮนเดิลโปรโตคอลสำหรับโปรโตคอลที่ระบุไว้ เช่น "tel:" หรือ "ssh:" |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| มีการรองรับนโยบายนี้ในโหมดไม่มีส่วนหัวด้วยใน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เวอร์ชัน 92 เป็นต้นไป</translation> |
| <translation id="5362531528507578966">ลบล้างโหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลังที่เป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5365476955714838841">พารามิเตอร์บรรทัดคำสั่งสำหรับเบราว์เซอร์สำรอง</translation> |
| <translation id="5365946944967967336">แสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือ</translation> |
| <translation id="5366977351895725771">หากตั้งค่าเป็นเท็จ การสร้างผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลโดยผู้ใช้รายนี้จะถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลใดๆ ที่มีอยู่แล้วจะยังคงมีอยู่ |
| |
| หากตั้งค่าเป็นจริงหรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้รายนี้จะสามารถสร้างและจัดการผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลได้</translation> |
| <translation id="5367255280764736002">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_IMAGE_URL_POST_PARMS_POLICY_NAME" /> จะระบุพารามิเตอร์ระหว่างการค้นหารูปภาพด้วยเมธอด POST โดยจะประกอบด้วยคู่ของ "ชื่อ-ค่า" ที่คั่นด้วยคอมมา หากมีค่าใดเป็นพารามิเตอร์เทมเพลต เช่น {imageThumbnail} ข้อมูลภาพขนาดย่อของรูปภาพจริงจะแทนที่ค่าดังกล่าว |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_IMAGE_URL_POST_PARMS_POLICY_NAME" /> จะทำให้ระบบส่งคำขอการค้นหารูปภาพโดยใช้เมธอด GET |
| |
| URL ต้องระบุพารามิเตอร์รูปภาพโดยใช้ชุดค่าผสมที่ใช้ได้ของตัวยึดตำแหน่งต่อไปนี้โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้ให้บริการค้นหารองรับ |
| <ph name="IMAGE_IMAGE_URL" />, |
| <ph name="IMAGE_ORIGINAL_HEIGHT" />, |
| <ph name="IMAGE_ORIGINAL_WIDTH" />, |
| <ph name="IMAGE_PROCESSED_IMAGE_DIMENSIONS" />, |
| <ph name="IMAGE_SEARCH_SOURCE" />, |
| <ph name="IMAGE_THUMBNAIL" />, |
| <ph name="IMAGE_THUMBNAIL_BASE64" /></translation> |
| <translation id="5369937289900051171">การพิมพ์สีเท่านั้น</translation> |
| <translation id="5370279767682621504">เปิดใช้การรองรับ HTTP/0.9 บนพอร์ตที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5370765433640162225">เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะดำเนินการทำความสะอาดอัตโนมัติในระหว่างเข้าสู่ระบบเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในดิสก์เพียงพอ |
| การทำความสะอาดจะทำงานเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ แต่จะยังคงมีผลต่อเวลาในการเข้าสู่ระบบ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" (ค่าเริ่มต้น) จะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อเวลาในการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5371152055157582429">ผู้ใช้จะปรับแต่งพื้นหลังของหน้าแท็บใหม่ได้</translation> |
| <translation id="5372698090378600633">บล็อก Direct Sockets API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5377606826822211923">ควบคุมการใช้แอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้แต่ละราย</translation> |
| <translation id="537786648513450280">ควบคุมการใช้แอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือสำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5378885577701865339">ปิดใช้ฟีเจอร์คลิปบอร์ดที่แชร์</translation> |
| <translation id="538108065117008131">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้</translation> |
| <translation id="5385337904220716757">อนุญาตให้เฉพาะบริการของระบบเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของระบบ</translation> |
| <translation id="538768040137709073">เปิดใช้ฟีเจอร์คลิปบอร์ดที่แชร์ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ส่งข้อความระหว่าง Chrome ในเดสก์ท็อปกับอุปกรณ์ Android ได้เมื่อมีการเปิดการซิงค์ไว้และผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อยู่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดใช้ความสามารถในการส่งข้อความระหว่างอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้ Chrome |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะปิดใช้ความสามารถในการส่งข้อความระหว่างอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้ Chrome |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ฟีเจอร์คลิปบอร์ดที่แชร์จะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายต่างๆ ในแพลตฟอร์มทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ดูแลระบบ ขอแนะนำให้ตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าเดียวในแพลตฟอร์มทั้งหมด</translation> |
| <translation id="5389708774452952523">อนุญาตให้กระบวนการของเสียงทำงานโดยมีลำดับความสำคัญสูงกว่าปกติใน Windows</translation> |
| <translation id="5390083518957894426">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งทางออนไลน์ในหน้าจอล็อกสำหรับผู้ใช้ SAML</translation> |
| <translation id="5391388690191341203">บัญชีภายในอุปกรณ์สำหรับการเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="5391867362692016532">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บแอปที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้อนุญาตการเข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_HANDLING_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับเว็บแอปทั้งหมด (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับ <ph name="FILE_HANDLING_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="FILE_HANDLING_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ระบบจะใช้ <ph name="DEFAULT_FILE_HANDLING_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> หรือการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ตามลำดับ |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_HANDLING_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="5393009997533871906">มีเฉพาะเครื่องพิมพ์ในรายการที่อนุญาตเท่านั้นที่จะแสดงต่อผู้ใช้</translation> |
| <translation id="5395778184390568113">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งานคีย์ "Six Pack" ของ Home/End</translation> |
| <translation id="5396322417222266779">อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งแป้นพิมพ์ลัดของระบบ</translation> |
| <translation id="5398387276166014955">อนุญาตให้แทรกโค้ดของบุคคลที่สามใน Chrome</translation> |
| <translation id="5401696449591951427">เปิดใช้ <ph name="CHROME_DEVICES_LINK" /></translation> |
| <translation id="5404749470367600971">อนุญาตการกรองประสิทธิภาพการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="5405289061476885481">กำหนดค่ารูปแบบแป้นพิมพ์ที่อนุญาตให้ใช้ในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการตัวระบุวิธีการป้อนข้อมูล วิธีการป้อนข้อมูลที่ระบุจะพร้อมใช้งานในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ ระบบจะเลือกวิธีการป้อนข้อมูลแรกที่ระบุไว้ล่วงหน้า เมื่อมีการทำงานบนพ็อดผู้ใช้ในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ วิธีการป้อนข้อมูลที่ผู้ใช้ใช้ล่าสุดจะพร้อมใช้งานนอกเหนือจากวิธีการป้อนข้อมูลที่ได้จากนโยบายนี้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ วิธีการป้อนข้อมูลในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้จะได้รับมาจากภาษาที่หน้าจอการลงชื่อเข้าใช้แสดง ระบบจะไม่สนใจค่าที่ไม่ใช่ตัวระบุวิธีการป้อนข้อมูลที่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="5407008856008996384">อนุญาตการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ CUPS</translation> |
| <translation id="5413051574966911176">ปิดใช้การแสดง UI ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อบนเดสก์ท็อปของโฮสต์ระยะไกลเมื่อมีการเชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="5415713057512333739">URL ของข้อมูลที่จะดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="5416263061774624216">อย่าใช้นโยบาย SiteList ของ Internet Explorer เป็นแหล่งที่มาของกฎ</translation> |
| <translation id="5416663929864223914">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งานคีย์ "Six Pack" ของ Delete</translation> |
| <translation id="5417857116982992260">นโยบายนี้กำหนดลักษณะการทำงานเริ่มต้นสำหรับการรีแมปคีย์ "Insert" ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งคีย์ต่างๆ บนแป้นพิมพ์ได้ หากเปิดใช้ นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งการรีแมปที่เจาะจงเหล่านี้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย แป้นพิมพ์ลัดที่อิงการค้นหาจะทำงานเป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5417906792459853336">รายงานข้อมูลสำหรับพื้นที่และการใช้งานแอปพลิเคชันของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลแอปพลิเคชันและการใช้งานของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5420245232720940848">ปิดใช้ PCIe Tunneling สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง Thunderbolt/USB4 ซึ่งจะจำกัดความสามารถของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5420673997623782432">บล็อกไม่ให้ไคลเอ็นต์ทั้งหมดเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของระบบ</translation> |
| <translation id="5420774177427557782">ควบคุมว่า VM ที่ใช้การกำหนดค่านี้นั้น จะให้ติดตั้งและเรียกใช้ (<ph name="INSTALL_ALLOWED" />), เรียกใช้แต่ไม่ติดตั้ง (<ph name="RUN_ALLOWED" />) หรือเรียกใช้ไม่ได้ (<ph name="BLOCKED" />) โปรดทราบว่าในการติดตั้ง VM จะต้องตั้งค่าคีย์ installer_image_x86_64 ไว้ด้วย การนําการกําหนดค่าออกอย่างสิ้นเชิงจะเป็นการตั้งค่า <ph name="BLOCKED" /> อย่างชัดแจ้ง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ VM ทํางานโดยไม่มีนโยบาย</translation> |
| <translation id="5422643441807528365">รหัสสัญญาอนุญาต <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="5423197884968724595">ชื่อข้อจำกัดของ Android WebView:</translation> |
| <translation id="5424147596523390018">อนุญาตโหมดสีทั้งหมด</translation> |
| <translation id="5427879482805712214">นโยบายนี้ให้คุณกำหนดค่ารูปโปรไฟล์ที่ใช้แสดงแทนผู้ใช้ในหน้าจอเข้าสู่ระบบ นโยบายนี้กำหนดได้ด้วยการระบุ URL ที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ดาวน์โหลดรูปโปรไฟล์และการแฮชแบบเข้ารหัสที่ใช้ในการยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลดได้ รูปภาพต้องอยู่ในรูปแบบ JPEG และมีขนาดไม่เกิน 512 KB ส่วน URL ก็ต้องเข้าถึงได้โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ |
| |
| ระบบจะดาวน์โหลดและแคชรูปโปรไฟล์ แล้วจะดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดและใช้รูปโปรไฟล์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเลือกรูปโปรไฟล์ของตนเองในหน้าจอเข้าสู่ระบบได้</translation> |
| <translation id="5428716437928918274">การควบคุมการตั้งค่าโดย Privacy Sandbox</translation> |
| <translation id="5431392643649571773">เมื่อเปิดใช้ ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอนุญาตให้ใช้การแคชย้อนหลัง เมื่อออกจากหน้าเว็บไป สถานะปัจจุบันของหน้า (โครงสร้างเอกสาร สคริปต์ ฯลฯ) อาจคงอยู่ในการแคชย้อนหลัง หากเบราว์เซอร์กลับมาที่หน้าดังกล่าว ระบบอาจกู้คืนหน้านั้นจากแคชย้อนหลังและแสดงหน้าในสถานะก่อนที่จะมีการแคช |
| |
| ฟีเจอร์นี้อาจทำให้เกิดปัญหาในบางเว็บไซต์ที่ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการแคชลักษณะนี้ กล่าวคือบางเว็บไซต์จะต้องอาศัยเหตุการณ์ "<ph name="UNLOAD_HANDLER_NAME" />" ที่จะส่งไปเมื่อเบราว์เซอร์ออกจากหน้าดังกล่าว แต่จะไม่มีการส่งเหตุการณ์ "<ph name="UNLOAD_HANDLER_NAME" />" หากจัดเก็บหน้าไว้ในแคชย้อนหลัง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะบังคับให้ปิดใช้ฟีเจอร์ |
| </translation> |
| <translation id="5433865420958136693">ใช้การเร่งกราฟิกเมื่อพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="5435888298115339571">เปิดใช้การแชร์เดสก์ท็อปในแถบอเนกประสงค์และเมนู 3 จุด</translation> |
| <translation id="5441508088704391614">ไม่มีข้อจำกัดพิเศษ ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5442026853063570579">นโยบายนี้ยังควบคุมการเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปของ Android เช่นกัน หากคุณตั้งค่านโยบายนี้เป็น "DeveloperToolsDisallowed" (ค่า 2) ผู้ใช้จะเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปไม่ได้ หากตั้งค่านโยบายเป็นค่าอื่นหรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเข้าถึงตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอปได้ด้วยการแตะหมายเลขบิลด์ 7 ครั้งในแอปการตั้งค่าของ Android</translation> |
| <translation id="5443582909255996887">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะแยกเว็บไซต์ทั้งหมดใน Android ซึ่งจะทำให้แต่ละเว็บไซต์ทำงานด้วยกระบวนการของตนเอง และจะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เลือกไม่ใช้ เว็บไซต์อยู่ในรูปแบบบวก eTLD+1 (เช่น https://example.com) โปรดทราบว่า Android จะแยกเว็บไซต์ที่มีความละเอียดอ่อนบางเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้นใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 77 เป็นต้นไป และนโยบายนี้จะขยายการทำงานของโหมดการแยกเว็บไซต์ตามค่าเริ่มต้นให้มีผลกับเว็บไซต์ทั้งหมด |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการแยกเว็บไซต์ทุกรูปแบบ เช่น การแยกเว็บไซต์ที่มีความละเอียดอ่อน รวมถึงการทดลองใช้งานจริงของ IsolateOriginsAndroid และ SitePerProcessAndroid ตลอดจนโหมดการแยกเว็บไซต์อื่นๆ ผู้ใช้ยังคงเปิดใช้นโยบายด้วยตนเองได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| <ph name="ISOLATE_ORIGINS_ANDROID_POLICY_NAME" /> อาจเป็นประโยชน์ในการแยกต้นทางเฉพาะบางแห่งในระดับที่ละเอียดกว่าเว็บไซต์ด้วย (เช่น https://a.example.com) |
| |
| หมายเหตุ: เราจะปรับปรุงการรองรับการแยกทุกเว็บไซต์ใน Android แต่ปัจจุบันฟีเจอร์นี้อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ระดับโลว์เอนด์ นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับ Chrome ใน Android ที่ทำงานในอุปกรณ์ที่มี RAM มากกว่า 1 GB เท่านั้น หากต้องการแยกบางเว็บไซต์ในขณะที่ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบด้านประสิทธิภาพมากนัก ให้ใช้ <ph name="ISOLATE_ORIGINS_ANDROID_POLICY_NAME" /> กับรายชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการแยก หากต้องการใช้นโยบายกับแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ Android ให้ใช้ <ph name="SITE_PER_PROCESS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="5443719869259235874">ส่วนขยายที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามกล่องโต้ตอบการยืนยันเมื่อเข้าถึงเครื่องสแกนผ่าน chrome.documentScan API</translation> |
| <translation id="5445596354079213552">นโยบายนี้มีผลเฉพาะเมื่อการอัปเดตอัตโนมัติของอุปกรณ์ถึงวันหมดอายุแล้วและอุปกรณ์มีเวอร์ชันไม่ตรงตามเวอร์ชันขั้นต่ำที่อนุญาตของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งตั้งค่าผ่านนโยบาย <ph name="DEVICE_MINIMUM_VERSION_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นสตริงที่ไม่ว่างเปล่า |
| หากหมดเวลาคำเตือนตามที่ระบุไว้ในนโยบาย <ph name="DEVICE_MINIMUM_VERSION_POLICY_NAME" /> ระบบจะแสดงข้อความนี้ที่หน้าจอการเข้าสู่ระบบเมื่ออุปกรณ์บล็อกไม่ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ |
| หากยังไม่หมดเวลาคำเตือนตามที่ระบุไว้ในนโยบาย <ph name="DEVICE_MINIMUM_VERSION_POLICY_NAME" /> ระบบจะแสดงข้อความนี้ในหน้าการจัดการของ Chrome หลังจากที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นว่างเปล่า ระบบจะแสดงข้อความการหมดอายุของการอัปเดตอัตโนมัติที่เป็นค่าเริ่มต้นให้แก่ผู้ใช้ในทั้ง 2 กรณีข้างต้น |
| ข้อความการหมดอายุของการอัปเดตอัตโนมัติต้องเป็นข้อความธรรมดาที่ไม่มีการจัดรูปแบบใดๆ และไม่อนุญาตให้ใช้มาร์กอัป</translation> |
| <translation id="5445719321399313760">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อหาแบบเต็มแท็บแก่ผู้ใช้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ป้องกันไม่ให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อหาแบบเต็มแท็บ |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะเป็นการควบคุมการนำเสนอหน้ายินดีต้อนรับซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" />, กำหนดให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นของผู้ใช้ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์</translation> |
| <translation id="544654037134815017">นโยบายนี้จะควบคุมการแสดงการ์ดในหน้าแท็บใหม่ การ์ดจะแสดงจุดเข้าใช้งานเพื่อเริ่มการเข้าชมทั่วไปของผู้ใช้โดยอิงตามพฤติกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หน้าแท็บใหม่จะแสดงการ์ดหากมีเนื้อหา |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หน้าแท็บใหม่จะไม่แสดงการ์ด |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะควบคุมการแสดงการ์ดได้ ค่าเริ่มต้นคือแสดงการ์ด |
| </translation> |
| <translation id="5448022937220253000">เลือกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลผู้ใช้หลังจากที่ปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5449690328792750354">Event.path API จะพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="5452024130413254050">ควบคุมว่าจะให้ VM ที่ใช้การกําหนดค่านี้มีสิทธิ์เข้าถึง vTPM หรือไม่ โดยค่าเริ่มต้นคือ "เท็จ" และ <ph name="FORCE_SHUTDOWN_IF_MORE_RESTRICTED" /> หากไม่ได้ตั้งค่าไว้</translation> |
| <translation id="5454128917282602937">เมื่อผู้ใช้สลับระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> V2 จะเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์และแอปจากอุปกรณ์ก่อนหน้าไปยังอุปกรณ์ใหม่ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์และแอปจากอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ผู้ใช้คนปัจจุบันใช้ล่าสุดโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ระบบ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้การตั้งค่าการคืนค่าโดยสมบูรณ์กำหนดได้ว่าจะเปิดหน้าต่างใดเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5455609857202311243">ละเว้นการอนุมัติจากนโยบาย KDC ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP</translation> |
| <translation id="5455888515928026628">ในระหว่างการเข้าสู่ระบบผ่านหน้าจอล็อก <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตรวจสอบสิทธิ์กับเซิร์ฟเวอร์ (แบบออนไลน์) หรือใช้รหัสผ่านในแคช (แบบออฟไลน์) ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น -2 นโยบายจะใช้ค่าขีดจำกัดเวลาในการลงชื่อเข้าใช้แบบออฟไลน์ของหน้าจอการเข้าสู่ระบบซึ่งมาจาก <ph name="POLICY" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น -1 นโยบายจะไม่บังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ในหน้าจอล็อกและจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออฟไลน์ เว้นแต่ว่าจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนโยบายนี้บังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะต้องตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์เสมอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่น จะเป็นการระบุจำนวนวันตั้งแต่เวลาที่ตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ครั้งสุดท้ายถึงเวลาที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์อีกครั้งในการลงชื่อเข้าสู่ระบบครั้งถัดไปผ่านหน้าจอล็อก |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ SAML |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นวัน</translation> |
| <translation id="5457065417344056871">เปิดใช้โหมดผู้มาเยือนในเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="5457924070961220141">ช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าตัวแสดงผล HTML เริ่มต้นเมื่อทำการติดตั้ง <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> การตั้งค่าเริ่มต้นที่ใช้เมื่อไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้คือการอนุญาตให้เบราว์เซอร์ของโฮสต์ทำการแสดงผล แต่คุณสามารถเลือกที่จะแทนที่การตั้งค่านี้และทำให้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> แสดงหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="545817252640069915">เปิดใช้การสกัดกั้นการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="5460797984317417682">เปิดใช้การแจ้งเตือนโหมดเต็มหน้าจอ</translation> |
| <translation id="5462898272514237681">ควบคุมการเข้าถึงบริการตำแหน่งของ Google สำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5464816904705580310">กำหนดการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับการจัดการ</translation> |
| <translation id="5466596281866046569">รายงานข้อมูลแอปพลิเคชัน</translation> |
| <translation id="5467175549232776406">เข้าถึงหน้าทดสอบนโยบายได้</translation> |
| <translation id="546726650689747237">ระยะหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้ไฟ AC</translation> |
| <translation id="546830339470589966">เติมโดเมนอัตโนมัติสำหรับตั๋ว Kerberos ใหม่</translation> |
| <translation id="5469143988693423708">อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้ Crostini ได้</translation> |
| <translation id="5469825884154817306">บล็อกรูปภาพในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5470500958458209831">URL ที่ระบบไปดาวน์โหลด Ansible Playbook ได้</translation> |
| <translation id="5475361623548884387">เปิดใช้งานการพิมพ์</translation> |
| <translation id="547601067149622666">ไม่อนุญาตโฆษณาในเว็บไซต์ที่มีโฆษณาที่แทรก</translation> |
| <translation id="5476152378885134514">บล็อกคลิปบอร์ดในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5479841110985196412">เปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="5480380613778757009">หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า การตั้งค่าการแสดงผลทั้งหมดที่ตั้งค่าไว้ในเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการจะรีเซ็ตทันทีเมื่อจบเซสชัน หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" พร็อพเพอร์ตี้การแสดงผลจะคงอยู่หลังออกจากเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="5483012943408894695">ต้นทางหรือรูปแบบชื่อโฮสต์ที่จะไม่ใช้ข้อจำกัดกับต้นทางที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="5483065054530244863">อนุญาตใบรับรองที่มีการรับรองของ SHA-1 ที่ออกโดย Trust Anchor ในพื้นที่</translation> |
| <translation id="5486917900445838803">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะเปิดการเร่งกราฟิก (หากมี) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการเร่งกราฟิก</translation> |
| <translation id="5487758664517243511">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้ที่เลือกใช้ฮับโทรศัพท์อยู่แล้วจะทำงานต่างๆ เช่น ดูหน้าเว็บของโทรศัพท์ใน Chrome OS ต่อไปได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้ หากปิดใช้นโยบาย PhoneHubAllowed ผู้ใช้ก็จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เช่นกัน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ทั้งผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะใช้ค่าเริ่มต้นได้</translation> |
| <translation id="5488268615614906498">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้บันทึกไฟล์จาก Download Manager ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ได้โดยตรงหรือไม่ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกไฟล์จาก Download Manager ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นตัวเลือกดังกล่าวใน Download Manager |
| นโยบายนี้ยังคงอนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกไฟล์ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> โดยใช้วิธีอื่นๆ นอกเหนือจาก Download Manager ได้</translation> |
| <translation id="5494322570831642650">ระบุว่าผู้ใช้จะเปิดหน้าด้วยโหมดไม่ระบุตัวตนใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> หรือไม่ |
| |
| หากเลือก "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งนโยบายไว้ หน้าอาจเปิดด้วยโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| หากเลือก "ปิดใช้" หน้าอาจไม่เปิดด้วยโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| หากเลือก "บังคับใช้" หน้าอาจเปิดด้วยโหมดไม่ระบุตัวตนเท่านั้น โปรดทราบว่าการ "บังคับใช้" ไม่ทำงานใน Android ที่อยู่ใน Chrome |
| |
| หมายเหตุ: ใน iOS หากมีการเปลี่ยนนโยบายระหว่างที่เข้าชม นโยบายใหม่จะมีผลต่อเมื่อเปิดเบราว์เซอร์อีกครั้ง</translation> |
| <translation id="549471902631700911">ปิดใช้การรับแบบสำรวจเกี่ยวกับ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="5499375345075963939">นโยบายนี้มีการใช้งานในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| เมื่อค่าในนโยบายนี้มีการตั้งค่าและไม่เท่ากับ 0 ผู้ใช้การสาธิตที่เข้าสู่ระบบอยู่ในปัจจุบันจะออกจากระบบโดยอัตโนมัติหลังจากระยะเวลาที่ไม่ได้ทำกิจกรรมเลยช่วงเวลาที่ได้ระบุไว้ |
| |
| ค่าในนโยบายควรระบุด้วยหน่วยมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="5501031245538651575">ตั้งแต่เวอร์ชัน M110 เป็นต้นไป ระบบจะนำ window.webkitStorageInfo API ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานออก นโยบายนี้จะเปิดใช้ API อีกครั้ง |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" window.webkitStorageInfo API จะพร้อมใช้งาน |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า window.webkitStorageInfo API จะใช้งานไม่ได้ |
| เราได้นำนโยบายนี้ออกในเวอร์ชัน M112</translation> |
| <translation id="5502683401545256109">นโยบายนี้ควบคุมว่าระบบจะแสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์บนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ในเฟรมที่โฮสต์ขั้นตอน SAML หรือไม่เมื่อมีใบรับรองที่ตรงกันมากกว่า 1 รายการ <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะขอให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์เมื่อนโยบายการเลือกอัตโนมัติพบใบรับรองที่ตรงกันหลายรายการ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่แสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์บนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ |
| หมายเหตุ: โดยทั่วไปแล้วเราไม่แนะนำให้ใช้นโยบายนี้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว (ในกรณีที่ใช้ใบรับรองที่สนับสนุนโดย TPM แบบทั่วทั้งอุปกรณ์) และทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดี</translation> |
| <translation id="5503933085302625442">อย่าย้อนระบบปฏิบัติการกลับไปเป็นเวอร์ชันเป้าหมาย</translation> |
| <translation id="55057839818162162">อนุญาตการค้นหาที่ได้รับความช่วยเหลือจากกล้อง <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="55057971769693300">ปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความ</translation> |
| <translation id="5508307164752647432">เปิดใช้ฟังก์ชันการทำงานของ Kerberos</translation> |
| <translation id="5511702823008968136">เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="5512418063782665071">URL ของหน้าแรก</translation> |
| <translation id="5516293691820655022">ปิด Chrome อย่างสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="551639594034811656">นโยบายนี้จะกำหนดรายการเปอร์เซ็นต์ที่จะแบ่งส่วนของอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใน OU ที่จะอัปเดตต่อวันโดยเริ่มจากวันที่พบอัปเดตเป็นครั้งแรก เวลาที่พบจะมาทีหลังเวลาเผยแพร่อัปเดตเพราะอาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าอุปกรณ์จะตรวจหาอัปเดตหลังจากที่มีการเผยแพร่ |
| |
| คู่รายการ (วัน, เปอร์เซ็นต์) แต่ละคู่จะบอกจำนวนเปอร์เซ็นต์ของอุปกรณ์ที่จะต้องอัปเดตภายในจำนวนวันที่ระบุนับจากที่พบอัปเดต เช่น คู่รายการ [(4, 40), (10, 70), (15, 100)] หมายความว่า 40% ของอุปกรณ์ควรต้องอัปเดตภายใน 4 วันนับจากที่พบอัปเดตและ 70% ของอุปกรณ์ควรจะต้องอัปเดตภายใน 10 วัน คู่รายการต่อไปก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน |
| หากมีการกำหนดค่าไว้ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่ใช้นโยบาย <ph name="DEVICE_UPDATE_SCATTER_FACTOR_POLICY_NAME" /> ในการอัปเดต แต่จะใช้นโยบายนี้แทน |
| |
| หากรายการนี้ว่างเปล่า จะไม่มีการกำหนดแบบทีละขั้นและระบบจะทำการอัปเดตตามนโยบายอื่นๆ ของอุปกรณ์ |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลกับการเปลี่ยนช่อง</translation> |
| <translation id="5517825566262498086">ล้างข้อมูลแอปที่โฮสต์</translation> |
| <translation id="5519331583722582543">ธงบูลีนที่ระบุว่าแป้นพิมพ์บนหน้าจอจะมีฟีเจอร์การป้อนข้อมูลด้วยการจดจำลายมือหรือไม่</translation> |
| <translation id="5519619299971727565">ปิดใช้การรายงานการใช้แอป Linux</translation> |
| <translation id="5521035900165046997">เปิดใช้การรายงานข้อมูลบลูทูธของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5521875416764302911">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="5524944713447898270">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เปิดป๊อปอัปไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_POPUPS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="552607466422196365">ปิดใช้ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /></translation> |
| <translation id="5526184558582921522">อนุญาตคำค้นหาที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ Quirks และการดาวน์โหลดไฟล์การกำหนดค่าเฉพาะฮาร์ดแวร์ที่อาจเกิดขึ้น</translation> |
| <translation id="5526701598901867718">ทั้งหมด (ไม่ปลอดภัย)</translation> |
| <translation id="5534079385061985566">เปิดใช้ฟีเจอร์การคืนค่าทั้งหมด</translation> |
| <translation id="5534235660122271432">ไม่อนุญาตให้เขียนไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก</translation> |
| <translation id="5535256585099022933">กำหนดระยะเวลาสำหรับการเปิดอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="553806128266843748">ธงบูลีนที่ระบุว่ามีการเปิดใช้การควบคุมหรือไม่</translation> |
| <translation id="5540885720415375851">อนุญาตให้มีการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกัน</translation> |
| <translation id="5542235730745104308">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้หน้าแสดงข้อผิดพลาดทางเลือกซึ่งมีอยู่ในเบราว์เซอร์ (เช่น "ไม่พบหน้าเว็บ") การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้หน้าแสดงข้อผิดพลาดทางเลือกเลย |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า นโยบายจะเปิดอยู่ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="5544059132156503357">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดประเภทการเข้ารหัสที่ได้รับอนุญาตเมื่อขอตั๋ว Kerberos จากเซิร์ฟเวอร์ <ph name="MS_AD_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น |
| |
| * "ทั้งหมด" จะอนุญาตประเภทการเข้ารหัส AES ซึ่งได้แก่ aes256-cts-hmac-sha1-96 และ aes128-cts-hmac-sha1-96 รวมถึงประเภทการเข้ารหัส RC4 ซึ่งก็คือ rc4-hmac AES จะมีความสำคัญเหนือกว่าหากเซิร์ฟเวอร์รองรับประเภทการเข้ารหัส AES และ RC4 |
| |
| * "แรง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตเฉพาะประเภท AES |
| |
| * "แบบเดิม" จะอนุญาตเฉพาะประเภท RC4 ซึ่งไม่มีความปลอดภัย และควรใช้ในบางกรณีเท่านั้น หากเป็นไปได้ ให้กำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่เพื่อให้รองรับการเข้ารหัส AES |
| |
| รวมถึงดู https://wiki.samba.org/index.php/Samba_4.6_Features_added/changed#Kerberos_client_encryption_types</translation> |
| <translation id="554903022911579950">Kerberos</translation> |
| <translation id="555022085242359084">เปิดใช้โหมดคอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="555077880566103058">อนุญาตให้ทุกเว็บไซต์เรียกใช้ปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="5556607617517096419">Borealis</translation> |
| <translation id="5558394213067608844">เปิดใช้ตัวควบคุมการวินิจฉัยพร้อมทั้งการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Wilco</translation> |
| <translation id="5559079916187891399">นโยบายนี้ไม่มีผลต่อแอป Android</translation> |
| <translation id="5560039246134246593">เพิ่มพารามิเตอร์ไปยังการเรียกเมล็ดรูปแบบใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากระบุ จะเป็นการเพิ่มพารามิเตอร์ข้อความค้นหาที่เรียกว่า "restrict" ไปยัง URL ที่ใช้เพื่อเรียกเมล็ดรูปแบบ ค่าของพารามิเตอร์จะเป็นค่าที่ระบุในนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่ระบุ จะไม่แก้ไข URL เมล็ดรูปแบบ</translation> |
| <translation id="5561811616825571914">เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับเว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในหน้าลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="5561893881195372931">ปิดใช้คอนทราสต์สูง</translation> |
| <translation id="5563240289883266691">เปิดใช้การรายงานการใช้แอป Linux</translation> |
| <translation id="5565178130821694365">ต้องป้อนรหัสผ่านทุก 2 วัน (48 ชั่วโมง)</translation> |
| <translation id="5566210228171064229">อนุญาตการพิมพ์ทั้งกรณีที่มีและไม่มี PIN</translation> |
| <translation id="5569504149646180067">กําหนดค่าการลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติสําหรับบัญชีที่มาจากผู้ให้บริการข้อมูลประจําตัวในระบบคลาวด์ของ Microsoft® |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 1 (<ph name="POLICY_VALUE_ENABLED" />) ผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้คอมพิวเตอร์ด้วยบัญชีที่มาจากผู้ให้บริการข้อมูลประจําตัวในระบบคลาวด์ของ Microsoft® (นั่นคือ <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือผู้ให้บริการข้อมูลประจําตัวของบัญชี Microsoft® สําหรับผู้ใช้ทั่วไป) หรือผู้ที่เพิ่มบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนลงใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> จะลงชื่อเข้าใช้ผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเทอร์เน็ตโดยใช้ข้อมูลประจําตัวนั้นได้โดยอัตโนมัติ ระบบจะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์และบัญชีของผู้ใช้ไปยังผู้ให้บริการข้อมูลประจําตัวในระบบคลาวด์ของผู้ใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์การตรวจสอบสิทธิ์แต่ละครั้ง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 (<ph name="POLICY_VALUE_DISABLED" />) หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติตามที่อธิบายไว้ข้างต้น |
| |
| ฟีเจอร์นี้มีให้บริการใน <ph name="WIN_NAME" /> 10 เป็นต้นไป |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลกับโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="5572971233886879856">ระบุเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ส่วนหนึ่งที่จะใช้สำหรับค้นหาเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ การดำเนินการนี้ใช้กับนโยบาย <ph name="DEVICE_EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /> เท่านั้น |
| |
| หากใช้นโยบายนี้ จะมีเพียงเครื่องพิมพ์ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ผ่านนโยบายด้านอุปกรณ์ |
| |
| รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง "id" ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะเพิกเฉยต่อการกรองและจะพิจารณาเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ทั้งหมดที่ให้บริการโดย <ph name="DEVICE_EXTERNAL_PRINT_SERVERS_POLICY" /></translation> |
| <translation id="5573207364545428684">เปิดให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลโอนไฟล์ไปยังและจากโฮสต์ระยะไกลได้</translation> |
| <translation id="557360560705413259">เมื่อเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ commonName ของใบรับรองเซิร์ฟเวอร์เพื่อจับคู่ชื่อโฮสต์หากใบรับรองไม่มีส่วนขยาย subjectAlternativeName ตราบใดที่การตรวจสอบความถูกต้องและการเชื่อมโยงกับใบรับรอง CA ที่ติดตั้งในเครื่องสำเร็จ |
| |
| โปรดทราบว่าเราไม่แนะนำวิธีดังกล่าว เนื่องจากวิธีนี้อาจทำให้สามารถข้ามผ่านส่วนขยาย nameConstraints ซึ่งจำกัดชื่อโฮสต์ที่ใบรับรองได้รับสิทธิ์ให้ใช้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ หรือตั้งค่าเป็น False ระบบจะไม่เชื่อถือใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มีส่วนขยาย subjectAlternativeName ที่มีชื่อ DNS หรือที่อยู่ IP</translation> |
| <translation id="5576377426850850084">ใช้การตรวจสอบสิทธิ์ NTLM</translation> |
| <translation id="5577475143148445339">ระบุจำนวนวันและเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มอุปกรณ์ที่ควรได้รับการอัปเดตเมื่อเลยวันดังกล่าว</translation> |
| <translation id="5579179012798142131">การตั้งค่า ArcEnabled เป็น "จริง" จะเปิด ARC สำหรับผู้ใช้ เว้นแต่โหมดชั่วคราวหรือการลงชื่อเข้าสู่ระบบพร้อมกันหลายบัญชีเปิดอยู่ระหว่างเซสชันของผู้ใช้ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าผู้ใช้ระดับองค์กรจะใช้ ARC ไม่ได้</translation> |
| <translation id="5582429816116769246">อนุญาตให้คุณควบคุมว่าผู้ใช้จะเข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่ไม่ใช่ขององค์กรได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ ผู้ใช้จะเพิ่ม กำหนดค่า และสั่งพิมพ์โดยใช้เครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมระบบของตนเองได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ผู้ใช้จะเพิ่มและกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมระบบของตนเองไม่ได้ และจะสั่งพิมพ์โดยใช้เครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมระบบซึ่งกำหนดค่าไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ด้วย |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="USER_PRINTERS_ALLOWED" /> แทน |
| </translation> |
| <translation id="5583556212159295911">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 83 โปรดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_PROTECTION_LEVEL_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดฟีเจอร์ Google Safe Browsing ของ Chrome ไว้เสมอ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิด Google Safe Browsing ไว้ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่า "เปิดใช้การป้องกันฟิชชิงและมัลแวร์" ใน Chrome ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะตั้งค่า "เปิดใช้การป้องกันฟิชชิงและมัลแวร์" เป็น "จริง" แต่ผู้ใช้เปลี่ยนได้ |
| |
| ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing ( https://developers.google.com/safe-browsing ) |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SAFE_BROWSING_PROTECTION_LEVEL_POLICY_NAME" /> ระบบจะไม่สนใจค่าของนโยบาย <ph name="SAFE_BROWSING_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="5583806683960333345">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ฮอตสปอตจากมือถือโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งทำให้โทรศัพท์ Google แชร์อินเทอร์เน็ตมือถือกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ฮอตสปอตจากมือถือโดยอัตโนมัติ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรแต่อนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="5584132346604748282">ควบคุมบริการตำแหน่งของ Google ใน Android</translation> |
| <translation id="5584609869321980122">เริ่มหน่วงเวลาการจัดการพลังงานและการจํากัดระยะเวลาเซสชันหลังจากกิจกรรมแรกของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="5585298198686067735">การตั้งค่านโยบายนี้อนุญาตให้โดเมนที่แสดงอยู่เข้าถึง URL รูปแบบ file:// ในโปรแกรมอ่าน PDF |
| การเพิ่มนโยบายจะอนุญาตให้โดเมนเข้าถึง URL รูปแบบ file:// ในโปรแกรมอ่าน PDF |
| การนำนโยบายออกเป็นการไม่อนุญาตให้โดเมนเข้าถึง URL รูปแบบ file:// ในโปรแกรมอ่าน PDF |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้โดเมนทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึง URL รูปแบบ file:// ในโปรแกรมอ่าน PDF</translation> |
| <translation id="5585424654425017599">อนุญาตการผสานรวม</translation> |
| <translation id="5586942249556966598">ไม่ดำเนินการใดๆ</translation> |
| <translation id="5598417829613725146">Canvas (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 90 เป็นต้นไป)</translation> |
| <translation id="5598821717813911176">นโยบายนี้ระบุส่วนขยายที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามกล่องโต้ตอบการยืนยันเมื่อใช้ฟังก์ชัน <ph name="DOCUMENTSCAN_API" /> <ph name="GET_SCANNER_LIST_FUNCTION" /> และ <ph name="START_SCAN_FUNCTION" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็นรายการที่ไม่ว่างเปล่าและมีส่วนขยายอยู่ในรายการ ระบบจะไม่แสดงกล่องโต้ตอบการยืนยันการสแกนที่ตามปกติจะปรากฏต่อผู้ใช้เมื่อมีการเรียกใช้ <ph name="GET_SCANNER_LIST_FUNCTION" /> หรือ <ph name="START_SCAN_FUNCTION" /> สำหรับส่วนขยายนั้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการว่างเปล่า กล่องโต้ตอบการยืนยันการสแกนจะแสดงต่อผู้ใช้เมื่อมีการเรียกใช้ <ph name="GET_SCANNER_LIST_FUNCTION" /> หรือ <ph name="START_SCAN_FUNCTION" /></translation> |
| <translation id="5599461642204007579">การตั้งค่าการจัดการ <ph name="MS_AD_NAME" /></translation> |
| <translation id="5601503069213153581">PIN</translation> |
| <translation id="5607021831414604820">เปิดใช้การรายงานสถานะพื้นที่เก็บข้อมูลของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5608114828230655271">ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="561001683838346956">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 124 ตั้งแต่เวอร์ชันดังกล่าวเป็นต้นไป ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้แฮชที่ไม่ปลอดภัยเสมอ ในเวอร์ชันก่อนหน้า นโยบายนี้ควบคุมว่าเบราว์เซอร์จะอนุญาตให้ใช้แฮชที่ไม่ปลอดภัยแบบเดิมในระหว่างกระบวนการแฮนด์เชค TLS หรือไม่ |
| |
| หากไม่กำหนดค่านโยบายนี้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะทำตามกระบวนการเริ่มใช้งานเริ่มต้นของการไม่อนุญาตแฮชที่ไม่ปลอดภัย หากเปิดใช้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์ใช้แฮชที่ไม่ปลอดภัยเมื่อสื่อสารในกระบวนการแฮนด์เชค TLS หากปิดใช้ไว้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เซิร์ฟเวอร์ใช้แฮชที่ไม่ปลอดภัยเมื่อสื่อสารในกระบวนการแฮนด์เชค TLS</translation> |
| <translation id="5611869109049836323">บังคับใช้ข้อจํากัดใน Trust Anchor ที่เพิ่มในเครื่อง</translation> |
| <translation id="5612770822986069057">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตั้งค่าการปกป้อง IP ของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ของตน</translation> |
| <translation id="5614865701790130558">บันทึกเหตุการณ์ของการติดตั้งส่วนขยายตามนโยบาย</translation> |
| <translation id="561493980641967737">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้มีการรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL อยู่เสมอ ข้อมูลนี้จะส่ง URL ของหน้าเว็บที่ผู้ใช้เข้าชมไปยัง Google เพื่อช่วยให้การค้นหาและการท่องเว็บดีขึ้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ไม่มีการรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ด้วยตนเองได้ |
| |
| ในคีออสก์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะไม่มีตัวเลือก "ให้ผู้ใช้ตัดสินใจ" หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ให้กับคีออสก์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะมีการรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL อยู่เสมอ |
| เมื่อตั้งค่าให้กับคีออสก์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะเปิดใช้การรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL สำหรับแอปคีออสก์</translation> |
| <translation id="5618398258385745432">มีการใช้การตั้งค่าที่เชื่อมโยงกันก่อนการตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งเมื่อใช้การดูรหัสผ่าน ด้วยเหตุนี้ การตั้งค่าและนโยบายนี้จึงไม่มีผลต่อลักษณะการทำงานของ Chrome ซึ่งปัจจุบันมีลักษณะเหมือนกับว่ามีการตั้งค่านโยบายให้ปิดใช้การแสดงรหัสผ่านอย่างชัดเจนในหน้าการตั้งค่าตัวจัดการรหัสผ่าน หรือหมายความว่าหน้าการตั้งค่าจะมีเพียงตัวยึดตำแหน่ง และ Chrome จะแสดงรหัสผ่านต่อเมื่อผู้ใช้คลิก "แสดง" (และทำการตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง หากจำเป็น) คำอธิบายเดิมของนโยบายนี้มีตามที่แสดงไว้ด้านล่าง |
| |
| ควบคุมว่าจะให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านอย่างชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่านหรือไม่ |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ ตัวจัดการรหัสผ่านจะไม่อนุญาตให้แสดงรหัสผ่านที่เก็บไว้อย่างชัดเจนในหน้าต่างตัวจัดการรหัสผ่าน |
| |
| หากคุณเปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะดูรหัสผ่านของตนได้อย่างชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="5619498195290770056">การตั้งค่านโยบายนี้จะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ตั้งค่าคุกกี้ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการใช้ <ph name="DEFAULT_COOKIES_SETTINGS_POLICY_NAME" /> กับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| แม้จะไม่มีนโยบายที่มีความสำคัญเหนือกว่า แต่ให้ดู <ph name="COOKIES_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="COOKIES_SESSION_ONLY_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> รูปแบบ URL ใน 3 นโยบายนี้ต้องไม่ขัดแย้งกัน |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="5620392548325769024">เปิดใช้การแสดงหน้าต้อนรับเมื่อเปิดเบราว์เซอร์ครั้งแรกหลังการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ</translation> |
| <translation id="5621503441067774084">เปิดใช้ฟีเจอร์การไฮไลต์เคอร์เซอร์ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5622590774455244290">แอป Android อาจเลือกใช้รายการนี้โดยสมัครใจและไม่สามารถบังคับให้ดำเนินการได้</translation> |
| <translation id="5622924058222112599">เปิดใช้กระบวนการเปิดตัวเริ่มต้นของ CECPQ2</translation> |
| <translation id="5623304306796942802">ข้อความแจ้งที่แสดงเมื่อมีใบรับรองที่ตรงกันหลายรายการ</translation> |
| <translation id="5625771176514429288">แอป Chrome จะได้รับอนุญาตให้ทำงานในแพลตฟอร์มเหล่านี้</translation> |
| <translation id="5630352020869108293">คืนค่าเซสชันล่าสุด</translation> |
| <translation id="5633871703004128675">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความ</translation> |
| <translation id="5634032995857968056">เปิดใช้แซนด์บ็อกซ์ของคอนเทนเนอร์แอปตัวแสดงผล</translation> |
| <translation id="5638334542697444045">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ฮอตสปอตจากมือถือโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="5639454129004500060">หากตั้งค่า นโยบายนี้จะมีข้อมูลให้ดาวน์โหลดไฟล์เทมเพลตเดสก์ โดยไฟล์ดังกล่าวมีเทมเพลตเดสก์ที่จะจัดสรรให้กับผู้ใช้คนปัจจุบัน |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รวมเทมเพลตเดสก์ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าในรายการเทมเพลตเดสก์ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="DESK_TEMPLATES_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "จริง" นโยบายนี้จะไม่มีผล</translation> |
| <translation id="5644038505105689131">แหล่งที่มาของรูปภาพหน้าจอการเข้าสู่ระบบสำหรับภาพพักหน้าจอของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5645779841392247734">อนุญาตให้ใช้คุกกี้บนไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5646234199535103501">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise OnBulkDataEntry</translation> |
| <translation id="5648016151508002741">ป้องกันไม่ให้ดำเนินการตรวจสอบ <ph name="OCSP_CRL_LABEL" /> ออนไลน์</translation> |
| <translation id="5649046890958064703">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_BLACKLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_NATIVE_PRINTERS_BLACKLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ไม่ได้ เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้ใช้นำมาใช้งาน ยกเว้นเครื่องที่มีรหัสตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEVICE_PRINTERS_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="5649773663020498924">การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะบล็อกเว็บไซต์ไม่ให้ใช้สิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ด การตั้งค่านโยบายเป็น 3 หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าและเลือกว่า API ของคลิปบอร์ดจะพร้อมให้เว็บไซต์ใช้งานเมื่อต้องการหรือไม่ |
| |
| นโยบายนี้ถูกลบล้างสำหรับ URL บางรูปแบบได้โดยใช้นโยบาย <ph name="CLIPBOARD_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="CLIPBOARD_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับการดำเนินการเกี่ยวกับคลิปบอร์ดซึ่งควบคุมโดยสิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ดสำหรับเว็บไซต์ และไม่มีผลกับการเขียนคลิปบอร์ดที่มีการปรับแต่งหรือการคัดลอกและวางที่เชื่อถือได้</translation> |
| <translation id="5650256117857913687">ไม่ให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงจากระยะไกลเปิด URL ฝั่งโฮสต์ในเบราว์เซอร์ไคลเอ็นต์ในเครื่อง</translation> |
| <translation id="5650716720715977549">ใช้ข้อจำกัดกับคำขอไปยังอุปกรณ์ปลายทางของเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น</translation> |
| <translation id="5651538748810288218">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้เว็บไซต์เข้าถึงและใช้เซ็นเซอร์ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์แสงได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะทำให้ระบบปฏิเสธการเข้าถึงเซ็นเซอร์ |
| |
| การไม่ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="ALLOW_SENSORS_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="5652250453612826983">ควบคุมนโยบายการควบคุมดูแลโดยผู้ปกครองซึ่งใช้กับบัญชีของเด็กเท่านั้น |
| นโยบายเหล่านี้ไม่ได้ตั้งค่าในคอนโซลผู้ดูแลระบบ แต่เซิร์ฟเวอร์ Kids API เป็นผู้กำหนดค่าโดยตรง</translation> |
| <translation id="5654682237531873653">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดการตรวจตัวสะกด และผู้ใช้จะปิดไม่ได้ ใน <ph name="MS_WIN_NAME" />, <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> และ <ph name="LINUX_OS_NAME" /> ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการตรวจตัวสะกดของแต่ละภาษาแยกกันได้ ดังนั้นจึงยังปิดการตรวจตัวสะกดโดยการปิดการตรวจตัวสะกดของทุกภาษาได้อยู่ คุณอาจหลีกเลี่ยงปัญหานี้โดยใช้ <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_POLICY_NAME" /> เพื่อบังคับให้เปิดใช้การตรวจตัวสะกดของบางภาษา |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการตรวจตัวสะกดจากทุกแหล่งที่มา และผู้ใช้จะเปิดไม่ได้ นโยบาย <ph name="SPELL_CHECK_SERVICE_ENABLED_POLICY_NAME" />, <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_POLICY_NAME" /> และ <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะไม่ส่งผลกระทบเมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการตรวจตัวสะกดได้ในการตั้งค่าภาษา </translation> |
| <translation id="5655553344896004108">อนุญาตให้ใช้ U2F Security Key API ที่เลิกใช้งานไปแล้ว</translation> |
| <translation id="5656177735561364047">เปิดใช้ฟีเจอร์คลิปบอร์ดที่แชร์</translation> |
| <translation id="5657752663637568277">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงคำเตือนการเลิกใช้งานของ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ต่อผู้ใช้หรือไม่ในกล่องโต้ตอบการแสดงตัวอย่างการพิมพ์หรือหน้าการตั้งค่า |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะซ่อนคำเตือนการเลิกใช้งาน |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้คำเตือนการเลิกใช้งานแสดงขึ้นมา</translation> |
| <translation id="5659776687676755342">เปิดเสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำ</translation> |
| <translation id="5660228672907979869">บล็อกไม่ให้เปิดใช้การแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="5660950553460381588">ค่าเริ่มต้นคือสร้างพาสคีย์ในพวงกุญแจ iCloud เมื่อเป็นไปได้</translation> |
| <translation id="5666457529647159548">อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการใบรับรองไคลเอ็นต์ที่ติดตั้งไว้</translation> |
| <translation id="5670249935663090320">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะเปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งผู้ใช้จะเรียกใช้ได้จากเมนูแอป เมนูตามบริบทของหน้าเว็บ ตัวควบคุมสื่อในเว็บไซต์ที่พร้อมใช้งาน Cast และไอคอนแถบเครื่องมือของ Cast (หากมีแสดงขึ้นมา) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="5673254755365419402">เปิดใช้ฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="567377007899266033">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะส่งรายงานเหตุการณ์การติดตั้งส่วนขยายสำคัญที่ทริกเกอร์โดยนโยบายไปยัง Google การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าจะไม่มีการบันทึกเหตุการณ์ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ค่าเริ่มต้นจะตั้งค่าเป็น "จริง"</translation> |
| <translation id="5673780539191375049">กำหนดช่วงเวลา (เป็นนาที) ที่ใช้ในการโหลดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ซ้ำโดยอัตโนมัติในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เรานำนโยบายนี้มาใช้เพื่อจัดการกับการหมดอายุของบริการบางอย่างที่ใช้ในขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์เมื่อไม่มีการใช้งานอุปกรณ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือมีค่าเป็น 0 ระบบจะไม่โหลดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ซ้ำ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็นค่าบวก ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์จะโหลดซ้ำโดยอัตโนมัติเมื่อถึงช่วงเวลาที่กำหนด |
| |
| ช่วงเวลาการโหลดซ้ำสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 1 สัปดาห์ (10,080 นาที) |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลต่อทั้งขั้นตอนการเข้าสู่ระบบและการตรวจสอบสิทธิ์หน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="5676740747107495269">แสดงตัวเลือกการช่วยเหลือพิเศษในเมนูถาดระบบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5679540979548648200">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อุปกรณ์นี้ใช้การโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ ADB และบังคับให้อุปกรณ์ทำ Powerwash หากเคยอนุญาตให้มีการโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จัก</translation> |
| <translation id="5681258683432554972">การตั้งค่าป๊อปอัปเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5684501593989438324">เปิดใช้คำสั่งให้ดำเนินการของ Google Assistant</translation> |
| <translation id="5688951037082618146">แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ทุกเครื่อง</translation> |
| <translation id="5689430183304951538">ขนาดหน้าของการพิมพ์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5691637243722588222">การตั้งค่านโยบายจะระบุรูปแบบการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> รองรับ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะใช้ทั้ง 4 รูปแบบ |
| |
| ค่าที่ใช้ได้มีดังนี้ |
| |
| * basic |
| |
| * digest |
| |
| * ntlm |
| |
| * negotiate |
| |
| หมายเหตุ: คั่นค่าหลายรายการด้วยเครื่องหมายจุลภาค</translation> |
| <translation id="5693469654327063861">อนุญาตให้ย้ายข้อมูล</translation> |
| <translation id="56936613186060503">Download Manager จะไม่มีตัวเลือกให้บันทึกไฟล์ไปยัง <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /></translation> |
| <translation id="5693942129376744977">ปิดใช้ผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI</translation> |
| <translation id="5695209488612697377">เปิดใช้การใช้ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นในเมนูตามบริบท |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ การค้นหารายการในเมนูตามบริบทที่ต้องใช้ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นของคุณจะใช้งานไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่า รายการในเมนูตามบริบทสำหรับผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นจะใช้งานได้ |
| |
| ระบบจะใช้ค่านโยบายเมื่อเปิดใช้นโยบาย <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เท่านั้น และจะไม่มีผลหากไม่เปิดใช้</translation> |
| <translation id="5695907219125832836">เปิดใช้ฟีเจอร์แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลเพื่อช่วยฝึกโมเดล AI</translation> |
| <translation id="5697306356229823047">รายงานผู้ใช้อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5697387906103995839">ปิดใช้การบันทึกระบบของส่วนขยายสำหรับองค์กร</translation> |
| <translation id="569777361305162263">ปิดใช้การแสดงเนื้อหาเพื่อการโปรโมตแบบเต็มแท็บ</translation> |
| <translation id="5698923148503075597">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้นโยบายระบบคลาวด์มีความสำคัญเหนือกว่าหากมีความขัดแย้งกับนโยบายแพลตฟอร์ม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้นโยบายแพลตฟอร์มมีความสำคัญเหนือกว่าหากมีความขัดแย้งกับนโยบายระบบคลาวด์ |
| |
| นโยบายที่บังคับนี้ส่งผลต่อนโยบายระบบคลาวด์ตามขอบเขตของเครื่อง |
| |
| นโยบายนี้มีเฉพาะใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และไม่ส่งผลใดๆ ต่อ <ph name="GOOGLE_UPDATE_NAME" /></translation> |
| <translation id="5705055136345677598">ปิดใช้โหมดพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="5705632645298500887">ตั้งค่าตำแหน่งที่จะจัดเก็บการจับภาพหน้าจอ</translation> |
| <translation id="5705828032077475554">รายงานเซสชัน CRD</translation> |
| <translation id="5706929446669049441">ปิดใช้การแชร์ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="57072195677044908">ปิดใช้การแยกโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="5708969689202733975">กำหนดค่าโหมดปลดล็อกด่วนที่ได้รับอนุญาต</translation> |
| <translation id="5714563837055244378">เปิดใช้การแชร์จาก Android ไปยังเว็บแอป</translation> |
| <translation id="5715739768416614900">เปิดใช้เครื่องมือแก้ปัญหาคีออสก์</translation> |
| <translation id="5717973246079053225">ปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="572155275267014074">การตั้งค่า Android</translation> |
| <translation id="5722577409367087850">โหลดส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="5728154254076636808">เปิดใช้การสร้างสำเนาโรมมิ่งสำหรับข้อมูลโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="5729308727912841256">รหัสผ่าน Kerberos ตัวยึดตำแหน่ง <ph name="PASSWORD_PLACEHOLDER" /> นั้นแทนที่โดยรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="573183812760497142">บล็อกการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สามสำหรับต้นทางเหล่านี้</translation> |
| <translation id="5732972008943405952">นำเข้าข้อมูลแบบฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="5733040281451845496">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าจะไม่มีการเริ่มการหน่วงเวลาการจัดการพลังงานและการจำกัดความยาวของเซสชันจนกว่ากิจกรรมแรกของผู้ใช้จะเกิดขึ้นในเซสชัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้การหน่วงเวลาการจัดการพลังงานและการจำกัดความยาวของเซสชันเริ่มทันทีหลังจากที่เริ่มเซสชัน</translation> |
| <translation id="5733357908790472408">ใช้ Chrome Root Store</translation> |
| <translation id="5735348887833535655">ควบคุมว่าจะให้ VM ที่ใช้การกําหนดค่านี้เข้าถึง vTPM หรือไม่ ซึ่งค่าเริ่มต้นคือ "เท็จ"</translation> |
| <translation id="5735915264686983150">ซ่อนและบล็อกฟีเจอร์ที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="5736498355107027047">แสดงปุ่มออกจากระบบในถาดระบบ</translation> |
| <translation id="5737394734996319911">ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ช่วยให้ผู้ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอซึ่งมีความบกพร่องทางสายตารู้รายละเอียดของรูปภาพในเว็บที่ไม่มีป้ายกำกับบอกไว้ ผู้ใช้ที่เลือกเปิดใช้ฟีเจอร์จะมีตัวเลือกการใช้บริการ Google ที่ไม่ระบุตัวบุคคล เพื่อฟังคำอธิบายแบบอัตโนมัติสำหรับรูปภาพที่ไม่ได้ติดป้ายกำกับซึ่งผู้ใช้พบเจอในเว็บ |
| |
| หากมีการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ ระบบจะส่งเนื้อหาของรูปภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อสร้างคำอธิบาย จะไม่มีการส่งคุกกี้หรือข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ และ Google จะไม่บันทึกเนื้อหารูปภาพใดๆ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเปิดใช้ แต่จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอหรือเทคโนโลยีความช่วยเหลือพิเศษที่คล้ายกันอื่นๆ เท่านั้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะไม่มีตัวเลือกให้เปิดใช้ฟีเจอร์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเลือกใช้หรือไม่ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ |
| </translation> |
| <translation id="5738766588683307797">หากปิดใช้ <ph name="POWER_SMART_DIM_ENABLED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="USER_ACTIVITY_SCREEN_DIM_DELAY_SCALE_POLICY_NAME" /> จะระบุเปอร์เซ็นต์ของระดับการปรับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอเมื่อพบกิจกรรมของผู้ใช้ในขณะที่หน้าจอสลัวลง หรือไม่นานหลังจากที่หน้าจอถูกปิดไป เมื่อมีการปรับระดับการหน่วงเวลาการสลัว การปิดหน้าจอ การล็อกหน้าจอ และการหน่วงเวลาที่ไม่มีความเคลื่อนไหวจะได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาระยะจากการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอให้อยู่ในระดับเดียวกันกับค่าเดิมที่ตั้งไว้ |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ค่าตัวคูณมาตราส่วนเริ่มต้น |
| |
| หมายเหตุ: ค่าตัวคูณมาตราส่วนต้องเท่ากับ 100% ขึ้นไป</translation> |
| <translation id="5740636973289452345">เปิดใช้การรายงานข้อมูลส่วนขยายและปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="5741110260062082926">ปิดใช้ Orca</translation> |
| <translation id="5746149754419996562">เปิดใช้การแสดงวิดเจ็ต Glanceables ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นั่นคือวิดเจ็ตที่เข้าถึงได้ผ่านชิปวันที่ในแถบ |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้ Glanceables ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| เมื่อปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่เปิดใช้ Glanceables ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5749396052108288586">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว โปรดใช้ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_CLIENT_DOMAIN_LIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="574983287620584622">เปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5755002458331714762"> Web Components v0 API (Shadow DOM v0, Custom Elements v0 และ HTML Imports) เลิกใช้งานไปในปี 2018 และถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นเริ่มตั้งแต่ในเวอร์ชัน M80 นโยบายนี้อนุญาตให้เลือกเปิดใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้อีกครั้งจนถึงเวอร์ชัน M84 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดใช้ฟีเจอร์ Web Components v0 สำหรับทุกเว็บไซต์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะปิดใช้ฟีเจอร์ Web Components v0 โดยค่าเริ่มต้นเริ่มตั้งแต่ในเวอร์ชัน M80 |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกหลังจาก Chrome 84</translation> |
| <translation id="575647238840663288">เอกสารอาจอยู่ในคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับต้นทางโดยค่าเริ่มต้นและ document.domain จะตั้งค่าไม่ได้สำหรับเอกสารดังกล่าว</translation> |
| <translation id="5756680608782814094">รายงานข้อมูล VPD ของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูล VPD ของอุปกรณ์ |
| ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ (VPD) เป็นคอลเล็กชันการกำหนดค่าและข้อมูลต่างๆ (เช่น หมายเลขชิ้นส่วนและหมายเลขซีเรียล) ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5760227556806302854">เปิดใช้ผู้ให้บริการเฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เพื่อใช้เครื่องมือช่วยเหลือพิเศษ |
| |
| เรารองรับนโยบายนี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลง 1 ปี เพื่อให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถควบคุมการติดตั้งใช้งานของผู้ให้บริการเฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI ของเบราว์เซอร์ได้ การช่วยเหลือพิเศษและเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้เฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI เพื่อทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์อาจต้องมีการอัปเดตจึงจะทำงานกับผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI ของเบราว์เซอร์ได้อย่างถูกต้อง ผู้ดูแลระบบสามารถใช้นโยบายนี้เพื่อปิดใช้ผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI ของเบราว์เซอร์ชั่วคราว (ดังนั้นจะมีการเปลี่ยนกลับไปเป็นลักษณะการทำงานแบบเดิม) ขณะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเพื่ออัปเดตเครื่องมือที่ได้รับผลกระทบ |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเปิดใช้เฉพาะผู้ให้บริการ Microsoft Active Accessibility การช่วยเหลือพิเศษและเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้เฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI เวอร์ชันใหม่เพื่อทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์จะสื่อสารกับเบราว์เซอร์โดยใช้รูปแบบความเข้ากันได้ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "จริง" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเปิดใช้ผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI เพิ่มเติมจากผู้ให้บริการ Microsoft Active Accessibility การช่วยเหลือพิเศษและเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้เฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI เวอร์ชันใหม่เพื่อทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์จะสื่อสารกับเบราว์เซอร์โดยตรง |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้เฟรมเวิร์กรูปแบบต่างๆ ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เพื่อเปิดใช้หรือปิดใช้ผู้ให้บริการ |
| |
| การรองรับการตั้งค่านโยบายนี้จะสิ้นสุดใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 136</translation> |
| <translation id="5762969307102447459">ปิดใช้ฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติสำหรับที่อยู่</translation> |
| <translation id="5765780083710877561">คำอธิบาย:</translation> |
| <translation id="5766438888216077649">อย่าตั้งค่า <ph name="WINDOW_OPENER_PROPERTY" /> สำหรับลิงก์ที่กำหนดเป้าหมาย <ph name="BLANK_PAGE_NAME" /></translation> |
| <translation id="5767776869128458023">ปิดใช้หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรอง</translation> |
| <translation id="5770738360657678870">เวอร์ชันที่กำลังพัฒนา (อาจไม่เสถียร)</translation> |
| <translation id="5774345930803672932">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้มีการรายงานเหตุการณ์ การวัดและส่งข้อมูลทางไกล และข้อมูลไปยังไปป์ไลน์การรายงานที่เข้ารหัส การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดใช้ไปป์ไลน์การรายงานที่เข้ารหัส</translation> |
| <translation id="5774856474228476867">URL การค้นหาของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5775235485119094648">ชาร์จแบตเตอรี่ขณะอยู่ภายในช่วงคงที่</translation> |
| <translation id="5776485039795852974">ถามทุกครั้งที่ไซต์ต้องการแสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="5783009211970309878">ส่วนหัวและส่วนท้ายของการพิมพ์</translation> |
| <translation id="5790763087505467169">ลดการแจ้งเตือนการเรียกใช้อัตโนมัติของเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="5800329278018669527">ปิดใช้ข้อความแจ้งการกําหนดค่าเครือข่ายเมื่อออฟไลน์</translation> |
| <translation id="5802931736499687181">ปิดใช้ไปป์ไลน์การรายงานที่เข้ารหัส</translation> |
| <translation id="5803715507113569033">นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบกําหนดค่าการต่อเชื่อมของ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> ได้ หากต้องการ |
| หลังจากกระบวนการตั้งค่าเสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะต่อเชื่อม <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> ในโปรแกรมจัดการไฟล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />" จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="AUTOMATED_NAME" />" จะพยายามตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> โดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้จะต้องเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ด้วยบัญชี Microsoft ในกรณีที่ไม่สำเร็จ ระบบจะย้อนกลับมาแสดงขั้นตอนการตั้งค่า |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะมีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับการตั้งค่าเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่ไม่ได้ตั้งค่าเริ่มต้นของนโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />" |
| |
| ทั้งนี้สามารถเพิ่มการจำกัดบัญชีเพิ่มเติมได้ด้วยนโยบาย <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_ACCOUNT_RESTRICTIONS" /></translation> |
| <translation id="5804795151506109282">ไม่ต้องแสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้ย้ายข้อมูล</translation> |
| <translation id="5806128552675651249">อนุญาตเฉพาะการพิมพ์ที่ไม่มีกราฟิกพื้นหลังเท่านั้น</translation> |
| <translation id="5809210507920527553">ควบคุมการตั้งค่าของคอนเทนเนอร์ Linux (Crostini)</translation> |
| <translation id="5809728392451418079">ตั้งชื่อสำหรับแสดงสำหรับบัญชีภายในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5810916450338110943">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="ON_FILE_DOWNLOADED_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> Enterprise ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อมีการดาวน์โหลดไฟล์ใน Chrome |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_URL_LIST_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAGS_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อควรส่งไฟล์สำหรับการวิเคราะห์หรือไม่เมื่อมีการดาวน์โหลดไฟล์จากหน้าหนึ่งๆ และแท็กใดที่จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์สำหรับไฟล์นั้น แท็กที่สอดคล้องกับรูปแบบ "เปิดใช้" จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์หาก URL ของหน้าตรงกับรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับแท็กดังกล่าวตราบใดที่ไม่มีรูปแบบ "ปิดใช้" ที่มีแท็กเดียวกันนั้นตรงกับ URL ของหน้า การวิเคราะห์จะเกิดขึ้นหากมีอย่างน้อย 1 แท็กในคำขอ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> จะระบุว่าผู้ให้บริการการวิเคราะห์ใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_UNTIL_VERDICT_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น 1 หมายความว่า Chrome จะรอให้มีการตอบสนองจากบริการการวิเคราะห์ก่อนให้สิทธิ์ผู้ใช้เข้าถึงไฟล์ที่ดาวน์โหลด ค่าที่เป็นจำนวนเต็มอื่นๆ หมายความว่า Chrome จะให้สิทธิ์ผู้ใช้เข้าถึงไฟล์นั้นทันที |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DEFAULT_ACTION_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น "บล็อก" หมายความว่า Chrome จะไม่ให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึงไฟล์ที่ดาวน์โหลดหากเกิดข้อผิดพลาดขณะสื่อสารกับบริการการวิเคราะห์ ค่าอื่นๆ หมายความว่า Chrome ให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึงไฟล์ที่ดาวน์โหลด |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_PASSWORD_PROTECTED_FIELD" /> จะควบคุมให้ Chrome บล็อกหรืออนุญาตไฟล์ที่มีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_LARGE_FILES_FIELD" /> จะควบคุมให้ Chrome บล็อกหรืออนุญาตให้วิเคราะห์ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_REQUIRE_JUSTIFICATION_TAGS_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อต้องกำหนดให้ผู้ใช้ป้อนเหตุผลสำหรับแท็กใดเพื่อข้ามการสแกนที่ทำให้เกิดคำเตือนแบบข้ามได้ หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้ ระบบจะถือว่าไม่จำเป็นต้องป้อนเหตุผล |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MESSAGE_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAG_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดค่าข้อความที่จะแสดงแก่ผู้ใช้เมื่อมีคำเตือนปรากฏขึ้นหลังจากที่การสแกนตรวจพบการละเมิด ฟิลด์ข้อความมีข้อความที่จะแสดงต่อผู้ใช้และต้องมีความยาวไม่เกิน 200 อักขระ ฟิลด์ learn_more_url มี URL จากผู้ดูแลระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลที่การดำเนินการถูกบล็อก ฟิลด์ภาษาจะมีหรือไม่มีก็ได้และจะมีภาษาของข้อความ ฟิลด์ภาษาที่เว้นว่างไว้หรือมีค่าเป็น "ค่าเริ่มต้น" จะระบุข้อความที่จะใช้เมื่อภาษาของผู้ใช้ไม่มีข้อความ ฟิลด์แท็กจะระบุประเภทการสแกนที่จะมีการแสดงข้อความ รายการ custom_messages อาจมีหรือไม่มีรายการย่อยเพิ่มเติม โดยที่รายการย่อยแต่ละรายการจำเป็นต้องมีฟิลด์ข้อความและฟิลด์แท็กที่ไม่เว้นว่างไว้ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="5812539307212402176">ซ่อนการติดป้ายองค์กรทั้งหมด</translation> |
| <translation id="5814301096961727113">ตั้งค่าสถานะเริ่มต้นของเสียงพูดตอบรับบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5815129011704381141">รีบูตอัตโนมัติหลังจากการอัปเดต</translation> |
| <translation id="5815990343032461023">ลักษณะการทำงานเดิม: แอป Chrome Kiosk จะอัปเดตผ่านระบบส่วนขยายโดยใช้ URL อัปเดตจากไฟล์ Manifest ของส่วนขยาย รวมถึงตัวจัดการการแคชโดยใช้ URL อัปเดตจากนโยบาย</translation> |
| <translation id="5828008775808363753">ไม่ต้องเปิดเบราว์เซอร์เมื่อเริ่มต้นทำงาน</translation> |
| <translation id="582857022372205358">เปิดใช้การพิมพ์ 2 ด้านตามขอบด้านสั้น</translation> |
| <translation id="5830196507442186669">อนุญาตให้อุปกรณ์ใช้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5831286647961890695">เปิดใช้รูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="5832274826894536455">นโยบายที่เลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="5834583755928064072">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนเวอร์ชันการเผยแพร่</translation> |
| <translation id="5835312413892670446">การตั้งค่าการจับภาพหน้าจอ</translation> |
| <translation id="5835674781974810379">ล้างคุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์อื่นๆ</translation> |
| <translation id="5836064773277134605">จำกัดช่วงพอร์ต UDP ที่ใช้โดยโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="583627479140113555">เปิดใช้การนำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้เมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="5838452040629810808">เปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์</translation> |
| <translation id="5841157246593092717">ควบคุมว่าจะปิดใช้ตัวแฮนเดิลเหตุการณ์ <ph name="UNLOAD_EVENT_NAME" /> ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="5842283830553218200">โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะใช้การส่งเหตุการณ์แบบใหม่ในลักษณะการทํางานของตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="5843736977964493779">ไม่อนุญาตการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /></translation> |
| <translation id="5847509620317822100">เราได้นำฟีเจอร์นี้ออกจาก Chrome 100 แล้ว |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" จะทำให้มีการแนะนำแอปที่ผู้ใช้เคยติดตั้งไว้ในอุปกรณ์อื่น การแนะนำเหล่านี้จะปรากฏใน Launcher หลังจากการแนะนำแอปในเครื่อง หากไม่มีการป้อนข้อความค้นหา |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้การแนะนำดังกล่าวไม่ปรากฏขึ้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้</translation> |
| <translation id="5848438019586925019">อัลกอริทึมสำหรับการสร้างคู่คีย์</translation> |
| <translation id="5851248808417680865">ใช้ธีมมืด</translation> |
| <translation id="585270638818921943">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใช้แอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ</translation> |
| <translation id="5853547031212075792">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้โหมด "HTTPS เท่านั้น"</translation> |
| <translation id="5859344336338527083">การตั้งค่านโยบายจะระบุ URL ที่ติดตั้งส่วนขยาย แอป และธีมได้ ก่อน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 21 ผู้ใช้คลิกลิงก์เพื่อไปยังไฟล์ *.crx ได้ จากนั้น <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอให้ติดตั้งไฟล์หลังจากแสดงคำเตือน 2-3 รายการ แต่ในเวอร์ชันต่อมา จะต้องมีการดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวและลากไปที่หน้าการตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> การตั้งค่านี้อนุญาตให้บาง URL มีขั้นตอนการติดตั้งแบบเก่าแต่ใช้งานง่ายกว่าได้ |
| |
| แต่ละรายการในลิสต์นี้เป็นรูปแบบการจับคู่สไตล์ส่วนขยาย (ดู https://developer.chrome.com/extensions/match_patterns) ผู้ใช้จะติดตั้งรายการต่างๆ ได้โดยง่ายจาก URL ที่ตรงกับรายการในลิสต์นี้ ทั้งตำแหน่งของไฟล์ *.crx และหน้าเว็บที่เริ่มการดาวน์โหลด (URL ที่มา) จะต้องได้รับอนุญาตจากรูปแบบเหล่านี้ |
| |
| <ph name="EXTENSION_INSTALL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะมีความสำคัญเหนือนโยบายนี้ ซึ่งหมายความว่าระบบจะไม่ติดตั้งส่วนขยายที่อยู่ในรายการที่บล็อก แม้ว่าจะปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ในลิสต์นี้ก็ตาม</translation> |
| <translation id="5860010874344790473">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะส่งบันทึกของระบบไปที่เซิร์ฟเวอร์การจัดการเพื่อให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่รายงานบันทึกของระบบ</translation> |
| <translation id="5861856285460256766">การกำหนดค่ารหัสการเข้าถึงของผู้ปกครอง</translation> |
| <translation id="5868414965372171132">การกำหนดค่าเครือข่ายระดับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="5868454276721377379">เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนไปมาระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต่างๆ บริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์จะคืนค่าสถานะการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสของผู้ใช้จากอุปกรณ์ก่อนหน้าไปยังอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งทำได้โดยการย้ายคุกกี้ของผู้ใช้ไปมาระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะคืนค่าสถานะการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสของผู้ใช้จากอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ผู้ใช้ใช้งานล่าสุดโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ระบบ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่คืนค่าสถานะการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสของผู้ใช้เมื่อเข้าสู่ระบบในอุปกรณ์เครื่องอื่น |
| |
| คุณกำหนดค่าโดเมนเว็บเซอร์วิสที่ถูกบล็อกไม่ให้คืนค่าได้โดยใช้นโยบาย <ph name="FLOATING_SSO_DOMAIN_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ส่วนข้อยกเว้นสำหรับนโยบายนั้นจะกำหนดค่าได้โดยใช้นโยบาย <ph name="FLOATING_SSO_DOMAIN_BLOCKLIST_EXCEPTIONS_POLICY_NAME" /> |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายทั้งสองไว้ ระบบจะย้ายการตรวจสอบสิทธิ์การใช้เว็บเซอร์วิสทั้งหมด ยกเว้นการตรวจสอบสิทธิ์ของ Google</translation> |
| <translation id="5871786561822073630">ไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์การส่งพจนานุกรมการบีบอัด</translation> |
| <translation id="5872327206018094848">นโยบายนี้ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่เลือกไว้สำหรับการรีแมปเหตุการณ์กับ F11 ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" การตั้งค่าเหล่านี้มีผลเฉพาะกับแป้นพิมพ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> และจะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้</translation> |
| <translation id="587242272905978723">อนุญาตให้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> รวบรวมข้อมูลการใช้งาน <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> จะไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บรวบรวมข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> อาจเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งาน <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ซึ่งต่อจากนั้นจะมีการรวมเข้าด้วยกันและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="5872738620659477303">เชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ Google กับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5875873062228321803">กำหนดค่าข้อกำหนดของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชันต่ำสุดที่อนุญาต |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการที่ไม่ว่างเปล่า |
| หากไม่มีรายการใดมี <ph name="CHROMEOS_VERSION_PROPERTY_NAME" /> สูงกว่าเวอร์ชันปัจจุบันของอุปกรณ์ ก็จะไม่มีการใช้ข้อจำกัดและข้อจำกัดที่มีอยู่แล้วจะถูกเพิกถอน |
| หากมีอย่างน้อย 1 รายการที่มี <ph name="CHROMEOS_VERSION_PROPERTY_NAME" /> สูงกว่าเวอร์ชันปัจจุบัน ระบบจะเลือกรายการที่มีเวอร์ชันสูงกว่าและใกล้เคียงกับเวอร์ชันปัจจุบันมากที่สุด |
| ในกรณีที่มีความขัดแย้ง ระบบจะเลือกรายการที่มี <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> หรือ <ph name="AUE_WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> ต่ำกว่าและนำนโยบายนี้ไปใช้โดยใช้รายการนั้น |
| |
| หากเวอร์ชันปัจจุบันล้าสมัยในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังมีการใช้งานและเครือข่ายปัจจุบันจำกัดการอัปเดตอัตโนมัติ ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอให้อัปเดตอุปกรณ์ภายใน <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> ซึ่งระบุในการแจ้งเตือนนั้น |
| จะไม่มีการแจ้งเตือนหากเครือข่ายปัจจุบันอนุญาตการอัปเดตอัตโนมัติและต้องมีการอัปเดตอุปกรณ์ภายใน <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> |
| <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> จะเริ่มนับจากเวลาที่นำนโยบายไปใช้ |
| หากไม่มีการอัปเดตอุปกรณ์จนกระทั่ง <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> หมดเวลา ผู้ใช้จะออกจากระบบเซสชันที่ใช้งานอยู่โดยอัตโนมัติ |
| หากพบว่าเวอร์ชันปัจจุบันล้าสมัยในขณะที่มีการเข้าสู่ระบบและ <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> หมดเวลาแล้ว ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้อัปเดตอุปกรณ์ก่อนลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากเวอร์ชันปัจจุบันล้าสมัยในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังมีการใช้งานและการอัปเดตอัตโนมัติของอุปกรณ์ถึงวันหมดอายุแล้ว ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอให้ส่งคืนอุปกรณ์ภายใน <ph name="AUE_WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> |
| หากพบว่าการอัปเดตอัตโนมัติของอุปกรณ์ถึงวันหมดอายุแล้ว ณ เวลาที่ลงชื่อเข้าใช้โดยที่ <ph name="AUE_WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> หมดเวลาแล้ว ระบบจะบล็อกอุปกรณ์นั้นไม่ให้ผู้ใช้คนใดก็ตามลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| เซสชันของผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนและจะถูกบังคับให้ออกจากระบบหากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="UNMANAGED_USER_RESTRICTED_PROPERTY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นว่างเปล่า จะไม่มีการใช้ข้อจำกัด ข้อจำกัดที่มีอยู่แล้วจะถูกเพิกถอน และผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้ได้ไม่ว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะเป็นเวอร์ชันใดก็ตาม |
| |
| ในที่นี้ ค่า <ph name="CHROMEOS_VERSION_PROPERTY_NAME" /> อาจหมายถึงเวอร์ชันที่เจาะจง เช่น "13305.0.0" หรือตัวเลขนำหน้าเวอร์ชัน เช่น "13305" |
| ค่า <ph name="WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> และ <ph name="AUE_WARNING_PERIOD_PROPERTY_NAME" /> เป็นค่าที่ไม่บังคับและกำหนดให้ระบุเป็นจำนวนวัน ค่าเริ่มต้นคือ 0 วันซึ่งหมายความว่าไม่มีช่วงเวลาเตือน |
| <ph name="UNMANAGED_USER_RESTRICTED_PROPERTY_NAME" /> เป็นพร็อพเพอร์ตี้ที่ไม่บังคับโดยมีค่าเริ่มต้นเป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="5879014913445067283">ควบคุมการค้นหาพื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายผ่าน <ph name="NETBIOS_NAME" /></translation> |
| <translation id="588135807064822874">เปิดใช้ฟีเจอร์แตะเพื่อค้นหา</translation> |
| <translation id="5882345429632338713">หน่วงเวลาก่อนเปิดเบราว์เซอร์สำรอง (มิลลิวินาที)</translation> |
| <translation id="5883015257301027298">การตั้งค่าคุกกี้เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5883754873839596178">การตั้งค่านโยบายจะระบุจำนวนการเชื่อมต่อพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์พร้อมกันสูงสุด บางพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์จัดการการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนมากต่อไคลเอ็นต์ไม่ได้ ปัญหานี้แก้ไขได้โดยการตั้งค่านโยบายนี้ให้มีค่าต่ำลง ค่าไม่ควรเกิน 100 แต่สูงกว่า 6 เว็บแอปบางรายการนั้นเป็นที่ทราบว่าต้องใช้การเชื่อมต่อจำนวนมากเนื่องจากใช้ Hanging GET การตั้งค่าที่ต่ำกว่า 32 จึงอาจส่งผลให้การเชื่อมโยงเครือข่ายของเบราว์เซอร์ค้างได้ในกรณีที่เปิดเว็บแอปที่ใช้การเชื่อมต่อ Hanging เป็นจำนวนมากเกินไป คุณต้องยอมรับความเสี่ยงเองหากตั้งค่าต่ำกว่าค่าเริ่มต้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นที่ 32</translation> |
| <translation id="5887414688706570295">กำหนดค่าส่วนนำหน้าของ TalkGadget ที่จะถูกใช้โดยโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลและป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ทำการเปลี่ยนแปลง |
| |
| หากมีการระบุไว้ ส่วนนำหน้านี้จะถูกนำมาวางไว้ข้างหน้าชื่อ TalkGadget ที่เป็นส่วนหลักเพื่อสร้างชื่อโดเมนเต็มสำหรับ TalkGadget ชื่อโดเมน TalkGadget ที่เป็นส่วนหลักนี้คือ '.talkgadget.google.com' |
| |
| หากการตั้งค่านี้เปิดใช้งานอยู่ โฮสต์จะใช้ชื่อโดเมนที่กำหนดเองเมื่อเข้าถึง TalkGadget แทนการใช้ชื่อโดเมนค่าเริ่มต้น |
| |
| หากการตั้งค่านี้ปิดใช้งานอยู่หรือไม่ได้ตั้งค่า ชื่อโดเมน TalkGadget ที่เป็นค่าเริ่มต้น ('chromoting-host.talkgadget.google.com') จะถูกใช้สำหรับโฮสต์ทั้งหมด |
| |
| ไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกลจะไม่ได้รับผลกระทบจากการตั้งค่านโยบายนี้ โดยจะใช้ 'chromoting-client.talkgadget.google.com' เพื่อเข้าถึง TalkGadget เสมอ</translation> |
| <translation id="5887517293968987221">นโยบายนี้ควบคุมว่าไฟล์ปฏิบัติการของโฮสต์ในเครื่องจะเปิดใช้งานใน Windows โดยตรงหรือไม่ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะบังคับให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เปิดใช้งานโฮสต์การรับส่งข้อความในเครื่องที่ใช้เป็นไฟล์ปฏิบัติการโดยตรง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะส่งผลให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เปิดใช้งานโฮสต์โดยใช้ cmd.exe เป็นสื่อกลาง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะเป็นการให้สิทธิ์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เลือกว่าจะใช้แนวทางใด</translation> |
| <translation id="5888645257599699215">รายงานสถานะเสียงของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5890063326284543943">ควบคุมการใช้ Serial API</translation> |
| <translation id="5893223274510346852">ปิดใช้ฟีเจอร์การปกป้อง IP ของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="5893303508158298667">หากตั้งค่า <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_FIREWALL_TRAVERSAL_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" การตั้งค่า <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_ALLOW_RELAYED_CONNECTION_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้สามารถใช้ไคลเอ็นต์ระยะไกลเพื่อใช้รีเลย์เซิร์ฟเวอร์ในการเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เมื่อเชื่อมต่อโดยตรงไม่ได้ เช่น เนื่องจากข้อจำกัดด้านไฟร์วอลล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะไม่ปิดการเข้าถึงระยะไกล แต่จะอนุญาตการเชื่อมต่อจากเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น (ไม่อนุญาตการส่งผ่าน NAT หรือรีเลย์)</translation> |
| <translation id="5895569286536062756">เปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="5895861015839311441">รายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานแอปสำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะควบคุมการรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานแอปสำหรับประเภทแอปที่ระบุ |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานแอป</translation> |
| <translation id="5897234314586602143">แสดงส่วนหัวและส่วนท้ายในการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="5897913798715600338">ชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว</translation> |
| <translation id="5898486742390981550">เมื่อมีผู้ใช้หลายคนอยู่ในระบบ จะมีเพียงผู้ใช้หลักเท่านั้นที่ใช้แอป Android ได้</translation> |
| <translation id="5899751601113377553">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สามารถใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="5900919753933009463">รายงานการกำหนดค่าเครือข่าย</translation> |
| <translation id="5901427587865226597">การพิมพ์ 2 ด้านเท่านั้น</translation> |
| <translation id="5905114360004248993">อนุญาตให้แสดงป๊อปอัปในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="5905473632148429217">เปิดใช้การตรวจสอบ OCSP/CRL ออนไลน์</translation> |
| <translation id="5908808391744484238">เมื่อเปิดใช้ไว้หรือไม่ได้ตั้งค่า ตัวกรองพารามิเตอร์ของ URL อาจนำพารามิเตอร์บางรายการออกเมื่อผู้ใช้เลือก "เปิดลิงก์ในหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตน" จากเมนูตามบริบท |
| เมื่อปิดใช้ จะไม่มีการกรอง |
| นโยบายนี้เป็นนโยบายชั่วคราวและอาจถูกนำออกเมื่อมีการออกเวอร์ชันใหม่ในอนาคต</translation> |
| <translation id="5910810837616572201">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_BLACKLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="BULK_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="NATIVE_PRINTERS_BULK_BLACKLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ไม่ได้ เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้ใช้นำมาใช้งาน ยกเว้นเครื่องที่มีรหัสตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="BULK_PRINTERS_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_BLOCKLIST" /> แทน</translation> |
| <translation id="591088232153082363">ชาร์จแบตเตอรี่แบบปรับอัตโนมัติโดยอิงตามรูปแบบการใช้งานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="5915023683182228340">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ใช้โปรโตคอล QUIC ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ใช้โปรโตคอล QUIC ไม่ได้</translation> |
| <translation id="5916855682471300200">นโยบายสำหรับเครื่องที่ใช้ระบบคลาวด์จะมีผลเหนือนโยบายสำหรับเครื่องที่ใช้แพลตฟอร์ม</translation> |
| <translation id="5917425424971710623">ไม่ต้องรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย (XDR)</translation> |
| <translation id="592036544845479336">เปิดใช้ Mutation Event ที่เลิกใช้งาน/นําออกไปแล้วอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="5921713479449475707">อนุญาตการดาวน์โหลดการอัปเดตอัตโนมัติผ่านทาง HTTP</translation> |
| <translation id="5927903236543424081">บังคับให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ก่อนใช้เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="5928633129285224981">ควบคุมว่าจะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> มีค่าเริ่มต้นเป็นตั้งค่าตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพเมื่อจะพิมพ์ PDF หรือไม่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะมีค่าเริ่มต้นเป็นตั้งค่าตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพในตัวอย่างก่อนพิมพ์เมื่อจะพิมพ์ PDF |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในเบื้องต้นระบบจะไม่ได้ตั้งค่าให้ผู้ใช้เลือกตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพ ผู้ใช้จะเลือกงานพิมพ์ PDF แต่ละรายการได้หากตัวเลือกพร้อมใช้งาน |
| |
| สำหรับ <ph name="MS_WIN_NAME" /> หรือ <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเปิดใช้ <ph name="PRINT_PDF_AS_IMAGE_AVAILABILITY_POLICY_NAME" /> ไว้ด้วย</translation> |
| <translation id="5932383301001325587">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M53 หลังจากที่นำ TLS เวอร์ชันสำรองออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| เมื่อแฮนด์เชคของ TLS ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้านี้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะพยายามเชื่อมต่อกับ TLS เวอร์ชันต่ำลงมาอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาข้อบกพร่องในเซิร์ฟเวอร์ HTTPS โดยเบื้องต้น การตั้งค่านี้จะกำหนดค่าเวอร์ชันที่ขั้นตอนสำรองจะหยุดทำงาน หากเซิร์ฟเวอร์จัดการกำหนดค่าเวอร์ชันได้อย่างถูกต้อง (กล่าวคือ โดยไม่ทำให้การเชื่อมต่อถูกตัด) ระบบจะไม่นำการตั้งค่านี้ไปใช้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเชื่อมต่อที่ได้มาจะยังคงต้องสอดคล้องกับ SSLVersionMin |
| |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้หรือหากกำหนดเป็น "tls1.2" จะทำให้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ไม่ใช้ขั้นตอนสำรองนี้อีกต่อไป โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้ไม่ได้ปิดการรองรับ TLS เวอร์ชันเก่ากว่า เพียงแต่เป็นการกำหนดว่า "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะแก้ปัญหาโดยเบื้องต้นหรือไม่เท่านั้นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่มีข้อบกพร่องซึ่งไม่สามารถจัดการกำหนดค่าเวอร์ชันได้อย่างถูกต้อง |
| |
| หรือคุณอาจตั้งค่านโยบายนี้เป็น "tls1.1" หากต้องรักษาความเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์ที่มีข้อบกพร่อง ซึ่งการดำเนินการนี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวและควรมีการแก้ไขปัญหาเซิร์ฟเวอร์อย่างรวดเร็ว</translation> |
| <translation id="5932767795525445337">นโยบายนี้ใช้เพื่อปักหมุดแอป Android ได้</translation> |
| <translation id="5936193585187054065">ClientHello ที่เข้ารหัส (ECH) คือส่วนขยายสำหรับ TLS เพื่อเข้ารหัสช่องที่มีความละเอียดอ่อนของ ClientHello และเพิ่มความเป็นส่วนตัว |
| |
| หากไม่กำหนดค่านโยบายนี้ หรือตั้งค่าเป็นเปิดใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะทำตามกระบวนการเริ่มใช้งานเริ่มต้นของ ECH หากปิดใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะไม่เปิดใช้ ECH |
| |
| เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" อาจใช้หรือไม่ใช้ ECH โดยขึ้นอยู่กับการรองรับของเซิร์ฟเวอร์ ความพร้อมใช้งานของระเบียน DNS ผ่าน HTTPS หรือสถานะการเริ่มใช้งาน |
| |
| ECH เป็นโปรโตคอลที่กำลังพัฒนา การใช้งานของ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น นโยบายนี้เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อควบคุมการใช้งานการทดสอบเริ่มต้น ซึ่งจะแทนที่ด้วยตัวควบคุมสุดท้ายเมื่อโปรโตคอลเสร็จสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="5939656968921014919">ปิดใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับแอปที่แยกไว้</translation> |
| <translation id="5939873071468124100">จำกัดบัญชีที่ใช้การผสานรวม <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="5945312246863177268">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้คลิกการแจ้งเตือนฮับโทรศัพท์เพื่อเปิดแอปพลิเคชัน Eche</translation> |
| <translation id="5946082169633555022">เวอร์ชันเบต้า</translation> |
| <translation id="5946329690214660966">ตั้งค่ากำหนดการที่กำหนดเองเพื่อตรวจหาอัปเดต</translation> |
| <translation id="5950069117106131681">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดส่วนหัวและส่วนท้ายในการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดส่วนดังกล่าวในการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกได้เองว่าจะให้แสดงส่วนหัวและส่วนท้ายหรือไม่</translation> |
| <translation id="5951418260805607969">แสดงการแจ้งเตือนเมื่อพื้นที่ในดิสก์เหลือน้อย</translation> |
| <translation id="5958746038080720143">เปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาเว็บพร็อกซีอัตโนมัติ (WPAD)</translation> |
| <translation id="5961137303188584693">ที่อยู่ MAC ของ NIC ในตัวของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5962271004971310788">ส่วนขยายที่ผู้ใช้ต้องอนุญาตให้ทำงานในโหมดไม่ระบุตัวตนเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ในโหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="5963752574792883406">พอร์ต 990 (เลิกบล็อกได้จนถึง 01/02/2022)</translation> |
| <translation id="5964583455815172553">การตั้งค่านโยบายจะเป็นการระบุรายการ Isolated Web App (IWA) ซึ่งติดตั้งโดยผู้ใช้ไม่ต้องทำการโต้ตอบ |
| IWA คือแอปพลิเคชันที่มีพร็อพเพอร์ตี้ความปลอดภัยที่เป็นประโยชน์แต่ใช้ไม่ได้กับหน้าเว็บปกติ โดยจะอยู่ในแพ็กเกจ Signed Web Bundle คีย์สาธารณะของ Signed Web Bundle ใช้ในการสร้างรหัส Web Bundle ที่ระบุ IWA |
| ปัจจุบันนโยบายนี้ใช้ได้กับเซสชันผู้มาเยือนที่มีการจัดการเท่านั้น |
| |
| แต่ละรายการในนโยบายคือออบเจ็กต์ที่มี <ph name="URL_LABEL" /> ของไฟล์ Manifest สำหรับการอัปเดตและรหัส Web Bundle ของ Isolated Web App ต้องระบุข้อมูลทั้ง 2 ช่อง</translation> |
| <translation id="596523880465577341">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="EXTENSION_INSTALL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="5966615072639944554">ส่วนขยายได้รับอนุญาตให้ใช้ API การยืนยันระยะไกล</translation> |
| <translation id="596732417280023843">ชื่อของโปรไฟล์ใบรับรอง</translation> |
| <translation id="5972538402066550344">อนุญาตการควบคุมการรายงานแบบละเอียด</translation> |
| <translation id="5975765799383881158">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ส่งความคิดเห็นไปให้ Google ได้ผ่านเมนู > ความช่วยเหลือ > รายงานปัญหาหรือการกดแป้นร่วมกัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้งาน" หมายความว่าผู้ใช้จะส่งความคิดเห็นไปให้ Google ไม่ได้</translation> |
| <translation id="5976636832661103220">การตั้งค่า F11 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Shift</translation> |
| <translation id="5979376378555121803">แอปที่โฮสต์</translation> |
| <translation id="5981932073854958705">เลือกว่าจะเปิดใช้ฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> หรือไม่</translation> |
| <translation id="5983274643567559194">ปิดการตั้งค่าแป้นพิมพ์ลัดสำหรับการดำเนินการ "ลบ"</translation> |
| <translation id="5984099692320899605">ไม่ใช้การตรวจสอบสิทธิ์ NTLM</translation> |
| <translation id="5984237109586500246">ยอมรับเนื้อหาเว็บที่แสดงเป็น Signed HTTP Exchange</translation> |
| <translation id="5987654816293745077">รายงานตัวนับรันไทม์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="5991707691018985057">แสดงกล่องโต้ตอบการยกเลิกเมื่อมีการเรียกใช้ event.preventDefault() สำหรับเหตุการณ์ beforeunload ไม่ต้องแสดงกล่องโต้ตอบการยกเลิกเมื่อ event.returnValue เป็นสตริงว่างเปล่าสำหรับเหตุการณ์ beforeunload</translation> |
| <translation id="5992485316563377005">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะเปิดฟีเจอร์ความสมบูรณ์ของโค้ดในการแสดงผล |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและความเสถียรของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เนื่องจากจะทำให้โค้ดที่ไม่รู้จักหรืออาจมีเจตนาร้ายโหลดเข้ามาในกระบวนการแสดงผลของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ ปิดนโยบายนี้เฉพาะในกรณีที่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามซึ่งต้องเรียกใช้ภายในกระบวนการแสดงผลของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วใน Chrome 118 และการตั้งค่าจะไม่มีผลใดๆ |
| |
| หมายเหตุ: อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลดการประมวลผล (https://chromium.googlesource.com/chromium/src/+/HEAD/docs/design/sandbox.md#Process-mitigation-policies)</translation> |
| <translation id="5994438001592408007">เปิดใช้ Glanceables สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="5997543603646547632">ใช้เวลารูปแบบ 24 ชั่วโมงโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="5997846976342452720">ระบุว่าควรปิดเครื่องมือค้นหาปลั๊กอินไหม (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="5998198091336830580">นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มขนาดเล็กต่อไปนี้ (ระบบใช้เฉพาะนโยบายจากแหล่งที่มาที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดในกลุ่ม)</translation> |
| <translation id="6001621991816939414">ล้างประวัติการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="600402562436559989">อนุญาตให้ซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi ระหว่างอุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" กับโทรศัพท์ Android ที่เชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="6004575267180297869"> |
| ระบุว่าจะให้ส่งโมดูล WebAssembly ไปยังหน้าต่างหรือผู้ปฏิบัติงานอื่นแบบข้ามต้นทางหรือไม่ การแชร์โมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทางจะเลิกใช้งานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเลิกใช้งาน document.domain โปรดดู https://github.com/mikewest/deprecating-document-domain นโยบายนี้อนุญาตให้เปิดใช้การแชร์โมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทางอีกครั้งได้ เพื่อให้มีช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงนานขึ้นในขั้นตอนการเลิกใช้งาน |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "จริง" เว็บไซต์จะส่งโมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทางได้ด้วยโดยที่ไม่มีข้อจำกัด |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า เว็บไซต์จะสามารถส่งโมดูล WebAssembly ไปยังหน้าต่างและผู้ปฏิบัติงานในต้นทางเดียวกันเท่านั้น</translation> |
| <translation id="6008497706608447728">รายการโดเมนที่บล็อกไว้สำหรับบริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6009419785187615211">นโยบายนี้ควบคุมการดูแลแบบฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย (แบบฟอร์มที่ส่งผ่าน HTTP) ที่ฝังอยู่ในเว็บไซต์ที่ปลอดภัย (HTTPS) ในเบราว์เซอร์ |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า คำเตือนแบบเต็มหน้าจะแสดงขึ้นมาเมื่อมีการส่งแบบฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ ลูกโป่งคำเตือนจะแสดงขึ้นมาข้างช่องแบบฟอร์มที่โฟกัสอยู่ และระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติสำหรับแบบฟอร์มเหล่านั้น |
| หากปิดใช้นโยบาย คำเตือนแบบฟอร์มที่ไม่ปลอดภัยจะไม่แสดงขึ้นมา และฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติจะทำงานตามปกติ |
| |
| นโยบายนี้มีแผนว่าจะนำออกใน Chrome 130</translation> |
| <translation id="6011193465932186973">ลายนิ้วมือ</translation> |
| <translation id="6011969832398368671">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์และไดเรกทอรี</translation> |
| <translation id="601234435141599215">อนุญาตให้ส่งต่อพอร์ตไปยังเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="6012952794649558174">ใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="6015281292796053435">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูล Google Safe Browsing รวมถึงจำนวนคำเตือนของ Google Safe Browsing และจำนวนการคลิกผ่านคำเตือนของ Google Safe Browsing หรือไม่ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูล Google Safe Browsing |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูล Google Safe Browsing |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="6016304107003486747">นโยบายนี้จะกำหนดลักษณะการทำงานสำหรับการรีแมปคีย์ "Delete" ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งคีย์ต่างๆ บนแป้นพิมพ์ได้ หากเปิดใช้ นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งการรีแมปที่เจาะจงเหล่านี้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย แป้นพิมพ์ลัดที่อิงตามการค้นหาจะทำหน้าที่เป็นค่าเริ่มต้นและอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าแป้นพิมพ์ลัดได้</translation> |
| <translation id="6019162469732742754">ใช้โหมดอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6019606564278029236">เปิดให้ผู้ใช้ระยะไกลโต้ตอบกับหน้าต่างที่ลอยอยู่ในเซสชันความช่วยเหลือระยะไกลได้</translation> |
| <translation id="602038990586229155">นโยบายนี้ควบคุมการขอติดตั้งส่วนขยายของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ส่งคำขอไปยังคอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google เพื่อขออนุมัติ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผลและจะไม่มีการสร้างหรืออัปโหลดคำขอติดตั้งส่วนขยาย |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ จะไม่มีการสร้างหรืออัปโหลดคำขอติดตั้งส่วนขยาย |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ จะมีการสร้างคำขอติดตั้งส่วนขยายและอัปโหลดไปยังคอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google |
| |
| คำขอติดตั้งส่วนขยายจะสร้างขึ้นเมื่อผู้ใช้พยายามติดตั้งส่วนขยายที่ <ph name="EXTENSION_INSTALL_ALLOWLIST" /> หรือ <ph name="EXTENSION_SETTINGS" /> ไม่อนุญาต |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="6020795917180493154">ตั้งแต่เวอร์ชัน M119 เป็นต้นไป หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ ระบบจะปิดใช้ WebSQL แต่สามารถเปิดใช้ผ่าน Chrome Flag "web-sql-access" ได้ หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้การเข้าถึง WebSQL |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วตั้งแต่รุ่น M124</translation> |
| <translation id="6022948604095165524">การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน</translation> |
| <translation id="602318745029752898">อนุญาตเสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงใน "เลือกเพื่อให้อ่าน"</translation> |
| <translation id="6026722971789064331">ควบคุมการใช้ File System API สำหรับการเขียน</translation> |
| <translation id="602728333950205286">URL ค้นหาทันใจของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="603410445099326293">พารามิเตอร์สำหรับการแนะนำ URL ที่ใช้ POST</translation> |
| <translation id="6034341625190551415">ควบคุมเซสชันสาธารณะและประเภทบัญชีคีออสก์</translation> |
| <translation id="6035597431797865964">อนุญาตให้เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการคงพร็อพเพอร์ตี้การแสดงผลไว้</translation> |
| <translation id="6036459377708946958">วันที่ของเดือน [1-31] ที่ต้องการตรวจหาอัปเดต โดยตีความในเขตเวลาท้องถิ่นของอุปกรณ์ ใช้เมื่อ "frequency" เท่ากับ "MONTHLY" เท่านั้น หากต้องการระบุจำนวนที่มากกว่าจำนวนวันสูงสุดในเดือนหนึ่งๆ ให้เลือกวันสุดท้ายของเดือน</translation> |
| <translation id="6036523166753287175">เปิดใช้งานไฟร์วอลล์ Traversal จากโฮสต์สำหรับการเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="603768430528561926">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์ระดับองค์กรแลกรับข้อเสนอผ่านการลงทะเบียน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้จะแลกข้อรับเสนอเหล่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="6042407236638640864">อนุญาตให้หน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> ป้อน Back-Forward Cache ได้</translation> |
| <translation id="604243460476563291">ปิดใช้การโอนไฟล์ในการเชื่อมต่อเพื่อรับการสนับสนุนจากระยะไกลโดยผู้ดูแลระบบขององค์กร</translation> |
| <translation id="6042629184389251062">ไม่อนุญาตการรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL</translation> |
| <translation id="6046615715547751255">ไม่อนุญาตการควบคุมการรายงานแบบละเอียด</translation> |
| <translation id="6048199181629830227">เปิดใช้การจัดการการใช้ไฟจากแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="6048690591359317353">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ยกเลิกการเชื่อมต่อหรือแก้ไข VPN ด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="6049117606554031363">เปิดใช้การรายงานสถานะของบอร์ดอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6050796253724099706">เปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="605132676434455096">ไม่อนุญาตให้เพิ่มโปรไฟล์ใหม่</translation> |
| <translation id="6053260874233331700">ไม่อนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในหน้าจอเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6053681087509103368">อนุญาตให้ WebRTC ใช้โปรโตคอล TLS/DTLS เวอร์ชันที่ล้าสมัย</translation> |
| <translation id="6056517174496942473">เปิดใช้โฟลว์เอกสารรับรองของ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL</translation> |
| <translation id="6058879286588763839">หากไม่ได้ระบุ <ph name="DEVICE_ADVANCED_BATTERY_CHARGE_MODE_ENABLED_POLICY_NAME" /> ไว้ (ถ้าระบุ จะเป็นการลบล้าง <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_MODE_POLICY_NAME" />) การตั้งค่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_MODE_POLICY_NAME" /> จะระบุนโยบายการจัดการพลังงานของโหมดการชาร์จแบตเตอรี่ (หากอุปกรณ์รองรับ) นโยบายจะควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่แบบไดนามิกโดยลดความเค้นและการสึกหรอให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบาย (หากอุปกรณ์รองรับ) จะทำให้มีการใช้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่แบบมาตรฐาน และผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ |
| |
| หมายเหตุ: หากเลือกโหมดการชาร์จแบตเตอรี่ที่กำหนดเอง ให้ระบุ <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_START_CHARGING_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_STOP_CHARGING_POLICY_NAME" /> ด้วย</translation> |
| <translation id="6066761914755798079">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SUGGEST_URL_POLICY_NAME" /> จะระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาเพื่อจัดเตรียมการแนะนำการค้นหา URL ดังกล่าวควรมีสตริง <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ซึ่งข้อความค้นหาของผู้ใช้จะมาแทนที่ในการค้นหา |
| |
| คุณระบุ URL การค้นหาของ Google เป็น <ph name="GOOGLE_SUGGEST_SEARCH_URL" /> ได้</translation> |
| <translation id="606742564823687992">ไม่รายงานงานพิมพ์</translation> |
| <translation id="6070667616071269965">รูปแบบแป้นพิมพ์ในหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6074963268421707432">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="6074964551275531965">กำหนดระยะเวลาสำหรับการแจ้งเตือนการอัปเดต</translation> |
| <translation id="6075316301208933536">หากตั้งค่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_MODE_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_MODE_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_STOP_CHARGING_POLICY_NAME" /> จะปรับแต่งเวลาที่แบตเตอรี่หยุดชาร์จ โดยอิงตามเปอร์เซ็นต์ของการชาร์จแบตเตอรี่ <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_START_CHARGING_POLICY_NAME" /> ต้องอยู่ที่จุดต่ำกว่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_STOP_CHARGING_POLICY_NAME" /> อย่างน้อย 5% |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการใช้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่แบบ <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_STANDARD_MODE_NAME" /></translation> |
| <translation id="6082161804984853051">การตั้งค่านโยบายทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ไดเรกทอรีที่คุณให้ไว้สำหรับจัดเก็บไฟล์ที่แคชไว้ในดิสก์ ไม่ว่าจะระบุการตั้งค่าสถานะ --disk-cache-dir หรือไม่ก็ตาม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ไดเรกทอรีแคชเริ่มต้น แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านั้นได้ด้วยการตั้งค่าสถานะบรรทัดคำสั่ง --disk-cache-dir |
| |
| <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะจัดการเนื้อหาของไดเรกทอรีรูทของวอลุ่ม ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญหายของข้อมูลหรือข้อผิดพลาดอื่นๆ โปรดอย่าตั้งค่านโยบายนี้เป็นไดเรกทอรีรูทหรือไดเรกทอรีอื่นที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ ดูตัวแปรที่คุณใช้ได้ ( https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/user-data-directory-variables )</translation> |
| <translation id="6082391187598394288">นโยบายนี้ใช้เพื่อบังคับให้เปิดใช้การรองรับ PPB_VideoDecoder(Dev) API ชั่วคราวได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" เบราว์เซอร์จะตัดสินใจว่าจะรองรับ API หรือไม่ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะรองรับ API |
| |
| นโยบายนี้จะใช้ได้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นกับการเลิกรองรับ API นี้ซึ่งเรากำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หากคุณต้องใช้นโยบาย โปรดรายงานข้อบกพร่องใน crbug.com โดยอธิบาย Use Case และสำเนาถึง {blundell, vasilyt}@chromium.org นโยบายนี้พร้อมใช้งานผ่าน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 114 ซึ่งหลังจากนั้นจะเลิกรองรับ API นี้อย่างไม่มีเงื่อนไข |
| |
| หมายเหตุ: เฉพาะกระบวนการแสดงผลที่เพิ่งเริ่มใหม่เท่านั้นที่จะแสดงการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ขณะที่เบราว์เซอร์ทำงานอยู่</translation> |
| <translation id="6083631234867522991">Windows (ไคลเอ็นต์ของ Windows):</translation> |
| <translation id="608788685013546076">กำหนดเกณฑ์ระดับแบตเตอรี่สำหรับโหมดพาวเวอร์พีคชิฟต์เป็นเปอร์เซ็นต์</translation> |
| <translation id="6089679180657323464">ควบคุมการตั้งค่าตัวควบคุมการวินิจฉัยและการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Wilco</translation> |
| <translation id="6091233616732024397">บังคับให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้เพื่อใช้เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="6092073071805297119">อนุญาตให้ใช้การกรองประสิทธิภาพการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="60925735895026302">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงเครื่องพิมพ์ในเครือข่ายผ่าน WebPrinting API</translation> |
| <translation id="6093156968240188330">ให้ผู้ใช้ระยะไกลโต้ตอบกับหน้าต่างที่ลอยอยู่ในเซสชันความช่วยเหลือระยะไกล</translation> |
| <translation id="6094314311474620462">ปิดใช้การพิมพ์</translation> |
| <translation id="6097601282776163274">เปิดใช้การรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL</translation> |
| <translation id="6099853574908182288">โหมดสีการพิมพ์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6102342563050263313">เปิดใช้การเลื่อนไปยังข้อความที่เจาะจงใน Fragment ของ URL</translation> |
| <translation id="6102449843040973938">อนุญาตให้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ทำงานในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="610892566190435199">เปิดใช้การรายงานสถานะพลังงานของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6111936128861357925">อนุญาตให้เล่นเกมไดโนเสาร์ที่ซ่อนไว้ได้</translation> |
| <translation id="6112524153927257380">การตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าผู้ใช้จะเลี่ยงการตัดสินเกี่ยวกับความปลอดภัยของการดาวน์โหลดไม่ได้ |
| |
| Chrome มีคำเตือนการดาวน์โหลดหลายประเภทซึ่งแบ่งคร่าวๆ ได้เป็นหมวดหมู่ต่อไปนี้ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิจารณาของ Google Safe Browsing ที่ https://support.google.com/chrome/?p=ib_download_blocked) |
| |
| * เป็นอันตราย ตามที่เซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ |
| * ไม่ปกติหรือไม่พึงประสงค์ ตามที่เซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ |
| * ประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย (เช่น การดาวน์โหลด SWF ทั้งหมดและการดาวน์โหลด EXE จำนวนมาก) |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะบล็อกส่วนย่อยต่างๆ ของหมวดหมู่เหล่านี้ตามค่าที่กำหนด |
| |
| 0: ไม่มีข้อจำกัดพิเศษ ค่าเริ่มต้น |
| |
| 1: บล็อกไฟล์ที่เป็นอันตรายซึ่งเซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ และบล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตรายทั้งหมด แนะนำเฉพาะสำหรับ OU, เบราว์เซอร์ หรือผู้ใช้ที่แยกแยะการตรวจพบที่ผิดพลาดได้เป็นอย่างดี |
| |
| 2: บล็อกไฟล์ที่เป็นอันตรายซึ่งเซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ บล็อกไฟล์ที่ไม่ปกติหรือไม่พึงประสงค์ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ และบล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตรายทั้งหมด แนะนำเฉพาะสำหรับ OU, เบราว์เซอร์ หรือผู้ใช้ที่แยกแยะการตรวจพบที่ผิดพลาดได้เป็นอย่างดี |
| |
| 3: บล็อกการดาวน์โหลดทั้งหมด ไม่แนะนำ ยกเว้นในกรณีการใช้งานพิเศษ |
| |
| 4: บล็อกไฟล์ที่เป็นอันตรายซึ่งเซิร์ฟเวอร์ Google Safe Browsing แจ้งไว้ แต่ไม่บล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย แนะนำ |
| |
| หมายเหตุ: ข้อจำกัดเหล่านี้มีผลกับการดาวน์โหลดที่ทริกเกอร์จากเนื้อหาของหน้าเว็บ รวมถึงตัวเลือกเมนู "ดาวน์โหลดลิงก์..." ด้วย โดยข้อจำกัดเหล่านี้ไม่มีผลกับการดาวน์โหลดของหน้าที่แสดงอยู่ หรือกับการบันทึกเป็น PDF จากตัวเลือกการพิมพ์ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing (https://developers.google.com/safe-browsing)</translation> |
| <translation id="6115254134376460539">ปิดใช้ฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="6118226055960302400">คืนค่าลักษณะการทำงานที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="6119207979839638596">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M75 หลังจากที่นำนโยบายเวอร์ชัน TLS สูงสุดออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ไว้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะใช้เวอร์ชันสูงสุดตามค่าเริ่มต้น |
| |
| มิเช่นนั้น อาจตั้งค่าเป็น "tls1.2" หรือ "tls1.3" เมื่อตั้งค่าแล้ว "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะไม่ใช้เวอร์ชัน SSL/TLS ที่สูงกว่าเวอร์ชันที่ระบุ ระบบจะไม่สนใจค่าที่ไม่รู้จัก</translation> |
| <translation id="6123052603197028610">ไม่อนุญาตการค้นหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อเรียกการประทับเวลา</translation> |
| <translation id="6130360423841559818">ควบคุมลักษณะการทำงานใหม่ของกล่องโต้ตอบการยกเลิกที่เหตุการณ์ beforeunload สร้างขึ้น</translation> |
| <translation id="6131803221304830537">ปิดใช้ความสมบูรณ์ของโค้ดในโปรแกรมแสดงภาพ</translation> |
| <translation id="6132506775968708399">บล็อกคุกกี้ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="6133088669883929098">อนุญาตให้เว็บไซต์ทั้งหมดใช้การสร้างคีย์</translation> |
| <translation id="6134295464078457940">กำหนดค่ารายการรูปภาพที่จะแสดงในโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอล็อก |
| |
| แต่ละรายการต้องเป็น URL ที่อ้างอิงไฟล์ภาพ โดยรูปแบบรูปภาพต้องเป็น JPEG และมีขนาดไฟล์ไม่เกิน 8 MB ระบบจะไม่สนใจ URL ที่ไม่ถูกต้องและรูปภาพที่ไม่รองรับ อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดรูปภาพเหล่านี้และจัดเก็บไว้ที่แคชในเครื่อง |
| |
| ระบบจำกัดจำนวนรูปภาพที่แสดงในโปรแกรมรักษาหน้าจอไว้ที่ 25 ภาพ โดยจะใช้ URL 25 รายการแรกเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือรายการไม่มีการอ้างอิงรูปภาพที่ถูกต้อง โปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอล็อกจะไม่แสดง ไม่ว่าจะตั้งค่านโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> ว่าอย่างไร</translation> |
| <translation id="6135398260575578389">Google Safe Browsing ทำงานในโหมดเพิ่มประสิทธิภาพ โหมดนี้รักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้นแต่ต้องมีการแชร์ข้อมูลการท่องเว็บกับ Google มากขึ้น</translation> |
| <translation id="6135552820180449830">Crosh (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 99)</translation> |
| <translation id="6138636318340561140">ตรวจสอบสถานะ Google Safe Browsing ของ URL แบบเรียลไทม์</translation> |
| <translation id="6141402445226505817">ใช้การตรวจหาเขตเวลาคร่าวๆ ทุกครั้ง</translation> |
| <translation id="6141944295566709543">อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นสื่อเมื่ออุปกรณ์ล็อกอยู่</translation> |
| <translation id="6142501278956229253">DPI การพิมพ์ PDF แรสเตอร์</translation> |
| <translation id="6143167485225352920">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการใช้ ARC ในอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องได้ เว้นแต่จะมีการปิด ARC ไว้ด้วยวิธีการอื่นๆ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้ที่มีการจัดการจะใช้ ARC ในอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ |
| |
| โปรดทราบว่าระบบจะยังคงดำเนินการตามข้อจำกัดอื่นๆ เช่น ที่กำหนดโดยนโยบาย ArcEnabled และ UnaffiliatedArcAllowed และปิดใช้งาน ARC หากมีนโยบายใดนโยบายหนึ่งระบุไว้</translation> |
| <translation id="6144046700495610112">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนำเข้าข้อมูลฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าจะไม่มีการนำเข้าข้อมูลฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| ผู้ใช้จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการนำเข้า และจะมีการเลือกหรือไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมายข้อมูลฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติไว้ เพื่อให้ตรงกับค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="614551633868957694">ส่วนขยายและแอป Chrome</translation> |
| <translation id="614616930188030377">รูปแบบในรายการนี้จะจับคู่กับต้นทางการรักษาความปลอดภัยของ URL ที่ขอ |
| หากพบต้นทางที่ตรงกันหรือมีการปิดใช้ chrome://flags/#enable-webrtc-hide-local-ips-with-mdns ที่อยู่ IP ของเครื่องจะแสดงใน ICE Candidate ผ่าน WebRTC |
| หากไม่ ระบบจะปกปิดที่อยู่ IP ของเครื่องโดยใช้ชื่อโฮสต์ mDNS แทน |
| โปรดทราบว่าหากผู้ดูแลระบบจำเป็นต้องปกป้อง IP ของเครื่อง นโยบายนี้จะทำให้การปกป้องนั้นด้อยประสิทธิภาพลง</translation> |
| <translation id="614662973812186053">นโยบายนี้จะยังควบคุมการใช้งาน Android และการรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยด้วยเช่นกัน</translation> |
| <translation id="614665605501218241">อนุญาตให้เว็บไซต์ที่แสดงอยู่ส่งคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="614753473456574270">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนด PIN ที่ไม่รัดกุม</translation> |
| <translation id="6150044272483721831">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะปรับแต่งแป้นพิมพ์ลัดของระบบได้หรือไม่ |
| |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะปรับแต่งแป้นพิมพ์ลัดของระบบได้ผ่านทางแอปแป้นพิมพ์ลัด |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ แอปแป้นพิมพ์ลัดจะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียวและไม่สามารถปรับแต่งได้</translation> |
| <translation id="6150320133676152520">ปิดใช้การส่ง PIN อัตโนมัติในหน้าจอล็อกและหน้าจอเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6155350825868160236">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกหากใช้บริการเว็บของ Google เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของการสะกดคำ</translation> |
| <translation id="6155936611791017817">ตั้งค่าสถานะเริ่มต้นของเคอร์เซอร์ขนาดใหญ่บนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6157537876488211233">รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค</translation> |
| <translation id="6158324314836466367">ชื่อเว็บสโตร์ขององค์กร (เลิกใช้งาน)</translation> |
| <translation id="6164441518097008843">จำกัดการลงชื่อเข้าใช้ไว้เฉพาะตามรายชื่อผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6169504363239921686">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BR_ENABLED" /> หมายความว่าการสำรองและกู้คืนข้อมูล Android จะเปิดอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BR_DISABLED" /> หรือไม่ได้ตั้งค่าจะปิดการสำรองและกู้คืนข้อมูลไว้ระหว่างการตั้งค่า |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BR_UNDER_USER_CONTROL" /> หมายความว่าผู้ใช้จะเห็นข้อความแจ้งให้ใช้การสำรองและกู้คืนข้อมูล หากผู้ใช้เปิดการสำรองและกู้คืนข้อมูล ระบบจะอัปโหลดข้อมูลแอป Android ไปยังเซิร์ฟเวอร์การสำรองข้อมูล Android และกู้คืนข้อมูลระหว่างการติดตั้งแอปที่เข้ากันได้อีกครั้ง |
| |
| หลังจากการตั้งค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการสำรองและกู้คืนข้อมูลได้</translation> |
| <translation id="6169768162756928771">การตั้งค่าการจัดการข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ GAIA</translation> |
| <translation id="6172110090237528457">กำหนดค่าโปรแกรมรักษาหน้าจอระดับอุปกรณ์สำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงโปรแกรมรักษาหน้าจอเมื่อไม่มีการใช้งานในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า โปรแกรมรักษาหน้าจอจะไม่แสดงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| โปรแกรมรักษาหน้าจอของอุปกรณ์แสดงรูปภาพที่นโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_IMAGES_POLICY_NAME" /> อ้างอิง หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_IMAGES_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า หรือเป็นรายการที่ไม่มีรูปภาพที่ถูกต้อง โปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอการเข้าสู่ระบบจะไม่แสดง |
| |
| ระยะหมดเวลาเนื่องจากไม่มีการใช้งานเพื่อเริ่มโปรแกรมรักษาหน้าจอ และช่วงเวลาที่รูปภาพแสดงอยู่จะแก้ไขได้ด้วยนโยบาย <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_IDLE_TIMEOUT_SECONDS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_SCREENSAVER_LOGIN_SCREEN_DISPLAY_INTERVAL_SECONDS_POLICY_NAME" /> ตามลำดับ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายเหล่านี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นของนโยบายแทน</translation> |
| <translation id="6172896675583897796">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant เข้าถึงบริบทบนหน้าจอและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant เข้าถึงบริบทบนหน้าจอไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะให้ผู้ใช้เลือกว่าจะเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้</translation> |
| <translation id="6173712557351728099">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิด Wi-Fi</translation> |
| <translation id="6178075938488052838">นโยบายนี้ควบคุมว่าใครเริ่มเซสชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้บ้าง แต่ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ในบัญชี Google เพิ่มเติมใน Android หากต้องการป้องกันการลงชื่อเข้าใช้ ให้กำหนดค่านโยบาย <ph name="ACCOUNT_TYPES_WITH_MANAGEMENT_DISABLED_CLOUDDPC_POLICY_NAME" /> เฉพาะสำหรับ Android ให้เป็นส่วนหนึ่งของ <ph name="ARC_POLICY_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="6181304954168534748">แฮช SHA-256 ของเทมเพลตเดสก์</translation> |
| <translation id="6181618732396778048">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ขอสิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์และไดเรกทอรี</translation> |
| <translation id="6181783961196084973">ปุ่มเปิด/ปิดค่าของการรวบรวมกิจกรรมบนแอป หากตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรายงานกิจกรรมบนแอปของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อแสดงในแอป <ph name="PRODUCT_NAME" /> ของบุตรหลานและผู้ปกครอง หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ฟีเจอร์การจำกัดเวลาต่อแอปจะยังทำงาน แต่จะไม่มีการรายงานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์และจะไม่แสดงใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6182206125906000651">ปิดใช้การอัปเกรด HTTPS</translation> |
| <translation id="6182563940865917569">อนุญาตให้ Chrome เล่นสื่อโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="618635925649844912">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงหน้าจอแนะนำฟีเจอร์ AI ในเซสชันให้ผู้ใช้เห็นระหว่างการลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรกหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" หน้าจอแนะนำ AI จะไม่แสดง |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" หน้าจอแนะนำ AI จะแสดงขึ้นมา |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะข้ามหน้าจอแนะนำ AI สำหรับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและแสดงต่อผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6187573347027372072">คำเตือน นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="CROS_GLS_POLICY_NAME" /> แทน ตอนนี้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> มีการสลับตําแหน่งของระบบ ซึ่งควบคุมทั้งระบบ รวมถึง <ph name="ANDROID_NAME" /> ขณะนี้ปุ่มสลับ <ph name="ANDROID_NAME" /> เป็นแบบอ่านอย่างเดียวและจะแสดงสถานะตำแหน่ง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่า <ph name="GLS_ENABLED" /> จะเปิดบริการตำแหน่งของ Google ระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น เว้นแต่จะมีการตั้งค่านโยบาย <ph name="DEFAULT_GEOLOCATION_SETTING_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="BLOCK_GEOLOCATION_SETTING" /> การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="GLS_DISABLED" /> หรือไม่ได้ตั้งค่าจะปิดบริการตำแหน่งไว้ระหว่างการตั้งค่า |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="GLS_UNDER_USER_CONTROL" /> จะส่งข้อความแจ้งผู้ใช้ว่าจะใช้บริการตำแหน่งของ Google หรือไม่ หากผู้ใช้เปิดบริการตำแหน่ง แอป <ph name="ANDROID_NAME" />, แอป <ph name="PRODUCT_OS_NAME" />, เว็บไซต์ และบริการของระบบจะใช้บริการดังกล่าวเพื่อค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์และส่งข้อมูลตำแหน่งแบบไม่ระบุตัวตนไปยัง Google |
| |
| หลังจากการตั้งค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดบริการตำแหน่งของ Google ได้</translation> |
| <translation id="6187632100458475876">การตั้งค่าป้ายกำกับรูปโปรไฟล์ของแถบเครื่องมือที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6190367314942602985">รายงานข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6191963383731098056">นโยบายนี้ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดค่าสีธีมของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> สตริงอินพุตควรเป็นสตริงสีแบบเลขฐานสิบหกที่ถูกต้องซึ่งมีรูปแบบ "#RRGGBB" |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็นสีแบบเลขฐานสิบหกที่ถูกต้องจะทำให้ระบบสร้างธีมที่มีสีดังกล่าวและนำไปใช้กับเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้จะเปลี่ยนธีมที่นโยบายกำหนดไว้ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนธีมของเบราว์เซอร์ได้ตามที่ต้องการ</translation> |
| <translation id="6195356309340063061">เปิดใช้ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุ URL ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเสนอเพื่อเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองสำหรับเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ นโยบายหลังจะช่วยให้เว็บไซต์เหล่านั้นได้รับชุดเอกสารรับรองของสัญญาณที่มีการคำนึงถึงบริบทจากอุปกรณ์ |
| นโยบายนี้กำหนดค่าได้ผ่านหน้าเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ใน <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือปล่อยว่างไว้จะทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดไม่สามารถเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองระดับเบราว์เซอร์และไม่ได้รับสัญญาณจากอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม หากเปิดใช้นโยบาย <ph name="USER_CONTEXT_AWARE_ACCESS_SIGNALS_ALLOWLIST" /> ที่เกี่ยวข้อง ระบบจะเริ่มโฟลว์เอกสารรับรองสำหรับโปรไฟล์ที่มีการจัดการและรวบรวมสัญญาณของอุปกรณ์ได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format</translation> |
| <translation id="6195802366906945965">กำหนดว่าจะใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองในตัวเพื่อยืนยันใบรับรองเซิร์ฟเวอร์หรือไม่</translation> |
| <translation id="6198947200418556248">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว หากคุณยังคงต้องการให้คุกกี้มีลักษณะการทำงานเดิม โปรดใช้ <ph name="LEGACY_SAMESITE_COOKIE_BEHAVIOR_ENABLED_FOR_DOMAIN_LIST_POLICY_NAME" /> อนุญาตให้คุณเปลี่ยนคุกกี้ทั้งหมดกลับไปมีลักษณะการทำงาน <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เช่นเดิมได้ การเปลี่ยนกลับไปใช้ลักษณะการทำงานเดิมทำให้คุกกี้ที่ไม่ได้ระบุแอตทริบิวต์ <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> ได้รับการดำเนินการเหมือนกับเป็น "<ph name="ATTRIBUTE_VALUE_SAMESITE_NONE" />", นำข้อกำหนดที่คุกกี้ "<ph name="ATTRIBUTE_VALUE_SAMESITE_NONE" />" ต้องมีแอตทริบิวต์ "<ph name="ATTRIBUTE_SECURE_NAME" />" ออกไป และข้ามการเปรียบเทียบสกีมเมื่อประเมินว่าเว็บไซต์ 2 แห่งเป็นเว็บไซต์เดียวกันหรือไม่ ดูคำอธิบายแบบเต็มใน https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/cookie-legacy-samesite-policies |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ลักษณะการทำงาน <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> ที่เป็นค่าเริ่มต้นของคุกกี้จะขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้สำหรับฟีเจอร์ <ph name="FEATURE_NAME_SAMESITE_BY_DEFAULT_COOKIES" />, ฟีเจอร์ <ph name="FEATURE_NAME_SAMESITE_NONE_MUST_BE_SECURE" /> และฟีเจอร์ <ph name="FEATURE_NAME_SCHEMEFUL_SAME_SITE" /> ซึ่งอาจมีการตั้งค่าโดยการทดสอบในวงจำกัด หรือโดยการเปิดหรือปิดใช้แฟล็ก <ph name="FLAG_NAME_SAMESITE_BY_DEFAULT_COOKIES" />, แฟล็ก <ph name="FLAG_NAME_SAMESITE_NONE_MUST_BE_SECURE" /> หรือแฟล็ก <ph name="FLAG_NAME_SCHEMEFUL_SAME_SITE" /> ตามลำดับ</translation> |
| <translation id="6200225675236107198">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BLOCK_LOCAL_FONTS_POLICY_NAME" /> (ค่า 2) จะปฏิเสธการให้สิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องแก่เว็บไซต์โดยอัตโนมัติตามค่าเริ่มต้น การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับแบบอักษรในเครื่องได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ASK_LOCAL_FONTS_POLICY_NAME" /> (ค่า 3) จะแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้เมื่อขอสิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องโดยค่าเริ่มต้น หากผู้ใช้อนุญาตสิทธิ์ดังกล่าว เว็บไซต์จะดูข้อมูลเกี่ยวกับแบบอักษรในเครื่องได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น ซึ่งก็คือการแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้ แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="6203715554101884845">การตั้งค่านโยบายนี้ทำให้คุณสามารถแสดงรายการ URL ที่ระบุเว็บไซต์ซึ่งได้รับสิทธิ์ให้เข้าถึงอุปกรณ์ HID โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่กำหนดในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ แต่ละรายการในลิสต์ต้องระบุทั้งช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> และ <ph name="URLS_FIELD_NAME" /> จึงจะมีผล มิเช่นนั้น ระบบจะไม่สนใจรายการดังกล่าว แต่ละรายการในช่อง <ph name="DEVICES_FIELD_NAME" /> ต้องมี <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> และอาจมีช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่มีรหัสผู้ให้บริการที่ระบุ รายการที่ระบุช่อง <ph name="PRODUCT_ID_FIELD_NAME" /> แต่ไม่ระบุช่อง <ph name="VENDOR_ID_FIELD_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางกับเว็บไซต์ทั้งหมด (ไม่มีการเข้าถึงโดยอัตโนมัติ)</translation> |
| <translation id="6207607210601267301">ปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ใช้ PIN สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="6208896993204286313">รายงานข้อมูลนโยบายของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6210259502936598222">รายงานข้อมูลระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6220835555850906733">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตเอาต์พุตเสียงทั้งหมดที่รองรับในอุปกรณ์ของผู้ใช้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะไม่อนุญาตเอาต์พุตเสียงขณะที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อยู่ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้มีผลกับเอาต์พุตเสียงทั้งหมด ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษที่เป็นเสียง อย่าปิดนโยบายนี้หากผู้ใช้ต้องการโปรแกรมอ่านหน้าจอ</translation> |
| <translation id="6221175752766085998">อนุญาตใบรับรองที่ออกโดย Trust Anchor ในพื้นที่ที่ไม่มีส่วนขยาย subjectAlternativeName</translation> |
| <translation id="6221327862246049151">Salt นี้จะใช้เป็นค่า Salt เมื่อแฮชข้อมูลประจำตัวที่รวมอยู่ในสตริง <ph name="DOH_TEMPLATES_WITH_IDENTIFIERS_POLICY_NAME" /> |
| |
| Salt ต้องเป็นสตริงที่ยาว 8 ถึง 32 อักขระ |
| |
| ในเวอร์ชัน 114 ขึ้นไป นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ไม่บังคับหากมีการตั้งค่านโยบาย <ph name="DOH_TEMPLATES_WITH_IDENTIFIERS_POLICY_NAME" /> ไว้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะแฮชตัวระบุใน URI เทมเพลตที่กำหนดค่าผ่านนโยบาย <ph name="DOH_TEMPLATES_WITH_IDENTIFIERS_POLICY_NAME" /> โดยไม่ใช้ Salt</translation> |
| <translation id="622197575020133151">กำหนดค่าฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ Generative AI</translation> |
| <translation id="6224070048795197148">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เบราว์เซอร์โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="6224304369267200483">URL/โดเมนอนุญาตการยืนยันกุญแจรักษาความปลอดภัยโดยตรงโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6225938950222983458">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้ <ph name="NOTE_TAKING_APPS_LOCK_SCREEN_ALLOWLIST" /> แทน</translation> |
| <translation id="6230442621691161858">ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้คำแนะนำเนื้อหาใหม่ให้สำรวจ รวมแอป หน้าเว็บ และอื่นๆ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้คำแนะนำเนื้อหาใหม่ให้สำรวจ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้คำแนะนำเนื้อหาใหม่ให้สำรวจ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้คำแนะนำเนื้อหาใหม่ให้สำรวจสำหรับผู้ใช้ที่มีการจัดการและเปิดใช้สำหรับผู้ใช้อื่นๆ |
| </translation> |
| <translation id="6233173491898450179">ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="6234167788423986573">การรวบรวมข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลซึ่งผูกกับ URL จะไม่ทํางาน</translation> |
| <translation id="6234177445959386333">กำหนดค่ารายการ URL สำหรับเข้าสู่ระบบขององค์กรที่บริการป้องกันด้วยรหัสผ่านควรบันทึกแฮชที่ใช้ Salt ของรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="6236880578835238059">กำหนดค่ารายการ URL ที่ได้รับอนุญาตให้คงอยู่ในโหมดเต็มหน้าจอโดยไม่ต้องแสดงการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์ออกจากหน้าจอล็อก |
| |
| โดยทั่วไปโหมดเต็มหน้าจอจะปิดเมื่อออกจากหน้าจอล็อกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการโจมตีแบบฟิชชิง นโยบายนี้ให้คุณระบุ URL ที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในโหมดเต็มหน้าจอต่อไปเมื่อปลดล็อก โดยกำหนดนโยบายด้วยการระบุรายการรูปแบบ URL ที่จัดรูปแบบตามนี้ ( https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format ) เช่น อาจให้อยู่ในโหมดเต็มหน้าจออยู่เสมอเมื่อปลดล็อกและปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดได้โดยระบุอักขระไวลด์การ์ด <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ที่ตรงกับ URL ทั้งหมด |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการที่ว่างเปล่าหรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ไม่มี URL ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในโหมดเต็มหน้าจอต่อไปโดยไม่มีการแจ้งเตือน</translation> |
| <translation id="6240222568708113780">อนุญาตให้ดาวน์โหลดการสแกนอย่างละเอียดสำหรับผู้ใช้ที่เปิดใช้ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="624080397610861618">ปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดี</translation> |
| <translation id="6242147107333796512">รายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายงานข้อขัดข้อง เช่น รหัสระยะไกล การประทับเวลาการบันทึก และสาเหตุ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับรายงานข้อขัดข้อง หากตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับรายงานข้อขัดข้อง</translation> |
| <translation id="624219423122512710">การดำเนินการเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ที่ไม่มีการใช้งาน</translation> |
| <translation id="6244061205361004687">อนุญาตให้ผู้ใช้ยกเลิกการเชื่อมต่อหรือแก้ไข VPN ด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="6244210204546589761">URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน</translation> |
| <translation id="624595269193747921">ระบุว่าจะจำกัดการค้นหาเครื่องพิมพ์ที่ตรงกันเป็นชุดเครื่องพิมพ์ที่เจาะจงหรือไม่</translation> |
| <translation id="6246290059248303618">แสดงตัวควบคุมสื่อสำหรับเซสชัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่เริ่มต้นโดยอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายภายใน</translation> |
| <translation id="6247316685259031374">นโยบายนี้ควบคุมกระบวนการของเสียงที่มีการใช้แซนด์บ็อกซ์ |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของเสียงจะทำงานโดยใช้แซนด์บ็อกซ์ |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของเสียงจะทำงานโดยไม่ใช้แซนด์บ็อกซ์และโมดูลการประมวลผลเสียง WebRTC จะทำงานในกระบวนการของโหมดแสดงภาพ |
| ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียกใช้ระบบย่อยของเสียงโดยไม่ใช้แซนด์บ็อกซ์ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การกำหนดค่าเริ่มต้นสำหรับแซนด์บ็อกซ์เสียง ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อให้ความยืดหยุ่นแก่องค์กรในการปิดใช้แซนด์บ็อกซ์เสียง หากองค์กรใช้การตั้งค่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยที่รบกวนแซนด์บ็อกซ์</translation> |
| <translation id="624818583115864448">พอร์ต 554 (เลิกบล็อกได้จนถึง 15/10/2021)</translation> |
| <translation id="6249912382559535329">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยแป้นพิมพ์เสมือนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อผ่านการตั้งค่าการช่วยเหลือพิเศษ |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการเปิดหรือปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส เช่น แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสจะยังคงแสดงบนอุปกรณ์แท็บเล็ต แม้ว่าจะตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ก็ตาม</translation> |
| <translation id="6254498834449523938">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ข้ามคำเตือนของ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="625580680776945310">ระบบจะเปิดใช้โหมดประสิทธิภาพสูง</translation> |
| <translation id="6258314216623064461">การตั้งค่าสำหรับ "ช่วยฉันเขียน"</translation> |
| <translation id="6258502079038650092">ควบคุมว่าผู้ใช้จะใช้ Chrome สำหรับการทดสอบได้ไหม |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะติดตั้งและเรียกใช้ Chrome สำหรับการทดสอบได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ Chrome สำหรับการทดสอบ ผู้ใช้จะยังคงติดตั้ง Chrome สำหรับการทดสอบได้ แต่จะไม่เรียกใช้กับโปรไฟล์ที่ตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้"</translation> |
| <translation id="6258658183356534534">ควบคุมฟีเจอร์ User-Agent Client Hints GREASE Update</translation> |
| <translation id="6261643884958898336">รายงานข้อมูลการระบุเครื่อง</translation> |
| <translation id="6264247808139384018">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ด้วยรหัสผ่านล็อกหน้าจอได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ล็อกหน้าจอไม่ได้ (จะออกจากระบบเซสชันผู้ใช้ได้เท่านั้น)</translation> |
| <translation id="6265892395051519509">อนุญาตให้เข้าถึงเซ็นเซอร์ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="6266043141694454734">กำหนดว่าจะใช้ Chrome Root Store และตัวตรวจสอบใบรับรองในตัวเพื่อยืนยันใบรับรองเซิร์ฟเวอร์หรือไม่</translation> |
| <translation id="6267130578410325007">นโยบายนี้อนุญาตการสร้างคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับต้นทางโดยค่าเริ่มต้น |
| |
| ส่วนหัว HTTP Origin-Agent-Cluster จะควบคุมว่าเอกสารจะถูกแยกไว้ในคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับต้นทาง หรือในคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับเว็บไซต์ ซึ่งจะมีนัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับต้นทางอนุญาตให้แยกเอกสารตามต้นทางได้ ผลที่ตามมาที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์จะมองเห็นคือตัวช่วยเข้าถึง document.domain จะตั้งค่าไม่ได้อีก |
| |
| ลักษณะการทำงานเริ่มต้น (เมื่อไม่ได้ตั้งค่าส่วนหัว Origin-Agent-Cluster ไว้) ใน M111 จะเปลี่ยนจากผูกกับเว็บไซต์ไปเป็นผูกกับต้นทาง |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า เบราว์เซอร์จะทำตามค่าเริ่มต้นใหม่จากเวอร์ชันดังกล่าวเป็นต้นไป |
| |
| หากปิดใช้นโยบาย การเปลี่ยนแปลงนี้จะย้อนกลับและเอกสารที่ไม่มีส่วนหัว Origin-Agent-Cluster จะได้รับการกำหนดให้กับคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับเว็บไซต์ ผลที่ตามมาคือตัวช่วยเข้าถึง document.domain จะยังคงตั้งค่าได้อยู่โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งจะตรงกันกับลักษณะการทำงานเดิม |
| |
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://developer.chrome.com/blog/immutable-document-domain/</translation> |
| <translation id="6270615143812355589">เปิดใช้งานอินพุตเสียง</translation> |
| <translation id="6270791075656665237">ไม่อนุญาต QUIC</translation> |
| <translation id="6273015149273504999"> |
| ระบุรายชื่อแอปและส่วนขยายที่ติดตั้งแบบเงียบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ (ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการ) ซึ่งผู้ใช้ถอนการติดตั้งหรือปิดใช้ไม่ได้ |
| |
| ระบบจะให้สิทธิ์ที่แอป/ส่วนขยายขอโดยปริยาย โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการ ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ที่แอป/ส่วนขยายเวอร์ชันใหม่ๆ ในอนาคตจะขอเพิ่มเติมด้วย <ph name="PRODUCT_NAME" /> จำกัดชุดสิทธิ์ที่ส่วนขยายจะขอได้ |
| |
| โปรดทราบว่า จะติดตั้งได้เฉพาะแอปและส่วนขยายที่อยู่ในรายชื่อที่อนุญาตซึ่งรวมอยู่ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ระบบจะเพิกเฉยต่อรายการอื่นๆ ทั้งหมด |
| |
| หากมีการนำแอปหรือส่วนขยายที่บังคับติดตั้งก่อนหน้านี้ออกจากรายชื่อนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะถอนการติดตั้งแอปหรือส่วนขยายดังกล่าวโดยอัตโนมัติ |
| |
| แต่ละรายการของนโยบายมีลักษณะเป็นสตริงที่มีรหัสส่วนขยายและอาจมี URL "อัปเดต" ที่คั่นด้วยเครื่องหมายอัฒภาค (<ph name="SEMICOLON" />) รหัสส่วนขยายคือสตริงตัวอักษร 32 ตัว เช่น ที่พบใน <ph name="CHROME_EXTENSIONS_LINK" /> เมื่ออยู่ในโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ URL "อัปเดต" (หากระบุไว้) ควรชี้ไปยังเอกสาร XML ไฟล์ Manifest ของการอัปเดตตามที่อธิบายไว้ที่ <ph name="LINK_TO_EXTENSION_DOC1" /> โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะใช้ URL อัปเดตของ Chrome เว็บสโตร์ (ปัจจุบันคือ "https://clients2.google.com/service/update2/crx") โปรดทราบว่า URL "อัปเดต" ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้จะใช้สำหรับการติดตั้งครั้งแรกเท่านั้น ส่วนการอัปเดตส่วนขยายในครั้งต่อๆ ไปจะใช้ URL อัปเดตที่ระบุไว้ในไฟล์ Manifest ของส่วนขยาย |
| |
| ตัวอย่างเช่น <ph name="LOGIN_SCREEN_EXTENSION_POLICY_EXAMPLE" /> จะติดตั้งแอป <ph name="SMART_CARD_CONNECTOR_APP_NAME" /> จาก URL "อัปเดต" ของ Chrome เว็บสโตร์มาตรฐาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฮสต์ส่วนขยายได้ที่ <ph name="LINK_TO_EXTENSION_DOC2" /></translation> |
| <translation id="6273107124506133797">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้ <ph name="USB_DETACHABLE_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="6274202259872570803">Screencast</translation> |
| <translation id="6275497712828649588">ซ่อนคำเตือนด้านความปลอดภัยเมื่อมีการใช้การติดธงบรรทัดคำสั่งที่อาจเป็นอันตราย</translation> |
| <translation id="6275833043726517413">ควรใช้การใช้งาน <ph name="CORS" /> เดิมมากกว่า <ph name="CORS" /> ใหม่ |
| |
| หากตั้งค่านี้เป็น "จริง" ระบบจะใช้การใช้งานเดิมซึ่งควรจะเข้ากันได้กับเวอร์ชันก่อนหน้า |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า การใช้งานใหม่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความเข้ากันได้เฉพาะสำหรับองค์กร |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกหลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่ง |
| |
| ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ <ph name="CORS" /> ได้ที่ <ph name="CORS_HELP_URL" /> |
| |
| โปรดทราบว่าเราได้ประกาศว่าจะนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 82 แต่ได้นำออกในเวอร์ชัน 84</translation> |
| <translation id="6276087670023098167">ปิดใช้การรายงานข้อมูลการระบุเครื่อง</translation> |
| <translation id="627672037430076089">ป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เพื่อให้การสนับสนุนระยะไกล</translation> |
| <translation id="6277314550042130537">ใช้การอนุมัติจากนโยบาย KDC ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP</translation> |
| <translation id="6278428485366576908">ธีม</translation> |
| <translation id="628084107912717806">ระบุว่าจะให้ส่งโมดูล WebAssembly แบบข้ามต้นทางหรือไม่</translation> |
| <translation id="6280973140313576289">บังคับใช้เครื่องมือเลือกโปรไฟล์เมื่อเริ่มต้นระบบ</translation> |
| <translation id="6282524907402492171">แสดงคำเตือนการเลิกใช้งาน <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6282799760374509080">อนุญาตหรือปฏิเสธการจับเสียง</translation> |
| <translation id="6284362063448764300">TLS 1.1</translation> |
| <translation id="6287128640500683781">อนุญาตให้ผู้ใช้ทุกคนลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="6287310684159482272">การตั้งค่าคุกกี้</translation> |
| <translation id="6287742528823584153">เปิดใช้บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และเปิดเดสก์ระยะไกลเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6299147100249359151">อนุญาตการตรวจหาขอบเขตนโยบาย</translation> |
| <translation id="6299554629216555326">การตั้งค่าการจัดการหน้าต่าง</translation> |
| <translation id="6302021021024941085">ปิดใช้เครื่องมือแก้ปัญหาคีออสก์</translation> |
| <translation id="6303118494824248488">URL ของอิมเมจดิสก์ที่จะดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="6303278429164386663">ควบคุมการเปิดใช้ฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies</translation> |
| <translation id="6305373713165475629">การตั้งค่านโยบายนี้จะลบล้างโหมดการพิมพ์สีเริ่มต้น หากโหมดนี้ไม่พร้อมใช้งาน ระบบจะเพิกเฉยต่อนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="6308109234708949641">นโยบายนี้เปิดใช้ฟีเจอร์ Screencast สำหรับผู้ใช้ Family Link และให้สิทธิ์ในการสร้างและถอดเสียงการบันทึกหน้าจอและอัปโหลดไปยังไดรฟ์ |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อผู้ใช้ประเภทอื่นๆ |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อนโยบาย <ph name="PROJECTOR_ENABLED_POLICY_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย ระบบจะเปิดการลองใช้ Screencast สำหรับผู้ใช้ Family Link |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดการลองใช้ Screencast สำหรับผู้ใช้ Family Link |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย การลองใช้ Screencast จะปิดโดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ Family Link</translation> |
| <translation id="6310223829319187614">เปิดใช้การเติมชื่อโดเมนอัตโนมัติระหว่างการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6310756730808079944">เปิดใช้ Screencast</translation> |
| <translation id="631081324835911099">บังคับให้ผู้ใช้ออกจากระบบเมื่อโทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์บัญชีหลักของผู้ใช้ไม่ถูกต้อง |
| นโยบายนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาที่จำกัดในผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเทอร์เน็ตของ Google |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะนำผู้ใช้ออกจากระบบทันทีที่โทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ไม่ถูกต้องและพยายามคืนค่าโทเค็นนี้ไม่สำเร็จ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะทำงานต่อได้ในสถานะที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="631183702829488873">เมื่อเปิดใช้ไว้ ฟีเจอร์นี้จะแสดงปุ่มในหน้าจอเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก ซึ่งจะช่วยให้แสดงรหัสผ่านได้ |
| ปุ่มนี้จะแสดงเป็นไอคอนรูปดวงตาในช่องข้อความรหัสผ่าน ปุ่มดังกล่าวจะไม่แสดงเมื่อปิดใช้ฟีเจอร์นี้อยู่ |
| </translation> |
| <translation id="6313108604615108577">นโยบายนี้ควบคุมว่าเวอร์ชันหลักของสตริง User-Agent ควรหยุดอยู่ที่ 99 หรือไม่ |
| |
| ส่วนหัวของคำขอ User-Agent ช่วยให้เว็บไซต์ระบุแอปพลิเคชัน ระบบปฏิบัติการ ผู้ให้บริการ และ/หรือเวอร์ชันของ User Agent ที่เป็นผู้ขอได้ |
| เว็บไซต์บางแห่งคาดเดาเกี่ยวกับการจัดรูปแบบของส่วนหัวนี้และอาจพบปัญหากับสตริงของเวอร์ชันที่มีเลข 3 หลักในตำแหน่งหลัก (เช่น 100.0.0.0) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ค่าเริ่มต้น" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ระบบใช้การตั้งค่าเบราว์เซอร์เป็นค่าเริ่มต้นสำหรับเวอร์ชันหลักของสตริง User-Agent |
| หากตั้งค่าเป็น ForceDisabled สตริง User-Agent จะไม่หยุดเวอร์ชันหลัก |
| หากตั้งค่าเป็น ForceEnabled สตริง User-Agent จะรายงานเวอร์ชันหลักเป็น 99 เสมอและรวมเวอร์ชันหลักของเบราว์เซอร์ไว้ในตำแหน่งรอง ตัวอย่างเช่น เบราว์เซอร์เวอร์ชัน 101.0.0.0 จะส่งส่วนหัวของคำขอ User-Agent ที่รายงานเวอร์ชัน 99.101.0.0 |
| |
| นโยบายนี้มีผลชั่วคราวและจะเลิกใช้งานในอนาคต โปรดทราบว่าหากเปิดใช้ทั้งนโยบายนี้และ <ph name="USER_AGENT_REDUCTION_POLICY_NAME" /> สตริงเวอร์ชัน User-Agent จะเป็น 99.0.0.0 เสมอ</translation> |
| <translation id="6313170479290171718">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้นโยบาย <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดแป้นพิมพ์บนหน้าจอไว้เมื่อลงชื่อเข้าใช้ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดแป้นพิมพ์บนหน้าจอไว้เมื่อลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดแป้นพิมพ์บนหน้าจอได้ชั่วคราว เมื่อหน้าจอลงชื่อเข้าใช้โหลดซ้ำหรือไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 1 นาที แป้นพิมพ์บนหน้าจอจะเปลี่ยนกลับไปอยู่ในสถานะเดิม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ แป้นพิมพ์บนหน้าจอจะปิดอยู่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้จะเปิดใช้เมื่อใดก็ได้ และสถานะนั้นในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้จะยังคงอยู่ตลอดระหว่างการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน |
| |
| หมายเหตุ: <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะลบล้างนโยบายนี้หากระบุนโยบายเดิมไว้</translation> |
| <translation id="6315039134652691025">ผู้ใช้ไม่สามารถนำข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6316678265585263617">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เลือกว่าจะใช้แนวทางใด</translation> |
| <translation id="6316885783540658874">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะเปิดการใช้งาน <ph name="AES_KL_NAME" /> กับการเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้สำหรับหน้าแรกของผู้ใช้ <ph name="DM_CRYPT" /> ใน Chrome OS หรือไม่ (หากรองรับ) |
| |
| นโยบายนี้มีผลเฉพาะกับหน้าแรกของผู้ใช้ <ph name="DM_CRYPT" /> สำหรับการเข้ารหัส หน้าแรกของผู้ใช้เดิม (ซึ่งไม่ได้ใช้ <ph name="DM_CRYPT" />) ไม่รองรับการใช้ <ph name="AES_KL_NAME" /> และจะใช้ <ph name="AES_NI_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| หากค่าของนโยบายมีการเปลี่ยนแปลง หน้าแรกของผู้ใช้ <ph name="DM_CRYPT" /> เดิมจะเข้าถึงได้โดยการใช้งานการเข้ารหัสซึ่งกำหนดค่าไว้โดยนโยบายเนื่องจากใช้งาน <ph name="AES_ALGORITHM_NAME" /> ร่วมกันได้ |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย การเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้สำหรับหน้าแรกของผู้ใช้ <ph name="DM_CRYPT" /> จะใช้ <ph name="AES_NI_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6316971721180184579">ปิดเสียงเตือนแบตเตอรี่ต่ำ</translation> |
| <translation id="6319198883324703402">ตั้งเวลาของการแจ้งเตือนการเปิดใหม่ของผู้ใช้คนแรก</translation> |
| <translation id="6319907968994678054">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะปิดการซิงค์ข้อมูลใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งใช้บริการการซิงค์ข้อมูลที่โฮสต์ไว้ใน Google |
| หากต้องการปิดบริการ<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> ทั้งหมด เราขอแนะนำให้ปิดบริการใน<ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกได้ว่าจะใช้<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> หรือไม่ |
| |
| หมายเหตุ: อย่าเปิดใช้นโยบายนี้เมื่อเปิดใช้ <ph name="ROAMING_PROFILE_SUPPORT_ENABLED_POLICY_NAME" /> อยู่ เนื่องจากฟีเจอร์ดังกล่าวมีฟังก์ชันการทำงานฝั่งไคลเอ็นต์เหมือนกัน การซิงค์ที่โฮสต์ไว้ใน Google จะปิดโดยสมบูรณ์ในกรณีนี้</translation> |
| <translation id="6320935916601887506">ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบใหม่ของ offsetParent โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6321635563435539529">การตั้งค่าบริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="632248221998836641">ลบล้างการตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงของ IPv6 ค้นหาระเบียน AAAA เสมอสำหรับการแปลงชื่อโฮสต์</translation> |
| <translation id="6324274808543634377">การตั้งค่า F11/F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="6327643515544933974">การตั้งค่า USB ของเว็บ</translation> |
| <translation id="6330882599388782338">อนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงเซ็นเซอร์</translation> |
| <translation id="6331167725613770725">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนแสดงกล่องคำเตือนหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊ก |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงกล่องคำเตือนที่แจ้งผู้ใช้ว่ากำลังจะเริ่มตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ จะไม่มีกล่องคำเตือนปรากฏขึ้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้เหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| ข้อความเตือนจะแสดงต่อเมื่อการทำงานสำหรับการไม่มีความเคลื่อนไหวคือการออกจากระบบหรือการปิดเครื่อง</translation> |
| <translation id="6331943515692769234">บังคับให้ใช้อัลกอริทึม User-Agent GREASE ที่มีอยู่ก่อน</translation> |
| <translation id="6332546092866098577">บล็อกสิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านผ่าน File System API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="6333338054007607863">ดาวน์โหลดโมเดลโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6334330017384340264">นโยบายนี้จะระบุว่าแอปพลิเคชันและ URL ใดควรได้รับอนุญาตสำหรับข้อจำกัดการใช้งานต่อแอป |
| รายการที่อนุญาตที่กำหนดจะใช้กับแอปที่ติดตั้งใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ที่มีการจำกัดเวลาต่อแอป |
| รายการที่อนุญาตที่กำหนดจะใช้เฉพาะกับบัญชีผู้ใช้ที่เป็นเด็กและมีผลเมื่อมีการตั้งค่านโยบาย <ph name="PER_APP_TIME_LIMITS_POLICY_NAME" /> |
| รายการที่อนุญาตที่กำหนดจะใช้กับแอปพลิเคชันและ URL เพื่อไม่ให้ถูกบล็อกโดยการจำกัดเวลาต่อแอป |
| การเข้าถึง URL ที่อนุญาตจะไม่นับรวมในการจำกัดเวลาของ Chrome |
| เพิ่มนิพจน์ทั่วไปของ URL ไปยังรายการ |url_list| เพื่อเพิ่ม URL ที่ตรงกับนิพจน์ทั่วไปใดๆ ในรายการลงในรายการที่อนุญาต |
| เพิ่มแอปพลิเคชันพร้อม |app_id| และ |app_type| ของแอปไปยังรายการ |app_list| เพื่อเพิ่มแอปพลิเคชันนั้นลงในรายการที่อนุญาต |
| </translation> |
| <translation id="6334397544347592516">อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรเชื่อมต่อกับเครื่องนี้เพื่อให้การสนับสนุนจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="6335206050538331829">กลยุทธ์การย้ายข้อมูลสำหรับการย้ายข้อมูล VM ของ ARC</translation> |
| <translation id="6337782882143073193">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ปิดใช้รูปแบบโปรโตคอลที่ระบุไว้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| URL ที่ใช้รูปแบบจากรายการนี้จะไม่โหลดขึ้นมาและคุณจะไปยัง URL เหล่านั้นไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือรายการยังว่างอยู่ รูปแบบทั้งหมดจะเข้าถึงได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6338831500376286321">ตั้งค่าระดับการเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ระดับอุปกรณ์สำหรับระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งมีผลก่อนที่ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้ หลังจากลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้จะควบคุมระดับการเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ผ่านการตั้งค่าของผู้ใช้แต่ละรายได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็น <ph name="ALLOW" /> ระบบจะอนุญาตการเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในหน้าจอเข้าสู่ระบบสำหรับอุปกรณ์ที่มีการจัดการ หากส่งค่านโยบายที่ไม่ถูกต้อง สิทธิ์เข้าถึงจะกลับไปเป็น <ph name="DISALLOW" /> สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ สิทธิ์ดังกล่าวจะเป็น <ph name="ALLOW" /> เสมอ |
| |
| คําเตือน: โปรดระมัดระวังเมื่อเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ เนื่องจากอาจละเมิดนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (เช่น <ph name="SYSTEM_TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_POLICY" />) กล่าวคือ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="DISALLOW" /> ตัวเลือก <ph name="POLICY_ENUM_SYSTEMTIMEZONEAUTOMATICDETECTION_TIMEZONEAUTOMATICDETECTIONSENDWIFIACCESSPOINTS" /> และ <ph name="POLICY_ENUM_SYSTEMTIMEZONEAUTOMATICDETECTION_TIMEZONEAUTOMATICDETECTIONSENDALLLOCATIONINFO" /> ของนโยบาย <ph name="SYSTEM_TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_POLICY" /> จะทำงานผิดปกติ และจะใช้ตำแหน่งที่อิงตาม <ph name="IP" /> ในหน้าจอ<ph name="LOG_IN" />เท่านั้น</translation> |
| <translation id="6338982178236723271">รายงานข้อมูลระบบ</translation> |
| <translation id="6339355882150329269">ถือว่าผู้ใช้ยังมีการใช้งานอยู่ขณะเล่นวิดีโอ</translation> |
| <translation id="6352714113109004581">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ HID ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับนโยบาย รูปแบบต่อไปนี้จะมีความสำคัญสูงกว่าตามลำดับ |
| |
| * <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> (หากมีการจับคู่) |
| |
| * <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> (หากตั้งค่าไว้) หรือ |
| |
| * การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="6353890097388312479">การตั้งค่านโยบายเป็น "All" (0) หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขการตั้งค่าความน่าเชื่อถือของใบรับรอง CA ทั้งหมด ลบใบรับรองที่ผู้ใช้นำเข้า และนำเข้าใบรับรองโดยใช้ตัวจัดการใบรับรองได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "UserOnly" (1) ทำให้ผู้ใช้จัดการได้เฉพาะใบรับรองที่ผู้ใช้นำเข้า และจะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความน่าเชื่อถือของใบรับรองในเครื่องไม่ได้ การตั้งค่าเป็น "None" (2) ทำให้ผู้ใช้ดูใบรับรอง CA ได้ (จัดการไม่ได้)</translation> |
| <translation id="6358320368815225772">ปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6362589180545896213">ปิดใช้การถอดรหัสวิดีโอฮาร์ดแวร์ GPU</translation> |
| <translation id="6362856770865555544">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะเปิดการเพิ่มประสิทธิภาพ WPAD (Web Proxy Auto-Discovery) ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการเพิ่มประสิทธิภาพ WPAD ซึ่งทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ต้องรอเซิร์ฟเวอร์ WPAD แบบใช้ DNS เป็นเวลานานขึ้น |
| |
| ไม่ว่าจะมีการตั้งค่านโยบายนี้หรือไม่ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าการเพิ่มประสิทธิภาพ WPAD ไม่ได้</translation> |
| <translation id="6363485842496031347">การตั้งค่าแป้นพิมพ์ลัด "Delete" จะใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="6366574325767783825">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะยอมรับเนื้อหาเว็บที่แสดงเป็น Signed HTTP Exchange |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะป้องกันไม่ให้ Signed HTTP Exchange โหลด</translation> |
| <translation id="6368011194414932347">กำหนดค่า URL ของหน้าแรก</translation> |
| <translation id="6368403635025849609">อนุญาตให้ใช้ JavaScript บนไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="6371005337713685988">การตั้งค่าชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="6371561334154580937">แสดงกล่องโต้ตอบการออกจากระบบเมื่อปิดหน้าต่างสุดท้าย</translation> |
| <translation id="6372105930898423193">อนุญาตให้เปิดใช้ฟีเจอร์ AppCache อีกครั้งหากฟีเจอร์นี้ปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6373299801585455337">เปิดใช้การรายงานข้อมูล CPU ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6374945506685352202">รายการที่บล็อกสำหรับประเภทส่วนขยายที่ติดตั้ง</translation> |
| <translation id="6376540107659524656">ปิดใช้ SSH ในแอประบบเทอร์มินัล</translation> |
| <translation id="6376659517206731212">อาจเป็นข้อบังคับ</translation> |
| <translation id="637677821295115289">ตั้งค่าไดเรกทอรีที่มีการบันทึกการจับภาพหน้าจอ (ทั้งภาพหน้าจอและการบันทึกหน้าจอ) |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "แนะนำ" ระบบจะใช้ค่านี้โดยค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนได้ |
| หรือกรณีอื่นคือผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้และจะบันทึกการจับภาพลงในไดเรกทอรีที่กำหนดไว้เสมอ |
| |
| นโยบายใช้รูปแบบเดียวกับนโยบาย <ph name="DOWNLOAD_DIRECTORY_POLICY_NAME" /> โดยอาจตั้งค่าตำแหน่งเป็นระบบไฟล์ในเครื่องหรือ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> (ที่มีคำนำหน้า "${google_drive}" ) หรือ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> (ที่มีคำนำหน้า "${microsoft_onedrive}") |
| หากตั้งค่านโยบายเป็นสตริงว่างเปล่า ระบบจะบังคับให้จัดเก็บการจับภาพหน้าจอไว้ในไดเรกทอรี "ดาวน์โหลด" ในเครื่อง |
| ดูรายการตัวแปรที่คุณใช้ได้ ( https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/user-data-directory-variables ) |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ไดเรกทอรี "ดาวน์โหลด" เริ่มต้นในการจัดเก็บการจับภาพหน้าจอและผู้ใช้จะเปลี่ยนได้</translation> |
| <translation id="6377031865393559909">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เทมเพลตเดสก์</translation> |
| <translation id="6378076389057087301">ระบุว่ากิจกรรมเสียงมีผลต่อการจัดการพลังงานหรือไม่</translation> |
| <translation id="6378393933102834628">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" แสดงทางลัดของแอป การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าทางลัดนี้จะไม่ปรากฏขึ้น |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกว่าจะแสดงหรือซ่อนทางลัดของแอปในเมนูตามบริบทของแถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="638003144128412430">ปิดใช้การรายงานข้อมูลเขตเวลาของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6382209369210116232">ปิดใช้ส่วนขยายที่ไม่ได้เผยแพร่</translation> |
| <translation id="6382351416269252693">สร้างรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะปฏิเสธการให้สิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับแบบอักษรในเครื่องได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_LOCAL_FONTS_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="6383774771168138899">กําหนดค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /></translation> |
| <translation id="6384542789059421431">เปิดใช้การแสดงหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในแผงด้านข้างของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="6394350458541421998">นโยบายนี้ได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 29 โปรดใช้นโยบาย PresentationScreenDimDelayScale แทน</translation> |
| <translation id="6396956366662970339">ระบุว่าจะอนุญาตให้รูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติพักขั้นตอนการชาร์จไว้ชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่หรือไม่ |
| |
| เมื่อเสียบปลั๊กอุปกรณ์อยู่ รูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติจะประเมินว่าควรพักขั้นตอนการชาร์จไว้ชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่หรือไม่ หากรูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติพักขั้นตอนการชาร์จไว้ชั่วคราวก็จะคงแบตเตอรี่ไว้ที่ระดับหนึ่ง (เช่น 80%) จากนั้นจะชาร์จจนถึง 100% เมื่อผู้ใช้ต้องการ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้การชาร์จแบบปรับอัตโนมัติและอนุญาตให้หยุดการชาร์จไว้ชั่วคราวได้เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า การชาร์จแบบปรับอัตโนมัติจะไม่ส่งผลต่อขั้นตอนการชาร์จ</translation> |
| <translation id="6397588391180665797">รายงานการกำหนดค่าเครือข่ายของผู้ใช้ในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะมีการรายงานการกำหนดค่าเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6398489342702562818">การตั้งค่านโยบายนี้จะบังคับให้เปิดหรือปิดใช้การจับคู่ด่วน |
| การจับคู่ด่วนเป็นขั้นตอนการจับคู่แบบใหม่ของบลูทูธที่ลิงก์อุปกรณ์ต่อพ่วงที่จับคู่กับบัญชี GAIA |
| ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ Chrome OS (และ Android) อื่นๆ ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี GAIA เดียวกันจับคู่กันโดยอัตโนมัติ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร และเปิดใช้สำหรับบัญชีที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6401669939808766804">ออกจากระบบให้ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="640244877779556713">เปิดใช้คำแนะนำอีโมจิ</translation> |
| <translation id="6403114173011456561">ควบคุมแป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสซึ่งทำหน้าที่เป็นนโยบายเสริมของนโยบาย <ph name="VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| หากไม่ได้เปิดใช้ นโยบายนี้จะมีผลดังต่อไปนี้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ แป้นพิมพ์เสมือนจะแสดงตามการเรียนรู้เริ่มต้นของระบบ เช่น มีการเชื่อมต่อแป้นพิมพ์หรือไม่ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์เสมือนจะแสดงเสมอ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์เสมือนจะไม่แสดง |
| |
| แป้นพิมพ์เสมือนอาจเปลี่ยนเป็นรูปแบบกะทัดรัดขึ้นอยู่กับวิธีการป้อนข้อมูล</translation> |
| <translation id="6404064917675764807">ไม่รายงานเหตุการณ์เซสชัน CRD</translation> |
| <translation id="6404360891305375004">อนุญาตให้ใช้พื้นที่แชร์ไฟล์ในเครือข่าย</translation> |
| <translation id="6407093060083181305">กำหนดค่ารายการที่บล็อกสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="640827304541402854">ปิดใช้การส่งผ่านไฟร์วอลล์จากโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="6410847321564585975">รายการที่อนุญาตสำหรับการรายงานกิจกรรมในเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="6412352702230183710">อนุญาตเฉพาะโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมระดับระบบ</translation> |
| <translation id="6416506846917150119">ปิดใช้ฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริงเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="6417265370957905582">Google Assistant</translation> |
| <translation id="6419001911253110938">เปิดใช้การแสดงหน้าจอแนะนำสำหรับฟีเจอร์ AI ในเซสชันระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="6421254653839955267">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะข้ามการค้นหา CNAME ระบบจะใช้ชื่อเซิร์ฟเวอร์ตามที่ป้อนเมื่อสร้าง Kerberos SPN |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าการค้นหา CNAME จะกำหนดชื่อ Canonical ของเซิร์ฟเวอร์เมื่อสร้าง Kerberos SPN</translation> |
| <translation id="6424485010103067949"><ph name="OMA_URI" />:</translation> |
| <translation id="6424486395812679373">เริ่มการตรวจสอบของ Google Safe Browsing ในไฟล์ที่ดาวน์โหลดทั้งหมด</translation> |
| <translation id="6426899507714989471">ปิดใช้การเร่งกราฟิก</translation> |
| <translation id="6430793593318487825">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ที่ระบุเว็บไซต์ที่เข้าถึงเซ็นเซอร์ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์แสงไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_SENSORS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| หากมีรูปแบบ URL เดียวกันอยู่ทั้งในนโยบายนี้และนโยบาย <ph name="SENSORS_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ระบบจะให้ความสำคัญกับนโยบายนี้และสิทธิ์เข้าถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือเซ็นเซอร์แสงจะถูกบล็อก |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="6431446111529802555">ยุโรป</translation> |
| <translation id="6433697627431665375">ป้องกันไม่ให้รวมข้อมูลจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไว้ในการสำรองข้อมูล</translation> |
| <translation id="6436052172226685535">ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของ LBS</translation> |
| <translation id="6438472072089952201"><ph name="PRODUCT_NAME" /> จะพยายามอัปเกรดการไปยังส่วนต่างๆ จาก HTTP เป็น HTTPS เมื่อทำได้ นโยบายนี้ใช้เพื่อปิดลักษณะการทำงานนี้ได้ หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| ฟีเจอร์นี้จะใช้นโยบาย <ph name="HTTP_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แยกต่างหากเพื่อยกเว้นชื่อโฮสต์หรือรูปแบบชื่อโฮสต์ที่ต้องการไม่ให้อัปเกรดเป็น HTTPS ได้ |
| |
| โปรดดูนโยบาย <ph name="HTTPS_ONLY_MODE_POLICY_NAME" /> ด้วย</translation> |
| <translation id="6440051664870270040">อนุญาตให้เว็บไซต์นำทางและเปิดป๊อปอัปพร้อมกันได้</translation> |
| <translation id="6441781723322254041">อนุญาตคุกกี้ที่ตัดให้สั้นลง</translation> |
| <translation id="6446366416439249472">ปิดใช้การซิงค์ Google ไดรฟ์ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ</translation> |
| <translation id="6447628816682315403">นโยบายสำหรับควบคุมว่าจะเปิดหรือปิดใช้การตั้งค่าการป้องกันลายนิ้วมือของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดการตั้งค่าฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือสำหรับผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเปิดการตั้งค่าฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือไว้สำหรับผู้ใช้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือได้ในการตั้งค่า UI สถานะเริ่มต้นจะเป็น "เท็จ" หรือ "ปิดใช้" ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือจะถูกปิด</translation> |
| <translation id="6447948611083700881">การสำรองและกู้คืนข้อมูลปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="6449476513004303784">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการใบรับรอง</translation> |
| <translation id="6449541189334851559">เปิดใช้การผสานรวม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />" ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ดึงข้อมูลกิจกรรมจาก "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />" เพื่อป้อนข้อมูลวิดเจ็ตปฏิทินของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ในแถบสถานะของระบบได้ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ อุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะเรียกดูกิจกรรม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />" เพื่อป้อนข้อมูลวิดเจ็ตปฏิทินของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ในแถบสถานะของระบบสำหรับผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบได้ |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ อุปกรณ์ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะไม่สามารถเรียกดูกิจกรรม "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />" เพื่อป้อนข้อมูลวิดเจ็ตปฏิทินของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ในแถบสถานะของระบบสำหรับผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ "<ph name="GOOGLE_CALENDAR_NAME" />" โดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร</translation> |
| <translation id="6452882999388592166">หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ระบบจะโหลดส่วนขยายคอมโพเนนต์ CryptoToken ในตัวเมื่อเริ่มต้นระบบ หากตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่โหลด CryptoToken เมื่อเริ่มต้นเบราว์เซอร์ นโยบายนี้มีไว้เพื่อเป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับเว็บไซต์ที่ไม่ทำงานเนื่องจากไม่ได้ระบุ "chrome.runtime" ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการนำ CryptoToken ออกใน M106 เว็บไซต์ต้องไม่ใช้ "chrome.runtime" ที่กำหนดไว้อย่างไม่มีเงื่อนไข</translation> |
| <translation id="6453641799812499182">เปิดใช้การลดการตรวจสอบ <ph name="CORS" /> ในการนำ <ph name="CORS" /> ใหม่ไปใช้</translation> |
| <translation id="645425387487868471">เปิดใช้การบังคับลงชื่อเข้าใช้สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="645467061280066516">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ทำให้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรกของผู้ใช้ โดยจะไม่สนใจตำแหน่ง URL ใดๆ ของหน้าแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าหน้าแรกจะไม่เป็นหน้าแท็บใหม่ เว้นแต่ URL หน้าแรกของผู้ใช้จะตั้งค่าไว้เป็น chrome://newtab |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนประเภทหน้าแรกของตนใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรกหรือไม่ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6455842857207956758">เปิดใช้การซิงค์รหัสผ่าน SAML ระหว่างอุปกรณ์ Chrome หลายเครื่องโดยการตรวจสอบค่าของโทเค็นการซิงค์รหัสผ่าน และส่งผู้ใช้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ออนไลน์อีกครั้งหากรหัสผ่านมีการอัปเดตและต้องซิงค์ |
| |
| เปิดใช้หน้าใน chrome://password-change ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ SAML เปลี่ยนรหัสผ่าน SAML ของตนขณะอยู่ในเซสชัน ซึ่งจะดูแลให้รหัสผ่าน SAML และรหัสผ่านหน้าจอล็อกอุปกรณ์ซิงค์กัน |
| |
| นโยบายนี้ยังเปิดใช้การแจ้งเตือนที่เตือนผู้ใช้ SAML หากรหัสผ่าน SAML ใกล้จะหมดอายุ เพื่อให้ผู้ใช้จัดการเรื่องนี้ทันทีด้วยการเปลี่ยนรหัสผ่านในเซสชัน |
| แต่การแจ้งเตือนเหล่านี้จะแสดงเมื่อผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว SAML ส่งข้อมูลการหมดอายุของรหัสผ่านไปยังอุปกรณ์ระหว่างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ SAML เท่านั้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้เปลี่ยนรหัสผ่าน SAML ที่ chrome://password-change ไม่ได้ และจะไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อรหัสผ่าน SAML ใกล้หมดอายุ</translation> |
| <translation id="6457477291648119596">Type 42</translation> |
| <translation id="6457901822929629835">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่เรียกใช้ JavaScript ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="6458361632497500815">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะให้ผู้ใช้ทั้งหมดใช้งาน <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ได้ตราบใดที่มีการเปิดใช้ทั้ง 3 นโยบาย ได้แก่ <ph name="VIRTUAL_MACHINES_ALLOWED_POLICY_NAME" />, <ph name="CROSTINI_ALLOWED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_UNAFFILIATED_CROSTINI_ALLOWED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้ที่ไม่ได้เชื่อมโยงจะใช้งาน <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ไม่ได้ การเปลี่ยนเป็น "ปิดใช้" จะเริ่มใช้นโยบายเพื่อเริ่มคอนเทนเนอร์ <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> ใหม่ ไม่ใช่คอนเทนเนอร์ที่ทำงานอยู่แล้ว</translation> |
| <translation id="6462604655173570082">การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้ผู้ใช้ดูและใช้ปุ่ม <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในช่องค้นหาบนหน้าแท็บใหม่ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นปุ่ม <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในช่องค้นหาบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="6464074037294098618">เปิดใช้ฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติสำหรับที่อยู่</translation> |
| <translation id="6464564464230511695">หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ <ph name="SEARCH_SIDE_PANEL_FEATURE_NAME" /> จะได้รับอนุญาตในหน้าเว็บทุกหน้า |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" <ph name="SEARCH_SIDE_PANEL_FEATURE_NAME" /> จะใช้งานไม่ได้ในหน้าเว็บทุกหน้า |
| |
| ความสามารถของ GenAI ที่เป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์นี้ไม่พร้อมใช้งานสำหรับบัญชี Education หรือ Enterprise</translation> |
| <translation id="6467613372414922590">อนุญาตให้ใช้โฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมระดับผู้ใช้ (ติดตั้งโดยไม่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ)</translation> |
| <translation id="6467707081687600148">กำหนดเวลารีบูตอัตโนมัติหลังจากใช้การอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แล้ว |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะกำหนดเวลารีบูตอัตโนมัติเมื่อใช้การอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แล้ว และจำเป็นต้องมีการรีบูตอุปกรณ์เพื่อให้ขั้นตอนการอัปเดตเสร็จสมบูรณ์ โดยจะกำหนดเวลารีบูตทันที แต่อาจมีความล่าช้าในอุปกรณ์ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงหากผู้ใช้กำลังใช้งานอุปกรณ์อยู่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะไม่มีการกำหนดเวลารีบูตอัตโนมัติหลังจากใช้การอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ขั้นตอนการอัปเดตจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อผู้ใช้รีบูตอุปกรณ์ในครั้งถัดไป |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หมายเหตุ: ปัจจุบันการรีบูตอัตโนมัติจะเปิดใช้ขณะกำลังแสดงหน้าจอการเข้าสู่ระบบ หรืออยู่ในระหว่างเซสชันของแอปคีออสก์เท่านั้น</translation> |
| <translation id="6471018476824827813">อนุญาตการรวบรวมเมตริกซึ่งผูกกับ URL</translation> |
| <translation id="6471927932956897852">ระบุว่าจะใช้ P2P สำหรับเพย์โหลดการอัปเดตระบบปฏิบัติการหรือไม่ |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" อุปกรณ์จะแชร์และพยายามใช้เพย์โหลดการอัปเดตใน LAN ซึ่งอาจลดการใช้แบนด์วิดท์และความหนาแน่นในอินเทอร์เน็ต หากเพย์โหลดการอัปเดตไม่พร้อมใช้งานใน LAN อุปกรณ์จะกลับไปใช้การดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์การอัปเดต |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ระบบจะไม่ใช้ P2P |
| |
| หมายเหตุ: ลักษณะการทำงานเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ของผู้บริโภคและขององค์กรนั้นแตกต่างกัน กล่าวคือ จะมีการเปิดใช้ P2P ในอุปกรณ์ที่มีการจัดการ แต่จะไม่มีการเปิดใช้ในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6473623140202114570">กำหนดค่ารายการโดเมนที่ Safe Browsing จะไม่เรียกให้คำเตือนแสดง</translation> |
| <translation id="6474194795370862403">ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบเก่าของ offsetParent</translation> |
| <translation id="647645276885673708">เปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> และกำหนดให้เป็นเบราว์เซอร์หลัก</translation> |
| <translation id="647698599569353771">อนุญาตให้เปิดใช้การแชร์ใกล้เคียง</translation> |
| <translation id="6477685422297715670">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีเขียว</translation> |
| <translation id="6478258366184919502">ต้นทางของการเข้าสู่ระบบและหน้าจอ</translation> |
| <translation id="6478261301433199402">การตั้งค่านโยบายจะระบุรูปภาพ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ ระบุนโยบายนี้เป็นสตริงรูปแบบ JSON โดยที่ <ph name="URL_PLUGIN_VM_IMAGE_FIELD" /> ระบุตำแหน่งที่จะดาวน์โหลดรูปภาพและ <ph name="HASH_PLUGIN_VM_IMAGE_FIELD" /> เป็นแฮช SHA-256 ที่ใช้เพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="6481245670325946423">อนุญาตให้ใช้โหมดไม่มีส่วนหัว</translation> |
| <translation id="648158446793103284">การตั้งค่านโยบายนี้จะอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกวิธีการป้อนข้อมูลวิธีใดวิธีหนึ่งสำหรับเซสชันของ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" ที่คุณระบุ |
| |
| หากคุณไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็นรายการว่างเปล่า ผู้ใช้จะเลือกวิธีการป้อนข้อมูลวิธีใดก็ได้ที่รองรับ |
| |
| ตั้งแต่เวอร์ชัน M106 เป็นต้นไป ระบบจะเปิดใช้วิธีการป้อนข้อมูลที่อนุญาตโดยอัตโนมัติในเซสชันคีออสก์ |
| |
| หมายเหตุ: หากไม่รองรับวิธีการป้อนข้อมูลในปัจจุบัน ระบบจะเปลี่ยนไปใช้เลย์เอาต์ของแป้นพิมพ์ฮาร์ดแวร์ (หากอนุญาตให้ใช้ได้) หรือวิธีการแรกที่ใช้ได้ในรายการนี้ โดยจะไม่สนใจวิธีการที่ใช้ไม่ได้หรือไม่รองรับ</translation> |
| <translation id="6483115462650732746">แสดงเมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอยในโหมดคีออสก์</translation> |
| <translation id="6491139795995924304">อนุญาตบลูทูธบนอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6491305972928809525">ไม่แสดงเมนูการช่วยเหลือพิเศษแบบลอยในโหมดคีออสก์</translation> |
| <translation id="6491872498385040936">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว ลองใช้ <ph name="FORCE_YOUTUBE_RESTRICT_POLICY_NAME" /> ซึ่งจะลบล้างนโยบายนี้และช่วยให้ปรับแต่งการตั้งค่าได้ละเอียดยิ่งขึ้น |
| |
| บังคับใช้โหมดที่จำกัดปานกลางใน YouTube และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะบังคับใช้โหมดที่จำกัดปานกลางเป็นอย่างน้อยใน YouTube อยู่เสมอ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่บังคับใช้โหมดที่จำกัดใน YouTube แต่นโยบายภายนอก เช่น นโยบายของ YouTube อาจยังคงบังคับใช้โหมดที่จำกัด</translation> |
| <translation id="6492177700737407141">ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูงจะได้รับการปกป้องผู้บริโภคระดับมาตรฐานเท่านั้น</translation> |
| <translation id="6492737559291967859">การตั้งค่านโยบายจะระบุภาษาที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ตั้งค่า ระบบจะใช้ภาษาแรกที่ใช้ได้จากรายการต่อไปนี้ |
| 1) ภาษาที่ผู้ใช้ระบุ (หากกำหนดค่าไว้) |
| 2) ภาษาของระบบ |
| 3) ภาษาสำรอง (en-US)</translation> |
| <translation id="6493089139124468815">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงคลิปบอร์ด</translation> |
| <translation id="6493918190032622602">เวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ขั้นต่ำที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="6495337487202227251">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="SCREEN_LOCK_DELAYS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนล็อกหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะล็อกหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่ล็อกหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| วิธีที่แนะนำสำหรับการล็อกหน้าจอเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวก็คือการเปิดใช้การล็อกหน้าจอเมื่อถูกระงับการใช้งาน และให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ระงับการใช้งานหลังจากหมดระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว นโยบายนี้ควรใช้ในเวลาที่การล็อกหน้าจอควรจะเกิดขึ้นก่อนเวลาระงับการใช้งานเป็นเวลานาน หรือเมื่อไม่ต้องการใช้การระงับการใช้งานเมื่อไม่ใช้งานเลยเท่านั้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้น้อยกว่าระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="6497085755801788141">ใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองในตัว</translation> |
| <translation id="6499579502664610993">ลบล้างชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="6504720469162323184">การตั้งค่านโยบายจะระบุระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ไม่มีกิจกรรมของผู้ใช้ก่อนการลงชื่อเข้าใช้บัญชีในอุปกรณ์ที่ระบุโดยนโยบาย <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNT_AUTO_LOGIN_ID_POLICY_NAME" /> โดยอัตโนมัติ |
| |
| การไม่ได้ตั้งค่านโยบายหมายความว่าระยะหมดเวลาคือ 0 มิลลิวินาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNT_AUTO_LOGIN_ID_POLICY_NAME" /> ไว้ นโยบายนี้จะไม่มีผล</translation> |
| <translation id="65055701428353978">การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุรายการ URL เปลี่ยนเส้นทาง OAuth ซึ่งส่วนขยายที่มี <ph name="IDENTITY_API_NAME" /> API (<ph name="IDENTITY_API_URL" />) สามารถใช้งานได้นอกเหนือจาก URL เปลี่ยนเส้นทาง https://<extension id>.chromiumapp.org/ มาตรฐาน สําหรับส่วนขยายแต่ละรายการที่ได้รับผลกระทบ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือไม่ระบุรายการ URL จะทําให้แอปหรือส่วนขยายทั้งหมดใช้ได้เฉพาะ URL เปลี่ยนเส้นทางมาตรฐานเมื่อใช้ <ph name="IDENTITY_API_NAME" /> API</translation> |
| <translation id="6506486086262398387">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ฟีเจอร์พื้นที่แชร์ไฟล์ของเครือข่ายของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ NTLM สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ไปยังพื้นที่แชร์ SMB หากจำเป็น การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดการตรวจสอบสิทธิ์ NTLM ไปยังพื้นที่แชร์ SMB |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ลักษณะการทำงานตามค่าเริ่มต้นเป็น "ปิด" สำหรับผู้ใช้ที่มีการจัดการและเป็น "เปิด" สำหรับผู้ใช้อื่นๆ</translation> |
| <translation id="6509376413448002446">กำหนดค่าโปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้สำหรับหน้าจอล็อก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแสดงโปรแกรมรักษาหน้าจอเมื่อไม่มีการใช้งานในหน้าจอล็อก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า โปรแกรมรักษาหน้าจอจะไม่แสดงในหน้าจอล็อก |
| |
| โปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้แสดงรูปภาพที่นโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_IMAGES_POLICY_NAME" /> อ้างอิง หากไม่ได้ตั้งค่า <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_IMAGES_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า หรือเป็นรายการที่ไม่มีรูปภาพที่ถูกต้อง โปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอล็อกจะไม่แสดง |
| |
| ระยะหมดเวลาเนื่องจากไม่มีการใช้งานเพื่อเริ่มโปรแกรมรักษาหน้าจอ และช่วงเวลาที่รูปภาพแสดงอยู่จะแก้ไขได้ด้วยนโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_IDLE_TIMEOUT_SECONDS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_DISPLAY_INTERVAL_SECONDS_POLICY_NAME" /> ตามลำดับ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายเหล่านี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นของนโยบายแทน</translation> |
| <translation id="651248769129998376">ไม่สร้างหรืออัปโหลดคำขอติดตั้งส่วนขยายไปยังคอนโซลผู้ดูแลระบบ</translation> |
| <translation id="6513453889192806240">เวลาในการตอบสนองของ HTTPS</translation> |
| <translation id="6515357889978918016">รูปภาพ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="6518102411616460786">รอให้เวอร์ชันที่เลือกไว้อัปเดตให้เท่ากับเวอร์ชันปัจจุบันในการดาวน์เกรดเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="6518894783486860562">ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย, API ของเว็บ |
| <ph name="SHOW_SUBAPPS_APP_API_NAME" />, |
| <ph name="SHOW_SUBAPPS_REMOVE_API_NAME" /> และ |
| <ph name="SHOW_SUBAPPS_LIST_API_NAME" /> จำเป็นต้องเรียกใช้ท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า ("การเปิดใช้งานชั่วคราว") มิเช่นนั้นจะดำเนินการไม่สำเร็จ นอกจากนี้ ระบบจะขอให้ผู้ใช้ยืนยันการดำเนินการผ่านกล่องโต้ตอบการยืนยัน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ดูแลระบบสามารถระบุต้นทางที่จะเรียกใช้ API เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้าและไม่ต้องขอการยืนยันจากผู้ใช้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ |
| https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns * ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ต้นทางทั้งหมดจะกำหนดให้ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้าเพื่อเรียกใช้ API เหล่านี้ และจะแสดงกล่องโต้ตอบการยืนยันแก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6520053715392444458">เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะส่งการดาวน์โหลดที่น่าสงสัยจากผู้ใช้ที่เปิดใช้ Google Safe Browsing ไปยัง Google เพื่อสแกนหามัลแวร์ได้ หรือแจ้งให้ผู้ใช้ระบุรหัสผ่านสำหรับที่เก็บถาวรที่เข้ารหัส |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะไม่ทำการสแกนนี้ |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการวิเคราะห์เนื้อหาดาวน์โหลดที่กำหนดค่าโดยเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise</translation> |
| <translation id="6520802717075138474">นำเข้าเครื่องมือค้นหาจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="6521971538031711337">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ที่มีการจัดการกำหนดค่าชื่อโฮสต์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6523079496775454310">เปิดใช้การให้ความยินยอมสำหรับสัญญาณของอุปกรณ์จากผู้ใช้ที่มีการจัดการในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6527674993612811419">แสดงคำเตือนและปิดใช้การป้อนข้อความอัตโนมัติในแบบฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="6532769014584932288">อนุญาตการทำงานขณะล็อก</translation> |
| <translation id="6533881418188970751">ถามผู้ใช้เกี่ยวกับตำแหน่งที่ต้องการบันทึกไฟล์ก่อนจะเริ่มดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="6534181153831265700">การตั้งค่านโยบายจะระบุจำนวนวันของความถี่ที่ไคลเอ็นต์จะเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของเครื่อง ไคลเอ็นต์จะสร้างรหัสผ่านแบบสุ่มและไม่แสดงต่อผู้ใช้ การปิดใช้นโยบายนี้หรือการตั้งค่าจำนวนวันที่สูงจะส่งผลเสียต่อการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากทำให้ผู้ที่อาจโจมตีมีเวลามากขึ้นในการหาและใช้รหัสผ่านบัญชีของเครื่อง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของเครื่องทุก 30 วัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะปิดการเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของเครื่อง |
| |
| หมายเหตุ: รหัสผ่านอาจเก่ากว่าจำนวนวันที่ระบุไว้หากไคลเอ็นต์ออฟไลน์เป็นเวลานานกว่านั้น</translation> |
| <translation id="653616551212414363">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบเมื่อมีการเสียบอุปกรณ์ USB ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะไม่แสดงการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่เสียบอยู่ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่เสียบอยู่</translation> |
| <translation id="6536600139108165863">เริ่มต้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ปิดเครื่อง</translation> |
| <translation id="6538653424603921690">ปิดใช้หน้าจอความเป็นส่วนตัวในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้เสมอ</translation> |
| <translation id="6539246272469751178">นโยบายนี้ไม่ส่งผลต่อแอป Android โดยแอป Android จะใช้ไดเรกทอรีการดาวน์โหลดเริ่มต้นเสมอ และไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ใดๆ ที่ดาวน์โหลดโดย <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ลงในไดเรกทอรีการดาวน์โหลดที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6541383786427998658">เปิดใช้การบันทึกระบบของส่วนขยายสำหรับองค์กร</translation> |
| <translation id="654303922206238013">กลยุทธ์การย้ายข้อมูลสำหรับ eCryptfs</translation> |
| <translation id="6544601600794014309">เปิดใช้คำแปลของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="654546276700640113">การตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบบังคับใช้ความยาว PIN สูงสุดที่กำหนดค่าไว้ ค่า 0 หรือน้อยกว่าหมายความว่าผู้ใช้จะตั้ง PIN ที่มีความยาวเท่าใดก็ได้ หากค่าน้อยกว่า <ph name="PIN_UNLOCK_MINIMUM_LENGTH_POLICY_NAME" /> แต่มากกว่า 0 แสดงว่าได้ตั้งค่าความยาวสูงสุดเป็นความยาวขั้นต่ำ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีการบังคับใช้ความยาวสูงสุด</translation> |
| <translation id="6546185795045702747">อนุญาตให้เว็บไซต์ตรวจสอบว่าผู้ใช้มีวิธีการชำระเงินที่บันทึกไว้ไหม</translation> |
| <translation id="6553143066970470539">เปอร์เซ็นต์ความสว่างหน้าจอ</translation> |
| <translation id="6554236101741861403">อัตราที่เก็บรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์ในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 5 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 15 นาที</translation> |
| <translation id="6556586932263358975">อนุญาตให้ล็อกหน้าจอ</translation> |
| <translation id="6558013557780651644">การหน่วงเวลาก่อนเรียกใช้การดำเนินการเมื่อไม่มีการใช้งาน</translation> |
| <translation id="6558812160831988140">การรายงานการใช้แอป</translation> |
| <translation id="6559057113164934677">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ เข้าถึงกล้องและไมโครโฟน</translation> |
| <translation id="65591220958874949">ใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัวกับ Windows, macOS, Android และ ChromeOS</translation> |
| <translation id="6559221564468029245">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าทำให้ผู้ใช้ไม่ถูกพิจารณาว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในขณะกำลังเล่นเสียง ซึ่งจะป้องกันระยะหมดเวลาเนื่องจากไม่ความเคลื่อนไหวและป้องกันการตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหว แต่จะยังมีการหรี่แสงหน้าจอ การปิดหน้าจอ และการล็อกหน้าจอหลังจากระยะหมดเวลาที่กำหนดค่าไว้ แม้จะมีกิจกรรมเสียงก็ตาม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ทำให้ระบบสามารถระบุว่าผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้จะมีกิจกรรมเสียง</translation> |
| <translation id="6559475864956112261">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ Chrome จะใช้ได้ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี Chrome และแอป ARC จะไม่พิจารณาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีทั้งหมดที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อไม่ได้ระบุนโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| ระบบจะไม่พิจารณาตัวเลือกอื่นๆ หากคุณเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_DIRECT" /> = ไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_SYSTEM" /> = ใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบ |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_AUTO_DETECT" /> = ตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ |
| |
| หากคุณเลือกใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_FIXED_SERVERS" /> = พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่ คุณจะระบุตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปได้ด้วย <ph name="PROXY_SERVER_POLICY_NAME" /> และ <ph name="PROXY_BYPASS_LIST_POLICY_NAME" /> เฉพาะพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ HTTP ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับแอป ARC |
| * <ph name="PROXY_MODE_ENUM_PAC_SCRIPT" /> = สคริปต์พร็อกซี .pac ใช้ <ph name="PROXY_PAC_URL_POLICY_NAME" /> เพื่อตั้งค่า URL เป็นไฟล์ .pac ของพร็อกซี |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ผู้ใช้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีได้ |
| |
| หมายเหตุ: ดูตัวอย่างโดยละเอียดได้ที่ The Chromium Projects ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett )</translation> |
| <translation id="6559643481486165125">ไม่ต้องแจ้งให้ตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง</translation> |
| <translation id="656130159911161669">การอัปเดต ChromeOS ไม่สนใจเวอร์ชันที่ระบุไว้ในไฟล์ Manifest ของแอปคีออสก์</translation> |
| <translation id="6561396069801924653">แสดงตัวเลือกการเข้าถึงในเมนูถาดระบบ</translation> |
| <translation id="6562889469672829421">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนหรี่แสงหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6563458316362153786">เปิดใช้การเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว 802.11r</translation> |
| <translation id="6563462845077594854">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งใช้การจับภาพเดสก์ท็อป หน้าต่าง และแท็บได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบไม่พิจารณาเว็บไซต์เพื่อทำการลบล้างที่การจับภาพระดับนี้ |
| |
| ระบบจะไม่พิจารณานโยบายนี้หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบาย <ph name="WINDOW_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="SAME_ORIGIN_TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่พิจารณา <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL</translation> |
| <translation id="6568977718979857253">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว โปรดใช้ <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมความพร้อมใช้งานของปลั๊กอิน Flash และใช้ <ph name="ALWAYS_OPEN_PDF_EXTERNALLY_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมว่าควรใช้โปรแกรมดู PDF ที่ผสานรวมในการเปิดไฟล์ PDF หรือไม่ |
| |
| ระบุรายการปลั๊กอินที่ปิดใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| ใช้อักขระไวลด์การ์ด "*" และ "?" เพื่อจับคู่กับอักขระต่างๆ ที่เรียงกันอย่างอิสระได้ '*' จะจับคู่กับอักขระกี่ตัวก็ได้ ส่วน "?" จะระบุอักขระตัวเดียวซึ่งจะมีหรือไม่ก็ได้ หรือจับคู่กับอักขระ 0 หรือ 1 ตัวนั่นเอง อักขระหลีกคือ "\" ดังนั้นในกรณีที่ต้องการจับคู่กับอักขระ "*", "?" หรือ "\" จริงๆ ก็วาง "\" ไว้ข้างหน้าอักขระดังกล่าวได้ |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะไม่นำรายการปลั๊กอินที่ระบุมาใช้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยจะทำเครื่องหมายว่าปลั๊กอินเป็นปิดใช้อยู่ใน "about:plugins" และผู้ใช้จะเปิดใช้ไม่ได้ |
| |
| โปรดทราบว่า EnabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions ลบล้างนโยบายนี้ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะใช้ปลั๊กอินใดก็ตามที่ติดตั้งไว้ในระบบได้ ยกเว้นปลั๊กอินที่มีฮาร์ดโค้ดที่เข้ากันไม่ได้ ล้าสมัย หรือเป็นอันตราย</translation> |
| <translation id="6571055160227165318">อนุญาตให้ Chrome Flag เปิดใช้ WebSQL ได้</translation> |
| <translation id="6574903167639386816">ล้างข้อมูลโปรไฟล์ในดิสก์เมื่อเซสชันของผู้ใช้สิ้นสุดลง</translation> |
| <translation id="6575403002861093126">การตั้งค่านโยบายจะระบุอายุการใช้งาน (เป็นจำนวนชั่วโมง) ของแคช Group Policy Object (GPO) ซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดที่สามารถใช้ GPO ซ้ำได้ก่อนที่จะดาวน์โหลดอีกครั้ง ระบบจะใช้ GPO ที่แคชไว้ ตราบใดที่ยังเป็นเวอร์ชันเดิม แทนการดาวน์โหลด GPO ซ้ำในการดึงข้อมูลนโยบายแต่ละครั้ง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะปิดการแคช GPO ซึ่งทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักขึ้น เนื่องจากระบบต้องดาวน์โหลด GPO ซ้ำทุกครั้งที่ดึงข้อมูลนโยบายแม้ว่า GPO จะเป็นรายการเดิมก็ตาม |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ GPO ที่แคชไว้ซ้ำได้เป็นเวลาสูงสุด 25 ชั่วโมง |
| |
| หมายเหตุ: การรีสตาร์ทและการออกจากระบบจะล้างแคช</translation> |
| <translation id="6575944031719151455">การตั้งค่านโยบายจะระบุรายการบัญชีในอุปกรณ์ที่จะแสดงในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ตัวระบุจะเป็นตัวบอกความแตกต่างของบัญชีในอุปกรณ์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือนโยบายเป็นรายการที่ว่างเปล่า ก็จะไม่มีบัญชีในอุปกรณ์แสดงเลย</translation> |
| <translation id="6577760914164385949">อนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ในผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวในระบบคลาวด์ของ Microsoft® โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6580851705156412587">ล็อกอุปกรณ์เมื่อมีการระงับการใช้งานหรือพับจอ</translation> |
| <translation id="6581048059229620221">หากปิดใช้นโยบายนี้ โฮสต์การสนับสนุนระยะไกลจะไม่สามารถเริ่มต้นหรือกำหนดค่าให้ยอมรับการเชื่อมต่อขาเข้า |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อสถานการณ์การเข้าถึงระยะไกล |
| |
| นโยบายนี้ยังคงให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่มีการจัดการ |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากเปิดใช้ ปล่อยว่างไว้ หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="6583249367505445969">ปิดใช้แถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="6584122839583172231">การตั้งค่า F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Ctrl และ Shift</translation> |
| <translation id="6584541828182430328">ปิดใช้การแสดงการแจ้งเตือนโหมดเต็มหน้าจอ</translation> |
| <translation id="658537215958747575">อนุญาตให้ต้นทางที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ใช้ Direct Sockets</translation> |
| <translation id="6588634282328239769">แสดง URL แบบเต็ม</translation> |
| <translation id="6589049539706330510">เปิดใช้การรองรับ</translation> |
| <translation id="6593025196187527239">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ใช้ ARC ได้ เว้นแต่จะมีการปิด ARC ไว้ด้วยวิธีการอื่นๆ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้นอกโดเมนจะใช้ ARC ไม่ได้ |
| |
| การเปลี่ยนแปลงนโยบายจะมีผลขณะที่ ARC ไม่ได้ทำงานอยู่เท่านั้น เช่น ขณะเริ่มต้น ChromeOS</translation> |
| <translation id="6593350713192882944">เปิดใช้คำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="6594372503585248865">เปิดใช้การแสดง UI ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อบนเดสก์ท็อปของโฮสต์ระยะไกลเมื่อมีการเชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="65947892191748867">ปิดใช้การให้ความยินยอมสำหรับสัญญาณของอุปกรณ์จากผู้ใช้ที่มีการจัดการในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6596675965208703569">นโยบายนี้จะระบุระยะเวลา (เป็นวินาที) ที่จะแสดงอุปกรณ์แคสต์ซึ่งเลือกไว้ก่อนหน้านี้ผ่านรหัสการเข้าถึงหรือคิวอาร์โค้ด ภายในเมนูอุปกรณ์แคสต์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| ระยะเวลาตลอดอายุของรายการหนึ่งจะเริ่ม ณ เวลาที่ป้อนรหัสการเข้าถึงหรือสแกนคิวอาร์โค้ดเป็นครั้งแรก |
| ระหว่างระยะเวลานี้ อุปกรณ์แคสต์ดังกล่าวจะปรากฏในรายชื่ออุปกรณ์แคสต์บนเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| หลังจากระยะเวลานี้ หากต้องการใช้อุปกรณ์แคสต์นั้นอีกครั้ง จะต้องมีการป้อนรหัสการเข้าถึงหรือสแกนคิวอาร์โค้ดอีกครั้ง |
| โดยค่าเริ่มต้น ระยะเวลาจะอยู่ที่ 0 วินาที อุปกรณ์แคสต์จึงจะไม่คงอยู่ในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และจะต้องป้อนรหัสการเข้าถึงหรือสแกนคิวอาร์โค้ดอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นเซสชันการแคสต์ใหม่ |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้ส่งผลต่อระยะเวลาที่อุปกรณ์แคสต์ปรากฏในเมนูของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น และจะไม่ส่งผลต่อเซสชันการแคสต์ต่อเนื่องใดๆ ซึ่งจะดำเนินต่อไปแม้ระยะเวลาดังกล่าวหมดอายุแล้ว |
| นโยบายนี้จะไม่มีผล เว้นแต่จะตั้งค่านโยบาย <ph name="ACCESS_CODE_CAST_ENABLED_POLICY_NAME" /> ไว้เป็น "เปิดใช้"</translation> |
| <translation id="6598235178374410284">รูปโปรไฟล์ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6600377630856879433">อนุญาตให้ต้นทางเหล่านี้จับภาพหน้าต่างและแท็บ</translation> |
| <translation id="6603004149426829878">ส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งใดก็ตามที่มีอยู่ไปยังเซิร์ฟเวอร์ทุกครั้งขณะค้นหาเขตเวลา</translation> |
| <translation id="6604049565198492174">การตั้งค่านโยบายจะทำให้กำหนดค่าเครือข่ายแบบพุชสำหรับผู้ใช้แต่ละคนของอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แต่ละเครื่องได้ การกำหนดค่าเครือข่ายจะเป็นสตริงรูปแบบ JSON ตามที่กำหนดโดยรูปแบบการกำหนดค่าเครือข่ายแบบเปิด (Open Network Configuration)</translation> |
| <translation id="660567106648774919">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้นโยบาย <ph name="TOS_DIALOG_BEHAVIOR_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| โดยค่าเริ่มต้น ข้อกำหนดในการให้บริการจะแสดงเมื่อเรียกใช้ CCT ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะทำให้กล่องโต้ตอบข้อกำหนดในการให้บริการไม่แสดงขึ้นมาในระหว่างการเรียกใช้ครั้งแรกหรือการเรียกใช้ครั้งต่อๆ ไป การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้กล่องโต้ตอบข้อกำหนดในการให้บริการแสดงขึ้นมาในระหว่างการเรียกใช้ครั้งแรก ข้อสำคัญอื่นๆ ได้แก่ |
| |
| - นโยบายนี้จะใช้งานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android ซึ่งมีการจัดการครบวงจรที่กำหนดค่าได้โดยผู้ให้บริการการจัดการปลายทางแบบรวม (Unified Endpoint Management) |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" นโยบาย BrowserSignin จะไม่มีผล |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่ส่งเมตริกต่างๆ ไปยังเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" เบราว์เซอร์จะมีฟังก์ชันการทำงานที่จำกัด |
| |
| - หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ผู้ดูแลระบบต้องแจ้งข้อมูลนี้กับผู้ใช้ปลายทางของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6605778633186421420">เปิดใช้การรองรับการส่งพจนานุกรมการบีบอัด</translation> |
| <translation id="6607983779935460461">การรองรับ URL ข้อมูลสำหรับ SVGUseElement</translation> |
| <translation id="6609867253856597039">ตั้งค่าประสบการณ์ของผู้ใช้สำหรับฟีเจอร์ที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="6614557704487944013">อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้เบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="661610294649586421">ไม่อนุญาตคำขอ WebAuthn API ในเว็บไซต์ที่มีใบรับรอง TLS ไม่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="6617589895942747919">เวลาเริ่มต้นของระยะเวลา (รวมวันที่เริ่มต้น)</translation> |
| <translation id="6621830999036927230">การตั้งค่านโยบายจะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลใช้ URL นี้ในการตรวจสอบโทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์จากไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกลเพื่อยอมรับการเชื่อมต่อ หากปล่อยว่างไว้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์นี้ |
| |
| หมายเหตุ: ใช้นโยบายนี้กับ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_TOKEN_URL_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="6625136649067113817">ธงบูลีนที่ระบุว่าแป้นพิมพ์บนหน้าจอจะมีฟีเจอร์การตรวจตัวสะกดหรือไม่</translation> |
| <translation id="66265932317331474">รายงานข้อมูล CPU</translation> |
| <translation id="6628120204569232711">รายงานสถานะของพื้นที่เก็บข้อมูล</translation> |
| <translation id="662991036483361836">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปิดใช้ฟีเจอร์การแชร์ใกล้เคียง</translation> |
| <translation id="6634974629075330608">นโยบายนี้ช่วยให้สามารถเลือกไม่รับการเปลี่ยนแปลงได้ชั่วคราวสำหรับวิธีที่ Chrome จัดการคุกกี้ที่ตั้งค่าผ่าน JavaScript ซึ่งมีอักขระควบคุมบางอย่าง (Null, อักขระขึ้นบรรทัดใหม่ และป้อนบรรทัด) |
| โดยก่อนหน้านี้ หากมีอักขระเหล่านี้อยู่ในสตริงคุกกี้ ระบบจะยังคงตั้งค่าแต่มีการตัดให้สั้นลง |
| ในตอนนี้ ระบบจะไม่สนใจสตริงคุกกี้ที่มีอักขระเหล่านี้ทั้งสตริง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" (ค่าเริ่มต้น) ระบบจะเปิดใช้ลักษณะการทำงานแบบใหม่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะเปิดใช้ลักษณะการทำงานแบบเก่า</translation> |
| <translation id="663685822663765995">จำกัดโหมดสีการพิมพ์</translation> |
| <translation id="6640355849038068978">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเปิดแอปพลิเคชัน Eche ได้ เช่น เปิดโดยคลิกการแจ้งเตือนฮับโทรศัพท์ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดแอปพลิเคชัน Eche |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ทั้งผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะใช้ค่าเริ่มต้นได้</translation> |
| <translation id="6640748114867542396">ไม่อนุญาตให้ส่วนขยายที่มีการจัดการใช้ Enterprise Hardware Platform API</translation> |
| <translation id="6641109870010271671">ใบรับรอง TLS ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="6641981670621198190">ปิดใช้งานการสนับสนุน API ของกราฟิก 3 มิติ</translation> |
| <translation id="6646912445796087001">เปิดหรือปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในแป้นพิมพ์บนหน้าจอ นโยบายนี้จะมีผลต่อเมื่อมีการเปิดใช้นโยบาย "VirtualKeyboardEnabled" |
| |
| หากมีการตั้งค่าฟีเจอร์ใดในนโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์นั้นในแป้นพิมพ์บนหน้าจอ |
| |
| หากมีการตั้งค่าฟีเจอร์ใดในนโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์นั้นในแป้นพิมพ์บนหน้าจอ |
| |
| โปรดทราบว่ามีการรองรับนโยบายนี้ในโหมดคีออสก์ PWA เท่านั้น</translation> |
| <translation id="6647965994887675196">หากตั้งค่าเป็นจริง จะสามารถสร้างและใช้งานผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลได้ |
| |
| หากตั้งค่าเป็นเท็จหรือไม่ได้กำหนดค่า การสร้างผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลและการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลจะถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลที่มีอยู่ทั้งหมดจะถูกซ่อนไว้ |
| |
| หมายเหตุ: การทำงานเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ของผู้บริโภคและอุปกรณ์ขององค์กรจะแตกต่างกัน: บนอุปกรณ์ของผู้บริโภค ผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแลจะถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น แต่จะปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นบนอุปกรณ์ขององค์กร</translation> |
| <translation id="6648746349186337075">นโยบายนี้ให้สิทธิ์ Screencast ในการสร้างและถอดเสียงการบันทึกหน้าจอ รวมถึงอัปโหลดไปที่ไดรฟ์สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อผู้ใช้ Family Link |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อนโยบาย <ph name="PROJECTOR_DOGFOOD_FOR_FAMILY_LINK_ENABLED_POLICY_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ Family Link |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือเปิดใช้ไว้ ระบบจะเปิดใช้ Screencast |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดใช้ Screencast</translation> |
| <translation id="665023848306499203">อนุญาตให้อุปกรณ์เลือกเวอร์ชันที่จะอัปเดต</translation> |
| <translation id="6652197835259177259">การตั้งค่าผู้ใช้ที่ได้รับการจัดการในเครื่อง</translation> |
| <translation id="6653897159826215341">หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เปิดกล่องโต้ตอบการพิมพ์ของระบบแทนการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ในตัวเมื่อผู้ใช้ขอพิมพ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่า คำสั่งพิมพ์จะทำให้หน้าจอการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์เปิดขึ้นมา</translation> |
| <translation id="6655274714135630366">แฮช SHA-256 ที่เข้ารหัสเลขฐานสิบหกของอิมเมจดิสก์</translation> |
| <translation id="6655844456903132379">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่าการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP จะยึดตามการอนุมัติโดยนโยบาย KDC กล่าวคือ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะมอบสิทธิ์ใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ให้แก่บริการที่กำลังเข้าถึงในกรณีที่ KDC ตั้งค่า <ph name="OK_AS_DELEGATE" /> ในตั๋วบริการ ดู RFC 5896 (https://tools.ietf.org/html/rfc5896.html) บริการควรได้รับอนุญาตจาก <ph name="AUTH_NEGOTIATE_DELEGATE_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> ด้วย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าระบบจะไม่สนใจนโยบาย KDC ในแพลตฟอร์มที่รองรับ และจะดำเนินการตาม <ph name="AUTH_NEGOTIATE_DELEGATE_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> ระบบจะดำเนินการตามนโยบาย KDC เสมอ</translation> |
| <translation id="6658245400435704251">ระบุจำนวนวินาทีสูงสุดที่อุปกรณ์อาจสุ่มหน่วงเวลาการดาวโหลดการอัปเดตนับตั้งแต่ที่มีการส่งการอัปเดตไปยังเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์อาจใช้เวลาส่วนหนึ่งรอขณะที่คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานจนกระทั่งเสร็จสิ้นและใช้เวลาส่วนที่เหลือสำหรับการตรวจสอบการอัปเดตจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าในกรณีใด การกระจายจะเข้าใกล้ขอบเขตบนของระยะเวลาคงที่ อุปกรณ์จึงไม่ต้องค้างรอการดาวน์โหลดการอัปเดตอย่างไม่สิ้นสุด</translation> |
| <translation id="6659537776197644458">อย่าเรียกใช้โฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์สำหรับการซิงค์รหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="6659877981632400997">เมนูตามบริบทจะไม่มีรายการในเมนูให้แชร์รูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6661178198729301029">เปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="6665670272107384733">กำหนดความถี่ที่ผู้ใช้ต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อใช้การปลดล็อกด่วน</translation> |
| <translation id="6667586534922258705">แสดงปุ่ม "แสดงรหัสผ่าน" ในหน้าจอเข้าสู่ระบบและหน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="6669691206059842248">กําหนดค่า URL เปลี่ยนเส้นทาง OAuth เพิ่มเติมต่อส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="6669700740683748046">ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้การแสดง URL แบบเต็มในแถบที่อยู่ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะแสดง URL แบบเต็มในแถบที่อยู่ รวมถึงรูปแบบและโดเมนย่อยต่างๆ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะใช้การแสดง URL โดยค่าเริ่มต้น |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การแสดง URL โดยค่าเริ่มต้น และผู้ใช้จะสลับระหว่างการแสดง URL โดยค่าเริ่มต้นและแบบเต็มได้ด้วยตัวเลือกเมนูตามบริบท |
| </translation> |
| <translation id="6670716303606644752">ตามที่อธิบายไว้ใน https://www.chromestatus.com/feature/5148698084376576 กล่องโต้ตอบในโหมด JavaScript ที่เกิดจาก <ph name="JS_ALERT" />, <ph name="JS_CONFIRM" /> และ <ph name="JS_PROMPT" /> จะถูกบล็อกใน "<ph name="PRODUCT_NAME" />" เมื่อมีการเรียกใช้จากเฟรมย่อยที่มีต้นทางต่างจากต้นทางของเฟรมหลัก |
| |
| นโยบายนี้อนุญาตให้ลบล้างการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะบล็อกกล่องโต้ตอบ JavaScript ซึ่งเกิดจากเฟรมย่อยที่เป็นต้นทางเฟรมอื่น |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่บล็อกกล่องโต้ตอบ JavaScript ซึ่งเกิดจากเฟรมย่อยที่เป็นต้นทางเฟรมอื่น |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" ในอนาคต</translation> |
| <translation id="6670794785040100077">ปิดใช้การส่งเอกสารไปยัง "<ph name="CLOUD_PRINT_NAME" />"</translation> |
| <translation id="6672070613706645316">อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งพื้นหลังในหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="6672630473862787247">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ในเซสชันปกติ เซสชันไม่ระบุตัวตน และเซสชันผู้เยี่ยมชม</translation> |
| <translation id="6676012253361586167">ระบุว่าอนุญาตการส่งต่อพอร์ตไปยังคอนเทนเนอร์ Crostini หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะกำหนดค่าการส่งต่อพอร์ตไปยังคอนเทนเนอร์ Crostini ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้การส่งต่อพอร์ตไปยังคอนเทนเนอร์ Crostini</translation> |
| <translation id="6677291257287862684">เปิดใช้คีย์ติดหนึบในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="668153983584136017">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วเนื่องจากมีการเปิดใช้อัลกอริทึม GREASE ที่อัปเดตโดยค่าเริ่มต้นตั้งแต่เวอร์ชัน M103 |
| เมื่อฟีเจอร์ User-Agent Client Hints GREASE Update ที่เปิดใช้อยู่ปรับอัลกอริทึม User-Agent GREASE ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดล่าสุด |
| ข้อกำหนดที่อัปเดตดังกล่าวอาจทำให้บางเว็บไซต์ที่จำกัดจำนวนอักขระในคำขอขัดข้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในข้อกำหนดที่ https://wicg.github.io/ua-client-hints/#grease |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกในรุ่นที่จะออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="6682305153467826752">เปิดใช้การรายงานข้อมูลระบุตัวตนของเครื่อง</translation> |
| <translation id="6685903773201985073">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์ในเซสชันผู้เยี่ยมชมและเซสชันปกติ</translation> |
| <translation id="6687291630099400188">ไม่แสดงข้อมูลของระบบในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="6689343802305995925">ไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น</translation> |
| <translation id="6689792153960219308">รายงานสถานะของฮาร์ดแวร์</translation> |
| <translation id="6690425645391461516">ปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS อนุญาตแถบข้อมูล "หรือคุณหมายถึง http://intranetsite/"</translation> |
| <translation id="669066148640728553">ระบุกรอบเวลาเป้าหมายสำหรับช่วงสิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งเตือนการเปิดอีกครั้ง |
| |
| ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนว่าต้องเปิดเบราว์เซอร์อีกครั้งหรือรีสตาร์ทอุปกรณ์ตามการตั้งค่านโยบาย <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_POLICY_NAME" /> และ <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_PERIOD_POLICY_NAME" /> เบราว์เซอร์และอุปกรณ์จะถูกบังคับให้รีสตาร์ทเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งเตือนหากมีการตั้งค่านโยบาย <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_POLICY_NAME" /> เป็น "จำเป็น" นโยบาย <ph name="RELAUNCH_WINDOW_POLICY_NAME" /> นี้ใช้เพื่อเลื่อนช่วงสิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งเตือนให้อยู่ในกรอบเวลาหนึ่งๆ ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ กรอบเวลาเป้าหมายเริ่มต้นของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะอยู่ระหว่าง 2:00 - 4:00 น. ส่วนกรอบเวลาเป้าหมายเริ่มต้นของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> คือทั้งวัน (ไม่มีการเลื่อนช่วงสิ้นสุดระยะเวลาการแจ้งเตือน) |
| |
| หมายเหตุ: แม้ว่านโยบายจะยอมรับได้หลายรายการใน <ph name="ENTRIES_FIELD_NAME" /> แต่ระบบจะพิจารณาเฉพาะรายการแรก |
| คำเตือน: การตั้งค่านโยบายนี้อาจทำให้การนำอัปเดตซอฟต์แวร์ไปใช้ล่าช้า</translation> |
| <translation id="6695441448686167614">การตั้งค่าการพิมพ์ผ่านเว็บ</translation> |
| <translation id="6698632841807204978">เปิดใช้การพิมพ์ขาวดำ</translation> |
| <translation id="6699740789657890714">ระบุว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ส่งคำขอไปยังปลายทางเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่</translation> |
| <translation id="6699880231565102694">เปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยสำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="6703251016607733593">การตั้งค่านโยบายจะปิดใช้การบังคับใช้ข้อกำหนดการเปิดเผยความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับรายการแฮช <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> โฮสต์ที่เป็นองค์กรจะใช้ใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือ (เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเหมาะสม) ต่อไปได้ หากต้องการปิดใช้การบังคับใช้ แฮชนั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งต่อไปนี้ |
| |
| * มาจาก <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ของใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| * มาจาก <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ซึ่งแสดงในใบรับรองของผู้ออกใบรับรอง (CA) ในกลุ่มใบรับรอง ใบรับรอง CA ดังกล่าวถูกจำกัดผ่านส่วนขยาย X.509v3 nameConstraints มี directoryName nameConstraints อย่างน้อย 1 รายการใน permittedSubtrees และ directoryName มีแอตทริบิวต์ organizationName |
| |
| * มาจาก <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ที่แสดงในใบรับรอง CA ในกลุ่มใบรับรอง ใบรับรอง CA มีแอตทริบิวต์ organizationName อย่างน้อย 1 รายการในชื่อใบรับรอง และใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์มีจำนวนแอตทริบิวต์ organizationName เท่ากัน ในลำดับเดียวกัน และมีค่าเท่ากันแบบไบต์ต่อไบต์ |
| |
| ระบุ <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ได้จากการต่อชื่ออัลกอริทึมของแฮช เครื่องหมายทับ และการเข้ารหัส Base64 ของอัลกอริทึมของแฮชนั้นนำไปใช้กับ <ph name="SUBJECT_PUBLIC_KEY_INFO" /> ที่เข้ารหัส DER ของใบรับรองที่ระบุ การเข้ารหัส Base64 นี้เป็นรูปแบบเดียวกับลายนิ้วมือ SPKI ระบบรู้จักอัลกอริทึมของแฮชเพียงรายการเดียวนั่นคือ sha256 และจะไม่สนใจอัลกอริทึมของแฮชอื่นๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าหากไม่มีการเปิดเผยความโปร่งใสของใบรับรองตามที่ใบรับรองกำหนด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ก็จะไม่เชื่อถือใบรับรองนั้น</translation> |
| <translation id="6703381779632216549">เปิดใช้การนำเข้าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="6704445641918520643">เปิดใช้การโหลด Login WebUI แบบ Lazy Loading</translation> |
| <translation id="6704515759227307131">เราเลิกใช้งานนโยบายนี้แล้วและเปลี่ยนมาใช้ AdvancedProtectionAllowed |
| |
| นโยบายนี้ควบคุมว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูงส่งเนื้อหาที่ดาวน์โหลดไปให้ Google สแกนหามัลแวร์หรือไม่ หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจะได้รับแจ้งให้ส่งไฟล์ไปให้ Google สแกนอย่างละเอียด หากผู้ใช้เลือก "สแกน" ระบบจะส่งเนื้อหาที่ดาวน์โหลดไปยัง Google หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ผู้ใช้จะไม่ได้รับแจ้งและระบบจะไม่ส่งเนื้อหาที่ดาวน์โหลดไปยัง Google</translation> |
| <translation id="670597451099978576">ให้สิทธิ์เว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB ที่มีรหัสผู้ให้บริการและรหัสผลิตภัณฑ์ที่ระบุในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6706330611356546885">อนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้ JIT ใน JavaScript</translation> |
| <translation id="6706728459859947543">นโยบายนี้ให้สิทธิ์ฟีเจอร์คำตอบด่วนในการเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย ระบบจะเปิดใช้คำตอบด่วน |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดใช้คำตอบด่วน |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดใช้คำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="670675748066383347">การตั้งค่าตัวจัดระเบียบแท็บ</translation> |
| <translation id="6712624291905573620">นโยบายนี้ควบคุมการรายงานในระบบคลาวด์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งอัปโหลดข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเบราว์เซอร์ไปยัง <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่เก็บรวบรวมหรืออัปโหลดข้อมูล |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเก็บรวบรวมข้อมูลและอัปโหลดไปยัง <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องด้วย <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> เท่านั้น |
| และสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะมีผลเสมอ</translation> |
| <translation id="6720330829631914048">ชั่วโมงที่ผ่านไปตั้งแต่เริ่มวันใน (รูปแบบ 24 ชั่วโมง)</translation> |
| <translation id="6721252203593581486">WebSQL ในบริบทของบุคคลที่สาม (เช่น iframe ข้ามเว็บไซต์) จะปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้นตั้งแต่ M97 และจะถูกนำออกโดยสมบูรณ์ใน M101 |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า WebSQL ในบริบทของบุคคลที่สามจะยังคงปิดอยู่ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ WebSQL ในบริบทของบุคคลที่สามอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="6723472666969849951">การตั้งค่านโยบายนี้จะกำหนดแอปและส่วนขยายที่ติดตั้งใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ โฮสต์ที่แอปและส่วนขยายนั้นโต้ตอบด้วยได้ และจำกัดการเข้าถึงรันไทม์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีข้อจำกัดใดๆ สำหรับประเภทของส่วนขยายและแอปที่ยอมรับได้ |
| |
| ส่วนขยายและแอปซึ่งเป็นประเภทที่ไม่ได้อยู่ในรายการจะติดตั้งไม่ได้ แต่ละค่าควรเป็นสตริงรายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้ |
| |
| * "extension" |
| |
| * "theme" |
| |
| * "user_script" |
| |
| * "hosted_app" |
| |
| * "legacy_packaged_app" |
| |
| * "platform_app" |
| |
| ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทเหล่านี้ได้ในเอกสารประกอบส่วนขยายของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ระบบไม่รองรับการใช้รหัสส่วนขยายหลายรายการที่คั่นด้วยจุลภาคในเวอร์ชันก่อน 75 และจะข้ามรหัสดังกล่าวไป นโยบายส่วนที่เหลือจะมีผลบังคับใช้ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ส่งผลต่อส่วนขยายและแอปที่จะบังคับติดตั้งโดยใช้ <ph name="EXTENSION_INSTALL_FORCELIST_POLICY_NAME" /> ด้วย</translation> |
| <translation id="6731757988219967594">กรองเว็บไซต์ระดับบนสุด (แต่ไม่กรอง iframe ที่ฝังไว้) ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่</translation> |
| <translation id="6733851879899284032"> |
| ระบุว่าสามารถใช้ SharedArrayBuffers ในบริบทที่แยกแบบไม่ข้ามต้นทางได้หรือไม่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะต้องใช้การแยกแบบข้ามต้นทางเมื่อใช้ SharedArrayBuffers นับตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 91 เป็นต้นไป (25-05-2021) ด้วยเหตุผลด้านความเข้ากันได้กับเว็บ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://developer.chrome.com/blog/enabling-shared-array-buffer/ |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" เว็บไซต์จะใช้ SharedArrayBuffer ได้โดยไม่มีข้อจำกัด |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า เว็บไซต์จะใช้ SharedArrayBuffers ได้เฉพาะเมื่อมีการแยกแบบข้ามต้นทาง</translation> |
| <translation id="6734397897213913438">อนุญาตให้อ่านออกเสียงเสมอ</translation> |
| <translation id="6735701345096330595">บังคับให้เปิดใช้การตรวจการสะกดของภาษาต่างๆ</translation> |
| <translation id="6736283207617136584">เปิดใช้การรายงานสถานะการอัปเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6739541168983991680">ทําให้การทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> เป็นแบบอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6739847036322230891">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม กําหนดค่า และพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ที่ไม่ใช่ขององค์กร</translation> |
| <translation id="6740611636377710500">อนุญาตให้ผู้ใช้รายนี้เรียกใช้ PluginVm ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการเปิดใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับผู้ใช้คนดังกล่าว |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการเปิดใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับผู้ใช้รายนี้ ตราบใดที่การตั้งค่าอื่นๆ อนุญาตให้เปิดใช้ได้เช่นกัน <ph name="PLUGIN_VM_ALLOWED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="USER_PLUGIN_VM_ALLOWED_POLICY_NAME" /> ต้องตั้งค่าเป็น "จริง" และต้องมีการตั้งค่า <ph name="PLUGIN_VM_LICENSE_KEY_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="PLUGIN_VM_USER_ID_POLICY_NAME" /> จึงจะเรียกใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="6749641778238480311">อนุญาตให้เรียกใช้ SubApps API โดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้าและไม่ต้องมีการยืนยันจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6750902920405577210">รายการข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่จะรายงานในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงความแรงสัญญาณ |
| |
| ระบบจะรายงานข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลแต่ละรายการที่ระบุเฉพาะในกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ถูกปิดใช้โดยนโยบายการควบคุม |
| นโยบายการควบคุมสำหรับ https_latency และ network_telemetry คือ ReportDeviceNetworkStatus |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลเพิ่มเติมในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงความแรงสัญญาณ</translation> |
| <translation id="6751612743847158732">คืนค่าเซสชันล่าสุดเสมอ</translation> |
| <translation id="6752711782954612641">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SEARCH_URL_POST_PARAMS_POLICY_NAME" /> จะระบุพารามิเตอร์เมื่อค้นหา URL ด้วยเมธอด POST โดยจะประกอบด้วยคู่ชื่อ-ค่าที่คั่นด้วยจุลภาค หากมีค่าใดเป็นพารามิเตอร์เทมเพลต เช่น <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ข้อมูลข้อความค้นหาจริงจะแทนที่ค่าดังกล่าว |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SEARCH_URL_POST_PARAMS_POLICY_NAME" /> จะทำให้ระบบส่งคำขอค้นหาโดยใช้เมธอด GET</translation> |
| <translation id="6757413365906304125">นโยบายนี้จะกำหนดลักษณะการทำงานสำหรับการรีแมปคีย์ PageUp/PageDown ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งคีย์ต่างๆ บนแป้นพิมพ์ได้ หากเปิดใช้ นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งการรีแมปที่เจาะจงเหล่านี้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย แป้นพิมพ์ลัดที่อิงตามการค้นหาจะทำหน้าที่เป็นค่าเริ่มต้นและอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าแป้นพิมพ์ลัดได้</translation> |
| <translation id="6757613329154374267">การสำรองและกู้คืนข้อมูลเปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="6758659208493449452">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูงจะได้รับการปกป้องเพิ่มเติมหรือไม่ บางฟีเจอร์เหล่านี้อาจมีการแชร์ข้อมูลกับ Google (เช่น ผู้ใช้การปกป้องขั้นสูงจะส่งไฟล์ที่ดาวน์โหลดไปให้ Google สแกนหามัลแวร์ได้) หากตั้งค่าเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจะได้รับการปกป้องเพิ่มเติม หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ผู้ใช้การปกป้องขั้นสูงจะได้รับเฉพาะฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป</translation> |
| <translation id="6763023079133439068">อนุญาตใบรับรองที่ไม่มีส่วนขยาย subjectAlternativeName เมื่อออกโดย Trust Anchor ในพื้นที่</translation> |
| <translation id="6766216162565713893">อนุญาตให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์บลูทูธที่อยู่ใกล้เคียงจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6770454900105963262">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับเซสชันคีออสก์ที่ใช้งาน</translation> |
| <translation id="6774132787348495175">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เครื่องเสมือนที่จำเป็นต่อการรองรับแอป Linux</translation> |
| <translation id="6782331708811245959">เปิดใช้การรายงานโหมดเปิดเครื่องของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6785201942412171878">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งานคีย์ "Six Pack" ของ PageUp/PageDown</translation> |
| <translation id="6786666051053129545">แสดงขั้นตอนการเปิดใช้ Voice Match สำหรับ Google Assistant</translation> |
| <translation id="6786747875388722282">ส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="6786967369487349613">ตั้งค่าไดเรกทอรีโปรไฟล์โรมมิ่ง</translation> |
| <translation id="6787638035953731324">การตั้งค่าแป้นพิมพ์ลัด "Insert" จะใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีตัวปรับแต่งการค้นหา</translation> |
| <translation id="6788500377069760677">เปิดใช้การแชร์ข้อมูลการวินิจฉัยไปยัง PluginVm</translation> |
| <translation id="6789319144568227749">กำหนดค่าการรองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS |
| |
| <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 97 เพิ่มการรองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS เมื่อสคริปต์ส่งคำขอเครือข่ายแบบข้ามต้นทางผ่าน fetch() และ XMLHttpRequest โดยมีส่วนหัว Authorization ที่สคริปต์เพิ่มเข้าไป ส่วนหัวนี้ต้องได้รับสิทธิ์อย่างชัดเจนจากส่วนหัว Access-Control-Allow-Headers ในการตอบกลับการตรวจสอบล่วงหน้าของ CORS "อย่างชัดเจน" ในที่นี้หมายความว่าสัญลักษณ์ไวลด์การ์ด "*" ไม่ครอบคลุมส่วนหัว Authorization ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ <ph name="CORS_NON_WILDCARD_REQUEST_HEADERS_FEATURE_URL" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS และมีลักษณะการทำงานตามที่อธิบายไว้ข้างต้น |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" Chrome จะอนุญาตให้สัญลักษณ์ไวลด์การ์ด ("*") ในส่วนหัว Access-Control-Allow-Headers ของการตอบกลับการตรวจสอบล่วงหน้าของ CORS ครอบคลุมส่วนหัว Authorization |
| |
| นโยบายองค์กรนี้เป็นนโยบายชั่วคราว และมีแผนที่จะนำออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="6789422336869764846">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานสถานะโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์เมื่อเปิดเครื่อง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานสถานะโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="6789441722870183939">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์ทดลองของเบราว์เซอร์ได้ผ่านไอคอนในแถบเครื่องมือ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะนำไอคอนฟีเจอร์ทดลองของเบราว์เซอร์ออกจากแถบเครื่องมือ |
| |
| การใช้ chrome://flags รวมถึงการปิดและเปิดฟีเจอร์ของเบราว์เซอร์ด้วยวิธีการอื่นใดจะยังคงมีลักษณะการทำงานตามที่คาดไว้ไม่ว่าจะมีการ "เปิดใช้" หรือ "ปิดใช้" นโยบายนี้</translation> |
| <translation id="6795485990775913659">อนุญาตให้พิมพ์เท่านั้นเมื่อไม่มี PIN</translation> |
| <translation id="6796215185873669533">ใช้การตั้งค่าเบราว์เซอร์เป็นค่าเริ่มต้นสำหรับเวอร์ชันสตริงของ User-Agent</translation> |
| <translation id="6800181452282128474">ไม่ส่งคำค้นหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ Quirks</translation> |
| <translation id="68031099365512050">รายงานสถานะเสียง</translation> |
| <translation id="680356860463873420">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้ PluginVm</translation> |
| <translation id="6807947647944603395">ปิดใช้ข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมของ Kyber สำหรับ TLS</translation> |
| <translation id="6810445994095397827">ปิดกั้น JavaScript บนไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="6813263547126514821">การเปิดและปิดระบบ</translation> |
| <translation id="681446116407619279">สกีมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้รับการสนับสนุน</translation> |
| <translation id="6815628711329903153">อนุญาตการจัดสรรบัฟเฟอร์แบบใหม่สำหรับ Graphics3D API ในปลั๊กอิน PPAPI</translation> |
| <translation id="6819838337315703072">หากเปิดใช้การสนับสนุนสำหรับแอป <ph name="LINUX_OS_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแอป <ph name="LINUX_OS_NAME" /> กลับไปที่เซิร์ฟเวอร์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ไม่มีการรายงานข้อมูลการใช้งาน</translation> |
| <translation id="6820251681466503297">นโยบายนี้ควบคุมว่าผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้บันทึกรูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /> จากเมนูตามบริบทโดยตรงหรือไม่ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกรูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /> จากเมนูตามบริบทได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นตัวเลือกในเมนูตามบริบท |
| นโยบายนี้ยังคงให้ผู้ใช้บันทึกรูปภาพไปยัง <ph name="GOOGLE_PHOTOS_PRODUCT_NAME" /> ได้โดยใช้วิธีอื่นๆ ข้างเมนูตามบริบท</translation> |
| <translation id="6823711520976094072">การตั้งค่าต่ำกว่า 1 MB หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ขนาดเริ่มต้นซึ่งก็คือ 256 เมบิไบต์สำหรับการแคชแอปและส่วนขยายสำหรับการติดตั้งโดยผู้ใช้หลายคนในอุปกรณ์เดียว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่ทุกครั้งสำหรับผู้ใช้แต่ละคน</translation> |
| <translation id="6827666400941600157">นโยบายนี้จะกำหนดช่วงเวลารายสัปดาห์สำหรับการตั้งเวลาการระงับอัตโนมัติ เมื่อช่วงเวลาเริ่มต้นขึ้น อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะเข้าสู่โหมดระงับและจะทำงานอีกครั้งเมื่อช่วงเวลาสิ้นสุดลง |
| |
| ไม่รองรับการตั้งเวลาที่มีช่วงเวลาทับซ้อนกัน นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากมีช่วงเวลา 2 ช่วงทับซ้อนกัน |
| |
| อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ตามเขตเวลาของระบบ</translation> |
| <translation id="6828729771894228555">อนุญาตให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุต้นทางระดับบนสุด (URL ในแถบที่อยู่ของแท็บ) ที่บล็อกการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม (การแบ่งพาร์ติชันของพื้นที่เก็บข้อมูล iframe แบบข้ามต้นทาง) |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ หรือต้นทางระดับบนสุดไม่ตรงกัน ระบบจะใช้ค่าจาก <ph name="DEFAULT_THIRD_PARTY_STORAGE_PARTITIONING_SETTING_POLICY_NAME" /> |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบที่ถูกต้องได้ใน https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns |
| โปรดทราบว่ารูปแบบต่างๆ ที่ระบุไว้ที่นี่ได้รับการดำเนินการเหมือนกับเป็นต้นทาง ไม่ใช่ URL คุณจึงไม่ควรระบุเส้นทาง |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สามได้ใน https://developer.chrome.com/docs/privacy-sandbox/storage-partitioning/</translation> |
| <translation id="6829632070341067746">นโยบายนี้ควบคุมการเปลี่ยนโครงสร้างภายในโค้ดล่าสุดสำหรับ Graphics3D API ในปลั๊กอิน PPAPI |
| |
| การย้ายข้อมูลจะส่งผลต่อรายละเอียดการใช้งานภายในเท่านั้น และไม่ควรเปลี่ยนลักษณะการทำงานใดๆ อย่างไรก็ตาม คุณจะใช้นโยบายนี้ได้ในกรณีที่แอปพลิเคชัน PPAPI ไม่ทำงานตามที่คาดไว้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" เบราว์เซอร์จะตัดสินใจว่าจะใช้การติดตั้งใช้งานรายการใด |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" เบราว์เซอร์จะใช้การใช้งานเดิมจนกว่านโยบายจะหมดอายุ |
| |
| หากคุณต้องใช้นโยบาย โปรดรายงานข้อบกพร่องใน crbug.com โดยอธิบาย Use Case และสำเนาถึง {blundell, vasilyt}@chromium.org นโยบายนี้มีกำหนดเวลาที่จะให้บริการผ่าน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 114 ซึ่งหลังจากนั้นระบบจะนำการใช้งานเดิมออก |
| |
| หมายเหตุ: เฉพาะกระบวนการแสดงผลที่เพิ่งเริ่มใหม่เท่านั้นที่จะแสดงการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ขณะที่เบราว์เซอร์ทำงานอยู่</translation> |
| <translation id="6833023569065717572">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้นาฬิกาในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ของอุปกรณ์มีรูปแบบเป็น 24 ชั่วโมง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะทำให้นาฬิกาในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ของอุปกรณ์มีรูปแบบเป็น 12 ชั่วโมง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้อุปกรณ์ใช้รูปแบบจากภาษาปัจจุบัน |
| |
| เซสชันผู้ใช้ก็จะใช้รูปแบบของอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้นเช่นกัน แต่ผู้ใช้เปลี่ยนรูปแบบนาฬิกาของบัญชีได้</translation> |
| <translation id="6833064854262015312">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดโหมดคอนทราสต์สูงในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะปิดโหมดคอนทราสต์สูงในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนโหมดคอนทราสต์สูงเป็นเปิดหรือปิดได้ชั่วคราว เมื่อหน้าจอลงชื่อเข้าใช้โหลดซ้ำหรือไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 1 นาที โหมดนี้จะเปลี่ยนกลับไปอยู่ในสถานะเดิม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ โหมดคอนทราสต์สูงจะปิดอยู่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้จะเปิดใช้เมื่อใดก็ได้ และสถานะนั้นในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้จะยังคงอยู่ตลอดระหว่างการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน |
| |
| หมายเหตุ: <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_HIGH_CONTRAST_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะลบล้างนโยบายนี้หากระบุนโยบายเดิมไว้</translation> |
| <translation id="6833465247597603843">การตั้งค่าแป้นพิมพ์ลัด "Delete" จะใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วมการค้นหา</translation> |
| <translation id="6833988859168635883">เริ่มต้นใช้งาน หน้าแรก และหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="6835254082476223414">เปิดใช้การสำรองและกู้คืนข้อมูลกับเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="6835883744948188639">แสดงข้อความแจ้งที่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ แก่ผู้ใช้เพื่อแจ้งว่าควรเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่</translation> |
| <translation id="683688607121170501">การตั้งค่านี้ทำให้ผู้ใช้สลับการใช้งานระหว่างบัญชี Google ได้ภายในพื้นที่เนื้อหาของหน้าต่างเบราว์เซอร์และในแอปพลิเคชันของ Android หลังจากที่ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็นเท็จ ระบบจะไม่อนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อื่นจากพื้นที่เนื้อหาของเบราว์เซอร์ที่ไม่ใช่โหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นจริง ระบบจะใช้การทำงานเริ่มต้นคืออนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อื่นจากพื้นที่เนื้อหาของเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันของ Android ยกเว้นบัญชีของบุตรหลานซึ่งระบบจะบล็อกพื้นที่เนื้อหาที่ไม่ใช่โหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| ในกรณีที่ไม่ต้องการอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีอื่นผ่านโหมดไม่ระบุตัวตน ให้บล็อกโหมดดังกล่าวโดยใช้นโยบาย IncognitoModeAvailability |
| |
| โปรดทราบว่าผู้ใช้จะยังเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google ในสถานะที่ไม่ผ่านการรับรองได้ด้วยการบล็อกคุกกี้</translation> |
| <translation id="6841254611279513739">การตั้งค่านโยบายนี้จะตั้งค่าการพิมพ์เป็นสีเท่านั้น ขาวดำเท่านั้น หรือไม่มีข้อจำกัดโหมดสี การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ไม่มีข้อจำกัด</translation> |
| <translation id="6843008643303282259">อัตราการอัปโหลดที่ต้องการเป็นหน่วย kbits/s</translation> |
| <translation id="6843296367238757293">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว เราไม่แนะนำให้ใช้นโยบายนี้ อ่านเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a/answer/7643500</translation> |
| <translation id="6846126863870444592">นโยบายนี้ระบุส่วนขยายที่อนุญาตให้ข้ามกล่องโต้ตอบการยืนยันงานพิมพ์เมื่อส่วนขยายนั้นใช้ฟังก์ชัน <ph name="SUBMIT_JOB_FUNCTION" /> ของ <ph name="PRINTING_API" /> เพื่อส่งงานพิมพ์ |
| |
| หากส่วนขยายใดไม่อยู่ในรายการหรือไม่ได้ตั้งค่ารายการไว้ ระบบจะแสดงกล่องโต้ตอบการยืนยันงานพิมพ์ให้ผู้ใช้เห็นทุกครั้งที่มีการเรียกใช้ฟังก์ชัน <ph name="SUBMIT_JOB_FUNCTION" /> |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTING_API_EXTENSIONS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="6847379587945465889">เปิดใช้การโอนคุกกี้ของ SAML SSO ไปยังเซสชันของผู้ใช้ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="684856667300805181">เราได้นำนโยบายนี้ออกจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> 68 และใช้ <ph name="ARC_GLS_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="6850300477973481112">การตั้งค่าเครื่องมือเชื่อมต่อเดสก์</translation> |
| <translation id="6851199885688265233">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์</translation> |
| <translation id="6851315055469993882">เปิดใช้แคชการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ที่มีขอบเขตทั่วไป</translation> |
| <translation id="6854767649023671426">เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะได้รับข้อความแจ้งหากมีการเข้าถึงการจับภาพวิดีโอ ยกเว้นใน URL ที่ตั้งค่าไว้ในรายการ VideoCaptureAllowedUrls |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดข้อความแจ้ง และการจับภาพวิดีโอจะใช้ได้เฉพาะกับ URL ที่ตั้งค่าไว้ในรายการ VideoCaptureAllowedUrls เท่านั้น |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้มีผลกับอินพุตวิดีโอทั้งหมด (ไม่ใช่แค่กล้องในตัว)</translation> |
| <translation id="6856743875250214792">เราเลิกใช้นโยบายนี้และนำออกแล้วใน M66 เพราะมีไว้เพื่อใช้ทดสอบภายในเท่านั้นและไม่เหมาะสำหรับการรักษาความปลอดภัย |
| |
| ระบุการแจ้งว่าไม่เหมาะสมที่ควรนำไปใช้กับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อเริ่มใช้งาน ระบบจะใช้การแจ้งที่ระบุนี้ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบเท่านั้น การแจ้งว่าไม่เหมาะสมที่ตั้งผ่านนโยบายนี้จะไม่เผยแพร่ในเซสชันผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6857240169209507953">ป้องกันไม่ให้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ทำงานในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="6857372417233723544">การตั้งค่านโยบายจะเปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดีใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า เลย์เอาต์จะใช้งานไม่ได้ ต้องรีบูตเพื่อให้มีผล</translation> |
| <translation id="685769593149966548">บังคับใช้โหมดที่จำกัดเข้มงวดใน YouTube</translation> |
| <translation id="686079137349561371">Microsoft Windows 7 ขึ้นไป</translation> |
| <translation id="6866755486434471318">อนุญาตให้ <ph name="PEPPER_NAME" /> ใช้รูปภาพที่แชร์ในการถอดรหัสวิดีโอ</translation> |
| <translation id="6870288354334274313">Direct Sockets API ช่วยให้สื่อสารกับเอนด์พอยต์ที่กำหนดเองได้โดยใช้ TCP และ UDP |
| โปรดดูรายละเอียดที่ https://github.com/WICG/direct-sockets |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุรูปแบบ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ Direct Sockets API |
| ซึ่งอาจรวมถึงแอป Chrome, Isolated Web App และเว็บคีออสก์ API จะใช้ไม่ได้ในเว็บแบบเปิด |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_DIRECT_SOCKETS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="DIRECT_SOCKETS_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="6878757724611298427">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้แอป Android ในอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="6881397131210596522">การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะบล็อกเว็บไซต์ไม่ให้ใช้ WebPrinting API โดยอัตโนมัติ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะแสดงข้อความแจ้งแก่ผู้ใช้เมื่อเว็บไซต์ต้องการใช้ WebPrinting API |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงเครื่องพิมพ์ในเครือข่าย แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="6881447940489194100">แฮช SHA-256 ที่เข้ารหัสเลขฐานสิบหกของข้อมูล</translation> |
| <translation id="68818134518270542">การตั้งค่านโยบายจะระบุแอปที่ผู้ใช้เปิดเป็นแอปจดโน้ตในหน้าจอล็อกของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ |
| |
| หากแอปที่ต้องการอยู่ในหน้าจอล็อก องค์ประกอบ UI สำหรับการเปิดแอปจดโน้ตที่ต้องการจะปรากฏขึ้นในหน้าจอ เมื่อเปิดแล้ว แอปจะสร้างหน้าต่างทับหน้าจอล็อกและสร้างโน้ตในบริบทนี้ได้ แอปจะนำเข้าโน้ตที่สร้างไว้ไปยังเซสชันหลักของผู้ใช้ได้เมื่อเซสชันนั้นไม่ได้ล็อก แอปที่ใช้ได้ในหน้าจอล็อกต้องเป็นแอปจดโน้ตของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายหมายความว่าผู้ใช้จะเปิดแอปในหน้าจอล็อกได้หากรหัสส่วนขยายของแอปอยู่ในค่ารายการของนโยบาย ดังนั้น การตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่าจะเป็นการปิดใช้การจดโน้ตในหน้าจอล็อก ไม่จำเป็นว่านโยบายที่มีรหัสแอปจะทำให้ผู้ใช้เปิดแอปดังกล่าวเป็นแอปจดโน้ตในหน้าจอล็อกได้ ตัวอย่างเช่น ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 61 แพลตฟอร์มยังจำกัดชุดแอปที่พร้อมใช้งานด้วย |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ใช้เปิดใช้ชุดแอปในหน้าจอล็อกได้โดยไม่มีข้อจำกัดจากนโยบาย</translation> |
| <translation id="6882028194958060206">ขยายการตั้งค่าเนื้อหา Flash ไปยังเนื้อหาทั้งหมด (เลิกใช้งาน)</translation> |
| <translation id="6882345904422482308">(คำเตือน Dependency นี้จะถูกยกเลิกในเร็วๆ นี้ โปรดเริ่มใช้ <ph name="GLS_POLICY_NAME" /> แทน) หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="BLOCK_GEOLOCATION_SETTING" /> แอป Android จะเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งไม่ได้ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่นๆ หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะขอให้ผู้ใช้ให้ความยินยอมเมื่อแอป Android ต้องการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง</translation> |
| <translation id="6883050310557769428">ควบคุมการเปิดใช้ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์ และรายการโดเมนคุกกี้ที่บล็อกไว้รวมถึงข้อยกเว้น</translation> |
| <translation id="6889123056995503704">ผู้ใช้จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกลักษณะการทำงานของการดาวน์เกรดเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="6889617338886728275">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะอนุญาตสิทธิ์การจัดการหน้าต่างโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_WINDOW_MANAGEMENT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์ |
| |
| นโยบายนี้มาแทนที่นโยบาย <ph name="WINDOW_PLACEMENT_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ที่เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="6894178810167845842">URL หน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="6897730193187922386">ระงับข้อความการเลิกใช้งานของ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="6899705656741990703">ตรวจหาการตั้งค่าพร็อกซีอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6902561336084511004">ระบุการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ที่พร้อมใช้งาน |
| |
| นโยบายนี้ช่วยให้คุณระบุการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ภายนอกสำหรับอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เป็นไฟล์ JSON ได้ |
| |
| โดยที่ไฟล์ดังกล่าวต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB และต้องมีอาร์เรย์ของระเบียน (ออบเจ็กต์ JSON) ระเบียนแต่ละรายการต้องมีช่อง "id", "url" และ "display_name" ที่มีสตริงเป็นค่า ค่าของช่อง "id" ต้องไม่ซ้ำกัน |
| |
| ระบบจะดาวน์โหลดและเก็บแคชของไฟล์ไว้ และจะใช้แฮชแบบเข้ารหัสเพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด โดยจะมีการดาวน์โหลดไฟล์อีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่ถูกต้อง อุปกรณ์จะพยายามค้นหาเครื่องพิมพ์ที่พร้อมใช้งานจากเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ที่ระบุโดยใช้โปรโตคอล IPP |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งเป็นค่าที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้จะไม่เห็นเครื่องพิมพ์ของเซิร์ฟเวอร์ที่จัดเตรียมไว้ทุกเครื่อง |
| |
| ขณะนี้มีการจำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ไว้ที่ 16 เซิร์ฟเวอร์ ระบบจะค้นหาเครื่องพิมพ์จากเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ 16 เซิร์ฟเวอร์แรกในรายการเท่านั้น |
| </translation> |
| <translation id="6903814433019432303">นโยบายนี้ใช้งานได้ในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| กำหนดชุด URL ที่จะโหลดเมื่อเริ่มเซสชันการสาธิต นโยบายนี้จะลบล้างกลไกใดๆ ที่ใช้ในการตั้งค่า URL เริ่มต้น และจะสามารถใช้ได้กับเซสชันที่ไม่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ใดเป็นการเฉพาะเท่านั้น</translation> |
| <translation id="6903818804346914108">เปิดใช้การรายงานข้อมูลพัดลมของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="690734633209203892">ควบคุมวิธีการและเวลาในการอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="6907778402784621686">บล็อกเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="6908640907898649429">กำหนดค่าผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น คุณสามารถระบุผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นที่ผู้ใช้จะใช้หรือเลือกปิดใช้งานการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6913068954484253496">อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เชื่อมต่อกับอุปกรณ์แคสต์ในที่อยู่ IP ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="6915493311660114995">หากตั้งค่าเป็นเปิดใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะอนุญาตคำขอการตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บในเว็บไซต์ที่มีใบรับรอง TLS ว่ามีข้อผิดพลาด (เช่น เว็บไซต์ที่ถือว่าไม่ปลอดภัย) |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็นปิดใช้ หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของการบล็อกคำขอดังกล่าว</translation> |
| <translation id="6915524162137327111">แสดงป้ายกำกับการจัดการเป็นเวลา 30 วินาที</translation> |
| <translation id="6919819553978815392">หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="LACROS_NAME" /> จะเปิดใช้การเข้าสู่ระบบแบบผู้มาเยือน การเข้าสู่ระบบแบบผู้มาเยือนคือโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่หน้าต่างทั้งหมดจะอยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" <ph name="PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="LACROS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เริ่มโปรไฟล์ผู้มาเยือน |
| |
| โปรดทราบว่าหากไม่กำหนดค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" แต่ตั้งค่า <ph name="LACROS_SECONDARY_PROFILES_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" <ph name="LACROS_NAME" /> จะไม่อนุญาตให้เริ่มโปรไฟล์ผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="692096803256767290">ย้อนระบบปฏิบัติการกลับไปเป็นเวอร์ชันเป้าหมาย</translation> |
| <translation id="6921241119085515674">อนุญาตการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /></translation> |
| <translation id="6921544339867564740">อนุญาตให้อุปกรณ์เรียกใช้เครื่องเสมือนใน Chrome OS ได้</translation> |
| <translation id="6922884955650325312">บล็อกปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /></translation> |
| <translation id="6924223708804692571">บังคับให้ปิดใช้การตรวจตัวสะกดของภาษาต่างๆ ระบบจะไม่สนใจภาษาที่ไม่รู้จักในรายการนั้น |
| |
| หากคุณเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษาที่ระบุ ผู้ใช้จะยังคงเปิดใช้หรือปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษาที่ไม่ได้อยู่ในรายการได้ |
| |
| หากคุณไม่ได้ตั้งค่าหรือปิดใช้นโยบายนี้ ค่ากำหนดการตรวจตัวสะกดของผู้ใช้จะไม่เปลี่ยนแปลง |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SPELLCHECK_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" นโยบายนี้จะไม่ส่งผลกระทบ |
| |
| หากมีภาษาที่รวมอยู่ทั้งในนโยบายนี้และนโยบาย <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_POLICY_NAME" /> ระบบจะให้ความสำคัญกับนโยบายหลังและเปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษานั้น |
| |
| ภาษาที่รองรับในขณะนี้ ได้แก่ af, bg, ca, cs, da, de, el, en-AU, en-CA, en-GB, en-US, es, es-419, es-AR, es-ES, es-MX, es-US, et, fa, fo, fr, he, hi, hr, hu, id, it, ko, lt, lv, nb, nl, pl, pt-BR, pt-PT, ro, ru, sh, sk, sl, sq, sr, sv, ta, tg, tr, uk, vi</translation> |
| <translation id="6926703471186170050">เปิดใช้การพิมพ์ 2 ด้านตามขอบด้านยาว</translation> |
| <translation id="6929639826067341257">แนะนำให้ผู้ใช้นำข้อมูลที่มีอยู่ไปไว้ในโปรไฟล์ที่มีการจัดการและให้ตัวเลือกในการปฏิเสธแก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="6929746927224321095">ปิดใช้การป้อนข้อความอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="6931242315485576290">ปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลกับ Google</translation> |
| <translation id="6932282102911647185">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีม่วง</translation> |
| <translation id="6938424179790370595">การตั้งค่านโยบายเป็น "ไม่มี" จะปิดแว่นขยายหน้าจอ |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า แว่นขยายหน้าจอจะปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะเปิดได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="6940243892299228102">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เทมเพลตเดสก์</translation> |
| <translation id="6943577887654905793">ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:</translation> |
| <translation id="694602410134474029">ควบคุมว่าจะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> โต้ตอบกับไดรเวอร์เครื่องพิมพ์จากกระบวนการของบริการที่แยกต่างหากหรือไม่ การเรียกใช้การพิมพ์ของแพลตฟอร์มเพื่อค้นหาเครื่องพิมพ์ที่พร้อมใช้งาน รับการตั้งค่าไดรเวอร์การพิมพ์ และส่งเอกสารไปพิมพ์ที่เครื่องพิมพ์ในพื้นที่จะมาจากกระบวนการของบริการ การย้ายการเรียกใช้ดังกล่าวออกจากกระบวนการของเบราว์เซอร์จะช่วยปรับปรุงความเสถียรและลดลักษณะการทำงานของ UI ที่ค้างในตัวอย่างก่อนพิมพ์ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้กระบวนการของบริการที่แยกต่างหากสำหรับงานพิมพ์ของแพลตฟอร์ม |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้กระบวนการของเบราว์เซอร์สำหรับงานพิมพ์ของแพลตฟอร์ม |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกในอนาคต หลังจากที่เปิดตัวฟีเจอร์ไดรเวอร์การพิมพ์นอกกระบวนการโดยสมบูรณ์แล้ว</translation> |
| <translation id="6946652757373377924"> |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M77 |
| นโยบายนี้จะใช้กับหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ โปรดดูนโยบาย <ph name="ISOLATE_ORIGINS_POLICY_NAME" /> ด้วยซึ่งใช้กับเซสชันของผู้ใช้ |
| หากเปิดใช้นโยบาย ต้นทางที่มีชื่อแต่ละรายการในรายการที่คั่นด้วยจุลภาคจะทำงานในกระบวนการของตนเอง ซึ่งจะเป็นการแยกต้นทางที่ตั้งชื่อตามโดเมนย่อยด้วย เช่น การระบุ https://example.com/ จะเป็นการแยก https://foo.example.com/ ด้วยเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ https://example.com/ |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายหรือปิดใช้ไว้ ระบบจะใช้การตั้งค่าการแยกเว็บไซต์เริ่มต้นของแพลตฟอร์มสำหรับหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ |
| </translation> |
| <translation id="6947587367703216074">ยับยั้งการสร้างเซสชัน <ph name="WEBXR_AR_SESSION_ENUM_VALUE" /> ของ <ph name="WEBXR_API_NAME_SHORT" /></translation> |
| <translation id="6949867264289339206">การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุการกำหนดค่าสำหรับเครื่องพิมพ์องค์กรที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ รูปแบบการตั้งค่าเหมือนกับพจนานุกรม <ph name="PRINTERS_POLICY_NAME" /> แต่มีช่อง "id" หรือ "guid" ที่จำเป็นต้องกรอกเพิ่มเข้ามาสำหรับเครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องเพื่อใช้ระบุว่าอยู่ในรายการที่อนุญาตหรือไม่อนุญาต ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5 MB และอยู่ในรูปแบบ JSON ไฟล์ที่ระบุเครื่องพิมพ์ประมาณ 21,000 เครื่องเข้ารหัสเป็นไฟล์ขนาด 5 MB ได้ 1 ไฟล์ แฮชแบบเข้ารหัสช่วยยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด ไฟล์จะมีการดาวน์โหลด แคช และดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวเพื่อการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์และทำให้เครื่องพิมพ์พร้อมใช้งานพร้อมด้วย <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" />, <ph name="DEVICE_PRINTERS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="DEVICE_PRINTERS_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้ |
| |
| * ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง |
| |
| * เป็นการเสริม <ph name="PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /> และการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ของผู้ใช้แต่ละราย |
| |
| หากไม่ตั้งค่า จะไม่มีเครื่องพิมพ์ของอุปกรณ์และระบบจะเพิกเฉยต่อนโยบาย <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_PATTERN" /> อื่นๆ</translation> |
| <translation id="69525503251220566">พารามิเตอร์ที่ให้ฟีเจอร์การค้นหาโดยภาพสำหรับผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6953102253399571439">เปิดใช้การพิมพ์ด้วย PIN โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6956272732789158625">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ใช้การสร้างคีย์</translation> |
| <translation id="6960996423652450945">ปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์ข้อความในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="6961602002757991199">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น URL ที่ถูกต้องจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ดาวน์โหลดรายการเว็บไซต์จาก URL นั้นและใช้กฎเหมือนกับว่าได้รับการกำหนดค่าด้วยนโยบาย <ph name="BROWSER_SWITCHER_URL_GREYLIST_POLICY_NAME" /> นโยบายเหล่านี้จะป้องกันไม่ให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และเบราว์เซอร์สำรองเปิดกันได้ |
| |
| การไม่ได้ตั้งค่านโยบาย (หรือตั้งค่าเป็น URL ที่ไม่ถูกต้อง) หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้นโยบายนี้เป็นที่มาของกฎสำหรับการไม่เปลี่ยนเบราว์เซอร์ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ชี้ไปยังไฟล์ XML ในรูปแบบเดียวกับนโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> โดยจะโหลดกฎจากไฟล์ XML แต่ไม่แชร์กฎเหล่านั้นกับ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ได้ที่ https://docs.microsoft.com/internet-explorer/ie11-deploy-guide/what-is-enterprise-mode</translation> |
| <translation id="6967623535060479585">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณควบคุมการแสดงคำเตือนของการปกป้องรหัสผ่าน การปกป้องรหัสผ่านจะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อใช้รหัสผ่านที่มีการปกป้องซ้ำในเว็บไซต์ที่น่าสงสัย |
| |
| ใช้ <ph name="PASSWORD_PROTECTION_LOGIN_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="PASSWORD_PROTECTION_CHANGE_PASSWORD_URL_POLICY_NAME" /> เพื่อระบุรหัสผ่านที่จะปกป้อง |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น |
| |
| * PasswordProtectionWarningOff จะไม่มีการแสดงคำเตือนการปกป้องรหัสผ่าน |
| |
| * PasswordProtectionWarningOnPasswordReuse คำเตือนการปกป้องรหัสผ่านจะแสดงเมื่อผู้ใช้ใช้รหัสผ่านที่มีการปกป้องซ้ำในเว็บไซต์ที่ไม่อนุญาต |
| |
| * PasswordProtectionWarningOnPhishingReuse คำเตือนการปกป้องรหัสผ่านจะแสดงเมื่อผู้ใช้ใช้รหัสผ่านที่มีการปกป้องซ้ำในเว็บไซต์ฟิชชิง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้บริการปกป้องรหัสผ่านปกป้องเฉพาะรหัสผ่านของ Google แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="6969108216182455619">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว และมีกำหนดที่จะนำออกใน Chrome 78 โดยไม่มีนโยบายทดแทน |
| |
| นโยบายนี้เปิดใช้ HTTP/0.9 ในพอร์ตอื่นที่ไม่ใช่พอร์ต 80 สำหรับ HTTP และพอร์ต 443 สำหรับ HTTPS |
| |
| นโยบายนี้ปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้น และหากมีการเปิดใช้จะทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อปัญหาด้านความปลอดภัย https://crbug.com/600352 |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ ย้ายข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ออกจาก HTTP/0.9 และจะมีการนำออกในอนาคต |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ HTTP/0.9 ในพอร์ตที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="6969332115615661188">ปิดใช้งานอินพุตวิดีโอ</translation> |
| <translation id="6972540544240464302">เลือกการกำหนดค่าเครื่องจัดตารางเวลางาน</translation> |
| <translation id="6975533677426693807">เปิดไฟล์ PDF โดยใช้โปรแกรมอ่าน PDF ภายในเสมอ</translation> |
| <translation id="6986172482189158664">การตั้งค่าอายุการใช้งานของข้อมูลการท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="6986838929449128437">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="SAFE_BROWSING_ALLOWLIST_DOMAINS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า Google Safe Browsing จะเชื่อถือโดเมนที่คุณระบุ และจะไม่ตรวจหาทรัพยากรที่เป็นอันตราย เช่น ฟิชชิง มัลแวร์ หรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ บริการปกป้องการดาวน์โหลดของ Google Safe Browsing จะไม่ตรวจสอบการดาวน์โหลดที่โฮสต์ในโดเมนเหล่านี้ และบริการปกป้องรหัสผ่านก็จะไม่ตรวจสอบการใช้รหัสผ่านซ้ำ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าการปกป้องด้วย Google Safe Browsing ตามค่าเริ่มต้นจะมีผลกับทรัพยากรทั้งหมด |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> ฟังก์ชันการทำงานนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, ทำงานใน Windows 10 Pro หรือลงทะเบียนใน<ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> ฟังก์ชันการทำงานนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM หรือเข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX</translation> |
| <translation id="6988791975283483023">ปิดใช้ Wi-Fi</translation> |
| <translation id="6990736882800900101">อนุญาตให้เปิดป๊อปอัปทั้งหมดที่มีการกำหนดเป้าหมายแบบ <ph name="BLANK_PAGE_NAME" /> เพื่อโต้ตอบกับหน้าที่ขอเปิดป๊อปอัป เว้นแต่หน้าที่เปิดเลือกไม่ใช้การโต้ตอบดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง </translation> |
| <translation id="6991623831629598930">ใช้ค่าเริ่มต้นสำหรับข้อตกลงเกี่ยวกับคีย์ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมของ Kyber สำหรับ TLS</translation> |
| <translation id="6992943675460798920">อนุญาตให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหน้าจอและบันทึกวิดีโอ</translation> |
| <translation id="6994082778848658360">ระบุวิธีที่สามารถใช้ฮาร์ดแวร์องค์ประกอบความปลอดภัยในเครื่องเพื่อทำการตรวจสอบสิทธิ์จากปัจจัยที่สอง หากขั้นตอนดังกล่าวใช้ได้กับฟีเจอร์นี้ จะมีการใช้ปุ่มเปิด/ปิดของเครื่องในการตรวจหาตัวตนจริงของผู้ใช้ |
| |
| หากเลือก "ปิดใช้" จะไม่มีการแจ้งปัจจัยที่ 2 |
| |
| หากเลือก "U2F" ปัจจัยที่ 2 ที่รวมอยู่จะดำเนินการตามข้อกำหนดของ FIDO U2F |
| |
| หากเลือก "U2F_EXTENDED" ปัจจัยที่ 2 ที่รวมอยู่จะแจ้งฟังก์ชัน U2F พร้อมส่วนขยายบางอย่างสำหรับการรับรองแต่ละรายการ</translation> |
| <translation id="69942621143543910">นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบกําหนดค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> ได้ หากต้องการ |
| หลังจากกระบวนการตั้งค่าเสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะย้ายไฟล์ที่มีรูปแบบตรงกันไปที่ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น และแฮนเดิลโดยแอป <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> เมื่อผู้ใช้พยายามเปิดไฟล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />" จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> ตามที่อธิบายไว้ข้างต้นและนําแอป <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> ออกจากตัวแฮนเดิลไฟล์ที่เป็นไปได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="AUTOMATED_NAME" />" จะตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สำหรับ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> โดยอัตโนมัติ ระบบจึงจะย้ายไฟล์ที่มีรูปแบบตรงกันไปที่ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น และแฮนเดิลโดยแอป <ph name="MICROSOFT_365_NAME" /> เมื่อผู้ใช้พยายามเปิดไฟล์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะมีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับการตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" สําหรับผู้ใช้ทั่วไป และสําหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่ไม่ได้ตั้งค่าเริ่มต้นของนโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />"</translation> |
| <translation id="6999948519306285655">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้ช่วยให้คุณระบุ URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซีได้ นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อไม่ได้ระบุนโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> และคุณเลือก <ph name="PROXY_MODE_ENUM_PAC_SCRIPT" /> ด้วย <ph name="PROXY_MODE_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| ไม่ต้องตั้งค่านโยบายนี้หากได้เลือกโหมดอื่นสำหรับการตั้งค่านโยบายพร็อกซีแล้ว |
| |
| หมายเหตุ: ดูตัวอย่างโดยละเอียดได้ที่ The Chromium Projects ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett )</translation> |
| <translation id="7001915679435065291">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้ทุกเว็บไซต์แสดงรูปภาพได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธไม่ให้แสดงรูปภาพ |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้แสดงรูปภาพ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="7002040773317582266">เปิดใช้การตรวจหา URL ในเมนเฟรมแบบเรียลไทม์อยู่</translation> |
| <translation id="7003746348783715221">ค่ากำหนดของ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7007283257527015835">ธงบูลีนที่ระบุว่าเครื่องจัดการโปรโตคอลควรตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้นหรือไม่</translation> |
| <translation id="7007403084376547341">เลือกไบนารีของเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7008308728445338159">เปิดใช้การตรวจสอบการสกัดกั้น DNS แล้ว</translation> |
| <translation id="7009043124653876961">ปิดใช้การแนะนำอีโมจิเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="7010006999849135962">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ใช้ PIN สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7013333561002112085">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "<ph name="PROVISION_MANAGED_CLIENT_CERTIFICATE_FOR_USER_ENABLED" />" (ค่า 1) จะทำให้เบราว์เซอร์ขอใบรับรองไคลเอ็นต์จากเซิร์ฟเวอร์การจัดการอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้หรือโปรไฟล์ที่มีการจัดการ ใบรับรองนี้จะมีให้ใช้กับการเชื่อมต่อ mTLS เป็นต้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "<ph name="PROVISION_MANAGED_CLIENT_CERTIFICATE_FOR_USER_DISABLED" />" (ค่า 0) จะป้องกันไม่ให้เบราว์เซอร์ขอใบรับรองไคลเอ็นต์ หากมีการจัดสรรใบรับรองไคลเอ็นต์ที่มีการจัดการของโปรไฟล์อยู่แล้ว ระบบจะไม่ลบใบรับรองดังกล่าวเนื่องจากมีการเปิดใช้นโยบายนี้มาก่อน แต่ใบรับรองจะใช้ไม่ได้กับการเชื่อมต่อ mTLS และจะไม่ต่ออายุเมื่อหมดอายุ</translation> |
| <translation id="7013484314513229844">เปิดใช้การเปิดเครื่องเมื่อเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟฟ้ากระแสสลับ</translation> |
| <translation id="7014427417852575165">ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูงจะได้รับการปกป้องเพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="7016587686120059767">ปิดใช้โหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="7019805045859631636">เร็ว</translation> |
| <translation id="7021590945154530517">เปิดใช้การตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7025332601572838001">การกำหนดค่าการทำงานของข้อกำหนดในการให้บริการระหว่างการเรียกใช้ CCT ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="7026351325994257733">อนุญาตให้ซิงค์การกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi ระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> กับโทรศัพท์ Android ที่เชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="7027057540229843762">ใช้ธีมสว่าง</translation> |
| <translation id="7027785306666625591">กำหนดค่าการจัดการพลังงานใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| นโยบายเหล่านี้ช่วยให้คุณกำหนดพฤติกรรมของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เมื่อผู้ใช้ไม่มีการใช้งานในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้</translation> |
| <translation id="7027923238554618852">การตั้งค่านโยบายจะสั่งให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้การกำหนดค่าเครื่องจัดตารางเวลางานที่ระบุโดยชื่อที่เจาะจง นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็น <ph name="CONSERVATIVE_VALUE" /> หรือ <ph name="PERFORMANCE_VALUE" /> ก็ได้ ซึ่งจะปรับแต่งเครื่องจัดตารางเวลางานเพื่อความเสถียรหรือประสิทธิภาพสูงสุดตามลำดับ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกการตั้งค่าเองได้</translation> |
| <translation id="7028640460148648082">ไม่รายงานสถานะเครือข่าย</translation> |
| <translation id="7030205756530739128">หากตั้งค่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_MODE_NAME" /> เป็น <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_MODE_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_START_CHARGING_POLICY_NAME" /> จะปรับแต่งเวลาที่แบตเตอรี่เริ่มชาร์จ โดยอิงตามเปอร์เซ็นต์ของการชาร์จแบตเตอรี่ ค่านี้ต้องอยู่ที่จุดต่ำกว่า <ph name="DEVICE_BATTERY_CHARGE_CUSTOM_STOP_CHARGING_POLICY_NAME" /> อย่างน้อย 5% |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้มีการใช้โหมดการชาร์จแบตเตอรี่แบบมาตรฐาน</translation> |
| <translation id="7030407698292813622">อนุญาตคำขอ DNS สำหรับประเภทระเบียน DNS เพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="7030632236140191991">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="ON_BULK_DATA_ENTRY_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> Enterprise ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อมีการป้อนข้อมูลใน Chrome จากคลิปบอร์ดหรือผ่านการลากและวางเนื้อหาเว็บ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_URL_LIST_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAGS_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อควรส่งข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์หรือไม่เมื่อมีการป้อนข้อมูลจากหน้าหนึ่งๆ และแท็กใดที่จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์สำหรับข้อมูลนั้น แท็กที่สอดคล้องกับรูปแบบ "เปิดใช้" จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์หาก URL ของหน้าตรงกับรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับแท็กดังกล่าวตราบใดที่ไม่มีรูปแบบ "ปิดใช้" ที่มีแท็กเดียวกันนั้นตรงกับ URL ของหน้า การวิเคราะห์จะเกิดขึ้นหากมีอย่างน้อย 1 แท็กในคำขอ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> จะระบุว่าผู้ให้บริการการวิเคราะห์ใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_UNTIL_VERDICT_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น 1 หมายความว่า Chrome จะรอให้มีการตอบสนองจากบริการการวิเคราะห์ก่อนให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงข้อมูล ค่าที่เป็นจำนวนเต็มอื่นๆ หมายความว่า Chrome จะให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงข้อมูลโดยทันที |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DEFAULT_ACTION_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น "บล็อก" หมายความว่า Chrome จะไม่ให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงข้อมูลหากเกิดข้อผิดพลาดขณะสื่อสารกับบริการการวิเคราะห์ ค่าอื่นๆ หมายความว่า Chrome ให้สิทธิ์หน้าเว็บในการเข้าถึงข้อมูล |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MINIMUM_DATA_SIZE" /> ระบุขนาดขั้นต่ำ (หน่วยเป็นไบต์) ซึ่งข้อมูลที่ป้อนใน Chrome ต้องเท่ากับหรือเกินค่านี้จึงจะได้รับการสแกน ค่าเริ่มต้นคือ 100 ไบต์หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้ |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_REQUIRE_JUSTIFICATION_TAGS_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อต้องกำหนดให้ผู้ใช้ป้อนเหตุผลสำหรับแท็กใดเพื่อข้ามการสแกนที่ทำให้เกิดคำเตือนแบบข้ามได้ หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้ ระบบจะถือว่าไม่จำเป็นต้องป้อนเหตุผล |
| |
| ฟิลด์ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MESSAGE_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAG_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดค่าข้อความที่จะแสดงแก่ผู้ใช้เมื่อมีคำเตือนปรากฏขึ้นหลังจากที่การสแกนตรวจพบการละเมิด ฟิลด์ข้อความมีข้อความที่จะแสดงต่อผู้ใช้และต้องมีความยาวไม่เกิน 200 อักขระ ฟิลด์ learn_more_url มี URL จากผู้ดูแลระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลที่การดำเนินการถูกบล็อก ฟิลด์ภาษาจะมีหรือไม่มีก็ได้และจะมีภาษาของข้อความ ฟิลด์ภาษาที่เว้นว่างไว้หรือมีค่าเป็น "ค่าเริ่มต้น" จะระบุข้อความที่จะใช้เมื่อภาษาของผู้ใช้ไม่มีข้อความ ฟิลด์แท็กจะระบุประเภทการสแกนที่จะมีการแสดงข้อความ รายการ custom_messages อาจมีหรือไม่มีรายการย่อยเพิ่มเติม โดยที่รายการย่อยแต่ละรายการจำเป็นต้องมีฟิลด์ข้อความและฟิลด์แท็กที่ไม่เว้นว่างไว้ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="7032813174556919004">ปิดใช้โหมด DNS-over-HTTPS</translation> |
| <translation id="703672323011778742">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วในรุ่น M88 และ Chrome ไม่รองรับ Flash อีกต่อไป การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้คุณกำหนดว่าทุกเว็บไซต์จะเรียกใช้ปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> โดยอัตโนมัติได้หรือไม่ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธปลั๊กอินนี้ในทุกเว็บไซต์ ฟีเจอร์คลิกเพื่อเล่นจะให้ปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ทำงานได้ แต่ผู้ใช้จะคลิกตัวยึดตำแหน่งเพื่อเริ่ม |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะใช้ <ph name="BLOCK_PLUGINS_POLICY_NAME" /> และให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| หมายเหตุ: การเล่นอัตโนมัติใช้ได้เฉพาะกับโดเมนที่แสดงอยู่อย่างชัดแจ้งในนโยบาย <ph name="PLUGINS_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> หากต้องการเปิดการเล่นอัตโนมัติในทุกเว็บไซต์ ให้เพิ่ม http://* และ https://* ในรายการนี้</translation> |
| <translation id="7037812781389976160">ควบคุมตำแหน่งของชั้นวาง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ด้านล่าง"' ชั้นวางจะอยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ด้านซ้าย"' ชั้นวางจะอยู่ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ด้านขวา"' ชั้นวางจะอยู่ที่ด้านขวาของหน้าจอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นแบบบังคับ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ชั้นวางจะอยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอโดยค่าเริ่มต้น และผู้ใช้จะเปลี่ยนตำแหน่งของชั้นวางได้</translation> |
| <translation id="7039815268521168329">แสดงขั้นตอนการเปิดใช้ Voice Match สำหรับ Google Assistant ระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7040229947030068419">ค่าตัวอย่าง:</translation> |
| <translation id="7043157348967593138">เปิดใช้ผู้ให้บริการเฟรมเวิร์กการช่วยเหลือพิเศษสำหรับการทำงานอัตโนมัติของ UI ของเบราว์เซอร์ใน Windows</translation> |
| <translation id="7044883996351280650">ควบคุมบริการสำรองและกู้คืนข้อมูลใน Android</translation> |
| <translation id="7045221780834308118">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้เว็บแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามใช้ Desk API เพื่อควบคุมเดสก์ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ <ph name="DESK_API_NAME" /> จะใช้งานไม่ได้ นโยบายนี้จะมีผลกับอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น</translation> |
| <translation id="7046113122884041950">ไม่อนุญาตให้ใช้ Smart Lock</translation> |
| <translation id="7046997898355294677">แสดงการแจ้งเตือนด้านความเป็นส่วนตัวจนกว่าผู้ใช้จะปิด</translation> |
| <translation id="7047495632846973438">ระบุว่าจะตรวจสอบนโยบายสิทธิ์ display-capture หรือข้ามไป</translation> |
| <translation id="7055022222176591388">ไม่อนุญาต "<ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" />" ที่ล้าสมัย</translation> |
| <translation id="7056040036973126753">ระบบอาจส่งข้อมูลความเสถียรของโดเมนไปยัง Google โดยขึ้นอยู่กับนโยบายเมตริกผู้ใช้ของ Chrome (UMA)</translation> |
| <translation id="7062803946218028349">อนุญาตให้มีการเปิดใช้ฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="7066292150801784098">ปิดไม่ให้ผู้ใช้ระยะไกลโต้ตอบกับหน้าต่างที่ลอยอยู่ในเซสชันความช่วยเหลือระยะไกล</translation> |
| <translation id="706669471845501145">อนุญาตให้ไซต์แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="70681795425744184">ไม่อนุญาตให้ CRD เรียกใช้คำขอ WebAuthn API ที่ทำพร็อกซีจากโฮสต์ระยะไกล</translation> |
| <translation id="7070525176564511548">ต้องป้อนรหัสผ่านทุกสัปดาห์ (168 ชั่วโมง)</translation> |
| <translation id="7072208053150563108">อัตราการเปลี่ยนรหัสผ่านโดยเครื่อง</translation> |
| <translation id="7072567600438630966">อนุญาตให้มีการเปิดใช้ฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="7074437930865599190">ทำให้เวอร์ชันหลักของสตริง User-Agent หยุดอยู่ที่ 99</translation> |
| <translation id="7075847434649667522">ใช้ใบรับรอง TLS ที่ผู้ใช้เพิ่มไว้จาก Trust Store ของแพลตฟอร์มสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="7077471517869658421">ผู้ใช้จะเปลี่ยนค่าของการตั้งค่า "ใช้ Launcher/แป้นค้นหาเพื่อเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชัน" ได้อย่างอิสระ</translation> |
| <translation id="707988220162760379">เปิดไฟล์ PDF โดยใช้โปรแกรมอ่าน PDF ภายนอกเสมอ</translation> |
| <translation id="7081401546407362463">รายการของประเภทไฟล์ที่ควรเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ ไม่ควรใส่ตัวคั่นข้างหน้าเมื่อระบุประเภทไฟล์ เช่น ให้ใช้ "txt" แทน ".txt" |
| |
| ไฟล์ประเภทที่ควรเปิดโดยอัตโนมัติยังจะต้องผ่านการตรวจสอบของ Google Safe Browsing ที่เปิดใช้อยู่ และระบบจะไม่เปิดไฟล์หากไม่ผ่านการตรวจสอบ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เมื่อดาวน์โหลดเสร็จระบบจะเปิดเฉพาะประเภทไฟล์ที่ผู้ใช้ระบุไว้แล้วว่าให้เปิดโดยอัตโนมัติ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7081699207881888532">เปิดใช้การแนะนำอีโมจิเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="7081784525008938771">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าทำให้ผู้ใช้ไม่ถูกพิจารณาว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในขณะกำลังเล่นวิดีโอ ซึ่งจะป้องกันระยะหน่วงเวลาของการไม่ใช้งาน ระยะหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอ ระยะหน่วงเวลาการปิดหน้าจอ และระยะหน่วงเวลาการล็อกหน้าจอ รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการทำงานที่สอดคล้องกัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ทำให้ระบบสามารถระบุว่าผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้จะมีกิจกรรมวิดีโอ</translation> |
| <translation id="7084631508902923941">ส่วนขยายที่เชื่อมต่อกับหนึ่งในต้นทางเหล่านี้จะยังคงทำงานอยู่ตราบใดที่มีการเชื่อมต่อพอร์ต |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นของนโยบาย รายการต่อไปนี้เป็นต้นทางของแอปที่ให้บริการ SDK ซึ่งทราบแล้วว่าไม่อนุญาตให้คุณรีสตาร์ทการเชื่อมต่อแบบปิดเป็นสถานะก่อนหน้า |
| - เครื่องมือเชื่อมต่อสมาร์ทการ์ด |
| - ตัวรับ Citrix (เวอร์ชันเสถียร เบต้า สำรอง) |
| - VMware Horizon (เวอร์ชันเสถียร เบต้า) |
| |
| หากตั้งค่าไว้ ระบบจะขยายรายการค่าเริ่มต้นด้วยค่าที่กำหนดไว้ใหม่ ทั้งค่าเริ่มต้นและรายการที่ได้จากนโยบายจะยกเว้นส่วนขยายที่เชื่อมต่อ ตราบใดที่มีการเชื่อมต่อพอร์ตอยู่</translation> |
| <translation id="7086720321892395256">ควบคุมนโยบายด้านผู้ใช้และอุปกรณ์สำหรับฟีเจอร์หน้าจอส่วนตัว</translation> |
| <translation id="7090500018761495290">เปิดใช้ Event.path API อีกครั้งสำหรับเวอร์ชัน M115 และเวอร์ชันที่ต่ำกว่า</translation> |
| <translation id="7090668780328470271">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ USB ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_USB_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_USB_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="7091220433954923921">การตั้งค่านโยบายจะจำกัดช่วงพอร์ต UDP ที่โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลในเครื่องนี้ใช้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นสตริงว่างจะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลสามารถใช้พอร์ตใดก็ได้ที่ว่างอยู่ |
| |
| หมายเหตุ: หากปิดใช้ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_FIREWALL_TRAVERSAL_POLICY_NAME" /> โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลจะใช้พอร์ต UDP ในช่วง 12400-12409</translation> |
| <translation id="7091842872805965910">เปิดใช้ฟีเจอร์ส่ง PIN อัตโนมัติในหน้าจอล็อกและหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="7093294902558672021">รายงานข้อมูลพัดลมของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลพัดลมของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="710003290625031750">คำอธิบายสคีมาแบบขยาย</translation> |
| <translation id="7101550508196914704">ไม่แสดงทางลัดของแอปในแถบบุ๊กมาร์ก</translation> |
| <translation id="7105084505972468353">หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะควบคุมประเภทของแว่นขยายหน้าจอที่เปิดใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เต็มหน้าจอ" แว่นขยายหน้าจอจะเปิดใช้เสมอในโหมดแว่นขยายทั้งหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "บางส่วน" แว่นขยายหน้าจอจะเปิดใช้เสมอในโหมดแว่นขยายหน้าจอบางส่วนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ไม่มี" แว่นขยายหน้าจอจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้แว่นขยายหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="7109384070286741861">ปิดใช้ CECPQ2</translation> |
| <translation id="7113439794629928551">แสดงตัวควบคุมสื่อสำหรับเซสชัน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ที่เริ่มต้นโดยอุปกรณ์อื่นๆ</translation> |
| <translation id="7114169791477667553">ปิดใช้ผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7121046543122812054">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว ให้ลองใช้ <ph name="BROWSER_SIGNIN_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้มีการลงชื่อเข้าใช้ และยังบล็อกแอปและส่วนขยายที่ใช้ chrome.identity API ไม่ให้ทำงานด้วย โปรดใช้ <ph name="SYNC_DISABLED_POLICY_NAME" /> แทนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ |
| </translation> |
| <translation id="7122626777103192518">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้แชร์ข้อความ/ไฟล์จากแอป Android ไปยังเว็บแอปที่รองรับได้โดยใช้ระบบการแชร์ในตัวของ Android |
| เมื่อเปิดใช้ การดำเนินการนี้จะส่งข้อมูลเมตาของเว็บแอปที่ติดตั้งไปยัง Google เพื่อสร้างและติดตั้งแอป Android ที่แสดงถึงเว็บแอป |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดใช้ฟังก์ชันการทำงานนี้</translation> |
| <translation id="7123271473727774529">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการแก้สี</translation> |
| <translation id="7123365950656684184">บังคับให้โฮสต์การรับส่งข้อความในเครื่องที่เป็นไฟล์ปฏิบัติการของ Windows เปิดใช้งานโดยตรง</translation> |
| <translation id="7126716959063786004">เปิดใช้การหยุดกระบวนการในตัวจัดการงาน</translation> |
| <translation id="7126787606641224668">ควบคุมว่าจะเปิดใช้ฟีเจอร์ "จำรหัสผ่าน" ในกล่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos หรือไม่ จะมีการเข้ารหัสและจัดเก็บรหัสผ่านในดิสก์ ซึ่งจะเข้าถึงได้โดย Daemon ของระบบ Kerberos และระหว่างเซสชันของผู้ใช้เท่านั้น |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกได้ว่าจะให้ระบบจำรหัสผ่าน Kerberos หรือไม่ เพื่อที่จะไม่ต้องป้อนรหัสผ่านอีกครั้ง ระบบจะดึงข้อมูลตั๋ว Kerberos โดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะต้องตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติม (การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย) |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะไม่จำรหัสผ่านและจะนำรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้ก่อนหน้านี้ออกทั้งหมด ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสผ่านทุกครั้งที่จำเป็นต้องตรวจสอบสิทธิ์กับระบบ Kerberos การตรวจสอบสิทธิ์มักจะเกิดขึ้นตั้งแต่ทุกๆ 8 ชั่วโมงไปจนถึงหลายเดือน ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์</translation> |
| <translation id="7126928806195745404">การตั้งค่า JavaScript</translation> |
| <translation id="7127732963662601239">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงหน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้านต่อผู้ใช้หรือไม่ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก |
| หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" ระบบจะไม่แสดงหน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้าน |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" หน้าจอเซ็นเซอร์ตรวจหาบุคคลในบ้านจะแสดงขึ้นมา |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้น "เท็จ" กับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและใช้ค่าเริ่มต้น "จริง" สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="7127980134843952133">ประวัติการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="7128513247945602297">เปิดใช้การอัปเกรดเนื้อหาผสมโดยอัตโนมัติในเว็บไซต์ HTTPS</translation> |
| <translation id="712963038874313213">นโยบายที่มี Ansible Playbook ที่ควรจะเรียกใช้ในคอนเทนเนอร์ Crostini เริ่มต้น |
| |
| นโยบายนี้อนุญาตให้มี Ansible Playbook ที่จะใช้ในคอนเทนเนอร์ Crostini เริ่มต้นหากมีในอุปกรณ์นั้นๆ และนโยบายต่างๆ อนุญาตให้ใช้ได้ |
| |
| ขนาดของข้อมูลต้องไม่เกิน 1MB (1000000 bytes) และต้องเข้ารหัสเป็น YAML และจะใช้แฮชแบบเข้ารหัสเพื่อยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด |
| |
| รวมถึงจะดาวน์โหลดและแคชการกำหนดค่า แล้วจะดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง |
| |
| ถ้าคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะใช้คอนเทนเนอร์ Crostini เริ่มต้นต่อไปได้ในการกำหนดค่าต่อเนื่องของคอนเทนเนอร์หากนโยบายต่างๆ อนุญาตให้ใช้ Crostini ได้</translation> |
| <translation id="7132877481099023201">URL ที่จะได้รับสิทธิ์การเข้าถึงอุปกรณ์จับภาพวิดีโอโดยไม่ต้องแจ้ง</translation> |
| <translation id="7134420220355750019">สลับปุ่มหลักของเมาส์ไปเป็นปุ่มด้านขวา |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ปุ่มด้านขวาของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักเสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์จะเป็นปุ่มหลักในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะสลับปุ่มได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="7136237405361383549">ใช้ตัวแสดงผลที่เป็นค่าเริ่มต้นโดยอิงตามการกำหนดค่าการทดลองใช้ในวงจำกัด</translation> |
| <translation id="7138762292550697459">ควบคุมระยะหมดเวลาขั้นต่ำสำหรับฟังก์ชัน JavaScript setTimeout()</translation> |
| <translation id="7138792262152376158">ดำเนินการตามไทม์ไลน์การเลิกใช้งานตามปกติสำหรับ PrefixedVideoFullscreen API</translation> |
| <translation id="714219487865269980">เปิดใช้การไฮไลต์โฟกัสแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="7144022711746703451"> |
| นโยบายนี้ถูกนำออกตั้งแต่รุ่น M80 เพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากตอนนี้ฟีเจอร์ WebDriver ใช้ได้กับทุกนโยบายที่มีอยู่แล้ว |
| |
| นโยบายนี้ช่วยให้ผู้ใช้ฟีเจอร์ WebDriver ลบล้างนโยบายที่อาจรบกวนการทำงานได้ |
| |
| ปัจจุบันนโยบายนี้ปิดใช้นโยบาย SitePerProcess และ IsolateOrigins |
| |
| หากเปิดใช้นโยบาย ระบบจะอนุญาตให้ WebDriver ลบล้างนโยบายที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้ |
| |
| หากปิดใช้หรือไม่กำหนดค่านโยบาย ระบบจะไม่อนุญาตให้ WebDriver ลบล้างนโยบายที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้</translation> |
| <translation id="7145335384492396213">โหมดการพิมพ์ด้วย PIN ที่เป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7146198347561863646">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้มีการใช้ Wake Lock เพื่อการจัดการพลังงานได้ ส่วนขยายจะขอ Wake Lock ได้ผ่านทาง Power Management Extension API และแอป ARC |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ระบบเพิกเฉยต่อคำขอ Wake Lock</translation> |
| <translation id="7149042336307555519"> ประเภทการเชื่อมต่อที่อนุญาตให้ใช้สำหรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ การอัปเดตระบบปฏิบัติการอาจทำให้การเชื่อมต่อทำงานหนักมากเนื่องจากขนาดของการอัปเดต และอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้น โดยค่าเริ่มต้นจึงไม่มีการเปิดใช้การอัปเดตกับประเภทการเชื่อมต่อที่ถือว่ามีค่าใช้จ่ายสูง (ปัจจุบันมีเพียง "เน็ตมือถือ") |
| |
| ตัวระบุประเภทการเชื่อมต่อที่รู้จัก ได้แก่ <ph name="CONNECTION_TYPE_ETHERNET_NAME" /> <ph name="CONNECTION_TYPE_WIFI_NAME" /> และ <ph name="CONNECTION_TYPE_CELLULAR_NAME" /></translation> |
| <translation id="7150722575502017208">ไม่จำเป็นต้องจับคู่ผู้ใช้ในเครื่องและเจ้าของโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7151366515472588710">ไคลเอ็นต์ไม่ควรแปลข้อมูลนี้และควรส่งต่อตามที่ได้รับ DMServer ใช้ policy_version เพื่อยืนยันว่าการแสดงผลนโยบายของ DMServer ตรงกับการแสดงผลของอุปกรณ์ Chrome OS</translation> |
| <translation id="7152605873936173525">ควบคุมโหมดของรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS โปรดทราบว่านโยบายนี้จะตั้งค่าโหมดเริ่มต้นสำหรับการค้นหาแต่ละรายการเท่านั้น อาจมีการลบล้างโหมดได้สำหรับประเภทการค้นหาพิเศษ เช่น คำขอแก้ไขชื่อโฮสต์ของเซิร์ฟเวอร์ DNS-over-HTTPS |
| |
| โหมด <ph name="SECURE_DNS_MODE_OFF" /> จะปิดใช้โหมด DNS-over-HTTPS |
| |
| โหมด <ph name="SECURE_DNS_MODE_AUTOMATIC" /> จะส่งการค้นหา DNS-over-HTTPS ไปก่อน หากเซิร์ฟเวอร์ DNS-over-HTTPS พร้อมใช้งาน และอาจถอยหลังกลับไปส่งการค้นหาที่ไม่ปลอดภัยที่เป็นข้อผิดพลาด |
| |
| โหมด <ph name="SECURE_DNS_MODE_SECURE" /> จะส่งเฉพาะการค้นหา DNS-over-HTTPS และจะแก้ไขข้อผิดพลาดไม่สำเร็จ |
| |
| สำหรับ <ph name="ANDROID_VERSION" /> ขึ้นไป หากโหมด DNS-over-TLS เปิดใช้งานอยู่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ส่งคำขอ DNS ที่ไม่ปลอดภัย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เบราว์เซอร์อาจส่งคำขอ DNS-over-HTTPS ไปยังรีโซลเวอร์ที่เกี่ยวข้องกับรีโซลเวอร์ระบบของผู้ใช้ซึ่งมีการกำหนดค่าไว้</translation> |
| <translation id="7152640356717355643">เปิดใช้การรายงานอินเทอร์เฟซเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7153786895642570081">นโยบายนี้ควบคุมการเปิดใช้ฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะดำเนินการตาม DeviceOpenNetworkConfiguration entries RecommendedValuesAreEphemeral และ UserCreatedNetworkConfigurationsAreEphemeral |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" ระบบจะดำเนินการตามนโยบายเครือข่ายที่กล่าวถึงต่อเมื่อฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies เปิดใช้อยู่ |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกเมื่อฟีเจอร์ EphemeralNetworkPolicies เปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7157329428182136164">เปิดใช้การรองรับ API ของกราฟิก 3 มิติ</translation> |
| <translation id="7158358621906236999">การตั้งค่าเซ็นเซอร์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7158731543031879810">อนุญาตให้ผู้ใช้ระดับองค์กรใช้ ARC ในอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="7161568070244869726">บังคับเปิดใช้ AppCache</translation> |
| <translation id="7165879643294314958">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าระบบจะตั้งค่าบัญชีในอุปกรณ์ให้ลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติด้วยความล่าช้าเป็น 0 <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดำเนินการตามแป้นพิมพ์ลัด Ctrl+Alt+S เพื่อข้ามการลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติ และจะแสดงหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้จะข้ามการลงชื่อเข้าใช้โดยอัตโนมัติด้วยความล่าช้าเป็น 0 ไม่ได้ (หากกำหนดค่าไว้)</translation> |
| <translation id="7165882688932913315">นโยบายนี้ควบคุมการเข้าถึงฟีเจอร์ที่ควบคุมได้ใน UI การค้นหาภายใน (<ph name="CHROME_DEVICES_LINK" />) ซึ่งแสดงอุปกรณ์ที่ค้นพบได้ใกล้ตัวผู้ใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ระบบคลาวด์ที่ลงทะเบียนไว้กับอุปกรณ์ดังกล่าวด้วย ในทุกระบบปฏิบัติการยกเว้น <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> UI การค้นหาภายในยังอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มเครื่องพิมพ์แบบคลาสสิกที่เชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ไปยัง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ด้วย |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้มีการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกัน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้มีการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกัน |
| </translation> |
| <translation id="7167436895080860385">อนุญาตให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่าน (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="7172046613126456732">อนุญาตให้ Chrome เปิดขึ้นหากไม่ลงทะเบียนในการจัดการระบบคลาวด์ของเบราว์เซอร์ Chrome</translation> |
| <translation id="7173856672248996428">โปรไฟล์ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="7174158612490351828">รายการคีย์สาธารณะของใบรับรองที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์ TLS |
| |
| ค่าของนโยบายคือรายการใบรับรอง X.509 ที่เข้ารหัสฐาน 64 ระบบจะไม่เชื่อถือใบรับรองทั้งหมดที่มี SPKI (SubjectPublicKeyInfo) ที่ตรงกัน</translation> |
| <translation id="717630378807352957">อนุญาตเครื่องพิมพ์ทั้งหมดจากไฟล์การกำหนดค่า</translation> |
| <translation id="7177293255621000064">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะทำให้สื่อจัดเก็บข้อมูลภายนอกทุกประเภท (แฟลชไดรฟ์ USB, ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก, การ์ด SD และการ์ดหน่วยความจำอื่นๆ, ที่เก็บข้อมูลออปติคอล) ไม่พร้อมใช้งานในโปรแกรมเรียกดูไฟล์ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าผู้ใช้จะใช้ที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกในอุปกรณ์ของตนได้ |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลต่อ Google ไดรฟ์และที่จัดเก็บข้อมูลภายใน ผู้ใช้จะยังเข้าถึงไฟล์ที่บันทึกไว้ในโฟลเดอร์ดาวน์โหลดได้อยู่</translation> |
| <translation id="7177857088692019405">ปลดล็อกด่วน</translation> |
| <translation id="7179157174254421614">หากนโยบาย <ph name="SYSTEM_TIMEZONE_POLICY_NAME" /> ไม่ปิดการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติ การตั้งค่านโยบายก็จะกำหนดวิธีตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น |
| * <ph name="TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_DISABLED" /> จะปิดการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติไว้เสมอ |
| * <ph name="TTIMEZON_AUTOMATIC_DETECTION_IP_ONLY" /> จะเปิดการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติไว้เสมอ โดยใช้เมธอดแบบ IP เท่านั้น |
| * <ph name="TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_SEND_WIFI_ACCESS_POINTS" /> จะเปิดการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติไว้เสมอ โดยส่งรายชื่อจุดเข้าใช้งาน Wi-Fi ที่มองเห็นไปยังเซิร์ฟเวอร์ Geolocation API อย่างต่อเนื่องเพื่อการตรวจหาเขตเวลาอย่างละเอียด |
| * <ph name="TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_SEND_ALL_LOCATION_INFO" /> จะเปิดการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติไว้เสมอ โดยส่งข้อมูลตำแหน่ง (เช่น จุดเข้าใช้งาน Wi-Fi, เสาสัญญาณมือถือที่เข้าถึงได้) ไปยังเซิร์ฟเวอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อการตรวจหาเขตเวลาอย่างละเอียด |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ตั้งค่าไว้เป็น "ให้ผู้ใช้เลือก" หรือตั้งค่าไว้เป็น "ไม่มี" ผู้ใช้จะควบคุมการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติโดยใช้ส่วนควบคุมปกติใน <ph name="OS_SETTINGS_URL" /> |
| |
| หมายเหตุ: หากใช้นโยบายนี้เพื่อแก้ไขเขตเวลาโดยอัตโนมัติ โปรดอย่าลืมตั้งค่านโยบาย <ph name="CROS_GLS_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="GLS_ALLOWED" /> หรือ <ph name="GLS_ONLY_ALLOWED_FOR_SYSTEM" /></translation> |
| <translation id="7179187054027029272">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าผู้ใช้ แอป หรือส่วนขยายที่มีสิทธิ์ที่เหมาะสมจะเข้าสู่โหมดเต็มหน้าจอ (ซึ่งแสดงเฉพาะเนื้อหาเว็บ) ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้ แอป หรือส่วนขยายจะเข้าสู่โหมดเต็มหน้าจอไม่ได้</translation> |
| <translation id="718126088895133062">นโยบายนี้ระบุ User ID การอนุญาตให้ใช้สิทธิของ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> สำหรับอุปกรณ์นี้</translation> |
| <translation id="7185078796915954712">TLS 1.3</translation> |
| <translation id="7185630966939835143">ใช้บริการเว็บของ Google เพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของการสะกดคำ</translation> |
| <translation id="7187248416163189586">ปิดใช้การรายงานข้อมูลแบ็กไลต์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="718850220532931090">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="ATTESTATION_EXTENSION_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายจะกำหนดส่วนขยายที่สามารถใช้ฟังก์ชันการทำงาน <ph name="CHALLENGE_USER_KEY_FUNCTION" /> ของ <ph name="ENTERPRISE_PLATFORM_KEYS_API" /> สำหรับเอกสารรับรองระยะไกล ส่วนขยายต้องอยู่ในรายการนี้เพื่อใช้ API ดังกล่าว |
| |
| หากส่วนขยายใดไม่อยู่ในรายการหรือไม่มีการตั้งค่ารายการไว้ จะเรียกใช้ API ไม่สำเร็จและมีรหัสข้อผิดพลาด</translation> |
| <translation id="718956142899066210">ประเภทการเชื่อมต่อที่อนุญาตสำหรับการอัปเดต</translation> |
| <translation id="7190286937411178540">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์</translation> |
| <translation id="7193489339723768342">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นการระบุรายการ URL ที่จะมีการจับคู่รูปแบบกับต้นทางการรักษาความปลอดภัยของ URL ที่ขอ หากรูปแบบตรงกัน ระบบจะให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์จับเสียงโดยไม่แสดงข้อความแจ้ง |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="719398790886719721">ปิดใช้การเข้าถึงรูทของเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="7194407337890404814">ชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7198134478421755850">ส่วนขยาย</translation> |
| <translation id="7199304109870655950">กำหนดค่าตัวเลือกการเข้าถึงระยะไกลในโฮสต์ Chrome Remote Desktop |
| |
| โฮสต์ Chrome Remote Desktop คือบริการแบบเนทีฟที่ทำงานในอุปกรณ์เป้าหมายซึ่งผู้ใช้เชื่อมต่อได้โดยใช้แอปพลิเคชัน Chrome Remote Desktop บริการแบบเนทีฟนี้จะรวมอยู่ในแพ็กเกจและมีการดำเนินการแยกจากเบราว์เซอร์<ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ระบบจะไม่สนใจนโยบายเหล่านี้หาก |
| ไม่มีการติดตั้งโฮสต์ Chrome Remote Desktop</translation> |
| <translation id="7202925763179776247">อนุญาตข้อจำกัดในการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="7207095846245296855">บังคับใช้ ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยโดย Google </translation> |
| <translation id="7211368186050418507">ไม่ต้องตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="721617466745658461">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกไบนารีของเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7216442368414164495">อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกใช้การรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Safe Browsing</translation> |
| <translation id="721970071627370558">ปิดใช้การรายงานสถานะพลังงานของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7221574724100909818">ใช้ไอคอนแม่กุญแจสำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="7227348936232766462">อนุญาตให้ผู้ใช้รวมข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องระดับต่ำจากอุปกรณ์ทุกประเภทที่มีอยู่ด้านล่างในความคิดเห็นของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="7229365071755865554">เปิดใช้การบันทึกรหัสผ่านด้วยเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="7229975860249300121">มีนิพจน์ทั่วไปซึ่งใช้เพื่อกำหนดบัญชี Google ที่ตั้งค่าเป็นบัญชีหลักของเบราว์เซอร์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ (นั่นคือ บัญชีที่เลือกระหว่างขั้นตอนการเลือกใช้การซิงค์) |
| |
| ข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องจะแสดงขึ้นหากผู้ใช้พยายามตั้งค่าบัญชีหลักของเบราว์เซอร์ด้วยชื่อผู้ใช้ที่ไม่ตรงกับรูปแบบนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือเว้นว่างไว้ ผู้ใช้จะตั้งค่าบัญชี Google ใดก็ได้ให้เป็นบัญชีหลักของเบราว์เซอร์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="723103540848640830">ตั้งค่าความยาวขั้นต่ำของ PIN หน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="7234280155140786597">ชื่อของโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมต้องห้าม (หรือ * สำหรับทั้งหมด)</translation> |
| <translation id="723621412149834592">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="BLOCK_WINDOW_PLACEMENT_POLICY_NAME" /> (ค่า 2) จะปฏิเสธสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างของเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ASK_WINDOW_PLACEMENT_POLICY_NAME" /> (ค่า 3) จะแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้เมื่อขอสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างโดยค่าเริ่มต้น หากผู้ใช้อนุญาตสิทธิ์ดังกล่าว เว็บไซต์จะสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่านโยบาย <ph name="ASK_WINDOW_PLACEMENT_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="7244600351241637530">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ที่เลือกใช้ฮับโทรศัพท์อยู่แล้วจะสามารถดูและดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอล่าสุดที่ถ่ายในโทรศัพท์ของตนบน Chrome OS ได้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้ หากปิดใช้นโยบาย <ph name="PHONE_HUB_ALLOWED_POLICY_NAME" /> ผู้ใช้ก็จะใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เช่นกัน |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ทั้งผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะใช้ค่าเริ่มต้นได้</translation> |
| <translation id="7246767840750730334">อนุญาตให้มีการเปิดใช้การแจ้งเตือนของฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="7249828445670652637">เปิดใช้ใบรับรอง CA ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับแอป ARC</translation> |
| <translation id="7251825257294351251">อนุญาตการแจ้งเตือนของระบบ</translation> |
| <translation id="7252681704926980614">ส่งชื่อผู้ใช้และชื่อไฟล์ไปยังเซิร์ฟเวอร์เครื่องพิมพ์ดั้งเดิมพร้อมด้วยงานพิมพ์ทั้งหมด ค่าเริ่มต้นคือไม่ส่ง |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะปิดใช้เครื่องพิมพ์ที่ใช้โปรโตคอลอื่นๆ ที่ไม่ใช่ IPPS, USB หรือ IPP-over-USB เนื่องจากไม่ควรส่งชื่อผู้ใช้และชื่อไฟล์ผ่านเครือข่ายอย่างเปิดเผย</translation> |
| <translation id="7253446510183499868">ไม่อนุญาตให้รีบูตโดยอัตโนมัติหลังจากการอัปเดต</translation> |
| <translation id="7253705688881857796">การตั้งค่านโยบายระบุว่าจะมีการประมวลผลนโยบายผู้ใช้จาก Group Policy Object (GPO) ของคอมพิวเตอร์หรือไม่และอย่างไร |
| |
| * "ค่าเริ่มต้น" หรือการไม่ตั้งค่าจะทำให้มีการอ่านนโยบายผู้ใช้จาก GPO ของผู้ใช้เท่านั้น ระบบจะไม่พิจารณา GPO ของคอมพิวเตอร์ |
| |
| * "ผสานรวม" จะผสานรวมนโยบายผู้ใช้ใน GPO ของผู้ใช้กับนโยบายผู้ใช้ใน GPO ของคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ GPO ของคอมพิวเตอร์จะมีความสำคัญเหนือกว่า |
| |
| * "แทนที่" จะแทนที่นโยบายผู้ใช้ใน GPO ของผู้ใช้ด้วยนโยบายผู้ใช้ใน GPO ของคอมพิวเตอร์ ระบบจะไม่พิจารณา GPO ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="7258250780552783197">รายการของการตั้งค่าบริการเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise ที่จะใช้กับเครื่องมือเชื่อมต่อ <ph name="ON_FILE_TRANSFER_ENTERPRISE_CONNECTOR" /> Enterprise ซึ่งจะเรียกใช้งานเมื่อมีการโอนไฟล์ใน "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SOURCE_DESTINATION_LIST_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAGS_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อควรส่งไฟล์สำหรับการวิเคราะห์หรือไม่เมื่อมีการโอนระหว่างแหล่งที่มาและปลายทาง รวมถึงแท็กใดที่จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์สำหรับไฟล์นั้น แท็กที่สอดคล้องกับกฎ "เปิดใช้" จะรวมอยู่ในคำขอการวิเคราะห์หากแหล่งที่มาและปลายทางตรงกับกฎที่เกี่ยวข้องกับแท็กดังกล่าวตราบใดที่ไม่มีกฎ "ปิดใช้" ที่มีแท็กเดียวกันนั้นตรงกับการโอน การวิเคราะห์จะเกิดขึ้นหากมีอย่างน้อย 1 แท็กในคำขอ กฎ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SOURCE_DESTINATION_LIST_FIELD" /> กำหนดโดยรายการการจับคู่ ซึ่งแต่ละคู่มีรายการแหล่งที่มาและรายการปลายทาง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_FILE_SYSTEM_TYPE_FIELD" /> จะกำหนดว่าควรใช้กฎกับระบบไฟล์ใด |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_SERVICE_PROVIDER_FIELD" /> จะระบุว่าผู้ให้บริการการวิเคราะห์ใดที่สอดคล้องกับการตั้งค่า |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_UNTIL_VERDICT_FIELD" /> ที่ตั้งไว้เป็น 1 หมายความว่า "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะรอให้มีการตอบสนองจากบริการการวิเคราะห์ก่อนอนุญาตการโอน ค่าที่เป็นจำนวนเต็มอื่นๆ หมายความว่า "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" จะอนุญาตการโอนทันที |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_PASSWORD_PROTECTED_FIELD" /> จะควบคุมให้ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" บล็อกหรืออนุญาตไฟล์ที่มีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_BLOCK_LARGE_FILES_FIELD" /> จะควบคุมให้ "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" บล็อกหรืออนุญาตให้วิเคราะห์ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_REQUIRE_JUSTIFICATION_TAGS_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดว่าเครื่องมือเชื่อมต่อต้องกำหนดให้ผู้ใช้ป้อนเหตุผลสำหรับแท็กใดเพื่อข้ามการสแกนที่ทำให้เกิดคำเตือนแบบข้ามได้ หากไม่ได้ตั้งค่าช่องนี้ ระบบจะถือว่าไม่จำเป็นต้องป้อนเหตุผล |
| |
| ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MESSAGE_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" />, <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> และ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_TAG_FIELD" /> ใช้เพื่อกำหนดค่าข้อความที่จะแสดงแก่ผู้ใช้เมื่อมีคำเตือนปรากฏขึ้นหลังจากที่การสแกนตรวจพบการละเมิด ช่องข้อความมีข้อความที่จะแสดงต่อผู้ใช้และต้องมีความยาวไม่เกิน 200 อักขระ ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LEARN_MORE_URL_FIELD" /> มี URL จากผู้ดูแลระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลที่การดำเนินการถูกบล็อก ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> จะมีหรือไม่มีก็ได้และจะมีภาษาของข้อความ ช่อง <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_LANGUAGE_FIELD" /> ที่เว้นว่างไว้หรือมีค่าเป็น "ค่าเริ่มต้น" จะระบุข้อความที่จะใช้เมื่อภาษาของผู้ใช้ไม่มีข้อความ ช่องแท็กจะระบุประเภทการสแกนที่จะมีการแสดงข้อความ รายการ <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_CUSTOM_MESSAGES_FIELD" /> อาจมีหรือไม่มีรายการย่อยเพิ่มเติม โดยที่รายการย่อยแต่ละรายการจำเป็นต้องมีช่องข้อความและช่องแท็กที่ไม่เว้นว่างไว้ |
| |
| นโยบายนี้ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติมจึงจะมีผล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://support.google.com/chrome/a?p=chrome_enterprise_connector_policies_setting</translation> |
| <translation id="7258823566580374486">เปิดใช้งานการปิดม่านโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7260204423892780600">ควบคุมการตั้งค่าสำหรับ Google Assistant</translation> |
| <translation id="7261140115553020049">เปิดใช้บริการพื้นที่ทำงานแบบลอย</translation> |
| <translation id="7261252191178797385">รูปภาพวอลเปเปอร์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7264704483008663819">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้วใน M68 โปรดใช้ DeveloperToolsAvailability แทน |
| |
| ปิดใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript |
| |
| หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเข้าถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ได้ และองค์ประกอบในเว็บไซต์จะไม่ได้รับการตรวจสอบอีกต่อไป ระบบจะปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดและเมนูใดๆ หรือรายการเมนูตามบริบทที่ใช้เปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือคอนโซล JavaScript |
| |
| การตั้งค่าตัวเลือกนี้เป็นปิดใช้หรือไม่ตั้งค่าเลยทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript ได้ |
| |
| หากมีการตั้งค่านโยบาย DeveloperToolsAvailability ระบบจะเพิกเฉยต่อค่าของนโยบาย DeveloperToolsDisabled</translation> |
| <translation id="7265638080114610885">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้แอป Android ในอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="7266471712301230894">เรานำนโยบายนี้ออกไปตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 64 |
| |
| ไม่รองรับการค้นหาอัตโนมัติและการติดตั้งปลั๊กอินที่ขาดหายไปแล้ว</translation> |
| <translation id="7267809745244694722">แป้นสื่อมีค่าเริ่มต้นเป็นแป้นฟังก์ชัน</translation> |
| <translation id="7268365133021434339">ปิดแท็บ</translation> |
| <translation id="7269263983506766969">ใช้ลำดับความสำคัญเริ่มต้นกับกระบวนการของเสียง</translation> |
| <translation id="7270001383428188269">ตัวระบุสำหรับใบรับรองไคลเอ็นต์นี้</translation> |
| <translation id="7271085005502526897">การนำเข้าหน้าแรกจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="7272043145652398361">ปิดใช้ API แบบเต็มหน้าจอของวิดีโอที่มีคำต่อท้าย</translation> |
| <translation id="7272892848025145170">ควบคุมว่าจะเปิดใช้ฟังก์ชันการทำงานของ Kerberos หรือไม่ Kerberos เป็นโปรโตคอลการตรวจสอบสิทธิ์ที่ใช้เพื่อตรวจสอบสิทธิ์เว็บแอปและพื้นที่แชร์ไฟล์ได้ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้ฟังก์ชันการทำงานของ Kerberos คุณเพิ่มบัญชี Kerberos ได้ผ่านนโยบาย "กำหนดค่าบัญชี Kerberos" หรือผ่านการตั้งค่าบัญชี Kerberos ในหน้าการตั้งค่า Kerberos |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะปิดใช้การตั้งค่าบัญชี Kerberos คุณจะเพิ่มบัญชี Kerberos ไม่ได้และจะใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของ Kerberos ไม่ได้ บัญชี Kerberos ที่มีอยู่ทั้งหมดจะถูกลบ รวมถึงรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้ทั้งหมดด้วย</translation> |
| <translation id="7273785848231509306">ไม่ต้องแสดงชื่อและรูปภาพผู้ใช้</translation> |
| <translation id="7274077256421167535">เปิดใช้การแชร์พลังงานผ่าน USB</translation> |
| <translation id="7275334191706090484">บุ๊กมาร์กที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="7275689301063927473">ปฏิเสธการให้สิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องในทุกเว็บไซต์โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7275878175078795558">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะตรวจสอบการเพิกถอนใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการรับรองว่าใช้ได้โดยใบรับรอง CA ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องอยู่เสมอ หาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้รับข้อมูลสถานะการเพิกถอน <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะถือว่าใบรับรองดังกล่าวถูกเพิกถอน (ดึงข้อมูลไม่สำเร็จ) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้การตั้งค่าการตรวจสอบการเพิกถอนทางออนไลน์ที่มีอยู่ |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตั้งค่านโยบาย <ph name="CHROME_ROOT_STORE_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="7278854311116092134">ชื่อของโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่จะยกเว้นจากรายการที่บล็อก</translation> |
| <translation id="7291084543582732020">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้ Smart Lock ได้หากปฏิบัติตามข้อกำหนดของฟีเจอร์นี้ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้ Smart Lock ไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรแต่อนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="7295019613773647480">เปิดใช้งานผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="7297476773981993405">อนุญาตให้เรียกใช้อัลกอริทึม User-Agent GREASE ที่อัปเดต</translation> |
| <translation id="7298197471363105063">ลบล้างชุดบุคคลที่หนึ่ง</translation> |
| <translation id="7300320787419338290">การตั้งค่า F11/F12 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Ctrl และ Shift</translation> |
| <translation id="7302043767260300182">ระยะหน่วงเวลาการล็อกหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้ไฟ AC</translation> |
| <translation id="7302500623317853506">อนุญาตการอัปเดตอัตโนมัติเพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="7303655680460311843">เปิดใช้ฟีเจอร์แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="7303902834678570827">ผู้ใช้เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการจะจัดเก็บการตั้งค่าการแสดงผลแบบทั่วทั้งอุปกรณ์ไม่ได้</translation> |
| <translation id="7306926210354955892">การตั้งค่านโยบายจะระบุการดำเนินการที่จะทำเมื่อมีการสร้างไดเรกทอรีข้อมูล ARC ของผู้ใช้ด้วย virtio-fs แอป Android อาจทำงานช้าลงใน VM ของ ARC เว้นแต่ว่าจะมีการย้ายข้อมูล virtio-fs ไปยัง virtio-blk |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น |
| |
| * <ph name="DO_NOT_PROMPT" /> หมายความว่าระบบจะไม่ขอให้ผู้ใช้ทำตามขั้นตอนการย้ายข้อมูล ค่านี้เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย |
| |
| * <ph name="PROMPT" /> (หรือค่าที่ไม่รองรับ) หมายความว่าเมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ ระบบจะแจ้งให้ทำตามขั้นตอนการย้ายข้อมูล ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุด 10 นาที |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะกับอุปกรณ์ ARM ที่ย้ายข้อมูลไปยัง ARCVM เท่านั้น</translation> |
| <translation id="731208205557053914">รายงานข้อมูล VPD</translation> |
| <translation id="7313672174502374994">แฮช SHA-256 ของรูปภาพวอลเปเปอร์</translation> |
| <translation id="7313681786668291607">การตั้งค่านโยบายช่วยให้คุณระบุลักษณะการทำงานของระบบเมื่อเริ่มต้นใช้งานได้ การปิดการตั้งค่านี้จะเท่ากับไม่ได้ตั้งค่า เนื่องจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ต้องมีลักษณะการทำงานที่เจาะจงเมื่อเริ่มต้นใช้งาน |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงค่านี้ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="POLICY_ENUM_RESTOREONSTARTUP_RESTOREONSTARTUPISLASTSESSION" /> หรือ <ph name="POLICY_ENUM_RESTOREONSTARTUP_RESTOREONSTARTUPISLASTSESSIONANDURLS" /> จะปิดการตั้งค่าบางอย่างที่ต้องอาศัยเซสชันหรือที่ปฏิบัติตามคำสั่งในขณะออกจากระบบ เช่น การล้างข้อมูลการท่องเว็บเมื่อออกจากระบบหรือคุกกี้เฉพาะเซสชัน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="POLICY_ENUM_RESTOREONSTARTUP_RESTOREONSTARTUPISLASTSESSIONANDURLS" /> เบราว์เซอร์จะคืนค่าเซสชันก่อนหน้า และเปิดหน้าต่างแยกเพื่อแสดง URL ที่ตั้งค่าไว้จาก <ph name="RESTORE_ON_STARTUP_URLS_POLICY_NAME" /> โปรดทราบว่าผู้ใช้เลือกเปิด URL เหล่านั้นเอาไว้ได้ และระบบจะคืนค่า URL ดังกล่าวในเซสชันครั้งต่อไปด้วย |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7317472245305274219">กําหนดว่าการสร้างพาสคีย์จะมีค่าเริ่มต้นเป็นพวงกุญแจ iCloud หรือไม่</translation> |
| <translation id="7322825363493984512">รหัสผ่านสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์บริการระบบสำหรับเข้าถึงพร็อกซีเว็บทางไกล</translation> |
| <translation id="7323773727263636287">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการแก้สี |
| |
| ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับการตั้งค่าการแก้สีในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่มีการจัดการของตนได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องในการมองเห็นสีสามารถรับรู้สีบนหน้าจอได้ง่ายขึ้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์การแก้สีอยู่เสมอ โดยผู้ใช้จะต้องไปที่การตั้งค่าเพื่อเลือกตัวเลือกการแก้สีที่เจาะจง (เช่น ฟิลเตอร์ตาบอดสีเขียว/ตาบอดสีแดง/ตาบอดสีน้ำเงิน/โหมดสีเทาและความเข้ม) การตั้งค่าการแก้สีจะแสดงต่อผู้ใช้เมื่อใช้ครั้งแรก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์การแก้สีอยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์การแก้สีในตอนแรก แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="7323855063560306712">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะปฏิเสธสิทธิ์การจัดการหน้าต่างโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะจำกัดไม่ให้เว็บไซต์ดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์เพื่อใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_WINDOW_MANAGEMENT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์ |
| |
| นโยบายนี้มาแทนที่นโยบาย <ph name="WINDOW_PLACEMENT_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ที่เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="7323896582714668701">พารามิเตอร์บรรทัดคำสั่งเพิ่มเติมสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7325801934761922681">ป้องกันไม่ให้ Chrome บล็อกการเรียกออกไปยังโปรโตคอลนอก iframe ที่ทำแซนด์บ็อกซ์</translation> |
| <translation id="7326394567531622570">เหมือนกับ Wipe (ค่า 2) แต่ให้ลองเก็บโทเค็นการลงชื่อเข้าใช้ไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง</translation> |
| <translation id="7331387825106440104">ไม่บังคับใช้ข้อจำกัดใน Trust Anchor ที่เพิ่มในเครื่อง</translation> |
| <translation id="7331962793961469250">เมื่อตั้งค่าเป็น "จริง" การส่งเสริมสำหรับแอปพลิเคชัน Chrome เว็บสโตร์จะไม่ปรากฏบนหน้าแท็บใหม่ การตั้งค่าตัวเลือกนี้เป็น "เท็จ" หรือการปล่อยไว้แบบไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้การส่งเสริมสำหรับแอปพลิเคชัน Chrome เว็บสโตร์ปรากฏบนหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="7332963785317884918">นโยบายนี้ถูกกำหนดให้เลิกใช้แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะใช้กลยุทธ์ในการล้างข้อมูลแบบ "RemoveLRU" เสมอ |
| |
| ควบคุมพฤติกรรมการล้างข้อมูลอัตโนมัติบนอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> การล้างข้อมูลอัตโนมัติจะเริ่มขึ้นเมื่อพื้นที่ว่างของดิสก์ลดลงถึงระดับวิกฤตเพื่อกู้คืนพื้นที่บางส่วนของดิสก์ |
| |
| หากกำหนดนโยบายนี้เป็น "RemoveLRU" การล้างข้อมูลอัตโนมัติจะลบผู้ใช้จากอุปกรณ์ไปเรื่อยๆ ตามลำดับการไม่เข้าสู่ระบบนานที่สุดจนกระทั่งมีพื้นที่ว่างเหลือพอ |
| |
| หากกำหนดนโยบายนี้เป็น "RemoveLRUIfDormant" การล้างข้อมูลอัตโนมัติจะลบผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบอย่างน้อย 3 เดือนไปเรื่อยๆ ตามลำดับการไม่เข้าสู่ระบบนานที่สุดจนกระทั่งมีพื้นที่ว่างเหลือพอ |
| |
| หากไม่ได้กำหนดค่านโยบายนี้ การล้างข้อมูลอัตโนมัติจะใช้กลยุทธ์เริ่มต้นที่มีในตัว ซึ่งปัจจุบันคือกลยุทธ์ "RemoveLRUIfDormant"</translation> |
| <translation id="733381360015511815">กำหนดค่ารายการ Isolated Web App ซึ่งบังคับติดตั้งแล้ว</translation> |
| <translation id="7334517274921831425">อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้ <ph name="BOREALIS_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7334639219471717734">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ที่มี Smart Lock</translation> |
| <translation id="7336785017449297672">ควบคุมการตั้งค่านาฬิกาและเขตเวลา</translation> |
| <translation id="7336878834592315572">เก็บคุกกี้ไว้ในระหว่างช่วงเวลาของเซสชัน</translation> |
| <translation id="7338217396351647423">การตั้งค่านโยบายจะระบุชุดนโยบายที่จะส่งไปยังรันไทม์ของ ARC ผู้ดูแลระบบจะใช้การตั้งค่านี้เพื่อเลือกแอป Android ที่จะติดตั้งโดยอัตโนมัติได้ โปรดป้อนค่าเป็นรูปแบบ JSON ที่ถูกต้อง |
| |
| หากต้องการปักหมุดแอปกับ Launcher โปรดดู PinnedLauncherApps</translation> |
| <translation id="7339315111520512972">บังคับให้เรียกใช้โค้ดเครือข่ายในกระบวนการของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="7340034977315324840">รายงานจำนวนครั้งของกิจกรรมบนอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="734095828044419464">ปิดใช้การจัดสรรใบรับรองไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="7343004974628511824">ทำการตรวจสอบการสกัดกั้น DNS</translation> |
| <translation id="7343497214039883642">ไฟล์การกำหนดค่าเครื่องพิมพ์องค์กรสำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7357148531287978404">ปิดใช้งานอินพุตเสียง</translation> |
| <translation id="7358012133037776875">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่จะอนุญาตสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอของอุปกรณ์แล้วใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดและวางหน้าต่างหรือขอโหมดเต็มหน้าจอในบางหน้าจอได้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องของเว็บไซต์ได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_WINDOW_PLACEMENT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์และอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกสิทธิ์สำหรับแต่ละเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="7358359585412734876">เปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /></translation> |
| <translation id="736486789939370545">อนุญาตให้ติดตั้งส่วนขยายจากภายนอก</translation> |
| <translation id="7366948865469126526">ปิดใช้การแปลงหน่วยของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="7367734504783638685">การซิงค์รหัสผ่านระหว่างผู้ให้บริการ SSO บุคคลที่สามกับอุปกรณ์ Chrome</translation> |
| <translation id="7372169427762612484">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า Google Safe Browsing จะเชื่อถือโดเมนที่คุณระบุ และจะไม่ตรวจหาทรัพยากรที่เป็นอันตราย เช่น ฟิชชิง มัลแวร์ หรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ บริการปกป้องการดาวน์โหลดของ Google Safe Browsing จะไม่ตรวจสอบการดาวน์โหลดที่โฮสต์ในโดเมนเหล่านี้ และบริการปกป้องรหัสผ่านก็จะไม่ตรวจสอบการใช้รหัสผ่านซ้ำ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้การปกป้องด้วย Google Safe Browsing ตามค่าเริ่มต้นมีผลกับทรัพยากรทั้งหมด |
| |
| นโยบายนี้ต้องตั้งค่าเป็นลิสต์ชื่อโดเมนแบบสมบูรณ์ในตัวเอง โดยไม่รองรับนิพจน์ทั่วไป และจะไม่อนุญาตรายการโดเมนย่อยของโดเมนที่แสดงอยู่ในนโยบาย |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7372831798009983116">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการคลิกอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7373200034079131670">รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบหาก Android หรือ VM เริ่มต้นแล้ว</translation> |
| <translation id="7374784840090523241">ค่าเริ่มต้นคือสร้างพาสคีย์ในสโตร์อื่นๆ เช่น โปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7375785904116479354">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนำเข้าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าจะไม่มีการนำเข้าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| ผู้ใช้จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการนำเข้า และจะมีการเลือกหรือไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมายเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นไว้ เพื่อให้ตรงกับค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="7383581189726479261">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วในรุ่น M96 โปรดใช้ <ph name="REPORT_DEVICE_NETWORK_CONFIGURATION" /> และ <ph name="REPORT_DEVICE_NETWORK_STATUS" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานรายการอินเทอร์เฟซเครือข่ายพร้อมด้วยประเภทและที่อยู่ฮาร์ดแวร์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานอินเทอร์เฟซเครือข่าย</translation> |
| <translation id="7389872682701720082">หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ ปลั๊กอินที่ยังไม่ล้าสมัยจะทำงานเสมอ |
| |
| หากปิดใช้การตั้งค่านี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะขออนุญาตจากผู้ใช้เพื่อเรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์ ปลั๊กอินเหล่านี้อาจทำให้ระบบผ่อนปรนเรื่องความปลอดภัย</translation> |
| <translation id="7390361032458549775">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้การสร้างคีย์ หากมีรูปแบบ URL ใน "KeygenAllowedForUrls" นโยบายนี้จะลบล้างข้อยกเว้นเหล่านี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางกับเว็บไซต์ทั้งหมด โดยนำมาจากนโยบาย "DefaultKeygenSetting" หากมีการตั้งค่าไว้ มิเช่นนั้น จะนำมาจากการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="7394023172636522064">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะรายงานสถานะความปลอดภัย TPM ของอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่บันทึกหรือรายงานสถานะความปลอดภัย TPM |
| ข้อยกเว้น: ข้อมูล TPM จะควบคุมโดย <ph name="REPORT_DEVICE_HARDWARE_STATUS" /> สำหรับรุ่น M95 ลงมา</translation> |
| <translation id="739556497251174388">อนุญาตให้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> มาใช้ซ้ำสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เครือข่าย</translation> |
| <translation id="7402772023599097052">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าคำเตือนด้านความปลอดภัยจะแสดงเมื่อมีการใช้แฟล็กบรรทัดคำสั่งที่อาจเป็นอันตรายเพื่อเปิด Chrome |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ระบบไม่แสดงคำเตือนด้านความปลอดภัยเมื่อมีการเปิดใช้ Chrome โดยมีแฟล็กบรรทัดคำสั่งที่อาจเป็นอันตราย |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7406039009275722824">การปิดใช้<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> จะทำให้การสำรองข้อมูลและการคืนค่าของ Android ทำงานได้อย่างไม่สมบูรณ์</translation> |
| <translation id="7406276857470642718">ควบคุมการตั้งค่าของผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน SAML ด้วย IdP ภายนอก</translation> |
| <translation id="7407441173422042771">นโยบายนี้ควบคุมการคาดคะเนเครือข่ายใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยจะควบคุมการดึงข้อมูล DNS ล่วงหน้า, TCP, การเชื่อมต่อ SSL ล่วงหน้า และการแสดงผลหน้าเว็บล่วงหน้า |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ การไม่ตั้งค่าจะเปิดการคาดคะเนเครือข่าย แต่ผู้ใช้เปลี่ยนได้</translation> |
| <translation id="7408815947231046196">อนุญาตให้สำรองข้อมูลใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="740885188496462583">เปิดใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="7410074797376205571">อนุญาตให้ <ph name="CHROME_REMOTE_DESKTOP_PRODUCT_NAME" /> เรียกใช้คำขอ WebAuthn API ที่ทำพร็อกซีจากโฮสต์ระยะไกล</translation> |
| <translation id="7412456346709338637">เปิดใช้การเข้าถึงข้อมูลของอุปกรณ์ต่อพ่วง Thunderbolt/USB4</translation> |
| <translation id="7414890119082492552">ไม่มีค่ากำหนด</translation> |
| <translation id="7417438464912687020">อนุญาตให้เข้าถึงการเชื่อมต่อกับเครื่องนี้จากระยะไกล</translation> |
| <translation id="7417972229667085380">เปอร์เซ็นต์สำหรับการปรับการหน่วงเวลาของการไม่ใช้งานในโหมดการนำเสนอ (เลิกใช้งาน)</translation> |
| <translation id="7421230730436851224">ไม่ใช้แซนด์บ็อกซ์กับกระบวนการของเสียง</translation> |
| <translation id="7421483919690710988">ตั้งค่าขนาดแคชของดิสก์สื่อเป็นไบต์</translation> |
| <translation id="7424751532654212117">รายการยกเว้นสำหรับรายการของปลั๊กอินที่ถูกปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="742531731411208578">แสดงการติดป้ายองค์กรในอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการเท่านั้น</translation> |
| <translation id="7426112309807051726">ระบุว่าควรปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพ <ph name="TLS_FALSE_START" /> ไหม ด้วยเหตุผลในอดีต นโยบายนี้มีชื่อว่า DisableSSLRecordSplitting |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ หรือตั้งค่าเป็น False ระบบจะเปิดใช้ <ph name="TLS_FALSE_START" /> หากตั้งค่าเป็น True ระบบจะปิดใช้ <ph name="TLS_FALSE_START" /></translation> |
| <translation id="7427607504279694910">ไม่แชร์บันทึกเหตุการณ์การติดตั้งแอป Android กับ Google</translation> |
| <translation id="7433253680989311514">เปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดี</translation> |
| <translation id="7433714841194914373">เปิดใช้งานค้นหาทันใจ</translation> |
| <translation id="7434202861148928348">กำหนดค่าชื่อโดเมนที่ต้องใช้สำหรับไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7436939516497076240">ปิดใช้การแสดงหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในแผงด้านข้างของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="7438379915013106443">นโยบายนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบกําหนดค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> ได้ หากต้องการ |
| หลังจากกระบวนตั้งค่าเสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะย้ายไฟล์ที่มีรูปแบบไฟล์ตรงกันไปที่ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น และแฮนเดิลโดยแอปใดแอปหนึ่งของ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> เมื่อผู้ใช้พยายามเปิดไฟล์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />" จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> ตามที่อธิบายไว้ข้างต้นและนําแอป <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> ออกจากตัวแฮนเดิลไฟล์ที่เป็นไปได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="AUTOMATED_NAME" />" จะตั้งค่าการทำงานของ <ph name="CLOUD_UPLOAD_NAME" /> สําหรับ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> และ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> โดยอัตโนมัติ ดังนั้นระบบจะย้ายไฟล์ที่มีรูปแบบไฟล์ที่ตรงกันไปที่ <ph name="GOOGLE_DRIVE_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น และแฮนเดิลโดยแอปใดแอปหนึ่งของ <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_NAME" /> เมื่อผู้ใช้พยายามเปิด |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะมีฟังก์ชันการทำงานเทียบเท่ากับการตั้งค่านโยบายเป็น "<ph name="ALLOWED_NAME" />" สําหรับผู้ใช้ทั่วไป และสําหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่ไม่ได้ตั้งค่าเริ่มต้นของนโยบายเป็น "<ph name="DISALLOWED_NAME" />"</translation> |
| <translation id="7438982301540282785">ตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> อัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7443356543619955157">การตั้งค่านโยบายจะทำให้กำหนดค่าเครือข่ายแบบพุชสำหรับผู้ใช้ทุกคนของอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ การกำหนดค่าเครือข่ายจะเป็นสตริงรูปแบบ JSON ตามที่กำหนดโดยรูปแบบการกำหนดค่าเครือข่ายแบบเปิด (Open Network Configuration)</translation> |
| <translation id="7446978687387327623">อนุญาตการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ผ่านพร็อกซีของ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="7448430478749155471">เปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="7453470801190369311">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่แสดงรูปภาพไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_IMAGE_SETTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| โปรดทราบว่าก่อนหน้านี้นโยบายนี้เปิดใช้อย่างไม่ถูกต้องใน Android แต่ Android ก็ไม่เคยรองรับฟังก์ชันนี้โดยสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="7455912144588577399">หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" ผู้ใช้จะอนุญาตให้หน้าเว็บที่มีสิทธิ์อ่านออกเสียงโดยใช้การอ่านออกเสียงข้อความได้ ซึ่งทำได้โดยแยกเนื้อหาฝั่งเซิร์ฟเวอร์และสังเคราะห์เสียง การตั้งค่าเป็น "เท็จ" จะปิดใช้ฟีเจอร์นี้ หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าเริ่มต้นหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้การอ่านออกเสียง</translation> |
| <translation id="7456922722153109956">นโยบายนี้ควบคุมการแสดงประกาศในช่องกลางบนหน้าแท็บใหม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หน้าแท็บใหม่จะแสดงประกาศในช่องกลางหากมีประกาศ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หน้าแท็บใหม่จะไม่แสดงประกาศในช่องกลางแม้ว่าจะมีประกาศ |
| </translation> |
| <translation id="7459601923199346224">ควบคุมนโยบายด้านผู้ใช้และอุปกรณ์สำหรับการจัดการใบรับรอง</translation> |
| <translation id="7459633275230216698">อนุญาตกล่องโต้ตอบการเลือกไฟล์</translation> |
| <translation id="7462256705280836453">เลือกว่าจะปิดใช้การตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="7463055558720530430">อนุญาตให้ผู้ใช้จดจำรหัสผ่าน Kerberos</translation> |
| <translation id="7463934096276667908">เปิดใช้ API แบบเต็มหน้าจอของวิดีโอที่มีคำต่อท้าย</translation> |
| <translation id="7464058117970792805">เปิดใช้การแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="7464991223784276288">จำกัดคุกกี้จาก URL ที่ตรงกันให้อยู่ในเซสชันปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="7468182772656807573">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดความถี่ในการส่งการตรวจสอบแพ็กเก็ตเครือข่ายเป็นมิลลิวินาที ช่วงเวลาอาจอยู่ที่ตั้งแต่ 30 วินาทีถึง 24 ชั่วโมง ค่าที่ไม่อยู่ในช่วงดังกล่าวจะถูกจำกัดตามช่วงนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ช่วงเวลาเริ่มต้น 3 นาที</translation> |
| <translation id="7469182444144588294">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงหน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> ต่อผู้ใช้หรือไม่ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" หน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> จะไม่แสดง |
| |
| หากตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" หน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> จะแสดงขึ้นมา |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะข้ามหน้าจอแนะนำ <ph name="FEATURE_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและแสดงต่อผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="7469554574977894907">เปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหา</translation> |
| <translation id="747275827471712187">เปลี่ยนกลับไปใช้ลักษณะการทำงาน <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เดิมสำหรับคุกกี้ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="7476030153540156377">เลือกเปิดหรือปิดฟีเจอร์การปกป้อง IP ของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="7476158778585368567">รายงานงานพิมพ์ของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานงานพิมพ์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7476447711788742702">การตั้งค่านโยบายจะกำหนดการดำเนินการที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะทำเมื่อผู้ใช้ปิดฝาอุปกรณ์ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้การระงับ |
| |
| หมายเหตุ: หากมีการระงับการทำงาน คุณจะตั้งค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แยกต่างหากเพื่อให้ล็อกหรือไม่ล็อกหน้าจอก่อนที่จะมีการระงับได้</translation> |
| <translation id="7477149584454865826">ธงบูลีนที่ระบุว่าควรใช้ IPP Everywhere เพื่อตั้งค่าเครื่องพิมพ์หรือไม่</translation> |
| <translation id="7477231245051133709">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับเสียงโมโน</translation> |
| <translation id="7479408102162550711">รายงานเหตุการณ์ในเครือข่าย</translation> |
| <translation id="7481702249684965639">เปิดใช้ถังขยะสำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="7482768039644066614">เปิดใช้การดึงข้อมูลเมตาของการโหลดหน้าเว็บและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การท่องเว็บ</translation> |
| <translation id="748292668225669178">กําหนดค่าการต่อเชื่อมของ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /></translation> |
| <translation id="7485481791539008776">กฎการเลือกเครื่องพิมพ์เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7486205887492534734">แสดงข้อความแจ้งเมื่อมีใบรับรองตรงกันหลายรายการบนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="748873163367340515">ใช้เฉพาะคุกกี้และข้อมูลที่จำเป็นในการค้นหา</translation> |
| <translation id="7489169777107143496">ปิดใช้การสแกนอย่างละเอียดสำหรับการดาวน์โหลดด้วย Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="7489661071474025727">ระบุว่าผู้ใช้บนอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้เปิดใช้งานบริการกู้คืนบัญชีอยู่หรือไม่ |
| |
| เมื่อเปิดใช้นโยบาย การกู้คืนข้อมูลผู้ใช้จะเปิดใช้งาน เมื่อปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่เปิดใช้งานการกู้คืนข้อมูลผู้ใช้ |
| การตั้งค่านโยบายเป็นระดับที่แนะนำจะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนการเปิดใช้งานการกู้คืนบัญชีได้ผ่านหน้าการตั้งค่า การตั้งค่านโยบายเป็นระดับบังคับหมายความว่าผู้ใช้จะเปลี่ยนการเปิดใช้งานการกู้คืนบัญชีไม่ได้ |
| |
| สำหรับการเปลี่ยนแปลงค่านโยบาย กระบวนการอัปเดตจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่ระบบอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ครั้งถัดไป หลังจากที่ดึงข้อมูลค่านโยบายใหม่แล้ว |
| |
| หมายเหตุ: การตั้งค่านี้จะมีผลกับบัญชีใหม่ที่เพิ่มในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เท่านั้น |
| </translation> |
| <translation id="7491720878670299691">อัตราที่ใช้ในการโพลและตรวจสอบกิจกรรมของข้อมูลเครือข่าย ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 1 นาที</translation> |
| <translation id="7498595166686106721"> |
| นโยบายสิทธิ์ display-capture เป็นประตูสู่การเข้าถึง getDisplayMedia() ตามข้อกำหนดเฉพาะนี้ https://www.w3.org/TR/screen-capture/#feature-policy-integration อย่างไรก็ตาม หากปิดใช้นโยบายนี้ จะไม่มีการบังคับใช้ข้อกำหนดนี้ และ getDisplayMedia() จะได้รับอนุญาตจากบริบทที่อาจถูกห้าม นโยบายองค์กรนี้เป็นนโยบายชั่วคราว และมีแผนที่จะนำออกหลัง <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 100 ใช้สำหรับเลิกบล็อกผู้ใช้ระดับองค์กรที่มีแอปพลิเคชันที่ไม่ตรงตามข้อกำหนด แต่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข |
| |
| เมื่อเปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ เว็บไซต์จะเรียกใช้ getDisplayMedia() ได้เฉพาะจากบริบทที่นโยบายสิทธิ์ display-capture ใส่ไว้ในรายการที่อนุญาต |
| |
| เมื่อปิดใช้ เว็บไซต์สามารถเรียกใช้ getDisplayMedia() แม้กระทั่งจากบริบทที่นโยบายสิทธิ์ display-capture ไม่ได้ใส่ในรายการที่อนุญาต โปรดทราบว่าอาจจะยังมีข้อจำกัดอื่นๆ อีก</translation> |
| <translation id="7506745375479451616">นโยบายนี้จะควบคุมคำสั่งที่จะใช้เปิดใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อเปลี่ยนมาจาก <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็นเส้นทางไฟล์ที่สั่งการได้หรือ <ph name="PRODUCT_NAME_PLACEHOLDER" /> เพื่อตรวจหาตำแหน่งของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยอัตโนมัติ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่า <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> จะตรวจหาเส้นทางสั่งการของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เองโดยอัตโนมัติเมื่อเปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> จาก Internet Explorer |
| |
| หมายเหตุ: หากไม่ได้มีการติดตั้ง Add-in การรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่าสำหรับ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ไว้ นโยบายนี้ก็จะไม่มีผล</translation> |
| <translation id="7507553960917214561">ปิดใช้การปิดม่านโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7508067364927180229">การตั้งค่านี้ทำให้มีตัวเลือกด้านความพร้อมใช้งานของเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> หลายตัวเลือก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_AVAILABILITY_USER_CHOICE_VALUE" /> ผู้ใช้จะเปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> และกำหนดให้เป็นเบราว์เซอร์หลักได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_AVAILABILITY_LACROS_DISALLOWED_VALUE" /> ผู้ใช้จะใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_AVAILABILITY_SIDE_BY_SIDE_VALUE" /> จะมีการเปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> แต่ไม่ให้เป็นเบราว์เซอร์หลัก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_AVAILABILITY_LACROS_PRIMARY_VALUE" /> จะมีการเปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> และให้เป็นเบราว์เซอร์หลัก |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ค่าเริ่มต้นจะเป็น <ph name="LACROS_AVAILABILITY_LACROS_DISALLOWED_VALUE" /> สำหรับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและ <ph name="LACROS_AVAILABILITY_USER_CHOICE_VALUE" /> สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ |
| |
| ในอนาคตคุณจะกำหนดให้ <ph name="LACROS_NAME" /> เป็นเพียงเบราว์เซอร์เดียวที่มีให้ใช้ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้ด้วยค่า <ph name="LACROS_AVAILABILITY_LACROS_ONLY_VALUE" /></translation> |
| <translation id="751071954873065775">เลือก DLC (เนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้) ที่ต้องดาวน์โหลดล่วงหน้า</translation> |
| <translation id="7512065400265675158">กำหนดเวลาลดส่วนหัวของคำขอ HTTP <ph name="USER_AGENT_HEADER_NAME" /> แล้ว นโยบายนี้สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์การลดส่วนหัวสำหรับเว็บไซต์ทั้งหมด หรือปิดไม่ให้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ผ่านช่วงทดลองใช้จากต้นทางหรือช่วงทดลองใช้งานภาคสนาม เพื่อให้เอื้อต่อการทดสอบและความเข้ากันได้ |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ <ph name="USER_AGENT_REDUCTION_FEATURE_NAME" /> และไทม์ไลน์ได้ที่นี่ https://blog.chromium.org/2021/09/user-agent-reduction-origin-trial-and-dates.html |
| </translation> |
| <translation id="7512514325152952954">การอัปเดตเพย์โหลดอัตโนมัติใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สามารถดาวน์โหลดผ่าน HTTP แทน HTTPS ได้ ซึ่งจะทำให้การแคชการดาวน์โหลดของ HTTP เป็นแบบโปร่งใส |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> พยายามดาวน์โหลดการอัปเดตรายได้อัตโนมัติผ่าน HTTP หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ตั้งเลย จะมีการใช้ HTTPS สำหรับการดาวน์โหลดการอัปเดตเพย์โหลดอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7515953732107149296">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M53 หลังจากที่นำ RC4 ออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" จะไม่มีการเปิดใช้ชุดการเข้ารหัส RC4 ใน TLS มิเช่นนั้น อาจตั้งค่าเป็น "จริง" เพื่อรักษาความเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวและควรจะต้องมีการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่</translation> |
| <translation id="751615601677744094">ปิดใช้: ลักษณะการทำงานปกติสำหรับ Mutation Event ซึ่งหมายความว่าจะไม่เริ่มการทำงานของเหตุการณ์เหล่านี้หลังจากวันที่นําออก</translation> |
| <translation id="7519218194072744342">URL ของเครื่องจัดการโปรโตคอล</translation> |
| <translation id="7519251620064708155">อนุญาตให้สร้างคีย์ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="7521864460386999758">ป้องกันไม่ให้มีการแทรกโค้ดของบุคคลที่สามใน Chrome</translation> |
| <translation id="7524983116584990314">ล้างการป้อนข้อความอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7529144158022474049">ปัจจัยการกระจายการอัปเดตอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7529332889403151669">ระบุว่าจะให้แสดงการแจ้งเตือนโหมดเต็มหน้าจอหรือไม่เมื่ออุปกรณ์ออกจากโหมดสลีปหรือหน้าจอตอนกลางคืน |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งนโยบายหรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนเพื่อช่วยเตือนให้ผู้ใช้ออกจากโหมดเต็มหน้าจอก่อนป้อนรหัสผ่าน เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ระบบจะไม่แสดงการแจ้งเตือน</translation> |
| <translation id="7531630046107845550">อนุญาตการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์ขาออกของ SSH ในแอประบบเทอร์มินัล</translation> |
| <translation id="7533385610709354870">นอกจากจะตั้งค่า <ph name="ENABLE_MEDIA_ROUTER_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" การตั้งค่า <ph name="MEDIA_ROUTER_CAST_ALLOW_ALL_IPS_POLICY_NAME" /> เป็น "เปิดใช้" จะเชื่อมต่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> กับอุปกรณ์แคสต์ในทุกที่อยู่ IP ไม่ใช่แค่ที่อยู่ส่วนตัว RFC1918/RFC4193 |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะเชื่อมต่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> กับอุปกรณ์แคสต์เฉพาะในที่อยู่ RFC1918/RFC4193 เท่านั้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะเชื่อมต่อ <ph name="PRODUCT_NAME" /> กับอุปกรณ์แคสต์เฉพาะในที่อยู่ RFC1918/RFC4193 เท่านั้น เว้นเสียแต่ว่ามีการเปิดใช้ฟีเจอร์ CastAllowAllIPs</translation> |
| <translation id="7534199150025803530">นโยบายนี้ไม่มีผลต่อแอป Google ไดรฟ์ของ Android หากต้องการป้องกันการใช้ Google ไดรฟ์ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ คุณต้องยกเลิกการอนุญาตให้ติดตั้งแอป Google ไดรฟ์ของ Android</translation> |
| <translation id="7538583957913002726">นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งควบคุมให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานชื่อรุ่น สถาปัตยกรรม และความเร็วนาฬิกาสูงสุดของ CPU (รวมถึงการใช้งานและอุณหภูมิของ CPU สำหรับรุ่น M96 ขึ้นไป) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานข้อมูล CPU |
| ข้อยกเว้น: การรายงานการใช้งานและอุณหภูมิของ CPU จะควบคุมโดย <ph name="REPORT_DEVICE_HARDWARE_STATUS" /> สำหรับรุ่น M95 ลงมา</translation> |
| <translation id="7540622499178214923">อนุญาตตัวควบคุมการวินิจฉัยและการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Wilco</translation> |
| <translation id="7540826630642174841">การตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบไม่สนใจนโยบายด้านอุปกรณ์ที่ระบุ (ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นของนโยบายเหล่านี้) ระหว่างระยะเวลาที่ระบุ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้นโยบายด้านอุปกรณ์อีกครั้งเมื่อระยะเวลาของนโยบายเริ่มต้นหรือสิ้นสุดลง ระบบจะแจ้งเตือนและบังคับให้ผู้ใช้ออกจากระบบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระยะเวลานี้และการตั้งค่าของนโยบายด้านอุปกรณ์ (ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่ไม่อนุญาต)</translation> |
| <translation id="7540945123920084379">การตั้งค่านโยบายจะควบคุมโหมดปลดล็อกด่วนที่ปลดล็อกหน้าจอล็อกได้ |
| |
| หากต้องการอนุญาต |
| |
| * โหมดปลดล็อกด่วนทุกโหมด ให้ใช้ ["all"] (รวมถึงโหมดที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคตด้วย) |
| |
| * สำหรับการปลดล็อกด้วย PIN เท่านั้น ให้ใช้ ["PIN"] |
| |
| * สำหรับ PIN และลายนิ้วมือ ให้ใช้ ["PIN", "FINGERPRINT"] |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็นรายการที่ว่างเปล่า อุปกรณ์ที่มีการจัดการจะใช้โหมดปลดล็อกด่วนใดๆ ไม่ได้เลย</translation> |
| <translation id="754176366378585605">ควบคุมการใช้ File Handling API</translation> |
| <translation id="754421082295668587">ข้อมูลเมตาของโปรแกรมติดตั้ง</translation> |
| <translation id="7544392541165889987">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทำหน้าที่เป็นพร็อกซีระหว่าง <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> กับเครื่องพิมพ์แบบเดิมที่เชื่อมต่ออยู่กับเครื่อง ผู้ใช้เปิดพร็อกซี Cloud Print ได้ด้วยการตรวจสอบสิทธิ์กับบัญชี Google ของตน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะเปิดพร็อกซีไม่ได้ และคอมพิวเตอร์จะแชร์เครื่องพิมพ์ของตนกับ <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> ไม่ได้</translation> |
| <translation id="7546699946724795644">อนุญาตให้ Chrome บล็อกการเรียกออกไปยังโปรโตคอลนอก iframe ที่ทำแซนด์บ็อกซ์</translation> |
| <translation id="7547549430720182663">รวม</translation> |
| <translation id="7554382342294940216">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ข้ามพร็อกซีของการตรวจสอบสิทธิ์แคพทีฟพอร์ทัลได้ หน้าเว็บการตรวจสอบสิทธิ์เหล่านี้ (ซึ่งเริ่มตั้งแต่หน้าการลงชื่อเข้าใช้แคพทีฟพอร์ทัลไปจนถึงเมื่อ Chrome ตรวจพบว่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำเร็จ) จะเปิดในหน้าต่างใหม่โดยไม่ยึดตามข้อจำกัดและการตั้งค่านโยบายทั้งหมดสำหรับผู้ใช้ปัจจุบัน นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อมีการตั้งค่าพร็อกซี (โดยนโยบาย ส่วนขยาย หรือผู้ใช้ใน chrome://settings) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้หน้าการตรวจสอบสิทธิ์แคพทีฟพอร์ทัลต่างๆ แสดงในแท็บใหม่ (ปกติ) ของเบราว์เซอร์โดยใช้การตั้งค่าพร็อกซีของผู้ใช้ปัจจุบัน</translation> |
| <translation id="756693807309043286">กำหนดค่ารายการโดเมนคุกกี้ที่เป็นข้อยกเว้นของรายการที่บล็อกไว้ซึ่งจะถูกย้ายเมื่อผู้ใช้เปลี่ยนไปมาระหว่างอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต่างๆ ขณะมีการเปิดใช้บริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์ |
| |
| หากมีการตั้งค่าคุกกี้หนึ่งๆ สำหรับโดเมนที่ตรงกับหนึ่งในตัวกรองที่มีให้ คุกกี้นั้นจะรวมอยู่ในการย้าย ระบบจะจับคู่โดเมนคุกกี้ตามกฎของฟิลด์ host ที่ระบุไว้ใน https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format โดยไม่สนใจฟิลด์อื่นๆ ทั้งหมด ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| การปล่อยให้นโยบายว่างไว้จะทำให้ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ <ph name="FLOATING_SSO_DOMAIN_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> หากต้องการอนุญาตให้ย้ายโดเมนได้ในจำนวนจำกัด ให้บล็อกโดเมนทั้งหมดโดยตั้งค่านโยบาย <ph name="FLOATING_SSO_DOMAIN_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> เป็น <ph name="WILDCARD_VALUE" /> และกำหนดค่าข้อยกเว้นของรายการที่บล็อกไว้ที่นี่</translation> |
| <translation id="7567373982693549834">นโยบายนี้ควบคุมการใช้งานแอป Android จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ (แหล่งที่ไม่ใช่ Google Play Store) สำหรับผู้ใช้แต่ละราย |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าในนโยบายนี้ จะถือว่าตั้งค่าเป็นไม่อนุญาต |
| |
| หากอุปกรณ์ของผู้ใช้มีการจัดการ ความพร้อมใช้งานของนโยบายนี้จะขึ้นอยู่กับนโยบายด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องด้วย |
| |
| หากอุปกรณ์ของผู้ใช้ไม่มีการจัดการ ความพร้อมใช้งานของนโยบายนี้จะขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้เป็นเจ้าของอุปกรณ์หรือไม่ด้วย</translation> |
| <translation id="7570291542739287032">เฉพาะในระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="7571530187275708765">นโยบายนี้ควบคุมลักษณะการลงชื่อเข้าใช้ของเบราว์เซอร์ โดยให้คุณระบุว่าผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ด้วยบัญชีของตนและใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับบัญชี เช่น การซิงค์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์" ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์และใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีไม่ได้ ในกรณีนี้ฟีเจอร์ระดับเบราว์เซอร์ เช่น การซิงค์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้ไม่ได้และไม่พร้อมใช้งาน ใน <ph name="IOS_NAME" /> หากผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้และมีการตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะออกจากระบบทันที ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ผู้ใช้จะออกจากระบบเมื่อเรียกใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ครั้งถัดไป ในทุกแพลตฟอร์ม ระบบจะเก็บข้อมูลโปรไฟล์ในเครื่อง เช่น บุ๊กมาร์ก รหัสผ่าน ฯลฯ ไว้ และข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ได้อยู่ ผู้ใช้จะยังลงชื่อเข้าใช้และใช้บริการเว็บของ Google เช่น Gmail ได้ต่อไป |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์" ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์ ในทุกแพลตฟอร์มยกเว้น <ph name="IOS_NAME" /> ผู้ใช้จะลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติเมื่อลงชื่อเข้าใช้บริการเว็บของ Google เช่น Gmail การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์หมายถึงเบราว์เซอร์จะเก็บข้อมูลบัญชีของผู้ใช้ไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบจะเปิดใช้การซิงค์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องเลือกใช้ฟีเจอร์นี้แยกต่างหาก การเปิดใช้นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปิดการตั้งค่าที่อนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์ หากต้องการควบคุมความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์การซิงค์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้ใช้นโยบาย <ph name="SYNC_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "บังคับให้ลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์" ระบบจะแสดงกล่องโต้ตอบการเลือกบัญชีและบังคับให้ผู้ใช้เลือกบัญชีเพื่อลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์ ในกรณีของบัญชีที่จัดการ วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าจะมีการใช้งานและบังคับใช้นโยบายที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนั้น ค่าเริ่มต้นของ <ph name="GUEST_MODE_POLICY_NAME" /> ตั้งไว้เป็น "ปิดใช้" โปรดทราบว่าโปรไฟล์ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่มีอยู่จะถูกล็อกและเข้าถึงไม่ได้หลังจากเปิดใช้นโยบายนี้แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความในศูนย์ช่วยเหลือที่ https://support.google.com/chrome/a/answer/7572556 ตัวเลือกนี้ใช้กับ <ph name="LINUX_OS_NAME" />, <ph name="ANDROID_NAME" /> หรือ <ph name="IOS_NAME" /> ไม่ได้ และจะเปลี่ยนกลับไปเป็น "เปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์" หากมีการใช้ตัวเลือกนี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเปิดใช้การลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์หรือไม่ในการตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> และใช้งานได้ตามความเหมาะสม</translation> |
| <translation id="757395965347379751">เมื่อเปิดใช้การตั้งค่านี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอนุญาตใบรับรองที่มีการลงชื่อของ SHA-1 ตราบใดที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องและอยู่ในห่วงโซ่เดียวกับใบรับรอง CA ที่ติดตั้งในเครื่อง |
| |
| โปรดทราบว่านโยบายนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มการตรวจสอบใบรับรองระบบปฏิบัติการที่อนุญาตลายเซ็นของ SHA-1 หากการอัปเดตระบบปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงการจัดการใบรับรอง SHA-1 ของระบบปฏิบัติการ นโยบายนี้จะไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป นอกจากนี้ นโยบายนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวเพื่อให้องค์กรต่างๆ มีเวลามากขึ้นในการเลิกใช้งาน SHA-1 การถอดนโยบายนี้ออกจะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 1 มกราคม 2019 |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ หรือตั้งค่าเป็น False <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะปฏิบัติตามกำหนดเวลาเลิกใช้งาน SHA-1 ที่ประกาศไว้ต่อสาธารณะ</translation> |
| <translation id="7577082478271919056">อนุญาตให้เว็บแอปคีออสก์เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์อื่นอีก</translation> |
| <translation id="7578142001795552218">นโยบายนี้ให้สิทธิ์ฟีเจอร์คำตอบด่วนในการเข้าถึงเนื้อหาที่เลือกและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อรับผลการแปลงหน่วย |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้การแปลงหน่วยของคำตอบด่วน |
| หากปิดใช้นโยบาย ระบบจะปิดใช้การแปลงหน่วยของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="7585312329612243723">เปิดใช้โฟลว์เอกสารรับรองของ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL ในเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="7587345076013230465">แสดงข้อความแจ้งให้ผู้ใช้เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์เมื่อนโยบายการเลือกอัตโนมัติตรงกับใบรับรองหลายรายการบนหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="7587921466180902617">เปิดการลองใช้ Screencast สำหรับผู้ใช้ Family Link</translation> |
| <translation id="7595074040612182185">การตั้งค่านโยบายนี้จะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่อาจมีการแสดงรูปภาพได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_IMAGES_SETTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| โปรดทราบว่าก่อนหน้านี้นโยบายนี้เปิดใช้อย่างไม่ถูกต้องใน Android แต่ Android ก็ไม่เคยรองรับฟังก์ชันนี้โดยสมบูรณ์</translation> |
| <translation id="759957074386651883">การตั้งค่า Safe Browsing</translation> |
| <translation id="7602621823177962064">ปิดใช้การรายงานข้อมูลหน่วยความจำของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7604169113182304895">แอป Android อาจเลือกใช้รายการด้วยความสมัครใจ คุณไม่สามารถบังคับแอปให้เลือกได้</translation> |
| <translation id="7608186022704392724">ฟีเจอร์ส่ง PIN อัตโนมัติจะเปลี่ยนรูปแบบการป้อน PIN ใน "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" |
| ฟีเจอร์นี้จะแสดง UI พิเศษให้ผู้ใช้เห็นอย่างชัดเจนว่า PIN ต้องมีกี่หลัก แทนการแสดงช่องข้อความแบบเดียวกับที่ใช้ป้อนรหัสผ่าน ดังนั้นระบบจะจัดเก็บความยาว PIN ของผู้ใช้ไว้นอกข้อมูลที่เข้ารหัสของผู้ใช้ ใช้ได้เฉพาะ PIN ที่มีความยาวระหว่าง 6 ถึง 12 หลัก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ผู้ใช้จะเห็นฟีเจอร์ส่ง PIN อัตโนมัติในหน้าจอล็อกและหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะไม่เห็นฟีเจอร์ส่ง PIN อัตโนมัติในหน้าจอล็อกและหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะไม่มีตัวเลือกในการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้</translation> |
| <translation id="7612059745454194563">ไม่อนุญาตให้แสดงการโปรโมตส่วนขยายผู้ให้บริการเอกสารสิทธิ์</translation> |
| <translation id="7612157962821894603">การตั้งค่าสถานะที่ใช้ทั้งระบบที่จะนำไปใช้กับการเริ่มต้นใช้งาน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7613115815080726221">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหวหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูล</translation> |
| <translation id="7614663184588396421">รายการสกีมของโปรโตคอลที่ถูกปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="7616631530432070402">ชุดการเข้ารหัส 3DES จะถูกเปิดใช้ใน TLS</translation> |
| <translation id="761788785484453836">ต้องมีการแยกเว็บไซต์สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="7620869951155758729">นโยบายนี้จะระบุการกำหนดค่าที่ใช้เพื่อสร้างและยืนยันรหัสการเข้าถึงของผู้ปกครอง |
| |
| |current_config| จะใช้เพื่อสร้างรหัสการเข้าถึงทุกครั้ง และควรใช้เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องของรหัสการเข้าถึงเฉพาะเวลาที่ตรวจสอบความถูกต้องด้วย |future_config| ไม่ได้เท่านั้น |
| |future_config| คือการกำหนดค่าหลักที่ใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรหัสการเข้าถึง |
| |old_configs| ควรใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรหัสการเข้าถึงเฉพาะเวลาที่ตรวจสอบความถูกต้องด้วย |future_config| หรือ |current_config| ไม่ได้เท่านั้น |
| |
| การใช้นโยบายนี้ตามที่คาดไว้จะค่อยๆ ช่วยหมุนเวียนการกำหนดค่ารหัสการเข้าถึง การกำหนดค่าใหม่จะเพิ่มไว้ใน |future_config| ทุกครั้ง |
| และในขณะเดียวกันระบบจะย้ายค่าที่มีอยู่ไปยัง |current_config| ส่วนค่าก่อนหน้าของ |current_config| จะย้ายไปยัง |old_configs| และจะถูกนำออกหลังจากสิ้นสุดรอบการหมุนเวียน |
| |
| นโยบายนี้ใช้กับผู้ใช้ที่เป็นเด็กเท่านั้น |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ คุณจะยืนยันรหัสการเข้าถึงของผู้ปกครองในอุปกรณ์ของผู้ใช้ที่เป็นเด็กได้ |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ คุณจะยืนยันรหัสการเข้าถึงของผู้ปกครองในอุปกรณ์ของผู้ใช้ที่เป็นเด็กไม่ได้</translation> |
| <translation id="7623431489198474050">ปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับการปกป้องเนื้อหา</translation> |
| <translation id="7628747690141606652">ปิดใช้คำแปลของคำตอบด่วน</translation> |
| <translation id="7629840767216985001">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ได้ชั่วคราว เมื่อหน้าจอลงชื่อเข้าใช้โหลดซ้ำหรือไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 1 นาที เคอร์เซอร์จะเปลี่ยนกลับไปอยู่ในสถานะเดิม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ ระบบจะปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ผู้ใช้จะเปิดใช้เมื่อใดก็ได้ และสถานะนั้นในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้จะยังคงอยู่ตลอดระหว่างการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน |
| |
| หมายเหตุ: <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_LARGE_CURSOR_ENABLED" /> จะลบล้างนโยบายนี้หากระบุนโยบายเดิมไว้</translation> |
| <translation id="7632147323011514740">ช่วงเวลาที่ขั้นตอนการอัปเดตภาพรวมของข้อมูล ARC จะเริ่มต้นสำหรับเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการได้</translation> |
| <translation id="7632724434767231364">ชื่อไลบรารี GSSAPI</translation> |
| <translation id="7635106595080609261">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ Chrome แสดงผลได้ และผู้ใช้จะเปิดกล่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าเมื่อผู้ใช้ดำเนินการที่เรียกใช้กล่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ เช่น การนำเข้าบุ๊กมาร์ก การอัปโหลดไฟล์ และการบันทึกลิงก์ จะมีข้อความปรากฏขึ้นแทน โดยถือว่าผู้ใช้ได้คลิก "ยกเลิก" ในกล่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ไว้</translation> |
| <translation id="7638300388094655454">Google Cast</translation> |
| <translation id="7638764766629234761">อนุญาตให้ใช้การแจ้งเตือนของระบบ</translation> |
| <translation id="7643151458117317518">นโยบายสำหรับควบคุมว่าจะปิดใช้การตั้งค่าการวัดผลโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดการตั้งค่าการวัดผลโฆษณาสำหรับผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการตั้งค่าการวัดผลโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้กำหนดให้ต้องตั้งค่านโยบาย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_PROMPT_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้"</translation> |
| <translation id="7643883929273267746">จำกัดบัญชีที่แสดงอยู่ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7648664871086956188">นโยบายนี้เป็นตัวเปิดปิดทั่วไปสำหรับกฎทั้งหมดที่กำหนดไว้ในนโยบาย DataLeakPreventionRulesList |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" จะเปิดการรายงานแบบเรียลไทม์สำหรับเหตุการณ์การป้องกันข้อมูลรั่วไหล |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ตั้งค่าจะปิดการรายงาน |
| กฎที่กำหนดไว้โดยมีข้อจำกัดระดับ "อนุญาต" ใน DataLeakPreventionRulesList จะไม่รายงานเหตุการณ์ในทั้ง 2 กรณี</translation> |
| <translation id="7648907905084499629">ใช้ลักษณะการทำงาน <ph name="FEATURE_NAME_SAMESITE_BY_DEFAULT_COOKIES" /> สำหรับคุกกี้ในทุกเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="765347139142030086">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้นโยบายที่เชื่อมโยงกับบัญชี <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> มีผลบังคับเหนือกว่าในกรณีที่ขัดแย้งกับนโยบาย <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| เฉพาะนโยบายที่มาจากผู้ใช้ที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับเหนือกว่าได้ ผู้ใช้ที่ปลอดภัยจะเชื่อมโยงกับองค์กรที่จัดการเบราว์เซอร์ของตนโดยใช้ <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> นโยบายระดับผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมดจะมีลำดับความสำคัญตามค่าเริ่มต้น |
| |
| นโยบายนี้สามารถใช้ร่วมกับ <ph name="POLICY_CLOUDPOLICYOVERRIDESPLATFORMPOLICY" /> หากมีการเปิดใช้ทั้ง 2 นโยบาย นโยบายระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์ก็จะมีผลบังคับเหนือกว่านโยบายระดับแพลตฟอร์มที่ขัดแย้งกันด้วย |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "ปิดใช้" จะทำให้นโยบายระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์มีลำดับความสำคัญตามค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7657261947024629645">เพิ่มประสิทธิภาพ</translation> |
| <translation id="76580522298425324">อนุญาตให้จับภาพหน้าจอโดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า</translation> |
| <translation id="7666228839913571182">อนุญาตคุกกี้ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="7669630878711068277">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้สั่งพิมพ์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ และผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะสั่งพิมพ์จาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ การสั่งพิมพ์จะปิดทั้งในเมนู 3 จุด ส่วนขยาย และแอปพลิเคชัน JavaScript</translation> |
| <translation id="7671234734316758429">นโยบายนี้ให้ผู้ดูแลระบบระบุแอปที่ทำหน้าที่เป็นตัวแฮนเดิลเริ่มต้นสำหรับนามสกุลไฟล์ที่เกี่ยวข้องใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งผู้ใช้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ |
| |
| สำหรับนามสกุลไฟล์ทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ในนโยบาย ผู้ใช้จะกำหนดค่าเริ่มต้นของตนเองตามเวิร์กโฟลว์ปกติได้อย่างอิสระ |
| |
| ระบุแอป Chrome ตามรหัส เช่น <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_CHROME_APP_EXAMPLE" /> |
| ระบุเว็บแอปตาม URL ที่ใช้ใน <ph name="WEB_APP_INSTALL_FORCE_LIST_POLICY_NAME" /> เช่น <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_WEB_APP_EXAMPLE" /> |
| ระบุแอป Android ตามชื่อแพ็กเกจ เช่น <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_ANDROID_APP_EXAMPLE" /> |
| ระบุ System Web Apps ตามชื่อ Snake Case เช่น <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_SYSTEM_WEB_APP_EXAMPLE" /> |
| ระบุ Virtual Tasks ตามชื่อที่กำหนดซึ่งขึ้นต้นด้วย <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_VIRTUAL_TASK_PREFIX" /> เช่น <ph name="DEFAULT_HANDLERS_FOR_FILE_EXTENSIONS_POLICY_VIRTUAL_TASK_EXAMPLE" /> |
| |
| โปรดทราบว่าแอป "ต้อง" ประกาศว่าตนเองเป็นตัวแฮนเดิลไฟล์สำหรับนามสกุลไฟล์ที่ระบุในไฟล์ Manifest เพื่อให้รายการดังกล่าวในนโยบายมีผล (นโยบาย "ไม่ได้" ขยายความสามารถของแอปที่มีอยู่) |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เลือกตัวแฮนเดิลเริ่มต้นตามตรรกะภายในได้</translation> |
| <translation id="7673194325208122247">ระยะเวลา (มิลลิวินาที)</translation> |
| <translation id="7677220829878081413"> |
| เมื่อตั้งค่าเป็น ArcSession นโยบายนี้จะบังคับให้อุปกรณ์รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบหาก Android เริ่มต้นแล้ว |
| เมื่อตั้งค่าเป็น ArcSessionOrVMStart นโยบายนี้จะบังคับให้อุปกรณ์รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบหาก Android หรือ VM เริ่มต้นแล้ว |
| การตั้งค่าเป็น "ทุกครั้ง" จะเป็นการบังคับให้อุปกรณ์รีบูตทุกครั้งที่ผู้ใช้ออกจากระบบ |
| หากไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีผลอะไรและไม่มีการบังคับให้อุปกรณ์รีบูตเมื่อผู้ใช้ออกจากระบบ เช่นเดียวกันกับการตั้งค่าเป็น "ไม่เลย" |
| นโยบายนี้จะมีผลต่อผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์เท่านั้น |
| </translation> |
| <translation id="7679483888150212009">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนหรี่แสงหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊ก |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะหรี่แสงหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่หรี่แสงหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้น้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาการปิดหน้าจอ (หากตั้งค่า) และระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="7680437377926096177">ระงับการแสดงกล่องโต้ตอบการออกจากระบบเมื่อปิดหน้าต่างสุดท้าย</translation> |
| <translation id="7683777542468165012">การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก</translation> |
| <translation id="7687943045976362719">หากตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> จะจัดการประเภทของเนื้อหาที่ระบุไว้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การแสดงผลเริ่มต้นกับทุกเว็บไซต์ (อาจมีการใช้นโยบาย <ph name="CHROME_FRAME_RENDERER_SETTINGS_POLICY_NAME" /> เพื่อกำหนดค่าการแสดงผลเริ่มต้น)</translation> |
| <translation id="768925347918758827">สหรัฐอเมริกา</translation> |
| <translation id="7696412993033202071">URL สำหรับเปิดแอป Authenticator ภายนอก</translation> |
| <translation id="7701341006446125684">ตั้งค่าขนาดแคชของแอปและส่วนขยาย (เป็นไบต์)</translation> |
| <translation id="7703041979684393741">ไม่อนุญาตให้รวบรวมบันทึกเหตุการณ์ของ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="770339941914297201">ลักษณะการทำงานใหม่: แอป Chrome Kiosk จะอัปเดตโดยใช้ URL อัปเดตจากนโยบายเท่านั้น</translation> |
| <translation id="7703737669292992839">ป้องกันกล่องโต้ตอบการเลือกไฟล์</translation> |
| <translation id="7703819160640109959">กำหนดว่าจะให้โปรแกรมอ่าน PDF ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ตัวแสดงผล Skia หรือไม่ |
| |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้ โปรแกรมอ่าน PDF จะใช้ตัวแสดงผล Skia |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ โปรแกรมอ่าน PDF จะใช้ตัวแสดงผล AGG ในปัจจุบัน |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ เบราว์เซอร์จะเลือกตัวแสดงผล PDF</translation> |
| <translation id="7707869387893611318">เปิดใช้ฟีเจอร์เสียงการชาร์จ |
| |
| ฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่ส่งเสียงว่ามีการชาร์จ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ระบบจะส่งเสียงว่ามีการชาร์จเมื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อกับที่ชาร์จ AC |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะไม่ส่งเสียงการชาร์จ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ตอนแรกฟีเจอร์นี้จะปิดอยู่ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่มีการจัดการ แต่ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="7708934468069982537">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M58 หลังจากที่นำ DHE ออกจาก "<ph name="PRODUCT_NAME" />" |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" จะไม่มีการเปิดใช้ชุดการเข้ารหัส DHE ใน TLS หรืออาจตั้งค่าเป็น "จริง" เพื่อเปิดใช้ชุดการเข้ารหัส DHE และรักษาความเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวและควรจะต้องมีการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่ |
| |
| ขอแนะนำให้ย้ายข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ไปใช้ชุดการเข้ารหัส ECDHE หากไม่มีชุดการเข้ารหัสดังกล่าว ให้ตรวจดูว่าได้เปิดใช้ชุดการเข้ารหัสที่ใช้การแลกเปลี่ยนคีย์ RSA ไว้</translation> |
| <translation id="7709470712369261710">ไม่ใช้บริการของ Google เพื่อให้คำอธิบายรูปภาพอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7712109699186360774">ถามทุกครั้งที่ไซต์ต้องการเข้าถึงกล้องและ/หรือไมโครโฟน</translation> |
| <translation id="7712245244073542805">การพิมพ์ของแพลตฟอร์มจากกระบวนการของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="7713608076604149344">ข้อจำกัดในการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="7713845740295404764">รายงานเหตุการณ์การเข้าสู่ระบบ/ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="7715711044277116530">เปอร์เซ็นต์ของระดับการปรับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอในโหมดการนำเสนอ</translation> |
| <translation id="7716020145539921591">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้ช่วยให้คุณระบุ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ได้ นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อไม่ได้ระบุนโยบาย <ph name="PROXY_SETTINGS_POLICY_NAME" /> และคุณเลือก <ph name="PROXY_MODE_ENUM_FIXED_SERVERS" /> ด้วย <ph name="PROXY_MODE_POLICY_NAME" /> เท่านั้น |
| |
| ไม่ต้องตั้งค่านโยบายนี้หากได้เลือกโหมดอื่นสำหรับการตั้งค่านโยบายพร็อกซีแล้ว |
| |
| หมายเหตุ: ดูตัวอย่างโดยละเอียดได้ที่ The Chromium Projects ( https://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett )</translation> |
| <translation id="7716587310609820801">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่แสดงการแจ้งเตือนไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_NOTIFICATIONS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="7717938661004793600">กำหนดค่าฟีเจอร์การเข้าถึงของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7718127720248642697">นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งควบคุมให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานสถิติด้านฮาร์ดแวร์และตัวระบุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานสถิติพื้นที่เก็บข้อมูล |
| ข้อยกเว้น: ขนาดและพื้นที่ว่างในดิสก์จะควบคุมโดย <ph name="REPORT_DEVICE_HARDWARE_STATUS" /> สำหรับรุ่น M95 ลงมา</translation> |
| <translation id="7719175048012980445">การตั้งค่านโยบายนี้จะเปลี่ยนไดเรกทอรีเริ่มต้นที่ Chrome จะใช้สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนไดเรกทอรีได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า Chrome จะใช้ไดเรกทอรีเริ่มต้นของแพลตฟอร์มนั้นๆ |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตั้งค่านโยบาย <ph name="DOWNLOAD_DIRECTORY_POLICY_NAME" /> |
| |
| หมายเหตุ: ดูรายการตัวแปรที่คุณใช้ได้ (https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/user-data-directory-variables)</translation> |
| <translation id="7719808201797990069">การยกเว้นรูปแบบ URL สำหรับการละทิ้งแท็บ</translation> |
| <translation id="7721944091689270995">User ID <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="7728486978686128364">ไม่ต้องใช้เมธอดคำขอตัวพิมพ์ใหญ่ ยกเว้น DELETE/GET/HEAD/OPTIONS/POST/PUT</translation> |
| <translation id="7731026922044991970">เปลี่ยนกลับไปใช้ลักษณะการทำงาน <ph name="ATTRIBUTE_SAMESITE_NAME" /> เดิมสำหรับคุกกี้ในทุกเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="7732907212083471072">นโยบายที่นำออก</translation> |
| <translation id="7734212505800048991"> |
| การเรียกใช้ getDisplayMedia ที่มาจากบริบทที่ไม่อยู่ในรายการที่อนุญาตถูกปฏิเสธ</translation> |
| <translation id="7734846328530412287">จัดการความพร้อมใช้งานของ API แบบเต็มหน้าจอของวิดีโอที่มีคำต่อท้ายที่เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="7736218466096907954">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะแสดง UI ลูกโป่งแบบใหม่สำหรับการดาวน์โหลดใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะยังแสดง UI แถบดาวน์โหลดแบบเก่าต่อไป |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อใช้ชั่วคราวและจะนำออกหลังจากมีการเปิดตัว UI ลูกโป่งการดาวน์โหลดแบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบ</translation> |
| <translation id="7736521021425189418">เทอร์มินัล (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 117)</translation> |
| <translation id="77379430721695807">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นการระบุรายการ URL ที่จะมีการจับคู่รูปแบบกับต้นทางการรักษาความปลอดภัยของ URL ที่ขอ หากรูปแบบตรงกัน ระบบจะให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์จับภาพวิดีโอโดยไม่แสดงข้อความแจ้ง |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="7740644123648617252">เปิดใช้การนำเข้าข้อมูลแบบฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="7744253761377202223">เปอร์เซ็นต์ความสว่างของหน้าจอขณะที่เครื่องทำงานโดยเสียบปลั๊ก</translation> |
| <translation id="7747447585227954402">อนุญาตให้อุปกรณ์ใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7749024457938190837">ส่วนขยายที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามกล่องโต้ตอบการยืนยันเมื่อส่งงานพิมพ์ผ่าน chrome.printing API</translation> |
| <translation id="7749402620209366169">เปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยสำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกลแทนการใช้ PIN ที่ระบุโดยผู้ใช้ |
| |
| หากการตั้งค่านี้เปิดใช้งานอยู่ ผู้ใช้จะต้องระบุรหัสแบบสองปัจจัยที่ถูกต้องเมื่อเข้าถึงโฮสต์ |
| |
| หากการตั้งค่านี้ปิดใช้งานอยู่หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่สามารถใช้สองปัจจัยดังกล่าวได้และจะมีการใช้ค่าเริ่มต้นซึ่งเป็นการใช้ PIN ที่ระบุโดยผู้ใช้แทน</translation> |
| <translation id="7749402921503577264">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้คลิกผ่านหน้าคำเตือนที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงขึ้นเมื่อผู้ใช้ไปที่เว็บไซต์ที่มีข้อผิดพลาด SSL |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้คลิกผ่านหน้าคำเตือนใดๆ ไม่ได้</translation> |
| <translation id="7750991880413385988">เปิดหน้าแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="7753678409577376761">เปิดจุดเข้าใช้งานแถบเครื่องมือสำหรับฟีเจอร์ทดลองของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="7754704193130578113">สอบถามที่เก็บไฟล์ก่อนดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="7754893969683595513">การตั้งค่านโยบายจะมีระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลนโยบายผู้ใช้จากบริการจัดการอุปกรณ์ ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1,800,000 (30 นาที) ถึง 86,400,000 (1 วัน) ค่าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงนี้จะถูกบีบให้อยู่ภายในขอบเขตที่เกี่ยวข้อง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 3 ชั่วโมง |
| |
| หมายเหตุ: การแจ้งเตือนเรื่องนโยบายจะบังคับรีเฟรชเมื่อนโยบายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องรีเฟรชบ่อยๆ ดังนั้น หากแพลตฟอร์มรองรับการแจ้งเตือนเหล่านี้ การหน่วงเวลาการรีเฟรชจะอยู่ที่ 24 ชั่วโมง (โดยไม่สนใจค่าเริ่มต้นและค่าของนโยบายนี้)</translation> |
| <translation id="775822241671489040">ควบคุมการตั้งค่า "ใช้ Launcher/แป้นค้นหาเพื่อเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชัน"</translation> |
| <translation id="7758378441185523981">เปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบแอมเบียนท์สำหรับโปรไฟล์ประเภทต่างๆ</translation> |
| <translation id="776110834126722255">เลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="7763614521440615342">แสดงคำแนะนำเนื้อหาบนหน้า "แท็บใหม่"</translation> |
| <translation id="7763650553214838209">ปิดการตั้งค่าแป้นพิมพ์ลัดสำหรับการดำเนินการ "แทรก"</translation> |
| <translation id="776465643636059256">ปิดใช้ชุดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="7765879851993224640">อนุญาตให้ใช้การลงชื่อเข้าใช้ด้วย Smart Lock</translation> |
| <translation id="7767066506143083523">การตั้งค่านโยบายจะช่วยให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งใช้การจับภาพแท็บได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบไม่พิจารณาเว็บไซต์เพื่อทำการลบล้างที่การจับภาพระดับนี้ |
| |
| โปรดทราบว่าจะยังมีการจับภาพแอป Chrome ในโหมดหน้าต่างได้อยู่ |
| |
| ระบบจะไม่พิจารณานโยบายนี้หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบาย <ph name="SAME_ORIGIN_TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบ URL ในนโยบายนี้ ระบบจะไม่พิจารณานโยบาย <ph name="WINDOW_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ระบบจึงไม่สนใจเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL</translation> |
| <translation id="77675082813227181">หน้าทดสอบนโยบายถูกบล็อก</translation> |
| <translation id="7769289607378631288">เปิดใช้: เปิดใช้ Mutation Event อีกครั้งชั่วคราว</translation> |
| <translation id="7771298620150437359">กำหนดค่าเนื้อหาและลำดับภาษาที่ต้องการ</translation> |
| <translation id="7773790010815041731">แอป Chrome เลิกใช้งานแล้วใน <ph name="MS_WIN_NAME" />, <ph name="MAC_OS_NAME" /> และ <ph name="LINUX_OS_NAME" /> |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ "<ph name="PRODUCT_NAME" />" จะอนุญาตให้แอป Chrome ทำงานในแพลตฟอร์มดังกล่าวต่อไปจนกระทั่งถึงวันที่เรายกเลิกการสนับสนุนแอป Chrome ในทุกแพลตฟอร์มเดือนมิถุนายน 2022 |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบอาจไม่อนุญาตให้แอป Chrome ทำงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของการเริ่มเลิกใช้งาน |
| ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด แอป Chrome ที่นโยบายบังคับติดตั้งจะยังได้รับอนุญาตต่อไป</translation> |
| <translation id="7774768074957326919">ใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบ</translation> |
| <translation id="7775077662962729812">การเลือกวอลเปเปอร์จาก Google Photos</translation> |
| <translation id="7776848995687565978">กำหนดค่ารายการต้นทางที่ยืดอายุการใช้งานในเบื้องหลังให้กับส่วนขยายที่เชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="777734450201217641">เปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบจะเปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบจะปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบจะเปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7777535871204167559">ทำให้อุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกเป็นแบบอ่านอย่างเดียว</translation> |
| <translation id="7781452670568828399">เปลี่ยนการกำหนดค่าที่แนะนำของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7784062550705119230">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_ALLOWLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="DEVICE_PRINTERS_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_PRINTERS_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ได้ จะมีเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่มีรหัสตรงกับค่าในนโยบายนี้เท่านั้นที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="DEVICE_PRINTERS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="7785199109546027763">นโยบายสำหรับควบคุมว่าควรเปิดใช้ฟีเจอร์การปกป้อง IP ของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ไหม |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์การปกป้อง IP และผู้ใช้จะเปิดฟีเจอร์ดังกล่าวผ่านการตั้งค่า UI ไม่ได้ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์การปกป้อง IP และผู้ใช้จะปิดฟีเจอร์ดังกล่าวผ่านการตั้งค่า UI ไม่ได้ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดฟีเจอร์การปกป้อง IP ในอุปกรณ์ได้ผ่านการตั้งค่า UI |
| |
| หมายเหตุ: ลักษณะการทำงานของฟีเจอร์การปกป้อง IP สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรอาจแตกต่างกันไปเมื่อเวลาผ่านไป หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือเมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายและเปิดฟีเจอร์ดังกล่าวผ่านการตั้งค่า UI</translation> |
| <translation id="7788511847830146438">ต่อโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="7790221177424764797">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะโหลดกฎจากนโยบาย SiteList ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> หรือไม่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอ่าน <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> เพื่อรับ URL ของรายการเว็บไซต์ จากนั้น <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะดาวน์โหลดรายการเว็บไซต์จาก URL นั้นและใช้กฎเหมือนกับว่าได้รับการกำหนดค่าด้วยนโยบาย <ph name="BROWSER_SWITCHER_URL_LIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่ใช้นโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> เป็นที่มาของกฎสำหรับการเปลี่ยนเบราว์เซอร์ |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย <ph name="IEEM_SITELIST_POLICY" /> ของ Internet Explorer ได้ที่ https://docs.microsoft.com/internet-explorer/ie11-deploy-guide/what-is-enterprise-mode</translation> |
| <translation id="7791215522423893512">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอ</translation> |
| <translation id="7792796937016596423">ผู้ใช้จะทำการบันทึกแพ็กเก็ตเครือข่ายไม่ได้</translation> |
| <translation id="7798441698807517880">นโยบายนี้ถูกนำออกตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 89 เนื่องจากเลิกใช้งาน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> แล้ว |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะแสดงเนื้อหา <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ทั้งหมดซึ่งฝังอยู่ในเว็บไซต์ที่อนุญาต <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> รวมถึงเนื้อหาจากแหล่งที่มาอื่นๆ หรือเนื้อหาขนาดเล็ก |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าอาจบล็อกเนื้อหา <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> จากแหล่งที่มาอื่นๆ หรือเนื้อหาขนาดเล็ก |
| |
| หมายเหตุ: หากต้องการควบคุมเว็บไซต์ที่แสดง <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ได้ โปรดดูนโยบาย <ph name="DEFAULT_PLUGINS_SETTING_POLICY_NAME" />, <ph name="PLUGINS_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="PLUGINS_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="7804859754080118507">รายงานเหตุการณ์การเชื่อมต่อเครือข่ายและความแรงของสัญญาณในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานเหตุการณ์ในเครือข่ายของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="780629758750905699">อนุญาตให้มีการเพิ่มบัญชี Family Link ลงในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7807139251387225825">รายการของประเภทที่จะไม่รวมในการซิงค์ข้อมูล</translation> |
| <translation id="781268256210530471">การตั้งค่าปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="7816326058023670173">ข้อมูลลับที่แชร์ระหว่างอุปกรณ์ของบุตรหลานและผู้ปกครอง</translation> |
| <translation id="7818131573217430250">ตั้งค่าสถานะเริ่มต้นของโหมดคอนทราสต์สูงบนหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="7821864705813933283">อนุญาตให้รายการในเมนูการค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> แสดงในเมนูตามบริบท (หากรองรับ)</translation> |
| <translation id="7823902813460802031">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะหยุดไม่ให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ใช้โหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เสมอ</translation> |
| <translation id="7824000841504721945">ปิดใช้นโยบายที่มาจากกลุ่มขนาดเล็ก</translation> |
| <translation id="7824833865123899471">เปิดใช้ผู้ให้บริการการทำงานอัตโนมัติของ UI</translation> |
| <translation id="782661371433719637">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ขอสิทธิ์การเข้าถึงในการอ่านไฟล์และไดเรกทอรีผ่าน File System API</translation> |
| <translation id="7827127381981620448">แอปแพลตฟอร์ม</translation> |
| <translation id="7829436838673974723">อนุญาตให้หน้าเว็บส่งคําขอ XHR พร้อมกันในระหว่างการปิดหน้าเว็บ</translation> |
| <translation id="782978857350824974">อนุญาตคำขอการตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บในเว็บไซต์ที่มีใบรับรอง TLS ไม่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="7830775338190021763">เปิดใช้ความสามารถในการโอนไฟล์ในเซสชันการสนับสนุนจากระยะไกลขององค์กร</translation> |
| <translation id="7832225468415136704">ป้องกันไม่ให้ฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome สแกนระบบเป็นระยะและปิดใช้การสแกนด้วยตนเอง</translation> |
| <translation id="7833148823006528332">ตัวระบุแอป Android เช่น "com.google.android.gm" สำหรับ Gmail</translation> |
| <translation id="7835218570504220753">ปิดใช้การคลิกอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7839124608155212387">อัตราที่เก็บรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลจากการใช้งานแอปในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 5 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 15 นาที</translation> |
| <translation id="7839180815400079700">หากเปิดใช้ <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_ENABLED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="DEVICE_POWER_PEAK_SHIFT_DAY_CONFIG_POLICY_NAME" /> จะเป็นการกำหนดค่าวันที่มีการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้การใช้ไฟจากแบตเตอรี่ปิดอยู่เสมอ |
| |
| ค่าที่ใช้ได้สำหรับช่อง <ph name="MINUTE_FIELD_NAME" /> ใน <ph name="START_TIME_FIELD_NAME" />, <ph name="END_TIME_FIELD_NAME" /> และ <ph name="CHARGE_START_TIME_FIELD_NAME" /> ได้แก่ 0, 15, 30, 45</translation> |
| <translation id="7840258755683573560">เปิดใช้การคลิกอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="784165160128690202">การตั้งค่านโยบายเป็น "ไม่มี" จะปิดการขยายหน้าจอในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดแว่นขยายหน้าจอได้ชั่วคราว เมื่อหน้าจอลงชื่อเข้าใช้โหลดซ้ำหรือไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 1 นาที แว่นขยายหน้าจอจะเปลี่ยนกลับไปอยู่ในสถานะเดิม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ แว่นขยายหน้าจอจะปิดอยู่ในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ทั้งนี้ผู้ใช้จะเปิดใช้เมื่อใดก็ได้ และสถานะนั้นในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้จะยังคงอยู่ตลอดระหว่างการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน |
| |
| ค่าที่ใช้ได้ ได้แก่ • 0 = ปิด • 1 = เปิด • 2 = เปิดแว่นขยายหน้าจอบางส่วน |
| |
| หมายเหตุ: <ph name="DEVICE_LOGIN_SCREEN_SCREEN_MAGNIFIER_TYPE_POLICY_NAME" /> จะลบล้างนโยบายนี้หากมีการระบุนโยบายเดิมไว้</translation> |
| <translation id="7841880500990419427">TLS เวอร์ชันต่ำสุดที่ใช้สำรอง</translation> |
| <translation id="7841883965249733328">ปิดใช้การอัปเกรดเนื้อหาผสมอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7845130996290850593">เปิดใช้ Kerberos</translation> |
| <translation id="7846952520291088817">URL ที่ IP ของเครื่องแสดงใน ICE Candidate ผ่าน WebRTC</translation> |
| <translation id="7848641140449742406">การตั้งค่าระบบปฏิบัติการ</translation> |
| <translation id="7850846808758624237">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนำเข้าหน้าแรกจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าจะไม่มีการนำเข้าหน้าแรกเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| ผู้ใช้จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการนำเข้า และจะมีการเลือกหรือไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมายหน้าแรกไว้ เพื่อให้ตรงกับค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="7851455107499999468">นโยบายนี้ควบคุมป้ายกำกับซึ่งใช้เพื่อระบุโปรไฟล์ที่ลงชื่อเข้าใช้ ป้ายกำกับนี้จะแสดงอยู่ในตำแหน่งต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบุโปรไฟล์ได้ เช่น ข้างไอคอนโปรไฟล์ในแถบเครื่องมือ |
| นอกจากนี้จะใช้เป็นชื่อเริ่มต้นของโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นใหม่ซึ่งผู้ใช้แก้ไขได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ป้ายกำกับเริ่มต้น "งาน" หรือ "โรงเรียน" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ติดป้ายกำกับโปรไฟล์เป็นงาน (0)" ระบบจะใช้ป้ายกำกับ "งาน" |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ติดป้ายกำกับโปรไฟล์เป็นโรงเรียน (1)" ระบบจะใช้ป้ายกำกับ "โรงเรียน" |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้างโดยนโยบาย <ph name="CUSTOM_PROFILE_LABEL_POLICY_NAME" /> หากได้ตั้งค่าไว้</translation> |
| <translation id="7852952453329293282">Direct Sockets API ช่วยให้สื่อสารกับเอนด์พอยต์ที่กำหนดเองได้โดยใช้ TCP และ UDP |
| โปรดดูรายละเอียดที่ https://github.com/WICG/direct-sockets |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะอนุญาตให้ต้นทางที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ใช้ Direct Sockets |
| ซึ่งรวมถึงแอป Chrome, Isolated Web App และเว็บคีออสก์ API จะใช้ไม่ได้ในเว็บแบบเปิด |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะบล็อกต้นทางไม่ให้ใช้ Direct Sockets |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะอนุญาต Direct Sockets</translation> |
| <translation id="7853140303943875314">เปิดใช้การช่วยเหลือสำหรับการเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7854187834842629068">ปิดใช้การพิมพ์ตามคำบอกในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="7858352166858826505">การตั้งค่าโมเดลพื้นฐานเฉพาะพื้นที่ของ GenAI</translation> |
| <translation id="7863947545897944083">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยโหมดคอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" โหมดคอนทราสต์สูงจะเปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" โหมดคอนทราสต์สูงจะปิดใช้เสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่าไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้โหมดคอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="7864539943188674973">ปิดใช้งานบลูทูธ</translation> |
| <translation id="7869986671709030417">กำหนดค่าเริ่มต้นของโหมดการพิมพ์กราฟิกพื้นหลัง</translation> |
| <translation id="7872692545596413465">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" และการป้อนพอร์ตที่ไม่ใช่มาตรฐาน (กล่าวคือ พอร์ตอื่นใดที่ไม่ใช่ 80 หรือ 443) จะรวมพอร์ตนั้นใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นมา |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่าจะไม่มีการรวมพอร์ตใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นมา</translation> |
| <translation id="7877924399554599110">เปิดใช้การรวมนโยบายในระดับผู้ใช้บนระบบคลาวด์เข้ากับนโยบายระดับแมชชีน</translation> |
| <translation id="7881421274383404138">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์องค์กร รูปแบบการตั้งค่าเหมือนกับพจนานุกรม <ph name="PRINTERS_POLICY_NAME" /> แต่มีช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ที่จำเป็นต้องกรอกเพิ่มเข้ามาสำหรับเครื่องพิมพ์แต่ละเครื่องเพื่อใช้ระบุว่าอยู่ในรายการที่อนุญาตหรือไม่อนุญาต ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5 MB และอยู่ในรูปแบบ JSON ไฟล์ที่ระบุเครื่องพิมพ์ประมาณ 21,000 เครื่องเข้ารหัสเป็นไฟล์ขนาด 5 MB ได้ 1 ไฟล์ แฮชแบบเข้ารหัสช่วยยืนยันความสมบูรณ์ของการดาวน์โหลด ไฟล์จะมีการดาวน์โหลด แคช และดาวน์โหลดอีกครั้งเมื่อ URL หรือแฮชมีการเปลี่ยนแปลง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวเพื่อการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์และทำให้เครื่องพิมพ์พร้อมใช้งานพร้อมด้วย <ph name="PRINTERS_BULK_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" />, <ph name="PRINTERS_BULK_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="PRINTERS_BULK_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อความสามารถของผู้ใช้ในการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง แต่เป็นเพียงนโยบายเพิ่มเติมสำหรับการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์ของผู้ใช้แต่ละราย |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้</translation> |
| <translation id="7882585827992171421">นโยบายนี้ใช้งานได้ในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| กำหนด ID ของส่วนขยายที่จะใช้เป็นโปรแกรมรักษาหน้าจอบนหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ ส่วนขยายนี้ต้องเป็นส่วนหนึ่งของ AppPack ซึ่งได้รับการกำหนดค่าสำหรับโดเมนนี้ผ่านทางนโยบาย DeviceAppPack</translation> |
| <translation id="7882890448959833986">ระงับคำเตือนระบบปฏิบัติการที่ไม่ได้รับการสนับสนุน</translation> |
| <translation id="788480874436328004">ปิดใช้การบันทึกรหัสผ่านด้วยเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="7891884447851425349">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SEARCH_URL_POLICY_NAME" /> จะระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้ระหว่างการค้นหาที่เป็นค่าเริ่มต้น URL ดังกล่าวควรมีสตริง <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ซึ่งข้อความค้นหาของผู้ใช้จะมาแทนที่ในการค้นหา |
| |
| คุณระบุ URL การค้นหาของ Google เป็น <ph name="GOOGLE_SEARCH_URL" /> ได้</translation> |
| <translation id="7894185046683379696">การตั้งค่านโยบายจะระบุระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนล็อกหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊กหรือใช้แบตเตอรี่ ค่าจะถูกบีบให้น้อยกว่าระยะหน่วงเวลาเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวใน <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อตั้งค่าเป็น 0 <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่ล็อกหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้เวลาเริ่มต้น |
| |
| คำแนะนำ: ล็อกหน้าจอเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวด้วยการเปิดการล็อกหน้าจอเมื่อถูกระงับการใช้งาน และให้<ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ระงับการใช้งานหลังจากหมดระยะหน่วงเวลาเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหว ใช้นโยบายนี้ในเวลาที่การล็อกหน้าจอควรจะเกิดขึ้นก่อนเวลาระงับการใช้งานเป็นเวลานาน หรือเมื่อไม่ต้องการระงับการใช้งานเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวเท่านั้น</translation> |
| <translation id="7895553628261067384">การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="7898807590879163195">ปิดใช้ฮาร์ตบีตของกิจกรรมในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="789975630884141379">เปิดใช้เนื้อหาที่แนะนำ</translation> |
| <translation id="7899952578398457262">ขอความยินยอมจากผู้ใช้ที่มีการจัดการเพื่อแชร์สัญญาณของอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการเพื่อรับสิทธิ์เข้าถึง</translation> |
| <translation id="7900469325540540107">เก็บข้อมูลการท่องเว็บไว้เมื่อสร้างโปรไฟล์องค์กรโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="7902040092815978832">แสดงแป้นพิมพ์ตัวเลขสำหรับรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="7904434413881624417">รายการรูปแบบ URL คำขอที่เริ่มต้นมาจากเว็บไซต์ที่แสดงโดยต้นทางที่ตรงกันจะไม่ต้องมีการตรวจสอบ<ph name="PRIVATE_NETWORK_ACCESS" /> |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า นโยบายนี้จะทำงานเหมือนตั้งค่าไว้เป็นรายการที่ว่างเปล่า |
| |
| สำหรับต้นทางที่ไม่รวมอยู่ในรูปแบบที่ระบุไว้ที่นี่ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางจากนโยบาย <ph name="INSECURE_PRIVATE_NETWORK_REQUESTS_ALLOWED_POLICY_NAME" /> (หากตั้งค่าไว้) หรือจากการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="7904584382309857420">เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วในเวอร์ชัน M121 นโยบายดังกล่าวมีไว้เพื่อเปิดใช้และปิดใช้เอกสารรับรองระยะไกลสำหรับอุปกรณ์ แต่ระบบจะเปิดใช้เอกสารนี้โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ใช้การรับรองระยะไกลกับอุปกรณ์ได้ ระบบจะสร้างการรับรองแล้วอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์การจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ไม่มีการสร้างการรับรองและเรียกใช้ <ph name="ENTERPRISE_PLATFORM_KEYS_API" /> ไม่สำเร็จ</translation> |
| <translation id="7906983682927840536">ดึงข้อมูลระยะเวลา Keepalive เมื่อปิดเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="7908384265697653397">เวลาเป็นวันก่อนที่ผู้ใช้จะออกจากระบบหากเวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> น้อยกว่า <ph name="CHROMEOS_VERSION_PROPERTY_NAME" /> ตามที่ระบุไว้</translation> |
| <translation id="7911685775490889216">กำหนดค่าช่วงเวลาเป็นวินาทีเพื่อแสดงรูปภาพเมื่อโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอล็อกมีรูปภาพหลายรูปที่จะแสดง |
| |
| ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1-9,999 วินาที การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 60 วินาที |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="7912255076272890813">กำหนดค่าประเภทแอปพลิเคชัน/ส่วนขยายที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="791267408364877739">แสดงคำเตือนด้านความปลอดภัยเมื่อมีการใช้การติดธงบรรทัดคำสั่งที่อาจเป็นอันตราย</translation> |
| <translation id="7919665519909231619">อนุญาตให้เปิดใช้ฟีเจอร์รายการช็อปปิ้ง</translation> |
| <translation id="7922358664346625612">เปิดแท็บสุดท้ายไว้ใน Chrome</translation> |
| <translation id="7923734850959347297">การตั้งค่าโปรแกรมรักษาหน้าจอ</translation> |
| <translation id="7924321157669251966">เปอร์เซ็นต์ความสว่างของหน้าจอขณะที่เครื่องทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="7925224837072026018">การตั้งค่านโยบายจะให้สิทธิ์เข้าถึงคีย์ขององค์กรแก่ส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android คีย์มีไว้สำหรับการใช้งานขององค์กรเฉพาะในกรณีที่สร้างขึ้นโดยใช้ chrome.enterprise.platformKeys API ในบัญชีที่มีการจัดการ ผู้ใช้จะให้สิทธิ์เข้าถึงคีย์ขององค์กรแก่ส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android หรือถอนสิทธิ์เข้าถึงคีย์ขององค์กรจากส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android ไม่ได้ |
| |
| โดยค่าเริ่มต้น ส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android จะใช้คีย์ที่กำหนดไว้สำหรับการใช้งานขององค์กรไม่ได้ ซึ่งเทียบเท่ากับการตั้งค่า allowCorporateKeyUsage เป็น "เท็จ" สำหรับส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android นั้น ส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android จะใช้คีย์ของแพลตฟอร์มที่มีการทำเครื่องหมายไว้สำหรับการใช้งานขององค์กรเพื่อลงนามข้อมูลที่กำหนดเองได้เฉพาะในกรณีที่มีการตั้งค่า allowCorporateKeyUsage เป็น "จริง" สำหรับส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android ดังกล่าว ควรมอบสิทธิ์นี้ต่อเมื่อมั่นใจว่าส่วนขยายหรือแอปพลิเคชัน Android มีการป้องกันการเข้าถึงคีย์จากผู้โจมตีเท่านั้น</translation> |
| <translation id="7930383470029339167">ThrottleDisplayNoneAndVisibilityHiddenCrossOriginIframes เป็นฟีเจอร์ของ Chrome ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ iframe แบบข้ามต้นทางในกระบวนการเดียวกันและข้ามกระบวนการมีลักษณะการแสดงผลที่สอดคล้องกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมในกระบวนการเดียวกันและข้ามกระบวนการได้ที่ https://chromestatus.com/feature/5175574929080320 |
| |
| นโยบายระดับองค์กรนี้มีไว้เพื่อให้ผู้ดูแลระบบควบคุมว่าจะให้ผู้ใช้เปิดการควบคุมเพิ่มเติมได้หรือไม่ เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้สามารถเปิดใช้การควบคุม เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกใช้การควบคุมได้ หรืออาจมีการเปิดใช้การควบคุมผ่าน Chrome เวอร์ชันต่างๆ</translation> |
| <translation id="793188693675675950">ปิดใช้การนำเข้าหน้าแรกเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="7932017046032784156">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะแสดงไอคอน "แคสต์" ในแถบเครื่องมือหรือในเมนูรายการเพิ่มเติม และผู้ใช้จะนำออกไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ปักหมุดหรือนำไอคอนออกได้ผ่านทางเมนูตามบริบทของไอคอนนั้นๆ |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="ENABLE_MEDIA_ROUTER_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" ค่าของนโยบายนี้ก็จะไม่มีผล และไอคอนแถบเครื่องมือจะไม่แสดงขึ้นมา</translation> |
| <translation id="7933141401888114454">เปิดใช้งานการสร้างผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="793473937901685727">ตั้งค่าความพร้อมใช้งานของใบรับรองสำหรับแอป ARC</translation> |
| <translation id="7936302526928951356">สตริง User-Agent จะไม่หยุดเวอร์ชันหลัก</translation> |
| <translation id="7937766917976512374">อนุญาตหรือปฏิเสธการจับวิดีโอ</translation> |
| <translation id="7941528208359969119">อนุญาตให้ดำเนินการตรวจสอบ <ph name="OCSP_CRL_LABEL" /> ออนไลน์</translation> |
| <translation id="7941975817681987555">อย่าคาดการณ์การทำงานของเครือข่ายจากการเชื่อมต่อเครือข่ายใดๆ</translation> |
| <translation id="7945445169067895719">เปิดใช้การล็อกเมื่ออุปกรณ์มีการระงับการใช้งานหรือพับจอ</translation> |
| <translation id="7946350455013548764">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ HID ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธการเข้าถึงอุปกรณ์ HID |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| นโยบายนี้จะถูกลบล้างสำหรับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่เจาะจงได้โดยใช้นโยบาย <ph name="WEB_HID_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และ <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="7951605113561734721">ระบุใบรับรองไคลเอ็นต์ระดับอุปกรณ์ที่ต้องลงทะเบียนโดยใช้โปรโตคอลการจัดการอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7952007677054834789">กำหนดค่าหน้าที่จะโหลดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน หน้าแรกเริ่มต้นและหน้าแท็บใหม่เริ่มต้นใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงหน้าเหล่านี้ |
| |
| การตั้งค่าหน้าแรกของผู้ใช้จะถูกล็อกโดยสมบูรณ์ หากคุณเลือกหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่ หรือตั้งค่าให้เป็น URL และระบุ URL ของหน้าแรก หากคุณไม่ได้ระบุ URL ของหน้าแรก ผู้ใช้จะยังตั้งค่าหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่ได้โดยระบุ "chrome://newtab" |
| |
| ระบบจะไม่สนใจนโยบาย "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน" เว้นแต่ว่าคุณจะเลือก "เปิดรายการ URL" ใน "การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน"</translation> |
| <translation id="7952958573604504839">เราเลิกใช้งานนโยบายนี้แล้วใน M48 เพื่อใช้นโยบาย <ph name="NETWORK_PREDICTION_OPTIONS_POLICY_NAME" /> และได้นำออกใน M54 |
| |
| เปิดใช้การคาดคะเนเครือข่ายใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ |
| |
| การตั้งค่านี้ไม่เพียงควบคุมการโหลด DNS ล่วงหน้า แต่ยังควบคุมการเชื่อมต่อ TCP และ SSL ล่วงหน้า รวมถึงการแสดงผลหน้าเว็บล่วงหน้าด้วย ชื่อนโยบายอ้างถึงการโหลด DNS ล่วงหน้าเพื่อจุดประสงค์ด้านประวัติ |
| |
| หากคุณเปิดหรือปิดใช้การตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างการตั้งค่านี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะเปิดใช้การตั้งค่านี้แต่ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้</translation> |
| <translation id="7956210013490975468">กำหนดค่าบริการพร็อกซีของระบบสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7958537754689366707">ต้องป้อนรหัสผ่านทุก 12 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="7959035883875301444">ควบคุมการใช้ JIT ใน JavaScript</translation> |
| <translation id="7961779417826583251">ปิดการบังคับใช้ความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับรายการผู้ออกใบรับรองเดิม</translation> |
| <translation id="7962093600142350905">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะแสดงเครื่องพิมพ์ Privet ที่พร้อมใช้งานต่อผู้ใช้หรือไม่ในกล่องโต้ตอบการแสดงตัวอย่างการพิมพ์ |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" จะแสดงเครื่องพิมพ์ Privet ที่พร้อมใช้งาน |
| การตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้เครื่องพิมพ์ Privet ไม่ปรากฏในตัวอย่างก่อนพิมพ์ เนื่องจากเป็นวิธีการพิมพ์ที่เลิกใช้งานแล้ว</translation> |
| <translation id="7970660709107174905">การตั้งค่าการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="7972223739742725350">อย่าเปิดใช้ Save and Share API สำหรับการควบคุม <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="7972642710812569707">บังคับให้เปิดใช้ WebSQL ในบริบทของบุคคลที่สามอีกครั้ง</translation> |
| <translation id="7973609468423251675">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนหรี่แสงหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะที่เครื่องทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะหรี่แสงหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่หรี่แสงหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้น้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาการปิดหน้าจอ (หากตั้งค่า) และระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="7974114691960514888">นโยบายนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไป เปิดใช้งานการใช้ STUN และเซิร์ฟเวอร์ถ่ายทอดเมื่อเชื่อมต่อกับไคลเอ็นต์ระยะไกล หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งาน เครื่องนี้จะสามารถค้นพบและเชื่อมต่อกับเครื่องโฮสต์ระยะไกลแม้ว่าจะถูกกั้นโดยไฟร์วอลล์ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานและการเชื่อมต่อ UDP ขาออกถูกกรองโดยไฟร์วอลล์ เครื่องนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยังเครื่องโฮสต์ภายในเครือข่ายท้องถิ่นเท่านั้น</translation> |
| <translation id="7976103461034266553">เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" JavaScript setTimeout() ที่มีระยะหมดเวลาเป็น 0 มิลลิวินาทีจะไม่ถูกปรับเป็น 1 มิลลิวินาที |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" JavaScript setTimeout() ที่มีระยะหมดเวลาเป็น 0 มิลลิวินาทีจะถูกปรับเป็น 1 มิลลิวินาที |
| เมื่อไม่มีการตั้งค่าสำหรับนโยบายนี้ ให้ใช้พฤติกรรมเริ่มต้นของเบราว์เซอร์สำหรับการปรับฟังก์ชัน setTimeout() |
| |
| ฟีเจอร์นี้เป็นไปตามมาตรฐานของเว็บ แต่อาจทำให้ลำดับงานของบางหน้าเว็บเปลี่ยนไปได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ได้คาดไว้ในเว็บไซต์ที่อาศัยการเรียงลำดับงานในบางรูปแบบ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อเว็บไซต์ที่มี setTimeout() จำนวนมากที่มีการใช้ระยะหมดเวลาที่ 0 มิลลิวินาทีด้วย เช่น ทำให้โหลดของ CPU มากขึ้น |
| |
| สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ Chrome จะทยอยทำการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยในเวอร์ชันเสถียร |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วใน Chrome 110 |
| </translation> |
| <translation id="7976157349247117979">ชื่อของปลายทาง <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="797820628785995988">หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะยกเว้นประเภทข้อมูลที่ระบุไว้ทั้งหมดจากการซิงค์ข้อมูลทั้งสำหรับ<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> และการซิงค์ข้อมูลโปรไฟล์แบบโรมมิ่ง วิธีนี้อาจช่วยลดขนาดของโปรไฟล์แบบโรมมิ่งหรือจำกัดประเภทข้อมูลที่อัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์<ph name="CHROME_SYNC_NAME" /> |
| |
| ประเภทข้อมูลปัจจุบันของนโยบายนี้ ได้แก่ "apps", "autofill", "bookmarks", "extensions", "preferences", "passwords", "payments", "readingList", "savedTabGroups", "tabs", "themes", "typedUrls", "wifiConfigurations" โดยชื่อประเภทข้อมูลเหล่านี้จะคำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ |
| |
| หมายเหตุ: การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิกรองรับเฉพาะใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 123 ขึ้นไปเท่านั้น การปิดใช้ประเภทข้อมูล "autofill" จะเป็นการปิดใช้ "payments" ด้วย "typedUrls" หมายถึงประวัติการท่องเว็บทั้งหมด</translation> |
| <translation id="7982057585796399404">การตั้งค่านโยบายนี้จะระบุรายชื่อแอปและส่วนขยายที่ติดตั้งแบบเงียบ (ไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้) และผู้ใช้จะถอนการติดตั้งหรือปิดใช้ไม่ได้ ระบบจะให้สิทธิ์โดยปริยาย ซึ่งรวมถึงสิทธิ์การใช้ API ของส่วนขยาย enterprise.deviceAttributes และ enterprise.platformKeys (API ทั้งสองนี้ใช้ไม่ได้กับแอปและส่วนขยายที่ไม่ได้บังคับติดตั้ง) |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ จะไม่มีแอปหรือส่วนขยายใดที่ติดตั้งโดยอัตโนมัติ และผู้ใช้จะถอนการติดตั้งแอปหรือส่วนขยายใดก็ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลแทนนโยบาย <ph name="EXTENSION_INSTALL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> หากมีการนำแอปหรือส่วนขยายที่บังคับติดตั้งก่อนหน้านี้ออกจากรายชื่อนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะถอนการติดตั้งแอปหรือส่วนขยายนั้นโดยอัตโนมัติ |
| |
| ผู้ใช้จะแก้ไขซอร์สโค้ดของส่วนขยายใดๆ ผ่านเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ ซึ่งอาจทำให้ส่วนขยายทำงานผิดปกติ หากกังวลว่าจะเกิดปัญหานี้ขึ้น ให้ตั้งค่านโยบาย <ph name="DEVELOPER_TOOLS_DISABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| แต่ละรายการของนโยบายเป็นสตริงที่มีรหัสส่วนขยาย และอาจมี URL อัปเดตที่คั่นด้วยเซมิโคลอน (;) รหัสส่วนขยายคือสตริงตัวอักษร 32 ตัว เช่น ที่พบใน chrome://extensions เมื่ออยู่ในโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ URL อัปเดต (หากระบุไว้) ควรชี้ไปยังเอกสาร XML ไฟล์ Manifest ของการอัปเดต ( https://developer.chrome.com/extensions/autoupdate ) URL อัปเดตควรใช้รูปแบบ <ph name="HTTP_SCHEME" />, <ph name="HTTPS_SCHEME" /> หรือ <ph name="FILE_SCHEME" /> ระบบจะใช้ URL อัปเดตของ Chrome เว็บสโตร์โดยค่าเริ่มต้น URL อัปเดตที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้จะใช้สำหรับการติดตั้งครั้งแรกเท่านั้น ส่วนการอัปเดตส่วนขยายในครั้งต่อๆ ไปจะใช้ URL อัปเดตในไฟล์ Manifest ของส่วนขยาย ลบล้าง URL อัปเดตสำหรับการอัปเดตในครั้งต่อๆ ไปได้โดยใช้นโยบาย <ph name="EXTENSION_SETTINGS_POLICY_NAME" /> โปรดดูที่ http://support.google.com/chrome/a?p=Configure_ExtensionSettings_policy |
| |
| ในอินสแตนซ์ <ph name="MS_WIN_NAME" /> จะบังคับติดตั้งแอปและส่วนขยายที่ไม่ได้มาจาก Chrome เว็บสโตร์ได้เฉพาะในกรณีที่อินสแตนซ์นั้นเข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ในอินสแตนซ์ <ph name="MAC_OS_NAME" /> จะบังคับติดตั้งแอปและส่วนขยายที่ไม่ได้มาจาก Chrome เว็บสโตร์ได้เฉพาะในกรณีที่อินสแตนซ์นั้นจัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้ไม่มีผลกับโหมดไม่ระบุตัวตน อ่านเกี่ยวกับการโฮสต์ส่วนขยาย (https://developer.chrome.com/extensions/hosting)</translation> |
| <translation id="7985242821674907985"><ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="7985781946183471651">Glanceables ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="7986473886676689183">เปิดใช้การรายงานของ Android</translation> |
| <translation id="7990280274626154329">เปิดใช้ <ph name="SEARCH_SIDE_PANEL_FEATURE_NAME" /></translation> |
| <translation id="7991022023019679916">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนปิดหน้าจอหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊ก |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าที่มากกว่า 0 จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะปิดหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 แล้ว <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะไม่ปิดหน้าจอเมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหว |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที ค่าจะถูกบีบให้เหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับระยะหน่วงเวลาของการไม่มีความเคลื่อนไหว</translation> |
| <translation id="7992613144342460685">อนุญาตสิทธิ์สำหรับตำแหน่งหน้าต่างในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="7995610550667275367">การสแกน (รองรับตั้งแต่เวอร์ชัน 87 เป็นต้นไป)</translation> |
| <translation id="7999023147219236247">นโยบายสำหรับการให้สิทธิ์คำขอเข้าถึงแอป PERMISSION_POLICY_UNSPECIFIED: ไม่มีการระบุนโยบาย หากไม่มีการระบุนโยบายสำหรับสิทธิ์ในทุกระดับ ระบบจะใช้การทำงานของ "PROMPT" โดยค่าเริ่มต้น PROMPT: แจ้งให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์ GRANT: ให้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ DENY: ปฏิเสธสิทธิ์โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="7999336306414770162">ปิดใช้การรายงานข้อมูล VPD ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="7999818120028621358">เปิดใช้การรายงานเหตุการณ์การป้องกันข้อมูลรั่วไหล</translation> |
| <translation id="8001701200415781021">จำกัดบัญชี Google ที่อนุญาตให้ตั้งค่าเป็นบัญชีหลักของเบราว์เซอร์ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8004582292198964060">เบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="8005143535239983809">นโยบายนี้ควบคุมความสามารถของเบราว์เซอร์ในการจดจํารหัสผ่านในเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ และบันทึกไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านในตัว โดยไม่จํากัดสิทธิ์เข้าถึงหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของรหัสผ่านที่บันทึกไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน และอาจซิงค์กับโปรไฟล์บัญชี Google และ <ph name="ANDROID_NAME" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ผู้ใช้จะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จดจำและบอกรหัสผ่านเมื่อลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ครั้งต่อไปได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะบันทึกรหัสผ่านใหม่ไม่ได้ แต่รหัสผ่านที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้จะยังใช้ได้อยู่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะไปเปลี่ยนค่าใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะปิดการบันทึกรหัสผ่านได้</translation> |
| <translation id="800595420827930383">ใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองของแพลตฟอร์มเดิม</translation> |
| <translation id="8006219716745491366">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ALTERNATE_URLS_POLICY_NAME" /> จะระบุรายการ URL ทางเลือกสำหรับการแยกข้อความค้นหาออกจากเครื่องมือค้นหา URL ดังกล่าวควรมีสตริง <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ALTERNATE_URLS_POLICY_NAME" /> จะทำให้ไม่มีการใช้ URL ทางเลือกเพื่อแยกข้อความค้นหา</translation> |
| <translation id="8006921530139404577">หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะไม่แสดงการเชื่อมต่อที่เกี่ยวข้องกับ UI (เช่น หน้าต่างยกเลิกการเชื่อมต่อ) สำหรับการเชื่อมต่อของการเข้าถึงจากระยะไกลที่ไม่ได้อยู่ในโหมดปิดม่าน นโยบายนี้จะไม่มีผลกับเซสชันการเข้าถึงจากระยะไกลในโหมดปิดม่านและเซสชันการสนับสนุนจากระยะไกล |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตั้งค่าเป็น "จริง" ปล่อยว่างไว้ หรือไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="8008421342605619236">กำหนดค่านโยบายสำหรับการรับส่งข้อความแบบเนทีฟ โฮสต์การรับส่งข้อความแบบเนทีฟที่ถูกบล็อกจะไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่ว่าเป็นรายการที่อนุญาตพิเศษ</translation> |
| <translation id="8011935490612940798">ควบคุมฟีเจอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8013646845541206453">ใช้ตัวตรวจสอบใบรับรองใดก็ได้</translation> |
| <translation id="8013739405949922317">การตั้งค่านี้เลิกใช้งานแล้ว ให้ใช้ <ph name="LACROS_AVAILABILITY_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> ไม่ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" ผู้ใช้จะใช้เบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="8016036090567963459">ไม่อนุญาตให้ Chrome เล่นสื่อโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="802147957407376460">หมุนหน้าจอ 0 องศา</translation> |
| <translation id="8021777486638359878">ถือว่าผู้ใช้ไม่มีการใช้งานขณะเล่นเสียง</translation> |
| <translation id="8022597231371051452">รายการที่อนุญาตสำหรับการรายงานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="8022909529579794519">การตั้งค่านี้จะกำหนดค่าเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ที่จะใช้งาน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="LACROS_SELECTION_USER_CHOICE_VALUE" /> ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะโหลดเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> ไบนารีจากพาร์ติชัน <ph name="LACROS_ROOTFS_NAME" /> หรือ <ph name="LACROS_STATEFUL_NAME" /> |
| หากผู้ใช้ไม่ได้ตั้งค่ากำหนดไว้ ระบบจะเลือกไบนารีที่มีเวอร์ชันใหม่สุด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="LACROS_SELECTION_ROOTFS_VALUE" /> ระบบจะโหลดไบนารี <ph name="LACROS_ROOTFS_NAME" /> ของเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> เสมอ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ค่าเริ่มต้นจะเป็น <ph name="LACROS_SELECTION_ROOTFS_VALUE" /> สำหรับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการและ <ph name="LACROS_SELECTION_USER_CHOICE_VALUE" /> สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ |
| |
| โปรดทราบว่าการเปลี่ยนค่าของนโยบายอาจทำให้ข้อมูลของเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> สูญหายหากเวอร์ชันที่เปลี่ยนไปของเบราว์เซอร์นั้นเก่ากว่าเวอร์ชันปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น หากนโยบายเปลี่ยนจาก <ph name="LACROS_SELECTION_USER_CHOICE_VALUE" /> |
| เป็น <ph name="LACROS_SELECTION_ROOTFS_VALUE" /> และมีการอัปเดตค่าแรก หรือหากมีการอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> พร้อมกับเบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> แบบ <ph name="LACROS_ROOTFS_NAME" /> และแบบ <ph name="LACROS_STATEFUL_NAME" /> ยังไม่ได้รับการอัปเดต |
| ระบบจะไม่รับประกันการย้ายข้อมูลที่ถูกต้องในสถานการณ์ดังกล่าว |
| |
| การใช้ <ph name="LACROS_SELECTION_USER_CHOICE_VALUE" /> หรือ <ph name="LACROS_SELECTION_ROOTFS_VALUE" /> เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย การเปลี่ยนจาก <ph name="LACROS_SELECTION_ROOTFS_VALUE" /> เป็น <ph name="LACROS_SELECTION_USER_CHOICE_VALUE" /> ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยเช่นกัน</translation> |
| <translation id="80243978433618492">ไม่อนุญาตให้กรองพารามิเตอร์ของ URL</translation> |
| <translation id="8025620823136567878">แป้นพิมพ์ลัดสากลจะแมปกับตำแหน่งของแป้นต่างๆ บนแป้นพิมพ์แทนที่จะเป็นรูปอักขระบนแป้น</translation> |
| <translation id="802776363472387903">แฮช SHA-256 ของรูปภาพ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="8028814157747157754">เปิดใช้ผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้นและอนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขรายชื่อผู้ให้บริการค้นหา</translation> |
| <translation id="8029201909194194377">ระยะเวลาเซสชันสูงสุดที่อนุญาตสำหรับการเชื่อมต่อของการเข้าถึงจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="8035570672225663428">เปิดใช้รูปแบบการชาร์จแบบปรับอัตโนมัติซึ่งจะพักขั้นตอนการชาร์จไว้ชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="8036284429246268475">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ช่วยให้ผู้ใช้สามารถให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ตรวจสอบว่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ป้อนรวมอยู่ในข้อมูลที่รั่วไหลด้วยหรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตให้มีการตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลเข้าสู่ระบบ แต่ผู้ใช้ปิดการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| ลักษณะการทำงานนี้จะไม่ทริกเกอร์ในกรณีที่ (นโยบายหรือผู้ใช้) ปิดใช้ Google Safe Browsing หากต้องการบังคับให้ Google Safe Browsing เปิดใช้งาน ให้ใช้นโยบาย <ph name="SAFE_BROWSING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือนโยบาย <ph name="SAFE_BROWSING_PROTETION_LEVEL_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="8038007682032315784">ปิดใช้ <ph name="SEARCH_SIDE_PANEL_FEATURE_NAME" /> ในหน้าเว็บทุกหน้า</translation> |
| <translation id="8044493735196713914">รายงานโหมดการบูตอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="80453040817068401">กำหนดให้เบราว์เซอร์ <ph name="LACROS_NAME" /> พร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="804619600634661088">อนุญาตให้ใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="8047600674992048328">ชื่อที่ผู้ใช้ให้เห็นได้สำหรับการกำหนดค่านี้</translation> |
| <translation id="8050080920415773384">การพิมพ์ดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="8056237304861875584">อนุญาตให้มีการเปิดใช้การทำงานอย่างต่อเนื่องในฮับโทรศัพท์</translation> |
| <translation id="8056273037819805106">ระบบจะใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เครือข่ายไปยังพร็อกซีที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="8056800559672904373">บัญชีที่จัดการต้องเป็นบัญชีหลักและไม่มีบัญชีรอง และผู้ใช้สามารถนำเข้าข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ในขณะที่สร้างโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="8059164285174960932">URL ที่ไคลเอ็นต์การเข้าถึงระยะไกลควรรับโทเค็นการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="8059352177830050556">เปิดใช้การรายงานข้อมูลแบ็กไลต์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8062375903420954294">นโยบายนี้อนุญาตให้จำกัดที่อยู่ IP และอินเทอร์เฟซที่ WebRTC จะใช้เมื่อพยายามค้นหาการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ดู RFC 8828 ส่วนที่ 5.2 (https://tools.ietf.org/html/rfc8828.html#section-5.2) โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นใช้อินเทอร์เฟซทั้งหมดที่มีอยู่เมื่อไม่ได้ตั้งค่า</translation> |
| <translation id="8062485064082966327">ใช้บริการของ Google แบบไม่ระบุตัวตนเพื่อให้คำอธิบายอัตโนมัติสำหรับรูปภาพที่ไม่มีป้ายกำกับ</translation> |
| <translation id="8066428282805800713">ส่งข้อมูลฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมบน ChromeOS Flex</translation> |
| <translation id="8066532561081127944">ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย API ของเว็บ <ph name="REQUEST_FULLSCREEN_API_NAME" /> จำเป็นต้องเรียกใช้ด้วยท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อน ("Transient Activation") มิเช่นนั้นจะดำเนินการไม่สำเร็จ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้อาจอนุญาตให้ต้นทางบางแห่งเรียกใช้ API นี้โดยไม่ต้องมีการกระทำของผู้ใช้ก่อนตามที่อธิบายไว้ใน <ph name="AUTOMATIC_FULLSCREEN_HELP_URL" /> |
| |
| นโยบายนี้มีผลแทนการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ และบล็อกต้นทางที่ตรงกันไม่ให้เรียกใช้ API เมื่อไม่มีการกระทำของผู้ใช้ก่อน |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ |
| https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns |
| ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| ต้นทางที่ตรงกับทั้งรูปแบบนโยบายที่บล็อกและอนุญาตไว้จะถูกบล็อก |
| ต้นทางที่นโยบายหรือการตั้งค่าของผู้ใช้ไม่ได้ระบุไว้จะต้องมีการกระทำของผู้ใช้ก่อนเพื่อเรียกใช้ API นี้</translation> |
| <translation id="8071371098891664137">หากมีการเลือก <ph name="PRINTERS_BLOCKLIST" /> ไว้สำหรับ <ph name="PRINTERS_BULK_ACCESS_MODE_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="PRINTERS_BULK_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> จะระบุเครื่องพิมพ์ที่ผู้ใช้จะใช้ไม่ได้ เครื่องพิมพ์ทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้ใช้นำมาใช้งาน ยกเว้นเครื่องที่มีรหัสตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ รหัสดังกล่าวต้องตรงกับช่อง <ph name="ID_FIELD" /> หรือ <ph name="GUID_FIELD" /> ในไฟล์ที่ระบุไว้ใน <ph name="PRINTERS_BULK_CONFIGURATION_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="8078297389450285582">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะเปิดใช้รูปแบบการหรี่แสงอัจฉริยะและสามารถขยายเวลาจนกว่าหน้าจอจะหรี่แสง หากมีการหน่วงเวลา ระบบจะปรับการหน่วงเวลาของการปิดหน้าจอ การล็อกหน้าจอ ตลอดจนการหน่วงเวลาที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเพื่อรักษาระยะห่างจากการหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอให้อยู่ในระดับเดียวกันกับค่าเดิมที่ตั้งไว้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่ารูปแบบการหรี่แสงอัตโนมัติจะไม่มีผลต่อการหรี่แสงของหน้าจอ</translation> |
| <translation id="8078540622602481084">ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถใช้การเข้ารหัสเนื้อหาเฉพาะพจนานุกรมในส่วนหัวของคําขอ "ยอมรับการเข้ารหัส" ("sbr" และ "zst-d") ได้เมื่อมีพจนานุกรมพร้อมใช้งาน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ยอมรับเนื้อหาเว็บโดยใช้ฟีเจอร์การส่งพจนานุกรมการบีบอัด |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดฟีเจอร์การส่งพจนานุกรมการบีบอัด</translation> |
| <translation id="8079544387901313374">โปรดทราบว่าเราเลิกใช้งานนโยบายนี้และนําออกจาก "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" เวอร์ชัน 88 แล้ว รวมถึงไม่รองรับเซสชันสาธารณะอีกต่อไป โปรดใช้ <ph name="DEVICE_LOCAL_ACCOUNTS_POLICY_NAME" /> เพื่อกำหนดค่าเซสชันผู้มาเยือนที่มีการจัดการแทน |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" เซสชันผู้มาเยือนที่มีการจัดการจะทำงานตามลักษณะที่บันทึกไว้ใน https://support.google.com/chrome/a/answer/3017014 - "เซสชันสาธารณะ" มาตรฐาน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า เซสชันผู้มาเยือนที่มีการจัดการจะใช้ลักษณะการทำงานของ "เซสชันที่มีการจัดการ" ซึ่งจะยกเลิกข้อจำกัดจำนวนมากที่มีอยู่ใน "เซสชันสาธารณะ" ทั่วไป |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างนโยบายไม่ได้</translation> |
| <translation id="8080200590486938727">ปิดใช้เครื่องมือค้นหาปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="8086746212954621799">ปิดใช้การอัปเดตอัตโนมัติเมื่อตั้งค่าเป็น "จริง" |
| |
| อุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตรวจหาการอัปเดตโดยอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" |
| |
| คำเตือน: ขอแนะนำให้เปิดใช้การอัปเดตอัตโนมัติไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์และการแก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่สำคัญ การปิดการอัปเดตอัตโนมัติอาจทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยง</translation> |
| <translation id="8089200718228084417">เปิดใช้การพิมพ์ Privet ที่เลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="8091982561085048989">ธงบูลีนที่ระบุว่าควรใช้ IPP Everywhere เพื่อตั้งค่าเครื่องพิมพ์หรือไม่ ธงนี้ได้รับการรองรับใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 76 ขึ้นไป</translation> |
| <translation id="8094095107731619070">เปิดใช้ฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริงเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="8099880303030573137">ระยะหน่วงเวลาของการไม่ใช้งานเมื่อทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="8101381354936029836">กลุ่มขนาดเล็กของนโยบาย</translation> |
| <translation id="8102854005031553638">โปรแกรมอ่าน PDF ใช้ตัวแสดงผล AGG</translation> |
| <translation id="8102913158860568230">การตั้งค่า mediastream เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8104962233214241919">เลือกใบรับรองไคลเอ็นต์สำหรับไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="8109762054721090517">เทมเพลตสำหรับ<ph name="IPP_ATTRIBUTE" /> <ph name="CLIENT_NAME_IPP_ATTRIBUTE" /> <ph name="INTERNET_PRINTING_PROTOCOL" /></translation> |
| <translation id="8111331908123507719">กำหนดค่าเวลาเป็นวินาทีที่ต้องการให้อุปกรณ์รอเมื่อไม่มีการใช้งานก่อนแสดงโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอล็อก |
| |
| ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1-9,999 วินาที การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 7 วินาที |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลใดๆ หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SCREENSAVER_LOCK_SCREEN_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ"</translation> |
| <translation id="8113731369695819720">ปิดใช้ฟีเจอร์เสียงโมโนในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8114382167597081590">ไม่บังคับใช้โหมดที่จำกัดใน YouTube</translation> |
| <translation id="8117662664312039036">ไม่อนุญาตให้อุปกรณ์ใช้ PluginVm</translation> |
| <translation id="8117921351531866504">อนุญาตให้คุณตั้งค่าว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ตรวจสอบว่าผู้ใช้บันทึกวิธีการชำระเงินไว้ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะแจ้งเว็บไซต์ที่ใช้ API PaymentRequest.canMakePayment หรือ PaymentRequest.hasEnrolledInstrument ว่าไม่มีวิธีการชำระเงินพร้อมใช้งาน |
| |
| หากตั้งค่าเป็นเปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ เว็บไซต์จะได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบว่าผู้ใช้บันทึกวิธีการชำระเงินไว้หรือไม่</translation> |
| <translation id="8118665053362250806">ตั้งค่าขนาดแคชของดิสก์สื่อ</translation> |
| <translation id="8123648898339555150">อนุญาตให้จัดเก็บหน้าที่มีส่วนหัว <ph name="CACHE_CONTROL_NO_STORE_NAME" /> ใน Back-Forward Cache</translation> |
| <translation id="8124468781472887384">นโยบายการเข้าถึงการกำหนดค่าเครื่องพิมพ์สำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8128192446158421884">URL ที่ใช้กับ AutoOpenFileTypes ได้</translation> |
| <translation id="8131046602440880289">อนุญาตเสียงของการอ่านออกเสียงข้อความของเครือข่ายที่ปรับปรุงเมื่อใช้ "เลือกเพื่อให้อ่าน"</translation> |
| <translation id="8132419228205300235">ไม่แสดงหน้าจอแนะนำ AI ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8133152694354699657">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ฟีเจอร์แตะเพื่อค้นหาพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ โดยผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดฟีเจอร์แตะเพื่อค้นหา</translation> |
| <translation id="81354521512895891">เปิดใช้คอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8136081272045145135">ไม่แชร์ผลลัพธ์จากการล้างข้อมูลด้วยฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome กับ Google</translation> |
| <translation id="8136345780578030573">เปิดใช้ชุดบุคคลที่หนึ่ง</translation> |
| <translation id="8136906469922284163">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" อนุญาตให้หน้าเว็บแสดงป๊อปอัปในขณะที่มีการยกเลิกการโหลด |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะป้องกันไม่ให้หน้าเว็บแสดงป๊อปอัปในขณะที่มีการยกเลิกการโหลด |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีใน Chrome 88 และการตั้งค่าจะไม่มีผลแต่อย่างใด |
| |
| โปรดดูที่ https://www.chromestatus.com/feature/5989473649164288</translation> |
| <translation id="8137443729340035928">ถามผู้ใช้เมื่อเข้าสู่ระบบว่าจะคืนค่าเซสชันล่าสุดหรือไม่</translation> |
| <translation id="8141795997560411818">นโยบายนี้ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใช้แอป Google ไดรฟ์ของ Android หากต้องการป้องกันเข้าถึง Google ไดรฟ์ คุณควรยกเลิกการอนุญาตให้ติดตั้งแอป Google ไดรฟ์ของ Android</translation> |
| <translation id="8142894094385450823">กำหนดภาษาที่แนะนำสำหรับเซสชันที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="8147132931626030921">ตั้งสถานะของฟีเจอร์หน้าจอส่วนตัวในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้หน้าจอส่วนตัวเมื่อหน้าจอการเข้าสู่ระบบแสดงขึ้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้หน้าจอส่วนตัวเมื่อหน้าจอการเข้าสู่ระบบแสดงขึ้น |
| |
| เมื่อมีการตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะลบล้างค่าไม่ได้เมื่อหน้าจอการเข้าสู่ระบบแสดงขึ้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้หน้าจอส่วนตัวในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะยังควบคุมได้ต่อไปเมื่อหน้าจอการเข้าสู่ระบบแสดงขึ้น</translation> |
| <translation id="814753199998535240">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้วตั้งแต่รุ่น M96 โปรดใช้ <ph name="REPORT_DEVICE_CPU_INFO" />, <ph name="REPORT_DEVICE_MEMORY_INFO" />, <ph name="REPORT_DEVICE_STORAGE_STATUS" />, <ph name="REPORT_DEVICE_SECURITY_STATUS" /> และ <ph name="REPORT_DEVICE_AUDIO_STATUS" /> แทน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานสถิติด้านฮาร์ดแวร์ เช่น การใช้งาน CPU/RAM |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานสถิติด้านฮาร์ดแวร์</translation> |
| <translation id="8147730407149297036">ปิดใช้การตรวจหาการรั่วไหลของรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="815061180603915310">หากตั้งค่าเป็นเปิดใช้นโยบาย นโยบายนี้จะบังคับให้โปรไฟล์เปลี่ยนเป็นโหมดชั่วคราว หากระบุนโยบายนี้เป็นนโยบาย OS (เช่น GPO ใน Windows) นโยบายจะใช้กับทุกโปรไฟล์บนระบบ หากตั้งค่านโยบายเป็นนโยบายระบบคลาวด์ นโยบายจะใช้กับโปรไฟล์ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีการจัดการเท่านั้น |
| |
| ในโหมดนี้ ข้อมูลโปรไฟล์จะยังอยู่ในดิสก์เป็นเวลาเท่ากับเซสชันของผู้ใช้เท่านั้น จะไม่มีการเก็บฟีเจอร์ต่างๆ หลังปิดเบราว์เซอร์ เช่น ประวัติการเข้าชมของเบราว์เซอร์ ส่วนขยายและข้อมูลของส่วนขยาย ข้อมูลเว็บ เช่น คุกกี้และฐานข้อมูลเว็บ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงสามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ลงในดิสก์ บันทึกหน้าหรือพิมพ์หน้าดังกล่าวด้วยตนเอง |
| |
| หากผู้ใช้ได้เปิดใช้การซิงค์ ข้อมูลทั้งหมดนี้จะเก็บไว้ในโปรไฟล์การซิงค์ของพวกเขาเหมือนกับโปรไฟล์ทั่วไป ทั้งนี้โหมดไม่ระบุตัวตนยังสามารถใช้งานได้หากไม่ได้ปิดใช้ตามนโยบาย |
| |
| หากตั้งค่าปิดใช้นโยบายหรือไม่ตั้งค่า การลงชื่อเข้าใช้จะนำไปสู่โปรไฟล์ทั่วไป</translation> |
| <translation id="8151299379693359769">เปิดใช้การตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยอิงเอกสารรับรองทางไกล (ไม่บังคับ โดยค่าเริ่มต้นคือ "จริง")</translation> |
| <translation id="8151490482515839285">เปิดใช้การรายงานการป้องกันข้อมูลรั่วไหล</translation> |
| <translation id="8158758865057576716">เปิดใช้การสร้างสำเนาโรมมิ่งสำหรับข้อมูลโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8158897487095710470">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะแสดงแถบบุ๊กมาร์กใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้จะไม่เห็นแถบบุ๊กมาร์กเลย |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เลือกว่าจะใช้ฟังก์ชันนี้หรือไม่</translation> |
| <translation id="8159760979508295709">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์เคอร์เซอร์ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่ไฮไลต์บริเวณโดยรอบเคอร์เซอร์เมาส์ขณะที่เลื่อนเคอร์เซอร์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการไฮไลต์เคอร์เซอร์ไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการไฮไลต์เคอร์เซอร์ไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์ไฮไลต์เคอร์เซอร์ในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="8160572976152509481">อนุญาตให้ผู้ใช้ปิดอุปกรณ์โดยใช้ปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์เท่านั้น</translation> |
| <translation id="8164144100557223371">ปิดจุดเข้าใช้งานแถบเครื่องมือสำหรับฟีเจอร์ทดลองของเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="8164687848393015214">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะส่งการตรวจสอบแพ็กเก็ตเครือข่าย (<ph name="HEARTBEATS_TERM" />) ไปยังเซิร์ฟเวอร์การจัดการเพื่อตรวจสอบสถานะออนไลน์ เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ออฟไลน์อยู่หรือไม่ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะไม่ส่งแพ็กเก็ต</translation> |
| <translation id="8168359201203671567">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีรุ้ง</translation> |
| <translation id="8169452762291746260">ปิดใช้การตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8171262216089271568">เปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8171924760436219650">สลับปุ่มหลักของเมาส์ไปเป็นปุ่มด้านขวาในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="81724933026241365">อนุญาตให้ผู้ใช้ปิดอุปกรณ์โดยใช้ไอคอนปิดหรือปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์ก็ได้</translation> |
| <translation id="8173864651667424191">ตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพจะมีค่าเริ่มต้นเป็นตั้งค่าสำหรับตัวอย่างก่อนพิมพ์เอกสาร PDF เมื่อพร้อมใช้งาน</translation> |
| <translation id="8175922758834816585">เปิดใช้ฟีเจอร์อธิบายและอ่านออกเสียงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้ปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="8176035528522326671">อนุญาตให้ผู้ใช้ขององค์กรเป็นผู้ใช้หลักแบบหลายโปรไฟล์เท่านั้น (ค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ที่มีองค์กรเป็นผู้จัดการ)</translation> |
| <translation id="8179082421668183060">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นรายการสตริงหมายความว่า สตริงดังกล่าวจะเชื่อมต่อกันด้วยการเว้นวรรคและส่งผ่าน <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ไปยัง <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในแบบพารามิเตอร์บรรทัดคำสั่ง หากพารามิเตอร์มี <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ก็จะมีการแทนที่ <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ด้วย URL ของหน้าเว็บที่จะเปิด หากไม่มีพารามิเตอร์ใดที่มี <ph name="URL_PLACEHOLDER" /> ระบบจะใส่ URL ดังกล่าวต่อท้ายบรรทัดคำสั่ง |
| |
| ระบบจะขยายตัวแปรสภาพแวดล้อม โดยใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> จะแทนที่ <ph name="ENV_VARIABLE_WIN_EXAMPLE" /> ด้วยค่าตัวแปรสภาพแวดล้อม <ph name="ENV_VARIABLE_VALUE" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่า <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> จะส่ง URL ไป <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในแบบพารามิเตอร์บรรทัดคำสั่งเท่านั้น |
| |
| หมายเหตุ: หากไม่ได้มีการติดตั้ง Add-in การรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่าสำหรับ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> ไว้ นโยบายนี้ก็จะไม่มีผล</translation> |
| <translation id="8179161412673077784">ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ที่มีประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมาะสมเปิดหน้าต่างหรือแท็บใหม่</translation> |
| <translation id="8183108371184777472">ระงับการเปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ขึ้นมา</translation> |
| <translation id="8185312100223853315">ป้ายกำกับโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="8186911565834244165">อนุญาตความคิดเห็นจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8195133650230097559">ไม่สนใจคำขอ Wake Lock เพื่อการจัดการพลังงาน</translation> |
| <translation id="8196558469954193908">นโยบายนี้อนุญาตให้มีการรวมการเชื่อมต่อ HTTP/2 เมื่อใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์อยู่ โดยทั้งชื่อโฮสต์ของการเชื่อมต่อใหม่ที่เป็นไปได้และชื่อโฮสต์ของการเชื่อมต่อเดิมต้องตรงกับรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งที่อธิบายไว้ในนโยบายนี้ จึงจะรวมการเชื่อมต่อได้ นโยบายนี้คือรายการโฮสต์ที่ใช้รูปแบบตัวกรอง <ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> ได้แก่ "example.com" ตรงกับ "example.com" และโดเมนย่อยทั้งหมด (เช่น "sub.example.com") ขณะที่ ."example.net" ตรงกับ "example.net" ทุกประการ |
| |
| คำขอรวมกับโฮสต์อื่นผ่านการเชื่อมต่อที่ใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์อาจสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เนื่องจากผู้ออกใบรับรองแวดล้อมจะได้รับคำขอทั้งหมด แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ให้สิทธิ์อย่างชัดแจ้ง นโยบายนี้เป็นแบบชั่วคราวและระบบจะนำออกในรุ่นต่อไป โปรดดู https://crbug.com/855690 |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นที่ไม่อนุญาตการรวมการเชื่อมต่อ HTTP/2 ในการเชื่อมต่อที่ใช้ใบรับรองไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="8197373549462388216">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ดำเนินการต่อจากหน้าคำเตือนที่บริการ Google Safe Browsing แสดงและไปยังเว็บไซต์อันตราย นโยบายนี้ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ดำเนินการต่อในกรณีที่ได้รับคำเตือนจาก Google Safe Browsing เช่น มัลแวร์และฟิชชิงเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับใบรับรอง SSL เช่น ใบรับรองไม่ถูกต้องหรือหมดอายุ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าผู้ใช้เลือกที่จะดำเนินการต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีการแจ้งว่าไม่เหมาะสมหลังจากที่คำเตือนปรากฏขึ้นได้ |
| |
| ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing (https://developers.google.com/safe-browsing)</translation> |
| <translation id="8199823751103472868">การตั้งค่านโยบายจะเปิดใช้เลย์เอาต์แป้นพิมพ์ภาษาฮินดีใน "<ph name="PRODUCT_OS_NAME" />" หากตั้งค่าเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า เลย์เอาต์จะใช้งานไม่ได้</translation> |
| <translation id="8202834945144737726">เปิดใช้โฟลว์เอกสารรับรองของ <ph name="CHROME_ENTERPRISE_DEVICE_TRUST_CONNECTOR" /> สำหรับรายการ URL ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8213475033260328041">เลือกเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมของคุณจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไว้ในสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ต้องการ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น <ph name="DATA_REGION_SETTING_NO_PREFERENCE_OPTION_NAME" /> (ค่า 0) ระบบอาจจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมไว้ในสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ใดก็ได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="DATA_REGION_SETTING_UNITED_STATES_OPTION_NAME" /> (ค่า 1) ระบบจะจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมในสหรัฐอเมริกา |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="DATA_REGION_SETTING_EUROPE_OPTION_NAME" /> (ค่า 2) ระบบจะจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมในยุโรป</translation> |
| <translation id="8213770777756919897">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะมีการระบุการทำงานของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เมื่อผู้ใช้ไม่มีความเคลื่อนไหวนานประมาณหนึ่งตามระยะหน่วงเวลาของการไม่ใช้งาน ซึ่งกำหนดค่าแยกต่างหากได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะดำเนินการตามค่าเริ่มต้นซึ่งก็คือระงับการทำงาน |
| |
| หากมีการระงับการทำงาน คุณจะกำหนดค่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แยกต่างหากเพื่อให้ล็อกหรือไม่ล็อกหน้าจอก่อนที่จะมีการระงับได้</translation> |
| <translation id="8214600119442850823">กำหนดค่าตัวจัดการรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="8217664958939773083">การตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="ENABLED" /> หรือไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้ใช้โหมดไม่มีส่วนหัว การตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="DISABLED" /> จะปฏิเสธการใช้โหมดไม่มีส่วนหัว</translation> |
| <translation id="8217837574199617401">นโยบายนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบกำหนดค่ารายการรหัสส่วนขยายที่จำเป็นสำหรับการไปยังส่วนต่างๆ ในโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| ผู้ใช้ต้องอนุญาตอย่างชัดแจ้งให้ส่วนขยายทั้งหมดในรายการนี้ทำงานในโหมดไม่ระบุตัวตน ไม่เช่นนั้นระบบจะไม่อนุญาตการไปยังส่วนต่างๆ ในโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| หากไม่ได้ติดตั้งส่วนขยายที่ระบุในนโยบายนี้ ระบบจะบล็อกการไปยังส่วนต่างๆ ในโหมดไม่ระบุตัวตน |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับโหมดไม่ระบุตัวตน ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเปิดใช้โหมดไม่ระบุตัวตนในเบราว์เซอร์ หากปิดใช้โหมดไม่ระบุตัวตนผ่านนโยบาย <ph name="INCOGNITO_MODE_AVAILABILITY" /> นโยบายนี้จะไม่มีผล</translation> |
| <translation id="8219813789911069300">บล็อกการดาวน์โหลดที่เป็นอันตราย แนะนำ</translation> |
| <translation id="8220023426952118761">อัตราการดาวน์โหลดที่ต้องการเป็นหน่วย kbits/s</translation> |
| <translation id="8220156281401380422">กำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการรับส่งข้อความดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="822055204938220476">รายการ URL ที่ได้รับอนุญาตให้คงอยู่ในโหมดเต็มหน้าจอโดยไม่ต้องแสดงการแจ้งเตือน</translation> |
| <translation id="8225579382697740712">ควบคุมการใช้ WebHID API</translation> |
| <translation id="8229912067600517877">เปิดใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์</translation> |
| <translation id="8234565689501421293">ฟีเจอร์ "สร้างธีมด้วย AI" ช่วยให้ผู้ใช้สร้างธีม/วอลเปเปอร์ที่กำหนดเองได้โดยการเลือกรายการตัวเลือกไว้ล่วงหน้า |
| |
| 0 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แล้วส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยัง Google เพื่อช่วยฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอาจรวมถึงพรอมต์ อินพุต เอาต์พุต และเนื้อหาแหล่งที่มา โดยทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์นั้นๆ อาจมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงโมเดล AI เท่านั้น |
| |
| 0 คือค่าเริ่มต้น เว้นแต่จะระบุไว้ด้านล่าง |
| |
| 1 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยัง Google เพื่อฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI 1 คือค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| 2 = ปิดใช้ฟีเจอร์ 2 คือค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชี Education ที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลสำหรับฟีเจอร์ Generative AI ได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=generative_ai_settings</translation> |
| <translation id="8238421250255592181">ธงบูลีนที่ระบุว่าแป้นพิมพ์บนหน้าจอจะมีฟีเจอร์การเติมคำอัตโนมัติหรือไม่</translation> |
| <translation id="8239109177194627162">ปิดใช้ฟีเจอร์ป้อนข้อความอัตโนมัติสำหรับบัตรเครดิต</translation> |
| <translation id="8239143983379015783">บังคับให้เปิดใช้โควต้าถาวร</translation> |
| <translation id="8244171102276095471">เปิดใช้ชุดการเข้ารหัส RC4 ใน TLS</translation> |
| <translation id="8244525275280476362">การหน่วงเวลาสูงสุดในการดึงข้อมูลภายหลังการลบล้างนโยบาย</translation> |
| <translation id="8245574649143980200">การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้ผู้ใช้ดูและใช้รายการในเมนูการค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในเมนูตามบริบท การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นรายการในเมนูการค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในเมนูตามบริบทในกรณีที่รองรับการค้นหาภูมิภาคของ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8247143534027746614">บล็อกการเข้าถึงรายการรูปแบบ URL ในระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="824818544897669723">ปิดใช้การลบเบราว์เซอร์และประวัติการดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="8250048892729838843">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์รับการควบคุมการรายงานแบบละเอียดได้ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้จะไม่ได้รับการควบคุมการรายงานแบบละเอียด</translation> |
| <translation id="82530263956734297">รหัสส่วนขยายที่ได้รับการยกเว้นจากรายการที่บล็อก</translation> |
| <translation id="8254792295762772851">การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น <ph name="DISPLAY_MANAGEMENT_LABEL_PERMAMENT_VALUE" /> (ค่า 0) จะแสดงป้ายกำกับ "ที่ทำงาน" หรือ "โรงเรียน" ข้างรูปโปรไฟล์ของแถบเครื่องมือ |
| ป้ายกำกับเหล่านี้จะแสดงก็ต่อเมื่อบัญชีที่ลงชื่อเข้าใช้มีการจัดการบัญชี |
| |
| การตั้งค่าเป็น <ph name="DISPLAY_MANAGEMENT_LABEL_TRANSIENT_VALUE" /> (ค่า 1) จะแสดงป้ายกำกับ "ที่ทำงาน" หรือ "โรงเรียน" ข้างรูปโปรไฟล์ของแถบเครื่องมือเป็นเวลา 30 วินาทีหลังจากเปิดโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="8256006033157034334">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้ <ph name="PRINTERS_BULK_ACCESS_MODE_POLICY_NAME_POLICY_NAME" /> แทน</translation> |
| <translation id="8256688113167012935">ควบคุมชื่อบัญชี <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่แสดงในหน้าลงชื่อเข้าใช้สำหรับบัญชีภายในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกัน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ หน้าลงชื่อเข้าใช้จะใช้ข้อมูลที่ระบุในตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้แบบรูปภาพสำหรับบัญชีภายในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะใช้ ID บัญชีอีเมลของบัญชีภายในอุปกรณ์เป็นชื่อสำหรับแสดงในหน้าลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลกับบัญชีผู้ใช้ทั่วไป</translation> |
| <translation id="8257863622304579015">เปิดใช้แซนด์บ็อกซ์ของบริการเครือข่าย</translation> |
| <translation id="8259375588339409826">ทั้ง Chromium และ Google Chrome รองรับนโยบายชุดเดียวกัน โปรดทราบว่าเอกสารนี้อาจมีนโยบายที่ยังไม่ได้เผยแพร่ (รายการ "รองรับใน" หมายถึงเวอร์ชันที่ยังไม่เปิดตัวของ <ph name="PRODUCT_NAME" />) ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือนำออกโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่มีการรับประกันใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งไม่มีการรับประกันในแง่คุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผลิตภัณฑ์ |
| |
| นโยบายเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการกำหนดค่าอินสแตนซ์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ภายในองค์กรของคุณเท่านั้น การใช้นโยบายภายนอกองค์กร (ตัวอย่างเช่น ในโปรแกรมที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ) จะถือว่าเป็นมัลแวร์และมีแนวโน้มที่ Google และผู้ให้บริการป้องกันไวรัสจะติดป้ายว่าเป็นมัลแวร์ |
| |
| คุณไม่ต้องกำหนดการตั้งค่าเหล่านี้ด้วยตนเอง เพราะมีเทมเพลตที่ใช้งานง่ายสำหรับ Windows, Mac และ Linux ให้ดาวน์โหลดจาก <ph name="POLICY_TEMPLATE_DOWNLOAD_URL" /> |
| |
| วิธีกำหนดค่านโยบายใน Windows ที่แนะนำคือผ่าน GPO แม้จะยังคงมีการรองรับการจัดสรรนโยบายผ่านรีจิสทรีสำหรับอินสแตนซ์ Windows ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" /> ก็ตาม</translation> |
| <translation id="8261008508574620157">นโยบายสำหรับควบคุมว่าผู้ใช้จะเห็นข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> หรือไม่ |
| ข้อความแจ้งนี้จะบล็อกการทำงานของผู้ใช้โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับการตั้งค่าของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ดูรายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามของ Chrome ในการเลิกใช้งานคุกกี้ของบุคคลที่สามได้ที่ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_URL" /> |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่แสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะพิจารณาว่าจะแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ได้หรือไม่ จากนั้นจะแสดงหากเป็นไปได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายต่อไปนี้ก็จะต้องตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" |
| <ph name="PRIVACY_SANDBOX_AD_TOPICS_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| <ph name="PRIVACY_SANDBOX_SITE_ENABLED_ADS_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| <ph name="PRIVACY_SANDBOX_AD_MEASUREMENT_ENABLED_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="826163650738550159">นโยบายนี้จะให้สิทธิ์เข้าถึงหน้าทดสอบนโยบาย โดยระบบจะไม่สนใจนโยบายอื่นๆ ทั้งหมดในขณะที่ทดสอบนโยบายในหน้านี้ |
| ฟีเจอร์จะใช้ได้ในเวอร์ชัน Canary เท่านั้น |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่าก็จะเข้าถึงหน้าเว็บได้ |
| แต่หากปิดใช้นโยบาย หน้าเว็บจะถูกบล็อก</translation> |
| <translation id="8266778278542911985">การตั้งค่านโยบายเป็น 3 จะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรมได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธสิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรม |
| |
| การไม่ตั้งค่าจะให้เว็บไซต์ขอสิทธิ์เข้าถึงได้ แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="8267520984570984190">ไม่แก้ไขลักษณะการทำงานเริ่มต้นในการปรับขนาดของแป้นพิมพ์เสมือน</translation> |
| <translation id="8269238942896230153">บัญชีที่จัดการต้องเป็นบัญชีหลัก และผู้ใช้สามารถนำเข้าข้อมูลการท่องเว็บที่มีอยู่ในขณะที่สร้างโปรไฟล์</translation> |
| <translation id="8270320981823560179">ไดรฟ์</translation> |
| <translation id="827054846390793641">เปิดใช้การแสดง UI ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อบนเดสก์ท็อปของโฮสต์เมื่อมีการเชื่อมต่อ</translation> |
| <translation id="8272422063636310696">ควบคุมว่าจะรายงานหน้าเว็บที่ใช้เทคโนโลยีเดิมหรือไม่ โดยอิงตาม URL ของหน้าเว็บ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายแล้ว ระบบจะใช้ URL ที่มีคำนำหน้าตรงกับรายการที่อนุญาตเพื่อสร้างรายงานและอัปโหลด โดยจะไม่สนใจ URL ที่ไม่ตรงกัน |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าให้ใช้กับรายการที่ว่างเปล่า จะไม่มีการสร้างรายงาน |
| |
| รูปแบบที่ตรงกันใช้รูปแบบที่คล้ายกับของนโยบาย "<ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" ตามที่บันทึกไว้ใน https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format โดยมีข้อยกเว้นบางประการด้านล่างดังนี้ |
| * ไม่รองรับไวลด์การ์ด "*" |
| * ระบบจะไม่พิจารณาสคีมา พอร์ต และคำค้นหา |
| * เพิ่ม URL ลงในรายการที่อนุญาตได้สูงสุด 100 รายการ |
| |
| สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> นโยบายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> เท่านั้น |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเดิมได้ที่ https://chromestatus.com/features</translation> |
| <translation id="8273183018575414926">Progressive Web App</translation> |
| <translation id="8274603902181597201">ล้างข้อมูลไดเรกทอรีหลักที่เข้ารหัสของผู้ใช้และเริ่มด้วยไดเรกทอรีหลักใหม่แบบ ext4 ที่เข้ารหัส</translation> |
| <translation id="8274926413890711289">เปิดใช้การควบคุมการรายงานแบบละเอียด</translation> |
| <translation id="8275103737670730746">อนุญาตให้เรียกใช้ File API หรือ Directory Picker API โดยไม่ต้องมีท่าทางสัมผัสของผู้ใช้ก่อนหน้า</translation> |
| <translation id="8278133379873210419">ระงับกล่องโต้ตอบ JavaScript ที่เกิดจากเฟรมย่อยที่เป็นต้นทางเฟรมอื่น</translation> |
| <translation id="8284296539558710573">พรอมต์การตรวจสอบสิทธิ์ HTTP แบบข้ามต้นทาง</translation> |
| <translation id="8284527236880877730">หากปิดใช้ <ph name="POWER_SMART_DIM_ENABLED_POLICY_NAME" /> การตั้งค่า <ph name="PRESENTATION_SCREEN_DIM_DELAY_SCALE_POLICY_NAME" /> จะระบุเปอร์เซ็นต์การปรับขนาดการหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอเมื่ออุปกรณ์กำลังนำเสนอ เมื่อมีการปรับขนาดการหน่วงเวลาการหรี่แสง ระบบจะปรับการหน่วงเวลาของการปิดหน้าจอ การล็อกหน้าจอ ตลอดจนการหน่วงเวลาที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเพื่อรักษาระยะห่างจากการหน่วงเวลาการหรี่แสงหน้าจอให้อยู่ในระดับเดียวกันกับค่าเดิมที่ตั้งไว้ |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ค่าตัวคูณมาตราส่วนเริ่มต้น |
| |
| หมายเหตุ: ค่าตัวคูณมาตราส่วนต้องเท่ากับ 100% ขึ้นไป</translation> |
| <translation id="8284621384813278750">เลือกว่าจะปิดใช้การตั้งค่าหัวข้อโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="8285435910062771358">เปิดใช้งานแว่นขยายแบบเต็มหน้าจอ</translation> |
| <translation id="828566872219880247">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้การสร้างคีย์ หากมีรูปแบบ URL ใน "KeygenBlockedForUrls" นโยบายนี้จะลบล้างข้อยกเว้นเหล่านี้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นส่วนกลางกับเว็บไซต์ทั้งหมด โดยนำมาจากนโยบาย "DefaultKeygenSetting" หากมีการตั้งค่าไว้ มิเช่นนั้น จะนำมาจากการกำหนดค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8288199156259560552">เปิดใช้บริการตำแหน่งของ Google ใน Android</translation> |
| <translation id="8289824033213234651">ระบบจะเปิดใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่เมื่ออุปกรณ์ใช้พลังงานแบตเตอรี่และระดับแบตเตอรี่เหลือน้อย</translation> |
| <translation id="8290875622178450531">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการเขียนตามคำบอก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการเขียนตามคำบอกไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการเขียนตามคำบอกไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์เขียนตามคำบอกในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="8293414596801971604">นิพจน์ทั่วไปที่ตรงกับชื่อที่แสดงของเครื่องพิมพ์</translation> |
| <translation id="8293509904023267821">หากตั้งค่านโยบายนี้ ข้อมูลในคลิปบอร์ดที่ส่งไปยังและส่งจากโฮสต์จะถูกตัดให้อยู่ในขีดจำกัดที่นโยบายกำหนด |
| |
| การตั้งค่าเป็น 0 เป็นการปิดใช้การซิงค์คลิปบอร์ด |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับทั้งสถานการณ์การเข้าถึงและการสนับสนุนระยะไกล |
| |
| และจะไม่มีผลหากไม่ได้ตั้งค่า |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็นค่าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงต่ำสุด/สูงสุดอาจทำให้โฮสต์ไม่เริ่มทำงาน |
| |
| โปรดทราบว่าขีดจำกัดสูงสุดจริงของขนาดคลิปบอร์ดขึ้นอยู่กับขนาดสูงสุดของข้อความช่องข้อมูล WebRTC</translation> |
| <translation id="8294750666104911727">ตามปกติหน้าที่มีการตั้งค่า X-UA-Compatible เป็น Chrome=1 จะได้รับการแสดงผลใน <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> ไม่ว่านโยบาย "ChromeFrameRendererSettings" จะเป็นเช่นไร |
| |
| หากคุณเปิดใช้การตั้งค่านี้ หน้าจะไม่ได้รับการสแกนหาเมตาแท็ก |
| |
| หากคุณปิดใช้การตั้งค่านี้ หน้าจะได้รับการสแกนหาเมตาแท็ก |
| |
| หากนโยบายนี้ไม่ได้รับการตั้งค่า หน้าจะได้รับการสแกนหาเมตาแท็ก</translation> |
| <translation id="8295496526151576383">นโยบายนี้ระบุส่วนขยายที่อนุญาตให้ข้ามกล่องโต้ตอบการยืนยันงานพิมพ์เมื่อส่วนขยายนั้นใช้ฟังก์ชัน <ph name="SUBMIT_JOB_FUNCTION" /> ของ <ph name="PRINTING_API" /> เพื่อส่งงานพิมพ์ |
| |
| หากส่วนขยายใดไม่อยู่ในรายการหรือไม่ได้ตั้งค่ารายการไว้ ระบบจะแสดงกล่องโต้ตอบการยืนยันงานพิมพ์ให้ผู้ใช้เห็นทุกครั้งที่มีการเรียกใช้ฟังก์ชัน <ph name="SUBMIT_JOB_FUNCTION" /></translation> |
| <translation id="8300992833374611099">ควบคุมว่าเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะใช้ในที่ใดได้บ้าง</translation> |
| <translation id="8301065459352777588">ผู้ใช้เซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการจะจัดเก็บการตั้งค่าการแสดงผลแบบทั่วทั้งอุปกรณ์ได้</translation> |
| <translation id="8303780229975459754">อนุญาตให้ Chrome แสดงคำเตือนเมื่อเปิดใช้ในระบบที่ไม่รองรับ</translation> |
| <translation id="8303923135132440974">ควบคุมกล่องโต้ตอบ "เตือนก่อนออก (⌘Q)" เมื่อผู้ใช้พยายามออกจากเบราว์เซอร์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า กล่องคำเตือนจะแสดงขึ้นมาเมื่อผู้ใช้พยายามออก |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" กล่องคำเตือนจะไม่แสดงขึ้นมาเมื่อผู้ใช้พยายามออก</translation> |
| <translation id="830440838848984847">อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8306117673860983372">การตั้งค่าการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8307340233340602723">อนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="830819203330820450">หากเปิดใช้หรือไม่ได้กำหนดค่า (ค่าเริ่มต้น) หน้าเว็บจะใช้ API การแชร์หน้าจอ (เช่น getDisplayMedia() หรือ API ส่วนขยายสำหรับการจับภาพเดสก์ท็อป) เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้เลือกแท็บ หน้าต่าง หรือเดสก์ท็อปที่จะจับภาพได้ |
| |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ การเรียกใช้ API การแชร์หน้าจอจะไม่สำเร็จและมีข้อความแสดงข้อผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ระบบจะไม่พิจารณานโยบายนี้ (และเว็บไซต์จะได้รับอนุญาตให้ใช้ API การแชร์หน้าจอ) หากเว็บไซต์ตรงกับรูปแบบต้นทางในนโยบาย <ph name="SCREEN_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="WINDOW_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" />, <ph name="TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="SAME_ORIGIN_TAB_CAPTURE_ALLOWED_BY_ORIGINS_POLICY_NAME" /> |
| </translation> |
| <translation id="8310392396850884147">รองรับส่วนหัวของคำขอที่ไม่มีไวลด์การ์ดสำหรับ CORS</translation> |
| <translation id="8312129124898414409">ช่วยให้คุณกำหนดว่าเว็บไซต์ได้รับอนุญาตให้ใช้การสร้างคีย์หรือไม่ โดยสามารถอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ทั้งหมดใช้การสร้างคีย์ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ "BlockKeygen" และผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้</translation> |
| <translation id="8314214821702356835">อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นสื่อเมื่อมีการล็อกอุปกรณ์อยู่</translation> |
| <translation id="8314308739926578606">ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในแอปและส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายระดับองค์กร หรือตั้งแต่เวอร์ชัน 114 หากเป็นผู้ใช้ที่มีการจัดการ ส่วนขยายจะมีอยู่ในตัวเบราว์เซอร์ อนุญาตให้ใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในบริบทอื่นๆ</translation> |
| <translation id="8316940611391250886">ไม่อนุญาตใบรับรองที่ไม่มีส่วนขยาย subjectAlternativeName</translation> |
| <translation id="8319678975002906774">ตั้งค่าการกำหนดค่าที่มีการจัดการสำหรับต้นทางที่เจาะจงของเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="8320149248919453401">โหมดการชาร์จแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="8320576119308783142">แสดงแป้นพิมพ์บนหน้าจอตามความเหมาะสม</translation> |
| <translation id="8327651196906278510">อนุญาตให้ต้นทางเหล่านี้จับภาพแท็บ</translation> |
| <translation id="8329434144708110">เรียกใช้โฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์เพื่อซิงค์รหัสผ่านกับผู้ให้บริการ SSO</translation> |
| <translation id="8329984337216493753">นโยบายนี้ใช้งานได้ในโหมดปลีกเท่านั้น |
| |
| เมื่อมีการระบุค่า DeviceIdleLogoutTimeout นโยบายนี้จะกำหนดระยะเวลาของช่องเตือนที่มีตัวเลขนับถอยหลังซึ่งจะแสดงให้ผู้ใช้เห็นก่อนที่จะดำเนินการออกจากระบบ |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="8330437518362176921">ใช้ URL อัปเดตจากนโยบายเท่านั้นเมื่อดาวน์โหลดและอัปเดตแอป Chrome Kiosk</translation> |
| <translation id="8331479227794770304">เปิดใช้คีย์ติดหนึบ</translation> |
| <translation id="8332822245414537447">ปิดใช้การตรวจสอบการใช้งานคีย์ RSA</translation> |
| <translation id="8334685561819743286">ปิดใช้ฟีเจอร์การแก้ไขอัตโนมัติบนแป้นพิมพ์จริงเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="8336819406993366823">การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ENABLED_VALUE_NAME" /> จะอนุญาตให้ใช้ API แบบเต็มหน้าจอเฉพาะวิดีโอที่มีคำต่อท้าย (เช่น Video.webkitEnterFullscreen()) จาก JavaScript |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="DISABLED_VALUE_NAME" /> จะป้องกันไม่ให้มีการใช้ API แบบเต็มหน้าจอเฉพาะวิดีโอที่มีคำต่อท้ายใน JavaScript ทำให้เหลือเฉพาะ API แบบเต็มหน้าจอมาตรฐาน (เช่น Element.requestFullscreen()) |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="RUNTIME_ENABLED_VALUE_NAME" /> จะอนุญาตให้แฟล็กฟีเจอร์ที่เปิดใช้รันไทม์ PrefixedFullscreenVideo เพื่อระบุว่า API แบบเต็มหน้าจอเฉพาะวิดีโอที่มีคำต่อท้ายพร้อมใช้งานสำหรับเว็บไซต์ไหม |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ลักษณะการทำงานตามค่าเริ่มต้นจะเป็น <ph name="RUNTIME_ENABLED_VALUE_NAME" /> |
| |
| หมายเหตุ: นโยบายนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวที่จะช่วยเปลี่ยนจาก API แบบเต็มหน้าจอที่มีคำต่อท้ายเป็น webkit ซึ่งอาจจะถูกนำออกในรุ่น M130 หรือในอีก 2-3 รุ่นหลังจากนี้</translation> |
| <translation id="8337114537412769126">หาก <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_ENABLED_POLICY_NAME" /> เปิดอยู่ การตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SUGGEST_URL_POST_PARAMS_POLICY_NAME" /> จะระบุพารามิเตอร์ระหว่างการค้นหาที่แนะนำด้วยเมธอด POST โดยจะประกอบด้วยคู่ชื่อ-ค่าที่คั่นด้วยจุลภาค หากมีค่าใดเป็นพารามิเตอร์เทมเพลต เช่น <ph name="SEARCH_TERM_MARKER" /> ข้อมูลข้อความค้นหาจริงจะแทนที่ค่าดังกล่าว |
| |
| การไม่ตั้งค่า <ph name="DEFAULT_SEARCH_PROVIDER_SUGGEST_URL_POST_PARAMS_POLICY_NAME" /> จะทำให้ระบบส่งคำขอการค้นหาที่แนะนำโดยใช้เมธอด GET</translation> |
| <translation id="8337961007759352651">สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงาน (Web Worker, Service Worker ฯลฯ) ต้องใช้ประเภท MIME ของ JavaScript เช่น <ph name="MIMETYPE_TEXT_JAVASCRIPT" /> สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประเภท MIME เดิม เช่น <ph name="MIMETYPE_TEXT_ASCII" /> จะถูกปฏิเสธ</translation> |
| <translation id="8339089771335211509">WebRTC จะใช้อินเทอร์เฟซที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตสาธารณะเท่านั้น แต่จะไม่เชื่อมต่อโดยใช้ที่อยู่ IP ส่วนตัว</translation> |
| <translation id="8339420913453596618">ปิดใช้งานปัจจัยที่ 2 แล้ว</translation> |
| <translation id="8341175887542205077">ปิดใช้การสำรองและกู้คืนข้อมูลกับเครื่องเสมือนใน Linux</translation> |
| <translation id="8344454543174932833">นำเข้าบุ๊กมาร์กจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="8347993687936322631">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| นโยบายนี้จะให้ค่าสำรองสำหรับนโยบาย <ph name="IDLE_ACTION_AC_POLICY_NAME" /> และ <ph name="IDLE_ACTION_BATTERY_POLICY_NAME" /> ที่เจาะจงยิ่งขึ้น หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าของนโยบายในกรณีที่ไม่มีการตั้งค่านโยบายที่เจาะจงยิ่งขึ้นตามลำดับ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ลักษณะการทำงานของนโยบายที่เจาะจงยิ่งขึ้นจะไม่ได้รับผลกระทบ</translation> |
| <translation id="8350643689940867542">ปิดใช้การรายงานข้อมูลนโยบาย</translation> |
| <translation id="835283681355955417">รายงานรายละเอียดอุปกรณ์ต่อพ่วง</translation> |
| <translation id="8356953698979920095">การตั้งค่านโยบายเป็นหนึ่งในตัวเลือกเหล่านี้จะกำหนดสีเริ่มต้นสำหรับไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์บนอุปกรณ์ขณะที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8357681633047935212">จำกัดระยะเวลาเซสชันของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8357989008292691856">รายชื่อผู้ใช้ที่อนุญาตให้เข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8359734107661430198">เปิดใช้ ExampleDeprecatedFeature API ได้ถึง 02/09/2008</translation> |
| <translation id="8367069206652407172">การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้หยุดกระบวนการในตัวจัดการงาน |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้หยุดกระบวนการในตัวจัดการงานได้</translation> |
| <translation id="8367209241899435947">เปิดใช้การทำความสะอาด Chrome ใน Windows</translation> |
| <translation id="8367446818896241968">เปิดใช้การแสดงหน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดระหว่างลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8367473200119029349">การรายงานในระบบคลาวด์</translation> |
| <translation id="8367488518695804749">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ แสดงป๊อปอัป</translation> |
| <translation id="8369359426872560378">ปิดใช้การเปิดเครื่องเมื่อเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟฟ้ากระแสสลับ</translation> |
| <translation id="8369602308428138533">ระยะหน่วงเวลาการปิดหน้าจอเมื่อทำงานโดยใช้ไฟ AC</translation> |
| <translation id="8371178326720637170">อนุญาตให้ส่วนขยายที่มีการจัดการใช้ Enterprise Hardware Platform API</translation> |
| <translation id="8373176843640227330">ปิดใช้การรายงานข้อมูลบลูทูธของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8375817202037102567">บล็อกสิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์และไดเรกทอรีในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8378266419596669629">บล็อกสิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8379281645427937253">รายการใบรับรอง TLS ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ควรเชื่อถือสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เซิร์ฟเวอร์ |
| ใบรับรองควรเข้ารหัสฐาน 64</translation> |
| <translation id="8379317372795444261">อนุญาตการตรวจสอบสิทธิ์<ph name="BASIC_AUTH" />ในการเชื่อมต่อผ่าน HTTP</translation> |
| <translation id="8381678031726288574">ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับการเลิกใช้งาน U2F API</translation> |
| <translation id="8381774264911275515">ปิดใช้การโอนคุกกี้ของ SAML SSO ไปยังเซสชันของผู้ใช้ระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8382184662529825177">เปิดใช้การใช้งานการรับรองระยะไกลสำหรับการปกป้องเนื้อหาสำหรับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="838870586332499308">เปิดใช้งานการโรมมิ่งข้อมูล</translation> |
| <translation id="8392478748777481636">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="EXTENSION_INSTALL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="8393850527597048037">แพลตฟอร์มเท่านั้น</translation> |
| <translation id="8394518861160238324">การแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สามจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้บางรายตั้งแต่เวอร์ชัน M113 แต่จะปิดใช้ผ่าน Chrome Flag ได้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="ALLOW_PARTITIONING_VALUE" /> หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบอาจเปิดใช้การแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="BLOCK_PARTITIONING_VALUE" /> คุณจะไม่สามารถเปิดใช้การแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สาม |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งพาร์ติชันพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สามได้ใน https://developer.chrome.com/docs/privacy-sandbox/storage-partitioning/</translation> |
| <translation id="8395350646076131800">ระยะหมดเวลาเนื่องจากไม่มีการใช้งานหน้าจอล็อกสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8395749934754392549">จัดการการตั้งค่าของคอนเทนเนอร์ Android (ARC) และแอป Android</translation> |
| <translation id="8398952282584132331">เปิดใช้หน้าจอส่วนตัว</translation> |
| <translation id="8399825694820904218">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นตัวเลขจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงข้อความเป็นมิลลิวินาทีตามจำนวนดังกล่าว จากนั้นจึงเปิดเบราว์เซอร์สำรอง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น 0 หมายความว่าการไปยัง URL ที่กำหนดจะเป็นการเปิด URL ในเบราว์เซอร์สำรองทันที</translation> |
| <translation id="8402079500086185021">เปิดไฟล์ PDF จากภายนอกทุกครั้ง</translation> |
| <translation id="8402357110539568621">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษด้วยแป้นพิมพ์เสมือน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษจะเปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษจะปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อด้วยการตั้งค่าการช่วยเหลือพิเศษ |
| |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อการเปิดหรือปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส เช่น แป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัสจะยังคงแสดงบนอุปกรณ์แท็บเล็ต แม้ว่าจะตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ก็ตาม ใช้นโยบาย <ph name="TOUCH_VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> เพื่อควบคุมลักษณะการทำงานของแป้นพิมพ์เสมือนแบบสัมผัส</translation> |
| <translation id="8410477879938914253">นโยบายนี้ใช้กับเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการเท่านั้น |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะแสดงกล่องโต้ตอบเพื่อขอให้ผู้ใช้ยืนยันหรือปฏิเสธการออกจากระบบเมื่อหน้าต่างสุดท้ายปิดไป |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะทำให้กล่องโต้ตอบแสดงขึ้นไม่ได้ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นการปิดใช้การออกจากระบบอัตโนมัติหลังจากปิดหน้าต่างสุดท้ายด้วย</translation> |
| <translation id="8411050083243181286"> ตั้งแต่เวอร์ชัน M109 เป็นต้นไป ระบบจะนํา Event.path API ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานออกเพื่อปรับปรุงความเข้ากันได้กับเว็บ นโยบายนี้เปิดใช้ API อีกครั้งสำหรับเวอร์ชัน M115 และต่ำกว่า |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" Event.path API จะพร้อมใช้งาน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" Event.path API จะใช้งานไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ Event.path API จะอยู่ในสถานะเริ่มต้น ได้แก่ พร้อมใช้งานในเวอร์ชันที่เก่ากว่า M109 และไม่พร้อมใช้งานในเวอร์ชัน M109 ถึง 114 |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกหลังจาก Chrome 115</translation> |
| <translation id="841395160262233331">แป้น Launcher/แป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชันไม่ได้ และผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้เช่นกัน</translation> |
| <translation id="8415506434606458373">การตั้งค่านโยบายจะทำให้ต้นทางในรายการรับแอตทริบิวต์ของอุปกรณ์ (เช่น หมายเลขซีเรียล ชื่อโฮสต์) ได้โดยใช้ Device Attributes API |
| |
| ต้นทางต้องสอดคล้องกับเว็บแอปพลิเคชันที่บังคับติดตั้งโดยใช้นโยบาย <ph name="WEB_APP_INSTALL_FORCE_LIST_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="ISOLATED_WEB_APP_INSTALL_FORCE_LIST_POLICY_NAME" /> (ตั้งแต่เวอร์ชัน 125) หรือตั้งค่าเป็นแอปคีออสก์ โปรดดูข้อกำหนดของ Device Attributes API ที่ https://wicg.github.io/WebApiDevice/device_attributes</translation> |
| <translation id="8415953438346821074">หากเปิดใช้การตั้งค่านี้ ระบบจะบันทึกการตั้งค่าที่เก็บไว้ในโปรไฟล์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เช่น บุ๊กมาร์ก ข้อมูลการป้อนข้อความอัตโนมัติ รหัสผ่าน และอื่นๆ ไปยังไฟล์ที่เก็บไว้ในโฟลเดอร์โปรไฟล์ผู้ใช้โรมมิ่งหรือตำแหน่งที่ผู้ดูแลระบบระบุไว้ผ่านนโยบาย <ph name="ROAMING_PROFILE_LOCATION_POLICY_NAME" /> ด้วย การเปิดใช้นโยบายนี้จะปิดใช้คลาวด์ซิงค์ |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้เฉพาะโปรไฟล์ปกติในเครื่อง</translation> |
| <translation id="8417305981081876834">ตั้งค่าความยาวสูงสุดของ PIN หน้าจอล็อก</translation> |
| <translation id="841977920223099909">ทริกเกอร์การแจ้งเตือนการป้องกันด้วยรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="8419965165591256432">อัตราการรวบรวมสถานะกิจกรรมในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง ค่าขั้นต่ำที่อนุญาตคือ 1 นาที |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้อัตราเริ่มต้น 15 นาที</translation> |
| <translation id="8420426128163801949">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดบลูทูธ</translation> |
| <translation id="8422658829373743789">ควบคุมลักษณะการทํางานแบบใหม่สําหรับการส่งเหตุการณ์ในตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="8422866312638683210">การตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> พยายามลงทะเบียนตนเองกับ <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> ค่าของนโยบายนี้จะเป็นโทเค็นการลงทะเบียนที่คุณเรียกมาจาก <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ดูรายละเอียดที่ https://support.google.com/chrome/a/answer/9301891?ref_topic=9301744</translation> |
| <translation id="8424255554404582727">ตั้งค่าการหมุนหน้าจอเริ่มต้น ใช้การตั้งค่านี้ซ้ำทุกครั้งที่เริ่มระบบใหม่</translation> |
| <translation id="8426231401662877819">หมุนหน้าจอตามเข็มนาฬิกา 90 องศา</translation> |
| <translation id="8426326725481825773">นโยบายนี้จะกำหนดลักษณะการทำงานสำหรับการรีแมปคีย์ "Home/End" ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งคีย์ต่างๆ บนแป้นพิมพ์ได้ หากเปิดใช้ นโยบายนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งการรีแมปที่เจาะจงเหล่านี้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย แป้นพิมพ์ลัดที่อิงตามการค้นหาจะทำหน้าที่เป็นค่าเริ่มต้นและอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าแป้นพิมพ์ลัดได้</translation> |
| <translation id="8427466947904008809">อนุญาตให้ CRD เรียกใช้คำขอ WebAuthn API ที่ทำพร็อกซีจากโฮสต์ระยะไกล</translation> |
| <translation id="8428295225823548121">เปิดใช้การรายงานข้อมูลหน่วยความจำของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8428635849021776523">ปิดใช้การรายงานของ Android</translation> |
| <translation id="8429593528367808164">เปิดใช้ฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริงเมื่อผู้ใช้พิมพ์</translation> |
| <translation id="8433186206711564395">การตั้งค่าเครือข่าย</translation> |
| <translation id="8433769814000220721">เปิดใช้เนื้อหาที่แนะนำ</translation> |
| <translation id="843609873781525167">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" กำหนดให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ตรวจสอบเสมอว่าเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่เมื่อเริ่มต้นใช้งาน และลงทะเบียนตัวเองโดยอัตโนมัติหากเป็นไปได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะหยุด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ให้ตรวจสอบว่าเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และปิดการควบคุมโดยผู้ใช้สำหรับตัวเลือกนี้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> ให้ผู้ใช้ควบคุมว่าจะให้เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และควรแสดงการแจ้งเตือนผู้ใช้หรือไม่หากไม่ใช่เบราว์เซอร์เริ่มต้น |
| |
| โปรดทราบว่าสำหรับผู้ดูแลระบบ <ph name="MS_WIN_NAME" /> การเปิดการตั้งค่านี้จะใช้ได้กับเครื่องที่ใช้ Windows 7 เท่านั้น ส่วนเวอร์ชันที่ใหม่กว่า คุณต้องใช้ไฟล์ "การเชื่อมโยงแอปพลิเคชันเริ่มต้น" ที่ทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เป็นเครื่องจัดการโปรโตคอล <ph name="HTTPS_PROTOCOL" /> และ <ph name="HTTP_PROTOCOL" /> (อาจรวมถึงโปรโตคอล <ph name="FTP_PROTOCOL" /> และรูปแบบไฟล์อื่นๆ ด้วยก็ได้) ความช่วยเหลือของ Chrome ( https://support.google.com/chrome?p=make_chrome_default_win )</translation> |
| <translation id="8441105784056442638">เปิดใช้ฟีเจอร์การคืนค่าทั้งหมด</translation> |
| <translation id="8444157920689124099">เปิดใช้การเข้ารหัสระดับแอปพลิเคชัน</translation> |
| <translation id="8445576299806775661">ในการอัปเดตเวอร์ชันครั้งใหญ่แต่ละครั้ง Chrome จะสร้างสแนปชอตของข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้เอาไว้จำนวนหนึ่งสำหรับใช้ในกรณีที่ต้องทำการย้อนกลับเวอร์ชันฉุกเฉินในภายหลัง หากทำการย้อนกลับฉุกเฉินไปยังเวอร์ชันที่ผู้ใช้มีสแนปชอตที่ตรงกัน ข้อมูลในสแนปชอตจะได้รับการคืนค่า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เก็บการตั้งค่าดังกล่าวเป็นบุ๊กมาร์กและข้อมูลสำหรับป้อนข้อความอัตโนมัติได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นที่ 3 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะลบสแนปชอตเก่าตามที่จำเป็นเพื่อให้จำนวนอยู่ในขีดจำกัดที่กำหนด หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น 0 จะไม่มีการสร้างสแนปชอต</translation> |
| <translation id="8446679541472571487">แสดงหน้าจอแนะนำ AI ระหว่างการลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8451988835943702790">ใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรก</translation> |
| <translation id="8452787853105404870">ส่งข้อมูลฮาร์ดแวร์ไปยัง Google เพื่อสนับสนุนการปรับปรุง ChromeOS Flex</translation> |
| <translation id="8453218444172088993">ปิดใช้การตั้งค่าหัวข้อโฆษณาโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8455529558077979314">การตั้งค่าหน้าจอส่วนตัว</translation> |
| <translation id="8461914792118322307">พร็อกซี</translation> |
| <translation id="8465065632133292531">พารามิเตอร์สำหรับ URL ค้นหาทันใจที่ใช้ POST</translation> |
| <translation id="8467267413626499807">เปิดใช้บริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="846994437739309080">หากเปิดใช้ (หรือไม่ได้ตั้งค่า) จะมีการใช้ใบรับรอง TLS ที่ผู้ใช้เพิ่มไว้จาก Trust Store ของแพลตฟอร์มในการสร้างเส้นทางสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์ TLS |
| |
| หากปิดใช้ จะไม่มีการใช้ใบรับรอง TLS ที่ผู้ใช้เพิ่มไว้จาก Trust Store ของแพลตฟอร์มในการสร้างเส้นทางสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์ TLS</translation> |
| <translation id="8470317291588703478">ไม่บังคับใช้โหมดที่จำกัดของ YouTube</translation> |
| <translation id="8471117881949952479">เราเลิกใช้งานนโยบายนี้แล้วและจะแทนที่ด้วย DataControlsRules แทน |
| |
| นโยบายนี้จะบล็อกไม่ให้คัดลอกข้อมูลไปยังคลิปบอร์ดใน URL ที่เจาะจง |
| |
| รายการ URL ที่<ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_ENABLE_FIELD" />และ<ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_DISABLE_FIELD" />จะควบคุมเว็บไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เขียนไปยังคลิปบอร์ด การเขียนไปยังคลิปบอร์ดจะถูกบล็อกหาก URL ตรงกับรูปแบบใน "เปิดใช้" แต่ไม่ตรงกับรูปแบบใน "ปิดใช้" การคัดลอกจะไม่ถูกบล็อกหาก URL ไม่ตรงกับรูปแบบใดๆ |
| |
| รูปแบบที่ตรงกันของต้นทางใช้รูปแบบที่คล้ายกับของนโยบาย "<ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" ตามที่บันทึกไว้ใน https://support.google.com/chrome/a?p=url_blocklist_filter_format |
| |
| <ph name="ENTERPRISE_CONNECTOR_MINIMUM_DATA_SIZE" /> จะระบุจำนวนข้อมูลต่ำสุด (หน่วยเป็นไบต์) ที่จะเรียกให้การตรวจสอบรูปแบบทำงาน ซึ่งหมายความว่าระบบจะอนุญาตการเขียนไปยังคลิปบอร์ดจาก URL ที่ถูกบล็อกหากขนาดของข้อมูลที่คัดลอกเล็กกว่าค่าที่ระบุในฟิลด์นี้ ค่าเริ่มต้นคือ 100 ไบต์หากไม่ได้ตั้งค่าฟิลด์นี้</translation> |
| <translation id="8473107305327396242">นำเข้าใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ TLS ที่ผู้ใช้เพิ่มไว้จาก Trust Store ของแพลตฟอร์ม</translation> |
| <translation id="8477885780684655676">TLS 1.0</translation> |
| <translation id="8479032202539686055">WebRTC จะใช้อินเทอร์เฟซทั้งหมดที่มีอยู่เมื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด</translation> |
| <translation id="8479496880635054740">ปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือนสำหรับการช่วยเหลือพิเศษในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8482518340010585741">กำหนดการคืนค่าแอปเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8483004350080020634">ตัดส่วนที่ละเอียดอ่อนต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยใน URL แบบ https:// ก่อนส่งต่อไปยังสคริปต์ PAC (การกำหนดค่าพร็อกซีอัตโนมัติ) ที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ระหว่างการแก้ปัญหาพร็อกซี |
| |
| เมื่อมีค่าเป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยและตัด URL แบบ https:// |
| ออกก่อนส่งไปยังสคริปต์ PAC เมื่อดำเนินการแบบนี้ สคริปต์ PAC |
| จะดูข้อมูลที่ปกป้องไว้ตามปกติโดยช่องทางที่เข้ารหัส |
| (เช่น เส้นทางและคำค้นหาของ URL) ไม่ได้ |
| |
| เมื่อมีค่าเป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัย และสคริปต์ PAC |
| จะดูคอมโพเนนต์ทั้งหมดของ URL แบบ https:// ได้โดยปริยาย |
| การตั้งค่านี้มีผลกับสคริปต์ PAC ทั้งหมดไม่ว่าจะมาจากที่ใด |
| (ซึ่งรวมถึงสคริปต์ที่ที่ดึงผ่านการขนส่งที่ไม่ปลอดภัย หรือค้นพบ |
| อย่างไม่ปลอดภัยผ่าน WPAD) |
| |
| นโยบายนี้มีค่าเริ่มต้นเป็น "จริง" (เปิดใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัย) |
| |
| ขอแนะนำให้ตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" และตั้งค่าเป็น "เท็จ" |
| เฉพาะในกรณีที่นโยบายนี้ก่อให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับสคริปต์ PAC ที่มีอยู่เท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะถูกนำออกในรุ่น M75</translation> |
| <translation id="8484375800789836289">อนุญาตให้เบราว์เซอร์กรองพารามิเตอร์ของ URL</translation> |
| <translation id="8484458986062090479">กำหนดค่ารายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงผลด้วยเบราว์เซอร์โฮสต์ทุกครั้ง |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ตัวแสดงผลเริ่มต้นกับเว็บไซต์ทั้งหมดตามที่ได้ระบุไว้โดยนโยบาย "ChromeFrameRendererSettings" |
| |
| สำหรับรูปแบบตัวอย่าง โปรดดูที่ https://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started</translation> |
| <translation id="8489964335640955763">PluginVm</translation> |
| <translation id="8493645415242333585">ปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="8499172469244085141">การตั้งค่าเริ่มต้น (ผู้ใช้แทนที่ได้)</translation> |
| <translation id="8503018573167958506">ระบุว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าชื่อโฮสต์ของอุปกรณ์หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่า <ph name="DEVICE_HOSTNAME_TEMPLATE_POLICY_NAME" /> ไว้ ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าชื่อโฮสต์ และผู้ใช้จะไม่สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะตั้งค่านโยบายนี้ว่าอย่างไร |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" และไม่ได้ตั้งค่า <ph name="DEVICE_HOSTNAME_TEMPLATE_POLICY_NAME" /> ไว้ ผู้ดูแลระบบจะไม่ตั้งค่าชื่อโฮสต์ และผู้ใช้สามารถเลือกชื่อโฮสต์ได้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" และไม่ได้ตั้งค่า <ph name="DEVICE_HOSTNAME_TEMPLATE_POLICY_NAME" /> ไว้ ผู้ดูแลระบบจะไม่ตั้งค่าชื่อโฮสต์ และผู้ใช้ไม่สามารถเลือกชื่อโฮสต์ได้ ดังนั้น ระบบจะใช้ชื่อเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8504243661032323176">การตั้งค่านโยบายจะบังคับใช้ความยาว PIN ขั้นต่ำที่เลือกไว้ (ค่าต่ำกว่า 1 จะปัดเศษขึ้นเป็นค่าขั้นต่ำที่ 1) |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะบังคับใช้ความยาว PIN ขั้นต่ำ 6 หลัก ซึ่งเป็นความยาวขั้นต่ำที่แนะนำ</translation> |
| <translation id="8507835864888987300">ตั้งค่าเวอร์ชันเป้าหมายสำหรับการอัปเดตอัตโนมัติ |
| |
| กำหนดส่วนนำของเวอร์ชันเป้าหมายสำหรับการอัปเดต <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> หากอุปกรณ์กำลังเรียกใช้เวอร์ชันที่ออกมาก่อนส่วนนำที่กำหนด อุปกรณ์จะอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดพร้อมส่วนนำที่ระบุนั้นๆ หากอุปกรณ์เป็นเวอร์ชันใหม่กว่าอยู่แล้ว ผลกระทบจะขึ้นอยู่กับค่าของ <ph name="DEVICE_ROLLBACK_TO_TARGET_VERSION_POLICY_NAME" /> รูปแบบของส่วนนำทำงานได้อย่างชาญฉลาดร่วมกับส่วนประกอบดังเช่นที่แสดงในตัวอย่างต่อไปนี้ |
| |
| "" (หรือที่ไม่ได้กำหนดค่า): อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีให้บริการ |
| "1412.": อัปเดตเป็นเวอร์ชันใดก็ได้ที่รองลงมาจาก 1412 (เช่น 1412.24.34 หรือ 1412.60.2) |
| "1412.2.": อัปเดตเป็นเวอร์ชันใดก็ได้ที่รองลงมาจาก 1412.2 (เช่น 1412.2.34 หรือ 1412.2.2) |
| "1412.24.34": อัปเดตเป็นเวอร์ชันนี้เท่านั้น |
| |
| คำเตือน: เราไม่แนะนำให้กำหนดค่าข้อจำกัดของเวอร์ชันเพราะอาจทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์และการปรับปรุงความปลอดภัยที่สำคัญ การจำกัดการอัปเดตเป็นส่วนนำเวอร์ชันที่เจาะจงอาจทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยง</translation> |
| <translation id="8508489378025029342">เปิดใช้การรายงานเวลาของกิจกรรมในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8510357716574220408"><ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /> (เลิกใช้งานแล้ว)</translation> |
| <translation id="8511192250554640451">อนุญาตให้ตรรกะของ Chrome ควบคุมตัวจับเวลา JavaScript ในเบื้องหลัง และให้ผู้ใช้กำหนดค่าเอง</translation> |
| <translation id="8511708772548158302">ย้อนอุปกรณ์กลับไปเป็นเวอร์ชันเป้าหมายหากระบบปฏิบัติการปัจจุบันใช้เวอร์ชันที่ใหม่กว่า อุปกรณ์จะทำการ Powerwash แต่ระบบจะเก็บการกำหนดค่าเครือข่ายสำหรับทั้งอุปกรณ์โดยไม่มีใบรับรองไว้ และอุปกรณ์จะลงทะเบียนซ้ำโดยอัตโนมัติ |
| ระบบไม่รองรับการย้อนกลับไปยัง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 106 หรือเวอร์ชันก่อนหน้า</translation> |
| <translation id="8519264904050090490">URL ข้อยกเว้นแบบกำหนดเองของผู้ใช้ที่ได้รับการจัดการ</translation> |
| <translation id="8519516251436131647">เปิดใช้แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษจะเปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษจะปิดใช้อยู่เสมอ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ แป้นพิมพ์ลัดของฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษจะเปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8519563483516917705">การตั้งค่านี้อนุญาตให้อุปกรณ์เลือก <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชันเป้าหมายที่ต้องการอัปเดต |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่า อุปกรณ์จะอัปเดตตามการตั้งค่าอื่นๆ หรืออัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีอยู่ |
| |
| หากตั้งค่า อุปกรณ์จะอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่เลือก |
| |
| รูปแบบค่าของนโยบายนี้คือรายละเอียดการใช้บริการอัปเดตและอาจเปลี่ยนแปลงได้ ค่าของนโยบายไม่ได้ประมวลผลในอุปกรณ์ |
| |
| หากใช้ร่วมกับ <ph name="DEVICE_TARGET_VERSION_PREFIX_POLICY_NAME" /> บริการอัปเดตจะตรวจสอบนโยบายนี้ก่อน |
| ต่างจาก <ph name="DEVICE_TARGET_VERSION_PREFIX_POLICY_NAME" /> (ซึ่งอาจอนุญาตให้มีการอัปเดตที่ไม่สำคัญ) อุปกรณ์จะยังคงเป็นเวอร์ชันที่เลือกจนกระทั่งค่าของนโยบายนี้เปลี่ยนแปลง |
| |
| หากใช้ร่วมกับ <ph name="DEVICE_ROLLBACK_TO_TARGET_VERSION_POLICY_NAME" /> เวอร์ชันอุปกรณ์จะสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นเวอร์ชันก่อนหน้าที่ต้องการ |
| |
| คำเตือน: ไม่แนะนำให้กำหนดค่าการจำกัดเวอร์ชันเนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์และการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญ การจำกัดการอัปเดตเป็นเวอร์ชันใดเวอร์ชันหนึ่งอาจทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยง</translation> |
| <translation id="8519617069657262768">เปิดใช้การซิงค์ Google ไดรฟ์</translation> |
| <translation id="8520064498689833152">บังคับใช้ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยใน Google Search และโหมดที่จำกัดปานกลางเป็นอย่างน้อยใน YouTube</translation> |
| <translation id="8520950040439618600">อนุญาต PIN และวิธีการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="8524334245528364388">URL ไปยังไฟล์ JSON ที่มีรายชื่อเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์</translation> |
| <translation id="8525526490824335042">คอนเทนเนอร์ Linux</translation> |
| <translation id="8526745614158856826">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้ได้ทั้งหมด |
| |
| URL ต้องใช้การได้ มิเช่นนั้น นโยบายจะไม่มีผล ระบบพิจารณาเฉพาะต้นทาง (รูปแบบ โฮสต์ และพอร์ต) ของ URL เท่านั้น |
| |
| ใน Chrome OS นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่เชื่อมโยงเท่านั้น |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้าง <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" />, <ph name="WEB_HID_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" />, <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> และค่ากำหนดของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8528951285051082869">ไม่อนุญาตให้เว็บแอปเข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ ผ่าน File Handling API</translation> |
| <translation id="8533145294731270627">บล็อกการดาวน์โหลดและประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย</translation> |
| <translation id="8543108307976719751">ป้องกันไม่ให้เข้าถึงการเชื่อมต่อกับเครื่องนี้จากระยะไกล</translation> |
| <translation id="8543639085146778837">อนุญาตให้รวบรวมบันทึกข้อความ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="8543975123557636331">เปิดใช้เอาต์พุตเสียง</translation> |
| <translation id="8544375438507658205">โปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="8544465954173828789">อนุญาตให้ซิงค์ข้อความ SMS จากโทรศัพท์ไปยัง Chromebook</translation> |
| <translation id="8549906780629620346">เปิดใช้งานการกู้คืนบัญชี</translation> |
| <translation id="855291439519960768">ปิดใช้ฟีเจอร์การป้องกันลายนิ้วมือของ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /></translation> |
| <translation id="8553491595730354263">อนุญาตให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลใช้ PIN และการตรวจสอบสิทธิ์การจับคู่เมื่อยอมรับการเชื่อมต่อไคลเอ็นต์</translation> |
| <translation id="8553955290407912156">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่สามารถขอให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ HID ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับนโยบาย รูปแบบต่อไปนี้จะมีความสำคัญสูงกว่าตามลำดับ |
| |
| * <ph name="WEB_HID_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> (หากมีการจับคู่) |
| |
| * <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> (หากตั้งค่าไว้) หรือ |
| |
| * การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_HID_ASK_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8554750769356971993">นโยบายสำหรับควบคุมว่าจะปิดใช้การตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้ได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ระบบจะปิดการตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำสำหรับผู้ใช้ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเปิดหรือปิดการตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ในอุปกรณ์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้กำหนดให้ต้องตั้งค่านโยบาย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_PROMPT_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้"</translation> |
| <translation id="8559221882677768248">ปิดใช้ฟีเจอร์เลือกเพื่อให้อ่านในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8561512522781085002">การตั้งค่า PageUp/PageDown ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วมการค้นหา</translation> |
| <translation id="8566842294717252664">ซ่อนเว็บสโตร์จากหน้าแท็บใหม่และเครื่องเรียกใช้งานแอป</translation> |
| <translation id="8571314270766672278">ย้อนกลับไปเวอร์ชันก่อนหน้าและรีเซ็ตอุปกรณ์ในการดาวน์เกรดเวอร์ชัน พยายามรักษาการตั้งค่าของการลงทะเบียนไว้</translation> |
| <translation id="8571871284943706125">รายงานเหตุการณ์เซสชัน CRD ในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมโยง |
| |
| หากปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากเปิดใช้ ระบบจะรายงานเหตุการณ์ CRD หากเชื่อมโยงผู้ใช้ไว้</translation> |
| <translation id="85723976805793612">แชร์บันทึกเหตุการณ์การติดตั้งแอป Android กับ Google</translation> |
| <translation id="857369585509260201">นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้ว ลองพิจารณาใช้ BrowserSignin แทน |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ผู้ใช้ต้องลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ด้วยโปรไฟล์ของตนก่อนใช้เบราว์เซอร์ และระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นของ BrowserGuestModeEnabled เป็น "เท็จ" โปรดทราบว่าโปรไฟล์ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ซึ่งมีอยู่จะถูกล็อกและเข้าถึงไม่ได้หลังจากเปิดใช้นโยบายนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความในศูนย์ช่วยเหลือ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้จะใช้เบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8575739761246140675">เปิดใช้การเชื่อถือใบรับรองที่ออกโดย PKI เดิมของ Symantec Corporation</translation> |
| <translation id="8575746110808109915">การตั้งค่านโยบายเพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์การคืนค่าโดยสมบูรณ์ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะคืนค่าหรือไม่คืนค่าแอปและหน้าต่างแอปหลังมีข้อขัดข้องหรือมีการรีบูต โดยเป็นไปตามการตั้งค่าการคืนค่าแอป |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" จะมีเพียงหน้าต่างเบราว์เซอร์ที่เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="8583509234908413302">อนุญาตให้ TLS/DTLS เดิมดาวน์เกรดใน WebRTC</translation> |
| <translation id="8584279193368801689">จำกัดโหมดการพิมพ์ด้วย PIN ระบบจะถือว่าไม่มีข้อจำกัดหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย หากโหมดนี้ไม่พร้อมใช้งาน ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้ โปรดทราบว่าฟีเจอร์การพิมพ์ด้วย PIN จะใช้ได้กับเครื่องพิมพ์ที่ใช้โปรโตคอล IPPS, HTTPS, USB หรือ IPP-over-USB เท่านั้น</translation> |
| <translation id="858510846828945657">รายการข้อยกเว้นของโดเมนที่บล็อกไว้สำหรับบริการ SSO แบบย้ายระหว่างอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8587229956764455752">อนุญาตให้สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่</translation> |
| <translation id="8589285015138337712">ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งแป้นพิมพ์ลัดของระบบ</translation> |
| <translation id="8589346048177748110">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นเกมไดโนเสาร์ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หมายความว่าผู้ใช้จะเล่นเกมไดโนเสาร์ที่เป็น Easter Egg ขณะที่อุปกรณ์ออฟไลน์อยู่ไม่ได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้หมายความว่าผู้ใช้จะเล่นเกมดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ลงทะเบียนไว้ไม่ได้ แต่จะเล่นในที่อื่นๆ ได้</translation> |
| <translation id="8591713876665299827">โปรดทราบว่าจะมีการเลิกใช้งานและนำนโยบายนี้ออกใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 85 โปรดใช้ <ph name="POWER_MANAGEMENT_IDLE_SETTINGS_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| ระบุระยะเวลาก่อนตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหวหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ ขณะทำงานโดยเสียบปลั๊ก |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ จะเป็นการระบุระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องไม่มีความเคลื่อนไหวก่อนที่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตอบสนองการไม่มีความเคลื่อนไหว โดยกำหนดค่าการตอบสนองแยกต่างหากได้ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะใช้ระยะเวลาค่าเริ่มต้น |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="8592363656632862875">ไม่ดาวน์โหลดโมเดล</translation> |
| <translation id="859579553230883285">ปิดใช้การตั้งค่าโฆษณาที่เว็บไซต์แนะนำโดย <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> สำหรับผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8597758693275075382">สตริง OEM ของ SMBIOS เพื่อส่งไปยัง VM ระหว่างการติดตั้ง ค่าเริ่มต้นจะเป็นรายการที่ว่างเปล่า</translation> |
| <translation id="8598786284856179541">เปิดใช้การรายงานข้อมูลเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="859937827887158048">ไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดการอัปเดตแบบเพียร์ทูเพียร์โดยอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="8600280933078435582">แอปพลิเคชัน Linux</translation> |
| <translation id="8603454805657060638">การตั้งค่านโยบายจะทำให้ผู้ดูแลระบบเปลี่ยนที่อยู่ MAC (Media Access Control หรือการควบคุมการเข้าถึงสื่อ) เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับแท่นชาร์จได้ เมื่อแท่นชาร์จเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บางรุ่น ที่อยู่ MAC ของแท่นชาร์จที่กำหนดของอุปกรณ์จะช่วยระบุตัวตนอุปกรณ์ในอีเทอร์เน็ตโดยค่าเริ่มต้น |
| |
| หากเลือก "DeviceDockMacAddress" หรือไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะใช้ที่อยู่ MAC ของแท่นชาร์จที่กำหนดของอุปกรณ์ |
| |
| หากเลือก "DeviceNicMacAddress" ระบบจะใช้ที่อยู่ MAC ของ NIC (Network Interface Controller หรือตัวควบคุมอินเทอร์เฟซเครือข่าย) ของอุปกรณ์ |
| |
| หากเลือก "DockNicMacAddress" ระบบจะใช้ที่อยู่ MAC ของ NIC ของแท่นชาร์จ |
| |
| ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่านี้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="8604178325750278068">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant ฟังวลีการเปิดใช้งานด้วยเสียง การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ Google Assistant ไม่ฟังวลีการเปิดใช้งานด้วยเสียง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะให้ผู้ใช้เลือกว่าจะเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้</translation> |
| <translation id="8604906464981340229">ให้สิทธิ์เว็บไซต์เหล่านี้โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HID ที่มีการรวบรวมระดับบนสุดเกี่ยวกับการใช้งาน HID ที่กำหนด</translation> |
| <translation id="8605216171953003144">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะเปิด NTLMv2 |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิด NTLMv2 |
| |
| เซิร์ฟเวอร์ Samba และ <ph name="MS_WIN_NAME" /> เวอร์ชันล่าสุดทั้งหมดรองรับ NTLMv2 ควรปิดใช้การตั้งค่านี้เฉพาะเมื่อต้องการความเข้ากันได้แบบย้อนหลังเท่านั้น เพราะการปิดใช้จะทำให้ความปลอดภัยในการตรวจสอบสิทธิ์ลดลง</translation> |
| <translation id="8605627672203601098">กำหนดค่าปัจจัยของ WebAuthn ที่ได้รับอนุญาต</translation> |
| <translation id="8606263947930257189">ควบคุมว่าจะให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ระงับแท็บที่ทำงานมาอย่างน้อย 5 นาทีในเบื้องหลังได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบอาจระงับแท็บที่ทำงานมาอย่างน้อย 5 นาทีในเบื้องหลัง การระงับแท็บจะช่วยลดการใช้งาน CPU, แบตเตอรี่ และหน่วยความจำ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้การเรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงการระงับแท็บที่ทำงานในเบื้องหลังที่มีประโยชน์ (เช่น แสดงการแจ้งเตือน เล่นเสียง สตรีมวิดีโอ) ทั้งนี้ นักพัฒนาเว็บเลือกไม่ใช้การระงับกับเว็บไซต์ของตนได้ (https://chromium.googlesource.com/chromium/src/+/HEAD/chrome/browser/performance_manager/docs/freezing_opt_out_opt_in.md) |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่ระงับแท็บใดๆ ทั้งสิ้น</translation> |
| <translation id="8610216287193516769">ถูกนำออกใน M122 - นโยบายนี้เป็นนโยบายฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้นซึ่งไม่เคยใช้โครงสร้างพื้นฐานของนโยบาย ChromeOS เพื่อการเผยแพร่ |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="POLICY_VALUE_ALL" /> หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอนุญาตการใช้งานทั้งหมดของบัญชีที่จัดการ ซึ่งอาจส่งผลต่อบัญชีที่จัดการที่เป็นบัญชีรอง โดยจะได้รับนโยบายเฉพาะเมื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชีในฐานะบัญชีหลักในโปรไฟล์เบราว์เซอร์ |
| ระบบจะไม่บังคับใช้นโยบายที่ตั้งค่าไว้สำหรับบัญชีในสถานการณ์ต่อไปนี้ |
| - บัญชีเป็นบัญชีรองในระดับระบบปฏิบัติการ (การตั้งค่าบัญชี) |
| - บัญชีเป็นบัญชีรองในโปรไฟล์เบราว์เซอร์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น <ph name="POLICY_VALUE_PRIMARY_ACCOUNT_SIGNIN" /> ในบัญชี ระบบจะอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีนั้นในฐานะบัญชีหลักเท่านั้น โดยจะไม่อนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ในฐานะบัญชีรอง</translation> |
| <translation id="8612188068319977428">ควบคุมความถี่ของการอัปโหลดรายงานสถานะของ Chrome |
| |
| ซึ่งรวมถึงรายงานที่เปิดใช้โดย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย ระบบจะอัปโหลดรายงานทุก 24 ชั่วโมง |
| เมื่อตั้งค่าไว้ นโยบายนี้จะกำหนดจำนวนชั่วโมงระหว่างการอัปโหลดรายงาน 2 ฉบับต่อเนื่องกัน</translation> |
| <translation id="8618037841203431360">นโยบายนี้ควบคุมว่าจะรายงานข้อมูลนโยบายและเวลาในการดึงข้อมูลนโยบายหรือไม่ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบาย <ph name="CLOUD_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือตั้งค่าเป็นปิดใช้ นโยบายนี้จะไม่มีผล |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรวบรวมข้อมูลนโยบายและเวลาในการดึงข้อมูลนโยบาย |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะไม่รวบรวมข้อมูลนโยบายและเวลาในการดึงข้อมูลนโยบาย |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเมื่อลงทะเบียนเครื่องกับ <ph name="CLOUD_MANAGEMENT_ENROLLMENT_TOKEN" /> สำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เท่านั้น |
| และจะมีผลเสมอสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="8619748440665904084">ปิดใช้การนำเข้าข้อมูลแบบฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="8623672932476443039">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้เข้าถึงโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับแอปที่แยกไว้ได้ |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงโหมดดังกล่าว |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ค่าเริ่มต้นกับผู้ใช้ที่มีการจัดการโดยองค์กรใน Chrome OS แต่อนุญาตให้ใช้กับผู้ใช้และระบบปฏิบัติการอื่นๆ ทั้งหมด</translation> |
| <translation id="862621549134406761">เปิดใช้การตรวจสอบการใช้งานคีย์ RSA</translation> |
| <translation id="8626826495474944836">ต้องมีการแยกเว็บไซต์สำหรับทุกเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="8631314130868563649">ปิดใช้การจัดการการใช้ไฟจากแบตเตอรี่</translation> |
| <translation id="8631434304112909927">จนถึงรุ่น <ph name="UNTIL_VERSION" /></translation> |
| <translation id="8631437968147930597">รายการแอปสำหรับจดโน้ตที่อนุญาตในหน้าจอล็อกของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="8633550872001751090">อนุญาตให้รวมข้อมูลจาก <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไว้ในการสำรองข้อมูล</translation> |
| <translation id="8634062512783775032">ใช้ <ph name="AES_KL_NAME" /> เป็นอัลกอริทึมสำหรับการเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ (หากรองรับ)</translation> |
| <translation id="8637566476051166626">พอร์ตเครือข่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้ง</translation> |
| <translation id="8643838501942693770">อนุญาตคุกกี้ของบุคคลที่สามแต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="864611373241249369">หลังจากปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> แล้ว เราจะพยายามย้ายข้อมูลทั้งหมด</translation> |
| <translation id="8648844602494595665">นโยบายนี้ควบคุมการดูแลไอคอนแม่กุญแจในแถบอเนกประสงค์ |
| ตั้งแต่ Chrome M93 จะมีไอคอนในแถบอเนกประสงค์ใหม่สำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย |
| หากเปิดใช้นโยบาย Chrome จะใช้ไอคอนแม่กุญแจที่มีอยู่สำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย |
| หากปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า Chrome จะใช้ไอคอนเริ่มต้นสำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="8650974590712548439">ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows สำหรับไคลเอ็นต์ของ Windows คือ</translation> |
| <translation id="8653085952260859632">รายงานข้อมูลหน่วยความจำ</translation> |
| <translation id="8653212052128283886">แสดงมุมมองประวัติการเข้าชมใน Chrome โดยแบ่งหน้าเว็บเป็นกลุ่มๆ</translation> |
| <translation id="8653561013005884087">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดการอธิบายและอ่านออกเสียงไว้ตลอด การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดการอธิบายและอ่านออกเสียงไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การอธิบายและอ่านออกเสียงจะปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะเปิดได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="8656110680728938054">เปิดใช้การเลือกเพื่อให้อ่าน</translation> |
| <translation id="8657026983981036230">การตั้งค่านโยบายนี้จะสร้างไดเรกทอรีที่ Chrome จะใช้สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ และจะใช้ไดเรกทอรีที่มีให้นี้ไม่ว่าผู้ใช้จะระบุไดเรกทอรีใดไว้ หรือได้เปิดใช้การแสดงข้อความแจ้งเพื่อระบุตำแหน่งการดาวน์โหลดทุกครั้งไว้หรือไม่ก็ตาม |
| |
| นโยบายนี้จะลบล้างนโยบาย <ph name="DEFAULT_DOWNLOAD_DIRECTORY_POLICY_NAME" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า Chrome จะใช้ไดเรกทอรีการดาวน์โหลดเริ่มต้น และผู้ใช้จะเปลี่ยนได้ |
| |
| ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> คุณจะสร้างไดเรกทอรีได้เฉพาะบนไดเรกทอรี Google ไดรฟ์เท่านั้น |
| |
| หมายเหตุ: ดูรายการตัวแปรที่คุณใช้ได้ (https://www.chromium.org/administrators/policy-list-3/user-data-directory-variables)</translation> |
| <translation id="8657543427358173663">อนุญาตให้รวบรวมบันทึกเหตุการณ์ของ WebRTC จากบริการของ Google</translation> |
| <translation id="8659843732895043951">อนุญาตคลิปบอร์ดในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8661297125441579970">ไม่อนุญาตให้ย้ายข้อมูลและใช้ ARC</translation> |
| <translation id="8661538142776716004">ล้างการตั้งค่าเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="8661980316738569557">เปิดใช้คอนทราสต์สูง</translation> |
| <translation id="8665314828727504286">ระดับการปกป้องของ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="8666123502812856425">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการเข้าถึงอุปกรณ์ HID ที่มีการรวบรวมระดับบนสุดเกี่ยวกับการใช้งาน HID ที่กำหนด แต่ละรายการในลิสต์ต้องระบุทั้งช่อง <ph name="USAGES_FIELD_NAME" /> และ <ph name="URLS_FIELD_NAME" /> นโยบายจึงจะมีผล แต่ละรายการในช่อง <ph name="USAGES_FIELD_NAME" /> ต้องมี <ph name="USAGE_PAGE_FIELD_NAME" /> และอาจมีช่อง <ph name="USAGE_FIELD_NAME" /> การไม่ระบุช่อง <ph name="USAGE_FIELD_NAME" /> จะสร้างนโยบายที่ตรงกับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่มีการรวบรวมระดับบนสุดเกี่ยวกับการใช้งานจากหน้าการใช้งานที่ระบุ รายการที่ระบุช่อง <ph name="USAGE_FIELD_NAME" /> แต่ไม่ระบุช่อง <ph name="USAGE_PAGE_FIELD_NAME" /> จะไม่มีผล |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_HID_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลหากตั้งค่าไว้ แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| URL ในนโยบายนี้ไม่ควรขัดแย้งกับ URL ที่กำหนดค่าผ่าน <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> หากขัดแย้งกัน นโยบายนี้จะมีความสำคัญสูงกว่า <ph name="WEB_HID_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="8667754887193084187">นโยบายนี้จะเปิดใช้การตรวจสอบประเภท MIME ที่เข้มงวดกับสคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงาน |
| |
| เมื่อเปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่า สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานจะใช้การตรวจสอบประเภท MIME ที่เข้มงวดกับ JavaScript ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานเริ่มต้นแบบใหม่ สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประเภท MIME เดิมจะถูกปฏิเสธ |
| |
| เมื่อปิดใช้ สคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานจะใช้การตรวจสอบประเภท MIME แบบ Lax เพื่อให้ระบบโหลดและดำเนินการกับสคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประเภท MIME เดิม เช่น <ph name="MIMETYPE_TEXT_ASCII" /> ต่อไป |
| |
| แต่เดิมเบราว์เซอร์ใช้การตรวจสอบประเภท MIME แบบ Lax เพื่อให้ทรัพยากรที่มีประเภท MIME เดิมจำนวนมากสามารถใช้งานได้ เช่น สำหรับทรัพยากร JavaScript <ph name="MIMETYPE_TEXT_ASCII" /> จะเป็นประเภท MIME ที่รองรับเวอร์ชันเดิม ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยด้วยการอนุญาตให้โหลดทรัพยากรเป็นสคริปต์ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ในกรณีนี้ Chrome จะเปลี่ยนไปใช้การตรวจสอบประเภท MIME ที่เข้มงวดในอนาคตอันใกล้นี้ นโยบายที่เปิดใช้ดังกล่าวจะติดตามลักษณะการทำงานเริ่มต้น การปิดใช้นโยบายนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบคงลักษณะการทำงานเดิมไว้ได้หากต้องการ |
| |
| ดูรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทสื่อ JavaScript/ECMAScript ได้ที่ https://html.spec.whatwg.org/multipage/scripting.html#scriptingLanguage |
| </translation> |
| <translation id="8671119576957984818">เปิดใช้ฮับการแชร์เดสก์ท็อป</translation> |
| <translation id="8671193325113134911">เปิดใช้การตรวจสอบประเภท MIME ที่เข้มงวดกับสคริปต์สำหรับผู้ปฏิบัติงาน</translation> |
| <translation id="8671303329680827168">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="AUTH_NEGOTIATE_DELEGATE_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="8671314659400112135">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้การตรวจสอบความปลอดภัยของจุดขยายสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อบล็อกจุดขยายสัญญาณเดิมในกระบวนการของเบราว์เซอร์ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและความเสถียรของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เนื่องจากจะทำให้โค้ดที่ไม่รู้จักหรืออาจมีเจตนาร้ายโหลดเข้ามาในกระบวนการของเบราว์เซอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ได้ ปิดนโยบายนี้เฉพาะในกรณีที่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามซึ่งต้องเรียกใช้ภายในกระบวนการของเบราว์เซอร์ <ph name="PRODUCT_NAME" /> |
| |
| หมายเหตุ: อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลดการประมวลผล (https://chromium.googlesource.com/chromium/src/+/HEAD/docs/design/sandbox.md#Process-mitigation-policies)</translation> |
| <translation id="8672321184841719703">กำหนดเป้าหมายรุ่นที่อัปเดตอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="867410340948518937">U2F (Universal Second Factor)</translation> |
| <translation id="8676959842615154675">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลเปรียบเทียบชื่อของผู้ใช้เครือข่ายภายในที่เชื่อมโยงกับโฮสต์กับชื่อบัญชี Google ที่ลงทะเบียนเป็นเจ้าของโฮสต์ ("johndoe" หากเจ้าของโฮสต์คือ "johndoe@example.com") โฮสต์นี้จะไม่เริ่มหากชื่อของเจ้าของโฮสต์แตกต่างจากชื่อผู้ใช้เครือข่ายภายในที่เชื่อมโยงกับโฮสต์ หากต้องการยืนยันให้บัญชี Google ของเจ้าของเชื่อมโยงกับโดเมนที่เจาะจง ให้ใช้นโยบายกับ <ph name="REMOTE_ACCESS_HOST_DOMAIN_POLICY_NAME" /> |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้โฮสต์การเข้าถึงระยะไกลเชื่อมโยงกับผู้ใช้เครือข่ายภายในรายใดก็ได้</translation> |
| <translation id="867708016260789630">บังคับใช้โหมดที่จำกัดปานกลางเป็นอย่างน้อยใน YouTube</translation> |
| <translation id="8677853537025397834">อนุญาต WebHID API ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8684000025871334499">กําหนดค่านโยบายการติดตั้งและรันไทม์สําหรับ Bruschetta VM ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VM ของบุคคลที่สามได้ ฟีเจอร์นี้ปิดใช้อยู่โดยค่าเริ่มต้น |
| |
| นโยบายนี้คือแมปของรหัสการกําหนดค่ากับการกำหนดค่า VM เมื่อติดตั้ง VM จากการกําหนดค่าแล้ว VM นั้นจะได้รับการเชื่อมโยงกับรหัสการกำหนดค่าอย่างถาวร และนโยบายรันไทม์ใดๆ ในการกำหนดค่านั้นจะมีผลกับ VM VM หลายรายการอาจได้รับการติดตั้งจากการกำหนดค่าเดียวกันในอุปกรณ์เดียวกัน</translation> |
| <translation id="8685018726115727387">ปิดใช้การนำเข้าประวัติการท่องเว็บเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="8685024486845674965">เรียกใช้การแจ้งเตือนการป้องกันด้วยรหัสผ่านเมื่อมีการใช้รหัสผ่านซ้ำ</translation> |
| <translation id="8685680544554917389">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" อนุญาตให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เล่นสื่ออัตโนมัติ การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ห้ามไม่ให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เล่นสื่ออัตโนมัติ |
| |
| โดยค่าเริ่มต้น <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่เล่นสื่ออัตโนมัติ แต่สำหรับ URL บางรูปแบบ คุณใช้นโยบาย <ph name="AUTOPLAY_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ |
| |
| หากนโยบายนี้เปลี่ยนแปลงในขณะที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ทำงานอยู่ จะมีผลกับแท็บที่เปิดใหม่เท่านั้น</translation> |
| <translation id="8685748277907759932">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใช้ "แตะเพื่อค้นหา"</translation> |
| <translation id="8686700500128191717">เปิดใช้การรายงานผู้ใช้อุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8687958770985542440">เปิดใช้ Web Components v0 API ได้อีกครั้งจนกว่าจะถึงเวอร์ชัน M84</translation> |
| <translation id="8693243869659262736">ใช้ไคลเอ็นต์ DNS ในตัว</translation> |
| <translation id="8695006038397632296">สร้างและอัปโหลดคำขอติดตั้งส่วนขยายไปยังคอนโซลผู้ดูแลระบบ</translation> |
| <translation id="8695108198606654558">นโยบายนี้ควบคุมเฉพาะลักษณะการนําเข้าครั้งแรกหลังจากการติดตั้งเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้การเปลี่ยนไปใช้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้เบราว์เซอร์อื่นอย่างกว้างขวางก่อนติดตั้งเบราว์เซอร์นี้เป็นไปอย่างราบรื่น นโยบายนี้ไม่มีผลต่อความสามารถของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสําหรับบัญชี Google |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนําเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้จากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก และทำให้สามารถนําเข้าด้วยตนเองจากหน้าการตั้งค่าได้ด้วย |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทําให้ไม่มีการนำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้เมื่อเรียกใช้ครั้งแรก และจะนำเข้าด้วยตนเองจากหน้าการตั้งค่าไม่ได้ด้วย |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทําให้ไม่มีการนําเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้เมื่อเรียกใช้ครั้งแรก แต่ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะนำเข้าได้จากหน้าการตั้งค่า</translation> |
| <translation id="8697738827698599333">การตั้งค่านโยบายจะระบุ WebAuthn RP ID ที่จะไม่แสดงข้อความแจ้งเมื่อมีการขอใบรับรองสำหรับเอกสารรับรองจากคีย์ความปลอดภัย และจะมีการส่งสัญญาณไปยังคีย์ความปลอดภัยด้วยเพื่อระบุว่าอาจมีการใช้เอกสารรับรองขององค์กร หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ เมื่อเว็บไซต์ขอเอกสารรับรองของคีย์ความปลอดภัย ผู้ใช้จะได้รับข้อความแจ้งใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 65 ขึ้นไป</translation> |
| <translation id="8698286761337647563">จำนวนวันที่จะแจ้งผู้ใช้ SAML ล่วงหน้าเมื่อรหัสผ่านจะหมดอายุ</translation> |
| <translation id="8699392919012430269">รายงานข้อมูลบลูทูธของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลบลูทูธของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8700633400000170881">ปุ่มซ้ายคือปุ่มหลัก</translation> |
| <translation id="8703378568562190813">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บแอปที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ประเภทต่างๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_FILE_HANDLING_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับเว็บแอปทั้งหมด (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| สำหรับรูปแบบ URL ที่ไม่ตรงกับ <ph name="FILE_HANDLING_ALLOWED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> หรือ <ph name="FILE_HANDLING_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ระบบจะใช้ <ph name="DEFAULT_FILE_HANDLING_GUARD_SETTING_POLICY_NAME" /> หรือการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้ตามลำดับ |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="FILE_HANDLING_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8703488928438047864">รายงานสถานะของบอร์ด</translation> |
| <translation id="8704831857353097849">รายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน</translation> |
| <translation id="8705317513271779649">นโยบายนี้ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่เลือกไว้สำหรับการรีแมปเหตุการณ์กับ F12 ในหน้าย่อย "รีแมปคีย์" การตั้งค่าเหล่านี้มีผลเฉพาะกับแป้นพิมพ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> และจะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นหากไม่ได้ตั้งค่านโยบาย หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้</translation> |
| <translation id="8705895771006864851">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเสนอฟังก์ชันแปลภาษาแก่ผู้ใช้ตามความเหมาะสมด้วยการแสดงแถบเครื่องมือแปลภาษาที่ผสานรวมอยู่ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> และตัวเลือกการแปลเมื่อคลิกขวาที่เมนูตามบริบท การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดฟีเจอร์แปลภาษาในตัวทั้งหมด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนฟังก์ชันนี้ไม่ได้ การไม่ตั้งค่าจะให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าได้</translation> |
| <translation id="8707790573162457301">เรียกใช้การทำความสะอาดดิสก์อัตโนมัติในระหว่างเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8712609946151927008">กำหนดช่วงเวลาการระงับรายสัปดาห์</translation> |
| <translation id="8713535263782304771">ปิดใช้ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="8714556680280715750">URL สำหรับให้ผู้ใช้เข้าชมเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ จะไม่มี URL สำหรับ "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" ในโปรแกรมติดตั้ง หากมี ก็ต้องใช้รูปแบบ HTTPS</translation> |
| <translation id="8715885991031124968">อนุญาตกล่องโต้ตอบ JavaScript ที่เกิดจากเฟรมย่อยที่เป็นต้นทางเฟรมอื่น</translation> |
| <translation id="8720547069538712402">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้หรือปิดใช้การตรวจตัวสะกด</translation> |
| <translation id="8721685661759544418">เปิดใช้การอ่านออกเสียง (การแยกข้อความและการสังเคราะห์การอ่านออกเสียงข้อความ) สำหรับหน้าเว็บ</translation> |
| <translation id="8726080977639508431">นโยบายนี้ควบคุมลักษณะที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ตีความนโยบายรายการเว็บไซต์/รายการที่ต้องสงสัยของฟีเจอร์การรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า ซึ่งจะส่งผลต่อนโยบาย <ph name="URL_LIST_POLICY_NAME" />, <ph name="URL_GREYLIST_POLICY_NAME" />, <ph name="USE_IE_SITELIST_POLICY_NAME" />, <ph name="EXTERNAL_SITELIST_POLICY_NAME" /> และ <ph name="EXTERNAL_GREYLIST_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากเป็น "ค่าเริ่มต้น" (0) หรือไม่ได้ตั้งค่า การจับคู่ URL จะไม่เข้มงวดนัก กฎที่ไม่มีอักขระ "/" จะค้นหาสตริงย่อยจากทุกส่วนในชื่อโฮสต์ของ URL การจับคู่คอมโพเนนต์เส้นทางของ URL จะพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ |
| |
| หากเป็น "IESiteListMode" (1) การจับคู่ URL จะเข้มงวดยิ่งขึ้น กฎที่ไม่มีอักขระ "/" จะจับคู่ที่ส่วนท้ายของชื่อโฮสต์เท่านั้น และต้องอยู่ที่ขอบเขตของชื่อโดเมนด้วย การจับคู่คอมโพเนนต์เส้นทางของ URL จะไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ นโยบายนี้เข้ากันกับ <ph name="MS_IE_PRODUCT_NAME" /> และ <ph name="MS_EDGE_PRODUCT_NAME" /> ได้ดีกว่า |
| |
| ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้กฎ "example.com" และ "acme.com/abc" แล้ว "http://example.com/", "http://subdomain.example.com/" และ "http://acme.com/abc" จะถือว่าตรงกันไม่ว่าจะอยู่ในโหมดแยกวิเคราะห์หรือไม่ |
| |
| ส่วน "http://notexample.com/", "http://example.com.invalid.com/", "http://example.comabc/" จะถือว่าตรงกันเมื่ออยู่ในโหมด "ค่าเริ่มต้น" เท่านั้น |
| |
| "http://acme.com/ABC" จะถือว่าตรงกันเฉพาะใน "IESiteListMode"</translation> |
| <translation id="8728854710675158426">เปิดใช้แฮชที่ไม่ปลอดภัยในแฮนด์เชค TLS อยู่</translation> |
| <translation id="8734543507835977857">เริ่มต้นการหน่วงเวลาการจัดการพลังงานและขีดจํากัดระยะเวลาเซสชันเมื่อเริ่มต้นเซสชัน</translation> |
| <translation id="8736538322216687231">บังคับใช้โหมดที่จำกัดขั้นต่ำใน YouTube</translation> |
| <translation id="873800217865395140">อัตราการรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเว็บไซต์เป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="8743902569031401303">อนุญาตแบบสำรวจเกี่ยวกับ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="8744844164152340112">ควบคุมธีมที่ใช้สำหรับแสดงผล UI ใน OOBE และในเซสชัน (มืด/สว่าง/อัตโนมัติ) |
| โหมดอัตโนมัติจะสับเปลี่ยนระหว่างธีมมืดและธีมสว่างให้โดยอัตโนมัติตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก |
| แนะนำให้ใช้นโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนธีมในการตั้งค่าระบบได้</translation> |
| <translation id="8744997936011793680">แจ้งให้ผู้ใช้ตรวจสอบสิทธิ์กับโปรไฟล์อีกครั้ง</translation> |
| <translation id="8749536858950505376">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ไว้ตลอด การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดใช้เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่ไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ เคอร์เซอร์ขนาดใหญ่จะปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="8750941317035081777">ระบบจะบีบ setTimeout() ของ JavaScript หลังจากถึงเกณฑ์ที่ซ้อนอยู่ตามปกติ</translation> |
| <translation id="8753264624162178499">ตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพมีไว้เพื่อให้ผู้ใช้ทำแรสเตอร์ PDF ก่อนส่งงานพิมพ์ไปยังปลายทางได้</translation> |
| <translation id="8756304146356317273">ปิดใช้การรายงานข้อมูลส่วนขยายและปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="8757552286070680084">การกำหนดค่า Wilco DTC</translation> |
| <translation id="8758831693895931466">เปิดใช้การลงทะเบียนการจัดการระบบคลาวด์ที่บังคับ</translation> |
| <translation id="8759829385824155666">ประเภทของการเข้ารหัสลับ Kerberos ที่อนุญาต</translation> |
| <translation id="8766308369516978190">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" บนเว็บได้ เช่น เพื่อชำระเงินและเปลี่ยนรหัสผ่านได้เร็วขึ้น การใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" ต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติมจากผู้ใช้ และ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" จะทำงานก็ต่อเมื่อผู้ใช้เลือกให้ความยินยอมนี้แม้ว่าจะตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ก็ตาม |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ใช้ "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" บนเว็บไม่ได้ |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบาย ผู้ใช้จะปิด "<ph name="ASSISTANT_PRODUCT_NAME" />" ได้</translation> |
| <translation id="8766910236040529804">เปิดใช้คอนเทนเนอร์ของแอปตัวแสดงผล</translation> |
| <translation id="8767743923206070405">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะแสดงปุ่มหน้าแรกในแถบเครื่องมือของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ปุ่มหน้าแรกไม่ปรากฏขึ้นมา |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้จะเลือกว่าจะแสดงปุ่มหน้าแรกหรือไม่</translation> |
| <translation id="8767749141825412133">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="AUTH_SERVER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="8768528324886802059">การตั้งค่านโยบายจะระบุโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมที่ไม่อยู่ในรายการปฏิเสธ ค่ารายการปฏิเสธ "<ph name="WILDCARD_VALUE" />" จะทำให้โฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมทั้งหมดถูกปฏิเสธ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้ง |
| |
| ระบบจะอนุญาตโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมทั้งหมดโดยค่าเริ่มต้น แต่หากนโยบายปฏิเสธโฮสต์การรับส่งข้อความดั้งเดิมทั้งหมด ผู้ดูแลระบบจะใช้รายการอนุญาตเพื่อเปลี่ยนนโยบายนั้นได้</translation> |
| <translation id="877101880914876353">ช่วงเวลาแสดงรูปภาพหน้าจอการเข้าสู่ระบบสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="877557628527387598">ลงชื่อเข้าใช้ด้วยรหัสผ่าน</translation> |
| <translation id="8777369558049831576">แสดงช่องทำเครื่องหมาย "เปิดตลอดเวลา" ในกล่องโต้ตอบของโปรโตคอลภายนอก</translation> |
| <translation id="8778320022586618010">เปิดใช้การรายงานสถานะกราฟิกของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8780039702448388726">ปิดใช้การรายงานข้อมูลเวอร์ชันอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8782203407766130175">นโยบายนี้เปิดใช้การรองรับ URL ข้อมูลของ SVGUseElement ซึ่งจะปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นตั้งแต่ในเวอร์ชัน M119 เป็นต้นไป |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" URL ข้อมูลจะใช้งานได้ต่อไปใน SVGUseElement |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ URL ข้อมูลจะใช้งานไม่ได้ใน SVGUseElement</translation> |
| <translation id="8786409859071107656">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดนโยบายการจัดการพลังงานของการแชร์พลังงานผ่าน USB |
| |
| อุปกรณ์บางเครื่องจะมีพอร์ต USB พอร์ตหนึ่งซึ่งมีไอคอนรูปสายฟ้าหรือรูปแบตเตอรี่สำหรับชาร์จอุปกรณ์โดยใช้แบตเตอรี่ของระบบ นโยบายนี้ส่งผลต่อลักษณะการชาร์จของพอร์ตนี้ขณะที่ระบบอยู่ในโหมดสลีปและโหมดปิดเครื่อง นโยบายนี้ไม่ส่งผลต่อพอร์ต USB อื่นๆ และลักษณะการชาร์จขณะที่ระบบทำงานอยู่ เมื่อพอร์ต USB จ่ายไฟเสมอ |
| |
| เมื่อระบบอยู่ในโหมดสลีป จะมีการจ่ายไฟไปยังพอร์ต USB เมื่ออุปกรณ์เสียบอยู่กับที่ชาร์จแบบเสียบผนังหรือหากระดับแบตเตอรี่มากกว่า 50% เมื่อระบบอยู่ในโหมดปิดเครื่อง จะมีการจ่ายไฟไปยังพอร์ต USB เมื่ออุปกรณ์เสียบอยู่กับที่ชาร์จแบบเสียบผนัง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ไม่มีการจ่ายไฟ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะเป็นการเปิดใช้นโยบาย และผู้ใช้จะปิดการใช้ไม่ได้</translation> |
| <translation id="8789053142986648624">บัญชีที่จัดการต้องเป็นบัญชีหลัก และผู้ใช้สามารถนำเข้าข้อมูลที่มีอยู่ในขณะที่สร้างบัญชี</translation> |
| <translation id="8789338675663014675">กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยาย ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยายที่ถูกบล็อก เว้นแต่ว่าเป็นรายการที่อนุญาตพิเศษ คุณยังบังคับให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ติดตั้งส่วนขยายโดยอัตโนมัติได้ด้วยการระบุส่วนขยายใน <ph name="EXTENSION_INSTALL_FORCELIST_POLICY_NAME" /> ระบบจะติดตั้งส่วนขยายที่บังคับติดตั้งแม้ว่าส่วนขยายจะอยู่ในรายการที่บล็อกก็ตาม</translation> |
| <translation id="879697755145469671">ไม่ตรวจหาหน้าต่างที่ถูกบัง</translation> |
| <translation id="8798099450830957504">ค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="879863472982972634">การตั้งค่านโยบายนี้ให้คุณระบุรูปแบบ URL ซึ่งเจาะจงเว็บไซต์ที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงเครื่องพิมพ์ในเครือข่ายโดยอัตโนมัติผ่าน WebPrinting API |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_WEB_PRINTING_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| รูปแบบ URL ต้องไม่ขัดแย้งกับ <ph name="WEB_PRINTING_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ไม่มีนโยบายที่จะมีความสำคัญสูงกว่าหาก URL ตรงกับทั้ง 2 นโยบาย |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8799492680917278474">หากตั้งค่านโยบายนี้ จะมีการยกเลิกการเชื่อมต่อของการเข้าถึงจากระยะไกลโดยอัตโนมัติหลังพ้นระยะเวลา (หน่วยเป็นนาที) ที่กำหนดไว้ในนโยบาย แต่ยังคงอนุญาตให้ไคลเอ็นต์เชื่อมต่ออีกครั้งหลังครบระยะเวลาเซสชันสูงสุด การตั้งค่านโยบายเป็นค่าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงต่ำสุด/สูงสุดอาจทำให้โฮสต์ไม่เริ่มทำงาน นโยบายนี้ไม่มีผลต่อสถานการณ์การสนับสนุนระยะไกล |
| |
| และจะไม่มีผลหากไม่ได้ตั้งค่า ในกรณีนี้ การเชื่อมต่อของการเข้าถึงจากระยะไกลจะไม่กำหนดระยะเวลาสูงสุดสำหรับเครื่องนี้</translation> |
| <translation id="8800453707696044281">ตั้งค่าการหยุดชาร์จแบตเตอรี่ที่กำหนดเองเป็นเปอร์เซ็นต์</translation> |
| <translation id="8801680448782904838">แจ้งผู้ใช้ว่าควรหรือจำเป็นต้องเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่หรือรีสตาร์ทอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8802800226877198994">เปิดใช้การรองรับ GIF</translation> |
| <translation id="8804685015028424497">ปิดใช้โหมดไม่ระบุตัวตน</translation> |
| <translation id="8806478127647484805">ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ยุติกระบวนการโดยใช้ตัวจัดการงานของ Chrome</translation> |
| <translation id="8807274441692477185">ไม่แสดงหน้าจอทิศทางการเลื่อนของทัชแพดระหว่างลงชื่อเข้าใช้</translation> |
| <translation id="8807313206348471682">แสดงกล่องโต้ตอบการยืนยันการออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="8809082103104823938">การรองรับ GIF ในเครื่องมือเลือกอีโมจิ</translation> |
| <translation id="8812091410765157924">อนุญาตให้เปิดเฉพาะป๊อปอัปที่มีการกำหนดเป้าหมายแบบ <ph name="BLANK_PAGE_NAME" /> เพื่อโต้ตอบกับหน้าที่เปิดป๊อปอัป หากหน้าที่เปิดเลือกใช้การโต้ตอบดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง</translation> |
| <translation id="8816370949847593408">ระบบอาจไม่อนุญาตให้แอป Chrome ทำงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของการเริ่มเลิกใช้งาน</translation> |
| <translation id="8818768076343557335">คาดคะเนการทำงานของเครือข่ายบนเครือข่ายต่างๆ ที่ไม่ใช่เครือข่ายมือถือ |
| (เลิกใช้งานใน 50, นำออกใน 52 หลังจาก 52 หากมีการกำหนดค่า 1 ระบบจะถือว่าเป็นค่า 0 - คาดคะเนการทำงานของเครือข่ายบนการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ)</translation> |
| <translation id="8820434908768990758">เปิดใช้การแยกเว็บไซต์สำหรับเว็บไซต์ทั้งหมด แต่อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกไม่ใช้ได้</translation> |
| <translation id="8821678641132607468">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนำเข้าประวัติการท่องเว็บจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าจะไม่มีการนำเข้าประวัติการท่องเว็บเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| ผู้ใช้จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการนำเข้า และจะมีการเลือกหรือไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมายประวัติการท่องเว็บไว้ เพื่อให้ตรงกับค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8825154502356129120">ปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์ gnubby สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="8825261718850860999">เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า แป้นพิมพ์บนหน้าจอจะปรากฏขึ้นเมื่อระบบคาดการณ์ว่าผู้ใช้จะใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์บนหน้าจอจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้แตะที่ช่องป้อนข้อมูลอย่างชัดแจ้งหรือเมื่อแอปพลิเคชันร้องขอ |
| |
| เช่น สมมติว่าผู้ใช้ใช้แป้นพิมพ์เสมือนเพื่อพิมพ์ชื่อผู้ใช้ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบแบบ 2 ขั้นตอน เมื่อหน้าจอการเข้าสู่ระบบเปลี่ยนไปเป็นขั้นตอนการป้อนรหัสผ่าน หากนโยบายเป็น "จริง" อาจยังมองเห็นแป้นพิมพ์เสมือนได้อยู่ แม้ว่าผู้ใช้ไม่ได้แตะช่องป้อนรหัสผ่านก็ตาม หากนโยบายเป็น "เท็จ" แป้นพิมพ์เสมือนจะหายไป |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากปิดใช้แป้นพิมพ์เสมือน (เช่น การใช้นโยบาย <ph name="TOUCH_VIRTUAL_KEYBOARD_ENABLED_POLICY_NAME" /> หรือหากอุปกรณ์เชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์จริง)</translation> |
| <translation id="8825782996899863372">เรียกใช้การแจ้งเตือนการป้องกันด้วยรหัสผ่านเมื่อมีการใช้รหัสผ่านซ้ำบนหน้าฟิชชิง</translation> |
| <translation id="8827275450034266143">สตริง User-Agent จะหยุดเวอร์ชันหลักไว้ที่ 99 และรวมเวอร์ชันหลักของเบราว์เซอร์ไว้ในตำแหน่งรอง</translation> |
| <translation id="8827366480126575426">โปรโตคอลสำหรับเครื่องจัดการโปรโตคอล</translation> |
| <translation id="8827417642396462482">อนุญาตประเภทคำขอ DNS เพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="8830717323204407209">อนุญาตให้แสดงการโปรโมตส่วนขยายผู้ให้บริการเอกสารสิทธิ์แก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8832829916385857156">หน้าแท็บใหม่จะแสดงการ์ดหากมีเนื้อหา</translation> |
| <translation id="8833109046074170275">การตรวจสอบสิทธิ์ผ่านขั้นตอน GAIA เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8834641112681661892">การตั้งค่านโยบายจะระบุการหน่วงเวลาสูงสุดเป็นมิลลิวินาทีสำหรับช่วงเวลาระหว่างการรับข้อมูลการลบล้างนโยบายและการดึงข้อมูลนโยบายใหม่จากบริการจัดการอุปกรณ์ ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ในช่วง 1,000 (1 วินาที) ถึง 300,000 (5 นาที) ค่าที่ไม่ได้อยู่ในช่วงนี้จะถูกบีบให้อยู่ภายในขอบเขตที่เกี่ยวข้อง |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ใช้ค่าเริ่มต้นเป็น 10 วินาที</translation> |
| <translation id="8835322836315560274">การตั้งค่านโยบายนี้จะควบคุมคำสั่งที่จะใช้เปิด URL ในเบราว์เซอร์สำรอง นโยบายนี้จะตั้งค่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ระหว่าง <ph name="INTERNET_EXPLORER_VALUE_PLACEHOLDER" />, <ph name="FIREFOX_VALUE_PLACEHOLDER" />, <ph name="SAFARI_VALUE_PLACEHOLDER" />, <ph name="OPERA_VALUE_PLACEHOLDER" />, <ph name="EDGE_VALUE_PLACEHOLDER" /> หรือเส้นทางของไฟล์ เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นเส้นทางของไฟล์ ระบบจะใช้ไฟล์นั้นเป็นไฟล์ที่ดำเนินการได้ <ph name="INTERNET_EXPLORER_VALUE_PLACEHOLDER" /> จะมีเฉพาะใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> <ph name="SAFARI_VALUE_PLACEHOLDER" /> และ <ph name="EDGE_VALUE_PLACEHOLDER" /> จะมีเฉพาะใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> และ <ph name="MAC_OS_NAME" /> |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้ระบบใช้ค่าเริ่มต้นเฉพาะแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้แก่ <ph name="IE_PRODUCT_NAME" /> สำหรับ <ph name="MS_WIN_NAME" /> หรือ <ph name="SAFARI_PRODUCT_NAME" /> สำหรับ <ph name="MAC_OS_NAME" /> ส่วนใน <ph name="LINUX_OS_NAME" /> การเปิดเบราว์เซอร์สำรองจะทำไม่สำเร็จ</translation> |
| <translation id="8836975838488342340">เวลาที่ใช้รหัสการเข้าถึงได้ (เป็นวินาที)</translation> |
| <translation id="883744045558067826">ระบบอาจใช้ Chrome Root Store ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการเปิดตัวฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="8837957135252624017">เปิดแท็บ Chrome ไว้อย่างน้อย 1 แท็บ</translation> |
| <translation id="8839799083601163225">นโยบายนี้ควบคุมว่ากระบวนการของบริการเครือข่ายจะเรียกใช้โดยใช้แซนด์บ็อกซ์หรือไม่ |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของบริการเครือข่ายจะเรียกใช้โดยใช้แซนด์บ็อกซ์ |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ กระบวนการของบริการเครือข่ายจะเรียกใช้โดยไม่ใช้แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการเรียกใช้บริการเครือข่ายโดยไม่ใช้แซนด์บ็อกซ์ |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ค่ากำหนดเริ่มต้นของแซนด์บ็อกซ์เครือข่าย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> การทดสอบในวงจำกัดที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และแพลตฟอร์ม |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการปิดใช้แซนด์บ็อกซ์เครือข่ายหากองค์กรใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามซึ่งรบกวนแซนด์บ็อกซ์ของบริการเครือข่าย</translation> |
| <translation id="8840243776706727185">ฟีเจอร์ NewBaseUrlInheritanceBehavior ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="8842208363354615697">อนุญาตให้เปิดใช้โหมด "HTTPS เท่านั้น"</translation> |
| <translation id="8843331294082716286">ไม่ต้องแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ต่อผู้ใช้</translation> |
| <translation id="885147810817138322">แสดงคำแนะนำสื่อให้แก่ผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8852579753940989645">เปิดใช้ฟีเจอร์ความสมบูรณ์ของโค้ดในการแสดงผล</translation> |
| <translation id="8854571659927427063">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะนำเข้าบุ๊กมาร์กจากเบราว์เซอร์เริ่มต้นก่อนหน้าเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า หมายความว่าจะไม่มีการนำเข้าบุ๊กมาร์กเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก |
| |
| ผู้ใช้จะทริกเกอร์กล่องโต้ตอบการนำเข้า และจะมีการเลือกหรือไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมายบุ๊กมาร์กไว้ เพื่อให้ตรงกับค่าของนโยบายนี้</translation> |
| <translation id="8857793979935465678">นโยบายนี้ใช้กำหนดว่าจะอนุญาตให้โหมดการปกป้องแบบมาตรฐานของ Google Safe Browsing ส่งแฮชแบบบางส่วนของ URL ไปยัง Google ผ่านพร็อกซีทาง Oblivious HTTP ไหม เพื่อดูว่าสามารถเข้าชมได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ |
| |
| พร็อกซีจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์อัปโหลดแฮชแบบบางส่วนของ URL ไปยัง Google โดยไม่ลิงก์กับที่อยู่ IP ของผู้ใช้ นโยบายยังอนุญาตให้เบราว์เซอร์อัปโหลดแฮชแบบบางส่วนของ URL ด้วยความถี่ที่สูงขึ้น เพื่อคุณภาพการปกป้องที่ดียิ่งขึ้นของ Google Safe Browsing |
| |
| ระบบจะไม่สนใจนโยบายนี้หาก Google Safe Browsing ปิดใช้อยู่หรือตั้งค่าเป็นโหมดการปกป้องที่ดียิ่งขึ้น |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะอนุญาตให้ทำการค้นหาผ่านพร็อกซีที่มีการปกป้องสูงขึ้นได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะไม่อนุญาตให้ทำการค้นหาผ่านพร็อกซีที่มีการปกป้องสูงขึ้น ระบบจะอัปโหลดแฮชแบบบางส่วนของ URL ไปยัง Google โดยตรงด้วยความถี่ที่ต่ำลงมาก ซึ่งจะลดระดับการปกป้องลง</translation> |
| <translation id="8858642179038618439">บังคับใช้โหมดปลอดภัยของ YouTube</translation> |
| <translation id="8860342862142842017">ปิดการบังคับใช้ความโปร่งใสของใบรับรองสำหรับรายการแฮช subjectPublicKeyInfo</translation> |
| <translation id="8860894781631833477">ผู้ใช้จะกำหนดค่าเวอร์ชันการเผยแพร่ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="8862086508140571198">นโยบายนี้ช่วยให้ตั้งค่ารายการ DLC (เนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้) ให้ดาวน์โหลดโดยเร็วที่สุด จากนั้น DLC ที่ดาวน์โหลดมาจะพร้อมให้ผู้ใช้ทุกคนในอุปกรณ์ใช้งานได้ |
| |
| วิธีนี้มีประโยชน์เมื่อผู้ดูแลระบบทราบว่าผู้ใช้อุปกรณ์มีแนวโน้มที่จะใช้ฟีเจอร์ที่ต้องมี DLC</translation> |
| <translation id="8864727482158496280">ไม่อนุญาตการอัปเดตอัตโนมัติเพิ่มเติม</translation> |
| <translation id="8864975621965365890">ระงับการแจ้งเรื่องการปฏิเสธ ซึ่งจะปรากฏขึ้นเมื่อไซต์แสดงผลโดย <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="8865404058177794289">ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นสําหรับการตรวจสอบการใช้งานคีย์ RSA</translation> |
| <translation id="8866430022832109569">การรายงานพื้นที่โฆษณาในแอป</translation> |
| <translation id="886645881209114007">อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="8867166356020504023">หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" ระบบจะทำการค้นหาที่เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อผู้ใช้ป้อนข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบที่อยู่ หากต้องการระบุผู้ให้บริการค้นหาที่เป็นค่าเริ่มต้น ให้ตั้งค่าส่วนที่เหลือของนโยบายการค้นหาเริ่มต้น หากปล่อยนโยบายเหล่านี้ว่างไว้ ผู้ใช้จะเลือกผู้ให้บริการเริ่มต้นได้ หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะไม่มีการค้นหาเมื่อผู้ใช้ป้อนข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบที่อยู่ <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> ไม่รองรับค่า "ปิดใช้" |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าวใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ ระบบจะเปิดใช้ผู้ให้บริการค้นหาเริ่มต้น และผู้ใช้จะกำหนดรายการผู้ให้บริการค้นหาได้ |
| |
| ใน <ph name="MS_WIN_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่เข้าร่วมโดเมน <ph name="MS_AD_NAME" />, เข้าร่วม <ph name="MS_AAD_NAME" /> หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /> |
| |
| ใน <ph name="MAC_OS_NAME" /> นโยบายนี้ใช้ได้เฉพาะในอินสแตนซ์ที่จัดการผ่าน MDM, เข้าร่วมโดเมนผ่าน MCX หรือลงทะเบียนใน <ph name="CHROME_BROWSER_CLOUD_MANAGEMENT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8867894831390233044">ควบคุมว่าผู้ใช้จะใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกลได้หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้อาจใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกลได้โดยระบุการเปลี่ยนบรรทัดคำสั่ง --remote-debugging-port และ --remote-debugging-pipe |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" ผู้ใช้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="8870995142109792885">เปิดใช้เครื่องมือค้นหาปลั๊กอิน</translation> |
| <translation id="8871974300055371298">การตั้งค่าเนื้อหา</translation> |
| <translation id="8872402969096027761">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการคลิกอัตโนมัติในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำให้เกิดการคลิกโดยอัตโนมัติเมื่อเคอร์เซอร์ของเมาส์หยุดลงโดยผู้ใช้ไม่ต้องกดปุ่มเมาส์หรือทัชแพด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์คลิกอัตโนมัติเสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์คลิกอัตโนมัติเสมอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้ฟีเจอร์คลิกอัตโนมัติในหน้าจอการเข้าสู่ระบบในขั้นต้น แต่ผู้ใช้จะเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="8873089107816226072">การตั้งค่านโยบายจะระบุเขตเวลาของอุปกรณ์และปิดการปรับเขตเวลาตามตำแหน่งโดยอัตโนมัติในขณะที่ลบล้างนโยบาย <ph name="SYSTEM_TIMEZONE_AUTOMATIC_DETECTION_POLICY_NAME" /> ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงเขตเวลาไม่ได้ |
| |
| อุปกรณ์เครื่องใหม่จะมีเขตเวลาเริ่มต้นเป็น "สหรัฐฯ/แปซิฟิก" รูปแบบของค่าเป็นไปตามชื่อในฐานข้อมูลเขตเวลาของ IANA (https://en.wikipedia.org/wiki/Tz_database) การป้อนค่าที่ไม่ถูกต้องจะเปิดใช้งานนโยบายที่ใช้ GMT |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือป้อนสตริงว่าง อุปกรณ์จะใช้เขตเวลาที่ใช้อยู่ แต่ผู้ใช้จะเปลี่ยนแปลงได้</translation> |
| <translation id="8880146422959594776">อนุญาตให้บริการบางอย่างใน <ph name="PRODUCT_OS_FLEX_NAME" /> ส่งข้อมูลฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม |
| |
| ระบบใช้ข้อมูลฮาร์ดแวร์นี้เพื่อปรับปรุง <ph name="PRODUCT_OS_FLEX_NAME" /> โดยรวม |
| เช่น เราอาจวิเคราะห์ผลกระทบของการขัดข้องตาม CPU หรือจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขข้อบกพร่องตามจำนวนอุปกรณ์ที่แชร์คอมโพเนนต์ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะส่งรายละเอียดฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมจากอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_FLEX_NAME" /> |
| หากปิดใช้ ระบบจะส่งเฉพาะข้อมูลฮาร์ดแวร์มาตรฐาน</translation> |
| <translation id="8880294585549584028">อนุญาตสิทธิ์การเข้าถึงในการเขียนไฟล์และไดเรกทอรีในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8882006618241293596">บล็อกปลั๊กอิน <ph name="FLASH_PLUGIN_NAME" /> ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="8882255181490012651">ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เลือกใช้ฮับโทรศัพท์เข้าถึงรูปภาพและวิดีโอล่าสุดที่ถ่ายในโทรศัพท์ของตน</translation> |
| <translation id="8882307005437314052">เปิดใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้ปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="8883577480680089760">ปิดใช้บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> V2 และไม่ต้องเปิดเดสก์ระยะไกลเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="8887709920496070892">ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนแสดงกล่องคำเตือนหลังจากไม่มีการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8888289774309799423">ไม่อนุญาตให้ตั้งค่า <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /></translation> |
| <translation id="8890438048579188548">ซ่อนคำเตือนการเลิกใช้งาน <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="8891334958985336685">ปิดใช้การรายงานข้อมูลระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8892286064305622118">ต้องมีพื้นที่ว่างในดิสก์เพื่อติดตั้ง <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /></translation> |
| <translation id="8892783613915541293">การหน่วงเวลาและการดำเนินการที่จะทำเมื่อไม่มีการใช้งานอุปกรณ์ขณะเสียบปลั๊ก</translation> |
| <translation id="8897796778265450949">จำกัดเวลาที่ผู้ใช้ซึ่งตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน GAIA โดยไม่มี SAML จะเข้าสู่ระบบแบบออฟไลน์ได้</translation> |
| <translation id="889814528399907891">อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้ <ph name="LACROS_NAME" /> และกำหนดให้เป็นเบราว์เซอร์หลัก</translation> |
| <translation id="8900312706328930425">ความถี่ของการรายงานในระบบคลาวด์ (เป็นชั่วโมง)</translation> |
| <translation id="8903283771634816230">หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้เครื่องพิมพ์เริ่มต้นของระบบปฏิบัติการเป็นปลายทางเริ่มต้นสำหรับการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะใช้เครื่องพิมพ์ที่ใช้ล่าสุดเป็นปลายทางเริ่มต้นสำหรับการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์</translation> |
| <translation id="8904721489610046109">การตั้งค่านโยบายจะเปิดหรือปิดการควบคุมเครือข่าย ซึ่งเป็นการควบคุมระบบให้มีอัตราการอัปโหลดและดาวน์โหลดที่ระบุไว้ (หน่วยเป็น kbit/s) การตั้งค่านี้จะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนและอินเทอร์เฟซทั้งหมดในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8906768759089290519">เปิดใช้งานโหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="8908294717014659003">อนุญาตให้คุณตั้งค่าว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียงหรือไม่ การเข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียงอาจได้รับอนุญาตโดยค่าเริ่มต้น หรือผู้ใช้สามารถรับข้อความสอบถามทุกๆ ครั้งที่เว็บไซต์ต้องการเข้าถึงอุปกรณ์จับสื่อภาพ/เสียง |
| |
| หากไม่ตั้งค่านโยบายนี้ "PromptOnAccess" จะถูกใช้และผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้</translation> |
| <translation id="8911348623012274122">ตั้งขีดจำกัดหน่วยความจำสำหรับอินสแตนซ์ของ Chrome</translation> |
| <translation id="8911736066340032670">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงผล เช่น อัตราการรีเฟรช และข้อมูลเกี่ยวกับกราฟิก เช่น เวอร์ชันของไดรเวอร์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่รายงานสถานะการแสดงผลและกราฟิก หากตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะรายงานสถานะการแสดงผลและกราฟิก</translation> |
| <translation id="891435090623616439">เข้ารหัสเป็นสตริง JSON ดูรายละเอียดได้ที่ <ph name="COMPLEX_POLICIES_URL" /></translation> |
| <translation id="8917070657147922192">อนุญาตให้ผู้ใช้จัดการใบรับรอง CA ที่ติดตั้งไว้</translation> |
| <translation id="8919100556245407184">เวลาเป็นจำนวนวันหลังจากโพสต์การหมดอายุของอัปเดตอัตโนมัติซึ่งผู้ใช้จะออกจากระบบหากเวอร์ชัน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต่ำกว่า <ph name="CHROMEOS_VERSION_PROPERTY_NAME" /> ตามที่ระบุไว้</translation> |
| <translation id="8919369436496201075">อนุญาตให้อุปกรณ์รับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ LTS</translation> |
| <translation id="8921669704201370845">เปิดใช้การรายงานในระบบคลาวด์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> สำหรับโปรไฟล์ที่มีการจัดการ</translation> |
| <translation id="8922231993239705844">ปิดใช้การไฮไลต์เคอร์เซอร์</translation> |
| <translation id="8922494933893518624">บังคับให้เปิดใช้ WebSQL ในบริบทที่ไม่ปลอดภัย</translation> |
| <translation id="8923028772162236077">แสดง URL เริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8930064580550462145">ในระหว่างการเข้าสู่ระบบผ่านหน้าจอล็อก <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตรวจสอบสิทธิ์กับเซิร์ฟเวอร์ (แบบออนไลน์) หรือใช้รหัสผ่านในแคช (แบบออฟไลน์) ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น -2 นโยบายจะใช้ค่าขีดจำกัดเวลาในการลงชื่อเข้าใช้แบบออฟไลน์ของหน้าจอการเข้าสู่ระบบซึ่งมาจาก <ph name="POLICY" /> |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น -1 นโยบายจะไม่บังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ในหน้าจอล็อกและจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออฟไลน์ เว้นแต่ว่าจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนโยบายนี้บังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะต้องตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์เสมอ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่น จะเป็นการระบุจำนวนวันตั้งแต่เวลาที่ตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ครั้งสุดท้ายถึงเวลาที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์อีกครั้งในการลงชื่อเข้าสู่ระบบครั้งถัดไปผ่านหน้าจอล็อก |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์ด้วย GAIA โดยไม่มี SAML |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นวัน</translation> |
| <translation id="8931555638815157255">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานระบบปฏิบัติการและเวอร์ชันเฟิร์มแวร์เป็นระยะ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานข้อมูลเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="8934485887744460569">กำหนดค่าวิธีที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ดาวน์โหลดโมเดล GenAI พื้นฐานและใช้สำหรับการอนุมานเป็นการภายใน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "อนุญาต" (0) หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะดาวน์โหลดโมเดลโดยอัตโนมัติและใช้สำหรับการอนุมาน |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" (1) ระบบจะไม่ดาวน์โหลดโมเดล |
| |
| แต่ <ph name="COMPONENT_UPDATES_ENABLED_POLICY_NAME" /> อาจปิดใช้การดาวน์โหลดโมเดลได้เช่นกัน</translation> |
| <translation id="8937282917198525844"> ตั้งแต่เวอร์ชัน M81 เอลิเมนต์ตัวควบคุมแบบฟอร์มมาตรฐาน (เช่น <select>, <button>, <input type=date>) ได้รับการปรับรูปลักษณ์ใหม่ พร้อมด้วยการช่วยเหลือพิเศษที่ได้รับการปรับปรุง และแพลตฟอร์มที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น นโยบายนี้คืนค่าเอลิเมนต์ตัวควบคุมแบบฟอร์ม "เดิม" แบบเก่าไปจนถึงเวอร์ชัน M84 |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" ระบบจะใช้เอลิเมนต์ตัวควบคุมแบบฟอร์ม "เดิม" กับเว็บไซต์ทั้งหมด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้เอลิเมนต์ตัวควบคุมแบบฟอร์มตามที่มีการเปิดตัวใน M81, M82 และ M83 |
| |
| เราจะนำนโยบายนี้ออกหลังจาก Chrome 84</translation> |
| <translation id="8940173892071872775">ควบคุมการดำเนินการที่เรียกใช้เมื่อไม่มีการใช้งานเบราว์เซอร์</translation> |
| <translation id="8941673774841510404">ควบคุมการตั้งค่าโปรแกรมรักษาหน้าจอสำหรับหน้าจอการลงชื่อเข้าใช้ของอุปกรณ์และหน้าจอล็อกของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="8942616385591203339">นโยบายนี้ควบคุมว่าการขอคำยินยอมให้ซิงค์จะแสดงต่อผู้ใช้รายหนึ่งๆ ในระหว่างที่ลงชื่อเข้าใช้เป็นครั้งแรกได้หรือไม่ ตั้งค่านโยบายนี้เป็นเท็จหากไม่จำเป็นต้องขอคำยินยอมให้ซิงค์จากผู้ใช้ |
| หากตั้งค่าเป็นเท็จ ระบบจะไม่แสดงการขอคำยินยอมให้ซิงค์ |
| หากตั้งค่าเป็นจริงหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะแสดงการขอคำยินยอมให้ซิงค์</translation> |
| <translation id="8943744188513019866">นโยบายนี้ระบุเวอร์ชันที่ถูกต้องในปัจจุบันของข้อกำหนดในการให้บริการของ Edu Coexistence |
| ซึ่งจะนำไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชันที่ผู้ปกครองยอมรับล่าสุดและใช้เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองต่ออายุสิทธิ์เมื่อจำเป็น |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะตรวจสอบเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการได้ |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ไว้ ระบบจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อกำหนดในการให้บริการของ Edu Coexistence ไม่ได้ |
| |
| นโยบายนี้ใช้สำหรับผู้ใช้ Family Link เท่านั้น</translation> |
| <translation id="8947415621777543415">รายงานตำแหน่งอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8948062138228904066">รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์</translation> |
| <translation id="8951350807133946005">ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับแคชของดิสก์</translation> |
| <translation id="8952611478149810182">มีการเปลี่ยนแปลงการส่งเหตุการณ์ในตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้ใน Chromium เพื่อปรับปรุงความเข้ากันได้กับเบราว์เซอร์อื่นๆ รวมถึงปรับปรุงการใช้งานสําหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ |
| |
| การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้มีการส่งเหตุการณ์ MouseEvents ไปยังองค์ประกอบของตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้ ยกเว้นเหตุการณ์ click, mouseup และ mousedown โดยเหตุการณ์ใหม่จะรวมถึง mousemove, mouseenter และ mouseleave เป็นต้น |
| |
| การเปลี่ยนแปลงนี้ยังจะตัดทอนเส้นทางของเหตุการณ์ click, mouseup และ mousedown เมื่อมีการส่งไปยังองค์ประกอบย่อยของตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้มีการส่งเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้อยู่ หรือไปยังตัวควบคุมขององค์ประกอบระดับบนขององค์ประกอบย่อยนั้นๆ |
| |
| ลักษณะการทํางานแบบใหม่นี้อาจทำให้บางเว็บไซต์เสียหาย |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบใหม่ |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบเก่า |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้ลักษณะการทํางานแบบใหม่เช่นเดียวกับผู้ใช้ Chromium ที่เหลือ</translation> |
| <translation id="8955719471735800169">กลับไปด้านบน</translation> |
| <translation id="8956312248048980644">อนุญาตการสร้างคลัสเตอร์ Agent ที่ผูกกับต้นทางโดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8963464192296208229">การตั้งค่า F11 ใช้แป้นพิมพ์ลัดที่มีแป้นกดร่วม Alt</translation> |
| <translation id="8970205333161758602">ระงับการแจ้งเตือนการปฏิเสธของ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="8973579598359969188">เลือกว่าจะแสดงข้อความแจ้งเกี่ยวกับ <ph name="PRIVACY_SANDBOX_NAME" /> ต่อผู้ใช้ได้หรือไม่</translation> |
| <translation id="8974457039656761249">ควบคุมฟีเจอร์การเขียนแบบช่วยคาดเดาบนแป้นพิมพ์จริง</translation> |
| <translation id="8974588819713914715">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="URL_ALLOWLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="8976248126101463034">อนุญาตให้ตรวจสอบสิทธิ์ Gnubby สำหรับโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="8976531594979650914">ใช้เครื่องพิมพ์เริ่มต้นของระบบเป็นค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8977192934280677167">อนุญาตการเข้าถึงการค้นหาเมนูตามบริบทของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="8983537551095611459">กำหนดค่ารายการรหัสส่วนขยายที่ได้รับการยกเว้นจากขั้นตอนการล้างข้อมูลเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการแบบจำกัด</translation> |
| <translation id="8983539044126123594">เปิดการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google บัญชีอื่นๆ</translation> |
| <translation id="8985219286836584291">เปิดใช้การรายงานข้อมูลระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="8986738188516411168">เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยอนุญาตให้ข้อมูลจากแอปและบริการของ Google ปรากฏในแพลตฟอร์มระบบของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะเปิดใช้การผสานรวมที่เลือกใน <ph name="CONTEXTUAL_GOOGLE_INTEGRATIONS_CONFIGURATION" /> |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้การผสานรวมทั้งหมด</translation> |
| <translation id="8992176907758534924">ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดแสดงภาพ</translation> |
| <translation id="8994850249590725417">ไม่แสดงการแจ้งเตือนด้านความเป็นส่วนตัว</translation> |
| <translation id="8994954504552592260">เปิดใช้การย้ายข้อมูลของอุปกรณ์ที่มีการจัดการของ <ph name="MS_AD_NAME" /> ไปยังการจัดการระบบคลาวด์ นโยบายนี้ทำให้เกิดการเริ่มจากระยะไกลสำหรับการย้ายข้อมูลแบบไร้สัมผัสของอุปกรณ์หลายเครื่องในบริษัท นอกจากนี้ การย้ายข้อมูลยังมีความโปร่งใสมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ปลายทาง |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้และมีการอัปโหลดรหัสการลงทะเบียนไปยัง DMServer แล้ว ระบบจะเรียกให้ฟีเจอร์ Powerwash ของอุปกรณ์ระยะไกลทำงาน |
| |
| หากปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะไม่เรียกให้ฟีเจอร์ Powerwash ของอุปกรณ์ระยะไกลทำงานแยกออกจากสถานะการอัปโหลดรหัสการลงทะเบียน |
| |
| ระบบจะเรียกให้ตัวเลือกนี้ทำงานเมื่อมีการโหลดหน้าจอการเข้าสู่ระบบ และจะลองใหม่ทุกชั่วโมง (หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบต่อไป) การดำเนินการนี้จะป้องกันไม่ให้การย้ายเข้ามูลเริ่มต้นขึ้นระหว่างเซสชันของผู้ใช้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากับผู้ใช้ปลายทาง</translation> |
| <translation id="8995019632040507706">การตั้งค่านโยบายจะให้คุณสร้างรายการรูปแบบ URL ที่ระบุเว็บไซต์ที่เข้าถึงเซ็นเซอร์ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์แสงได้ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="DEFAULT_SENSORS_SETTING_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ (หากตั้งค่าไว้) แต่หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ การตั้งค่าส่วนตัวของผู้ใช้จะมีผล |
| |
| หากมีรูปแบบ URL เดียวกันอยู่ทั้งในนโยบายนี้และนโยบาย <ph name="SENSORS_BLOCKED_FOR_URLS_POLICY_NAME" /> ระบบจะให้ความสำคัญกับนโยบายหลังและสิทธิ์เข้าถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือเซ็นเซอร์แสงจะถูกบล็อก |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ <ph name="URL_LABEL" /> ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้</translation> |
| <translation id="9003823644527627017">กำหนดค่า Bruschetta VM ใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="9004469022085379212">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้อุปกรณ์เรียกใช้เครื่องเสมือนใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ต้องเปิดใช้ <ph name="VIRTUAL_MACHINES_ALLOWED_POLICY_NAME" /> และ <ph name="CROSTINI_ALLOWED_POLICY_NAME" /> เพื่อใช้ <ph name="PRODUCT_CROSTINI_NAME" /> การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หมายความว่าอุปกรณ์เรียกใช้เครื่องเสมือนไม่ได้ การเปลี่ยนเป็น "ปิดใช้" จะเริ่มใช้นโยบายเพื่อเริ่มเครื่องเสมือนใหม่ ไม่ใช่เครื่องเสมือนที่ทำงานอยู่แล้ว |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ในอุปกรณ์ที่มีการจัดการ อุปกรณ์ดังกล่าวจะเรียกใช้เครื่องเสมือนไม่ได้ อุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการจะเรียกใช้เครื่องเสมือนได้</translation> |
| <translation id="9005558710192691218">นโยบายนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบจำกัดบัญชีที่ได้รับอนุญาตให้ลงชื่อเข้าใช้ <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> เมื่อเปิดใช้นโยบาย <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_MOUNT_POLICY_NAME" /> |
| |
| หากนโยบายนี้มีค่าเป็น "<ph name="COMMON_NAME" />" จะใช้บัญชีใดก็ได้เพื่อลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากนโยบายนี้มีค่าเป็น "<ph name="ORGANIZATIONS_NAME" />" จะใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนก็ได้เพื่อลงชื่อเข้าใช้ |
| |
| หากนโยบายนี้มีค่าเป็น "<ph name="CONSUMERS_NAME" />" จะใช้บัญชี <ph name="MICROSOFT_NAME" /> ส่วนบุคคลเพื่อลงชื่อเข้าใช้ได้ |
| |
| หากนโยบายนี้มีชื่อโดเมนหรือ Tenant ID จะใช้บัญชีจากชื่อโดเมนหรือ Tenant ID เหล่านี้ (ดูที่ https://learn.microsoft.com/en-us/azure/active-directory/develop/v2-protocols#endpoints) เพื่อลงชื่อเข้าใช้ได้ |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือนโยบายมีเพียงค่าว่าง สำหรับผู้ใช้ทั่วไป นโยบายจะทำงานเสมือนมีการระบุ "<ph name="COMMON_NAME" />" ไว้ และสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร นโยบายจะทำงานเสมือนมีการระบุ "<ph name="ORGANIZATIONS_NAME" />" ไว้ |
| |
| การเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดดังกล่าวอาจนำไปสู่การนำผู้ใช้ออกจากระบบบัญชี <ph name="MICROSOFT_ONE_DRIVE_NAME" /> ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามข้อจำกัดใหม่ |
| |
| หมายเหตุ: ในขณะนี้ระบบจะพิจารณาเฉพาะรายการแรกเท่านั้น ส่วนขยายรุ่นต่อมาจะรองรับหลายรายการ</translation> |
| <translation id="9007632512838819703">นโยบายนี้เลิกใช้งานไปแล้ว โปรดใช้ <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_BLOCKLIST_POLICY_NAME" /> แทน |
| |
| บังคับให้ปิดใช้การตรวจตัวสะกดของภาษาต่างๆ ระบบจะไม่สนใจภาษาที่ไม่รู้จักในรายการนั้น |
| |
| หากคุณเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษาที่ระบุ ผู้ใช้จะยังคงเปิดใช้หรือปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษาที่ไม่ได้อยู่ในรายการได้ |
| |
| หากคุณไม่ได้ตั้งค่าหรือปิดใช้นโยบายนี้ ค่ากำหนดการตรวจตัวสะกดของผู้ใช้จะไม่เปลี่ยนแปลง |
| |
| หากตั้งค่านโยบาย <ph name="SPELLCHECK_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "เท็จ" นโยบายนี้จะไม่ส่งผลกระทบ |
| |
| หากมีภาษาที่รวมอยู่ทั้งในนโยบายนี้และนโยบาย <ph name="SPELLCHECK_LANGUAGE_POLICY_NAME" /> ระบบจะให้ความสำคัญกับนโยบายหลังและเปิดใช้การตรวจตัวสะกดสำหรับภาษานั้น |
| |
| ภาษาที่รองรับในขณะนี้ ได้แก่ af, bg, ca, cs, da, de, el, en-AU, en-CA, en-GB, en-US, es, es-419, es-AR, es-ES, es-MX, es-US, et, fa, fo, fr, he, hi, hr, hu, id, it, ko, lt, lv, nb, nl, pl, pt-BR, pt-PT, ro, ru, sh, sk, sl, sq, sr, sv, ta, tg, tr, uk, vi</translation> |
| <translation id="9009119876570708617">เรานำนโยบายนี้ออกไปตั้งแต่รุ่น M85 โปรดใช้ <ph name="POLICY_NAME" /> เพื่ออนุญาตเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยแบบรายเว็บไซต์แทน |
| นโยบายนี้ควบคุมการดูแลเนื้อหาผสม (เนื้อหา HTTP ในเว็บไซต์ HTTPS) ในเบราว์เซอร์ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะอัปเกรดเนื้อหาผสมประเภทเสียงและวิดีโอเป็น HTTPS โดยอัตโนมัติ (เช่น ระบบจะเขียน URL ใหม่เป็น HTTPS โดยไม่มี URL สำรองหากทรัพยากรไม่พร้อมใช้งานใน HTTPS) และจะแสดงคำเตือน "ไม่ปลอดภัย" ในแถบ URL สำหรับเนื้อหาผสมประเภทรูปภาพ |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" ระบบจะปิดใช้การอัปเกรดอัตโนมัติสำหรับเสียงและวิดีโอ และจะไม่แสดงคำเตือนสำหรับรูปภาพ |
| นโยบายนี้ไม่มีผลต่อเนื้อหาผสมประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เสียง วิดีโอ และรูปภาพ |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลอีกต่อไปตั้งแต่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> 84</translation> |
| <translation id="9009505213521705952">หากปิดใช้ <ph name="SSL_ERROR_OVERRIDE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> ไว้ การตั้งค่านโยบายนี้จะทำให้คุณตั้งค่ารายการรูปแบบต้นทางได้ ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ผู้ใช้จะคลิกผ่านหน้าคำเตือนที่ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงขึ้นเมื่อผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ที่มีข้อผิดพลาด SSL ผู้ใช้จะคลิกผ่านหน้าคำเตือน SSL ในต้นทางที่ไม่อยู่ในรายการนี้ไม่ได้ |
| |
| หากเปิดใช้ <ph name="SSL_ERROR_OVERRIDE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> หรือไม่ได้ตั้งค่าไว้ นโยบายนี้จะไม่ดำเนินการใดๆ |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="SSL_ERROR_OVERRIDE_ALLOWED_POLICY_NAME" /> จะมีผลกับทุกเว็บไซต์ |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบอินพุตที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns <ph name="WILDCARD_VALUE" /> ไม่ใช่ค่าที่ยอมรับสำหรับนโยบายนี้ นโยบายนี้จะจับคู่โดยอิงตามต้นทางเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงเพิกเฉยต่อเส้นทางใดก็ตามในรูปแบบ URL</translation> |
| <translation id="9010080992450148617">เปิดใช้การส่งเนื้อหาที่ดาวน์โหลดไปให้ Google สแกนอย่างละเอียดสำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูง</translation> |
| <translation id="9012101302849557459">ขยายการรองรับแอป Chrome ใน <ph name="MS_WIN_NAME" />, <ph name="MAC_OS_NAME" /> และ <ph name="LINUX_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="9013875414788074110">ในระหว่างการเข้าสู่ระบบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะตรวจสอบสิทธิ์กับเซิร์ฟเวอร์ (แบบออนไลน์) หรือใช้รหัสผ่านในแคช (แบบออฟไลน์) ได้ |
| |
| เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็น -1 ผู้ใช้จะตรวจสอบสิทธิ์แบบออฟไลน์ได้ตลอดเวลา เมื่อตั้งค่านโยบายนี้เป็นค่าอื่นจะเป็นการระบุช่วงเวลานับตั้งแต่การตรวจสอบสิทธิ์ออนไลน์ครั้งสุดท้าย และผู้ใช้ต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ออนไลน์อีกครั้งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะใช้ขีดจำกัดเวลา 14 วันเป็นค่าเริ่มต้น และผู้ใช้ต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ออนไลน์อีกครั้งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว |
| |
| นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ SAML |
| |
| ค่านโยบายต้องมีหน่วยเป็นวินาที</translation> |
| <translation id="9015578113567730893">อัตราการรวบรวมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของวิดีโอเป็นมิลลิวินาที</translation> |
| <translation id="9015759770696099204">การตั้งค่า F11/F12 ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="9015952763003753868">ทำให้ <ph name="ACAM_HEADER_NAME" /> ตรงกันกับข้อกำหนดในการตรวจสอบล่วงหน้าของ <ph name="CORS" /> ที่เข้ากันได้</translation> |
| <translation id="9020630127193895800">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีคราม</translation> |
| <translation id="9031831501689819108">เปิดการรองรับเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า</translation> |
| <translation id="9032595854515551464">เปิดใช้บริการ <ph name="PRODUCT_NAME" /> V2 และเปิดเดสก์ระยะไกลเมื่อเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="903334067190374761">ตั้งค่าป้ายกำกับโปรไฟล์ที่กำหนดเอง</translation> |
| <translation id="9034285085962866065">อนุญาตให้ปรับแต่งแป้นพิมพ์ลัดของระบบ</translation> |
| <translation id="9035086760683255833">เปิดใช้ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษสำหรับการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ |
| |
| ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่ไฮไลต์วัตถุที่แป้นพิมพ์โฟกัส |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นเปิดใช้ ระบบจะเปิดการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ไว้ตลอด |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็นปิดใช้ ระบบจะปิดการไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนหรือลบล้างไม่ได้ |
| |
| หากไม่มีการตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะปิดฟีเจอร์ไฮไลต์โฟกัสของแป้นพิมพ์ในขั้นต้น แต่ผู้ใช้เปิดใช้ได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="9038839118379817310">เปิดใช้ Wi-Fi</translation> |
| <translation id="9039822628127365650">การตั้งค่านโยบายนี้เป็นการระบุระยะเวลาสิ้นสุดเซสชันหลังจากที่ผู้ใช้ออกจากระบบโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้จะได้ดูเวลาที่เหลือได้จากนาฬิกานับเวลาถอยหลังที่แสดงในถาดระบบ |
| |
| เมื่อไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะไม่จำกัดระยะเวลาของเซสชัน |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ ผู้ใช้จะแก้ไขหรือลบล้างนโยบายไม่ได้ |
| |
| ควรระบุค่าของนโยบายเป็นมิลลิวินาที โดยจำกัดช่วงของค่าให้อยู่ระหว่าง 30 วินาทีถึง 24 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="9040042535845939426">ตั้งสถานะหน้าจอส่วนตัวในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="904090524252041302">นโยบายสําหรับควบคุมว่าจะอนุญาตให้เครื่องมือการช่วยเหลือพิเศษใช้การคํานวณแบบไดนามิกกับตัวกรองสําหรับโครงสร้างการช่วยเหลือพิเศษใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพหรือไม่ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่า เครื่องมือการช่วยเหลือพิเศษจะได้รับอนุญาตให้ใช้การคํานวณแบบไดนามิกกับโหมดตัวกรองสําหรับโครงสร้างการช่วยเหลือพิเศษใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ |
| เมื่อตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" เครื่องมือการเข้าถึงพิเศษจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้การคํานวณแบบไดนามิกกับโหมดตัวกรองสําหรับโครงสร้างการช่วยเหลือพิเศษ</translation> |
| <translation id="9046248916118130378">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> รวบรวมบันทึกข้อความ WebRTC จากบริการของ Google เช่น Google Meet และอัปโหลดไปยัง Google ได้ บันทึกเหล่านี้มีข้อมูลการวินิจฉัยสำหรับแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องเกี่ยวกับการประชุมด้วยเสียงหรือการประชุมทางวิดีโอใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เช่น ข้อมูลเมตาข้อความที่อธิบายสตรีมขาเข้าและขาออกใน WebRTC, รายการบันทึกที่เจาะจงของ WebRTC รวมถึงข้อมูลระบบเพิ่มเติม บันทึกเหล่านี้ไม่มีเนื้อหาเสียงหรือวิดีโอจากการประชุม |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ไม่มีการอัปโหลดบันทึกดังกล่าวไปยัง Google บันทึกจะยังคงเก็บสะสมไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ |
| การไม่ตั้งค่านโยบายหมายความว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> สามารถรวบรวมและอัปโหลดบันทึกเหล่านี้ได้โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="9050853837490399534">นโยบายนี้จะควบคุมว่าอุปกรณ์ควรอัปเดตเป็นบิวด์ Quick Fix หรือไม่ |
| |
| หากกำหนดค่านโยบายเป็นโทเค็นที่แมปไปยังบิวด์ Quick Fix อุปกรณ์จะได้รับการอัปเดตเป็นบิวด์ Quick Fix ที่เกี่ยวข้องหากการอัปเดตไม่ได้ถูกบล็อกโดยนโยบายอื่น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือหากค่าของนโยบายไม่ได้แมปไปยังบิวด์ Quick Fix อุปกรณ์ก็จะไม่อัปเดตเป็นบิวด์ Quick Fix หากอุปกรณ์ใช้บิวด์ Quick Fix อยู่แล้วและไม่ได้มีการตั้งค่านโยบายอีกต่อไป หรือค่าของนโยบายไม่ได้แมปไปยังบิวด์ Quick Fix อีกต่อไป อุปกรณ์จะอัปเดตเป็นบิวด์ปกติหากการอัปเดตไม่ได้ถูกบล็อกโดยนโยบายอื่น</translation> |
| <translation id="9051019223077908578">กำหนดค่ารายชื่อแอปและส่วนขยายที่ติดตั้งไว้ในหน้าจอการเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="9053841574218808519">เรียกใช้ปลั๊กอินที่ทันสมัยเสมอ</translation> |
| <translation id="9055866143096316150">ลดระดับคำขอ Wake Lock หน้าจอเป็นคำขอ Wake Lock ระบบ</translation> |
| <translation id="9057444687284972605">ช่วยให้คุณแจ้งรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่มีการเลือกใบรับรองไคลเอ็นต์โดยอัตโนมัติในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ในเฟรมที่โฮสต์ขั้นตอน SAML หากเว็บไซต์นั้นขอใบรับรอง ตัวอย่างการใช้งานคือกำหนดค่าใบรับรองสำหรับทั้งอุปกรณ์เพื่อแสดงต่อ SAML IdP |
| |
| ค่าจะเป็นอาร์เรย์ของพจนานุกรม JSON ที่มีรูปแบบเป็นสตริงซึ่งแต่ละรายการมีรูปแบบ <ph name="AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_EXAMPLE" /> โดยที่ <ph name="URL_PATTERN_PLACEHOLDER" /> เป็นรูปแบบการตั้งค่าเนื้อหา <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> จำกัดใบรับรองไคลเอ็นต์ที่เบราว์เซอร์จะเลือกโดยอัตโนมัติ ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองที่ตรงกับคำขอใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงตัวกรอง |
| |
| ตัวอย่างการใช้งานส่วน <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> |
| |
| * เมื่อตั้งค่า <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> เป็น <ph name="AUTO_SELECT_CERTIFICATE_FOR_URLS_FILTER_EXAMPLE" /> ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองไคลเอ็นต์ซึ่งออกโดยใบรับรองที่ใช้ CommonName <ph name="ISSUER_CN_PLACEHOLDER" /> |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีทั้งส่วน <ph name="ISSUER_STRING_VALUE" /> และ <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ระบบจะเลือกเฉพาะใบรับรองไคลเอ็นต์ที่เป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีส่วน <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ที่มีค่า <ph name="FILTER_STRING_ORGANIZATION" /> ใบรับรองต้องมีอย่างน้อย 1 องค์กรที่ตรงกับค่าที่ระบุจึงจะได้รับเลือก |
| |
| * เมื่อ <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> มีส่วน <ph name="SUBJECT_STRING_VALUE" /> ที่มีค่า <ph name="FILTER_STRING_ORGANIZATIONAL_UNIT" /> ใบรับรองต้องมีหน่วยขององค์กรอย่างน้อย 1 หน่วยที่ตรงกับค่าที่ระบุจึงจะได้รับเลือก |
| |
| * เมื่อตั้งค่า <ph name="FILTER_PLACEHOLDER" /> เป็น <ph name="EMPTY_DICTIONARY" /> การเลือกใบรับรองไคลเอ็นต์จะไม่มีข้อจำกัดเพิ่มเติม โปรดทราบว่าตัวกรองที่ได้มาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์จะยังคงมีผลอยู่ |
| |
| |
| |
| หากไม่มีการกำหนดนโยบายนี้ จะไม่มีการเลือกใบรับรองโดยอัตโนมัติสำหรับเว็บไซต์ใดก็ตาม |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns</translation> |
| <translation id="9066311316566875681">เทมเพลต URI ของรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS ที่ต้องการ วิธีระบุรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS หลายรายการคือเว้นวรรคระหว่างเทมเพลต URI ที่เกี่ยวข้อง |
| |
| หากตั้งค่า DnsOverHttpsMode เป็น <ph name="SECURE_DNS_MODE_SECURE" /> ก็ต้องตั้งค่านโยบายนี้และนโยบายต้องไม่ว่างเปล่า คุณจะต้องตั้งค่านโยบายนี้หรือ <ph name="DOH_TEMPLATES_WITH_IDENTIFIERS_POLICY_NAME" /> มิเช่นนั้น การแปลง DNS จะไม่สำเร็จ (เฉพาะใน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เท่านั้น) |
| |
| หากตั้งค่า DnsOverHttpsMode เป็น <ph name="SECURE_DNS_MODE_AUTOMATIC" /> และตั้งค่านโยบายนี้ด้วย ระบบก็จะใช้เทมเพลต URI ที่ระบุไว้ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ ระบบจะใช้การจับคู่แบบฮาร์ดโค้ดเพื่อพยายามอัปเกรดรีโซลเวอร์ DNS ปัจจุบันของผู้ใช้เป็นรีโซลเวอร์ DoH ที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายเดียวกัน |
| |
| หากเทมเพลต URI มีตัวแปร <ph name="HTTP_VARIABLE_DNS" /> คำขอที่ส่งไปยังรีโซลเวอร์จะใช้ <ph name="HTTP_METHOD_GET" /> หากไม่มี คำขอจะใช้ <ph name="HTTP_METHOD_POST" /> |
| |
| ระบบจะไม่สนใจเทมเพลตที่จัดรูปแบบไม่ถูกต้อง</translation> |
| <translation id="9068629430243705879">พอร์ต 6566 (เลิกบล็อกได้จนถึง 15/10/2021)</translation> |
| <translation id="9069503402414011061">การตั้งค่านโยบายจะระบุอายุการใช้งาน (เป็นชั่วโมง) ของแคชข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตที่ขอบเขตของเครื่องเชื่อถือ (ขอบเขตที่เชื่อมโยง) การแคชข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์จึงช่วยให้ลงชื่อเข้าใช้ได้เร็วขึ้น จะไม่มีการแคชข้อมูลที่ระบุตัวผู้ใช้และข้อมูลสำหรับขอบเขตที่ไม่เชื่อมโยง |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น 0 จะปิดการแคชข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งทำให้ระบบต้องดึงข้อมูลที่เจาะจงขอบเขตทุกครั้งที่มีการลงชื่อเข้าใช้ การปิดการแคชข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์จึงอาจทำให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ได้ช้าลงอย่างมาก |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายจะทำให้ระบบใช้ข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ที่แคชไว้ซ้ำได้เป็นเวลาสูงสุด 73 ชั่วโมง |
| |
| หมายเหตุ: การรีสตาร์ทอุปกรณ์จะล้างแคช ระบบแคชข้อมูลขอบเขตของผู้ใช้ชั่วคราวด้วยเช่นกัน ปิดแคชเพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดตามขอบเขตของผู้ใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="9069588907259547232">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานระดับเสียงของอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่บันทึกหรือรายงานสถานะเสียง |
| ข้อยกเว้น: ข้อมูลระดับเสียงของระบบจะควบคุมโดย <ph name="REPORT_DEVICE_HARDWARE_STATUS" /> สำหรับรุ่น M95 ลงมา</translation> |
| <translation id="9072475476775217730">การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะอนุญาตป๊อปอัปที่กำหนดเป้าหมายแบบ <ph name="BLANK_PAGE_NAME" /> เพื่อเข้าถึง (ผ่าน JavaScript) หน้าที่ขอเปิดป๊อปอัปดังกล่าว |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้มีการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ <ph name="WINDOW_OPENER_PROPERTY" /> เป็น <ph name="NULL_VALUE" /> เว้นแต่แท็ก Anchor จะระบุ <ph name="REL_OPENER_ATTRIBUTE" /> |
| |
| เรานำนโยบายนี้ออกไปแล้วใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 102 |
| |
| ดู https://chromestatus.com/feature/6140064063029248</translation> |
| <translation id="9073405975862312795">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานระยะเวลาเมื่อผู้ใช้กำลังใช้งานอุปกรณ์ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่บันทึกหรือรายงานจำนวนครั้งของกิจกรรม</translation> |
| <translation id="9076477053438828079">แสดงชื่อและรูปภาพผู้ใช้เสมอ</translation> |
| <translation id="9077227880520270584">ตัวจับเวลาการเข้าสู่ระบบอัตโนมัติไปยังบัญชีภายในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="9079531125758468956">ปิดใช้การนำเข้าบุ๊กมาร์กเมื่อเรียกใช้ครั้งแรก</translation> |
| <translation id="9084038227968802480">เปิดใช้การรายงานฮาร์ตบีตของกิจกรรมในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="9084985621503260744">ระบุว่ากิจกรรมวิดีโอมีผลต่อการจัดการพลังงานหรือไม่</translation> |
| <translation id="9087434639296483430">รายงานเหตุการณ์การเข้าสู่ระบบ/ออกจากระบบของผู้ใช้ในอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ รวมถึงการเข้าสู่ระบบไม่สำเร็จ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานเหตุการณ์การเข้าสู่ระบบ/ออกจากระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="9087652369391570821">นโยบายการกำหนดค่าสำหรับเครื่องมือเชื่อมต่อ Chrome Enterprise OnFileTransfer</translation> |
| <translation id="9088191250434406767">การไม่ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" จะอนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาด้วยกล้องของตนโดยใช้ <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้จะไม่เห็นปุ่ม <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /> ในช่องค้นหาเมื่อระบบรองรับการค้นหาที่ได้รับความช่วยเหลือจากกล้อง <ph name="GOOGLE_LENS_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="9088433379343318874">เปิดใช้ผู้ให้บริการเนื้อหาสำหรับผู้ใช้ภายใต้การควบคุมดูแล</translation> |
| <translation id="9088444059179765143">กำหนดค่าวิธีการตรวจหาเขตเวลาอัตโนมัติ</translation> |
| <translation id="9096772739225230999">ไม่รายงานการกำหนดค่าเครือข่าย</translation> |
| <translation id="9098409326885953506">ตรวจหาหน้าต่างที่ถูกบังและระงับการระบายสี</translation> |
| <translation id="9105265795073104888">แอป Android สามารถใช้เพียงชุดย่อยของตัวเลือกการกำหนดค่าพร็อกซี โดยแอป Android อาจเลือกใช้พร็อกซีโดยสมัครใจ คุณไม่สามารถบังคับให้แอปใช้พร็อกซีได้</translation> |
| <translation id="9106865192244721694">อนุญาต WebUSB ในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="9107635531763682565">การตั้งค่านโยบายเป็น 1 จะให้เว็บไซต์แสดงการแจ้งเตือนในเดสก์ท็อปได้ การตั้งค่านโยบายเป็น 2 จะปฏิเสธการแจ้งเตือนในเดสก์ท็อป |
| |
| การไม่ตั้งค่าหมายความว่า <ph name="ASK_NOTIFICATIONS_POLICY_NAME" /> จะมีผล แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้</translation> |
| <translation id="9110251436602897914">รายงานข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เสียบเข้ากับอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="9110485853581788150">รายการใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเชื่อถือไม่ได้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> แต่สามารถใช้เป็นคำแนะนำในการสร้างเส้นทาง ใบรับรองควรเข้ารหัสฐาน 64</translation> |
| <translation id="9111850884577810507">ช่องนี้ต้องตรงกับสตริงใดสตริงหนึ่งที่แสดงถึงเครื่องพิมพ์ที่รองรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> ระบบจะใช้สตริงนี้เพื่อระบุและติดตั้ง PPD ที่เหมาะสมสำหรับเครื่องพิมพ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://support.google.com/chrome?p=noncloudprint</translation> |
| <translation id="9112727953998243860">ไฟล์การกำหนดค่าเครื่องพิมพ์องค์กร</translation> |
| <translation id="9113058104383612727">เปิดใช้เครื่องมือแก้ปัญหาคีออสก์</translation> |
| <translation id="9113065986946552397">แชร์ผลลัพธ์จากการล้างข้อมูลด้วยฟีเจอร์ทำความสะอาด Chrome กับ Google</translation> |
| <translation id="9113262510565261950">ระยะหมดเวลาเนื่องจากไม่มีการใช้งานหน้าจอการเข้าสู่ระบบสำหรับโปรแกรมรักษาหน้าจอของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="911605919007170833">รายงานสถานะความปลอดภัย</translation> |
| <translation id="9117826695152538214">การตั้งค่านโยบายเป็น "จริง" จะเปิดคีย์ติดหนึบไว้ตลอด การตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" จะปิดคีย์ติดหนึบไว้ตลอด |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่าไว้ คีย์ติดหนึบจะปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้จะเปิดได้ทุกเมื่อ</translation> |
| <translation id="91206085111961438">ควบคุมความพร้อมใช้งานของส่วนขยายที่ใช้ไฟล์ Manifest V2</translation> |
| <translation id="9122865885571719292">ควบคุมว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะคืนค่าเซสชันล่าสุดเมื่อเข้าสู่ระบบหรือไม่และอย่างไร |
| นโยบายนี้จะมีผลต่อเมื่อตั้งค่านโยบาย <ph name="FULL_RESTORE_ENABLED_NAME" /> เป็น "จริง"</translation> |
| <translation id="9123464369663964441">อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มข้อยกเว้นเพื่ออนุญาตให้แสดงเนื้อหาผสม</translation> |
| <translation id="9124770007620653639">ไม่ส่งข้อมูลความเสถียรของโดเมนไปยัง Google</translation> |
| <translation id="9126331659955304300">อนุญาตให้เลือกรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้จากระบบไฟล์ในเครื่อง กล้อง และโปรไฟล์ Google</translation> |
| <translation id="9126491667911789829">การตั้งค่านโยบายนี้จะเป็นการระบุรายการเว็บแอปที่ติดตั้งโดยผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการ และจะถอนการติดตั้งหรือปิดไม่ได้ |
| |
| รายการย่อยแต่ละรายการในนโยบายคือออบเจ็กต์ที่มีสมาชิกที่จำเป็น 1 รายการ ซึ่งก็คือ <ph name="URL_LABEL" /> (URL ของเว็บแอปที่จะติดตั้ง) และสมาชิกที่ไม่บังคับ 6 รายการคือ <ph name="DEFAULT_LAUNCH_CONTAINER_LABEL" /> (สำหรับการเปิดเว็บแอป ค่าเริ่มต้นคือแท็บใหม่) และ <ph name="CREATE_DESKTOP_SHORTCUT_LABEL" /> (เป็น "จริง" หากคุณต้องการสร้างทางลัดบนเดสก์ท็อปสำหรับ <ph name="LINUX_OS_NAME" /> และ <ph name="MS_WIN_NAME" />) |
| |
| - <ph name="FALLBACK_APP_NAME_LABEL" /> |
| (<ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 90 เป็นต้นไปจะอนุญาตให้ลบล้างชื่อแอปได้หากไม่ใช่ Progressive Web App (PWA) หรือชื่อแอปที่ติดตั้งชั่วคราวหากเป็น PWA แต่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ หากมีการระบุทั้ง <ph name="CUSTOM_NAME_LABEL" /> และ <ph name="FALLBACK_APP_NAME_LABEL" /> ระบบจะไม่สนใจรายการหลัง) |
| |
| - <ph name="OVERRIDE_APP_NAME_LABEL" /> |
| (<ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 99 เป็นต้นไป และเวอร์ชัน 112 ในระบบปฏิบัติการอื่นทั้งหมดสำหรับเดสก์ท็อปจะอนุญาตให้ลบล้างชื่อแอปสำหรับเว็บแอปและ PWA ทั้งหมดได้อย่างถาวร) |
| |
| - <ph name="CUSTOM_ICON_LABEL" /> |
| (<ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เวอร์ชัน 99 เป็นต้นไป และเวอร์ชัน 112 ในระบบปฏิบัติการอื่นทั้งหมดสำหรับเดสก์ท็อปจะอนุญาตให้ลบล้างไอคอนแอปของแอปที่ติดตั้งไว้ ไอคอนต้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดไม่เกิน 1 MB และอยู่ในรูปแบบ jpeg, png, gif, webp หรือ ico |
| ค่าแฮชต้องเป็นแฮช SHA256 ของไฟล์ไอคอน) |
| |
| - <ph name="INSTALL_AS_SHORTCUT_LABEL" /> |
| (<ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชัน 107 เป็นต้นไป) หากเปิดใช้แล้ว ระบบจะติดตั้ง <ph name="URL_LABEL" /> ที่ระบุเป็นทางลัด เช่นเดียวกับที่ทำผ่านตัวเลือก "สร้างทางลัด..." |
| ใน GUI ของเบราว์เซอร์ในเดสก์ท็อป |
| โปรดทราบว่าเมื่อติดตั้งเป็นทางลัด URL นั้นจะไม่อัปเดตหากไฟล์ Manifest ใน <ph name="URL_LABEL" /> มีการเปลี่ยนแปลง |
| หากปิดใช้หรือไม่ได้ตั้งค่า จะมีการติดตั้งเว็บแอปใน <ph name="URL_LABEL" /> ที่ระบุตามปกติ |
| |
| ดูการปักหมุดแอปไว้ที่แถบ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่ <ph name="PINNED_LAUNCHER_APPS_POLICY_NAME" /></translation> |
| <translation id="9128095645860384292">ให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ของเว็บไซต์ซึ่งระบุเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript ที่เปิดใช้คอมไพเลอร์ JIT (Just In Time) |
| |
| การปิดใช้ JIT ใน JavaScript อาจทำให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงเนื้อหาเว็บช้าลงและปิดใช้ส่วนต่างๆ ของ JavaScript รวมถึง WebAssembly การปิดใช้ JIT ใน JavaScript อาจช่วยให้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> แสดงเนื้อหาเว็บในการกำหนดค่าที่ปลอดภัยขึ้น |
| |
| ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ URL ที่ถูกต้องได้ที่ https://cloud.google.com/docs/chrome-enterprise/policies/url-patterns ใช้ไวลด์การ์ด (<ph name="WILDCARD_VALUE" />) ได้ |
| |
| การยกเว้นนโยบาย JIT ใน JavaScript จะบังคับใช้ที่รายละเอียดระดับเว็บไซต์ (eTLD+1) เท่านั้น นโยบายที่ตั้งค่าไว้เฉพาะสำหรับ subdomain.site.com จะไม่มีผลกับ site.com หรือ subdomain.site.com อย่างถูกต้องเนื่องจากทั้งสองจับคู่กับ eTLD+1 (site.com) เดียวกันซึ่งไม่มีนโยบาย ในกรณีนี้ ต้องตั้งค่านโยบายใน site.com เพื่อให้มีผลกับทั้ง site.com และ subdomain.site.com อย่างถูกต้อง |
| |
| นโยบายนี้มีผลกับแต่ละเฟรมแยกกันและไม่ได้อิงตาม URL ต้นทางระดับบนสุดเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น หากมีการระบุ site-one.com ในนโยบาย <ph name="JAVA_SCRIPT_JIT_BLOCKED_FOR_SITES_POLICY_NAME" /> แต่ site-one.com โหลดเฟรมที่มี site-two.com สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ site-one.com มีการปิดใช้ JIT ใน JavaScript แต่ site-two.com จะใช้นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_JIT_SETTING_POLICY_NAME" /> หากตั้งค่าไว้ หรือมีค่าเริ่มต้นเป็นเปิดใช้ JIT ใน JavaScript |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้สำหรับเว็บไซต์ นโยบายจาก <ph name="DEFAULT_JAVA_SCRIPT_JIT_SETTING_POLICY_NAME" /> ก็จะมีผลกับเว็บไซต์เมื่อตั้งค่าไว้ ไม่เช่นนั้นจะมีการเปิดใช้ JIT ใน JavaScript ในเว็บไซต์</translation> |
| <translation id="9129169595075460149">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หมายความว่า "ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย" ใน Google Search จะทำงานตลอดเวลาและผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ไม่ได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าหมายความว่า "ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย" ใน Google Search จะไม่ทำงาน</translation> |
| <translation id="9130298333414322767">รายงานข้อมูลระบบของอุปกรณ์ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "เท็จ" หรือไม่ได้ตั้งค่า จะไม่มีการรายงานข้อมูล |
| หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะมีการรายงานข้อมูลระบบของอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="9131419675479917141">อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนด PIN ที่ไม่รัดกุม แต่แสดงคำเตือน</translation> |
| <translation id="913195841488580904">บล็อกการเข้าถึงรายการ URL</translation> |
| <translation id="9133526448421932754">ไฟแบ็กไลต์ของแป้นพิมพ์เป็นสีเหลือง</translation> |
| <translation id="9135033364005346124">เปิดใช้งานพร็อกซี <ph name="CLOUD_PRINT_NAME" /></translation> |
| <translation id="9135095804754272364">แสดงการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบอุปกรณ์ USB</translation> |
| <translation id="9136212796239682721">ปิดใช้ UI ลูกโป่งสำหรับดาวน์โหลด</translation> |
| <translation id="9136399279941091445">ระยะเวลาปิดเครื่องเมื่อเผยแพร่นโยบายด้านอุปกรณ์ที่ระบุ</translation> |
| <translation id="9139775903828905867">ควบคุมแป้นพิมพ์ลัดที่ใช้ในการเรียกใช้งาน F11</translation> |
| <translation id="9140064482233876338">เลิกใช้งานแล้วใน M69 โปรดใช้ OverrideSecurityRestrictionsOnInsecureOrigin แทน |
| |
| นโยบายนี้จะระบุรายการของต้นทาง (URL) หรือรูปแบบชื่อโฮสต์ (เช่น "*.example.com") ที่จะไม่ใช้ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยกับต้นทางที่ไม่ปลอดภัย |
| |
| นโยบายนี้มีไว้ให้องค์กรกำหนดต้นทางที่อนุญาตสำหรับแอปพลิเคชันเดิมที่ใช้งาน TLS ไม่ได้ หรือกำหนดเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว สำหรับการพัฒนาเว็บภายในเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทดสอบฟีเจอร์ที่ต้องใช้บริบทที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องทำให้ TLS ใช้งานได้ในเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว นโยบายนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบติดป้ายกำกับต้นทางว่า "ไม่ปลอดภัย" ในแถบอเนกประสงค์ |
| |
| การกำหนดรายการ URL ในนโยบายนี้มีผลเหมือนกับการตั้งค่า Flag บรรทัดคำสั่ง "--unsafely-treat-insecure-origin-as-secure" เป็นรายการ URL เดียวกันที่คั่นด้วยคอมมา หากตั้งค่านโยบายนี้ นโยบายจะลบล้าง Flag บรรทัดคำสั่งดังกล่าว |
| |
| นโยบายนี้เลิกใช้งานแล้วใน M69 เพื่อเริ่มใช้ OverrideSecurityRestrictionsOnInsecureOrigin หากมีทั้ง 2 นโยบาย OverrideSecurityRestrictionsOnInsecureOrigin จะลบล้างนโยบายนี้ |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริบทที่ปลอดภัยได้ที่ https://www.w3.org/TR/secure-contexts/</translation> |
| <translation id="9142561920976791097">ระบบจะใช้การส่งเหตุการณ์แบบใหม่ในลักษณะการทํางานของตัวควบคุมแบบฟอร์มที่ปิดใช้</translation> |
| <translation id="91459503271584213">เปิดใช้งานโฮสต์การรับส่งข้อความในเครื่องที่เป็นไฟล์ปฏิบัติการบน Windows โดยตรง</translation> |
| <translation id="9148720248753722892">ไม่อนุญาตใบรับรองที่ลงนามโดยใช้ SHA-1</translation> |
| <translation id="9149678135092892302">ปิดใช้การรายงานข้อมูลเวอร์ชัน</translation> |
| <translation id="9150416707757015439">นโยบายนี้เลิกใช้แล้ว โปรดใช้ IncognitoModeAvailability แทน เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าไว้ ผู้ใช้จะสามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตนได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตน หากนโยบายนี้ไม่ได้มีการตั้งค่าไว้ จะมีการเปิดใช้งานและผู้ใช้จะสามารถใช้โหมดไม่ระบุตัวตนได้</translation> |
| <translation id="9152473318295429890">เปิดใช้คำแนะนำตามบริบทของหน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง</translation> |
| <translation id="9155218447258425310">ระยะเวลาของการแจ้งเตือนเมื่อมีการนำสมาร์ทการ์ดออกสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="9155375380628728544">การตั้งค่านโยบายให้ผู้ใช้เพิ่มภาษาที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ลงในรายการภาษาที่ต้องการได้เพียงภาษาเดียว |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็นรายการว่างเปล่า ผู้ใช้จะระบุภาษาเป็นภาษาที่ต้องการได้ |
| |
| หากตั้งค่าเป็นรายการที่มีค่าที่ไม่ถูกต้อง ระบบจะไม่สนใจค่าเหล่านั้น หากผู้ใช้เพิ่มภาษาที่นโยบายนี้ไม่อนุญาตลงในรายการภาษาที่ต้องการ ระบบจะนำภาษานั้นออก หากผู้ใช้มี <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ที่แสดงเป็นภาษาซึ่งนโยบายนี้ไม่อนุญาต เมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ครั้งถัดไป ภาษาที่แสดงจะเปลี่ยนเป็นภาษาที่อนุญาตสำหรับ UI ไม่เช่นนั้น หากนโยบายนี้มีแต่รายการที่ไม่ถูกต้อง <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะเปลี่ยนไปใช้ค่าที่ถูกต้องค่าแรกที่นโยบายนี้ระบุ หรือเปลี่ยนเป็นภาษาทางเลือก เช่น en-US</translation> |
| <translation id="9159126470527871268">แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าต้องเปิด <ph name="PRODUCT_NAME" /> ขึ้นมาใหม่หรือต้องรีสตาร์ท <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> เพื่อนำอัปเดตที่รอดำเนินการไปใช้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายนี้จะเปิดใช้การแจ้งเตือนที่จะบอกว่าผู้ใช้ควรหรือจำเป็นต้องเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่หรือรีสตาร์ทอุปกรณ์ หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะแจ้งผู้ใช้ว่าจำเป็นต้องมีการเปิดขึ้นมาใหม่ผ่านการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเมนู ส่วน <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะแจ้งข้อความเช่นนี้ผ่านการแจ้งเตือนในถาดระบบ หากตั้งค่าเป็น "แนะนำ" ระบบจะแสดงคำเตือนที่เกิดซ้ำแก่ผู้ใช้ว่าขอแนะนำให้เปิดขึ้นมาใหม่ ผู้ใช้ปิดคำเตือนนี้เพื่อเลื่อนการเปิดใหม่ได้ หากตั้งค่าเป็น "จำเป็น" ระบบจะแสดงคำเตือนที่เกิดซ้ำแก่ผู้ใช้ว่าจะมีการบังคับเปิดเบราว์เซอร์ใหม่หลังจากสิ้นสุดระยะการแจ้งเตือน โดยค่าเริ่มต้น ระยะเวลาดังกล่าวคือ 7 วันสำหรับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> และ 4 วันสำหรับ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> แต่คุณกำหนดค่าผ่านการตั้งค่านโยบาย <ph name="RELAUNCH_NOTIFICATION_PERIOD_POLICY_NAME" /> ได้ |
| ระบบจะคืนค่าเซสชันของผู้ใช้หลังการเปิดใหม่/รีสตาร์ท</translation> |
| <translation id="9160028464653564229">ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใดๆ ขอสิทธิ์เข้าถึงพอร์ตอนุกรมผ่าน Serial API</translation> |
| <translation id="9162444960513782569">บังคับไม่ให้มีการควบคุมตัวจับเวลา JavaScript เบื้องหลัง</translation> |
| <translation id="9164656078867027374">กำหนดโดเมนที่อนุญาตให้เข้าถึง <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /></translation> |
| <translation id="9165128017344777105">อนุญาตสิทธิ์สำหรับแบบอักษรในเครื่องในเว็บไซต์เหล่านี้</translation> |
| <translation id="9166670902476893480">นโยบายนี้ควบคุมว่า <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะส่งคำขอประเภทระเบียน DNS เพิ่มเติมเมื่อสร้างคำขอ DNS ที่ไม่ปลอดภัยได้หรือไม่ นโยบายนี้ไม่มีผลต่อคำขอ DNS ที่สร้างผ่าน DNS ที่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งคำขอประเภท DNS เพิ่มเติมทุกครั้ง |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายนี้หรือตั้งค่าเป็น "เปิดใช้" ระบบจะส่งคำขอประเภทเพิ่มเติม เช่น <ph name="DNS_TYPE_HTTPS" /> (DNS ประเภท 65) นอกเหนือไปจาก <ph name="DNS_TYPE_A" /> (DNS ประเภท 1) และ <ph name="DNS_TYPE_AAAA" /> (DNS ประเภท 28) |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "ปิดใช้" DNS จะส่งคำขอเฉพาะ <ph name="DNS_TYPE_A" /> (DNS ประเภท 1) และ/หรือ <ph name="DNS_TYPE_AAAA" /> (DNS ประเภท 28) |
| |
| นโยบายนี้เป็นมาตรการชั่วคราวและจะถูกนำออกใน<ph name="PRODUCT_NAME" /> เวอร์ชันต่อๆ ไป หลังจากนำนโยบายออกแล้ว <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะส่งคำขอประเภท DNS เพิ่มเติมได้ทุกครั้ง</translation> |
| <translation id="9167719789236691545">ปิดใช้ไดรฟ์ในแอป Files ของ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="9172911925443428317">ไม่อนุญาตให้แสดงโปรโมชันการให้คะแนนของ App Store</translation> |
| <translation id="9173133289347070466">แบบสำรวจในผลิตภัณฑ์ของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้สำหรับเบราว์เซอร์นี้ คำตอบจากแบบสำรวจจะไม่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ |
| เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบอาจแสดงแบบสำรวจในผลิตภัณฑ์ต่อผู้ใช้ |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะไม่แสดงแบบสำรวจในผลิตภัณฑ์ให้ผู้ใช้เห็น |
| |
| นโยบายนี้จะไม่มีผลหากตั้งค่า <ph name="METRICS_REPORTING_ENABLED_POLICY_NAME" /> เป็น "ปิดใช้" ซึ่งจะปิดใช้แบบสำรวจในผลิตภัณฑ์ด้วย</translation> |
| <translation id="9173633148008709976">เปิดใช้การเร่งกราฟิก</translation> |
| <translation id="9180108183162961002">อนุญาตให้เข้าสู่ระบบเบราว์เซอร์ในโหมดผู้มาเยือน</translation> |
| <translation id="9185963199234034321">เปิดใช้คอนทราสต์สูงในหน้าจอการเข้าสู่ระบบและอนุญาตให้ผู้ใช้ปิดใช้ชั่วคราว</translation> |
| <translation id="9187743794267626640">ปิดใช้งานการต่อเชื่อมที่จัดเก็บข้อมูลภายนอก</translation> |
| <translation id="9190022798664427644">เปิดใช้เสียงแบบโมโน</translation> |
| <translation id="9190456586252617675">นโยบายนี้ควบคุมโหมดของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่านโยบายหรือตั้งค่าเป็น <ph name="ASSISTANT_ONBOARDING_MODE_DEFAULT" /> ระบบจะใช้โหมดเริ่มต้นของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น <ph name="ASSISTANT_ONBOARDING_MODE_EDUCATION" /> ระบบจะใช้โหมด EDU ของการเริ่มต้นใช้งาน Assistant</translation> |
| <translation id="9191821120522935133">อนุญาตให้เปิดใช้การควบคุม iframe แบบข้ามต้นทางที่มองไม่เห็น</translation> |
| <translation id="9192220384862917760">เปิดใช้การปิดม่านโฮสต์การเข้าถึงระยะไกล</translation> |
| <translation id="9195766455191826480">ไม่รายงานสถานะความปลอดภัย</translation> |
| <translation id="9197238499850071076">ระบุว่าอุปกรณ์ควรย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันที่ <ph name="DEVICE_TARGET_VERSION_PREFIX_POLICY_NAME" /> ตั้งค่าไว้หรือไม่ หากใช้เวอร์ชันที่ใหม่กว่าอยู่ |
| |
| ค่าเริ่มต้นคือ RollbackDisabled</translation> |
| <translation id="9197740283131855199">เปอร์เซ็นต์ของระดับการปรับการหน่วงเวลาการสลัวหน้าจอ หากผู้ใช้มีการใช้งานหลังจากการสลัวหน้าจอ</translation> |
| <translation id="9200828125069750521">พารามิเตอร์สำหรับ URL รูปภาพที่ใช้ POST</translation> |
| <translation id="9204863016826119209">แอปพลิเคชัน Android ที่ติดตั้งไว้และระบุอยู่ในนโยบายนี้จะใช้คีย์ขององค์กรได้</translation> |
| <translation id="9206472508136116830">ไม่อนุญาตให้ใช้การสำรวจพื้นที่แชร์ไฟล์ NetBIOS</translation> |
| <translation id="9207596996305971030">ไม่รายงานเหตุการณ์การเข้าสู่ระบบ/ออกจากระบบ</translation> |
| <translation id="9210647066889383361">อนุญาตให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ที่มี Smart Lock</translation> |
| <translation id="9213751049772256263">ปิดใช้รูปแบบทั้งหมด</translation> |
| <translation id="9217154963008402249">ความถี่ในการติดตามดูแพ็กเก็ตเครือข่าย</translation> |
| <translation id="9220314833408124365">ใช้นโยบาย URL ที่มาเริ่มต้นเป็น "ไม่มี URL ที่มาเมื่อดาวน์เกรด"</translation> |
| <translation id="922160134042190462">อย่าเปิดใช้ <ph name="DESK_API_NAME" /> สำหรับการควบคุม <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> ของบุคคลที่สาม</translation> |
| <translation id="9221827710437832530">อนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในหน้าจอเข้าสู่ระบบ</translation> |
| <translation id="922540222991413931">กำหนดค่าส่วนขยาย แอปพลิเคชัน และแหล่งติดตั้งสคริปต์ของผู้ใช้</translation> |
| <translation id="924557436754151212">นำเข้ารหัสผ่านที่บันทึกไว้จากเบราว์เซอร์เริ่มต้นในการเรียกใช้งานครั้งแรก</translation> |
| <translation id="927384371566552478">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้ผู้ใช้ใช้งาน UI การส่งออก-นำเข้าได้ การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้ผู้ใช้ใช้งาน UI การส่งออก-นำเข้าไม่ได้</translation> |
| <translation id="929549405492388749">หากตั้งค่าเป็น "จริง" จะเป็นการบังคับให้เปิดใช้ AppCache แม้ว่า AppCache ใน Chrome จะไม่พร้อมใช้งานโดยค่าเริ่มต้น |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือตั้งค่าเป็น "เท็จ" AppCache จะใช้ค่าเริ่มต้นของ Chrome</translation> |
| <translation id="930930237275114205">ตั้งไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้สำหรับ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /></translation> |
| <translation id="935779984563655842">รายงานข้อมูลบลูทูธ</translation> |
| <translation id="936188865879911137">หากตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะอนุญาตการติดตั้งและการอัปเดตส่วนขยายที่โฮสต์นอก Chrome เว็บสโตร์ ซึ่งอาจทำให้มีการปกป้องเนื้อหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น |
| |
| หากตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะไม่อนุญาตการติดตั้งใหม่ (และการอัปเดต) ของส่วนขยายดังกล่าว นโยบายนี้ไม่มีผลใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 78 และเวอร์ชันหลังจากนั้น |
| |
| การไม่ตั้งค่านโยบายนี้จะเท่ากับการ "เปิดใช้" นโยบายนี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 73-75 และ "ปิดใช้" นโยบายนี้ใน <ph name="PRODUCT_NAME" /> 76 และ 77</translation> |
| <translation id="93985900824506396">ชุดการเข้ารหัส 3DES จะถูกปิดใช้งานใน TLS</translation> |
| <translation id="940706688964479124">รายการของประเภทไฟล์ที่ควรเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ</translation> |
| <translation id="942977875497446094">เปิดเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติเมื่อเริ่มต้นทำงาน</translation> |
| <translation id="943865157632139008">ให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นเมื่อติดตั้ง <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> |
| การตั้งค่าเริ่มต้นจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์โฮสต์แสดงผล แต่คุณเลือกลบล้างการตั้งค่านี้ได้และให้ <ph name="PRODUCT_FRAME_NAME" /> แสดงผลหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="944817693306670849">ตั้งค่าขนาดแคชดิสก์</translation> |
| <translation id="946458935955389273">ตัวจัดระเบียบแท็บเป็นเครื่องมือที่ทำงานด้วย AI ซึ่งจะสร้างกลุ่มแท็บโดยอัตโนมัติตามแท็บที่เปิดอยู่ของผู้ใช้ คำแนะนำต่างๆ จะอิงตามแท็บที่เปิดอยู่ (ไม่ใช่เนื้อหาของหน้าเว็บ) |
| |
| 0 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แล้วส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยัง Google เพื่อช่วยฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอาจรวมถึงพรอมต์ อินพุต เอาต์พุต และเนื้อหาแหล่งที่มา โดยทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์นั้นๆ อาจมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงโมเดล AI เท่านั้น |
| |
| 0 คือค่าเริ่มต้น เว้นแต่จะระบุไว้ด้านล่าง |
| |
| 1 = เปิดใช้ฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยัง Google เพื่อฝึกหรือปรับปรุงโมเดล AI 1 คือค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_ADMIN_CONSOLE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| 2 = ปิดใช้ฟีเจอร์ 2 คือค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชี Education ที่จัดการโดย <ph name="GOOGLE_WORKSPACE_PRODUCT_NAME" /> |
| |
| ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลสำหรับฟีเจอร์ Generative AI ได้ที่ https://support.google.com/chrome/a?p=generative_ai_settings</translation> |
| <translation id="957322141096206402">การแปลง DNS ของระบบอาจทำงานในหรือนอกกระบวนการของเครือข่าย โดยขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของระบบและแฟล็กฟีเจอร์</translation> |
| <translation id="957778406002650056">URL ที่ระบบไปดาวน์โหลดรูปภาพ <ph name="PLUGIN_VM_NAME" /> ได้</translation> |
| <translation id="957920984193041197">อนุญาตให้หน้าเว็บแสดงป๊อปอัปในระหว่างการยกเลิกการโหลด</translation> |
| <translation id="958285142322823422">ป้องกันไม่ให้เว็บแอปคีออสก์เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์อื่นอีก</translation> |
| <translation id="958577147847681221">ควบคุมว่า <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /> จะอนุญาตให้สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่หรือไม่ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "เท็จ" มีเพียงผู้ใช้ซึ่งอยู่ใน <ph name="DEVICE_USER_ALLOWLIST_POLICY_NAME" /> เท่านั้นที่จะเข้าสู่ระบบได้ |
| |
| หากตั้งค่านโยบายนี้เป็น "จริง" หรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้ทั้งหมดจะเข้าสู่ระบบได้</translation> |
| <translation id="966425658642788645">ใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้น</translation> |
| <translation id="971677226939413180">ไม่มีตัวเลือกการพิมพ์เป็นรูปภาพให้ผู้ใช้เลือก</translation> |
| <translation id="974349541138387272">ระบุเทมเพลต URI ของรีโซลเวอร์ DNS-over-HTTPS ที่ต้องการ</translation> |
| <translation id="978658824596356870">รูปแบบนาฬิการะบบ 24 ชั่วโมง</translation> |
| <translation id="979467274961593903">ไม่อนุญาตให้ใช้การแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกล</translation> |
| <translation id="980218166381006412">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" จะเปิดใช้โหมดเบื้องหลัง ในโหมดเบื้องหลัง การประมวลผลของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> จะเริ่มต้นเมื่อมีการลงชื่อเข้าใช้ระบบปฏิบัติการและจะยังทำงานอยู่เมื่อมีการปิดเบราว์เซอร์หน้าต่างสุดท้าย ซึ่งทำให้แอปในเบื้องหลังและเซสชันการท่องเว็บทำงานต่อไป การประมวลผลในเบื้องหลังจะแสดงไอคอนในถาดระบบและปิดได้ทุกเมื่อจากตำแหน่งดังกล่าว |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะปิดใช้โหมดเบื้องหลัง |
| |
| หากคุณตั้งค่านโยบายไว้ ผู้ใช้จะเปลี่ยนในการตั้งค่าเบราว์เซอร์ไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งค่า โหมดเบื้องหลังจะปิดอยู่ในตอนแรก แต่ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าได้</translation> |
| <translation id="981245424658084931">เปิดใช้ฮาร์ตบีตของกิจกรรมในอุปกรณ์</translation> |
| <translation id="981346395360763138">บริการตำแหน่งของ Google ปิดใช้อยู่</translation> |
| <translation id="982195863867062122">เปิดใช้ <ph name="DBSC_FEATURE_NAME" /></translation> |
| <translation id="982497069985795632">เปิดใช้การตรวจการสะกด</translation> |
| <translation id="983256325512298435">กำหนดรายการโปรโตคอลที่เปิดแอปพลิเคชันภายนอกจากต้นทางที่ระบุได้โดยไม่ต้องแจ้งผู้ใช้</translation> |
| <translation id="984365509386992443">เมื่อเปิดใช้นโยบายนี้หรือไม่ได้ตั้งค่า ผู้ใช้อาจได้รับแบบสำรวจเกี่ยวกับ Google Safe Browsing |
| เมื่อปิดใช้นโยบายนี้ ผู้ใช้จะไม่ได้รับแบบสำรวจเกี่ยวกับ Google Safe Browsing</translation> |
| <translation id="985148612300045106">แป้น Launcher/แป้นค้นหาจะเปลี่ยนลักษณะการทำงานของแป้นฟังก์ชันได้ การตั้งค่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนโดยผู้ใช้</translation> |
| <translation id="986223659726677100">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะเชื่อมโยงคีย์การเข้ารหัสที่ใช้สำหรับที่เก็บข้อมูลในพื้นที่กับ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เมื่อเป็นไปได้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> เนื่องจากแอปที่ไม่รู้จักหรืออาจมีเจตนาร้ายสามารถเรียกคีย์การเข้ารหัสที่ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ |
| |
| ปิดนโยบายนี้ในกรณีที่มีปัญหาด้านความสามารถในการใช้งานร่วมกันเท่านั้น เช่น แอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ต้องเข้าถึงข้อมูลของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> อย่างถูกต้องตามกฎหมาย คาดว่าจะมีการถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้ที่เข้ารหัสระหว่างคอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ หรือความสมบูรณ์และตำแหน่งไฟล์ปฏิบัติการของ <ph name="PRODUCT_NAME" /> มีความไม่สอดคล้องกัน</translation> |
| <translation id="987261962216071510">อนุญาตให้เข้าสู่ระบบเบราว์เซอร์ในโหมดผู้มาเยือนเท่านั้น</translation> |
| <translation id="987975731398348803">การตั้งค่านโยบายเป็น "เปิดใช้" หรือไม่ได้ตั้งค่าจะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้รายงานรายชื่อผู้ใช้อุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้เมื่อเร็วๆ นี้ |
| |
| การตั้งค่านโยบายเป็น "ปิดใช้" จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ไม่รายงานรายชื่อผู้ใช้ |
| |
| เมื่อเปิดใช้ <ph name="DEVICE_EPHEMERAL_USERS_ENABLED_POLICY_NAME" /> ระบบจะไม่สนใจนโยบาย <ph name="REPORT_DEVICE_USERS_POLICY_NAME" /> และจะปิดใช้เสมอ</translation> |
| <translation id="989197274317162189">เราเลิกใช้งานและไม่รองรับนโยบายนี้แล้ว โปรดใช้นโยบาย "<ph name="URL_BLOCKLIST_POLICY_NAME" />" แทน</translation> |
| <translation id="990830704772547092">กำหนดค่าโปรแกรมติดตั้งสำหรับ Bruschetta VM ในอุปกรณ์ <ph name="PRODUCT_OS_NAME" /></translation> |
| <translation id="991560005425213776">ส่งชื่อผู้ใช้และชื่อไฟล์ไปยังเครื่องพิมพ์ดั้งเดิม</translation> |
| <translation id="99232017131102456">นโยบายนี้กำหนดค่าแคชต่อโปรไฟล์ทั่วไปรายการเดียวที่มีข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์ HTTP |
| |
| หากไม่ได้ตั้งค่าหรือปิดใช้นโยบายนี้ เบราว์เซอร์จะใช้ลักษณะการทำงานเริ่มต้นของการตรวจสอบสิทธิ์แบบข้ามเว็บไซต์ ซึ่งตั้งแต่เวอร์ชัน 80 เป็นต้นไปจะกำหนดขอบเขตข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ของเซิร์ฟเวอร์ HTTP ตามเว็บไซต์ระดับบน ดังนั้นหากเว็บไซต์ 2 รายการใช้ทรัพยากรจากโดเมนการตรวจสอบสิทธิ์เดียวกัน คุณจะต้องระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบไว้แยกกันในบริบทของทั้งสองเว็บไซต์ ระบบจะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบพร็อกซีที่แคชไว้มาใช้ซ้ำในเว็บไซต์ต่างๆ |
| |
| หากเปิดใช้นโยบายนี้ ระบบจะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ที่ป้อนในบริบทของเว็บไซต์หนึ่งไปใช้ในบริบทของอีกเว็บไซต์หนึ่งโดยอัตโนมัติ |
| |
| การเปิดใช้นโยบายนี้จะทำให้เว็บไซต์เสี่ยงต่อการโจมตีแบบข้ามเว็บไซต์บางประเภท และจะอนุญาตให้มีการติดตามผู้ใช้ในเว็บไซต์ต่างๆ แม้จะไม่มีคุกกี้ ด้วยการเพิ่มรายการในแคชการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP โดยใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ฝังไว้ใน URL |
| |
| นโยบายนี้มีไว้เพื่อให้องค์กรต่างๆ มีโอกาสอัปเดตขั้นตอนการเข้าสู่ระบบขององค์กร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานเดิม เราจะนำนโยบายนี้ออกในอนาคต</translation> |
| <translation id="999340611001666174">ปิดใช้การแก้สี</translation> |
| </translationbundle> |